หรือว่า การทดลอง Cern คือทดลองเครื่อง haarp ชนิดหนึ่งที่แอบซ่อนเอาไว้?

ภัยพิบัติต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2012 เรามาลองไล่กันดูดีๆ ว่ามีอะไรที่พอจะำทำให้เกิดได้ ก็จากฝีมือมนุษย์ เช่นเครื่อง haarp (ที่คาดว่าจะใช้ก่อภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ ) ยังมีการทดลอง cern ที่เลื่อนไปเืลื่อนมา เลื่อนแล้วเลื่อนอีก
การทดลองการชนกันของอานุภาคเล็กๆ แต่ใ้ช้ ห้องทดลองใหญ่ขนาด เมืองนึงเลย และมีความหวั่นเกรงกันว่า หากผิดพลาดจะเกิดหลุมดำ

ผมว่า มันก็มีส่วนนะครับ ไม่แน่ว่า cern ที่เค้าจะทดลองบ้าบอ เพื่อให้รู้เรื่องกำเนิด บิ๊กแบง ไปเพื่ออะไรไม่ทราบ ต้องลงทุนมหาศาลขนาดนั้น เป็นโครงการใหญ่ ข้ามปี แล้วเลื่อนไปเลื่อนมา ผมว่าแท้จริงแล้ว อาจจะเป็นเครื่อง haarp บังหน้า ก็ได้ หรือไม่ หายนะ ของโลกอาจจะมาจากเครื่องนี้ก็เป็นไปได้ เพราะ การทดลอง ในปี สองปีข้างหน้า อาจจะเกิดการผิดพลาด เป็นหลุมดำขึ้นมา หรือไม่ก็ พลิกแกนโลกเลยทีเดียว

ว่าไม๊ครับ

ทดลองแล้วได้อะไร ทำไมต้องลงทุนขนาดนี้
แสดงว่ามันต้องมีอะไรแอบซ่อนอยู่แน่ๆเลย

 

โอ้ HAARP นี่ความรู้ใหม่ของผมเลยนะครับเนี่ย
ส่วนเรื่องความเกี่ยวพันของ CERN และ HAARP เท่าที่ผมดูแล้ว HAARP กับ เครื่อง LHC ของเซิร์นเป็นคนละชนิดกัน แต่ผู้สนับสนุนและครอบครองเป็นคนเดียวกัน เครื่อง LHC จะไม่สามารถสร้างหลุมดำได้ไม่ต้องห่วง แต่เครื่องนี้มันจะเป็นเครื่องที่ใช้แง้มดูมิติอื่นนั่นเอง หรือพูดง่ายๆว่ามันคือเครื่องเปิดประตูมิติต่างหาก ซึ่งเป็นการทดลองอย่างลับๆ ข้อมูลสำคัญๆแทบทั้งหมดเค้าจะไม่เปิดเผยให้สาธารณชนรู้อย่างเด็ดขาด ยกเว้นเรื่องความคืบหน้าในการเดินเครื่องและข้อมูลที่ไม่สลักสำคัญอะไรสำหรับพวกเค้าอีกนิดหน่อย ที่เตรียมไว้บอกพวกเรา แต่นั่นก็เพียงพอที่จะเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับนักวิทยาศาสจร์ที่อยู่นอกเหนือจากโครงการนี้และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการเท่านั้นเอง จุดสำคัญคือ สิ่งที่จะตามมาหากสิ่งมีชีวิตในมิติอื่นก้าวข้ามผ่านประตูมิติเข้ามาเพ่นพ่านยั้วเยี้ยเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่า เราไม่สามารถทราบถึงรูปลักษณ์และการดำดงชีวิตของพวกสิ่งมีชีวิตจากต่างมิติเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งมิติที่เราอยู่เป็นแบบ 4มิติ ถ้าหากพวกที่มีมีติมากกว่าเราหลุดเข้ามาในมิติที่น้อยกว่า อะไรจะเกิดขึ้น มันอาจจะเป็นพลังงานที่มีชีวิตล่องลอยไปมาก็เป็นได้ แน่นอนว่าฆ่าไม่ตาย จนกว่าพลังงานในตัวมันจะหมด และหากคิดว่ามันสามารถกระชากวิญญาณของพวกเราออกจากร่างได้เพียงแค่พากันลอยผ่านร่างกายของเราแล้วล่ะก็ มันคือหายนะของโลกใบนี้เลยทีเดียว!! ซึ่งมันอาจจะเป็นอะไรที่เลวร้ายกว่าที่คาดคิดไว้นี้ก็เป็นได้ และจากการรีโมต วีวอิ้งของผม เห็นได้ชัดว่า CERN เป็นโปรเจ็คต์ของพวกที่เป็นเจ้าของ HAARP ณ จุดที่เป็นประตูมิติ ซึ่งกินพื้นที่อาณาบริเวณหลายสิบกิโลเมตร จะมีทหารของ UN ประจำการอยู่ตลอดแนวกว่าหลายพันนายเลยทีเดียว!!
รีโมต วีวอิ้งของผม ผมเห็นว่าอีกไม่นานจะมีพวกมนุษย์ตัวใหญ่มีเขาที่หัวและมีปีกพากันออกมาจากช่องว่างมิติแห่งนั้นเต็มไปหมด!!

 

นั่นละครับ ความลับที่แอบซ่อนไว้ที่ไม่ยอมบอกหมดนี่น่ากลัวนะว่าพวกนั้นจะทำอะไรกับโลกของเราขนาดนี้ อ้างว่าทดลองดูนั่นดูนี่ แต่ลองมาดูสิ ว่า ทดลองแล้วจะได้อะไร ทำให้โลกก้าวหน้าขึ้นหรือปล่าวกับผลทดลอง หรือว่า เป็นการทดลองบังหน้า เพื่อทำอะไรซักอย่างนึง ถึงได้ใช้ ระบบ ขนาดนั้น มันโอเวอร์เกินไปมั้ย

ถ้ายิ่งเป็นเจ้าของเดียวกับ haarp ยิ่งน่ากลัวใหญ่เลยครับ คงลิ้งก์กันแน่นอน
เรื่องเิปิดประตูมิติ ก็คงเป็นอีกเหตุผลนึงที่เค้าต้องการทดสอบ แต่ผลจะเป้นอย่างไรนั้น
ก็คงไม่นานเกินรอ

 

ตัวแดงข้างบน สุดยอด เห็นตรงกันครับ แค่แสงวิ่งผ่านเราก็กระชากวิญญาณเราออกจากร่างได้แล้ว
ช่วยใช้รีโมทวิ้วอีกที โฟกัสดาวเนบิรุส ตรงกันใหม

ดาวเนบิรุส ลักษณะเป็นดาวเหมือนโลก แต่มีพื้นดินเพียง 2 กลุ่มใหญ่ คือ
ขั้วเหนือ1 และขั้วใต้อีก 1 ตรงกลางเป็นแผ่นน้ำทั้งหมด จึงทำให้มีพลังงาน
แม่เหล็กแรงสูงมากๆ เวลาเรามองรอบนอกเลยเห็นเหมือนมีปีกสองข้าง

ชาวเนบิรุส ไม่มีผม ร่างกายคล้ายมนุษย์ แต่เป็นจุดกระแดงๆบนผิว
อาหารวันนั้นเห็นกินกัน เขาเรียกว่า "อูนมุล" เป็นเหมือนก้อนแป้งหยุ่นๆสีขาว
แต่ไม่ใช่แป้งแน่เป็นเหมือนเจลมากกว่า

วิ้วอีกทีคับ ดาวเนบิรุสหาไม่ยาก

 

<object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/w-kiNw7Btnk&amp;hl=en_US&amp;fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/w-kiNw7Btnk&amp;hl=en_US&amp;fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>

 

ตัว "รีโมต วีวอิ้ง" นี่มันคืออะไรครับ


ปล. ข้อความของท่าน echonight สุดยอดมากยอมรับเลย

 

ถามเองตอบเองเลยแล้วกัน พอดีเจอกระทู้ ขอตามไปอ่านก่อน

Remote Viewing และการฝึกพลังจิตขั้นพื้นฐาน

 

แปลว่าไรอะเพลงนี้ เห็นมีวัดไทยด้วย

 

...ลองสันนิษฐานเล่น ๆ นอกเหนือจากมุมมองของคุณ crazybmw และ echonight

คือ เท่าที่ได้อ่านจากหนังสือวิทยาศาสตร์หลายเล่มพบว่า โครงการ Cern หรือ เครื่อง LHC นี่เป็นอภิมหาโครงการหลายหมื่นล้าน US เรียกว่าประเทศมหาอำนาจทางตะวันตกต่างลงขันกันเพื่อสร้างไอ้เครื่องที่ว่านี้... แปลกมั๊ยครับ เห็นแก่ตัวกันขนาดนั้นแต่ทำไมจู่ ๆ เกิดลงขันกันทุ่มเงินให้ ไม่รู้ว่าเงินก้อนนี้ผ่านรัฐสภาประเทศเหล่านี้ได้อย่างไร เพราะหากพิจารณาถึงผลตอบแทนที่เป็นตัวเงินแล้ว มันเรียกว่าเหมือนกับการแทงหวย เพราะว่า

1.การทดลองยิงอนุภาคโปรตอนให้ชนกันด้วยความเร็วเกือบเท่าแสงนั้นนักฟิสิกซ์ ต่างตั้งสันนิษฐานว่าจะเกิดเหตุการณ์ นู่น นี่ นั่น ว่ากันไป แต่ไม่มีใครสามารถรับประกันได้จริง ๆ ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่จะสามารถนำไปต่อยอดความรู้ทางฟิสิกซ์อย่างที่เขาว่ากันได้ 100%
แล้วจะสภาของประเทศผู้ร่วมลงขันไฉน เกิดใจป้ำ ถมเงินให้เป็นหมื่น ๆ ล้าน โดยที่ไม่ได้คิดถึงความเสี่ยงกันเลยหรือ ... แล้วแถมมาใจป้ำพร้อม ๆ กันซะอีก บังเอิญเกินไปป่าว

2. กรณีที่เข้าใจว่าโครงการนี้จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ที่เป็นตัวเงินกลับมามหาศาล ต้องถามกลับครับว่าไอ้เครื่อง LHC เนี่ยใครเป็นเจ้าของครับ ในเมื่อเจ้าของมันมีหลายประเทศ ดังนั้น ผลการทดลองที่ได้ออกมาจากเครื่อง LHC เนี่ย มันก็ไม่กลายเป็นความลับ เพราะทุกประเทศที่ร่วมลงขันก็จะได้รับผลเหมือน ๆ กันเท่า ๆ กัน จะเอาความรู้เหล่านั้นมาผลิตอะไรซักอย่าง ประเทศอื่น ๆ เขาก็รู้เท่ากันแล้วก็ผลิตออกมาแข่ง ราคาก็ล่วง ... โครงการนี้จึงไม่น่าจะมีผลตอบแทนที่เป็นตัวเงินเป็นกอบเป็นกำ ... แล้วสภาของประเทศผู้ร่วมลงขันไฉน เกิดใจป้ำ ถมเงินให้เป็นหมื่น ๆ ล้าน โดยที่ไม่ได้คิดถึงความเสี่ยงกันเลยหรือ ... แล้วแถมมาใจป้ำพร้อม ๆ กันซะอีก บังเอิญเกินไปป่าว

แต่... พอลองเปิดหูเปิดตาอ่านข้อมูลต่าง ๆ ว่าไอ้เครื่อง LHC เนี่ยมันทำอะไร เลยเริ่มสะกิดใจจนเริ่มเห็นภาพ ลองค่อย ๆ ตามนะครับ

1) เครือ่ง LHC จะยิงอนุภาคแล้ว ใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าผลักดันอนุภาคนั้น ๆ จนความเร็วใกล้แสงแล้วให้มันชนกัน..... สมมตินะครับ ถ้าประเด็นไม่ใช่การชนกันของอนุภาคล่ะ ถ้าประเด็นจริง ๆ มันคือ การเครื่องสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเทียมขนาดใหญ่ล่ะ แน่นอนครับ สนามแม่เหล็กไฟฟ้าขนาดที่สามารถขับอนุภาคให้มีความเร็วเกือบเท่าแสงได้ต้องเป็นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่เข้มข้นมาก เท่าที่อ่านมาเขาบอกว่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเทียมที่เกิดจากการเดินเครื่อง LHC นั้นมากกว่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่คลุมโลกทั้งโลกได้เสียอีก ซึ่งถ้าหากมีการดัดแปลงเครื่องเพื่อสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเทียมกระจายสนามแม่เหล็กเทียมออกไปเพื่อทำให้มันมีความเข้มข้นน้อยลงจนเท่ากับความเข้มข้นของแม่เหล็กโลกตามธรรมชาติ และยังสามารถครอบคลุมพื้นที่จำนวนมากได้อีกด้วย

2) ตามข้อมูลปี 2012 ที่หลาย ๆ ท่านได้รับข้อมูลมานั้น คงได้รับข้อมูลเรื่อง

- CME (Coronal Mass Ejection) พายุสุริยะครั้งมโหฬารในปี 2012 - ซึ่งหมายความว่า ดวงอาทิตย์จะระเบิดอนุภาคออกมาด้วยความรุนแรง

- ภาวะขั้วโลกพลิกกลับ ซึ่งจะทำให้สนามแม่เหล็กโลกที่คอยปกป้องโลกจะอนุภาค และความร้อนแรงของดวงอาทิตย์หมดไป

ซึ่งภาวะที่โลกปราศจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นอันตรายกับสิ่งมีชีวิตขนาด ทั้งทางตรง และทางอ้อม คือเราจะไม่มีสนามแม่เหล็กที่ช่วยลดทอนพลังงานจากดวงอาทิตย์ที่ส่งมาถึงโลก ซึ่งความร้อนที่ดวงอาทิตย์ส่งมาเท่าไหร่เราก็รับไปเต็ม ๆ ผลคือเราจะแห้งตายกลายเป็นปลาหมึกแห้งกันไป แต่ถ้าเรารอดหลังจากนั้นเราก็จะตายด้วยโรคมะเร็งผิวหนัง มะเร็งเม็ดเลือด เพราะผิวหนังมนุษย์ที่ต้องรับพลังงานขนาดนั้นจะทำให้เซลล์ผิวตายไม่ทันเกิด ตายไปถึงขั้ว (นิวเคลียส) แถมยังอนุภาคที่เกิดจาก CME ยังทะลุชั้นผิวหนังเข้าไปถึงไขกระดูกสันหลัง(ทำหน้าที่สร้างเม็ดเลือด) พลอย Strike ไม่ทำงานกันไปซะหมด

มาถึงตอนนี้ทุกท่านคงเดาได้แล้วครับ ว่าถ้าจุดประสงค์การสร้างเครื่อง LHC เพื่อยิงอนุภาคนั้นกลายเป็นเรื่อง โอละพ่อ แหกตาประชาชีล้วน ๆ เพื่อปกปิดวัตถุประสงค์จริง ๆ ของมันเองว่าเป็นเครื่องสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเทียมเพื่อป้องกันตัวเองในปี 2012 จาก CME และ ภาวะขั้วแม่เหล็กโลกพลิกกลับ

3) เครื่อง LHC ที่ว่าเนี่ย ตั้งอยู่ระหว่างชายแดนฝรั่งเศสและสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งอยู่ใจกลางทวีปยุโรป และมีลักษณะเป็นวงกลมที่ครอบคลุมพื้นที่จำนวนมาก ซึ่งถ้าหากมีการดัดแปลงเพื่อให้มีการกระจายสนามแม่เหล็กเทียมออกเพื่อคลุมพื้นที่ ให้มากที่สุด ประเทศในแถบยุโรปส่วนใหญ่ก็จะมีสนามพลังแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นของตัวเองในปี 2012 ละ



รบกวนเพื่อน ๆ ที่มีญาติอยู่ที่ ฝรั่งเศส หรือ สวิสเซอร์แลนด์ด้วยครับ ว่าแถวนั้นเป็นงัยบ้างเจอ ภัยธรรมชาติ เหมือนชาวโลกที่อื่นหรือเปล่า และมีสำนักงานของประเทศใหญ่ ๆ ได้ไปอพยพตั้งที่ CERN กันบ้างป่าว...


(P.S. ... ว่าแล้วไปหาซื้อไม้บรรทัดกับกางเกงผ้าไหมมา สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าสถิตย์เองมั่งดีก่า อยากมีมั่ง ...555 ToT)

 

ขออนุญาติแสดงความคิดเห็นนะครับ แสดงว่า เรากำลังตกที่นั่งลำบากใช่ไหมครับ หากพวกยุโรบรวมหัวกันสร้างเกราะป้องกันรังสี แต่ในอีกมุมมองนึง ยังไงซะ พวกนั้นก็ไม่น่าจะรอด "กฎแห่งกรรม" ดังนั้น lhc มันคงช่วยได้เฉพาะคนบางกลุ่มที่ดีจริงๆ และ คนไทยก็อาจจะรอดตามวิธีกฎแห่งกรรมเช่นกันครับ

 

เซิร์น คือ เทวา ซาตาน

มันเป็นได้ทั้งเทวดา ให้พลังงานสะอาดได้ใช้กันถูกๆ และอย่างอื่นอีกมากกว่านั้น

มันเป็นซาตาน ที่สามารถทำลายล้างได้ทุกอย่าง อนุภาพ มหาศาล

ชื่อหนังก็บอกอยู่แล้วครับ

เซิร์น ไม่ใช้แค่อุโมงทดลองเล็ก แต่มันคือเมืองใต้ดิน ขนาดใหญ่หมาศาล ปลูกข้าว อาหารกินเอง มีรถไฟฟ้าวิ่งในนั้น มีที่พักอาศัย มีอาวุธ เรือรบ จอดในน้ำ

หนัง ไม่ใช้แค่หนัง

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=SOM7f6s37no"]YouTube - Angels and Demons fan video[/ame]

 

หนัง ไม่ใช้ แค่ หนัง

[VDO]http://palungjit.org/attachments/a.1043610/[/VDO]

วีดีโอจากหนังเรื่อง ถอดรหัสวินาศโลก น้ำมันรั่วขนาดนี้ โลก วินาศแน่นอน ปลาตาย สัตว์ตาย แหล่งอาหาร คน สัตว์ ถูกทำลาย

เกมส์ไพ่อีลูมินาติ.......Your Future on the Card !!! 15

 

we are living in amerika

หมายความว่า เราทุกคนตอนนี้ อยู่ในอเมริกา ทั้งโลกนี้ ตกอยู่ภายใต้ อิทธิพลของอเมริกา เค้าจะยัดเยียดทุกอย่างที่เป็นอเมริกา ผ่านจอทีวี ผ่านวัฒนธรรม สินค้าต่างๆ เป็นกันทั้งโลก ทุกคนต้องกราบไหว้ อเมริกา ซานตาครอส โคคาโคล่า

 

เรื่องเมือง ใต้ดิน ก็น่าคิดครับ มันต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอน ห้องทดลองขนาดใหญ่ขนาดนั้น เพื่ออะไร เพื่อ อนุภาค เล็กๆเนี่ยนะ ผมว่า บ้องตื้น ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำเกินไปมั้ย มันต้องแอบซ่อนอะไรมากไปกว่านั้น และตอนนี้ก็เร่งวันเร่งคืน ทดลองให้ได้ภายในปีสองปีนี้ มันต้องมีอะไรแน่นอนครับ

 

เจอแล้ว! ชาวมายันในอดีตเคยสร้างเครื่องมือแบบ LHC มาก่อน มีพวกเผ่าพันธุ์ที่มีปีกมีเขาคอยควบคุมอยู่ เพื่อใช้เปิดประตูมิติคล้ายๆ star gate แต่เหมือนว่าในตอนนั้นไม่นาน เครื่องนี้โดนยานบินที่มาพร้อมกับยานขนาดใหญ่ 11 ลำทำลายไป ไม่รู้เหมือนกันเพราะอะไร??

และได้ข่าวว่านี่เป็นความรู้ตกทอดของพระเจ้าโบราณของชาวมายัน

และจากการที่ค้นคว้าในเน็ต ผมก็ไปเจอภาพนี้ โปรดสังเกตุว่าพวกมายันกำลังมองไปที่ท่อ 8 แฉก!!

 

In Mayan belief a serpent rope emerges from the center of the galaxy, symbolized by an 8-rayed or 8-spoked wheel. Cosmic sap oozes from this world tree or cosmic cross

when one thinks of ‘sap’ they’re thinking of a watery liquid nutrient that circulates through the conducting tissues of a plant or tree (that or a person who acts like an idiot). However, when I Go(ogle)d, excuse me, Googled, ‘cosmic sap’ I found that ‘sap’ is also an acronym for ‘sub atomic particle’ (or sap)

Are the Mayans describing a ‘blessed sub atomic particle’ that will appear in 2012, give or take year or two? Is this the same as the God

Even more intriguing is the picture that developed when Mayan scholar John Major Jenkins replaced the Mayan term “serpent rope” with the appropriate modern word “wormhole”. Will Quetzalcoatl return like a time-traveler through a wormhole?

I find it highly interesting that this ‘wormhole’ he is emerging from is an 8-rayed symbol (the galaxy) that precisely matches the 8 rayed or 8-spoked Large Hadron Collider at CERN, the behemoth designed to search for the unseen, unknown God Particle.

Particle?

 

^
^
ใช้กูเกิลแปลภาษาอังกฤษเป็นไทย ได้ความดังนี้

ในความเชื่อมายันเชือกงูปรากฏจากใจกลางของกาแลกซีให้สัญลักษณ์โดยล้อ 8 rayed หรือ 8 - spoked Cosmic ทรัพย์ oozes จากต้นไม้โลกนี้หรือจักรวาลข้าม

เมื่อคิดของ'sap'พวกเขาคิดว่าสารอาหารเหลวเป็นน้ำที่ไหลเวียนผ่านเนื้อเยื่อดำเนินการของพืชหรือต้นไม้ (ที่หรือบุคคลที่ทำหน้าที่เหมือนคนงี่เง่า) แต่เมื่อฉันไป (ทำตาหวาน) d, ขอโทษ, googled'จักรวาล sap'ฉันพบว่า'sap'เป็นตัวย่อของ'sub อนุภาคอะตอม'(หรือทรัพย์)

Mayans อธิบาย sub พร'อนุภาคอะตอม"ที่จะปรากฏในปี 2012 มีให้หรือจะปีหรือสอง? นี้เหมือนกับพระเจ้า

แม้ที่รักภาพที่พัฒนาขึ้นเมื่อนักวิชาการยัน John Major Jenkins แทนคำ Mayan เชือกงู"กับคำสมัยใหม่ที่เหมาะสม"wormhole คือ" กลับจะ Quetzalcoatl เช่นเวลาเดินทางผ่าน wormhole?

ฉันคิดว่ามันน่าสนใจมากว่านี้'wormhole'เขาที่เกิดขึ้นจากเป็นสัญลักษณ์ 8 rayed (กาแล็กซี) ที่แม่นยำตรงกับ 8 rayed หรือ 8 - spoked Large Hadron ธาตุที่ CERN, behemoth ที่ออกแบบเพื่อค้นหา unseen, unknown อนุภาคพระเจ้า
Particle?

 

แสดงว่าโลกเราพัฒนาไปมากกว่าที่เรารับรู้ แต่มี จิ๊กซอ ผมว่าคนที่รู้ก็มีนะแต่เขาไม่บอก ผมว่าคนไทยบางคนอาจจะกำลังต่อจิ๊กซอนี้อยู่ หวังว่าคงมีคนแบบนั้นอยู่ บางอย่่างในโลกกำลังเปลี่ยนทุกคนรู้สึกได้ผมเชื่อ

 

[ame="http://vdo.palungjit.org/video/733270/WEATHER-WARFARE"]WEATHER WARFARE - Buddhist Clips[/ame]

คลิกที่คำว่า [ame="http://vdo.palungjit.org/video/733270/WEATHER-WARFARE"]WEATHER WARFARE - Buddhist Clips[/SIZ"]WEATHER WARFARE - Buddhist Clips[/ame] ครับ
คลิกไปดู เรื่องเครื่อง ฮาบ เลยครับแล้วจะเข้าใจ

 

ตั้งแต่ยุค ไอสไตน์ มาเราเชื่อว่าทุกอย่างในจักรวาลล้วนประกอบไปด้วยสสาร (matter) รวมทั้งไอสไตน์ด้วย แต่พอนับวันไป มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนว่า มันมีอีกอย่างอยู่ด้วย คือ ขอใช้คำว่า"อสสาร" (antimatter) ไม่ได้เรียนมาง่ะ ผิดถูกแนะนำด้วยคร้าบ สสารนั้นมีตัวตนแต่อสสารนั้นไม่มีตัวตน ผี (ในที่สุดเราก็จะศึกษาเรื่องสสารผี)

อสสารตัวนี้สำคัญตรงที่มันสามารถให้พลังงานได้เยอะกว่าสสารมาก (ปริมาณ หนึ่งเหรียญจะให้พลังงานเท่ากับจรวดกระทรวยอวกาศ) และเป็นไปได้ว่าเราจะสามารถเอามันมาได้จากทุกหนทุกแห่ง เหมือนอากาศ แถมนอกโลกก็ยังมี เพียงแต่ต้องรู้วิธี

ต่อมาไอสไตน์ก็เห็นพ้องกับทฤษฎีนี้ แต่ดันซี้แหงแก๋ก่อน อสสารนี้ เป็นการยากมากที่จะทดลอง เพราะมันจะปรากฎอยู่แค่เสี้ยวของเสี้ยววินาทีเท่านั้น มีบางคนทำได้แล้วแต่ไม่บ่อยนัก และยังไม่มีการศึกษาอย่างเป็นจริงเป็นจัง เพราะเราเลยสร้าง CERN ขึ้นมา

คุณสมบัติิอีกอย่างของอสสารคือ เมื่อมันมาโดนคุณตัวคุณก็จะแตกสลายไปเลย แต่ถ้าเราเรียนรู้ที่จะใช้มัน ย้ายสสารละ?? ถ้าการวิจัยสำเร็จ เราจะค้นพบวิธีใช้อสสารทำให้ของหาย และอาจเป็นไปได้ว่าให้มันไปโผล่ที่อื่นก็ได้ แบบ Dragon Ball รวมไปถึงการสร้าง worm whole เอาไว้เดินทางในอวกาศแบบในหนัง Startrek มันจะเปลี่ยนโลกเราไปเลย ทีนี้ ไอ้แบบที่มีได้แบบในหนัง เราก็จะได้ทำกันจริงๆแล้ว

ในประวัติศาสตร์จะมีกลุ่มคนที่ต่อต้านและหวาดกลัวเทคโนโลยีใหม่ๆเสมอ ตั้งแต่ การฉายภาพยนต์ครั้งแรก (วิ่งหนีรถไฟกันวุ่น) y2k แต่สุดท้านมันก็ไม่มีอะไร แถมชีวิตเราก็สะดวกสะบายขึ้นด้วย ต่อไปมีสิ่งตื่นเต้นอีกมากมายที่เราจะได้เห็น อย่าบอกผมนะว่าคุณไม่ชอบ technology เพราะคุณก็กำลังนั่งอ่านผมอยู่ผ่าน technology

ตอนนี้การวิจัยมันก้าวหน้ามาพอสมควรแล้ว พึ่งจับภาพกันไปได้เมื่อวันที่ 19 Nov 10 ที่ผ่านมา แต่ผมหาที่ๆ ตีความอสสารที่เกิดขึ้นยังไม่เจอ

ลองตาม youtube ของ อาจารย์คนนี้ดูนะครับ พูดเข้าใจง่ายมากเกี่ยวกับความเป็นมาของ ฟิสิกส์ สิ่งที่ยังไม่รู้และ อนาคตถ้ารู้

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=FUfXJ1Qszgk]YouTube - E=mc2[/ame]

อันนี้ link รายงานว่าถ่ายภาพเจ้าอสสารตัวนี้ได้แล้ว
Smile! Anti-Matter Finally Isolated and Photographed