หมาของฉัน...

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The eyes, 29 สิงหาคม 2014.

  1. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่วันนี้เกิดนึกถึงเพื่อนเก่าที่จากกันมานานพอควร นึกถึงมิตรภาพที่เคยร่วมใช้ชีวิตกันมา เลยอยากบอกเล่าเขียนเป็นบันทึกเอาไว้ เผื่อเมื่อเวลาผ่านไป จะได้ย้อนมาอ่านอีกครั้ง....
    เริ่มจากที่บ้านตั่งอยู่ใกล้ศาลเจ้าพ่อแห่งหนึ่ง โดยปกติที่นี่มักมีชาวบ้านนำศพมาตั่งบำเพ็ญกุศล ก่อนวันเผาจึงค่อยย้ายเคลื่อนศพไปวัด ...และในวันหนึ่งขณะที่ดิฉันกำลังซักผ้า พอมองออกมาหน้าบ้านจึงเห็นลูกหมาสีดำลายขาวเป็นสร้อยบริเวณคอ และช่วงสะโพกก็มีลายเป็นทรงสามเหลี่ยมสี่ขาวตัดขนสีดำ ขนขาสีขาวผสมดำ เดินเข้ามาหยุดๆดมๆอยู่หน้าบ้าน ดิฉันเห็นก็เดินออกไปไล่ เพราะมันกำลังหย่อนก้นนั่งอึออกมา พอมันเห็นดิฉัน มันก็หยุดยืนมองนิ่ง ก่อนจะรีบวิ่งหนีออกไป ดิฉันก็ไม่ได้สนใจอีก จนวันถัดมา เห็นมันมาอีก มันมาดมๆ จ้องๆ เดินวนไปวนมาตรงหน้าบ้าน วันนั้นดิฉันว่าง ได้ยินเสียงมันครางร้อง งี๊ดๆ เลยนึกสงสาร ไปตักข้าวใส่ถุง ขยำกับข้าวให้มันกิน ก็จุๆๆๆ เรียกมัน มันหยุดร้องและมอง แต่ยังไม่กล้าเดินมากิน ดิฉันเลยวางถุงนั้นกับพื้น เปิดอ้าปากถุงไว้ และก็ไม่สนใจมันอีก....
    ผ่านมาสองวัน ก็ไม่เห็นมันมาอีก แต่แม่เกิดสงสัยว่า ได้ยินเสียงอะไรใต้ถุนบ้าน เลยก้มมองลอดลงไปให้ . ปรากฎว่าพบมันนอนนิ่งๆ อยู่ใต้ถุนบ้าน ตอนนั้นสิ่งแรกที่คิดได้คือ มันคงไม่ได้กินอะไรมาสองวันแล้ว เลยรีบไปขยำข้าวมาให้มัน และก็เรียกมันออกมากิน มันแกว่งหางและลุกออกมาง่ายดาย ดิฉันเล่นกับมันอยู่พักนึง และก็ปล่อยมันไป ปรากฎว่ามันไม่ยอมไปไหน กลับไปนอนใต้ถุนที่เดิม ก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจ (กลัวแม่ว่า)แต่ในใจคิดเลี้ยงมันทันทีค่ะ ถึงเวลาก็แอบเอาข้าวมาให้มัน เป็นอย่างงี้ซักสองสามวัน ความเลยแตก เมื่อพ่อมาพบดิฉันเล่นกับมัน และสุดท้ายเลยเกิดการทะเลาะกันขึ้น แน่นอนดิฉันยังเด็กนัก เลยถูกตีไปสองที แต่ด้วยอะไรไม่ทราบ ไม่ยอมพ่อ จะเลี้ยงให้ได้ เลยอุ้มหมาเดินออกจากบ้าน มาแอบนั่งร้องไห้อยู่ที่หลังบ้านยาย(เป็นที่ดินว่างๆ ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน)จากนั้นฝนก็ตก ฟ้าร้อง... ดิฉันมองหมาที่ดิฉันอุ้มมา มันดูร่าเริงสนุกสนาน วิ่งตากฝน สำรวจนั่นนี่ ไม่เห็นมาสนใจดิฉันเลย(แอบน้อยใจหมาว่าคนกำลังเสียใจเรื่องของมัน มันกลับไม่รับรู้เลย) ดิฉันนั่งร้องไห้นานมาก จนมันกลับมานั่งข้างๆ และเริ่มมองหน้าดิฉัน มันคงเห็นน้ำตา มันเลยคราง หงิงๆๆ และก็นั่งเฝ้าไม่ไปวิ่งเล่นที่ไหนอีก จนประมาณสี่โมง ด้วยความน้อยใจพ่อ เลยหอบหมามานั่งอยู่ในวัด พระก็คงสงสัยว่าเด็กที่ไหนมานั่งตอนเย็นๆแล้ว ไม่กลับบ้านกลับช่องซะที ....จนหกโมง แม่คงขี่มอร์เตอร์ไซด์หา และมาพบดิฉันนั่งอยู่ในวัด ในมือถือไม้มาด้วย และไล่ดิฉันให้กลับบ้าน ดิฉันไม่ยอมกลับ(แต่ใจจริงๆอยากกลับตั่งนานแล้ว) แล้วก็โดนหวดอีกสองที แต่เรายืนเสียงแข็ง จนแม่บอกว่า พ่อไม่ว่าแล้ว ดิฉันเลยยอมกลับ....(ดีใจแทบแย่ที่ได้กลับบ้าน)555
    พ่อไม่เคยสนใจหมาตัวนี้เลย คงถือคติที่ว่า อยากเลี้ยงก็ดูแลเอง แน่นอนดิฉันทำอยู่แล้ว แรกๆยอมอดข้าว แบ่งส่วนของเราให้มันกิน หลังๆ พอพ่อเริ่มชิน ก็ตักจากหม้อหุงข้าวแหละค่ะ (หุงเผื่อมัน) แม่คงไม่อยากให้เลี้ยงเลยไปถามบรรดาคนที่อยู่แถวนั้น และคนที่อยู่ในงานศพว่า หมาใคร ? ซึ่งคำตอบที่ได้รับคือ ไม่มีเจ้าของหมา แต่บางคนบอกว่า เห็นมันเดินตามพระมา (พระมาสวด ฉันเพล) สรุปพอไม่รู้ว่าหมาใคร และเห็นว่ามันมาพร้อมพระ แม่เลยเงียบไป....
     
  2. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    กาลเวลาผ่านไป ...ดิฉันมีโอกาสเข้าไปเรียนในตัวจังหวัด เดือนนึงถึงจะได้กลับบ้านซักครั้ง(กลัวเปลืองค่ารถค่ะ) หน้าที่ให้อาหารหมาจึงตกอยู่กับแม่ ต้องบอกนะคะว่าพอมันเริ่มโต ซนมาก เล่นคาบรองเท้าบ้านใกล้เรือนเคียงมากัดซะขาด จนหลังๆต้องซื้อใช้ให้ และที่สำคัญคือ ชอบไปวิ่งไล่คนที่ถนน จนแม่เริ่มบ่น แต่ดิฉันก็ทำหูทวนลมค่ะ เพราะตามความรู้สึกของดิฉัน หมาตัวนี้ไม่ค่อยดื้อค่ะ และมันก็ถือเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเวลาดิฉันกลับมาบ้าน เพราะอะไรนะเหรอคะ เพราะว่า เวลาดิฉันกลับบ้าน จะไม่พบใครเลยค่ะ มีแต่มันนะแหละที่อยู่เป็นเพื่อนกันตลอด นอนเฝ้าหน้าประตูบ้านไม่ไปไหน พอดิฉันจะออกไปไหน มันก็จะเดินตามไปด้วยเสมอ กว่าคนในครอบครัวจะกลับเข้าบ้านกันก็มืดแล้ว คิดดูสนิทกันแค่ไหน ไปวัดก็ไปด้วย คนเต็มวัด ดิฉันไม่สนใจหรอกคะ มันก็นอนเฝ้าอยู่ข้างๆดิฉันแหละ ขำเหมือนกัน มีครั้งนึงทรหดมาก ขี่รถสามล้อไปซื้อหลังคาหญ้าแถวท่าใหม่ ไปกับพ่อ จะเอามาทำที่พักกระชักเลี้ยงปลา ขาไปสบายๆ ขากลับบรรทุกเต็มรถ สุดท้ายต้องให้มันไปนั่งบนกองแผ่นหญ้าคาที่ใช้มุงหลังคา ใช้เวลาเดินทางขาเดียวสองชั่วโมงกว่า ดิฉันก็ต้องคอยจับประคองมัน เพราะแผ่นหญ้ามันก็ลื่นพอควร แต่ก็แปลกที่ว่า หมาตัวนี้ ว่ามันเหมือนฟังภาษาคนรู้เรื่อง เพราะที่แม่มาบ่นกับดิฉันว่ามันคาบรองเท้า ไล่คน ตอนดิฉันเล่นกับมัน ดิฉันก็บอกมันดีๆ แล้วมันก็เลิกนิสัยพวกนี้เลย กลายเป็นหมาสุภาพ ไม่ยุ่งกับใคร หรือกับหมาตัวไหนอีก วันๆก็นอนใต้ถุนที่ประจำ แต่ถ้ามีใครมาที่บ้านก็อีกกรณีนะคะ แต่ถ้าดิฉัน เดินคู่มาด้วย ไม่เห่าค่ะ กระดิกหางอย่างเดียว คนแปลกหน้าขึ้นบ้าน มันมานั่งเฝ้าเลยนะคะ ไม่ไปไหน จนกว่าคนๆนั้นจะกลับ พฤติกรรมของมันทำให้คนแถวนั้นแปลกใจ อย่างเช่นร้านขายของ เขาเคยถามดิฉันว่า มันรู้ได้ไงว่าดิฉันจะมาซื้อของ คือมันไปหยุดยืนหน้าร้านเขา และดิฉันหรือแม่ก็จะโผล่มา บ้านยายก็ว่า ถ้าเห็นมัน เดี๋ยวแม่คงโผล่มา...ประมาณนี้ แต่ที่มันทำให้คนอื่นสงสัยได้ ดิฉันรู้ว่าเพราะอะไร เพราะมันจะหยุดยืนรอดูว่าดิฉันหรือแม่จะใช้เส้นทางไหน และจะหยุดรอตรงที่ประจำที่ดิฉันและแม่เคยหยุด เพื่อรอดูต่อไป มันก็เลยเหมือนว่ามันรู้ว่าเราจะไปทางไหนที่ไหน
    มีอยู่หลายครั้งเหมือนกันที่ดิฉันป่วยนอนซมกับบ้าน มีอาการอาเจียร และไม่น่าเชื่อว่ามันก็รู้สึกห่วงดิฉันเหมือนกัน คือมันเดินเข้ามาในบ้าน เดินจนมาถึงครัว และมาหยุดยืนมองดิฉัน พร้อมร้องเสียง งี๊ดๆ พอดิฉันเรียบร้อยเดินมา มันก็เดินนำและกลับลงไป ....(ไม่อยากบอกเลยว่าตอนนั้นรู้สึกยังไง)
    มีครั้งนึงที่มันป่วยมาก ถึงขนาดชัก พามันไปหาหมอ หมอบอกว่า รอดห้าสิบห้าสิบ ฉีดยาให้เข็มเดียว และให้เอากลับบ้าน (สงสัยคงจะไม่รอดแน่แท้) น้ำลายมันไหลย้อย ลุกไม่ขึ้น ซึ่งแม่ไม่ได้โทรบอก แต่ที่กลับมาเพราะมีนัดจะไปเที่ยวเกาะช้างกับญาติที่ กทม. พอมาถึงน้ำตาแทบไหล เห็นมันชัก หงิกๆ นอนน้ำไหลยืดอยู่ มันยังอุตส่าห์กระดิกหางรับด้วยความดีใจ และโดยทันที ในตัวมีเงินอยู่เจ็ดแปดร้อยจำไม่ได้ รีบอุ้มมันไปหาหมอทันที และก็ตามนั้น...
    สุดท้ายกลับมานอนชักที่บ้าน ดิฉันจับเท้าหน้ามันแบบให้กำลังใจ พยายามนึกถึงสิ่งศักสิทธิ์ และก็นึกไปต่างๆนาๆรวมถึงอายุไขของตัวเองด้วย นั่งจนห้าทุ่มได้ แม่เรียกให้ไปนอน เพราะพรุ้งนี้ ญาติจะมารับ ดิฉันขอยกเลิกไป แต่แม่ไม่ยอม เลยต้องเลยตามเลย อาการชักของมันดูเบาลง แต่ก็ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี แต่มีช่วงหนึ่งที่ในหัวปรากฎเห็นเป็นภาพเท้าและจีวรพระ กำลังเดินเข้ามา แน่นอนตอนนั้นดิฉันก็ได้พรรณาในใจไปต่างๆนาๆ ...และสุดท้ายก็ต้องไปนอน เพราะแม่ลุกขึ้นมาตาม
    พอวันรุ่งขึ้น ดิฉันลุกมาดูมันตั่งแต่ตีห้า เห็นอาการชักยังมีเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่ถี่เหมือนเมื่อวาน จึงพูดคุยกับมันไปตามเรื่อง และก็บอกมันอีกให้รักษาตัวดีๆ เพราะจะไม่อยู่สองวัน สุดท้ายก็ไปหนักที่พ่อ กำชับพ่ออย่าลืมให้อาหารมัน ให้นมมัน และก็ถึงเวลาเดินทาง ....ลืมบอกก่อนไปได้ฝากพ่อซื้อเลขสองตัวคือ 26 เพราะระหว่างพามันไปหาหมอ ขนตรงคอมันขึ้นเลข แบบชัดเจน แต่สุดท้ายกลับมา ไม่มีใครซื้อให้ และมันก็ออกตรงๆเลย และที่ดีใจที่สุดคือ ตอนกลับมา มันลุกเดินได้แล้ว แต่ยังเดินเซไปเซมา ด้วยความดีใจที่เห็นเรา ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 สิงหาคม 2014
  3. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    ความผูกพันธ์เรื่องราวก็เป็นไปตามปกติชีวิตประจำวัน...ไม่ว่าไปนั่งพักผ่อนแถวชายทะเล รึวันสงกรานต์ที่พาหลานๆไปตะลอนสาดน้ำชาวบ้าน หมาตัวนี้ก็มีอันต้องเร่ร่อนสนุกสนานไปด้วย (ไม่รู้มันสนุกปะ เวลาโดนน้ำเย็นๆ) จนมาถึงช่วงใกล้ชีวิตสุดท้ายของมัน

    มันเป็นความรู้สึกบางอย่างของดิฉันที่เริ่มระแวงในอายุของมัน กี่ปีแล้วนะที่เลี้ยงมัน.
    .คำถามนี้เกิดขึ้นหลายหน และก็ผ่านไปทุกปีๆ ในใจก็บอกแต่ว่า ยัง!.
    ยังไม่ถึงเวลาของมัน จนเมื่อสองปีก่อน เกิดความรู้สึกว่า อยากให้มันมีทายาท เอาไว้ดูต่างหน้า จะตัวหรือสองตัวดี คิดในใจ..ค่ะ และก็มีเอ๋ยปากคุยกับมันด้วย จนมาถึงหน้าผสมพันธุ์ ก็เริ่มมีบรรดาหนุ่มๆ มาติดพันมันหลายตัวพอควร มีมานอนเฝ้า นั่งเฝ้า ไม่ยอมกลับบ้านช่องกัน จนหมดฤดู ดิฉันก็พยายามกันบ้างปล่อยบ้าง เพราะบ้านใกล้เรือนเคียงรำคาญหมาตัวอื่นๆ และทุกอย่างก็ดูเงียบไป มีคนทักว่าหมาตัวนี้ท้องปะ ดิฉันก็ว่าคงไม่มั้ง แก่ขนาดนี้แล้ว แต่จริงๆใจนึงก็เชียร์อยู่ แต่ท้องไม่ใหญ่ แต่นมคัด เริ่มเดินมากกว่าวิ่ง จนมีวันหนึ่งช่วงเช้า มันเดินวนไปวนมาประมาณตีห้า เลยลุกมาดู แล้วให้มันมานอนที่ประจำ โดยดิฉันอยู่ดูอาการมัน เหมือนเดิมค่ะ จับขาหน้าแบบให้กำลังใจ แล้วมันก็เลิกร้อง แต่มันก็เดี๋ยวลุกเดียวนอนเปลี่ยนท่าไปมา จนดิฉันเห็นอะไรคล้ายถุงๆโผล่ออกมาที่ก้นมัน วันนั้นจำได้ฝนตกปรอยๆ เป็นละออง มันคลอดลูกออกมาเกือบหกโมงเช้า ตัวแรกสีขาวลายดำ มันดูเหมือนดีใจ และรีบทำความสะอาดลูกมัน แล้วดิฉันต้องไปตลาด เลยไม่ได้ดูต่อ พอกลับมาอีกทีมันคาบลูกไปอยู่อีกที่ ดิฉันก็ว่ามันปลอดภัยแล้ว เลยไม่สนใจ แต่สองสามวันมานี้เรียกมันมากินข้าวมันก็ไม่ยอมออกมา ด้วยความเป็นห่วง เลยต้องละเห็ดมุดเข้าไปใต้ถุนเอานมไปให้มันกิน...
    และมันก็กินเกลื้องไม่เหลือ เลยว่ามัน สบายเกินนะ ต้องประเคนถึงที่ .(ว่าไปงั้นๆแหละคะ) ว่าแล้วก็ดูลูกมัน โอ๊ะๆ เห็นว่ามีสามตัว (ทีนี้คิดหนักเลยซิ )ว่าตัวรึสองตัวดี มาทีสามตัว...
    พอผ่านไปอีกสองวันเลยย้ายลูกมัน ออกมาข้างนอก แน่นอนแม่มันก็รีบตามมา สรุปมานอนที่ประจำมัน ดิฉันยอมรับว่า ช่วงแรกๆว่าไม่ค่อยถูกชะตากับลูกตัวแรกมันเลย คือ ตัวแรกขาวลายดำ.ตัวสองสีดำ ตัวที่สามดำขาว ลูกตัวแรกดูมันซน ร้องเก่ง กินเก่ง ดิฉันก็ดูอยู่ห่างๆ ปล่อยแม่มันเลี้ยงไป จนวันนึงไปดู อ้าวลูกหมาตายตัวนึง คือตัวกลางสีดำ คิดว่าเพราะไม่ได้กินนม เลยต้องนำไปจัดการฝังซะ ด้วยกลัวมันจะตายอีก เลยมาช่วยดูลูกมันบ่อยขึ้น คือเอานมวัวมาป้อนเสริม คิดว่าแม่มันให้นมลูกได้แค่สองที่ มันเลยเป็นที่มาของเรื่องน่าหมั่นไส้อย่างหนึ่ง คือ ลูกมันมีปัญหาอะไร แม่มันร้องเรียกเราอย่างเดียว กี่โมงกี่ยาม ร้องซะลั่นตลอด พอมาดูหาลูกไม่เจอ ก็จะเจอได้ไง ลูกไปมุดอยู่โน้นแนะ ก็ตัวขาวที่ไม่ถูกชะตาแหละไม่รู้มันจะกลิ้งเกลือกอะไรนักหนา จนคืนนึงตีสอง แม่มันร้องลั่น ต้องลุกมาดู ได้ยินไอ้ตัวขาวร้องเฮงๆ พอมาฉายไฟดู โน่นพ่อคุณมุดตัวไปตรงแอ่งน้ำ และก็ลงไปว่ายน้ำเล่นซะ ทีนี้ทำไงละ แม่มันก็ร้องคางอยู่ข้างๆ นี่หน้าที่ฉันรึเนี่ย เอาวะลองมุดเข้าไปดู แต่คุณพระมุดไม่ได้ จะเข้าต้องนอนเข้าอย่างเดียว ทีนี้ทำไงละเนี่ย หันซ้ายหันขวา ไม่รู้ทำไง มืดก็มืด ชักรำคาญแม่มัน เชื่อปะคะ ดิฉันผลักแม่มันแหละเข้าไป ปากก็พูดว่า ไปเอาลูกมึงมา มาร้องอยู่ได้ ...(แบบมีอารมณ์นะคะ)
    และมันก็ก้าวเท้าไป ใช้ปากคราบลูกมันขึ้นมา ดิฉันรีบใช้ผ้าปูนอนให้มันเช็ดตัวลูกหมา และก็ให้แม่มันให้นมต่อ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 สิงหาคม 2014
  4. ชะมะนาด

    ชะมะนาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,384
    ค่าพลัง:
    +1,778
    ของป้าก็มีซีรีย์น่ะเรื่องโฮ้งๆๆ แต่จะรออ่านของ dawlong ก่อนน่ะ 55555555 เล่าอีกน่ะ จะมาตีตั๋วอ่านน่ะ
     
  5. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649
    คุนดาวเขียนดี้ดียีงกะมืออาชีพเบยจร้า
     
  6. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    ขอบคุณคุณป้าชมมากค่ะที่แวะเข้ามา เรื่องใกล้จบแล้วค่ะ (ที่พอจำได้นะคะ) โฮ่งๆของคุณป้าคงมีเรื่องราวน่าประทับใจพอๆกัน อย่างไรเสียจะรอติดตามอ่านนะคะ
    ปล.อย่างว่าแหละค่ะ เลี้ยงแล้วก็รัก เกิดความผูกพันธ์ อยากให้เขาได้ดีมีความสุข ^=^
     
  7. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    ช่วยเลี้ยงบรรดาลูกๆของมันได้เพียงเดือนกว่าๆ ดิฉันก็ต้องระเห็ดไปทำงานต่างจังหวัด เรื่องทั้งหมดเลยต้องฝากแม่ไว้อีกเช่นเคย ดิฉันไม่ได้กลับบ้านสี่เดือนกว่า พอกลับมาตกใจแทบแย่ เพราะหมาตัวนั้นร่างกายทรุดโทรมมาก จากที่ดูสง่างามแบบเพียวลม กลายเป็นผอมแห้งแรงน้อย ผิดกับลูกๆของมัน ที่อ้วนท้วนสมบูรณ์จนน่าโมโห งวดนี้ดิฉันกลับมาพักแค่สามวัน จึงมีเวลาดูพฤติกรรมแต่ละตัว จึงพอรู้สาเหตุที่ทำให้มันผอมเหลือแต่ซีกโครง คือมันไม่ค่อยกินอะไร เพราะมันคงจะยอมให้ลูกๆมันกินจนอิ่มก่อน แต่ดิฉันว่า มันยอมเกินไป ไอ้ที่ให้ลูกๆมันก็น่าจะเพียงพอแล้ว ไหงจึงต้องมากินส่วนของมันด้วย ....
    เวร!...ดูไปดูมาก็ไอ้ตัวขาวแหละคะ กินไม่บันยะบันยัง กินชามตัวเองไม่พอ ยังมาแย่งแม่กินอีก เผลอพานไปแย่งน้องกินด้วย ดู..ดูมันซิ มันจะกินอะไรขนาดนั้น...
    จนมีอยู่วัน ดิฉันทนไม่ไหว เลยลุกไปตีมันป้าดเข้าให้หนึ่งที แต่ไอ้ตัวขาวมันไม่สนใจ ยังคงพยายามตะเกียกตะกาย ย้ายตัวเองไปกินชามแม่มัน ดิฉันเดือดใหญ่ มองชามมัน ข้าวยังมีอยู่เลย สรุปไอ้นี่หัวใส กินของคนอื่นก่อน ของตัวเองไม่กิน แม่มันก็ยอมให้ซะด้วยซิ...
    ผ่านไปหนึ่งปีได้ ดูเหมือนว่าไอ้ขาวนี่จะใหญ่สุดในกลุ่ม แม้แต่แม่มัน มันยังข่ม ดิฉันเลยแตะมันเพราะหมั่นไส้ไปที แต่เท่าที่ดูนิสัย ยิ่งดิฉันแสดงว่ารักตัวอื่นมากกว่ามัน มันยิ่งกีดกันตัวอื่น ให้อะไรกิน มันฟาดเรียบ จะว่าตระกะก็ได้ไม่ว่ากัน และเพราะกินทุกอย่าง หวงไม่แบ่งตัวอื่น มันเลยตัวสูงใหญ่มาก (แต่นิสัยนี่ เก่งในบ้าน ข้างนอกขี้ขลาด อยากจะขำ)555 ตัวน้อง(ดิฉันเอ็นดูมาก )เก่งเรื่องการเอาตัวรอด ...เรื่องนี้ปรากฎให้เห็นเมื่อมันไปเจอศึกนอกบ้าน(ฟัดกับตัวอื่นได้อย่างไม่เกรงกลัว)...ตัวน้องเป็นหญิง ตัวเล็กถอดแบบแม่มาแปะ แต่เพราะนิสัยไม่กลัวคน เที่ยววิ่งไล่ เลยถูกคนรอบข้างรังเกียจ ดิฉันพอเข้าใจว่าทำไมมันถึงมีนิสัยแบบนี้ เลยเอ็นดูมันเป็นพิเศษ พยายามให้มันรู้สึกว่า อย่างน้อยก็มีดิฉันรักมันนะ แต่อย่างว่า มันก็ถูกตัวพี่กีดกันอีก เวลาจะเล่นกับมันแต่ละที ตัวพี่วิ่งมาแทรกตลอด หลังๆเลย มือซ้ายลูบหัวตัวพี่ มือขวาหัวตัวน้อง แต่ถ้าวันใดเอามันเข้าบ้าน ปิดประตูไม่ให้ตัวพี่ตามเข้ามา ตัวน้องก็ทำใหญ่ ทำมาเป็นเห่าขู่ตัวพี่ 555 เป็นงี้ประจำ ...
    ตั่งแต่ที่ลูกมันเกิด แม่มันก็ไม่ค่อยเดินมาหาดิฉัน คงเห็นลูกๆของมันแล้ว เลยถอดใจไปหาที่นอนมุมสงบๆดีกว่า ก็จะมีแต่ดิฉันเนี่ยแหละต้องเดินลุกไปหามัน แอบเอาขนมไปให้ เพราะถ้าตัวขาวเห็น แม่มันคงไม่ได้กิน.
    จำได้ว่ามีอยู่ครั้งนึง ที่ดิฉันแม่ไปตลาด และมีตัวแม่มันติดตามไปด้วย วันนั้นสายแล้ว แม่ลงไปเดินตลาด มีดิฉันและมันรออยู่ที่รถสามล้อ อยู่ๆมีผู้ชายวัยห้าหกสิบ ปั่นจักรยานผ่านไป แล้วจู่ๆก็วนรถกลับมา ผู้คนเดินผ่านกันไปมา ไม่มีใครสนใจใคร อยู่ๆลุงคนนี้ก็มาจอดรถทำฟอร์มถามเรื่องโน้นเรื่องนี้ ดิฉันก็ตอบเท่าที่ตอบได้ หมาของดิฉันนั่งจ้องเงียบกริบ แล้วจู่ๆตาลุงคนนี้ก็พูดจาทำนองจะให้เราไปมีอะไรกับเขา พร้อมยกตัวอย่างรายที่พึ่งผ่านมา และเริ่มก้าวเท้าเข้ามาใกล้มากขึ้น พูดจาลามกมากๆ ตอนนั้นดิฉันนึกไม่ออกว่ารู้สึกยังไง มันอาจกำลังอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน ตาลุงนั้นเหมือนจะล้วงอะไรออกจากกระเป๋ากางเกง พยายามพูดให้ดิฉันยื่นมือออกไปรับ ดิฉันเฉย... แต่อีกมือดิฉันตบเข้ากับคอหมาดิฉันเบาๆ มันคงรู้ จึงเห่าออกมาเสียงดังมาก เห่าแบบถ้าก้าวเข้ามาอีกก้าวได้กระโจนกัดแน่ (แต่หมาดิฉันไม่เคยกัดใครนะคะ) ตาลุงคนนั้นรีบบอกให้ดิฉันบอกหมาให้หยุดเห่า ดิฉันก็เฉย ไม่พูดไม่จา ทีนี้พอเห่านานเข้าคนเริ่มมอง ตาลุงคนนั้นก็คงเห็น เขาก็เลยเดินไปที่จักรยานและก็จากไป...พอไป หมาก็หยุดเห่า แม่มาดิฉันก็เล่าให้แม่ฟัง และก็พอคาดเดาได้ว่าไม่ใช่คนในหมู่บ้านแน่...อันนี้ก็ความดีของมันอีกเรื่องนึง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 สิงหาคม 2014
  8. ชะมะนาด

    ชะมะนาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,384
    ค่าพลัง:
    +1,778
    เลี้ยงหมาไทย ต้องตัวเมียเท่านั้น มันจะรักบ้าน รักเจ้านายทุกคน ไม่เหมือน ตัวผู้ แม่ง เจ้าชู้ประดิน พอเริ่มโต หาเรื่องหายแว่บๆ แถมไม่ค่อยรักบ้านน่ะ เท่าที่เลี้ยงหมามา ป้ามีตัวเมียตัวหนึ่ง มันมาเอง เป็นหมาไทย ชื่อ โอวชุ่ย (แปลว่า ปากดำ) ตัวสีน้ำตาล ปากดำปิ๊ดปี๊ แถมลิ้นก็ดำ เวลาแขกมาบ้าน มันจะเห่าจนคนในบ้านออกมา แล้วมันก็เดินไปนอนเฝ้าที่ประจำ....ไว้มาเล่าน่ะ คิดถึงมันจัง
     
  9. เซียน๖วิถี

    เซียน๖วิถี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +49
    บ้านผมตัวเมียเห็นเอาแต่นอน ตัวผู้ก็ดูโหดเกิน กระโจนใส่ทีนี่แทบกระเด็น
     
  10. mai261

    mai261 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +508
    เรื่องราวคุณ dawlong สนุกมากค่ะ ว่างๆมาพิมอีกนะคะ (f)
     
  11. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    และแล้วก็มาถึงวันสิ้นชีวิตของมัน... ก่อนหน้านั้นประมาณสามวัน ดิฉันได้กลับไปที่บ้าน ในวันที่กลับได้มีการให้บริการฉีดยาแก้พิษสุนัขบ้าฟรี โดยเทศบาล...ดิฉันก็พาพวกมันทั้งสามตัวไปฉีดยา ซึ่งตัวแม่มันฉีดยาง่าย เพราะคุ้นเคยกับการฉีดเกือบประจำทุกปี พอฉีดเสร็จ อีกวันดิฉันก็เดินทางกลับมาทำงาน ก็เห็นมันดูปกติดีทุกอย่าง แต่ก็เหมือนเดิม คือผอม เหมือนไม่ค่อยแข็งแรง ซึ่งนั่น...ดิฉันคิดว่ามันเป็นเพราะอายุที่มากของมันนั่นเอง ซึ่งแน่นอน...ดิฉันได้เตรียมทำใจมานานหลายปีแล้ว และยิ่งหลังมันมาคลอดลูกด้วยแล้ว ก็ยิ่งมั่นใจว่าเวลาของมันคงใกล้เข้ามา ในคืนที่สองหลังจากกลับมาจากบ้าน วันนั้นนึกยังไงไม่รู้ สวดมนต์ไหว้พระเสร็จ ก็นึกถึงมัน เลยแผ่เมตตาให้มันโดยเฉพาะ และก็พานนอนคิดถึงมันนึกไปเรื่อยเปื่อย และพอสรุปได้ว่า ถ้ามันเป็นอะไรไป มันคงได้ไปอยู่ที่ดีๆ ...และดิฉันก็อยากให้เป็นเช่นนั้น...
    พอผ่านไปอีกวัน ตอนเย็นๆ ดิฉันโทรศัพท์ไปหาแม่ ตั่งใจโทรไปหาธรรมดา แต่คำตอบที่ได้รับ คือมันตายแล้ว ตอนเช้า...
    แม่บอกว่า หลังจากที่พามันไปฉีดยา พอดิฉันกลับไป มันมีอาการเลือดออกที่ก้น ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะอะไร รึว่ามันจะท้องอีก แล้วพาไปฉีดยาเลยแท้งรึเปล่า อันนี้ดิฉันคิดเองนะคะ ซึ่งความจริงเป็นเช่นไรไม่ทราบ แต่คนแถวนั้นพูดประมาณว่า เพราะมันแก่มากๆ พอพามันไปฉีดยา ร่างกายเลยรับไม่ได้ มันตายตอนเช้าประมาณหกโมง นอนตายอยู่หน้าประตูบ้าน ตรงทางเดินเข้าออก ซึ่งแม่ก็ยังบอกต่อไปว่า คืนก่อนมันตาย แม่เห็นมันนอนตรงนี้ตามปกติ(คือมันชอบมานอนหน้าประตู) เช้ามาประมาณเกือบหกโมง พ่อจะไปตลาด พอเปิดประตูมาเห็นมันนอนขวาง เลยเรียกให้มันลุก แต่เห็นว่ามันยังหลับไม่ยอมตื่น เลยเดินข้ามมันไป กลับมาก็ยังเห็นนอน เลยไม่ได้สนใจ จนเจ็ดโมงแม่เลยมาเรียกมัน สะกิดมัน เห็นมันผิดปกติ เลยจับดู ปรากฏว่าตัวยังอุ่น แต่เรียกไม่ได้ยินแล้ว ก็รออีกครึ่งชั่วโมง ก็ยังนิ่งเงียบ แม่กลับพ่อเลยเอามันไปฝัง แต่แม่ไม่โทรบอกดิฉัน เพราะกลัวว่าดิฉันจะเสียใจ จนดิฉันโทรไปเย็นนั้นจึงยอมบอก..ToT
    เรื่องของมันก็จบลงด้วยประการฉะนี้ ...ดิฉันทำได้ก็เพียงทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้มัน ทั้งบุญใหญ่บุญเล็กก็ลงชื่อมันร่วมด้วย หวังว่ามันจะได้รับอนิสงท์นี้เพื่อให้ได้ไปที่ดีๆ มีบางท่านว่า ด้วยอุปนิสัยหมาประเภทนี้ คงได้ไปที่ดีๆแน่นอน ดิฉันเคยฝันเห็นมันสองครั้ง ครั้งแรกมันวิ่งมาหยุดมองดิฉัน และก็วิ่งจากไป ลักษณะมันดูสง่างาม เหมือนสมัยสาวๆ ส่วนครั้งที่สอง มันนอนอยู่กลางถนน สภาพผอมแห้งเหมือนก่อนตาย ดิฉันผ่านมาเห็นเลยอุ้มมันขึ้นมา เพื่อจะเอามันกลับบ้าน...(คิดแล้วน้ำตาจะไหล..) โดยรวมๆแล้วมันอยู่กับดิฉัน เกือบๆ ยี่สิบกว่าปี ซึ่งนับว่าเป็นอายุที่นานมากสำหรับสุนัขตัวนึง)จึงขอจบเรื่องหมาของฉันแค่นี้ค่ะ
    ปล.หวังว่ามันคงได้อยู่ในที่ที่ดี หากได้เกิดก็ขอให้ได้เกิดเป็นคน เพื่อได้มีโอกาสสร้างบุญกุศลต่อไปนะ...(ดำ)
    ปล.1รออ่านโฮ่งๆ ของคุณป้าชมต่อนะคะ ขอบคุณค่ะ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 สิงหาคม 2014
  12. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    หายไปนานเลยนะ...น้องใหม่
     
  13. mai261

    mai261 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +508
    ไม่ได้หายไปไหนหนิค่ะ คุณ dawlong สบายดีนะคะ
     
  14. jibakunmk2

    jibakunmk2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +146
    ความจำสั้น แต่ความรักนั้นยาว เหมือนกัน ครับ เวลาสัตว์เลี้ยงของเราจากเราไป
    ผมจะนั่งซึมทั้งวัน นั่งคิดถึง เวลา เขามาขอข้าว เวลาเขามารอเรากลับบ้าน
    แต่ไม่มีงานเลี้ยงใด ไม่เลิกรา สักวันเราคงได้พบกันอีก
    :boo:
     
  15. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    วันนี้มีความประทับใจแบบคิดไปเองมาเล่าให้ฟังเรื่องนึงค่ะ คือพอดีเปิดร้านขายของอยู่ ทีนี้ตรงนี้จะมีหมาตัวหนึ่งสีน้ำตาลเพศเมีย เป็นของร้านช่างทำประตูอลูมิเนียม หมาตัวนี้ชื่อแมม แรกๆที่ดิฉันมาดูห้อง มันก็เห่าตามประสาพบคนแปลกหน้า อยู่ต่อมามันก็ค่อนข้างจะติดหน้าร้านดิฉัน คือมันจะมานอนตรงกระถางต้นไม้ที่ดิฉันซื้อไว้ประดับหน้าร้าน เพราะมันจะคอยอาศัยกินน้ำในกระถางบัว ประกอบกับดิฉันสังเกตุเห็นว่ามันผอม แบบไม่ค่อยได้กินอะไร เลยซื้อนู่นนี่ให้กิน เลยยิ่งทำให้มันนอนแบบไม่ไปไหนจนกว่าแดดจะสาดรึดิฉันปิดร้านแล้ว วันนี้ดิฉันซื้อกระดูกไก่ให้มันกิน และก็เหมือนเดิม กินเสร็จก็มานอนที่ประจำ ตรงกระถางต้นไม้ข้างๆร้าน พอดีดิฉันมีธุระจะไปข้างนอกแป๊ปนึง จึงไม่ล๊อกร้าน แต่แกล้งพูดกับมันว่า เฝ้าร้านด้วยนะเดียวมา แป๊ปนึง ดิฉันก็ขี่มอร์เตอร์ไซด์ออกไป พอกลับมา รู้สึกดี เห็นมันย้ายตัวเองมานอนเฝ้าหน้าประตูเข้าร้านเลยค่ะ ไม่รู้เพราะบังเอิญหรือมันเข้าใจที่เราพูด แต่ก็รู้สึกดี พอดิฉันเข้าร้าน มันก็ย้ายตัวเองไปนอนที่เดิม คนส่งของก็แปลกใจกับมันเหมือนกัน ว่าตอนที่เขามาส่งของ ดิฉันไม่อยู่ร้านแต่ก็ล๊อคประตูไว้ คนส่งของยืนรอดิฉัน เขาเล่าว่ามันยืนเห่าไม่ไปไหนเลยค่ะ ยืนขวางหน้าร้านเลย พอดิฉันมามันก็หยุดเห่า แต่ก็มองๆ พออีกอาทิตย์ เขามาส่งของอีก ดิฉันนั่งอยู่ในร้าน เขาเดินมา มันเฉยเลยงะ จนคนส่งของทักกับดิฉันว่า ทำไมมางวดนี้มันไม่เห่า แล้วเขาก็เล่าเหตุการณ์อาทิตย์ที่แล้วให้ฟัง สังเกตุจากพฤติกรรของมัน (คือดิฉันว่างไม่รู้จะทำอะไร)เห็นว่ามันจะเห่าเฉพาะคนท่าทางแปลกๆ เช่นแต่งตัวสกปรก สูบบุหรี่ กินเหล้า และลูกค้าที่จะเข้าร้านเวลาดิฉันไม่อยู่ แต่ถ้าอยู่จะไม่เห่าค่ะ เมื่อวานซืนดิฉันเหลือบไปเห็น ผู้ชายทำลับๆล่อ เหมือนจะเข้ามาในร้าน(คือเดินผ่านไปแล้ว แล้วย้อนมา) แต่พอเขาเห็นหมา เขาไม่กล้าเดินมาที่ประตู และรีบเดินต่อไปเลย (คือหมายืนเตรีนมเห่าแล้ว)ซึ่งพฤติกรรมของเขาจะผิดกับลูกค้าที่จะมาที่ร้านจริงๆ จนสังเกตุได้ (ลูกค้ามาร้านไม่เคยสนใจหมา มาถึงก็เดินๆเข้าร้านเลย บางคนเดินข้ามหมาด้วยซ้ำ มันก็เฉยไม่สนใจ อย่างมากหลังจากลูกค้าถอดรองเท้าก็ดมๆเป็นพิธีเสียหน่อย ก่อนมองเข้ามาในร้านว่ามีคนอยู่ปะ) จบค่ะกับความประทับใจอีกหนึ่งตัว...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 กันยายน 2014

แชร์หน้านี้

Loading...