พระขรรค์ท้าวเวสสุวรรณ รุ่นเจริญลาภปราบไพรี- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

ร่วมบุญสร้าง
"จิตกาธาน" เมรุชั่วคราว น้อมถวาย องค์หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2562 นี้ ณ วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

ร่วมบุญได้ที่ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 207-4-33377-0“ บุญพิเศษถวายองค์หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต (จันทรสมบูรณ์)”ชื่อบัญชี นางทิพยา กิตติขจร และ น.ส. แวววลัย วัฒนา และ นายสมเกียรติ พิมลดานนท์

สอบถามรายละเอียด
คุณสมเกียรติ 089 893 5765
คุณปู 0944919456

 

Sira Pop

#สมาบัติ..
ผมเคยเรียนถามหลวงปู่พิศดูว่า..
เคยดูข่าวและเคยได้ยินมานานแล้วว่า มีผู้ทรงฌานสมาบัติ นั่งสมาธิโดยไม่กินอาหาร ไม่ขับถ่ายไม่เปลี่ยนอิริยาบทติดต่อเป็นปีๆ ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงไหม และทำได้จริงๆหรือครับ..?

หลวงปู่ :: " จริงสิ่..ถ้าเราทำได้ เขาก็ทำได้.."

หลวงปู่ :: " แต่ก็ยังเป็นโลกียะอยู่ เป็นการพักผ่อนชั่วคราว "

พอมาลองพิจารณาถึงคำตอบที่หลวงปู่ท่านกล่าวนั้น เห็นได้ว่า กระชับ และมีความหมายลึกซึ้งในตัว "....ถ้าเราทำได้ เขาก็ทำได้ " ก็แสดงให้เห็นชัดว่าที่หลวงปู่ท่านกล่าวนี้มี 2 นัยยะคือ 1.การเข้าสมาบัติลึกโดยไม่แตะต้องอาหาร ไม่ขับถ่ายติดต่อกันนานหลายปี หรือแล้วแต่จะกำหนด (อยู่ได้ด้วยอำนาจของฌานสมาบัติ) หลวงปู่ท่านก็ทำแบบนั้นได้เช่นกัน
2.ในเมื่อหลวงปู่ทำได้ คนอื่นก็ต้องสามารถทำได้ เพราะเป็นคุณสมบัติที่มีอยู่ในทุกคน

แต่ถึงกระนั้นท่านก็ยังบอกว่าเรื่องของ ฌานสมาบัติ "....ก็ยังเป็นโลกียะอยู่ เป็นการพักผ่อนชั่วคราว " ถ้าไม่ใช้วิปัสนาควบคู่กันเพื่อการตัดกิเลส ก็ยากที่จะบรรลุคุณธรรม พระพุทธเจ้าจึงมีบัญญัติให้พระสาวกเข้าฌานสมาบัติติดต่อกันได้เพียงไม่เกิน 15 วันเท่านั้น

เรื่องฌานสมาบัตินี้ เป็นของกลางๆ ที่มีอยู่ ถ้าใครหมั่นฝึกฝนปฏิบัติก็สามารถเข้าถึงได้ สำหรับหลวงปู่ท่านเห็นเป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะท่านข้ามพ้นไปไกลแล้ว เวลาท่านจะเข้าสมาบัติ ท่านก็เพียงแต่กำหนดจิตก็สามารถเข้าได้ทันทีไม่ว่าจะอิริบาบทไหน
ตามปกติ ฌานสมาบัติจะมีอยู่ 8 ระดับ แบ่งเป็น รูปฌาน 4 และอรูปฌาณ 4 รวมเรียกว่า สมาบัติ 8 แต่นอกจากนี้จะมีสมาบัติชั้นพิเศษอีก 1 เรียกว่า นิโรธสมาบัติ เป็นฌานที่ 9 ตามคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าสมาบัติขั้นนี้ได้ ต้องเป็นพระอริยะระดับอนาคามีขึ้นไป ที่ได้สมาบัติ 8 จึงจะสามารถเข้านิโรธสมาบัติได้..

 

ขอทราบราคาด้วยครับ

 

แจ้งให้ทราบทางข้อความแล้วครับ

 

ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เจอ หายากครับชุดเทดินไทย

ขอเล่าตอนที่ได้นำพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ธัมมะจารีชุดเทดินไทย แหวนปลอกมีดธัมมะจารี และเม็ดกริ่งที่จะบรรจุในองค์พระ ไปเข้าพิธีเปิดสามแดนโลกธาตุ ที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ให้ฟังกันครับ..
คณะผู้ร่วมถวายงานจัดสร้าง ได้อัญเชิญพระชุดนี้โดยสารไปทางรถไฟ สาย กรุงเทพฯ-อุดรธานี มุ่งหน้าสู่มหาพิธีเปิดสามแดนโลกธาตุ ที่วัดป่าบ้านตาด ในครานั้นผู้คนที่ศรัทธามาร่วมงานคับคั่งมากเป็นพิเศษ อาจเนื่องมาจากบารมีองค์หลวงตาพระมหาบัวกำลังหอมหวลเบ่งบานเต็มที่ ซึ่งเราไม่คาดคิดมาก่อนว่า งานเปิดสามแดนโลกธาตุขององค์หลวงตาในครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแห่งอายุสังขารขององค์ท่าน
ในพิธีนี้ได้มีผู้ศรัทธาร่วมถวายผ้าป่าช่วยชาติ และผ้าป่าสงเคราะห์โลก และร่วมสร้างสมบุญกุศลต่างๆเป็นจำนวนมาก อันเป็นมหาบุญมหากุศลอันยิ่งใหญ่มหาศาลสุดจะประมาณ และแน่นอน ในพิธีนี้ได้มีผู้นำวัตถุมงคลต่างๆเข้าร่วมพิธีมหามงคลนี้เป็นจำนวนมากซึ่งหนึ่งในนั้นก็คงเป็นเรา เพื่อขออาราธนารับกระแสแห่ง มหาบารมีธรรมจากองค์หลวงตา และพระอริยะพ่อแม่ครูอาจารย์และพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนับร้อยๆพันๆรูป นับว่าสำคัญไม่น้อยทีเดียวที่จะสามารถประชุมพระพิเศษที่มีความสำคัญในทางพระพุทธศาสนาได้มากมายถึงเพียงนี้ นี่ยังไม่รวมถึงพระอริยะเจ้าผู้ที่ล่วงลับและพระผู้ที่เดินญาณมาร่วมอีก เพราะชื่อว่า งานพิธีเปิดสามแดนโลกธาตุ ก็ย่อมต้องรับรู้ในทั้งสามโลกธาตุ อันมี กามภพ - รูปภพ - อรูปภพ.. (เขียนแค่นี้พอ)
ผมบอกตามตรง ในพิธีนี้ผมเองก็แอบไปกับเขาด้วยเหมือนกัน แต่การไปของคณะเรา ไม่ได้กราบเรียนให้องค์หลวงปู่ทราบแต่อย่างใด เนื่องจากเกรงใจกลัวท่านเป็นห่วง และกลัวโดนดุ...ฯลฯ ""
เพียงแต่ตกลงกันว่าอยากไปร่วมบุญใหญ่แบบนี้ ที่หาทำได้ยากยิ่งอีกสักครั้งหนึ่งเท่านั้น..
แต่พอได้นำพระไปเข้าพิธีเปิดโลกธาตุสามแดนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมเองหลังจากกลับมาจากวัดป่าบ้านตาดแล้ว ก็ได้เดินทางมาหาองค์หลวงปู่พิศดูที่วัดเทพธารทอง พอไปถึงนั่งกับหลวงปู่ท่านสักพัก อยู่ๆหลวงปู่ท่านก็ถามคำถามมาแบบฝ่าเข้ากลางหัวใจผมเลยว่า..!!!
" หมอไปวัดป่าบ้านตาดมากี่ครั้งแล้ว.. ??? "
พอผมได้ยินคำถามนี้ผมรู้ได้เลยทันที่ว่า องค์หลวงปู่ท่านล่วงรู้ทุกอย่าง ทุกการกระทำของเรา แม้จะแอบไปทำอะไรมาถ้าท่านต้องการรู้ก็สามารถรู้ได้เลยทันทีเลย แม้การไปวัดป่าบ้านตาดในครั้งนี้ของเราก็ตาม แต่ท่านก็มิได้ว่าอะไร ผมเลยตอบท่านไปแบบเขินๆว่า.. " ไป 3 ครั้งแล้วครับ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ครับ....... แล้วหลวงปู่เคยไปหรือเปล่าครับ " (มีย้อน..^^) ท่านก็ตอบว่า..
" เราน่ะ ไปทุกครั้งเลย... "
นั่นไง ๆ ...!!! เจอของจริงเข้าแล้ว ผมจึงได้ทราบความลับอีกอย่างหนึ่งว่า องค์หลวงปู่พิศดูท่าน( เดินญาณ )ไปร่วมงานที่วัดป่าบ้านตาดทุกครั้งที่มีการจัดงานบุญใหญ่ อาจจะเห็นพวกเราอยู่ที่นั่นก็เป็นได้นะ แต่ว่าท่านไม่ได้ไปด้วยกายหยาบนะครับ.. คงเพราะว่าเวลาที่องค์หลวงตามหาบัวท่านอัญเชิญ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ และพระอริยะสงฆ์ทั้งหมด ก็คงหมายรวมถึงพระอริยะผู้ล่วงลับ และพระอริยะผู้ยังทรงขันธ์อยู่ด้วย แต่ว่าพระอริยสงฆ์องค์ใดจะรับรู้ และเดินญาณมาร่วมพิธี ก็อาจไม่ใช่ทุกองค์ไป ตามความเห็นของผม พระผู้ทรงคุณเหล่านั้นที่ไม่ได้มาร่วมพิธีด้วยกายหยาบ ก็ต้องเป็นพระผู้ทรงอภิญญาจิตอย่างเอกอุเลยละครับ จึงจะลัดนิ้วมือมาได้แบบฉับพลันทันใจ..
นี่แหละของจริง.. พ่อแม่ครูอาจารย์ของเรา ไม่ต้องมีข้อสงสัย อยากรู้อะไรท่านจัดให้เลย.. อยู่ที่ว่าจะกล้าถามท่านหรือเปล่า..
กราบพ่อแม่ครูอาจารย์ไว้เหนือเศียรเกล้าครับ.. สาธุ
(Sira pop)

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

Sira Pop‎

#ญาณทัศนะอันละเอียด..
เทศกาลนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง บนยอดเขาคิชฌกูฏ ในทุกปีจะเริ่มจัดขึ้นช่วงในวันตรุษจีนเรื่อยไปเป็นเวลา 2 เดือน แต่ละปีก็จะมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมากราบนมัสการเป็นจำนวนมาก
ในปี 2551 ผมและเพื่อนๆก็ได้มีโอกาสขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเช่นกัน คณะเราออกเดินทางไปขึ้นคิวรถที่วัดพลวงในเวลาประมาณตี 3 เมื่อเดินทางขึ้นไปกราบนมัสการและทำบุญต่างๆบนยอดเขาเรียบร้อยแล้ว ก็กำลังจะเดินทางลงจากเขา เพื่อนของผมชื่อคุณแอ๋มได้พูดว่า.. " เช้าแล้วหิวข้าว เราจะไปกินข้าวที่ไหนกันดี "
ผมก็บอกว่า.. " เราไปกินข้าวเสกที่วัดหลวงปู่(วัดเทพธารทอง)กันไหม ได้ข่าววันนี้จะมีลูกศิษย์ที่ระยองมาทำข้าวต้มทะเลถวายหลวงปู่ เราจะได้ไปกราบหลวงปู่กันด้วย.. เดี๋ยวเราบอกหลวงปู่ก่อนนะ "

#จากนั้นผมก็ได้หลับตาอธิษฐานถึงหลวงปู่ว่า..
" หลวงปู่ครับ วันนี้พวกผมขึ้นมานมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชฌกูฏ กำลังจะลงจากเขากันแล้ว และตั้งใจจะไปกินข้าวที่วัดนะครับ.."

คุณแอ๋มก็ได้แซวว่า " แล้วหลวงปู่จะรู้จริงเหรอ.."

" อืม..เดี๋ยวก็คอยดูสิ่ว่าหลวงปู่จะรู้ไหม.."

เมื่อคณะเรานั่งรถลงจากเขามาถึงวัดพลวงก็เป็นเวลาประมาณ 8.00 น. จริงๆที่วัดพลวงก็มีอาหารขายเยอะ แต่ผมตั้งใจจะพาเพื่อนๆไปกินข้าวที่วัดเพราะอยากรับอาหารเสกของหลวงปู่ จึงออกเดินทางไปยังวัดเทพธารทองทันที..

เมื่อไปถึงที่วัดเทพธารทองก็เป็นเวลาประมาณ 8.30 น. ผมก็ได้พาคณะขึ้นไปกราบนมัสการหลวงปู่บนกุฏิริมลำธาร ซึ่งหลวงปู่ได้ออกจากห้องมานั่งบนเก้าอี้หวายที่ระเบียงกุฏิอยู่แล้ว พอคณะของผมกราบนมัสการหลวงปู่แล้ว ยังมิทันพูดอะไร หลวงปู่ก็ได้ทักขึ้นมาก่อนว่า..
" เพิ่งลงจากเขาคิชฌกูฏกันมา.. หิวข้าวก็ลงไปกินข้าวต้ม(เสก)กันก่อน อิ่มแล้วค่อยขึ้นมาคุยกัน วันนี้โยมม่วยมาทำข้าวต้มเลี้ยง.."

ทำเอาเพื่อนผมทุกคนอึ้ง..!! และหันมามองหน้าผมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เมื่อลงมาทานข้ามต้มกันแล้ว คุณแอ๋มก็ได้ถามผมว่า " หลวงปู่รู้ได้ไงอ่ะ ทีแรกที่เห็นเอ็กส์อธิษฐานบอกหลวงปู่บนยอดเขา เราก็นึกว่าเอ็กส์ทำเล่นๆ ไม่คิดว่าหลวงปู่จะรับรู้ถึงการอธิษฐานได้ละเอียดแบบนี้ ท่านรู้แม้กระทั่งว่าเราหิวข้าวยังไม่ได้กินอะไรมา ตั้งแต่เกิดมาเราเพิ่งเคยเจอนี่แหละ สุดยอดเลยอ่ะ.."

" หลวงปู่ท่านต้องรู้สิ่ ท่านเป็นพระที่มีญาณทัศนะละเอียดมาก เราเจอจนเป็นเรื่องปกติแล้วละ(ได้ทีเลยคุยเลย อิอิ)

เมื่อกินข้าวต้มจนอิ่มหนำสำราญแล้ว ก็ได้ขึ้นไปกราบหลวงปู่อีกรอบ ท่านก็ได้ชวนคุยหลายเรื่อง และท่านได้บอกว่า..

" จริงๆถ้าคิดจะกราบพระพุทธบาท ไม่ต้องขึ้นเขาก็ได้ วัดเราก็มีรอยพระบาทอยู่ กราบที่นี่ก็เหมือนกัน.."

พระพุทธบาทดังที่หลวงปู่กล่าวนี้ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ด้านหลังพระประธานปางนาคปรก ในพระเจดีย์ใหญ่ที่วัดเทพธารทอง เป็นรอยพระพุทธบาทจำลอง หล่อด้วยทองเหลือง หลวงปู่ท่านได้อธิษฐานอัญเชิญบารมีของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐานไว้ที่รอยพระพุทธบาทองค์นี้อย่างเต็มกำลัง เพราะฉะนั้นรอยพระพุทธบาทที่วัดเทพธารทองจึงมีความศักดิ์สิทธิ์มาก หากท่านใดเดินทางไปวัดเทพธารทอง ก็ขอเชิญกราบนมัสรอยพระพุทธบาทในพระมหาเจดีย์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งต่อไปทางวัดจะทำฐานรองใหม่ และจะย้ายมาประดิษฐานในที่อันเหมาะสมต่อไป..

 

มีเหลือเก็บไว้องค์เดียวครับ(น้องเค้าเอามาฝาก) พระชัยวัฒน์เทดินไทย

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

พระกสิณพิมพ์รูปเหมือน หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง

“คาถาโมรปริตร คาถาพญายูงทอง” หลวงปู่มั่น

บรรดาพระป่าสาย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต (ภูริทตฺโต) ส่วนมากให้ความสำคัญในการบริกรรมพระคาถาบทหนึ่ง คือ พระคาถาโมรปริตรหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "พระคาถาพญายูงทอง"

"นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา"

เป็นคาถาที่ปรากฏในตำนานโมรปริตร (อุเทตะยัญจักขุมา) ซึ่งเป็นนิทานชาดก โดยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็น "พญานกยูงทอง"

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า