หลวงพ่อกับในหลวง

ในห้อง 'ในหลวงกับพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 10 มิถุนายน 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,438
    พอเข้าที่นั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถ สมเด็จ

    เจ้าฟ้าสิรินธรฯ ท่านก็เข้าไป ท่านถามอะไรหลายอย่าง ความจริงที่มีพระราชดำรัสถามนี่ คิดว่ามีบางอย่างที่ไม่

    ควรนำมาออกอากาศ หรือนำมาพูดกันเพราะเป็นเรื่องส่วนพระองค์ แต่ทว่า ที่ทรงถามนั้น ไม่มีอะไร ไม่ใช่

    เรื่องบ้าน ไม่ใช่เรื่องเมือง ไม่ใช่เรื่องบุคคล ทรงถามเรื่องธรรมะ ถ้าจะเกณฑ์ให้จำก็จำได้ไม่หมดเหมือนกัน ไม่

    รู้ว่าอะไรบ้าง จะว่าปัญญาอ่อนหรือความจำเสื่อมก็ยอมรับ เพราะว่าพระราชดำรัสถามนั้น เป็นคำที่ลึกซึ้ง

    คัมภีรภาพมาก ละเอียดลออมาก จะเห็นได้จากพระราชวินิจฉัยของพระองค์ข้อหนึ่ง จะพูดให้ฟัง ท่านตรัสว่า

    หลวงพ่อขอรับ ผมว่าธาตุแท้นี่ไม่สกปรกนะขอรับ ธาตุแท้มันสะอาด นี่ฟังกันจริงๆแล้วก็ต้องคิดให้มาก ว่าที่

    พระองค์ตรัสว่าธาตุแท้นี้ไม่สกปรก ธาตุแท้สะอาดนี้น่ะ เพราะว่าพระองค์ทรงเคยโต้กันมาแล้ว เรื่องกาย

    สกปรก ท่านตรัสถามมาสามรอบ อาตมาจำได้ ท่านทรงยืนยันว่าร่างกายไม่สกปรก แต่ความจริงท่านเห็น แต่

    ว่าท่านใช้ปัญญาพิจารณาญาณของท่าน พูดกันง่ายๆว่า สอบ กันดีกว่า ท่านทรงมีความเข้าใจดี ไม่ใช่ไม่เข้า

    ใจ แต่ก็ทำแบบนักเทศน์ คือเข้าใจแล้ว ต้องทำเหมือนกับว่าไม่เข้าใจ จะเอาข้อความละเอียดให้ได้ ก็โต้กันมา

    เรื่องร่างกายสกปรกมา ๓ วาระ ตอนนั้นพระองค์ตรัสว่า ที่หลวงพ่อว่าร่างกายสกปรก สมมุติมือผมนี่น่ะมัน

    สะอาดๆดีอยู่ ผมก็ไปหยิบของสกปรกมา เมื่อแตะต้องกับของสกปรกมันก็สกปรก แล้วผมมาล้างเสียให้สะอาด

    มันก็สะอาดไม่สกปรก ตอนนั้นอาตมาถวายพระพรว่า เรื่องร่างกายสกปรกนี่ไม่ใช่เอาร่างกายภายนอกไปแตะ

    ต้องกับของภายนอกมา ให้พิจารณาส่วนภายในของร่างกายว่ามันสกปรก เช่นเลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง

    อุจจาระ ปัสสาวะ เสลดน้ำลาย เป็นต้น ที่มันอยู่ในร่างกาย มันสกปรก ถ้าจะพิสูจน์กันง่ายๆก็เอามีดกรีดเนื้อออก

    ไปให้เลือดมันไหลออกมา เมื่อเลือดไหลออกมาแล้ว ถ้าเลือดมันสะอาดจริงๆก็ไม่ต้องล้างเลือด ถ้าหากต้องล้าง

    เลือดออก ก็แสดงว่าเลือดสกปรก ใจความที่ถวายพระพรในวันนั้นเป็นอย่างนี้ แต่ว่าถ้อยสำนวนอาจจะไม่

    เหมือนกัน เพราะตั้งตัวไม่ค่อยติดเหมือนกัน พระองค์โจมตีแบบแย้ปซ้ายแย้ปขวา ฮุคหน้า ฮุคหลัง แหม ถนัด

    คล่องจริงๆ วันนั้น เรื่องร่างกายสกปรกหรือไม่สกปรกก็เป็นอันว่าจบเกมกันยกที่ ๓ มาที่พระที่นั่งไพศาล

    ทักษิณ ทรงมาใหม่ ตรัสว่า ธาตุแท้ผมว่าไม่สกปรก ตานี้ชักจะรู้ท่าเสียแล้วว่าถ้าปล่อยไปไกลๆ ก็คงต้องว่ากัน

    นานหลายรอบ จึงได้ถวายพระพรไปว่า อาตมาเห็นชอบด้วย ว่าธาตุแท้จริงๆไม่สกปรก ทั้งนี้หมายถึงถึงธาตุ

    ๔ ในร่างกาย ตอนที่ว่ากันถึงเรื่องร่างกายสกปรกนะ ว่ากันในเรื่องของกายคตานุสสติกรรมฐาน ก็เลยเกณฑ์

    สมมติขึ้น แต่ความจริงการสมมติไม่ใช่ของลี้ลับ เป็นของธรรมดาๆที่บุคคลจะเห็นได้ง่าย ถ้าเป็นนักสังเกต

    การณ์ สมมติว่า เอาแก้วมาวางไว้ลูกหนึ่ง เอาน้ำแข็งใส่ไปในแก้วสักประเดี๋ยวหนึ่ง จะมีน้ำชื้นอยู่ข้างนอก เนื้อ

    แท้จริงๆน้ำที่จับข้างนอกไม่ใช่น้ำแข็งที่ละลายในแก้วแล้วไหลออกมา อาศัยความเย็นจัดของน้ำในแก้ว

    อาโปธาตุอย่างนี้เป็นอาโปธาตุที่มีความสะอาด และเป็นธาตุแท้อย่างนี้สะอาด แต่ทว่าอาโปธาตุในร่างกาย มีน้ำ

    เลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง เป็นต้น หรือปัสสาวะอย่างนี้เป็นต้น เป็นอาโปธาตุที่เต็มไปด้วยความสกปรก

    พระองค์จึงทรงค้านว่า นั่นเป็นธาตุที่ปรุงแล้วนี่ขอรับ จึงได้ถวายพระพรไปว่า การพิจารณาร่างกาย คือธาตุ

    ๔ ก็ให้พิจารณาธาตุที่ปรับปรุงแล้ว มันเป็นของสกปรก มันเป็นของไม่สะอาด เป็นอันว่า ตอนนี้ก็ยุติลง
     

แชร์หน้านี้

Loading...