เรื่องเด่น หลวงปู่สีโห เขมโก พระผู้ทรงอภิญญา รู้ภาษาสัตว์และคนได้ทุกชาติทุกภาษา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 25 กันยายน 2021.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,528
    241511488_4938949896133699_1373376836837486317_n.jpg


    หลวงปู่สีโห เขมโก ตอนที่ ๑
    พระผู้ทรงอภิญญา รู้ภาษาสัตว์และคนได้ทุกชาติทุกภาษา


    เปิดตำนานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์สำคัญของอยุธยา
    ถึง ๒ อง่ค์ คือ หลวงพ่อวัดมงคลบพิตร และหลวงพ่อโต
    วัดพนัญเชิง
    เปิดเผยความจริงจากตำนาน เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก
    วัดพนัญเชิง มีอายุก่อนสร้างกรุงศรีอยุธยาถึง ๓๐๐ ปี
    โดย สิทธา เชตวัน

    ตอน ปราบผีศาลปู่ตา ๑
    หลวงปู่สีโห เหมโก ท่านเป็นศิษย์ใกล้ชิดของ
    พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ท่านเป็นพระธุดงค์
    ผู้ทรงคุณวิเศษยิ่งใหญ่องค์หนึ่ง ประสบการณ์
    การธุดงค์ของท่าน ได้พบกับสัตว์ร้าย สิ่งเร้นลับ
    และตำนานของพระพุทธรูปที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์
    ถึง ๒ องค์ ที่สร้างก่อนสร้างกรุงศรีอยุธยาถึง ๓๐๐ ปี
    และตำนานประวัติที่แท้จริงของพระเจ้าสายน้ำผึ้ง
    และเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก แห่งวัดพนัญเชิง
    จ.พระนครศรีอยุธยา

    หลวงปู่สีโห เหมโก ท่านเป็นพระผู้ศักดิ์สิทธิ์ เคร่งครัด
    ในพระธรรมวินัยอย่างยิ่งยวดและชอบรุกขมูล ไม่ชอบ
    อยู่วัดวาอาราม ท่านรักที่จะอยู่ตามป่าช้า ตามถ้ำ
    ในป่าเปลี่ยว สถานที่วิเวกแวดล้อมไปด้วยสัตว์ร้าย
    นานาและไข้ป่า มุ่งมั่นอยู่ในมรรคกระแสพระนิพพาน
    เต็มตัวไม่วอกแวกไปทางอื่น

    ที่ท่านไม่ชอบอยู่ตามวัดเพราะไม่ชอบคลุกคลีกับ
    ชาวบ้านทำให้ใกล้ความประมาท เป็นเหตุให้กิเลส
    กำเริบและเข้าไปเกาะจิตวิญญาณ ผู้เขียน(สิทธา เชตวัน)
    ได้รู้จักกับพระอาจารย์ยี่หลก ศิษย์ก้นกุฏิของหลวงปู่สีโห
    ท่านได้ถ่ายทอดเรื่องราวของหลวงปู่ให้ฟัง

    พระอาจารย์ยี่หลก ท่านเป็นพระธุดงค์ที่มีญาณแก่กล้า
    เคยธุดงค์ไปแต่ลำพังผู้เดียวทั่วภาคอิสาน ภาคเหนือ
    แล้วข้ามเขตเข้าไปในพม่าและลาวมาแล้ว ท่านเป็นพระ
    ผู้มีวาจาสิทธิ์ น่าเลื่อมใส ดังนั้น เรื่องราวต่อไปนี้
    จึงยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริงทุกประการ

    ประมาณปี พ.ศ.๒๔๗๓ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้ให้
    พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม นำพระภิกษุสามเณรจำนวน
    มากจัดเป็นกองทัพธรรม ออกเผยแพร่ธรรม สมัยนั้น
    หลวงปู่สีโห ยังหนุ่มแน่น แต่ก็มีชื่อเสียงในทางกรรมฐาน
    มากได้รับการยกย่องจากพระอาจารย์มั่น

    หลวงปู่พร้อมพระธุดงค์ ๕-๖ รูป ได้ไปปักกรดอยู่ที่ป่าช้า
    แห่งหนึ่งในอำเภอมัญจาคีรี ยังความไม่พอใจให้แก่
    ชาวบ้านในละแวกนั้นเป็นอย่างยิ่ง เพราะชาวบ้านเขานับถือผี
    ไม่เคารพเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เห็นพระ
    เป็นศัตรูไปหมด เพราะเป็นที่เลื่องลือในสมัยนั้นว่า
    คณะพระธุดงค์ ชอบทำลายศาลปู่ตาที่สถิตย์ของผีสาง
    ที่ชาวบ้านเคารพกราบไหว้บูชา เพื่อให้ชาวบ้านหันมา
    นับถือพระสงฆ์องค์เจ้า

    ศาลปู่ตา ที่ป่าช้าหมู่บ้านแห่งนั้นดุร้ายมาก ชาวบ้าน
    ผ่านไปมาทำอะไรผิดแม้เล็กน้อย เป็นต้นว่าขาดการ
    ให้ความเคารพนบไหว้บ้าง ไปเก็บเห็ดเก็บผักในป่า
    ลืมบอกบ้าง ถ่ายปัสสาวะบ้าง หรือทำต้นไม่ในเขต
    ศาลหักบ้าง มักจะถูกผีทำโทษ ให้เจ็บป่วยถึงตาย
    สร้างความเกรงกลัวให้แก่ชาวบ้านสืบทอดกันมา
    หลายชั่วคน

    หลวงปู่สีโห รู้สึกสลดสังเวชที่ชาวบ้านหลงผิดไปนับถือผี
    มีความเกรงกลัวแบบไร้สาระ ต้องฆ่าหมูเห็ดเป็ดไก่ไป
    สังเวยเซ่นสรวงกันไม่ขาด เป็นการทำลายชีวิตสัตว์
    น่าอนาถนักซ้ำยังทำให้ชาวบ้านขาดศีลธรรม เพราะไม่มีผู้
    ชี้ทาง ให้ข้ออรรถข้อธรรม สั่งสอนอบรมกล่อมเกลากมล
    สันดานให้รู้จักผิดถูก ให้รู้จักเมตตาปราณี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
    ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

    ชาวบ้านมีแต่การมั่วสุมในอบายมุข กินเหล้าเมายา เล่น
    การพนัน เมื่อผิดใจก็ตีรันฟันแทงกันถึงล้มตาย เป็นคน
    โหดร้ายทั้งชายทั้งหญิง ชีวิตของพวกเขาน่าสงสารแท้
    เมื่อตายแล้วหนทางไปคืออบายภูมิ มีนรกเป็นแดนเกิด
    เป็นแม่นมั่น หลวงปู่ท่านมีจิตเมตตาคิดอยากจะช่วยฉุด
    พวกเขาจากทางแห่งอบายภูมิ จึงได้พาพระธุดงค์ในคณะ
    ตรงไปยังศาลปู่ตา อันเฮี้ยนและมีฤทธิ์ในทางชั่วร้าย
    แห่งนั้นแล้วช่วยกันรื้อทำลายลงจนราบคาบไม่มีชิ้นดี
    การกระทำของคณะพระธุดงค์ สร้างความโกรธแค้นให้แก่
    ชาวบ้านเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือว่าไปทำลายล้างความเชื่อถือ
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา ปรากฏว่าในตอนกลางคืน

    วันนั้นผีปู่ตาได้อาละวาดครั้งใหญ่ ชาวบ้านไม่ได้หลับได้นอน
    ด้วยว่ามีเสียงประหลาดได้วิ่งเข้าไปในหมู่บ้านเสียงดังสนั่น
    หวั่นไหว คล้ายกับมีฝูงวัวฝูงควายนับร้อยนับพันตัววิ่งเข้าไป
    ในหมู่บ้านฝุ่นคลุ้งไปหมด แต่มองไม่เห็นตัว หมาในหมู่บ้าน
    ส่งเสียงเห่าหอนและร้องอี๊ดๆ หางจุกก้นแสดงความเกรงกลัว
    ในเสียงประหลาดที่มนุษย์มองไม่เห็น

    ชาวบ้านรู้ดีว่าเป็นขบวนผีปู่ตาอาละวาด เพราะถูกคณะพระธุดงค์
    ทำลายศาล นอกจากเสียงวิ่งแตกตื่นปานหมู่บ้านจะถล่มแล้ว
    ยังปรากฏเสียงร้องห่มร้องไห้กันระงมทั้งลูกเด็กเล็กแดงเป็น
    ทำนองพร่ำรำพันว่าบ้านช่องถูกทำลาย แล้วพวกตนจะไปอยู่
    ที่ไหน ได้รับความเดือนร้อนลำบาก บ้านแตกสาแหรกขาด
    เลือดตาแทบกระเด็นชาวบ้านจะต้องได้รับการแก้แค้นในครั้งนี้
    เสียงรำไห้โหยหวนรำพันเหล่านี้คือเสียงของฝูงผีนั่นเอง


    ขอบคุณที่มา : BuddhaSattha
    (ศูนย์พุทธศรัทธา สำนักปฏิบัติพระกรรมฐาน สาขาวัดท่าซุง จ.สระบุรี)
     

แชร์หน้านี้

Loading...