สูตรลับราคาแพง สำหรับการมีอายุยืน

สูตรลับราคาแพง สำหรับการมีอายุยืน
วรากรณ์ สามโกเศศ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ varakorn@dpu.ac.th มติชนรายวัน วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2547 ปีที่ 27 ฉบับที่ 9540

เศรษฐศาสตร์บอกมานานแล้วว่า "ชีวิตคือเรื่องของการเลือก (Life is about choices)" ทุกขั้นตอนของชีวิตแต่ละคนต้องตัดสินใจเลือกด้วยกันทั้งสิ้น และทุกการตัดสินใจก็จะมีต้นทุนแนบขนานไปด้วยเสมออย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

การตัดสินใจเลือกคู่ ตัดสินใจว่าเมื่อใดจะมีลูก เมื่อท้องก็ต้องตัดสินใจเลือกหมอ เลือกโรงพยาบาล เมื่อลูกโตขึ้นก็ต้องตัดสินใจเลือกโรงเรียน เลือกที่จะออมหรือใช้จ่ายเงินด้วยสัดส่วนใด เมื่อมีเงินออมก็ต้องเลือกว่าจะลงทุนอย่างไรอีก ฯลฯ ทุกการตัดสินใจล้วนเกิดต้นทุนขึ้นทั้งสิ้น

ถ้าเลือกคู่ผิด ต้นทุนก็คือความทนทุกข์ทรมานหรือการหย่าร้าง

ถ้าเลือกจังหวะมีลูกผิดก็อาจลำบากในเรื่องการใช้เงิน

ถ้าเลือกหมอและโรงพยาบาลผิดลูกก็อาจไม่ได้เกิดมาให้เห็นหน้า

ถ้าตัดสินใจใช้เงินในสัดส่วนสูงก็จะมีเงินออมน้อย

และถ้าเลือกการลงทุนผิดก็อาจได้เป็นเพื่อนลุงช่วยมาประท้วงเรื่องเงินกองทุนออมสินสูญสลายที่กระทรวงการคลัง

เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับการตัดสินใจและต้นทุนที่เกิดขึ้นก็คือเรื่องการพยายามมีอายุยืนยาวขึ้นของมนุษย์

ในวงการเทคโนชีวภาพเรื่องที่ร้อนแรงที่สุดเรื่องในหนึ่งปัจจุบันก็คือการยืดอายุของมนุษย์ ยาที่ทำให้บรรลุผลเช่นนี้โดยแท้จริงแล้วก็ได้ค้นพบกันแล้วหลายตัว เพียงแต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาสู่ตลาดเท่านั้น

ยาประเภทนี้ผู้เชี่ยวชาญต้องการเรียกว่า "Anti-Aging" กล่าวคือทำให้กระบวนการแก่ช้าลงโดยมิได้มุ่งให้มีอายุยืนมากขึ้นเฉยๆ หากเน้นการมีช่วงเวลาของการมีสุขภาพดีที่ยาวนานขึ้น เพราะการมีอายุยืนอย่างไร้คุณภาพ เช่น อยู่ด้วยความเจ็บปวดทนทุกข์ทรมาน หรือไม่อาจช่วยตัวเองได้ ไม่ใช่สิ่งซึ่งพึงปรารถนา

ในเรื่องสัตว์เป็นที่รู้กันมานานแล้วตั้งแต่ทศวรรษ 1930 ว่า ถ้าให้หนูและสัตว์อื่นๆ กินอาหารที่มีแคลอรีต่ำ (Caloric restriction-CR) จะมีอายุยืนขึ้น มีการทดลองให้หนูกินอาหารที่มีแคลอรีน้อยลงร้อยละ 30-40 ทำให้อายุยืนยาวขึ้นร้อยละ 30-40 เช่นกัน

การทดลองกับลิงเมื่อเร็วๆ นี้ก็คาดว่าจะมีผลอย่างเดียวกัน ลิงที่ทดลองภายใต้ CR ปัจจุบันมีอายุกลางคน และมีลักษณะหลายอย่างส่อว่ามีกระบวนการแก่ช้าลง เช่น มีหน้าตาและความดันโลหิตเหมือนลิงที่มีอายุหนุ่มกว่า

The National Institute on Aging ของสหรัฐอเมริกากำลังทดลอง CR กับมนุษย์ แต่ยังไม่ได้ผลแน่ชัดว่าจะช่วยทำให้กระบวนการแก่ลงช้าไปเพียงใด ความยากในการสรุปผลการทดลองกับมนุษย์เกี่ยวพันกับแบบแผนการดำเนินชีวิตก่อนหน้าการทดลองที่ไม่เหมือนกัน ระดับความเครียดที่แตกต่างกัน ฯลฯ ซึ่งต่างจากสัตว์ที่อาจขังไว้ในกรงและทดลองแต่แรกเกิดได้

สัตว์ภายใต้ CR จะมีรูปร่างเล็กกว่าปกติ มีความรู้สึกหนาวสั่นอยู่ตลอดเวลา และไม่ค่อยกระฉับกระเฉง

คำถามก็คือถ้า CR ได้ผลจนทำให้กระบวนการแก่ของมนุษย์ช้าลงจนมีช่วงเวลาของการชีวิตที่มีสุขภาพดียาวนานขึ้น จะมีมนุษย์กี่คนที่ตัดสินใจเลือก CR โดยต้อง "จ่าย" ด้วยต้นทุนที่สูงมาก เช่น กินอยู่เหมือนนก(กินแต่พืช ผัก ผลไม้) ทนหนาวเย็นอยู่ร่ำไป ขนมนมเนย ข้าว ขนมปัง บิสกิตต้องตัดขาดหมดเพื่อ "ความสุขที่เพิ่มขึ้นอันเกิดจากมีเวลาที่มีสุขภาพดีเพิ่มขึ้น"

ตารางข้างล่างนี้ได้มาจากประมาณการของบริษัทที่ปรึกษาด้านสุขภาพชื่อ RealAge ดังปรากฏในนิตยสาร Fortune เมื่อไม่นานมานี้

ตารางแสดงให้เห็นนิสัย 8 ประการที่อาจทำให้ชีวิตของชายปกติในวัย 40 ปีกว่ายืนยาวขึ้นอีก ถ้ากระทำทั้งหมดจะทำให้ชีวิตยืนขึ้นอีก 6 ปี

ตารางนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า "ชีวิตเป็นเรื่องของการเลือก" และมีต้นทุนขนานเกิดขึ้นอย่างไร อายุขัยเฉลี่ยของชายไทยคือเกือบ 70 ปี การกระทำสิ่งต่างๆ ดังแสดงไว้ในตารางนี้สำหรับคนปกติในวัย 40 กว่าๆ จะทำให้มีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพิ่มขึ้นอีก 6 ปี กล่าวคือคาดหวังว่าจะมีอายุอย่างน้อยถึงเกือบ 76 ปี (70+6) โดยไม่ได้กล่าวถึงว่าจะเป็นชีวิตที่มีสุขภาพดีไปตลอดอายุขัยหรือไม่

เมื่อดูตารางนี้แล้วจะเห็นว่า "โลกนี้ช่างไม่มีอะไรฟรี" เสียจริงๆ และ "ราคา" หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ต้นทุน" ช่างสูงเสียเหลือเกินสำหรับการมีชีวิตเพิ่มขึ้นอีกเพียงเล็กน้อย เช่น ต้องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียง 1-2 แก้วต่อวันเท่านั้นเป็นเวลายาวถึง 30 กว่าปี จึงจะมีอายุเพิ่มขึ้นอีกเพียงสองเดือน และที่ดุเดือดที่สุดก็คือต้องมีเพศสัมพันธ์เดือนละ 14 ครั้ง จึงจะมีชีวิตยืนยาวขึ้นอีก 3 เดือน! (อุแม่เจ้า ช่างโหดร้ายอะไรปานนั้น)

ไม่ว่าตารางนี้จะเป็นจริงแค่ไหนก็ตาม มันก็ทิ้งให้เราตระหนักว่าการจะมีชีวิตยืนยาวขึ้นนั้น มันไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ หากมาจากหยาดเหงื่อและน้ำตาหรือเรียกว่า "ต้นทุน" ที่เราต้องจ่ายหากเลือกที่จะมีชีวิตยืนยาวขึ้น

 

Palm return volume 1