ส่งปีเก่า-รับพรปีใหม่ หลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์หลวงตา, 30 ธันวาคม 2008.

  1. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    ส่งปีเก่า-รับพรปีใหม



    [​IMG]



    พระราชนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาวิศิษฏ์
    (พระอาจารย์เทสก์ เทสฺรํสี)

    เช้าวันที่ ๗ มกราคม พ.. ๒๕๐๖
    ณ วัดเจริญสมณกิจ ภูเก็ต


    <O:pสุนกฺขตฺตํ สุมงฺคลํสุปภาตํ สุหุฏฺฐิตํ<O:p</O:p<O:p</O:p</O:p
    <O:pสุขโณ สุมุหุตฺโต จสุยิฏฺฐํ พรหฺมจาริสุ<O:p</O:p<O:p</O:p</O:p
    <O:pปทกฺขิณํ กายกมฺมํวาจากมฺมํ ปทกฺขิณํ<O:p</O:p<O:p</O:p</O:p
    <O:p<O:p</O:pปทกฺขิณํ มโนกมฺมํปณิธี เต ปทกฺขิณา</O:p
    <O:pปทกฺขิณา นิ กตฺวานลภนฺตตฺเถ ปทกฺขิเณ
    </O:p
    <O:p</O:p
    <O:pบัดนี้จะได้แสดงธรรมเทศนาอันให้ฉายาว่า ส่งท้ายปีเก่ารับเอาพรปีใหม่เพื่อให้สมกับกาลนิยมดังที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ปีเก่าได้ล่วงเลยไปแล้ว ๗ วัน และได้รับปีใหม่เข้ามาแทนแล้วก็ตาม แต่ยังไม่ทันพ้นกาลซึ่งควรจะกล่าวถึงอยู่ เพราะคำว่าเก่านี้หมายถึงของที่ล่วงเลยมาแล้ว เช่นดังปีหนึ่งมี ๑๒ เดือนที่ล่วงไปแล้วนี้ เป็นต้น นี้ก็ล่วงมาแล้วเพียง ๗ วันเท่านั้น ไม่นานอะไรจึงสมควรจะกล่าวถึงอยู่โดยแท้
    <O:p</O:p
    ความจริงเดือน ปี เป็นเรื่องของพระอาทิตย์ พระจันทร์และนักขัตฤกษ์เดือนดาว หากหมุนเวียนไปตามจักราศีของมันต่างหาก ไม่น่าจะมาเกี่ยวข้องอะไรกับมนุษย์ของเราเลย คนเราจะนับหรือไม่นับมันก็หมุนเวียนไปตามธรรมดาของมันอยู่เช่นนั้นตลอดกาลแต่ไหนแต่ไรมา โน้นมันเป็นมาตั้งแต่โลกเกิดโน้นก่อนเราเกิดเป็นไหนๆ ปีใหม่คนเราจะทำการสนุกหรือไม่ เดือนปีเขาก็ไม่เห็นมีการเดือดร้อนอะไร คนเราเสียอีกบางคนสนุกงานปีใหม่เที่ยวหลายๆ วันกระเป๋าแห้ง กลับบ้านไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ หน้าเศร้า หนักเข้าผัวเมียทะเลาะกัน ลูกเต้าพลอยเป็นทุกข์ไปด้วย บางคนเที่ยวสนุกจนเลยขอบเขตกลับบ้านไม่ถูก โน่นกว่าจะกลับได้ไปปรากฏตัวอยู่ที่เรือนจำโน้นก็มี
    <O:p</O:p
    ที่เกี่ยวข้องกับคนเรานั้นก็คือ ความเสื่อมสูญอายุของคนเรา ซึ่งขึ้นอยู่กับวันคืน เดือน ปี ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านั้นเป็นเครื่องวัดแล้ว ก็ไม่สามารถทราบได้ว่า อายุชีวิตของคนเราหมดไปแล้วเท่าไร ได้กี่ปีกี่เดือนแล้ว มิใช่วัน คืน เดือน ปี จะมาสร้างฐานะร่ำรวยเกียรติยศชื่อเสียงให้แก่เรา นอกจากจะมาส่องแสงสว่างหรือทำความมืดให้แก่เรา เพื่อเราจะได้ประกอบกิจกรรมกระทำความดีเพื่อความผาสุกพลานามัยให้เจริญก้าวหน้า เมื่อประกอบกิจกรรมเหน็ดเหนื่อยพอควร มืดแล้วจะได้พักผ่อนหลับนอนเอากำลังไว้ทำงานต่อไป


    <O:p[​IMG]
    </O:p
    <O:p</O:p

    ทุกคนเกิดมาในโลกนี้ มีความต้องการความสุข ความร่ำรวย มีเกียรติยศชื่อเสียง มีบริษัทบริวารคนนิยมชมชอบมาก พยายามทุกๆวิถีทาง เพื่อให้สำเร็จผลอันนั้น แม้เกิดก็จะให้ได้ วัน คืน เดือน ปี ที่ดีๆ แต่ก็ไม่สำเร็จ พอครรภ์แก่ถ้วนกำหนดแล้ว ไม่ว่า วัน คืน เดือน ปี อะไร มันไม่รอทั้งนั้น แม้แต่เวลาหรือสถานที่ไม่ว่าบ้านหรือป่า มันคลอดออกมาทั้งนั้น ผู้แม่ของเด็กเล่าก็มิได้คำนึงถึงเรื่องนั้นเลย อยากจะคลอดๆ ให้หมดทุกข์ร้อนไปเสียที
    <O:p</O:p
    การแต่งงานก็ไม่เป็นไปตามปรารถนาอีก บางคู่หมั้นกันไว้แล้ว หาฤกษ์งามยามดีกี่หมอๆ ก็ไม่ได้สักที จนถึงกับเลิกร้างกันไปก็มี คู่ที่หาฤกษ์ได้ดีๆ เล่า บางทีอยู่กินด้วยกันไปไม่กี่วัน ต้องเลิกร้างกันก็มี หรือมิฉะนั้นอยู่ด้วยกันไปด้วยการเดือดร้อนระทมทุกข์ ทะเลาะเบาะแว้งกันตลอดวันยังค่ำก็มี บางทีสามีเป็นนักสุรา ภรรยาเป็นนักไพ่ ไม่มีเวลาประกอบสัมมาอาชีพ ความจนบีบบังคับหัวใจ เพราะรายได้ไม่พอแก่การประกอบอบายมุข ลูกเต้าตาดำๆเกิดขึ้นมาไม่เดียงสาอะไรกับพ่อแม่ก็พลอยได้รับความเดือดร้อนไปด้วย

    <O:p</O:p
    ฉะนั้น วัน คืน เดือน ปี จึงมิได้ทำอะไรให้คนดีขึ้นมาเลย นอกจากตัวของเราเท่านั้นที่จะทำตัวของเราให้ดีขึ้น
    <O:p</O:p
    งานปีใหม่ซึ่งคนไทยเราถือมีการทำบุญตักบาตร เพื่อเป็นการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับเอาพรปีใหม่นั้นเป็นการกระทำที่ดีแล้ว น่าสรรเสริญ ถึงแม้วัน คืน เดือน ปี เป็นเรื่องของการหมุนเวียนตามจักราศีของเดือนดาวดังกล่าวแล้วก็ตาม แต่คนเรามาถือเอาพอเป็นเลิศทำความดีเท่านั้น หากไม่ยึดถือเอาเรื่องเหล่านั้นมาเป็นเครื่องหมายเสียแล้ว คนเราก็จะไม่รู้จักกาลเวลาซึ่งกันและกัน ดังวันงานปีใหม่ที่แล้วไปนี้ ต่างก็ทราบกันดีทุกๆ คน แต่จุดประสงค์ที่พวกเราจะทำความดีมิได้อยู่ที่วันขึ้นปีใหม่ อยู่ที่นิมนต์พระท่านมารับบิณฑบาตไทยทานของที่พวกเราพากันมาเตรียมไว้ เมื่อมารวมพร้อมกันในที่แห่งเดียวแล้ว นอกจากจะเป็นการแสดงความพร้อมเพรียงกันและเพื่อเป็นการรักษาประเพณีประจำปีของชาวพุทธแล้ว ยังเป็นเครื่องเพิ่มพูนประสาทศรัทธาของกันและกันอีกด้วย


    <O:p[​IMG]

    </O:p
    ความจริงแล้วการทำความดี ย่อมทำได้ทุกๆเมื่อไม่เลือกกาลเวลาและสถานที่ การทำความชั่วก็เช่นเดียวกัน แต่การทำความชั่วให้เกิดอัปมงคล การทำความดีให้เกิดศิริมงคล สมกับพุทธนิพนธ์คาถาในสุปุพพัณหะสูตร ที่ยกขึ้นไว้ในเบื้องต้นนั้นว่า<O:p</O:p

    สุนกฺขตฺตํสุมงฺคลํ ลภนฺตตฺเถ ปทกฺขิเณฯ<O:p</O:p

    ซึ่งแปลใจความว่า เวลาที่สัตว์ประพฤติชอบ ชื่อว่าฤกษ์ดี มงคลดี สว่างดี รุ่งดี และขณะดี ครู่ดี บูชาดีแล้วในพรหมจารีบุคคลทั้งหลาย กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมเป็นประทักษิณ (ทำให้หนักแน่นเป็นเหมือนแขนส่วนเบื้องขวา) ความปรารถนาของท่าน (จึงจะ) เป็นทักษิณส่วนเบื้องขวา สัตว์ทั้งหลายทำกรรมอันเป็นประทักษิณ ส่วนเบื้องขวาแล้ว ย่อมได้ประโยชน์ทั้งหลาย อันเป็นประทักษิณเบื้องขวา ดังนี้
    <O:p</O:p<O:p</O:p
    รวมความแล้วการที่จะต้องกระทำทั้งหมดด้วยกาย วาจา และใจ ถ้ากระทำให้เป็นประทักษิณ พร้อมด้วยองค์ ๓ นี้ คือ<O:p</O:p
    มีความเพียรหนักแน่นเปรียบเหมือนความแข็งแกร่งของข้างขวา ๑<O:p</O:p
    มีสติปัญญารอบคอบในการงานนั้นๆ ๑<O:p</O:p
    ทำให้ถูกต้องกับกาลเวลานั้น ๑<O:p</O:p<O:p</O:p
    แล้วการงานนั้นๆ ย่อมสำเร็จได้ผลเป็นที่พึงพอใจ ไม่ว่าการงานทั้งฝ่ายโลกและฝ่ายธรรม ทั้งดีและชั่ว แต่ในคาถานี้หมายเอาเฉพาะการงานที่ดีเป็นผลให้เกิดความสุข
    <O:p</O:p
    งานปีใหม่นี้ก็เพื่อรับเอาพรความสุขปีใหม่ ส่งท้ายปีเก่าเหมือนกัน ฉะนั้นจึงควรพูดถึงพรอันเราทั้งหลายจะพึงได้รับในปีใหม่นี้ คืออะไร และอะไร ในปีเก่าที่เราทั้งหลายควรส่งเสียให้พ้นๆไป มิใช่อะไรก็รับเอาทั้งหมด และส่งเสียทั้งสิ้น

    <O:p</O:p
    ศิริมงคลอันเป็นผลให้เกิดความสุขความเจริญจะเกิดขึ้นแก่คนเราก็ต้องอาศัยการกระทำความดีด้วยกาย วาจา และใจ ให้เป็นประทักษิณดังแสดงมาแล้วมิใช่อยู่เฉยๆ เมื่อขึ้นปีใหม่วันที่ ๑ มกราคมแล้ว พรปีใหม่ก็จะเข้ามาสวมเอาเลย<O:p</O:p<O:p</O:p
    พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ต่างก็มีจิตศรัทธา มีหน้าตาอันยิ้มแย้มแจ่มใสซึ่งแสดงถึงความสุขกายสบายใจยิ่งกว่าวันอื่นๆแล้วในวันนี้ การรอคอยตักบาตรอยู่นั้นนับว่าพากันได้รับพรปีใหม่ทั่วหน้ากันทุกคนแล้ว เมื่อพากันได้รับพรปีใหม่ วันที่ ๑ มกราคมฉันใด วัน เดือนต่อไปของปีใหม่ที่ย่างเข้ามาถึงนี้ก็ขอจงพากันทำอย่างนั้นให้ได้รับพรอย่างนั้นตลอดปีนี้เถิด จึงสมกับว่าเรารับพรปีใหม่แท้ มิใช่รับเอาวันเดียวจะคุ้มค่าตลอดปี เพราะโลกอันนี้มันมีความทุกข์มากกว่าความสุข ฉะนั้น รับเอาความสุขทีเดียว เอาไปใช้ตลอดจึงไม่คุ้มค่าเหมือนกับความหิวอาหารของคนเรา หิวมากกว่าความอิ่ม อิ่มไม่กี่ชั่วโมงหิวอีกแล้ว จำเป็นจึงต้องรับประทานอยู่บ่อยๆจึงจะคุ้มความหิว แล้วมีกำลังทำงานได้ ฉันนั้น
    <O:p</O:p
    แต่พรสำหรับพวกเราจะพึงได้รับเพื่อความสุขตลอดปีนั้น มิใช่มีอย่างเดียว แต่ทำบุญตักบาตรเท่านั้น ความจริงมีอยู่มากมายหลายอย่าง เมื่อกาลเวลาผ่านพ้นมาได้ ๑ ปี เรายังไม่ตาย มีชีวิตเหลือไว้ให้เราได้ทำความดีอีกก็ควรที่จะพากันยินดีกับการได้ของเรา แล้วสร้างความดีอันจะให้เป็นผลเกิดความสุขยิ่งๆขึ้นไป อย่าพากันประมาทปล่อยกาลเวลาให้ล่วงไปเสียเปล่า โดยมิได้ทำความดีอะไรทดแทนไว้เสียเลย
    <O:p</O:p<O:p</O:p
    นอกจากการทำทานอันจะเป็นศิริมงคลให้เกิดผลความสุขแล้ว ยังมีอีกมาก ในที่นี้จะนำมาแสดงเพียง ๔ ข้อ พอเป็นอุทาหรณ์ที่จะนำมาให้เกิดพรความสุข ทั้งแก่ตนและคนอื่นด้วย<O:p</O:p
    . ให้มีทาน การสละแบ่งปันของๆตนให้แก่คนที่ควรให้<O:p</O:p
    . พูดไพเราะ ไม่เป็นเครื่องแสลงหูแก่คนอื่น<O:p</O:p
    . จงทำแต่สิ่งที่จะให้เกิดประโยชน์แก่กันและกัน<O:p</O:p
    . ทำตนให้สม่ำเสมอ ไม่เย่อหยิ่งจองหอง<O:p</O:p
    พรสี่ประการนี้ หากทุกคนนำไปเก็บไว้ใช้จนตลอดปีแล้ว อาจเหลือไว้ใช้ในปีต่อไปก็ได้ เพราะยิ่งใช้ก็ยิ่งงอกงามไม่หมดเหมือนอย่างสตางค์
    <O:p</O:p
    ทาน การสละวัตถุสิ่งของแก่คนอื่น ถึงจะให้ไปของเราก็ยังไม่หมด นอกจากไม่หมดแล้ว เรายังได้ความอิ่มใจ ความเลื่อมใส ความสุขใจในการกระทำความดีของตน แล้วยังเป็นเครื่องสมานมิตรไมตรี เกิดความนิยมยินดีแก่ผู้ได้รับและผู้รู้ทั้งหลายอีกด้วย ความได้ทั้งหลายดังกล่าวมานี้ จะประทับแน่นแฟ้นอยู่ในดวงใจของเราไม่มีวันเสื่อมหายเลยตลอดวันตาย
    <O:p</O:p
    วาจาที่พูดไพเราะ ก็ยิ่งดีเสิศ โดยที่เรามิได้ลงทุนแม้แต่สตางค์เดียว ขอแต่ให้พูดไพเราะ พูดจริง พูดแต่สิ่งที่มีประโยชน์ เว้นการพูดเท็จโกหก มารยาหลอกลวง เพ้อเจ้อ เหลวไหล หรือเสียดสีสับส่อให้เกิดความวิวาทกันแล้ว เราก็จะมีแต่ความสุขใจ ได้เพื่อนมิตรที่ดี มีศีลธรรมนำให้เกิดสันติสุขทุกเมื่อ

    <O:p[​IMG]


    </O:pการงานไม่ว่าจะทำด้วยกาย ด้วยวาจา และใจก็ตาม ถ้ามุ่งแต่จะให้เกิดประโยชน์แก่กันและกันแล้วเว้นสิ่งอันจะให้เกิดโทษเสื่อมเสียและเดือดร้อนทั้งแก่ตนและคนอื่นเสีย โลกอันนี้ก็จะเป็นโลกสันติสุข เป็นโลกที่น่าอยู่อาศัยไม่ดิ้นรนต่อไปอีกแล้ว
    <O:p</O:p
    มนุษย์ทั้งหลายที่เดือดร้อนดิ้นรนเป็นทุกข์อยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะมนุษย์เราเห็นแก่ตัว แล้วกระทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อประโยชน์ส่วนตัวเป็นส่วนมาก ปราศจากความเห็นอกเขาอกเรา มันจึงได้เป็นอยู่เช่นนี้
    <O:p</O:p
    ทำตนให้สม่ำเสมอในบุคคลนั้นๆ ในสิ่งนั้นๆ ไม่เย่อหยิ่งจองหอง ยกตนข่มเพื่อนเห็นคนอื่นสู้ตนไม่ได้ ใครจะคบค้าสมาคมเขาก็ทำเป็นทีว่าคบเพื่อเป็นสมบัติความรู้ไว้เท่านั้น แต่ในใจแล้ว เขาเกลียดขี้หน้าไม่อยากเห็นเลย การทำตนให้สม่ำเสมอ ย่อมได้รับความนิยมชมชอบในสังคมทั่วไป เป็นผู้ใหญ่คนก็รัก เป็นผู้น้อยเขาก็เอ็นดู ประชาชนย่อมช่วยบริหารรักษาเขาตลอดเวลา
    <O:p</O:p
    พรทั้งสี่นี้ยังไม่ได้รับ หรือรับเอาไว้แล้วแต่ยังไม่ครบสี่ ก็ขอได้พากันรับเอานั้นเสีย ในปีใหม่นี้จึงจะมีความสุขอันแน่นอนถาวร ความสุขที่ได้รับหรือส่งเป็นของขวัญก็ดี สุขกินเลี้ยงปีใหม่ส่งท้ายปีเก่าก็ดี หรือสุขที่เที่ยวชมงานก็ดี เป็นความสุขไม่คุ้มค่าและไม่ถาวรอะไรนัก บางทีบางรายอาจสุขฝ่ายหนึ่ง แต่อีกฝ่ายหนึ่งอาจดิบหรือไหม้ไปก็ได้ ใครจะตามไปรู้เห็น นี่เป็นการรับพรความสุขปีใหม่อย่างไม่ผิดหวัง หากเราไม่ประพฤติตนตามหลักให้เกิดความสุขสี่ข้อดังกล่าวมานั้นแล้ว จะไปขอพรจากคนเฒ่าคนแก่ หรือผู้ที่เราเคารพนับถือ เข้าวัดหาพระอาจารย์กี่อาจารย์ ก็เอาเถิด คงไม่สำเร็จผล นอกจากจะรักษาประเพณีอันดีงามไว้เท่านั้น
    <O:p</O:p
    ส่วนปีเก่าที่เราส่งท้ายนั้นเล่า ก็โดยทำนองเดียวกัน คือว่าให้ตรวจดูความประพฤติของเรา ตามข้อปฏิบัติทั้งสี่ข้อที่ได้แสดงมาแล้วนั้น หากข้อใดเราได้ปฏิบัติมาถูกต้องดีแล้ว ก็จงรักษาไว้เพื่อเป็นพรปีใหม่ต่อไป และได้ชื่อว่าเราได้พรเหลือมาจากปีเก่าไม่ขาดทุน
    <O:p</O:p
    คำว่าส่งท้ายปีเก่านั้น มิใช่เราจะส่งทั้งหมดทุกๆอย่าง สิ่งที่ดีมีประโยชน์เราก็เก็บไว้ใช้บ้าง ภาษาเมืองเหนือเขาเรียกว่า
     
  2. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
  3. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
  4. emperron

    emperron เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +432
    ในวาระสุภรฤษ์ ปีใหม่นี้ ข้าพเจ้าจะขออำนาจคุณพระศรีรัตนไตร คุณพระศรีสรรเพชร อีกทั้งคุณพระอริยคุณาจารย์ เทพไทเทวาทุกอนูภูมิสนานอันเป็นทิพย์ ในมหาสากลจักวาล จงมา เป็นคาวะปัจจัยให้ทุกท่านที่อยู่ในชมรมและเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายทั้งปวงบนมหาอนันไพศาสภิภพนี้ ให้มีแต่ความสุข รำรวย มีบุญ มีวาสนา มีบารมี มากมายล้นพ้น พ้นทุกพ้นโศกพ้นโรค หมดหนี้ มีแต่ความสุขใจทุกๆท่านงับ อนุโมทนาสาธุการ
     
  5. ดาโกต้า

    ดาโกต้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +210
    การทำความดีทำได้ทุกวัน แต่จะได้ทำหรือไม่แล้วแต่ผู้นั้นจะมีใจฝักใฝ่ในการทำมากน้อยเพียงไร บางครั้งบางคนการจะทำความดีได้มันยากมาก (พยายาม) แต่ทำเรื่องไม่ดีทำโดยไม่ตั้งใจให้เกิดมีเยอะ อย่างน้อยอยากให้คิดเรื่องดี ๆ ที่เป็นบุญเป็นกุศล ไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลใครแล้วผลลัพธ์จะบังเกิดสุขขึ้นในใจ สังคมก็จะน่าอยู่ขึ้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...