หนุมานหน้าโขน-หน้ากระบี่ หลวงพ่อสุ่นวัดศาลากุน ปากเกร็ด

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 11 พฤศจิกายน 2007.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172

    "ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ เสือหลวงพ่อปาน หนุมานหลวงพ่อสุ่น วัวปั้นหุ่นหลวงพ่อน้อยศีรษะทอง เบี้ยแก้กันของหลวงปู่รอด วัดนายโรง

    <DD>คือโศลกธรรมที่นักนิยมพระเครื่องรางของขลังจัดเอาไว้เข้าตับเป็นชุดเบญจภาคีแห่งเครื่องราง"
    <DD>การศึกษาเครื่องรางไม่ว่าจะเป็นประเภทไม้งากะลาเบี้ยต่างต้องอาศัยการดูศิลปะในการแกะและการจารอักขระยันต์และความเก่าตามธรรมชาติ เพราะแต่ละสำนักต่างมีเอกลักษณ์เป็นปัจเจกที่แตกต่างกันออกไป
    <DD>หนุมานของหลวงพ่อสุ่นนี้สร้างขึ้นจากไม้พุดซ้อนและรักซ้อน เล่ากันว่าหลวงพ่อสุ่นเป็นเพียงพระลูกวัดศาลากุน ได้ปลูกต้นรักซ้อนและต้นพุดซ้อนเอาไว้ที่หน้ากุฏิ หลังจากบิณฑบาตฉันภัตตากิจเสร็จ ท่านจะยืนล้างบาตรหน้ากุฏิแล้วเอาน้ำนั้นรดที่ต้นรักและต้นพุดซ้อน ทำอย่างนี้อยู่หลายปี จนกระทั่งวันหนึ่งต้นพุดซ้อนและต้นรักตายพราย หลวงพ่อสุ่นจึงได้ให้ศิษย์วัดทำการขุดเอาต้นและรากขึ้นมาผึ่งตากแดด แล้วสับเป็นท่อนๆ ขนาดพอเหมาะ ยามว่างก็ให้ศิษย์แกะเป็นรูปหนุมาน แต่ทว่าหย่อนงามเรียกว่า หนุมานหน้ากระบี่ จากนั้นได้ว่าจ้างให้ช่างแกะให้ เพื่อให้ได้ความงดงาม จึงได้ลักษณะออกมาเป็นหนุมานเหมือนรามเกียรติ์ จึงเรียกว่าหน้าโขน
    <DD>หนุมานยุคแรกสร้างจากไม้ต้นรักซ้อนและต้นพุดซ้อนล้วนๆ สร้างแล้วเอาใส่ในบาตรปลุกเสกตลอดทุกค่ำคืน มีเรื่องเล่ากันว่าท่านเสกด้วยอุคหนิมิต คือ นิมิตที่จำติดตาลืมตาก็เห็นหลับตาก็เห็น เสกจนหนุมานกระโดดออกจากบาตรขึ้นมาดับเทียนชัยที่จุดเอาไว้ที่ขอบบาตร เพราะหนุมานได้ถูกเสกกำกับหัวใจหนุมานเอาไว้ด้วยทุกตัว
    <DD>ใครก็ตามที่มาทำบุญที่วัดหลวงพ่อสุ่นก็เมตตาแจกไปให้โดยไม่เลือกที่รักที่ชัง และไม่ได้ตั้งราคาค่างวดอะไรเอาไว้ หนุมานของหลวงพ่อสุ่นนี้คนพื้นที่เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี ต่างกล่าวกันว่าดีทางด้านเมตตาค้าขายและแคล้วคลาด เป็นเครื่องรางที่พกที่เอวก็ได้หรือจะห้อยคอก็งาม แล้วแต่สะดวก
    <DD>การพิจารณาว่าแท้หรือไม่นั้น สำหรับหนุมานไม้แกะนี้ในเบื้องต้นให้สังเกตเรื่องของศิลปะ หากเป็นหน้ากระบี่จะแกะออกมาลักษณะเค้าหน้าแบบปากแหลมนิดๆ ไม่มีลวดลายเครื่องทรงอะไรเลย หากเป็นแบบหน้าโขนจะมีลวดลายที่งดงามอ่อนช้อย ไม้ที่นำมาแกะเมื่อผ่านกาลเวลามาถึงวันนี้ แน่นอนธรรมชาติของไม้ต้องไม่สดหมดยางความเหนียวในเนื้อไม้ สภาพลักษณะข้างนอกนั้นจึงต้องแห้งกรอบมีร่องรอยปริแยกแตกพอสังเขป และมีร่องรอยของความเป็นเสี้ยนๆ โผล่ออกมาเป็นพลิ้วๆ ให้ได้เห็นตามซอกและจุดต่างๆ และแห้งสนิทไม่ปรากฏร่องรอยหรือรอยขีดข่วนออกมาให้เห็น เพราะด้วยกาลเวลาย่อมทำให้ธรรมชาติตรงนั้นลบเลือนไป
    <DD>หากเป็นของทำเทียม เนื้อของไม้จะไม่แห้งยังสดอยู่เพราะเพิ่งเอาไม้มาแกะ ธรรมชาติของไม้ไม่มีสารเคมีตัวใดที่จะมาเร่งความสดของไม้ให้หายไปได้ ตามซอกจุดต่างๆ ยังไม่แห้งแล้วยังปรากฏร่องรอยการแกะที่เป็นริ้วรอยของของมีคมได้เด่นชัด ความอ่อนช้อยของศิลปะไม่สามารถเทียบกับของแท้ได้เลย
    <DD>หนุมานของหลวงพ่อสุ่นนี้หายากนัก ราคาในการบูชาสูงระดับหลักหมื่นกลางๆ ขึ้นไป แล้วแต่ว่าเป็นหน้าโขนหรือหน้ากระบี่ ยิ่งหน้าโขนยิ่งแพงมาก ธุรกิจใครติดๆ ขัดๆ ฝืดเคืองบูชาหนุมานแล้วเชื่อกันว่าราบรื่น พระเกจิอาจารย์ยุคหลังๆ ยังคงนิยมสร้างเครื่องเป็นรูปหนุมานก็หลายสำนัก แต่เป็นการสร้างจากโลหะมากกว่า หากตำรับวิชานี้ไม่เข้มขลังจริงคงไม่มีใครสร้างขึ้นตามคณาจารย์ยุคเก่าแน่นอน.
    <DD>มนต์ พันลาย
    <DD>
    <DD>
    <DD>http://www.thaipost.net/index.asp?bk=tabloid&post_date=11/Nov/2550&news_id=150705&cat_id=220400
    </DD>
     

แชร์หน้านี้

Loading...