เรื่องเด่น สุดสยอง! "ผีสมภาร" เฮี้ยน ไล่หลอกชาวบ้าน งานนี้ต้องถึงมือ "หลวงปู่ศุข" มาช่วยปราบ! เจอคาถาดีเข้าให้

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 12 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    สุดสยอง! "ผีสมเฮี้ยน ไล่หลอกชาวบ้าน งานนี้ต้องถึงมือ "หลวงปู่ศุข" มาช่วยปราบ! เจอคาถาดีเข้าให้

    86721764_1643.jpg

    ตลอดช่วงชีวิตแห่งการครองเพศสมณะ เชื่อได้ว่าหลวงปู่ศุขย่อมมีประสบการณ์เผชิญกับวิญญาณมาไม่น้อย เพียงแต่ท่านไม่เปิดเผยให้ผู้ใดมีโอกาสได้รับรู้ นอกจากเรื่อง "ผีสมภารวัดร้าง" ซึ่งนายยอด สุขทอง ลูกศิษย์คนหนึ่งของท่านรับฟังมาและนำมาเล่าต่อ ดังมีรายละเอียดดังนี้

    ครั้งนั้นหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าจาริกธุดงค์ ไปนมัสการพระพุทธบาทจังหวัดสระบุรี เมื่อท่านได้ถวายอภิวาทต่อรอยพระบาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยความปีติอิ่มใจแล้วจึงได้เดินธุดงค์กลับวัดปากคลองมะขามเฒ่าของท่าน

    ระหว่างเดินทางกลับ ท่านได้จากริกมาพบวัดร้างแห่งหนึ่งในเวลาเย็นย่ำสนธยา ซึ่งถึงกาลอันสมควรหาสถานที่เหมาะสมเพื่อปักกลด หลวงปู่ศุข พิจารณาวัดร้างแห่งนี้เห็นว่าพอจะอาศัยเป็นสถานที่พักผ่อนในราตรีกาลที่จะมาถึงได้ ท่านจึงแบกกลดเข้าไปในเขตธรณีสงฆ์แห่งนั้น

    บริเวณทั่วไปของวัดร้างสงัดเงียบ มีโบสถ์ ศาลาการเปรียญและกุฏิพระครบสมบูรณ์ เพียงแต่ปราศจากพระเณรจำพรรษาคอยดูและรักษาทำนุบำรุง เสนาสนะต่างๆ ดังนั้นศาสนสถานโดยทั่วไปจึงชำรุดทรุดโทรมผุพัง เป็นที่น่าสังเวช หลวงปู่ศุขรู้สึกแปลกใจระคนสงสัยที่วัดนี้ ไม่ควรจะปล่อยร้างวังเวงดังที่เห็น เพราะสังเกตดูที่ตั้งขอวัดก็อยู่ในพื้นภูมิทำเลที่เหมาะสม ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหมู่บ้านชุมชนเท่าไรนัก เหตุใดจึงขาดผู้มีจิตกุศลศรัทธาอุปัฏฐากพระเณรถึงเพียงนี้

    หลวงปู่เพียงแค่สงสัย แต่ไม่คิดใฝ่ใจใคร่รู้สาเหตุที่มาของวัดร้าง ท่านจึงมองหาที่พักสำหรับคืนนี้ เห็นบริเวณระเบียงด้านหน้ากุฏิหลังใหญ่ดูกว้างขวาง และเปิดโล่งโปร่งสบายก็ตรงไปยังที่นั้น วางอัฐบริขารลง แล้วไปเก็บแขนงไม้มารวมกันปัดกวาดพื้นให้สะอาดพอปูอาสนะได้

    ขณะที่หลวงปู่ศุขกำลังปัดกวาดอยู่นั้น มีชาวบ้านเป็นชาย 2-3 คน เดินมาหาท่านแล้วนั่งยกมือไหว้นมัสการ คนที่มีอาวุโสที่สุดถามขึ้นว่า

    "หลวงพ่อมาจากไหนขอรับ พวกกระผมเห็นหลวงพ่อเดินลัดตัดทุ่งตรงมาที่นี่ จึงรีบมาพบ"
    "อาตมาไปนมัสการพระพุทธบาทสระบุรีมา กำลังจะกลับวัดปากคลองมะขามเฒ่า คืนนี้คงต้องพักที่วัดนี้ชั่วคราว พวกโยมเป็นคนบ้านนี้กระมัง"
    "ใช่ขอรับ กระผมเองอยูเลยหลังวัดนี้ไปไม่เท่าไหร่ เอ้อ หลวงพ่อขอรับ ท่านพักอยู่ตรงระเบียงหน้ากุฏินี้เห็นทีจะไม่เหมาะสมกระมังครับ"

    "ทำไมล่ะโยม อาตมาเห็นว่าเป็นวัดร้าง ไม่มีใครดูแลเป็นเจ้าของจึงไม่ได้ขออนุญาตใคร"
    " ไม่ใช่เรื่องขออนุญาต หรือไม่ขออนุญาตหรอกขอรับ แต่พวกกระผมเป็นห่วงหลวงพ่อ กลัวว่าหลวงพ่อจะเจอเรื่องไม่ดีไม่งามเข้าตอนกลางค่ำกลางคืน "
    "เรื่องไม่ดีไม่งามที่โยมว่านั่นน่ะ มันเรื่องอะไร"

    ชายสูงวัยทำท่าอึกอักก่อนจะตัดสินใจกราบเรียน

    "ผีที่นี่เฮี้ยนเหลือกำลังขอรับหลวงพ่อ สาเหตุที่วัดนี้กลายเป็นวัดร้าง ก็เพราะผีดุนี่แหละครับ กระผมเองเคยเป็นมัคทายกวัดนี้ รู้เรื่องดีเชียวละ"


    แล้วอดีตมัคทายกก็เล่าเรื่องผีวัดร้างให้หลวงปู่ฟังว่า เมื่อก่อนวัดนี้มีพระเณรจำพรรษาไม่เคยขาด ชาวบ้านร้านตลาดมาทำบุญทำทานกันตลอดเวลา


    ต่อมาสมภารเจ้าวัดมรณภาพ ยังไม่ทันจะหาสมภารรูปใหม่มาปกครองดูแลวัด ผีสมภารเปิดฉากออกอาละวาดหลอกหลอนแทบทุกคืน จนพระเณรอกสั่นขวัญหาย แม้ชาวบ้านจะร่วมกันทำบุญแผ่กุศลสักเท่าไหร่ ผีสมภารก็ไม่ยอมไปผุดไปเกิด ยังคงหลอกหลอนเหมือนเดิม กระทั่งพระเณรทนไม่ไหวพากันหนีหาย ย้ายไปอยู่วัดอื่นหมด

    เคยมีพระใหม่ใจกล้ารับอาสาจะมาช่วยบูรณะวัดฟื้นฟูวัด แต่อยู่ได้ไม่กี่วันก็หอบอัฐบริขารจากไป เพราะผีสมภารเล่นงาน


    หลวงปู่ศุขรับฟังอดีตมัคทายกวัดเล่าเรื่อผีสมภารโดยสงบมิได้แสดงความคิดเป็นแต่ประการใด เมื่อมัคทายกกราบเรียนแนะนำให้ท่านย้ายที่ปักกลดไปอยู่นอกเขตวัดจะดีกว่า ท่านก็เฉยเสีย บอกแต่เพียงว่าคงไม่เป็นไร เพราะท่านมาอาศัยคืนเดียวแล้วก็ไป ผีสมภารคงไม่ทำอะไร เมื่อหลวงปู่ยืนยันเช่นนี้ ชาวบ้านก็จำต้องนมัสการกราบลากลับไป ทั้งที่ห่วงใยท่านจะทานวิญญาณร้ายของสมภารเจ้าวัดที่ตายไปไม่ไหว


    หลวงปู่กางกลด จัดวางบริขารและปูอาสนะเรียบร้อย เมื่อความมืดของราตรีมาเยือน วัดก็ยิ่งวังเวงหนักขึ้น หลวงปู่ไหว้พระสวดมนต์ทำวัตรเย็นตามกิจของท่านแล้วเข้ากลด เจริญสมาธิภาวนาเช่นที่เคยปฏิบัติมา โดยไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น



    ตราบกระทั่งดึกสงัด ก็ปรากฏเสียงบานหน้าต่างของกุฏิหลังใหญ่กระแทกเปิดปิดดังสนั่น ทั้งๆ ที่ประตูหน้าต่างใส่ดาลลั่นกลอนปิดสนิท จะเป็นเพราะลมก็ไม่ใช่เพราะเวลานั้นลมสงบเงียบเชียบ


    หลวงปู่ศุข กำลังพักผ่อนต้องลุกขึ้นมานั่ง คอยดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไปอีก ท่านก็ไม่ต้องคอยนาน เมื่อตรงหน้ากลดนั้นร่างดำมึนดูทะมึนของสมภารวัดได้ผุดวูบขึ้นมาให้เห็นถนัดชัดเจน พร้อมกับพูดขึ้นด้วยเสียงแหบห้าวดุจไม่พอใจ


    " มาทำไม?"

    "ผมไปรุกขมูลมา จะขออาศัยนอนที่นี่สักคืน" หลวงปู่ศุข ตอบ

    ผีสมภารนิ่งแล้วหายวับ คราวนี้เกิดเสียงดังโครมครามสนั่นหวั่นไหว ภายในกุฏิไม่ยอมหยุด ประหนึ่งต้องการขับไล่หลวงปู่ศุข ทว่าหลวงปู่มิได้หวั่นไหวต่อการแสดงฤทธิ์ของผีสมภาร

    ยิ่งไปกว่านั้น ท่านยังรู้สึกสงสารเวทนาต่อดวงวิญญาณ มิจฉาทิฐิ ที่หลงวนเวียนยึดเหนี่ยวในสถานที่นี้ไม่ยอมไปผุดไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่า ทั้งๆ ที่บวชเรียนในพระพุทธศาสนามานานถึงขึ้นเป็นสมภารเจ้าวัด

    หลวงปู่ศุขสำรวมจิตแผ่เมตตาไปให้ แต่เสียงสนั่นหวั่นไหวภายในกุฏิ ก็ไม่ยอมหยุด สวดมนต์อีกหลายบท ผีสมภารก็ยังไม่รับรู้ มิหนำซ้ำ ผีสมภารยังมาปรากฏร่างยืนตระหง่านตรงหน้ากลด แผดเสียงหัวเราะเย้ยหยันแล้วคำรามลั่นบอกว่า


    "ไม่กลัวหรอก มีคาถาอะไรก็ว่ามาอีกซิ"
    หลวงปู่ศุขเห็นผีสมภารดื้อด้านถึงเพียงนี้ ท่านจึงกล่าวออกมาดังๆว่า

    "อนิจจาเอ๋ยไม่เคยเห็น ผีตายหรือจะสู้กับผีเป็น นะโม พุทธายะ"



    ด้วยถ้อยคำประโยคนี้ ผีสมภารก็หายวับไปไม่มีเสียงโครมครามใดๆ ตามมาอีก และหลวงปู่ศุขก็ไม่ใส่ใจสนใจอีกต่อไป เอนกายลงพักผ่อนตามปกติของท่าน


    เช้าวันรุ่งขึ้นอดีตมัคทายกและชาวบ้านกลุ่มใหญ่รีบมาที่วัดแต่เช้า เห็นหลวงปู่ศุขเป็นปกติดีไม่มีอะไร ต่างปีตีดีใจเข้ามากราบไหว้นมัสการสอบถามว่า เมื่อคืนมีเหตุการณ์ร้ายๆ อะไรเกิดขึ้นหรือไม่ หลวงปู่ไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มๆ องมิให้ซักไซ้ให้มากความ ชาวบ้านจึงไม่กล้าละลาบละล้วงถามอีก


    จากนั้นก็กลับไปจัดหาภัตตาหารเช้ามาถวาย


    เมื่อท่านกระทำภัตกิจเรียบร้อย ชาวบ้านนิมนต์ให้ท่านพักอยู่ที่นี่ก่อน เพื่อพวกเขาจะได้มีโอกาสทำบุญสร้างกุศลกันบ้าง หลวงปู่ศุขก็เมตตารับนิมนต์


    หลวงปู่พำนักอยู่ที่กุฏิร้างของสมภารเก่า ๕ คืน ไม่ปรากฏมีผีสมภารออกอาละวาดอีกเลย


    ท่านเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้วจึงเก็บอัฐบริขารเพื่อเดินทางต่อไปชาวบ้านอ้อนวอนให้ท่านเป็นสมภารวัดร้างแห่งนี้ แต่หลวงปู่ไม่อาจรับศรัทธาญาติโยมข้อนี้ได้





    จินต์จุฑา รายงาน



    ที่มา : http://www.baanjompra.com/webboard/thread-6598-1-1.html


    ----------
    ที่มา
    http://www.tnews.co.th/contents/300899

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 พฤศจิกายน 2017
  2. เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา

    เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา เพื่อมวลมนุษย์แลสรรพสัตว์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    872
    ค่าพลัง:
    +1,936
    image_1486327138158.png
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ส่วนตัวมองว่าใช้บารมีครับ
    สมัยก่อนหรือพระระดับนี้ท่าน
    ไม่ต้องใช้เทคนิคอะไรครับ
    บางท่านยังมีบารมีสอนผีให้สำนึกได้ด้วยครับ
    ถ้าอย่างเราๆพูดเหมือนท่าน
    เผลอๆผีแบบนี้จะสอนเราคืนด้วยครับ
    เพราะฉนั้นเรื่องแบบนี้อยู่ที่บารมีเฉพาะบุคคลครับ

    ถ้าปราบคือ พวกที่เฮี้ยนทั้งกลางวันกลางคืน
    หรือพวกที่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นๆ
    ส่วนใหญ่เป็นอสูรกายกึ่งคนกึ่งสัตว์ครับ
    พวกหนีนรกมาได้ยังไงก็ไม่ทราบ พวกนี้เล่นหมด
    ไม่เว้นแม้พระแม้ฆารวาส
    เล่นคือต่ำๆมีกะทืบหรือเหยียบหน้าอกนะครับ
    ไม่ใช่ทำเสียงดัง หรือโผ่ลมาให้เห็นเพื่อหลอก
    พวกทำเสียงดัง โผล่มาให้เห็น
    ยังไม่น่ากลัวเท่าไร เราจอบารมีพระช่วยได้
    หรือพอมีอะ
    ซึ่งต้องมีเทคนิคขั้นตอนในการ
    ปราบอยู่ เพราะพวกนี้อ่านใจเราได้เหมือนกัน
     
  4. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    ถึงกะเหยียบอก!!!!!!
    หนีนรก?!?!(เคยได้ยินว่าพวกหนีนรกๆไม่นึกว่ามีจริง:confused:)เพิ่งรู้ว่าหนีได้ด้วย แล้วทางนรกจะจัดเก็บได้มั้ย ถ้าจัดเก็บได้นี่ต้องมีมาตรการในการจัดการด้วยแหงๆ...

    ผีสมภารนี่จัดเป็นเปรตรึเปล่าค่ะ?
     
  5. maggy chen

    maggy chen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    215
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +653
    ผีสมภาร !!! อร๊ากกก ปกติ ผีจะกลัวพระ แต่นี่ พระเป็นผี !!!
    ขอเผ่นก่อนละนา:eek:
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    สมภาร ณ เวลานั้นอยู่ในภูมิอสูรกาย
    ไม่ใช่เปรต ถ้าเปรตปกติจะเดินๆไปแบบช้าๆ
    ส่งเสียงให้เราพอได้ยิน หรือถ้าเราได้เห็น
    ก็จะแค่มองเราเฉยๆ ไม่มายุ่ง
    และการทำบุญให้ก็จะรับได้ยาก
    เพราะติดวิบากเรื่องความโลภมากั้น
    ตอนที่จะรับบุญอยู่ ตรงอาศัย
    การทำให้บ่อยๆ เค้าถึงพอจะรับได้
    หรือไม่ก็ประมาณแบบเจอผู้มากบารมีเลย....
    เคยได้ยิน คำว่า เปรตมาขอส่วนบุญไหม
    ไม่มีหลอก เปรตมากวนตรีน...๕๕๕


    จะเล่าให้ฟังภาพรวมๆแล้วกัน
    ภูตหลักสังเกตุคือ ชุดพริ้วๆ เบาๆ
    ขาไม่ติดพื้น เปลี่ยนหน้าได้ ลอยได้
    แปลงร่างได้(ป่านในหนัง)
    แปลงเป็นอะไรที่ทำให้เรากลัว
    และเข้าใกล้เราได้ มักเข้าใกล้บริเวณหน้า
    แต่จะไม่โดนตัวเรา...ยกเว้นพวกภูตนิ่งๆ
    มีอุปกรณ์ทำการทำร้าย ให้ระวัง....

    ส่วนอสูรกายกึ่งเทพ(พวกตาขาวแบบเราๆออกสีเหลือง
    จะไม่มายุ่งกับมนุษย์ และไม่สบตา ทำหน้าที่ของเค้าอยู่)
    อสูรกายแบบสมภาร(ตาแดง) นิสัยประมาณว่า ตรูหละแน่
    คือมีความคิดแบบนี้ตั้งแต่ก่อนตายแล้วหละ..
    แน่ว่าตรูมีวิชา มีของ ตรูไม่ใช่ธรรมดา
    เคารพพระรัตนตรัย(ปาก)แต่พฤิตกรรมไม่ใช่
    เพราะว่า ขนาดมีพระมากบารมีอย่างนี้
    ถ้าเป็นเทวดา ผีระดับถิ่นอาศัยระดับเดียวกับเรา
    เทพ พรหม ท่านให้การเคารพ บางกลุ่มแถบ
    จะไปเรียกกันมาเพื่อรอกุศล...

    แต่ผีสมภาร ด้วยความต้นทุนที่คิดว่าตนเองแน่
    (แยกดีๆนะ ไม่ใช่อสูรกายบางกลุ่มที่เค้าหวงที่มีฤิทธิ์
    จริงๆก็มี แต่นั่นเค้าอยู่มาตั้งแต่ก่อนพุทธกาล
    สมัยก่อนเรื่อง ที่ทำมาหากิน ที่อยู่อาศัย
    เป็นเหตุให้ฆ่ากันได้
    พอเข้าใจเนาะ)

    เอาจริงๆคือ ไม่ได้เก่งเท่าไรหรอกตอนเป็นคน
    เป็นพวกพอมีความสามารถประเภทหลงตัวเองประเภทหนึ่ง
    มีความสามารถที่จะพอโชว์กล้ามตะรูด
    กับวิญญานที่พึ่งตายใหม่ๆ ไม่ให้มายุ่ง
    กับประมาณระดับที่ต้องการกำลังบุญได้เท่านั้นหละ
    แต่คิดประหนึ่งว่า ตรูหล่อระดับชาติ..

    พอพระมากบารมีผ่านมา
    นอกจากจะแสดงก้ามตะรูด ด้วยเสียงแล้ว
    ประมาณว่า เห้ย! ตรงนี้ตรูเก๋าเว้ย ถิ่นตรู
    ยังมีหน้ามาถามท่านอีกว่า '' มาทำไม ''
    จะถามหาพระญาติคุณมะรึงหรือ(คิดในใจ)
    แทนที่จะดีใจ นานๆเจอพระแบบนี้ผ่านมาซักท่าน...
    เขียนแบบนี้ คงพอนึกกมลสันดาน
    พวกอสูรกายแบบนี้ออกเนาะ
    ถ้าเราเป็นคนตายไป ก็จะไปเป็นอย่าง
    สมภารนี่หละ..ถ้านิสัยแล้วลึกๆเป็นอย่างที่เล่าให้ฟังนะ..

    ส่วนหนีก็เรื่องเล่าอีกแระ..
    ส่วนพวกหนีนรก จริงๆก่อนหน้านั้นถ้าตามคอนเซบเรื่อง
    วิบากกรรม(เป็นความเชื่อนะ) จะลงนรกก่อน แล้วถึงมา
    เป็นอสูรกายแบบกึ่งสัตว์คือขี้โกรธ โชว์กล้าม
    ที่เล่าว่าหนีนรก คือพวกนี้นะ หน้าตาถึงออกดูไม่ดี..
    อย่าเหมารวมกลุ่มอื่นๆเด้อ..แต่ด้วยที่จิตเดิมพอมีฤิทธิ์ติดมา
    (พวกโชว์กล้ามตอนเป็นคนใช้ฤิทธิ์ในทางอกุศลนั่นหละ)
    แล้วมันจะมีจังหวะหนึ่ง ที่นรกจะเปิดให้รับกุศลได้
    โดยเฉพาะวันสำคัญๆ พวกนี้หละ จะอาศัยช่วงหนี
    ที่แว๊บออกมา และซ่อนด้วยฤิทธิ์เฉพาะที่ตนมี
    ถามว่า แล้วทำไมข้างล่างไม่ตามหรือ..ตามซิ
    แต่จะหนีไปเรื่อยๆ เหมือนตำรวจตามโจรชั่ว(ย้ำว่าชั่วนะ)
    มีอาคมนั่นหละ..
    แต่ที่เล่าให้ฟังก่อนหน้านี้ โดนจับใส่หม้อแล้วนะ..
    มี ๒ ตนพอจะทราบด้วย ว่าหม้ออยู่ที่ไหน ๕๕๕ (ไม่บอกหรอก)
    ๑ ใน ๔ ท่านที่จับ โดยส่วนตัวรู้จัก ๓ ท่าน สนิทเลย ๒ ท่าน..
    เป็นเรื่องดังช่วงหนึ่ง จังหวะนั้นพอดีว่า
    หลวงพ่อมีชื่อที่วัด ท่านติดภาระกิจไปดูการสร้าง
    งานพระองค์ใหญ่ๆ อีกที่หนึ่ง พวกนี้เลยออกมาเปรี้ยวได้...
    ปล.พอขำๆ...
     
  7. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    ตอนแรกๆเหมือนกำลังเข้าใจ อืมมมมม แต่ย่อหน้าสุดท้ายน้องงงสุดติ่งเรยยย

    อ้า ผีลงหม้อ นั่นผีไม่ใช่หม้อไฟชาบูหรือจิ้มจุ่ม(ยังมีอารมณ์เล่นมุกเฮอๆๆๆ)ใช่มั้ย
    เก็บที่อยู่หม้อเอาไว้เองเลยค่ะพี่นพ
    พี่พูดเหมือนมีคนอยากได้หม้อผียังกะจะหาลายแทงสมบัติ(มีคนอยากได้เหรอผีน่ะ จะเอาไปทำไม ถ้าอยากได้จริงคงไม่ใช่ความคิดดีๆแน่!?)

    โอยอิน้องคนนึงไม่เข้าช่วง ล่า ท้า ผี แย่งเฮียป๋องแกหากินหรอก(ว่าไปเฮียแกนี่เก่งน่ะหากินกับผีได้ น่าน ปากดีอีแระ)

    หลวงพ่อมีชื่อสร้างพระใหญ่ คำใบ้พี่ไม่ได้ช่วยให้เข้าใจอะไรเล้ย ไม่บอกอักษรย่อหน่อยเหรอค่ะ
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    อ่อ คงไม่มีใครบ้าอยากจะได้หม้อหรอก
    นั่นเราคงไปเองแระ ไม่ใช่พี่คิดหรอกนะ ๕๕
    แต่คนอยากจะเห็นว่าหม้อหน้าตาอย่างไรนะมีแน่ๆ
    ที่ไม่บอกเพราะผีนะเฮี้ยนจริงๆ
    คือเล่นงานทั้งพระและฆารวาส
    ไม่ว่ากลางวันและกลางคืน
    ย้ำว่ากลางวันแสกๆ แบบเห็นด้วยตาเปล่าๆนี่หละ
    ๑ ใน ๔ ที่ส่วนตัวไม่รู้จัก
    แต่เคยเห็นรูป นั่นเป็นระดับเกจินะ
    ตอนนี้อยู่ในป่าลึก
    อีก ๒ เป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อท่าน
    อีกท่านเป็นพระผู้ใหญ่แล้ว

    กรณีนี้อาจจะต้องเจอแบบมาโดนตัว
    แบบกลางวันแสกๆด้วยตาเปล่าๆ
    ถึงจะพอนึกความเหี้ยนได้คือไม่ได้มาให้เห็น
    เพื่อมาขอบุญนะ มาทำร้ายร่างกายนะ
    พวกที่เล่าที่ถูกจับลงหม้อเนี่ย
    มากลางวัน พร้อมบาทาไร้เงาด้วยนะ
    พอจะนึกภาพออกยังว่าทำไม
    ต้องเก็บหม้อไว้ดีๆ


    อย่างผีไม่ใช่ว่าจะกลัวพระเสมอไปนะ
    ไม่งั้นพระบวชใหม่จะโดนผีหลอกเป็นว่าเล่นหรือ
    มีเยอะแยะไป
    บางท่านนี่โดนเหยียบอกที่กุฏิ
    ก็มี(เข้าใจว่าท่านคงทำอะไรที่พระไม่ควรทำ)

    อย่างรายการล้าใชว์ตุ้มเอ้ย! ไม่ใช่
    ล่าโชว์ร่องก้มใชว์ผี เอ้ย!! ล่าท้าผี เอ้ย! ถูกแล้ว!
    นั้นมันคนละแบบกันเลย
    คนละกำลังจิต คนละความสามารถ
    ในทีมงานเค้ามีพวกพอมีสัมผัสได้
    คอยสแกนสถานที่อยู่ แต่ไม่ใช่แบบไปปราบผีได้
    บางที่เค้าก็ไม่ให้เข้าก็มี
    ถ้าเทียบกับกลุ่มที่ถูกจับ
    เรียกว่าอนุบาลกับมหาลัย
    อย่างมากก็สัมพะเวสีอยู่มานาน
    หรือผีตายไม่ดีอยู่มานานหาภูมิมีฤิทธิ์
    เจอที่ไหนตั้งแต่ทำรายการมา ๕๕๕
    พูดง่ายว่าระดับที่ต้องได้รับการเยียวยา

    บางแห่งมีพอให้คนได้มโนตามเล่นๆ
    เอาแค่บันเทิง เผลอๆมีจริงเป่า
    ถามจริงๆ รายการมีมากี่ปี
    มีกี่ตอนที่ถ่ายได้แบบพอมองเห็นลางๆบ้าง ๕๕๕
    ก็ไม่รู้ ๕๕๕ ผู้ร่วมรายการบอก
    ผม ฉัน รู้สึกโน้นนั่นนี่ ๕๕๕
    พิธีกรบอกมีโน้นนั่นนี่
    (แล้วใครเห็นเหมือนที่เค้าพูดบ้าง๕๕)
    ปล.ไม่มีไรหรอกพอขำๆ
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,618
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    ท่าน อ นพเล่าต่อๆ:)
     
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ที่เคยเจอที่คิดว่าเฮี้ยนๆมีแค่นี้
    (คือเจตนาไม่ดี และไม่ใช่จากใครส่งมา)
    นอกนั้นมันเป็นเฉพาะตน
    ไม่เหมาะที่จะเปิดเผยต่อชาวโลก
    เด่วหมอผี หมอธรรม
    สายอสูรกายมาอ่านเจอ
    เค้าจะรู้ว่าทำอะไรได้บ้าง
    มันจะไม่สนุก ๕๕๕
    ปล.พอขำๆ
     
  11. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    964
    ค่าพลัง:
    +1,221
    ระวังเค้าลองของลุงเด้อ ๕๕๕๕๕
    ลงหม้ออย่างเดียวไม่พอหรอกครับ
    บางที่อัดใส่บั้งแล้วเอาไปแขวนทาง๓แพร่ง
    บางที่โยนใส่ไฟเรียกว่าเผากันให้รู้ไปเลยพวกที่โดนแบบนี้ส่วนมากจะเป็นปอบ
    บางที่ก็ถ่วงน้ำแบบในตำนานแม่นาควัดมหาบุตรไงครับ
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ๕๕๕๕๕๕
    แบบใส่บั้งไม่เคยเห็น
    แบบถ่วงน้ำเคยเจอแต่ในหนัง..๕๕๕
     
  13. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    964
    ค่าพลัง:
    +1,221
    บั้งไม้ไผ่มีฝาปิดไงครับ เวลาหาอะไรใส่ไม่ได้
     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,618
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    ............
    ถ้าอย่างนั้น กาลเวลาล่วงไป พวกหม้อหรือบ้องไม้ไผ่ผุพัง หรือมีคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไปเปิดเข้าก็แย่ซิคะ
     
  15. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    964
    ค่าพลัง:
    +1,221
    ใช่ครับเลยมีการเผาหรือถ่วงน้ำไงครับ
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,618
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    ถ่วงนํ้าเขาก็ออกมาได้นี่คะ:(
     
  17. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    964
    ค่าพลัง:
    +1,221
    ถ้าไม่มีคนทะลึ่งไปงมมาเปิดนะครับ
    ถ้าเป็นแบบนั้นก็ถือว่าผู้ถูกจองจำพ้นโทษแล้วละครับ
    ส่วนจะถูกจับลงหม้ออีกมั้ยนี่ก็คงต้องดูความประพฤติครับ
    เหมือนคนเรานี่แหละครับ
     
  18. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    เมนูผีวันนี้ขอเสนอ ผีชาบู ผีข้าวหลามหนองมน ผีทะเลเดืือด......แป่วๆๆๆๆๆ

    เคยดูรายการทีวีพวกไล่จับปอบ ไล่ตีใส่ไม้ไผ่ ท่อน้ำปะปาสีฟ้าๆด้วย การไล่จับขั้นแอดวานส์ แต่แปลกที่เขาก็ไล่จับทุกปีเหมือนเทศกาลจับปอบเลย
     
  19. วงกรตน้ำ

    วงกรตน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2015
    โพสต์:
    810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    12
    ค่าพลัง:
    +2,432
    แปลกดีค่ะ ส่วนใหญ่มักจะมีพิธีกันในส่วนของภาคอีสาน แต่ภาคอื่นๆนั้นเงียบกริบ จะมีก็แต่เข้าทรงลงเจ้า ทำนายทายทัก ซะส่วนใหญ่
     
  20. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    964
    ค่าพลัง:
    +1,221
    มันก็มีทุกภาคแหละครับ
    แต่เห็นเป็นกิจลักษณะก็ที่อีสานครับที่ออกสื่อ
    ถ้าจะเอาสาเหตุก็เพราะโซนเขมรต่ำ อีสาน ลาว(โดยเฉพาะจำปาศักดิ์)
    มีการสืบทอดวิชาพวกนี้มากมายเลยครับ
    แต่ภาคอื่นก็เยอะครับ
    จริงๆแล้ววิชาพวกนี้อิสลามก็มีนะครับ
    ไม่ใช่ว่าไม่มี
     

แชร์หน้านี้

Loading...