หลวงปู่ชอบ เล่าเรื่องพญานาค

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 1 พฤษภาคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    มาณพน้อยผู้มานิมนต์ข้ามโขงครั้งหนึ่ง สมัยท่านออกปฏิบัติใหม่ ๆ เดินรุกขมูลไปอยู่แถวท่าลี่ จังหวัดเลย ท่านรำพึง ตรึกในใจว่า เราได้มาจนถึงที่นี้ ใกล้ฝั่งดินแดนประเทศลาวเต็มทีแล้ว ถ้าหากจะข้ามแม่น้ำโขงไปเที่ยวฝั่งลาว ไม่ทราบว่าจะมีข้อขัดข้องหรืออุปสรรคใดหรือไม่
    ตามปกติพระกรรมฐานเมื่อท่านจะทำอะไร ท่านมักจะต้องเข้าที่พิจารณาความเป็นไปได้ก่อนเสมอ ครั้งนี้ท่านยังมิได้พิจารณาอะไร ด้วยความคิดที่จะข้ามไปฝั่งลาวยังไม่ทันแน่นแฟ้นเท่าไร เพียงแต่คิดผ่านไปเท่านั้น อย่างไรก็ดี คืนนั้นเอง ระหว่างภาวนา ก็เกิดนิมิตเห็นมาณพหนุ่มน้อยผู้หนึ่งมากราบท่านด้วยเบญจางคประดิษฐ์ กล่าวว่า ทราบว่าพระคุณเจ้าปรารถนาจะไปวิเวกที่ฝั่งลาว ปวงข้าน้อยรู้สึกปีติเป็นอย่างยิ่ง จึงใคร่ขอมานิมนต์พระคุณเจ้าไปโปรดบรรดาพวกเรา สัตว์ผู้มีวาสนาน้อยทางดินแดนฝั่งโน้นด้วยเถิด ในนิมิตนั้น ท่านรับนิมนต์เขาด้วยอาการดุษณีภาพ
    รุ่งเช้า ฉันจังหันเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่ก็แต่งบริขารทั้งปวงไปที่ฝั่งแม่น้ำเหียง ซึ่งอยู่ใกล้แม่น้ำโขง เห็นมีเรือลำหนึ่ง วาดเข้ามาจากกลางลำน้ำ มาจอดอยู่ที่ท่า คนเรือก็ตะโกนขึ้นมานิมนต์พระคุณเจ้าให้ขึ้นเรือ ท่านถามว่า เรือจะไปที่ใด ท่านจะไปฝั่งลาว เขาก็บอกว่า ยินดีจะไปส่งให้ท่าน ท่านจึงลงเรือนั้นไป คนเรือมีสีหน้ายิ้มละไม และมีกิริยานอบน้อมต่อท่านอย่างผิดสังเกต เมื่อเรือออกจากปากแม่น้ำเหียง ก็ข้ามแม่น้ำโขงมุ่งตรงไปฝั่งลาว แล้วก็จอดเทียบท่านิมนต์ให้ท่านขึ้นฝั่ง
    หลวงปู่ประคองบาตรและบริขารขึ้นฝั่งเรียบร้อยแล้ว ก็เหลียวมาเพื่อจะขอบใจและให้พรที่คนเรือนั้นได้กรุณานำพระข้ามเรือมา แต่ท่านก็ต้องประหลาดใจ ด้วยปรากฏว่า มองไปมิได้เห็นเรือลำนั้นเลย และความจริงแม้แต่เรือลำใด...ไม่ว่าเล็กใหญ่ประการใดก็ไม่มีปรากฏในสายตาของท่าน !
    ...ทั้งลำน้ำโขง มีจะเข้ขนาดมหึมาตัวหนึ่ง ลอยฟ่องอยู่กลางลำน้ำแต่เพียงตัวเดียว...!!
    หลวงปู่กำหนดจิตพิจารณา...จึงทราบว่า นั่นคือพญานาคเขามานิมนต์ท่านในนิมิต และแปลงกายเป็นเรือและคนเรือมารับ เมื่อส่งท่านแล้วเขาก็แปลงเพศเป็นจระเข้ให้ท่านได้เห็นเป็นอัศจรรย์ ท่านจึงแผ่เมตตาให้ จะเข้นั้นลอยตัวนิ่งอยู่ราวกับสงบกิริยาอาลัย จึงนึกบอกในจิตว่า เอาละ...เราขอบใจเธอมาก ที่ช่วยเป็นธุระให้เราข้ามน้ำมาครั้งนี้ เราขออนุโมทนาด้วย เราเดินทางต่อไปได้แล้ว ไม่ต้องห่วงใยอะไรเราหรอก
    บอกลาครั้งหลังนี้ จะเข้นั้นจึงได้ผงกหัวลาและจมลงไปในท้องน้ำ
    หลวงปู่ดูจะมีข้อเกี่ยวข้องกับพญานาคเป็นพิเศษ ท่านไปที่ใดก็มักจะมีพญานาคมาอารักขาให้ความสะดวกอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นปกติ
    บุรุษผู้มาใส่บาตรที่วัดห้วยน้ำริน
    ครั้งหนึ่งท่านพักอยู่ที่ วัดห้วยน้ำริน อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ สังเกตเห็นว่า ในบรรดาทายกทายิกาที่มาฟังเทศน์หรือใส่บาตรถวายจังหันทุกวันนั้น มีชายคนหนึ่งที่ดูแปลกกว่าคนอื่น คือถึงจะนุ่งห่มแต่งกายอย่างชาวบ้านธรรมดา แต่ก็ดูภูมิฐานและสำรวมกว่าคนทั่วไป มีดอกไม้กับอาหารคาวหวานมาใส่บาตรทุกวัน สำหรับอาหารทุกชนิดที่เขานำมานั้น แม้จะมองดูเป็นอาหารพื้นเมืองทั่วไป มีปลา มีผัก น้ำพริก หรือแกง ตามปกติ แต่สังเกตว่า ระยะนี้อาหารที่ท่านฉันนั้นมีรสชาติพิเศษ อย่างไรก็ดีท่านก็ไม่แน่ใจว่า อาหารที่มีรสชาติพิเศษนั้นจะเป็นอาหารจากที่ชายผู้นั้นถวายหรือไม่ เพราะเมื่อพระรับถวายจังหันแล้ว ท่านก็จัดลงบาตรรวม ๆ กันไป จะเป็นอาหารจากสำรับใด ถ้วยใด ของโยมคนไหนก็ไม่ได้จดจำไว้
    ธรรมดาพระธุดงคกรรมฐาน ท่านจะมีโอภาปราศรัยกับญาติโยมเป็นปกติ ครั้งนี้ ท่านพูดคุยธรรมดา แล้วก็ถามถึงโยมคนที่ว่านี้ เออ...เป็นใคร อยู่บ้านไหน เป็นญาติของใคร ท่านมาคราวก่อน ๆ ไม่เคยเห็น
    ชาวบ้านแถบนั้นซึ่งคุ้นเคยกับท่าน เคยปรนนิบัติพระธุดงค์มานาน ต่างก็นึกขึ้นได้ว่า หลวงปู่หมายถึงผู้ใด แต่ก็ไม่อาจจะตอบท่านได้ว่าเป็นใคร มาแต่ไหน ได้แต่พูดกันว่า เออ...จริงซี นึกได้แล้ว เห็น ๆ เหมือนกัน นึกว่าเป็นญาติกับคนนั้น คนนั้นก็ว่า นึกว่าเป็นญาติกับคนโน้น คนโน้นก็คิดว่ามากับคนนี้
    รวมความว่า ไม่เคยเห็นกันมาก่อน เห็น ๆ อยู่ แต่เวลากลับไม่ทราบว่ากลับไปบ้านที่ไหน กับใคร และเมื่อไร
    วันสุดท้าย หลวงปู่ปะหน้าชายแปลกหน้านั้น นำดอกไม้และอาหารมาถวายจังหันเช่นเคย ท่านถาม เขาก็ตอบว่า บ้านโยมอยู่แถวนี้เอง ตอบยิ้ม ๆ แล้วก็ถอยไปนั่งรอระหว่างท่านฉันอย่างสงบเสงี่ยม ปกติระหว่างพระป่าฉันจังหันนี้ ชาวบ้านก็มักจะนำอาหารที่ถวายแล้วและเหลือจากที่พระนำลงบาตรแล้ว มาตักแบ่งแจกกันรับประทานเป็นกลุ่ม ๆ แต่ชายผู้นั้นมิได้ร่วมวงรับประทานกับกลุ่มใคร เขาคงนั่งอยู่คนเดียวอย่างสำรวมอาการ วันนั้นหลวงปู่ก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ คอยสังเกตอาการของเขาอยู่เงียบ ๆ
    ท่านฉันเสร็จ ให้พร เมื่อเห็นเขาเก็บของ กราบลา ท่านรออยู่พอไม่ให้น่าเกลียด แล้วก็ลุกตามไป ดูว่าเขาจะกลับไปทางใด
    ปรากฏว่า พอลับจากศาลา เขาก็เดินหายลงไปในสระน้ำหน้าวัด..!!
    ชายคนนั้นคือ นาคมาณพ นั่นเอง.....!
    ท่านเล่าว่า พญานาคนั้นมีฤทธิ์มาก เป็นเทวดาจำพวกหนึ่ง เขาสามารถเนรมิตกายได้ต่าง ๆ กัน ท่านเคยถามเขาว่า ต้องการอะไร เขาก็เรียนท่านว่า วิสัยพญานาคนั้นมีความเคารพผู้ทรงศีลผู้ทรงคุณธรรม มนุษย์ผู้เป็นกัลยาณชนปรารถนาในการบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา เช่นไร พญานาคก็ปรารถนาในการบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา เช่นนั้นเหมือนกัน ในกาลก่อน พระพุทธเจ้าสมัยเสวยพระชาติเป็นนาค มีนามว่า พระภูริทัตต์ ก็ยังสู้บำเพ็ญบารมี รักษาศีล บำเพ็ญทานภาวนาจนตัวตาย ในกาลปัจจุบัน กลิ่นศีลอันบริสุทธิ์ของพระคุณเจ้าหอมนัก หอมทั้งใกล้ หอมทั้งไกล หอมทวนลม หอมไปไกล พวกเขาก็ขอโอกาสมาทำบุญถวายทานแด่พระคุณเจ้า เพื่อเป็นการเพิ่มพูนบารมีของตนสืบไปบ้าง
    ท่านถามถึงการเนรมิตกาย เพราะเคยเห็นพญานาคในรูปจำแลงต่าง ๆ หลายครั้งหลายหนแล้ว เขากราบเรียนว่า การเนรมิตกายของพญานาคนั้นง่ายดายมาก จะให้เป็นอย่างไรก็ทำได้ทั้งนั้น
    เขาก็เลยเนรมิตกายถวายให้ท่านดู โดยเตือนว่า นี่เป็นภาพนิมิตทั้งนั้น...เขาหายตัวไปจากที่นั้น ครู่เดียวก็กลายเป็นมาณพหนุ่มน้อยเข้ามาหา ประเดี๋ยวก็เป็นชายชราเดินงก ๆ เงิ่น ๆ เข้ามาหา บัดเดี๋ยวก็หายไป แล้วกลับเป็นหญิงสาวสวย หายไปอีกครู่หนึ่ง ปรากฏว่า กลับมาเป็นเสือใหญ่น่าเกรงขาม กำลังเยื้องย่างเข้ามา จากร่างเสือกลายเป็นพรานขมังธนู ถืออาวุธเข้ามา พญานาคเรียนท่านว่า การเนรมิตกายนั้นไม่ยากเย็นอะไร เพียงคิดก็เปลี่ยนไปได้ตามต้องการ จะเป็นมนุษย์ เป็นสัตว์อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ถ้าเป็นมนุษย์ จะเป็นคนเดียวหรือหลายคน แต่ละคนต่างแสดงอากัปกิริยาต่างกันก็ได้ ถ้าเป็นสัตว์ อาจเป็นตัวเดียว หรือหลายตัว ทั้งอาจเป็นสัตว์ต่างชนิดกันก็ได้ เช่น เห็นเป็นภาพ ทั้งช้าง ทั้งเสือพร้อม ๆ กัน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเป็นนาค ๒ ตัว หากเป็นพญานาคตัวเดียว จำแลงกายเป็นสัตว์ ๒ อย่าง ๒ ร่างกัน
    เขาสามารถเนรมิตกายได้อย่างน่าพิศวง และรวดเร็วทันใจมาก
    ท่านเล่าถึงการแปลงกายของพญานาคว่า เราได้ปะมาแล้วทุกอย่าง...เป็นงูตัวน้อย ๆ ผ้าขาว ผู้หญิง เสือ มนุษย์ ...กษัตริย์...สารพัด
    ท่านเล่าว่า สำหรับรูปกายที่เป็นพญานาคจริง ๆ นั้น ท่านก็เคยเห็นอยู่ รูปร่างเหมือนกับที่เขาทำไว้ตามโบสถ์ตามวิหารนั้นเช่นเดียวกัน มีหงอน สามหงอนบ้าง ห้าหงอนบ้าง เจ็ดหงอนบ้าง ครั้งหนึ่งท่านเคยเห็นมาด้วยกันคู่สองผัวเมีย ทั้งพญานาคและนางนาคผู้เป็นภริยา
    แต่บางทีเขาก็เข้ามาหาท่านในร่างของมนุษย์ แต่งตัวด้วยเครื่องทรงอย่างกษัตริย์ มีข้าราชบริพารเฝ้าแหนแวดล้อมมาดังขบวนเสด็จของพระราชา
    เคยเรียนถามท่านว่า
     
  2. Hades

    Hades เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +199
    ผมก็คิดว่าพญานาคในแม่น้ำโขงน่าจะมีจริง เคยดูรายการเรื่องจริงผ่านจอ พาไปดูถ้ำอะไรซักอย่างแถวหนองคาย เป็นถ้ำที่ลึกมากๆ แล้วภายในถ้ำมีรอยคล้ายรอยพญานาคเลื้อยเต็มไปหมด เขาว่าถ้ำมันลึกไปถึงเมืองบาดาล ก็ไม่รู้ว่าจริงป่าว
     
  3. sam.337

    sam.337 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +937
    องค์พญานาคาธิบดีศรีสุทโธนาคราช หลัง องค์พญานาคาธิบดีศรีสัตตะนาคบาดาล

    หมายเหตุ ห้ามไม่ให้มีการชื้อขายพระเด็ดขาด เหรียญเทวานาคินทร์ พ.ศ.๒๕๔๖ นำมาให้ดูเพื่อพี่ๆน้องๆเพื่อนๆทุกๆท่านไปเจอที่ไหนได้เก็บรักษาไว้บูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว ครับ บอกกล่าวกันสำหรับสมาชิกผู้มีใจเคารพศรัทธาในองค์พญานาคราช

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • wx.JPG
      wx.JPG
      ขนาดไฟล์:
      199.1 KB
      เปิดดู:
      136
    • wxx.JPG
      wxx.JPG
      ขนาดไฟล์:
      183.6 KB
      เปิดดู:
      146
    • พญานาค3.jpg
      พญานาค3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.9 KB
      เปิดดู:
      1,525
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,475
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018

แชร์หน้านี้

Loading...