วิธีสร้างศิลปินปั้นพระพุทธรูปแก้วของไทย หน้า 15 #290 ขึ้นไป

ทางบริษัทนั้นได้นำเข้าพระพุทธรูปแก้ว ฐานแก้ว และเม็ดแก้วมาประกอบในไทยอยู่หลายปี มีการสร้างหลายปางเหมือนกัน แต่ขนาดหน้าตักไม่ใหญ่มาก ดูเหมือนว่าไม่มีองค์ใดมีหน้าตักใหญ่เกิน 4 นิ้วเลย หรือถ้าจะวัดกันจริงๆ คงไม่เกิน 3 นิ้วเศษๆ

ต่อมาบริษัทนั้นได้ปิดตัวลง โดยที่โรงงานแก้วคริสตัลในไทยโรงงานหนึ่งที่ระยอง มองเห็นความสามารถของปีเตอร์ในสมัยนั้น ว่าน่าจะหล่อพระแก้วด้วยเทคนิค Lost Wax ได้ จึงจ้างเข้ามาในบริษัทของเขาที่ระยอง ( ขออภัยที่ยังไม่ได้บอกชื่อโรงงานเนื่องจากผมไม่ทราบว่าเขาต้องการให้บอกหรือไม่ ? )

 

โรงงานหลอมแก้วคริสตัลที่ระยองได้ให้ปีเตอร์ทดสอบทดลองสร้างอยู่นานเป็นปีๆ ที่สร้างสำเร็จมักเป็นขนาดหน้าตักไม่เกิน 5 นิ้ว ซึ่งในขณะนั้นปีเตอร์เองก็มีความรู้จำกัดในเรื่องของขนาด เพราะมีการอบลดอุณหภูมิที่ยากหากไม่รู้

 

ต่อมาเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2549 หรือ 2550 ( น่าจะ 2549 ) ผมได้ติดต่อให้โรงงานหลอมแก้วคริสตัลระยองช่วยสร้างพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้วให้ผม ทางโรงงานโดยเจ้าของผู้จัดการได้รับปากว่าจะช่วยเต็มที่ และท่านก็รับโครงการเอาไว้ แต่เดือนแล้วเดือนเล่าไม่มีความคืบหน้าใดๆ จนกระทั่งผมได้รับอนุญาตให้ติดต่อกับปีเตอร์ได้ ให้สามารถคุยกันแลกเปลี่ยนความรู้กับปีเตอร์เพื่อที่จะได้สร้างพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้วองค์นี้ให้สำเร็จ ตั้งแต่ประมาณต้นๆปี พ.ศ. 2550 จึงเป็นที่มาของสัมพันธภาพที่ปีเตอร์ยอมให้ผมเรียกเขาว่าเขาเป็นลูกน้องช่างแก้วของผม ทั้งนี้มีที่มาครับ

 

นับตั้งแต่ผมได้รับอนุญาตให้คุยกับช่างแก้ว Lost Wax คนเดียวของไทยคือปีเตอร์ตั้งแต่ต้นๆปี 2550 เราได้แลกเปลี่ยนความรู้กันหลายเรื่อง ทั้งนี้เพราะโรงงานแก้วคริสตัลระยองก็ต้องการสร้างให้สำเร็จ เพราะถ้าหากสำเร็จ นอกจากประเทศไทยจะเป็นคนแรกของเอเซียที่สร้างพระแก้วได้หน้าตักใหญ่ที่สุดในเขตนี้ คือเอเซีย ( ในสมัยนั้นคิดว่าในโลกด้วยซ้ำไป ) [ แต่ฝรั่งเศสเปิดเผยในปี 2551 ว่าเขาสร้างพระแก้วหน้าตัก 8 นิ้วสำเร็จ ]

 

ก็คงตามมาด้วยการสร้างพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้วจำนวนมาก

 

การคุยแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องแก้วระหว่างผมกับปีเตอร์ดำเนินมาตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2549 ถึงประมาณเดือนสิงหาคม 2550 ระหว่างนั้น เราได้พยายามทดลองสร้างพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้วหลายครั้งซึ่งไม่สำเร็จ มักแตก หัก ระเบิดขาด 2 ตอน ซึ่งความรู้ของผมขณะนั้นหรือแม้แต่ขณะนี้ก็มีจำกัด ไม่ค่อยมีคนรู้อะไรหมดล่วงหน้า แต่เราก็ไม่หมดความพยายาม ยังโชคดีที่โรงงานเขาให้ทดสอบทดลองโดยการทดลองที่ยังไม่สำเร็จนั้นเขาไม่ได้คิดมูลค่าใดๆ

 

ต่อมาเรื่องของความฝันที่ผมฝันถึงท้าวสักกะเทวราช แต่ผมจะไม่ขอเล่าตรงนี้ เพราะกลัวว่าจะหาว่าเป็นเรื่องแอบอ้าง ความฝันนั้นอยู่ช่วงเดือนสิงหาหรือกันยา 2550 และมาบังเอิญผมได้อ่านข่าวของ StarNews ที่ลาลีคฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์ถึงการสร้างพระแก้วหน้าตัก 8 นิ้วเศษราคา 4 แสนบาทเศษต่อองค์สำเร็จเมื่อประมาณต้นๆสิงหา 2009 ในนั้นมีการบอกถึงช่วงเวลาของการอบลดอุณหภูมิ ซึ่งตรงนี้เองที่ผมทราบแล้ว บอกให้ปีเตอร์ทำตาม และลงมือสร้างทันที และเป็นที่มาของความสำเร็จองค์แรก

ซึ่งเมื่อสำเร็จ 1 องค์ทางโรงงานได้เรียกเก็บเงินตามที่สัญญากับผมว่า องค์แรกและองค์เดียวที่จะคิดราคานี้คือ 10,000.- บาท องค์ต่อๆไปจะเรียกสูงขึ้น ( แต่ต่อมาทราบว่าเรียกสูงขึ้นหลายเท่ามาก ขออนุญาตไม่บอกว่าเท่าไร ? ) จึงเป็นที่มาของการไม่สร้างต่อ เพราะผมคิดว่าน่าจะไม่ถึงขนาดนั้น

โรงงานหลอมแก้วคริสตัลระยองเรียกเก็บราคานี้องค์เดียวเท่านั้น หลังจากนั้นจะสูงขึ้น และที่สุดทราบว่าสูงขึ้นหลายเท่ามาก ผมจึงหยุดสร้างกับโรงงานนั้น

 

หลังจากผ่านความสำเร็จมาเป็นเดือนๆแล้ว ผมทราบว่าทางโรงงานแก้วระยองเรียกราคาสูงขึ้นเกือบนับสิบเท่า ผมจึงหยุดโครงการนั้น และต่อมาปีเตอร์มีการเดินทางเข้าเขตสมุทรปราการหลายครั้ง ได้พูดถึงการเช่าเครื่องมือโรงงานแก้วบางแห่งที่สมุทรปราการ ( ขออนุญาตไม่บอกชื่อโรงงานแก้วนั้น ) เราจึงได้สร้างพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้วต่อมาอีกหลายองค์ด้วยการเช่าเครื่องมือ แต่ปัจจุบันปีเตอร์ได้กลับพม่าไปแล้ว และทางโรงงานแก้วนั้นๆไม่ยอมให้เช่าเครื่องมืออีกเนื่องจากเครื่องมือมีการเสียหายบางส่วน ค่าเช่าคงไม่คุ้มนั่นเอง หรืออาจสาเหตุอื่นๆ ผมอาจไม่ทราบ

 

เทคนิคในการสร้างพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้วทั้งหมดที่สร้างด้วยแก้วคริสตัลนั้น ใช้เทคนิค Lost Wax Glass

 

ขั้นตอนที่ 1 คือการปั้นหุ่นต้นแบบ ค่าจ้างมีหลายรุ่นมาก ถูกแค่ไหนก็มี แพงแค่ไหนก็มี ศิลปินปั้นหุ่นต้นแบบบางท่านหน้าตัก 5 นิ้ว 9 นิ้ว มีถึงนับแสนบาท ในขณะที่บางท่านอาจถูกเพียงไม่ถึงหมื่นบาทก็มี

หลังจากได้หุ่นต้นแบบแล้ว ต้องถอดยางซิลิโคน แล้วเทหุ่นขี้ผึ้งสีอะไรก็ได้ ในที่นี้ลูกน้องช่างแก้วผมปีเตอร์เขาใช้สีเขียว

หุ่นต้นแบบองค์นี้ปีเตอร์ซื้อมาจากคนรู้จักในระยอง เป็นทองเหลือง แล้วมาถอดแบบ ความคมชัดจึงไม่มากเท่ากับให้ศิลปินปั้นต้นแบบ

หน้าตัก 5 นิ้ว เมื่อถอดแบบที่ไม่ใช่การปั้นจริง อาจเหลือไม่ถึง 5 นิ้วครับ

 

องค์สีดำด้านหลังคือองค์ต้นแบบเป็นทองเหลืองครับ

ปีเตอร์สร้าง 10 องค์เพื่อเป็นที่ระลึกถึงจังหวัดระยองที่เขาอยู่มาหลายปี นึกถึงแต่หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ระยอง จึงสร้างเป็นที่ระลึกโดยขณะนั้นมีงานอื่นเข้ามา จึงมีจังหวะสร้างครับ

 

ปูนปลาสเตอร์ทนไฟยี่ห้อ SUN ราคาถูกมาก เจ้าของงานอื่นที่เข้ามาระหว่างนั้น ได้ซื้อจากจีน ได้ยินว่ากิโลกรัมละ 2 หรือ 3 บาทเศษ

 

ระหว่างนั้นมีเจ้าของโครงการสร้างพระยืนสูง 60 cm. ท่านหนึ่ง ท่านต้องการสร้างตัวอย่างแค่ 2 องค์ โดยไปเช่าโรงงานเซรามิคแห่งหนึ่งที่อยุธยา แต่งานหุ่นขี้ผึ้งทำในสระบุรี

ที่เห็นสูงๆ 2 องค์นั้นคือโครงการทดลองสร้างพระยืนสูง 60 cm.

รอบๆพระยืนสูง 60 cm. คือแม่พิมพ์ปูนปลาสเตอร์ทนร้อน ภายในเป็นหลวงปู่ทิมจำนวน 10 องค์ครับ

 

ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อนั้น เจ้าของโครงการนำเข้าจากจีนจำนวน 300 kg. ราคากิโลกรัมละ 5 หยวน ประมาณ 25.- บาท/kg ซึ่งผมได้บอกเตือนปีเตอร์แล้วว่า ควรทำการทดลองเฉพาะก้อนแก้วก่อน ไม่ควรหลอมจริงเลยทันที เพราะเสี่ยงกับการไม่สำเร็จแล้วจะถูกโทษถูกกล่าวหาต่างๆ

ในขณะนั้นผมและปีเตอร์ได้รู้จักก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจากนิวซีแลนด์และจากอเมริกาแล้วว่า น่าจะดีถึงขั้นไม่ต้องทดลองก่อนการหลอมจริง เพราะเขามีสูตรการหลอมมาให้เราเสร็จๆ ไม่ต้องทดลอง ส่วนของจีนไม่มีสูตรการอบการหลอมมาให้

ราคาก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจากนิวซีแลนด์ของ Gaffer Glass มีตั้งแต่กิโลกรัมละ 200 - 700 บาท ซึ่งตามความคิดเห็นของผมและปีเตอร์ว่า น่าจะคุ้มค่าตรงที่ไม่ต้องทดลองก่อน

 

อ้อ ผมลืมบอกว่า ขณะที่ดำเนินการหล่อพระยืนสูง 60 cm. นั้น ปีเตอร์ได้ออกจากโรงงานหลอมแก้วคริสตัลระยองแล้วนะครับ คือลาออกมานานเกือบปีแล้ว

 

การตั้งแม่พิมพ์ปูนปลาสเตอร์ การวางกระถางดินเผา และการวางก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อ ผมขอข้ามขั้นตอนนี้นะครับ เพราะไม่มีอะไรสลับซับซ้อน เพราะการหลอมชิ้นงานแบบแก้วตัน และไม่มีส่วนที่เลื้อยยาวๆเหมือนมังกร หรืออะไรทำนองนั้นไม่ยากอะไรเลย

 

ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจากจีน ความจริงจีนมีหลายบริษัทที่สร้างนะครับ อย่าไปเหมาหมดว่าจีนไม่ดี เพราะแม้แต่ในขณะที่หล่อพระแก้วยืนสูง 60 cm. ล้มเหลวก็จริง แต่หลวงปู่ทิมสำเร็จนะครับ ดังนั้น จะเหมาว่าของจีนทั้งหมดไม่ดีนั้นคงไม่ได้ จีนที่ดีกว่าฝรั่งก็คงมีนะครับ เพียงแต่เรายังไม่พบเท่านั้นเอง ในแผ่นดินที่ใหญ่ขนาดจีน มีโรงงานหลอมแก้วที่สามารถผันตัวเองมาทำก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อนับพันๆโรงงานครับ ท่านจึงควรต้องไม่เหมานะครับ

หมายเหตุ
จีนมักใช้แผ่นกลมแบนทำเป็นก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อซึ่งมีตะกั่วปนอยู่ประมาณ 30%PbO คือประมาณ 30% ของน้ำหนักทั้งหมด และนั่นคือตะกั่วอ๊อกไซด์ ส่วนฝรั่งเขาทำไปถึงขั้นเป็นคริสตัลโดยไม่ต้องใช้ตะกั่วแล้วก็มีบางรุ่นนะครับ

 

ซ้าย ม้าตัวนี้เป็นรุ่นที่ปีเตอร์ประกอบขึ้นมาตอนอยู่บริษัทแก้วที่จ้างจีนสร้างเฉพาะส่วนที่แก้วไม่ประกายครับ ส่วนที่แก้วเป็นประกายเจียรนัยเป็นมุมตัดนั้นบางส่วนเป็นของ Swarovski ออสเตรีย

ขวา พระแก้วที่บริษัทที่ปีเตอร์อยู่ก่อนการอยู่กับโรงหลอมแก้วคริสตัลระยอง เป็นการจ้างจีนผลิตชิ้นส่วนและนำมาประกอบกับชิ้นส่วนของ Swarovski ออสเตรียบางส่วน

ฝีมือปีเตอร์ทั้งนั้นครับ

ผมนั่งคุยกับปีเตอร์ตอนปีเตอร์มาทานข้าวที่บ้านผมครับ ผมมักใช้โคมไฟตั้งโต๊ะตัวนี้ส่องชิ้นงานแก้วที่ปีเตอร์นำมาอวดผมบ่อยๆครับ

 

8 องค์ที่สำเร็จ และ 2 องค์ที่ชำรุด ( ตามที่ปีเตอร์บอก ) ขณะที่ปีเตอร์นำมาให้ผมพิจารณาคุณภาพแก้วคริสตัลแบบมีตะกั่วของจีน ปีเตอร์ให้ผมช่วยคิดเรื่องก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจากจีน ซึ่งผมทราบคำตอบแล้วหลังจากที่ผมได้หลวงปู่ทิมมานานหลายเดือน ผ่านการพิจารณามาพอสมควร แต่ไม่ขอเปิดเผย เพราะถึงอย่างไรปีเตอร์ก็ถูกโทษว่าไม่เป็นไปแล้ว ความจริงไม่เกี่ยวกับปีเตอร์เลย เพราะปีเตอร์ขอให้ใช้ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจาก Gaffer Glass ราคาโลละ 700.- บาท ซึ่งองค์พระยืนสูง 60 cm. มีราคาสั่งสร้างถึงองค์ละ 220,000.- บาท แต่พอโครงการล้มเพราะทดลองไม่ผ่านเช่นนี้ จะโทษปีเตอร์เพราะไม่เชื่อเขานั้นคงไม่ได้

และปัจจุบันปีเตอร์ได้กลับพม่าอย่างถาวรไปแล้ว ปีนี้ปีเตอร์อายุ 70 ขึ้นแล้ว คงไม่กลับไทยอีก

 

ปีเตอร์เป็นเพื่อนที่น่ารักมา มาทานข้าวบ้านผมบ่อยๆ พระแก้วหน้าตัก 3 นิ้วของพระ อ. ปลัดวิชาญชำรุดก็มารับ และมาส่งที่บ้านผม พระ อ. ปลัดวิชาญจึงได้พระแก้วที่ซ่อมและนับได้ว่าเป็นการซ่อมพระแก้วจากแก้วคริสตัลจริงๆเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในประเทศไทย