สูตรทำบุญไม่เสียเงินของ หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ

ในห้อง 'หลวงปู่ดู่ และ หลวงตาม้า' ตั้งกระทู้โดย danetkung, 3 สิงหาคม 2013.

  1. danetkung

    danetkung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,063
    กระทู้เรื่องเด่น:
    5
    ค่าพลัง:
    +15,273
    สูตรทำบุญไม่เสียเงินของ หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ

    พอตื่นเช้ามาขณะล้างหน้า หรือดื่มน้ำให้ว่า “พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมังสรณัง คัจฉามิ สังฆังสรณัง คัจฉามิ” ก่อนจะกินข้าว ก็ให้นึกถวายข้าวพระพุทธ (เป็นอนุสสติอย่างหนึง) ออกจากบ้านเห็นคนอื่นเขากระทำความดี เป็นต้นว่า ใส่บาตรพระ จูงคนแก่ข้ามถนน ข่าวงานบุญต่างๆ ฯลฯ ก็ให้นึก อนุโมทนา กับเขาผ่านไปเห็นดอกไม้ที่ใส่กระจาดวางขายอยู่ หรือดอกบัวในสระข้างทาง ก็ให้นึกอธิฐานถวายเป็นเครื่องบูชาพระรัตนตรัย โดยว่า “พุทธัสสะ ธัมมัสสะ สังฆัสสะ ปูเชมิ” แล้วต้องไม่ลืมอุทิศบุญให้แม่ค้าขายดอกไม้ หรือรุกขเทวดาที่ดูแลสระบัวนั้นด้วย

    ตอนเย็นนั่งรถกลับบ้าน เห็นไฟข้างทางก็ให้นึกน้อมบูชาพระรัตนตรัยโดยว่า “โอม อัคคีไฟฟ้า พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา” (เป็นการบูชาระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย ก่อเกิดอานิสงค์แห่งบุญในดวงจิต) เวลาไปที่ไหนเห็นข่าว คนตาย คนเจ็บ คนป่วย คนที่กำลังมีความทุกข์ ก็ดี ผ่านจุดที่คนตายบ่อยๆ เห็นศาลเจ้า ศาลพระภูมิ ก็ดี ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า บารมีรวมของครูบาอาจารย์ อันมีหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด(หรือองค์พระโพธิสัตว์ที่นับถือ) แผ่บุญไป (เป็นการเจริญเมตตา ฝึกให้จิตมีพรหมวิหาร เป็นการบำเพ็ญบุญ) ก่อนนอนก็นั่งสมาธิ เอนตัวนอนลง ก็ให้นึกคำบริกรรมภาวนาไตรสรณะคมนี้จนหลับ ตื่นขึ้นมาก็บริกรรมภาวนาต่ออีกตลอดวันเหล่านี้คือตัวอย่างเทคนิคการตะล่อมจิตให้อยู่แต่ในบุญกุศลตลอดวัน และได้บุญมากกว่าการทำทาน โดยไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว เป็นการทำให้ดวงจิตเราเกิดแสงแห่งบุญทุกขณะลมหายใจเข้าออก สะสมบุญได้ตลอดทั้งวันเวลาทำบุญ

    ควรอธิษฐานอย่างไรคนส่วนใหญ่เวลาทำบุญมักอธิษฐานว่า ขอให้รวย ขอให้สุขภาพแข็งแรง ขอให้ได้ยศตำแหน่ง ฯลฯ แต่ที่จริงแล้วมีคำอธิษฐานที่ง่าย สั้น ครบวงจรเป็นประโยชน์ครบถ้วนกว่ามากหลวงปู่ดู่เคยสอนไว้ว่า เวลาทำบุญให้อธิษฐานสั้นๆไปเลยว่า "ขอให้ประสบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์" เพราะคำว่า ความดี นั้นรวมครบหมด ทั้งรวย สุขภาพดี มียศตำแหน่ง มีคนรักเมตตา ฯลฯ ส่วนปราศจากความทุกข์ก็ตัดสิ่งไม่ดีหมดทุกอย่าง ไม่มีทุกข์ ไม่มีโรคภัย ไม่มีอุปสรรค ไม่มีศัตรู ฯลฯที่สำคัญคือ การ "พบแต่ความดี" นั้นสำคัญมาก เพราะแม้เราจะขอพรจนร่ำรวยจริง แต่ไม่ดี

    เงินนั้นเราอาจเอาไปเล่นพนัน ไปซื้อยาบ้า สุดท้ายก็พาไปนรก แม้จะมียศตำแหน่งแต่ปราศจากความดี ก็อาจเอาตำแหน่งไปข่มเหงคนอื่น คดโกงประเทศชาติ ก็มีนรกเป็นที่ไป แม้จะมีแต่ใครๆก็รักเมตตา แต่หากเราไม่ดี เราก็อาจกลายเป็นคนเจ้าชู้ หลอกคนนี้ให้รัก คนนั้นให้หลง สุดท้ายก็ทะเลาะตบตีกัน และไปนรกกันทั้งหมู่"การขอให้พบความดี" จึงถือเป็นพรอันสำคัญที่สุด เพราะผู้ที่จะทำความดี ต้องมีปัญญาพอที่จะรู้ว่าความดีมีประโยชน์เช่นใด ดังนั้นเมื่อมีปัญญา แม้จะเกิดมาจน ก็ใช้ปัญญาหาเงินจนรวยได้

    แม้จะเกิดมาต่ำต้อย ก็ใช้ปัญญาทำงานหายศตำแหน่งมาได้ไม่ยาก แม้เกิดมาไม่มีใครรัก แต่หากมีปัญญารู้จักพูดจา ใครๆก็จะหันมารัก ที่สำคัญคือเมื่อมีปัญญา ก็รู้ว่าความชั่วไม่มีประโยชน์ ไม่ควรทำ ความดี มีแต่ประโยชน์และควรทำ ดังนั้นจึงเป็นผู้มีความสุขทั้งโลกนี้ และโลกหน้า มีแต่สุคติเป็นที่ไป นรกไม่ได้เยี่ยมเยือน ใครอยู่ใกล้ก็มีความสุขดังนั้น เวลาทำบุญครั้งใด อธิษฐานง่ายๆก็ได้เช่นกันว่า "ขอให้พบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์..." หลวงปู่สอนเรื่องการจบของทำบุญ - อธิษฐานรับพรพวกเราในเพจวัดถ้ำเมืองนะล้วนแล้วแต่ชอบการทำบุญและไปทำบุญตามที่ต่างๆกันบ่อยมาก บางคนสงสัยว่าควรจะอธิษฐานอย่างไรในการทำบุญ เลยขอนำข้อมูลที่หลวงปู่ดู่ท่านเคยสอนลูกศิษย์มาเป็นแนวทางให้กับทุกคนลองนำไปใช้ดูก่อนที่ท่านมีศรัทธาทั้งหลาย จะถวายของแก่พระภิกษุสงฆ์ มักจะมีการอฐิษฐานหรือที่เรียกว่า จบของ บางคนจบนาน บางคนจบช้า

    หลวงพ่อท่านให้ข้อคิดว่า "ก่อนที่เราจะถวาย ให้จบมาเสียก่อนจากบ้าน เนื่องจากพอมาถึงวัด มักจะจบไม่ได้เรื่อง คนมากมายเดินไปเดินมา จะหาสมาธิมาจากไหน เราจะทำอะไรก็ตามอธิษฐานไว้เลย เวลาถวายจะได้ไม่ช้า เสียเวลาคนอื่นเขาอีกด้วย บางคนก็ขอไม่รู้จบให้ตัวเองไม่พอให้ลูกให้หลาน จิตเลยส่ายหาบุญไม่ได้"การที่หลวงพ่อให้จบก่อนนั้น มีความประสงค์ให้ตั้งเจตนาให้ดี บุญที่ได้รับจะมีผลมาก ญาติโยมจึงกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า "ควรอธิษฐานอย่างไร" หลวงพ่อตอบว่า "อธิษฐานให้พ้นทุกข์ หรือขอให้พบแต่ความดีตลอดไปจนพ้นทุกข์ ถ้าเป็นภาษาบาลี ก็ว่า สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสวะขะ ยาวะหัง นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ คนเราจะพ้นทุกข์ได้ ต้องพบกับความดี มีความสุขใช่ไหม ไม่ต้องอธิษฐานยืดยาวหรอก"เมื่อทำบุญแล้ว มักจะมีการรับพรจากพระ มีการกรวดน้ำ บางทีไม่ได้เตรียมไว้ต้องวิ่งหากันวุ่นวาย หลวงพ่อบอกว่า "ใช้น้ำใจ น้ำจิต ของเรากรวดก็ได้ เขาเรียกกรวดแห้ง ไม่ต้องกรวดเปียก

    เรื่องการกรวดเปียก เขาเริ่มมาจากสมัยพระเจ้าพิมพิสาร เมื่อถวายของพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านกรวดน้ำให้เปรต ญาติพี่น้องที่มาร้องขอบุญจากท่าน ตอนแรกท่านไม่รู้ เลยทูลถามพระพุทธเจ้า ที่เขาเรียกว่า ทุสะนะโส คือ หัวใจเปรตนั่นแหละ" หลวงพ่อท่านตอบเพื่อให้คลายกังวล สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลากรวดน้ำเช่น คนที่รีบใส่บาตรก่อนจะไปทำงาน เป็นต้นส่วนการอธิษฐานรับพรนั้น ท่านแนะนำว่า ตั้งจิตว่า "ข้าพเจ้าขอรับพรที่ได้นี้ขอให้ติดตามข้าพเจ้าตลอดไปในชาตินี้ชาติหน้า" แล้วก็อธิษฐานเรียกพระเข้าตัว เวลาเขามีพิธีอะไร อย่างเช่น เวลาเขาปลุกเสกพระ เราก็สามารถรับพรจากพระองค์ไหน ๆ ก็ได้ทั้งนั้น
     
  2. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ทำบุญทำไมกลัวเสียเงินล่ะครับ
     
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    ไม่ใช่ครับ
    (อ่านหรือยังง่ะ!!!)

    เป็นการทำบุญทางเลือกที่ไม่ต้องใช้เงิน
    แม้แบ๊งค์พันเป็นกระสอบ ๆ
    โดยใช้การปฏิบัติแบบทางเลือก
    ตามคำแนะนำของหลวงปู่ดู่
    พระอริยะอีกรูปหนึ่งที่มีปฏิปทาเลิศ!!!
     
  4. danetkung

    danetkung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,063
    กระทู้เรื่องเด่น:
    5
    ค่าพลัง:
    +15,273
    และได้ผลบุญมากกว่าเสียเงินนะครับอิอิ
     
  5. กุญแจไขปริศนา

    กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    ชอบตรงที่บอกว่าการทำสิ่งที่ดีที่ไม่แพ้เรื่องทำทาน แต่อธิษฐานต่างกัน คนที่อธิษฐานไปในทางที่ถูกที่ควรมากกว่าแต่ไม่ได้ทำทานจะได้ประโยชน์มากกว่าคนที่ทำทานด้วยซ้ำ เป็นแง่คิดที่ดีมากๆเลยครับ และประโยคอธิษฐานที่ผมจะเอาไปใช้ก็จะใช้ตามที่พระท่้านแนะนำเลยครับ "ขอให้พบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์..."

    อนุโมทนาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...