หมอดูทายว่าชะตาขาด ต้องแก้อย่างไร ?

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย magic_storm, 26 กันยายน 2007.

  1. magic_storm

    magic_storm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +3,053
    วิธีแก้ไขที่ยั่งยืนคือ "ขออำนาจพุทธ - ธรรม - สงฆ์ จงบันดาลบุญข้าให้ ญาติ - เทพที่รักษา - นายเวร - เชื้อโรค
    ของข้า " เป็นประจำ มากๆ บ่อยๆ เท่าที่จะสามารถทำได้

    ส่วนความกังวลเรื่องชะตาขาด บางคนบางรายก็อาจจะได้รับสัญญาณเตือนจากนายเวรที่ไม่เหมือนกันเช่น
    บางรายอาจจะฝัน - บางรายอาจจะมีลางสังหรณ์แปลกๆ - บางรายผู้อื่นอาจจะเห็นสัญญาณร้ายจากนายเวรนั้น ฯลฯ

    เมื่อผู้ใดได้รับสัญญาณเตือนจากนายเวรแบบนี้ ก็ไ่ม่ต้องตกใจ - ไ่ม่ต้องเสียใจ
    เพราะนี่คือสัญญาณการทวงหนี้เก่าเท่านั้นเอง และมนุษย์ทุกคนที่เกิดมาได้เจอพระพุทธศาสนา
    ถือว่ามีบุญมากอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงมีศักยภาพมากเพียงพอที่จะใช้หนี้ได้
    ก็ให้พวกเราใช้หนี้ให้พวกเขาคือนายเวร ตามวิธีที่ไ้ด้เรียนรู้นี้แหละ

    ให้ผู้นั้นรีบอุทิศบุญให้นายเวรที่จะทำให้เกิดเหตุร้ายนั้นเป็นการเฉพาะอย่างมากๆๆ
    พร้อมกับขอโทษเขาอย่างจริงใจด้วย โดยไม่ต้องทำพิธีใดๆ อีก ทั้งสิ้น
     
  2. magic_storm

    magic_storm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +3,053
    การอุทิศบุญที่ได้ผล ควรทำตามหลักนี้

    1. ต้องไม่มีเครื่องรางของขลังทุกประเภท เป็นสิทธิของตัวเอง รวมทั้งพระพุทธรูป – พระธาตุ – เครื่องใช้ของครูบาอาจารย์ทั้งหลายด้วย สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นของกลาง ไม่ควรถือสิทธิเป็นของตน ควรนำไปไว้วัด (ถ้าบ้านอยู่ด้วยกันหลายคนและแต่ละคนก็มีเ่ครื่องรางฯ ด้วย ถ้าบอกพวกเขาไม่ไ้ด้ ก็ไม่เป็นไร สำคัญอยู่แต่ว่าเราไม่ไปถือสิทธิด้วยก็พอ )

    2. ผู้สวดมนต์ที่ไม่รู้ความหมาย หรือ รู้ความหมายแต่ยังทำตามไม่ถูกต้องในมนต์ที่สวด และผู้สวดมนต์เพื่อหวังไล่สิ่งชั่วร้ายทั้งหลาย – หวังจะให้ขลัง – หวังอ้อนวอน ผู้นั้นต้องเลิกสวดมนต์

    3. ถ้ายังไม่แน่ใจว่าพระที่ตัวเองทำบุญด้วยปฏิบัติถูกต้องตามพระธรรม – วินัย
    ยังไม่ควรทำบุญกับพระ เพราะมีอันตรายอยู่มาก และต้องรู้จักสิ่งของที่สมควรถวายพระ ถ้าไม่รู้จักไม่ควรถวายมั่วๆ ควรทำบุญกับพ่อ – แม่ และญาติทั้งหลายของตัวเองจะดีกว่าและปลอดภัยกว่าด้วย

    4. ให้อธิษฐานเบิกบุญมาจ่ายบ่อยๆ ตามนี้ว่า “ ขออำนาจพุทธ – ธรรม – สงฆ์ จงบันดาลบุญข้าให้ญาติ – ให้เทพที่รักษา – ให้นายเวร – ให้เชื้อโรค ของข้า ” วิธีนี้ไม่ต้องอาศัยสิ่งของทำบุญใดๆ ไม่ต้องลงทุนอะไรๆ ที่เป็นวัตถุในโลก ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับใครๆ วิธีเบิกบุญนี้บุญไม่มีวันหมด มีแต่บุญจะเพิ่มมากขึ้นและเป็นวิธีที่ปลอดภัยด้วย

    *** ตรงคำว่า ของข้า ถ้าทำให้ผู้อื่นให้เปลี่ยนไปตามชื่อของคนผู้นั้นๆ
     
  3. magic_storm

    magic_storm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +3,053
    เกิดมาแล้วต้องตาย นี่คือความจริงของโลกทั้งหลาย
    เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ถึงวันที่ต้องตาย
    ถ้าไ้ด้ตายอยู่กับการระลึกแนบแน่นอยู่กับพุทธ - ธรรม - สงฆ์
    ตายอยู่กับการแก้ไขบาปกรรม
    ตายอยู่กับการสร้างเสริมบุญกรรม
    ตายอยู่กับคำสอนพุทธ

    ความตายของผู้เช่นนี้ไม่น่าตกใจ - ไ่ม่น่าเสียใจ เพราะความตายก็คือการเปลี่ยนบ้านใหม่ - เปลี่ยนที่อยู่ใหม่
    ถ้าตายอยู่กับความดี ก็ไปอยู่สวรรค์ที่สะดวกสบาย ถ้าอยากจะเรียนคำสอนของพุทธต่อ อยู่่ที่นั่นก็มีให้เรียนตามกำลังความสามารถของตน ที่สวรรค์นั้น มีผู้สอนเรื่องของพุทธ - มีผู้แนะนำเรื่องของพุทธอยู่
    สำคัญอยู่แต่ว่า ใครได้ไปอยู่แล้วอย่ามัวหลงระเริงกับเสียงดนตรีปี่พาทย์อันน่าเคลิบเคลิ้ม
    หรือความสุขทั้งหลายที่มีอยู่ที่นั่น

    เมื่อผู้ใดได้แนบแน่นกับพุทธ - ธรรม - สงฆ์ ถ้ายังไม่สามารถตัดไปนิพพานได้
    ในคราวที่พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติตรัสรู้ขึ้นมาในโลก ผู้นั้นก็จะได้เวียนมาเกิดเจอกับพุทธเจ้าอีก
    จะได้ฟังธรรม - จะได้บำเพ็ญบุญ สร้างเสริมอบรมวาสนาบารมีให้ยิ่งๆขึ้นต่อไปอีก เพื่อบรรลุซึ่งอมตะธรรมในที่สุด

    เมื่อได้รู้อย่างนี้ ดวงดาวก็ดี - หมอดูก็ดี ก็ไม่มีความหมายสำหรับเราแล้ว ขอให้ทำดีตามที่พุทธแนะนำไว้เถอะ

    เมื่อพูดถึงด้านนายเวรที่จะมาทวงหนี้กรรม จนอาจทำให้ถึงแก่ความตายได้
    ถ้าเราไ้ด้ใช้หนี้เอาไว้ในคราวนี้ แม้จะไม่หมดซะทีเดียว หากได้มาประสบพบเจอกันอีกในคราวหน้า
    ดีกรีที่ร้อนแรงของความแค้นก็ย่อมจะลดน้อยถอยลงเป็นลำดับ ซึ่งก็เป็นธรรมดาอันหนึ่ง ของคนที่มีหนี้แล้วได้ใช้หนี้ (ตามวิธีที่ได้แนะนำ)

    ให้พยายามเรียนรู้ให้มากเถอะคำสอนของพุทธ แล้วจะไ้ด้รู้จักทางหนีทีไล่ของวัฏฏะจักรนี้หรอก แม้ไม่สามารถที่จะตัดไปนิพพานไ้ด้ แต่ก็รู้จักทางดำเนินก็แล้วกันน่า เมื่อเรียนรู้มากๆแล้ว ก็จะลดความตื่นกลัวต่อวัฏฏะจักรไ้ด้มากทีเดียว
    และจะไม่เสียเปรียบธรรมชาติอย่างง่ายๆอีก เพราะผู้สอนนั้นท่านสอนด้วยความรู้จักธรรมชาติทุกๆปรมาณูโน่น

    พระพุทธเจ้าของพวกเราพระองค์นี้ ท่านสอนธรรมเอาไว้อย่างละเอียดหลายแง่หลายมุม
    ท่านสอนธรรมไว้อย่างละเอียดที่สุดในบรรดาพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ที่นับถอยหลังไป 28 พระองค์เป็นอย่างน้อย

    เพราะท่านเสด็จตรัสรู้ในยุคของคนอายุสั้น ในยุคที่คนอายุสั้นนี้ สติ - ปัญญา ย่อมจะเลอะเลือน - เลอะเทอะั
    ซึ่งก็เป็นแบบเดียวกันนี้ในทุกๆ รอบของกัป พระอรรถกถาจารย์ท่านแสดงเอาไว้ว่า
    สอนคนในยุคแบบนี้ (ต่ำกว่า 100 ปี ) ก็เหมือนกับ "เอาไม้เท้าขีดลงบนน้ำ"
    เพราะเป็นยุคที่ใกล้จะเข้าสู่จุดเปลี่ยน - จุดพินาศของมวลมนุษย์ชาติ
    ความพินาศของมนุษย์ชาติยุคนี้ ท่านแสดงเอาไว้ว่า "จะพินาศด้วยอาวุธ"

    --------------------------------------------------------------------------------
    อ้างอิงจาก: http://www.samyaek.com/board2/index.php
     
  4. ngern42

    ngern42 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +588
    ในสิ่งเร้นลับบางครั้งเราไม่สามารถที่จะเจาะจงลงไปได้ว่าเกิดจากอะไร เช่น
    อาจถึงคราวตายแล้วจริงๆ หรือ อาจจะเกิดจากถูกสิ่งไม่ดีกำลังตามเอาชีวิต
    ผมว่าทางที่ดีถ้าเขาทักมาคุณควรไปถามผู้รู้ดีกว่าครับ ส่วนความตายทุกคนต้องตายเพียงแต่ยังไม่มีใครอยากจะตายเท่านั้น ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็จงทำแต่ความดีไว้ จงตั้งอยู่ในความไม่ประมาท
     
  5. nutnun_k

    nutnun_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +1,021
    ถ้าโดนทักว่าชะตาขาดหรือชีวิตช่วงนี้ตกต่ำมาก ใครก็ทักว่าหน้าหมอง ดวงตาไม่มีความแจ่มใส แสดลว่าเขาเอาจริงแน่ สังฆทานลูกสองลูก เอาไม่อยู่หรอกเผลอๆเขาไม่อนุโมทนาด้วยซ้ำ อาจจะไปเคยทำให้เขาตายอย่างทรมาน แนะนำว่าถ้าเป็นชายให้บวชด่วน บวชแล้วต้องเคร่งครัดด้วยนะคะ ถ้าเป็นหญิงให้เข้าวัดวิปัสสนากรรมฐาน ถือศีล 8 ด่วน เน้นวิปัสสนานะคะ กรรมฐานอย่างเดียวไม่เอา แล้วจุดธูปบอกเค้าว่า "ตอนนี้จะทำบุญครั้งใหญ่ให้ บุญนี้รับแล้วท่านจะคลายความทรมาน กรรมชั่วอันใดที่เคยได้จาบจ้วงล่วงเกิน หรือทำให้ท่านทรมานกาย ทรมานใจ ขอให้ท่านอโหสิกรรมให้ข้าพเจ้าด้วย ตอนนี้ข้าพเจ้าสำนึกได้แล้ว แล้วจะอุทิศชีวิตสร้างบุญเพื่อช่วยเหลือท่านให้พ้นทุกข์ ขอให้ท่านมาอนุโมทนาบุญนี้ด้วยเถิด" จากนั้นทำวัตร เช้า วัตรเย็นก็กรวดน้ำ direct ให้เขาโดยตรง นั่งสมาธิก็อุทิศถึงเขาเป็นชื่อแรก อันนี้ดิฉันปฏิบัติผ่านมาแล้วชีวิตดิฉันดีขึ้นมากจากที่เคยแย่ เลยนำมาบอกต่อกันค่ะ
     
  6. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้ ทำเหตุปัจจุบันให้ดี ผลที่เกิดตามมาย่อมต้องดี
    ถ้าศรัทธาในกฏแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต เป็นดั่งนี้แล้วความตายหาใช่เรื่องที่น่ากลัวอย่างใดไม่
     
  7. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    หมอแพทย์ทายไข้ ลมคุม
    หมอผีบอกผีกุม โทษให้
    หมอดูว่าราหูกุม ทำโทษ
    ปราชญ์ว่ากรรมเองไชร้ ตนสร้างมาเอง

    กลอนบทนี้จำมานาน..(จนสนิมเกรอะ..ถ้าเป็นดาบ)..ถ้าหากคลาดเคลื่อน..ก็จงให้อภัย..ไม่ทราบนามกรผู้แต่ง...ต้องกราบขออภัย...ด้วยขอรับ
    [​IMG]
    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา
     
  8. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    การเบิกบุญมี 2 ความหมาย ความหมายอย่างแรกก็คือ การอุทิศส่วนกุศล ก็เป็นการเบิกบุญของเราเอง เพื่อให้อีกบุคคลหนึ่ง หรือให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลาย ความหมายอย่างนี้เป็นความหมายที่เข้าใจกันอยู่ทั่วไป

    แต่อีกความหมายก็คือ เป็นการเบิกบุญของเราเอง เพื่อให้เกิดผลอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นตามที่เราต้องการ เรียกว่า เบิกเอง ใช้เอง เป็นการอ้างอำนาจคุณงามความดี หรือจะเรียกบุญฤทธิ์ก็ได้ บางกรณีหรือบางคน ก็จะได้รับอนุญาตจากเบื้องบนให้ใช้คาถากำกับในการเบิกบุญด้วย เช่น กรณีของอาจารย์ทิพากร

    การเบิกบุญในความหมายของการอุทิศส่วนกุศลนั้น มีการเผยแพร่โดยพระอาจารย์รูปหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าหลายๆท่านคงรู้จักดี พระอาจารย์รูปนี้เป็นผู้ทำให้คำว่า "เบิกบุญ" เป็นที่แพร่หลาย ซึ่งบอกได้เลยว่า การเบิกบุญนั้นโดยหลักการเป็นเรื่องดี อย่างไรก็ตาม คำสอนบางส่วนก็ขอให้ใช้สติปัญญาพิจารณาให้จงดีและจงหนัก

    กรณีของเจ้ากรรมนายเวรนั้น มีความพิสดาร บางกรณีเจ้ากรรมนายเวรก็จะขัดขวางแบบชนิดไม่ให้ใครเข้าไปช่วยเหลือ (ซึ่งผมเคยเจอมาแล้ว แต่ไม่ใช่ตัวผมเองนะครับ) บางกรณีหากเจ้ากรรมนายเวรเกาะติดร่างกาย ก็จะก่อให้เกิดโรคร้ายต่างๆนานา โรคบางโรคอย่าว่าแต่รักษาเลย หาสาเหตุยังไม่เจอ ไปหาแพทย์แผนปัจจุบันมากี่คน ก็ไม่ทราบสาเหตุ หรือหากเจ้ากรรมนายเวรไม่สามารถเกาะติดร่างกายได้ ก็จะรอดักเล่นงานเราตอนเทวดาประจำตัวเราเผลอ

    อย่างที่คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->nutnun_k<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_725893", true); </SCRIPT> บอกไว้ ถ้ากรณีที่เค้าจะเล่นงานเราให้ถึงตาย ลำพังสังฆทานถังสองถังเอาไม่อยู่หรอก เพราะเค้ากะเล่นถึงตายเลย ต้องเอาบุญใหญ่เข้าแลก บุญที่ว่าก็คือบุญบวช ถ้าเป็นผู้ชายก็บวชพระ ผู้หญิงก็บวชชี บวชอุทิศส่วนกุศลไปเลย จะ 3 วัน 5 วัน 7 วัน อะไรก็ว่าไป ระหว่างบวชก็ตั้งใจปฏิบัติธรรมอุทิศส่วนกุศลให้เค้า วิธีนี้เป็นวิธีที่สิ้นเปลืองเงินทองน้อยที่สุด แต่ก็ได้ผลดีที่สุดวิธีหนึ่ง

    ที่พระท่านสอนเรื่องภัยจากวัฏสงสารนี่ ก็เพราะให้เห็นทุกข์ ทุกข์ที่เกิดจากเจ้ากรรมนายเวรก็เป็นอีกทุกข์หนึ่ง เพราะฉะนั้น ถ้ายังต้องมาเกิดอีก พยายามอย่าไปสร้างเวรสร้างกรรมกับใคร ให้มีเจ้ากรรมนายเวรเกิดขึ้น หรือถ้าจะให้ดี รีบๆเข้านิพพานไปเลย เป็นการหลุดจากบ่วงกรรมทั้งปวง
     
  9. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    คนเราหลีกหนีความตายไม่พ้นสักราย ตายเร็ว ตายช้า แต่ที่แน่ ๆ ก่อนที่ตัวเราจะตาย เราได้ทิ้งคุณงามความดีอะไรไว้ให้คนรุ่นหลังได้จดจำในสิ่งที่เรากระทำไว้บ้างก็เท่านั้นเองค่ะ
     
  10. pump - อภิเตโช

    pump - อภิเตโช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,202
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,803
    ชะตาขาดเกิดจากอุปฆาตกรรม คือกรรมปานาติบาต มาตันรอนอายุไข

    หลวงพ่อเคยเล่าว่า เณรองค์หนึ่งจะตายในเจ็ดวัน ระหว่างทางเดินไปเจอปลาดิ้นอยู่ในคลองที่น้ำแห้งขอด จึงเกิดความเมตตา นำปลาไปปล่อย ทำให้ปลารอดตาย ต่อมาเลยเจ็ดวันแล้วเณรก็ยังไม่ตาย จนมีอายุมาอีกหลายสิบปี

    ลองปล่อยปลาที่เขากำลังจะถูกฆ่าดูนะครับ

    ขออวยพรให้อายุมั่นขวัญยืน เป็นที่พึ่งพาของพ่อแม่ต่อไปอีกหลายสิบปีเถิด
     

แชร์หน้านี้

Loading...