หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ..สมเด็จเกษไชโย พระเครื่องจังหวัดอ่างทอง หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ

#รูปหล่อกระเช้า หลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี

นิยมสุดในสายพระหล่อสวยจัด ผิวน้ำทองอร่ามๆ สวยจริง คราบปูนเบ้ายังอยู่เดิมๆ ถือเป็นองค์ที่สามของร้าน เก็บองค์เดียวจบ สวย ปกติจะดำคล้ำอมแดงจากการถูกเหงื่อ เป็นรูปหล่อที่หาชมยากมาก เพราะมีจำนวนการสร้างน้อยเพียงหลักร้อยต้นๆ และหาที่สมบูรณ์ยากมากเช่นกัน บางองค์หล่อติดแต่องค์พระกระเช้าไม่ติดก็มี รูปหล่อกระเช้าถือเป็นรูปหล่อที่นิยมสูงสุดในบรรดารูปหล่อทั้งหมดของท่าน ประสบการณ์คงไม่ต่องบรรยายมาก พระหล่อในพิธีนี้มีความสำคัญมาก เพราะมีเหตุการณ์เนื้อทองเหลืองที่หล่อไม่ยอมละลาย จนเบ้าแตก เนื้อโลหะลอยอยู่ในเบ้า ลอยไปลอยมาไม่ละลาย ช่างจึงขึ้นไปบนศาลากราบเรียนหลวงพ่อให้ทราบ ท่านรีบลงมาดู สักพักทองเหลืองก็ค่อยๆละลาย วัตถุมงคลที่สร้างพร้อมกับหล่อกระเช้านี้มีสองแบบคือ รูปหล่อหัวไม้ขีด กับรูปหล่อกระเช้านี้ ประสบการณ์คุ้มครอบป้องกัน เด่นชัดสูงส่งมาก น่าเก็บสะสม หาชมยากซะด้วยครับ องค์ที่สามของกระทู้ครับ

สวยมาก ราคา 12,000 บาท พร้อมส่ง

 

เหรียญหมดห่วง ตะไบแต่งมาแต่เดิม ที่ตะไบแต่งมาแต่เดิมมีไม่มาก

เหรียญ จอบเศรษฐีใหม่ ยอดนิยม หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน น้ำทองจัดๆ

ลูกศิษย์สร้างถวายหลวงพ่อ กรณีพิเศษเพื่อแจกฟรี

พระเครื่องชุดนี้เป็นชุดที่สำคัญมากชุดหนึ่งของหลวงพ่อครับ พระเครื่องชุดนี้เป็นชุดเดียวก็ว่าได้ที่หลวงพ่อท่านเกี่ยวข้องด้วยเกือบทั้งหมดในการหล่อ เป็นพระหล่อโบราณแบบดินไทย ซึ่งหล่อยาก ชนวนมวลสาร จัดว่าชั้นยอดทั้งนั้น ชนวนเก่ามีทองคำผสมนับหลายๆสิบบาท ที่สำคัญของมีน้อยมาก หลวงพ่อไม่ค่อยแจกใคร พระดีพืธีใหญ่ หล่อดินไท โบราณ

ราคา 4,500 บาท

...

เช่าแล้ว

...

 

#เผยแพร่ของขลังภูธรแขวงเมืองวิเศษชัยชาญ

หนึ่งในหกครูเบี้ยรุ่นเก่า นิยม เมืองวิเศษชัยชาญ พระครูวิจิตสุตคุณ (หลวงพ่อโปร่ง วัดท่าช้าง)จ.อ่างทอง

เบี้ยแก้เลื่องลือแต่โบราณ ถอนคุณไสยเวท กันกระทำ เป็นมหาอุตม์

เบี้ยแก้สายอ่างทองเป็นเบี้ยที่เล่นง่าย ไม่สับสน มีความชัดเจนแตกต่างกันในแต่ละหลวงพ่อ เช่นหลวงพ่อคำ ท้องเบี้ยจะปิดด้วยแผ่นทองแดง จะเขย่าดังคล้ายทรายแซ๊กๆอยู่ภายใน แต่จริงๆไม่ใช่ทราย จริงๆคือปรอทซัดว่านยา พอปรอทเริ่มแข็งจะแตกเป็นเม็ด และดังหนึกแน่นให้ตัว ไม่ดังแบบโครมคราม ปรอทในเบี้ยแก้ส่วนใหญ่เมื่อเขย่าจะรู้สึกเนื้อปรอทหนึกๆแต่ให้ตัว สีเบี้ยและชันนั้นสำคัญที่สุดในการพิจารณาความเก๊แท้ ซึ่งปัจจุบันคนสับสนกันมากๆ ว่าเบี้ยแท้ต้องซีดๆแตก ชันต้องแห้งกรังๆถึงจะเก่า จริงๆแล้วชันที่ไม่ได้โดนเหงื่อไคลหรือเก็บดีๆก็ไม่เก่านัก แต่เริ่มแห้ง แต่ชื้นไม่แห้งผาก ท่านไปดูที่ผมลงว่าเบี้ยแก้ดูง่ายๆสีแบบไหน ชันแบบไหน เขียนแล้วยาว ดูความเป็นธรรมชาติให้ชินตา เขย่าเสียงประกอบการเช่า มีเบี้ยแท้ดู จะเป็นไวมาก ส่วนเบี้ยหลวงพ่อโปร่ง ดังในภาพ จะมีใส้กลางเป็นตะกั่ว บางตัวมีทองปิดทับก็มี แผ่นตะกั่วมักจะถูกปิดทับด้วยชันนะโรงเกือบมิดทั้งแผ่น บางตัวมองไม่เห็นแผ่นตะกั่วก็มี ตัวที่ปิดทอง ทองเก่าทองไหม่ อยู่ที่ช่วงการทำและอายุของทองตามธรรมชาติ

เบี้ยแก้ ซึ่งถือว่าเป็นวัตถุมงคล ที่มีชื่อเสียง ที่สืบสายมาแต่โบราณนั้น ต้นสายตำราเบี้ยสายวิเศษฯ ก็มาจากหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ ซึ่งหลายท่านอาจไม่ทราบ หลวงพ่อโปรง ท่านก็สายวิชาเดียวกัน ซึ่งการสร้างเบี้ยแก้ในสายตำรานี้ สำคัญมากคือการเสกเบี้ยให้เป็น ส่วนปรอทนั้นถ้าว่ากันจริงๆไม่ต้องใส่ก็ยังได้ เบี้ยแก้ในสายนี้จะต้อง บูชาเทวดาประจำเบี้ยซึ่งสำคัญมาก และขั้นตอนมาก หลังจากนั้นจึงจะทำการเสกเบี้ย ส่วนปรอทที่นำมาใส่ด้วย เพราะเหตุว่าปรอทนั่นมีฤทธิ์ถ้าเสกเป็นแล้วใช้ได้สารพัดอย่าง ท่านจึงมาใส่ไว้คู่กันแต่โบราณ ซึ่งเป็นการผสมผสานวิทยาการของบรมครูยุคโบราณ ซึ่งตามตำราที่หลวงพ่อภักตร์ท่านได้มาแต่ครูวาตนั้นเป็นตำราการเสกเบี้ย ให้เป็นให้สำเร็จ ส่วนวิธีเรียกปรอทให้ได้ดั่งใจนึกนั้นท่านได้มาแต่หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ยสมุทรปราการ

หลวงพ่อโปร่งวัดท่าช้าง ท่านเป็นพระยุคเดียวกับหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ แต่หลวงพ่อโปร่งท่านอายุน้อยกว่า ท่านบวชครั้งที่สองโดยมีหลวงพ่อคำ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อโปร่งท่านเป็นพระหมอยารักษาคนบ้าคนถูกคุณไสย มีอยู่ครั้งหนึ่งคนบ้าที่มาให้ท่านรักษาเกิดคลุ้มคลั่ง คว้ามีดล็อคคอหลวงพ่อแล้วปาดคอหลวงพ่อ แต่ท่านไม่เป็นอะไรเลยและท่านก็ไม่โกรธคนบ้าคนนั้นด้วย หลวงพ่อโปร่งท่านเป็นที่นับถือของคนละแวกวัดเป็นอย่างมากเพราะเขาได้รู้เห็นมาโดยตลอดว่าท่านเป็นอย่างไร แต่คนไม่นำประวัติท่านมาเผยแพร่มากนัก ทำให้คนนอกไม่ค่อยรู้จักท่าน จริงๆแล้วท่านเก่งจริง ปัจจุบันนี้คนรู้จักท่านมากขึ้นในสายเครื่งรางและมีความนิยมสูง หลังจากท่านมรณะภาพ สังขารท่านก็ไม่เน่าเปื่อย สังขารท่านยังอยู่ที่วัดท่าช้างจนปัจจุบันนี้ ประสบการณ์ที่เขาพบกันก็คงกระพัน แคล้วคลาดเด่นชัดมากๆ เป็นพระคณาจารย์สายอ่างทองที่เก่งมากองค์หนึ่ง เบี้ยแก้ของท่านในหมู่ลูกศิษย์เจอประสบการณ์กันมาเยอะครับ ท่านสร้างเบี้ยตั้งแต่ท่านอายุ 27 ปี หรือราวปี 2480 และมรณะภาพเมื่อปี 2533 อายุ 88 ปี cr. เบ็น วิเศษฯ

ตัวเขื่องๆ สวยๆราคา 7,500 บาท ราคายังไม่จ้ามหมื่นน่าเก็บครับ หลวงพ่ออื่นข้ามหมื่นหมดแล้วสวยๆ

 

#เผยแพร่ไปด้วย พระพิมพ์ขุนแผน หรือพิมพ์ ซุ้มเรือนแก้ว วัดอ่างทองวรวิหาร ราวๆปี 2491 พิมพ์ที่รุ่นสร้างเขื่อนไม่มี แต่ของวัดอ่างทองมี พระสวยมีหน้าตา ตามประวัติ พิธียิ่งใหญ่ระดับจังหวัดในสมัยนั้น เนื้อเดียวกับรุ่นสร้างเขื่อน แค่ออกผิดวัด ราคาทิ้งห่างกันเป็นทุ่ง (แค่ค่านิยม) คนรู้ก็เก็บกันเรียบไปนานแล้ว มีปริ้นเอาออกมาขายกันบ้างก็ไม่มาก ของดีที่แนะนำนะจ๊ะ เดี๋ยวว่าไม่บอก ถ้าเห็นคุณค่าเพื่อพึ่งพุทธคุณ ไม่ได้ยึดติดเรื่องรุ่นและวัด บอกเลยว่า ไม่มีความแตกต่างกับรุ่นสร้างเขื่อนแม้แต่น้อย เป็นวัตถุมงคลที่จัดสร้างพร้อมกับพระสมเด็จ วัดเกษไชโย รุ่นสร้างเขื่อน มวลสารพระสมเด็จแตกหักของพระสมเด็จ วัดเกษไชโย ในกรุ วัดไชโยที่แตกหัก ของสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี จริงๆแล้วใช้เนื้อเดียวกันเลยครับ สมัยนั้นท่านเจ้าคณะจังหวัดอ่างทองหลวงปู่แผ้ว กับท่านเจ้าคุณวัดไชโยท่านสนิทกันมาก เนื้อหาทั้งหมดทางวัดไชโยเป็นผู้เตรียม และแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกนำไปกดพิมพ์รุ่นเจ็ดชั้นสร้างเขื่อน ซึ่งปัจจุบันสวยๆราคาหงายหลัง เนื้ออีกส่วนหนึ่งนำมากดพิมพ์พระพิมพ์ของวัดอ่างทอง หลังกดพิมพ์เสร็จก็นำเข้าพิธีพร้อมกันเมื่อปี 2491 เป็นหนึ่งในสมเด็จที่ประวัติชัดเจนมาก แต่ราคายังห่างรุ่นสร้างเขื่อนเป็นสิบเท่า เพียงแค่ไม่ได้ออกโดยตรงที่วัดไชโย ใช้บูชาแทนพระสมเด็จเกษไชโยสบายๆครับ คนที่รู้จะห้อยคอสบายใจมาก cr. เบ็น วิเศษฯ

พระสวย ราคา 3,500 บาท



เช่าแล้ว

 

✨มาไหม่ เผยแพร่ไปด้วย✨ ผิวปรอทวิ่งๆ พระดีพิธียิ่งใหญ่ ระดับปรมาจารย์ทั้งนั้นที่ร่วมอธิฐานจิต มีใช้บูชามาบ้าง


ราคาตามสภาพ 13,500 บาท เน็ตเลยไม่แพงแล้วจ่ะ ........

สมเด็จหู หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ 2482 สมเด็จหู(พิมพ์เหลี่ยม)นิยม หล่อโบราณ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ อ่างทอง สร้างปี 2482 รุ่นนี้มีเก๊มานานครับ แต่เป็นทองเหลือง ของแท้เป็นโลหะผสมหรือเรียกว่าทองผสมครับ ถ้าให้ผมพูดถึงพระหล่อโบราณของเมืองวิเศษชัยชาญ ที่มีประวัติพิธีที่ชัดเจนที่สุดและมีพระคณาจารย์ระดับแนวหน้าของเมืองไทยและระดับครูบาอาจารย์ของเมืองวิเศษฯที่อัดแน่นที่สุดก็เห็นจะเป็นสมเด็จหูหล่อรุ่นนี้ครับ เพราะประวัติการสร้างนั้น สร้างเมื่อปี 2482 โดยมีหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอกเป็นประธานปลุกเสก หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก(หลวงพ่อจงท่านมาแน่นอนครับหลวงพ่อเสียน วัดมะนาวหวานเคยได้รับสมเด็จหูหลวงพ่อคำ จากหลวงพ่อจงมาแล้ว ซึ่งหลวงพ่อเสียนท่านเคยเล่าให้ผมฟัง ว่าท่านไปกับหลวงพ่อเล็ก วัดมะนาวหวาน (อาจารย์ท่าน) หลวงพ่อซำ วัดลาดไหม่ และพระคณาจารย์เมืองวิเศษฯที่ไม่ได้เอ่ยนามในสมัยนั้นอีกคับคั่ง ขณะเททอง มีพระพิธี สวดอิติปิโส 108 จบ สมัยนั้นยังไม่มีบทสวดพุทธาภิเษก (เรื่องนี้หลวงปู่เล็ก วัดทำนบได้เคยเล่าไว้ เหตุด้วยท่านเป็นผู้ที่นั่งนับจำนวนจบ ของบทสวด โดยใช้นับจำนวนด้วยก้านธูป) เหรียญหล่อรุ่นนี้ได้รับความนิยมมานานมาก มีประสบการณ์โชกโชน ทั้งแคล้วคลาดและมหาอุตม์ ช่วยคุ้มตัวคนมามากต่อมาก เพราะเมืองวิเศษชัยชาญสมัยนั้น ถ้าจะให้กล่าว โดยที่ไม่เกินความจริงนักจะเรียก ว่าดงนักเลงก็ไม่ผิด เมื่อก่อนหลวงพ่อแต่ละรูปที่จะออกของนั้นถ้าไม่แน่จริงแล้วไม่ออกกัน เพราะเมื่อก่อนผู้เรืองอาคมมากมาย ฆานวาสเก่งๆหมอคุณกระทำมีเยอะ ถ้าออกของวัตถุมงคลมาช่วยเขาไม่ได้ก็เท่ากับว่าเป็นการทำให้เสียชื่อตัวเอง ดังนั้นพระคณาจารย์สมัยก่อนจึงได้รับความนิยมเป็นอมตะในหลายๆพระคณาจารย์เหตุเพราะทำได้จริงเห็นผลจริง ถ้าเอ่ยถึงสมเด็จหูแล้ว สมัยก่อนหลายคนต้องร้องอ๋อ เพราะชื่อเสียงโด่งดังมาก เพราะเรื่องประสบการณ์และความนิยมบอกได้คำเดียวว่า แน่น ลองคิดเล่นๆ ว่าการจัดการพิธีหล่อพระสมัยก่อนนั้น ไม่มีการทำออกมาแบบเล่นๆหรือโปรโมท ขายของ ของที่ทำทำจริง เสกจริงครูบาอาจารย์ที่มาเสกก็ระดับปรมาจารย์ของยุคนี้ อาจมีการออกทำบุญก็เพื่อการพระศาสนาโดยตรง ไม่มีนายทุน ไม่มีกำไรทำด้วยใจและศรัทธาล้วนๆ ในการหล่อนั้นพิธีโบราณมีความยุ่งยากมาก ไม่ใช่นึกจะหล่อก็หล่อกันได้ง่ายๆ พระอาจารย์ที่มาจับสายสูตรเททองต้องคุมพิธีเป็นด้วยวิทยาคม คุมธาตุ ปรุงธาตุ ถ้าไม่แน่นด้วยกสินแล้วขลังยาก และวิทยาคมระดับไม่ธรรมดา พระจึงจะออกมาได้บริสุทธิ์ และเข้มขลังจริง การหล่อในครั้งนั้น มีชาวบ้านและประชาชนมากันเนืองแน่น ก่อนการเททอง ได้ให้ประชาชนที่มีจิตศรัทธา บริจาค สร้อยแหวน เงิน ขันเงิน ทองเหลือง ทองคำ ช้อนแสตนเลสหรืออะไรต่างๆตามกำลังศรัทธาของประชาชน พิธีครั้งนั้นจัดได้ยิ่งใหญ่และเข้มขลังอย่างยิ่ง ในการหล่อที่มีการนำโลหะผสมจำนวนมากต่างชนิดกัน มาผสมกันนั้น ทำให้เนื้อหาของพระมีความไม่เข้ากัน มีหลายสีในบางองค์และส่วนมากจะมีพลายเงิน ที่เกิดจากการผสมปรอทและดีบุก สมเด็จหูนั้นอย่างที่บอกสมัยก่อนโด่งดังมากด้วยพิธีดี และมีประสบการณ์แบบไม่ต้องเชียร์ หลวงพ่อท่านก็ได้ทำการแจกไปเรื่อยๆจนหมด มีอยุ่ครั้งหนึ่ง มีคนไปขอพระจากหลวงพ่อ โดยเข้าไปที่วัด เมียงๆมองๆ เห็นหลวงพ่ออยู่ก็คลานเข้าไปกราบหลวงพ่อและกล่าวกับหลวงพ่อว่า หลวงพ่อครับ ผมมาขอพระหลวงพ่อครับจะเอาไปใช้ หลวงพ่อท่านมองหน้า แล้วมือหลวงพ่อพลันไปคว้ากระโถนด้านหลังท่าน ขว้างใส่ลุงท่านนั้นพร้อมไล่ตะเพิด พร้อมกับหลวงพ่อได้กล่าวว่า มึงนี่ไม่รู้กาละเทศะ มึงเป็นใครจะมาใช้พระ ถ้ามึงเอาไปใช้ไม่ต้องเอาไป ถ้าเอาไปบูชาค่อยมาเอา ลุงแกหน้าจืดหนีออกมาแทบไม่ทัน จะเห้นได้ว่าหลวงพ่อท่านเคร่งครัดและยึดถือในองค์พระรัตนตรัยอย่างยิ่ง เล่าเรื่องสมเด็จหูแล้วไม่เล่าเรื่องประสบการณ์ก้จะเป็นการขาดอรรถรสไป สมเด็จหุของหลวงพ่อนั้นสมัยก่อนคนที่ได้ไปเข้าจะห้อยคอกันทันที เพราะนับถือในองค์หลวงพ่อ สมัยก่อนนั้นหลวงพ่อท่านเป้นพระอุปัชฌาย์ บวชลุกศิษย์ลูกหาทั่วอำเภอเหรียญรุปท่านรุ่นแรกก็เช่นกัน ส่วนมากพบเจอแต่แบบสึกเลี่ยน เตียนโล่งทั้งนั้น หาสวยๆยากมากครับ สมเด็จหูนั้นหล่อหูในตัว จึงเหมาะอย่างยิ่งในการพกพาติดตัว หรือห้อยคอได้ทันทีไม่ต้องไปเสียเงินเลี่ยม สมัยก่อนโจรผู้ร้ายชุกชุม มีอยู่ครั้งหนึ่งมีการตามจับโจร ไปท้ายตลาดวิเศษ เมื่อก่อนท้ายตลาดจะมีบ่อน้ำอยู่ ไล่จับตามไปจนถึงที่นั่นยุคผู้กองยอดยิ่งกวาดล้างผู้มีอิทธิพล มีการตามจับและใช้อาวุธปืนยิง กลุ่มโจร แต่อัศจรรย์ครับ โจรมิได้ระคายผิวหนัง ได้แต่นอนกลิ้งด้วยความจุก ได้จังหวะก็เข้าชาจประชิดตัว แต่ก็ยิงไม่ออกตีจนน่วมก็ไม่ตาย จึงค้นตัวอ้าปากออกไปเจอสมเด็จหูหลวงพ่อคำเพียงองค์เดียว พอเจอพระโจรถึงกับหน้าถอดสี สุดท้ายเรียบร้อย... มีอีกเรื่องหนึ่งเอาคร่าวๆเพื่อประกาศ ให้คนรู้ว่าสมเด็จหูนั้นของจริง รุ่นนี้คนนิยมมากนิยมมายันหัวตะพานบ้านผม เพราะสมัยก่อนหลวงพ่อท่านจะเดินลัดทุ่งมาบวชพระถึงหัวตะพาน วัดกลาง วัดหัวตะพาน คนที่บ้านผมเจอด้วยตนเอง คนเล่าก็ยังไม่ตาย เรื่องมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่งเมื่อสักสิบกว่าปีที่แล้ว จ.ส.อ วันชัย กลิ่นบุหงา ได้ถูกเรียกตัวไปลาดตระเวนชายแดน เมื่อทางบ้านรู้ข่าว พ่อของจ่าวันชัย ด้วยความเป้นห่วงลูกที่จะต้องไปชายแดนสิ่งที่ให้ได้และเพื่อความสบายใจและหวังว่าจะช่วยให้จ่าวันชัย กลับบ้านได้อย่างปลอดภัย คือ สมเด็จหูพิมพ์มน ที่พ่อของจ่าวันชัยรับมากับมือหลวงพ่อคำ พ่อของจ่าแกหวงพระองค์นี้มาก เพราะอะไรถึงหวงทราบไหมครับ สมัยนั้นก็มีประสบการณ์เรื่องมีดๆปืนๆมาไม่ใช่น้อยแล้ว พ่อจ่าจึงหวงมาก แต่ก็ให้ลูกชายไป และกำชับว่ากลับมาจากราชการให้เอามาคืน...จ่าออกเดินทางไปได้ไม่นาน ก็มีข่าวแจ้งจากราชการว่า ชุดลาดตระเวนที่จ่าวันชัยประจำการอยู่นั้น เหยียบกับระเบิด เสียชีวิตเกือบทั้งหมด ที่ผมว่าเกือบทังหมดนั้น เหลือจ่าแกรอดตายมาคนเดียว นอกนั้นอีก 6 คนเสียชีวิตทั้งหมด ในตัวจ่าแกก็มีสมเด็จหูเพียงองค์เดียวที่พ่อจ่าให้ไว้ พอจ่าแกรอดมาคนเดียวก็ทำให้จ่าแกดังมาก มีคนมารุมล้อมถามแกว่ามีอะไรดีจึงรอดมาได้คนเดียว จ่าแกก้เอาพระให้ดู เป็นเรื่องธรรมดาที่มีของดีใครๆก้อยากได้ครับ ผู้บังคับบัญชาจ่าแกเลยเรียบเคียงขอพระองค์นั้นจ่าวันชัย สุดท้่ายจ่าแกให้ไป พอกลับมาบ้านเมื่อถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว พอจ่าก็ถามถึงพระสมเด็จหูที่ให้ไป พอจ่าบอกว่าให้หัวหน้าไปแล้วเท่านั้นหละครับ พอแกเคืองมาก ถึงกับให้จ่าพาเข้ากรุงเทพ ไปเอาพระคืน นี่พ่อของจ่าแกนับถือจริงๆ ชาวบ้านเขานับถือกันขนาดนั้น สรุปว่าพ่อจ่าแกเข้ากรุงเทพฯไปรอ และขอพระองค์นั้นคืน ไปรอถึงเจ็ดวัน เพราะหัวหน้าติดราชการ ถ้าไม่ได้พระ พ่อจ่าแกไม่กลับ เพิ่มเติมนิดครับ สมเด็จหูนั้นที่เรียกสมเด็จหูก็เพราะว่า การหล่อนั้นหล่อแบบมีหูในตัว ในเหรียญที่หล่อนั้นเป็นรูปสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสีหน้าหนึ่ง และ หลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ วัดไชโย อีกหน้าหนึ่ง การห้อยพระหลวงพ่อท่านให้ห้อยเอาหลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ออกหน้าครับ วันนี้ลงเพื่อเผยแพร่พระคณาจารย์ แห่งแขวงเมืองวิเศษชัยชาญครับ ประวัติการสร้างชัดเจนมากครับพระคณาจารย์ระดับประเทศสมัยนั้นมากันแน่ครับ... พระไหม่ๆ เดี๋ยวนี้ยังแพงกว่า น่าเสียดายครับ ...เบ็น วิเศษฯ เรียบเรียง พระพิมพ์ที่มีประสบการณ์โชกโชนยิ่ง ราคาตามสภาพพระ

 

#เผยแพร่ไปด้วย พระพิมพ์มารวิชัย หรือพิมพ์ฐานผ้าทิพย์ วัดอ่างทองวรวิหาร ราวๆปี 2491 เป็นอีกพิมพ์หนึ่ง ที่รุ่นสร้างเขื่อนไม่มี แต่ของวัดอ่างทองมี พระสวยมีหน้าตา ข้างหลังมีชิ้นส่วนก้อนๆ 1 ก้อนจ่ะ

ตามประวัติ พิธียิ่งใหญ่ระดับจังหวัดในสมัยนั้น

เนื้อเดียวกับรุ่นสร้างเขื่อน แค่ออกผิดวัด ราคาทิ้งห่างกันเป็นทุ่ง (แค่ค่านิยม) คนรู้ก็เก็บกันเรียบไปนานแล้ว มีปริ้นเอาออกมาขายกันบ้างก็ไม่มาก ของดีที่แนะนำนะจ๊ะ เดี๋ยวว่าไม่บอก ถ้าเห็นคุณค่าเพื่อพึ่งพุทธคุณ ไม่ได้ยึดติดเรื่องรุ่นและวัด บอกเลยว่า ไม่มีความแตกต่างกับรุ่นสร้างเขื่อนแม้แต่น้อย

เป็นวัตถุมงคลที่จัดสร้างพร้อมกับพระสมเด็จ วัดเกษไชโย รุ่นสร้างเขื่อน มวลสารพระสมเด็จแตกหักของพระสมเด็จ วัดเกษไชโย ในกรุ วัดไชโยที่แตกหัก ของสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี จริงๆแล้วใช้เนื้อเดียวกันเลยครับ สมัยนั้นท่านเจ้าคณะจังหวัดอ่างทองหลวงปู่แผ้ว กับท่านเจ้าคุณวัดไชโยท่านสนิทกันมาก เนื้อหาทั้งหมดทางวัดไชโยเป็นผู้เตรียม และแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกนำไปกดพิมพ์รุ่นเจ็ดชั้นสร้างเขื่อน ซึ่งปัจจุบันสวยๆราคาหงายหลัง เนื้ออีกส่วนหนึ่งนำมากดพิมพ์พระพิมพ์ของวัดอ่างทอง หลังกดพิมพ์เสร็จก็นำเข้าพิธีพร้อมกันเมื่อปี 2491

เป็นหนึ่งในสมเด็จที่ประวัติชัดเจนมาก แต่ราคายังห่างรุ่นสร้างเขื่อนเป็นสิบเท่า เพียงแค่ไม่ได้ออกโดยตรงที่วัดไชโย

ใช้บูชาแทนพระสมเด็จเกษไชโยสบายๆครับ คนที่รู้จะห้อยคอสบายใจมาก cr. เบ็น วิเศษฯ

พระสวย ราคา 2,000 บาท


ปิดให้คุณ sepultura ครับ

 

#มรดกอันทรงคุณค่าที่หลวงพ่อได้ทิ้งไว้ให้ พระสมเด็จผสมปรอทเสก ราวปี 2490กว่า หลวงพ่อเต่า วัดน้ำพุ เนื้อปรอทชั้นครู ทรงคุณค่าด้วยอิทธิคุณแห่งปรอท ของดีมีคุณค่า แต่ราคาถูกเกิน

... 2,500 บาท

เอามาให้ศึกษาและสะสมอีกหนึ่งองค์ เป็นวัตถุมงคลที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ รักษา และบูชา ในยุคหนึ่งเมื่อก่อนปี 2500 เอามาเล่าสู่กันฟังง ถึงความขลังของพระยุคโบราณ

หมอเทวดา วิชานิ้วเพชร หลวงปู่เต่า วัดนำพุ รักษาคนครั้งละหนึ่งศาลา เสกน้ำในแม่น้ำหน้าวัดเป็นน้ำมนต์ให้คนกิน นิ้วเพชรสั่งโรคได้ ให้หายต้องหาย ผีพรายต้องเกรง คัดของฝากไว้ที่ตะปูตอกเสาศาลา วาจาสิทธิ์ ผูกวิญญาณเฮี้ยน รู้วาระมรณะภาพ สูญฝีด้วยนิ้วเพชรกำหนดวันเวลาได้แม่นยำว่าฝีจะแตกตอนกี่โมง เสกกล้วยรักษาอัมพฤก ประสานกระดูกด้วยนิ้วเพชร เสกเกลือให้จืด แค่ชี้นิ้วเพชรผีกระเจิง ให้ผัวปวดท้องแทนเมีย ปราบผีพรายหน้าวัด เรื่องราวต่างๆอ้างอิงจากบุคลที่ทันยุคหลวงพ่อ และรับรู้กันมาด้วยสองตาตัวเอง ทั้งสิ้น

สมเด็จผสมปรอทวิชาชั้นครู พระสมเด็จผสมปรอทซัดว่านยา หลวงปู่เต่า วัดน้ำพุ วิชาปรอทเป็นวิชาที่หาผู้ทำได้และรู้เคล็ดจริงๆนั้นปัจจุบันแทบไม่ต้องหา กันได้ทั้งผีและเทวดาที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ทำน้ำมนต์ถอนคุณกระทำ ประพรมสินค้า แก้อาถรรพ์ได้นานาประการ ด้วยฤทธิ์แห่งปรอทที่คุมอยู่ ที่ผสมอยู่ในเนื้อพระ สมัยก่อนการจะทำให้ปรอทแข็งตัว ไม่ใช่ของเล่น ถ้าคนศึกษาด้านวิชาปรอท จะทราบดีว่าปรอทคือ ธาตุที่เป็นที่สุดปรารถนาอย่างหนึ่งของ ผู้ศึกษาด้านวิทยาคม นั่นคือ ปรอทสำเร็จ บางคนทำจนกระทั่งตายก็ยังไม่สำเร็จถ้าไม่มีบุญวาสนา วิชาปรอทจึงศักดิ์สิทธิ์ การคัดของถอนของ ที่สำคัญเป็นตัวช่วยอย่างดีก็คือปรอท ครูบาอาจารย์ท่านจึงนำปรอทใส่ไว้ในเบี้ยแก้ ให้พกพาถอนคุณถอนของ สั่นเตือนภัย ก่อนจะนำปรอทมาใช้ก็จะมีกรรมวิธีที่ซับซ้อนมาก ผมเองก็ยังศึกษาไม่ได้ถึงขนาดละเอียดขนาดนั้น แต่เคยสนทนากับผู้ที่เรียนและรู้ในด้านการทำปรอทมาพอสมควร ทำให้ทราบว่า วิชาที่เกี่ยวกับปรอทนั้นไม่ใช่เรื่องเล่น ของจริงเขามีตำรับตำรา วิธีการ ที่สมัยปัจจุบันหาคนมีบารมีทำได้ยากยิ่งแล้ว เพราะต้องรู้สูตรและต้องค่ำเคร่งอยู่กับการทำอย่างมากนั่นเอง
หลวงปู่เต่า วัดน้ำพุ ท่านเป้นที่ยอมรับของชาวบ้านมาตั้งแต่รุ่นก่อน นับถือเคารพกันดุจเทพ เทวดา ผมมีได้กล่าวเกินความจริงแต่ประการใดเลย ถ้าท่านได้เข้าไปพูดคุย หรือสนทนากับคนยุคที่ทันหลวงพ่อแล้ว รับรองว่าท่านจะอึ้งในบารมีความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อท่าน และรับรู้ถึงความศรัทธาที่ชาวบ้านน้ำพุมีให้กับท่าน เหตุด้วยท่านทำให้เห็นด้วยสองตา มิใช่เล่านิทานหลอกชาวบ้านนั่นเอง หลวงพ่อเต่าท่านทำอะไรด้วยความรู้จริงแตกฉาน และขลังด้วยวิชา บารมีโดยแท้จริง
หลวงปู่เล็ก จนฺทสโร วัดทำนบ (ท่านที่อยากศึกษาประวัติปฏิปทาหลวงปู่เล็ก เรียนเชิญที่ ชมรมคนรักหลวงปู่เล็ก วัดทำนบ เฟสบุ๊ค) หลวงปู่ถือเป็นหนึ่งในศิษย์โดยตรง ที่สืบทอดเจตนารมณ์หลายประการของหลวงพ่อเต่า และสรรพวิชาต่างๆไว้อย่างลึกซึ้ง ด้วยท่านอยู่ปรนนิบัติรับใช้อยู่ยาวนานหลายปี ทั้งจารตระกรุดถวาย เป็นผู้ช่วยในเรื่องต่างๆที่หลวงพ่อเต่าเรียกใช้ หลวงปู่เล็กท่านเคยกล่าวกับลูกศิษย์ว่า "หลวงพ่อเต่าท่านเก่งจริง"
สมัยก่อนนั้นความดังของหลวงพ่อเต่า ถ้าจะเล่ากันจริงๆ เท่าที่สอบถามมา คือ ชื่อเสียงท่านนั้นถ้าเทียบเกจิยุคปัจจุบันว่าดังขนาดไหน ก็ต้องบอกว่า "ดังระดับหลวงพ่อคูณ" เพราะสมัยก่อนผู้คนที่เข้ามาให้หลวงพ่อรักษานั้น อย่างที่เคยกล่าวไปแล้วในประวัติท่านว่า บางวันนับพันคน อย่างไม่มีๆก็สองสามร้อย สมัยก่อนการจะสร้างถาวรวัตถุอะไรต่างๆ แค่เพียงบอกว่าหลวงพ่อเต่าจะไปช่วยสร้าง หรือหลวงพ่อออกหน้ารับว่าจะช่วย รับรองไม่มีคำว่าไม่เสร็จ มีคำกล่าวว่า โรงเรียนวัดน้ำพุนั้น แทบไม่ต้องหาเงินทองอะไรมาสร้างมากมาย เพียงแต่หลวงพ่อให้พิมพ์ภาพท่านมาแจก คนทำบุญ โรงเรียนก็เสร็จแล้ว ก็เสร็จจริง ดังใจนึก
ลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อ ล้วนแต่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นระดับนายทหารระดับสูงก็มาก หลวงพ่อจะเข้า กทม บ่อยมาก คนทางฝั่งธน แถบ พระรามสอง หรือแม้แต่ในเมืองชั้นใน รุ่นเก่า จะมีภาพหลวงพ่อเต่าเกือบทุกบ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นภาพพิมพ์ ผ้ายันต์ เป็นต้น หลวงพ่อมรณะภาพเมื่อปี 2499 อายุ 60 ปี............เบ็น วิเศษฯ เรียบเรียง

เช่าแล้ว

 

เผยแพร่ไปด้วย แบบมีหูในตัวพบเจอแบบนับองค์ได้
พระหล่อทรงคุณค่าอีกหนึ่งสำนักของเมืองอ่างทองที่ราคาน่าสะสม พระสมเด็จ หล่อโบราณ พิมพ์สามชั้น หลวงพ่อสาย วัดท้องคุ้ง อ่างทอง ราคา 3,500 บาท สวยๆครับ

หลวงพ่อเททองหล่อเอง กันในวัด รับประกันตลอดชีพครับ พระสมเด็จนี้สร้างน้อยครับน้อยกว่าแหวนของท่าน การทำเป็นการหล่อเองภายในวัดหลวงพ่อเททองเอง และควบคุม โดยการเทเป็นช่อๆ ประสบการณ์ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าแหวนครับ ด้าน คงกระพันกันอาวุธ และแคล้วคลาดอย่างมาก หลวงพ่อสายท่านเรียนมาในสายวิชาจากหลวงพ่อกลั่นวัดพระญาติ โดยหลวงพ่อสายท่านเรียนจากหลวงพ่อกิ่ม วัดกลางบ้านนา อ่างทอง สมัยก่อนบางคนเข้าใจผิดเล่นเป็นของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์ แต่จริงๆแล้วพุทธคุณ ไม่แตกต่างกันเลยแม้แต่น้อย ต่างกันเพียงราคาเท่านั้น
หลวงพ่อสาย ท่านเป็นครูบาอาจารย์ผู้เฒ่าที่ศิษย์ยานุศิษย์ให้ความเคารพศรัทธายิ่ง ท่านอยู่ในยุคพรรษาใกล้ๆเคียงกับหลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี หลวงพ่อสายได้มรณะภาพเมื่อปี 2529 สิริอายุ 86 ปี 62 พรรษา cr.เบ็น วิเศษฯ

 

รับครับ

 

สมเด็จวัดเยื้องคงคาราม จ.อ่างทอง (พิมพ์เดิมวัดเกศไชโย หลวงพ่อท่านบอกและใช้มวลสารจากสมเด็จวัดเกศรุ่นแรกที่แตกหักมาบดแล้วพิมพ์ใหม่ แต่ไม่ได้บอกว่าทำเมื่อใด) เมื่อ ปี 2538 ผมมีโอกาสได้ไปกราบนมัสการหลวงพ่อเชื้อ วัดเยื้องฯ ไปกับ ผบช.ของผมซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดกับหลวงพ่อเชื้อ หลวงพ่อท่านได้มอบพระ 2 องค์ให้กับผมด้วยมือท่านเอง บอกให้ผมเก็บไว้รักษาตัว เนื่องจากผมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจปฏิบัติงานในพื้นที่ติดแนวชายแดนไทย - พม่า ครับ มีความเสี่ยงภัยมาก ผมรับไว้และใส่กรอบห้อยคอมาตั้งแต่วันนั้น

ปาฏิหารย์ที่ผมประสบด้วยตัวเอง 3 ครั้งที่สำคัญ
1.) เมื่อปลายปี 2538 ผมออกตรวจพื้นที่แต่เช้าประสบเหตุคนร้ายจ่อยิงคนตายกลางตลาดสด และวิ่งหนีมาทางด้านผมนั่งอยู่อีกด้านหนึ่งของตลาด ผมได้ยินเสียงตะโกนของชาวบ้านบอกโจรยิงคนตาย ผมจึงลุกจากโต๊ะกินข้าวเดินออกไปกลางถนนกับเพื่อนๆตำรวจอีก 4-5 คน เดินตามหลังมา คนร้ายวิ่งมาเจอผมพอดี ห่างกันไม่ถึง 10 ม. ใช้ปืนที่ยิงคนตายกระบอกเดิมเหนี่ยวยิงมาที่ผมทันที(9 มม.ซิกฯ) แต่ปืนขัดลำทันทียิงไม่ออกกระสุนคาลำกล้องกระชากไม่ออก กระสุนเต็มแม็ก
2,) ผมนั่งซ่อมปลั็กไฟฟ้าให้ช่างที่มาทำบ้าน ปลั๊กตัวผู้เสียบไว้ที่ตัวปลั๊กตรงคัดเอ้าใหญ่ ส่วนสายไฟฟ้าที่ต่อมาที่ปลั๊กแยกเกิดรั่ว ผมรีบร้อนเกินไปเพราะจะไปทำงาน ช่างขอให้ผมซ่อมปลั๊กไฟให้ก่อนเพราะเขาทำไม่เป็น ผมจึงใช้คีมตัดลวดตัดสายไฟทันที โดยลืมไปว่าลืมถอดปลั๊กเสียก่อน คีมตัดลวดไม่มีฉนวนหุ้มเลย เหล็กล้วนๆ เสียงระเบิดดังสนั่น ควันไฟพวยพุ่งขึ้นเต็มไปหมดบริเวณคัดเอ้าใหญ่ในบ้าน ผมไม่เป้นอะไรเลย ไม่รู้สึกว่ามีไฟฟ้าดูด หรือช๊อตเลย ช่างทุกคนตกใจหมดคิดว่าผมตายซะแล้ว สาธุครับ คัดเอ้าไฟฟ้าไม่เป็นอะไรเลย ผมก็ไม่เป็นอะไร
3.) ออกตามล่าโจรกระเหรี่ยง ปล้นตามแนวชายแดนครับ เกิดปะทะกันยิงกันสนั่นป่า ผมเข้าปะทะอย่างจัง ห่างกันไม่ถึง 10 เมตร โจรกระเหรี่ยงเหนี่ยวยังผมด้วยปืนลูกโม่ แต่ผมไม่ได้ยินเสียงปืนดังครับ แต่ผมก็ยิงสวนกลับวิสามันครับ เมื่อเหตุการณ์สงบ เข้าเคลียที่เกิดเหตุ ปืนลูกโม่ตกอยู่ข้างศพ ตรวจดูแล้วกระสุน6 นัดถูกสับทุกนัดครับ แต่ลูกด้านหมด
มีอีกหลายเหตุการณ์ครับที่ผมประสบ เกี่ยวกับการขับรถอีกหลายครั้ง แต่ผมก็รอดชีวิตมาด้วยพุทธคุณของพระที่ห้อยคอผม (แต่ก็มีความจำเป็นครับ อยากให้ท่านที่เคารพนับถือท่านรับไปไว้บูชาสักองค์รับ)

ประสบการณ์ตรงคัดลอกมาจากกระทู้ประสบการณ์สมเด็จวัดเยื้อง

พระสมเด็จหลวงพ่อเชื้อ วัดเยื้องรุ่น 3

ผสมผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ใบพระอุโบสถเก่าสมัยอยุธยา ราว 400 ปี ผงนี้สำคัญมากและประสบการณ์สูงยิ่ง จนได้รับความนิยมมาก

สวยมาก ราคา 3,500 บาท

 

#เหรียญรุ่นแรก ปี 2506 บล๊อคเกศพระประธานแหลม หลวงพ่อซำ วัดตลาดไหมบูรพาจารย์เบี้ยแก้ แห่งเมืองอ่างทอง สวยกริ๊บ เดิมๆๆๆ ชอบสวยๆคมๆขอบคมๆเดิมๆ เรียนเชิญ 2,500 บาท

ประสบการณ์ยอดเหนียวจัดครับ ผมเคยลงประวัติไปแล้ว ถือเป็นของดีราคาเบามาก สวยๆหายากครับปกติใช่กันสึกเยอะ หลวงพ่อซำท่านมีพรรษากาลมากกว่าครูบาอาจารย์ที่อยู่ในช่วงสร้างเบี้ยแก้ทั้งหมด คือ แก่กว่าหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ ราว 15 ปี แก่กว่าหลวงพ่อนุ่ม 15 ปี แก่กว่าหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ ราวๆ 20 ปี ซึ่งหลวงพ่อพักตร์กับหลวงพ่อซำ และหลวงพ่อองค์อื่นๆที่กล่าวนามท่านมา นั้นเป็นพระเกจิอาจารย์ในยุคเดียวกัน และเป็นพระสหธรรมิกที่สนิทสนมกันมากทั้งหมด และหลวงพ่อทุกรูปก็เคารพหลวงพ่อซำมากเช่นกัน ถือเป็นเหรียญชั้นครูที่ราคาเบามากที่สุด เพราะจำนวนการสร้างมีมากพอสมควร ราคาจึงทิ้งห่าง หลวงพ่อภักตร์ หลวงพ่อนุ่ม หลวงพ่อคำ หลวงพ่อภู อยู่หลายเท่า แต่ประสบการณ์เยี่ยมยอด ของคนท้องถิ่น น่าสะสมเพื่อหวังพึ่งบารมีหลวงพ่อได้เป็นอย่างดียิ่ง

 

มาไหม่ ตระกรุดพระอรหันต์แปดทิศ นิยมมาก หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน อานุภาพคุ้มครองทั้งแปดทิศ เป็นตระกรุดที่สายสะสมติดตามหากันมากเพราะรุ่นแรกศูนย์สร้างมีแค่ 80 กว่าดอก และก็หายสาบสูญไปเลย ไม่พบเห็นหลายปี ผมเคยได้แค่ดอกเดียว

แล้วดอกนี้ยิ่งเป็นของวัด ก็ยิ่งหายากจริงเข้าไปอีก เดินกำตังหาซื้อผมประกันว่าหาไม่ได้... แต่ว่าเราหาได้ และเป็นดอกแรกของร้าน ความขลังไม่ได้แพ้ทางตระกรุดจักรพรรดิ ที่สำคัญขลังซ้อนขลัง หายากซ้อนความหายาก เพราะ

ดอกนี้ หลวงพ่อจารกำกับให้ด้วย นะ โม พุธ ทา ยะ มะ อะ อุ พุธ ทะ สัง มิ นะ ชา ลี ติ

ดอกนี้ ตอกโค้ด ท ไม่มีหัววัดแท้ๆ ตอกเลข และ ท หยดน้ำ ไม่ใช่ ท มั่วๆ...โค้ดตัว ท มีหลายตัวเดี๋ยวนี้เรียกกันมั่วไปหมด คนเป็นจริงก็เยอะ คนที่ตะแบงเล่นก็มาก ความจริงมันก็เป็นแบบนี้ อยู่ที่จะเลือกเล่นอย่างไรให้ชัดเจน และจบ จบที่สุดคือ ท ไม่มีหัวนะจ๊ะ ซื้อง่ายขายคล่อง แบบในภาพ....อ่านจบแล้วรีบด่วน

หายากกว่ามหาจักรพรรดิหลายเท่า ราคา บาท พร้อมส่ง

...

ปิดให้พี่ j999 ครับ

 

ขอจองครับ

 

จัดของหายากๆให้เลย เสื้อยันต์หนุมานเชิญธง จัดสร้างเพียงครั้งเดียว หลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรีปี 19 เล่นพระมาสิบกว่าปี เห็นไม่กี่ตัว และหาสมบูรณ์ยาก ส่วนมากจะขาด ตัวนี้สมบูรณ์มากเดิมๆเก่าเก็บ การเสกเสื้อยันต์เท่าที่ผมทราบ คล้ายการเสกผ้ายันต์ แต่เสื้อจะมีวิธีเสกอีกอย่างหนึ่ง

#หนุมานเชิญธง ทรงฤทธา ตามตำราวัดโบสถ์ เล่าลือกัน ของขลังภูธรวันนี้ เผยแพร่ไปด้วย ของไหม่ยังแพงกว่า

เสื้อยันต์แห่งวิเศษชัยชาญ หลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี ผู้สืบสายตำราหนุมานลงเครื่องใหญ่แห่งหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ โดยตรง ประสบการณ์ ที่ได้ฟังมาจากคนที่ประสบการณ์ตรง ทั้งคงกระพัน มหาอุตม์ ไล่ลมฝน ขับผี การสร้างไม่ยาก แต่เสกแสนยาก ต้องเสกเจ็ดวันเจ็ดคืน เสกกลางวันต้องให้อาทิตย์ทรงกลด เสกกลางคืนต้องให้ดาวตามตำราขึ้นจึงจะถือว่าสำเร็จ พี่ชายของคุณสาคร บ้านสวยกล้วย เมืองอ่างทอง พกผ้ายันต์นี้ถูกยิงด้วยปืน 11 มม. ไม่เข้า ตอนนี้ทั้งพี่ชายและคุณสาครก็ยังมีชีวิตอยู่ ที่สำคัญวิชานี้เป็นสายวิชาที่แรง ถ้าไม่ศึกษาให้ดีจริงแล้วจะยุ่ง เพราะต้องใช้การปลุกเสกหนุนธาตุสูง

เขาว่าจะกินอายุผู้ทำ ดังนั้นพระคณาจารย์ที่ศึกษามาดีแล้ว จะสร้างผ้ายันต์นี้ตอนอายุมาก หรือไม่ก็อายุ 60 ปีไปแล้ว หรือขึ้นอยู่กับพระคณาจารย์ท่านนั้นๆพิจารณา หลวงพ่อกร่ายท่านทำผ้ายันต์นี้ พิถีพิถันมากนะครับ ต้องเลือกวันเสกที่เป็นการหนุนกับยันต์ และต้องเสกในพระอุโบสถ์ ตำรายันต์หนุมานนี้เป็นตำราที่สืบสายมาแต่ หลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ ถือเป็นยันต์สำคัญในสายวิชานี้

เสื้อยันต์นี้หลวงพ่อกร่ายท่านสร้างไว้เพียงครั้งเดียว ราคาถึงจะไม่แพงมาก แต่แฝงไปด้วยคุณค่ามหาศาล ศรัทธาวัดค่าเป็นเงินไม่ได้ วัตถุมงคลหลักราคาใดก็สู้ใจที่ศรัทธาไม่ได้ หลวงพ่อกร่ายท่านมรณะภาพเมื่อปี 2530 อายุ 84 ปี สังขารไม่เน่าเปื่อยตลอดระยะเวลา 6 ปี จนมาพระราชทานเพลิงเมื่อปี 2536 หลวงพ่อมีความศักดิ์สิทธิ์ ด้วยวิทยาคมเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งต่อสายตาผู้คนในเมืองวิเศษ และขลังด้วยคุณงามความดี มีวาจาศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เลื่องลือยิ่ง.

.cr.เบ็น วิเศษฯ

สภาพนี้หายากมากแล้วครับ ราคา 4,500 บาท พร้อมส่ง


ขายแล้ว

 

#มาไหม่ พระพิมพ์ปรกโพธิ์หลังรูปเหมือน ของดีที่มีประสบการณ์ สูง เห็นเนื้อแดงๆแล้วมีพลัง แดงๆนี้นิยมสุดๆๆๆ องค์แรกแดงๆๆๆๆธรรมชาติ ในรอบสามปี ซื้อแพงสุดตั้งแต่เคยเช่ามาแต่ต้องยอม เพราะถ้าไม่ซื้อก็ต้องยืนดูเจ้าของเก็บใส่กล่อง และของก็ไม่ได้ เมื่อก่อนเรายืนดูลูกค้าซื้อ ตอนนี้ให้ลูกค้ายืนดูเราซื้อบ้าง

พระสมเด็จปรกโพธิ์พลิกแผ่นดิน แบบที่นิยมสุดแบบหนาเนื้อแน่น หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน หายากมากบางองค์ใช้บูชาไปเรื่อยๆจะออกแดง รุ่นนี้จะเรียกว่ารุ่นฟ้าผ่าก็ไม่ผิดครับ คือถูกฟ้าผ่าไม่เสียชีวิต เหตุการณ์เกิดขึ้นกับแม่ของผู้ที่เคารพศรัทธาในองค์หลวงพ่อที่จังหวัดตราดซึ่งเคยลงประสบการณ์ในกลุ่มหลวงพ่อทรง ศึกษาและสะสมแบบมาตรฐาน ไปแล้วลอง ไปหาอ่านกันดูครับ นอกจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยคือ ประสบการณ์เก่าด้านพลิกชะตา พลิกสถานการณ์ กลับร้ายกลายเป็นดีสำหรับพิมพ์นี้มีประสบการณ์มานาน และนิยมสะสมมากๆๆ

ราคา 9,500 บาท พร้อมส่ง


เช่าแล้ว

 

#ราคาสอบถามจัดสร้างเพียง 59 เหรียญ ไม่ได้มีผ่านมาบ่อยๆ ท่านที่ศรัทธาและตามหา เรียนเชิญ

#ท่านท้าวประทุมพรหมบุตร เป็นนามแทนพระพรหมทุกพระองค์ในพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ที่อาราธนาพระผู้มีพระภาคเจ้าแสดงธรรมโปรดเวไนยสัตว์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงมีพระเมตตาแสดงธรรมแก่สัตว์โลก ช่วยเหลือสรรพสัตว์ ...เป็นการระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย คุณพระพรหมที่มีเมตตา กรุณา มุทิตาจิต ต่อมนุษยโลก อานุภาพแห่งพระรัตนตรัย อานุภาพแห่งพระพรหมทุกพระองค์ในภัทรกัปป์นี้ ได้อัญเชิญและประจุลงในวัตถุมงคลท่านท้าวประทุมพรหมบุตรของพระเดชพระคุณ พระครูวิธานสุตสุนทร(หลวงพี่ วัดเงิน) ไว้หมดแล้ว...ดังเฉกเช่น บทอาราธนาธรรม ที่ใช้กันทุกกาลแสดงธรรม
#พรัหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาปปะรักชักขะชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง ฯ
#ท้าวสหัมบดีพรหมผู้เป็นอธิบดีของโลก ได้ประนมพระหัตถ์นมัสการกราบทูลวิงวอนสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ทั้งหลายที่มีธุลคือกิเลสในดวงตาเบาบางยังมีอยู่ในโลกนี้ ขอพระองค์จงแสดงพระธรรม ทรงอนุเคราะห์หมู่สัตว์นี้เถิด ฯ..

ข้อมูลจากอาจารย์วิม ศิษย์วัดเงิน

จัดสร้างเพียง 59 เหรียญเท่านั้น หาชมยากมากครับ ราคา 9,500 "บาท

 

มาไหม่กว่าจะได้แต่ละองค์ #เล่าสู่กันฟังสำหรับคนไม่รู้ ขลังดี ไม่จำเป็นต้องแพง

พระสิวลีเนื้อผงน้ำมัน หลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี พุทธคุณไม่แตกต่าง นิยมบูชาแทนพระสิวลีหลวงพ่อกวยที่มีราคาแพง

หลวงพ่อกร่ายท่านสนิทสนมกับหลวงพ่อกวยมากนะครับ พระผงของหลวงพ่อ ผสมผงของหลวงพ่อกวยด้วยเกือบทุกรุ่น รวมทั้งสิวลี นอกจากผงหลวงพ่อกวยยังมีผงของเจ้าคุณนรรัตน์ วัดเทพฯ และอื่นๆ ซึ่ง(กำลังหาข้อมูลเพิ่มเติมอยู่) เรื่องนี้ศิษย์รุ่นเก่าๆ ของหลวงพ่อกร่ายจะทราบดี เพราะบางเรื่องไม่จำเป็นต้องโฆษณาป่าวประกาศให้ชาวบ้านรับรู้ สมัยก่อนหลวงพ่อกร่าย ท่านจะให้หลวงพ่อแจะ (ลูกศิษย์ท่าน และต่อมาเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อจากหลววพ่อกร่าย) นำผ้าป่าไปทอดที่วัดโฆสิตารามเป็นประจำทุกปี
หลวงพ่อกร่ายท่านเป็นเกจิอาจารย์องค์สำคัญอีกองค์หนึ่งของ อ.วิเศษฯ ท่านมีวาจาสิทธิ์มีชื่อเสียงมาก เป็นที่ยอมรับของวงการพระท้องถิ่น สังขารท่านมรณะภาพแล้วไม่เน่าเปื่อย แม้แต่ภาพแจกงานศพท่านก็ไม่ไหม้ไฟครับ อันนี้คนพื้นที่ทราบกันดี

หายากนะครับแต่เราหาได้ ราคา 3,000 บาท พร้อมส่ง

ปิดให้คุณ sepultura ครับ

 

#เผยแพร่ไปด้วย พระพิมพ์ขุนแผน หรือพิมพ์ ซุ้มเรือนแก้ว วัดอ่างทองวรวิหาร ราวๆปี 2491 พิมพ์ที่รุ่นสร้างเขื่อนวัดไชโยไม่มี แต่ของวัดอ่างทองมี พระสวยมีหน้าตา

ตามประวัติ พิธียิ่งใหญ่ระดับจังหวัดในสมัยนั้น

เนื้อเดียวกับรุ่นสร้างเขื่อน แค่ออกผิดวัด ราคาทิ้งห่างกันเป็นทุ่ง (แค่ค่านิยม) คนรู้ก็เก็บกันเรียบไปนานแล้ว มีปริ้นเอาออกมาขายกันบ้างก็ไม่มาก ของดีที่แนะนำนะจ๊ะ เดี๋ยวว่าไม่บอก ถ้าเห็นคุณค่าเพื่อพึ่งพุทธคุณ ไม่ได้ยึดติดเรื่องรุ่นและวัด บอกเลยว่า ไม่มีความแตกต่างกับรุ่นสร้างเขื่อนแม้แต่น้อย

เป็นวัตถุมงคลที่จัดสร้างพร้อมกับพระสมเด็จ วัดเกษไชโย รุ่นสร้างเขื่อน มวลสารพระสมเด็จแตกหักของพระสมเด็จ วัดเกษไชโย ในกรุ วัดไชโยที่แตกหัก ของสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี จริงๆแล้วใช้เนื้อเดียวกันเลยครับ สมัยนั้นท่านเจ้าคณะจังหวัดอ่างทองหลวงปู่แผ้ว กับท่านเจ้าคุณวัดไชโยท่านสนิทกันมาก เนื้อหาทั้งหมดทางวัดไชโยเป็นผู้เตรียม และแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกนำไปกดพิมพ์รุ่นเจ็ดชั้นสร้างเขื่อน ซึ่งปัจจุบันสวยๆราคาหงายหลัง เนื้ออีกส่วนหนึ่งนำมากดพิมพ์พระพิมพ์ของวัดอ่างทอง หลังกดพิมพ์เสร็จก็นำเข้าพิธีพร้อมกันเมื่อปี 2491

เป็นหนึ่งในสมเด็จที่ประวัติชัดเจนมาก แต่ราคายังห่างรุ่นสร้างเขื่อนเป็นสิบเท่า เพียงแค่ไม่ได้ออกโดยตรงที่วัดไชโย

ใช้บูชาแทนพระสมเด็จเกษไชโยสบายๆครับ คนที่รู้จะห้อยคอสบายใจมาก cr. เบ็น วิเศษฯ

ราคา 3,500 บาท

 

รับครับ

 

​

✨มาไหม่ เผยแพร่ไปด้วย✨ ผิวปรอทวิ่งๆ พระดีพิธียิ่งใหญ่ ระดับปรมาจารย์ทั้งนั้นที่ร่วมอธิฐานจิต มีใช้บูชามาบ้าง

ราคาตามสภาพ 13,500 บาท เน็ตเลยไม่แพงแล้วจ่ะ .สวยๆเป็นแสนครับ.......

สมเด็จหู หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ 2482 สมเด็จหู(พิมพ์เหลี่ยม)นิยม หล่อโบราณ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ อ่างทอง สร้างปี 2482 รุ่นนี้มีเก๊มานานครับ แต่เป็นทองเหลือง ของแท้เป็นโลหะผสมหรือเรียกว่าทองผสมครับ ถ้าให้ผมพูดถึงพระหล่อโบราณของเมืองวิเศษชัยชาญ ที่มีประวัติพิธีที่ชัดเจนที่สุดและมีพระคณาจารย์ระดับแนวหน้าของเมืองไทยและระดับครูบาอาจารย์ของเมืองวิเศษฯที่อัดแน่นที่สุดก็เห็นจะเป็นสมเด็จหูหล่อรุ่นนี้ครับ เพราะประวัติการสร้างนั้น สร้างเมื่อปี 2482 โดยมีหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอกเป็นประธานปลุกเสก หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก(หลวงพ่อจงท่านมาแน่นอนครับหลวงพ่อเสียน วัดมะนาวหวานเคยได้รับสมเด็จหูหลวงพ่อคำ จากหลวงพ่อจงมาแล้ว ซึ่งหลวงพ่อเสียนท่านเคยเล่าให้ผมฟัง ว่าท่านไปกับหลวงพ่อเล็ก วัดมะนาวหวาน (อาจารย์ท่าน) หลวงพ่อซำ วัดลาดไหม่ และพระคณาจารย์เมืองวิเศษฯที่ไม่ได้เอ่ยนามในสมัยนั้นอีกคับคั่ง ขณะเททอง มีพระพิธี สวดอิติปิโส 108 จบ สมัยนั้นยังไม่มีบทสวดพุทธาภิเษก (เรื่องนี้หลวงปู่เล็ก วัดทำนบได้เคยเล่าไว้ เหตุด้วยท่านเป็นผู้ที่นั่งนับจำนวนจบ ของบทสวด โดยใช้นับจำนวนด้วยก้านธูป) เหรียญหล่อรุ่นนี้ได้รับความนิยมมานานมาก มีประสบการณ์โชกโชน ทั้งแคล้วคลาดและมหาอุตม์

ช่วยคุ้มตัวคนมามากต่อมาก เพราะเมืองวิเศษชัยชาญสมัยนั้น ถ้าจะให้กล่าว โดยที่ไม่เกินความจริงนักจะเรียก ว่าดงนักเลงก็ไม่ผิด เมื่อก่อนหลวงพ่อแต่ละรูปที่จะออกของนั้นถ้าไม่แน่จริงแล้วไม่ออกกัน เพราะเมื่อก่อนผู้เรืองอาคมมากมาย ฆานวาสเก่งๆหมอคุณกระทำมีเยอะ ถ้าออกของวัตถุมงคลมาช่วยเขาไม่ได้ก็เท่ากับว่าเป็นการทำให้เสียชื่อตัวเอง ดังนั้นพระคณาจารย์สมัยก่อนจึงได้รับความนิยมเป็นอมตะในหลายๆพระคณาจารย์เหตุเพราะทำได้จริงเห็นผลจริง ถ้าเอ่ยถึงสมเด็จหูแล้ว สมัยก่อนหลายคนต้องร้องอ๋อ เพราะชื่อเสียงโด่งดังมาก เพราะเรื่องประสบการณ์และความนิยมบอกได้คำเดียวว่า แน่น ลองคิดเล่นๆ ว่าการจัดการพิธีหล่อพระสมัยก่อนนั้น ไม่มีการทำออกมาแบบเล่นๆหรือโปรโมท ขายของ ของที่ทำทำจริง เสกจริงครูบาอาจารย์ที่มาเสกก็ระดับปรมาจารย์ของยุคนี้ อาจมีการออกทำบุญก็เพื่อการพระศาสนาโดยตรง ไม่มีนายทุน ไม่มีกำไรทำด้วยใจและศรัทธาล้วนๆ ในการหล่อนั้นพิธีโบราณมีความยุ่งยากมาก ไม่ใช่นึกจะหล่อก็หล่อกันได้ง่ายๆ พระอาจารย์ที่มาจับสายสูตรเททองต้องคุมพิธีเป็นด้วยวิทยาคม คุมธาตุ ปรุงธาตุ ถ้าไม่แน่นด้วยกสินแล้วขลังยาก และวิทยาคมระดับไม่ธรรมดา พระจึงจะออกมาได้บริสุทธิ์ และเข้มขลังจริง การหล่อในครั้งนั้น มีชาวบ้านและประชาชนมากันเนืองแน่น ก่อนการเททอง ได้ให้ประชาชนที่มีจิตศรัทธา บริจาค สร้อยแหวน เงิน ขันเงิน ทองเหลือง ทองคำ ช้อนแสตนเลสหรืออะไรต่างๆตามกำลังศรัทธาของประชาชน พิธีครั้งนั้นจัดได้ยิ่งใหญ่และเข้มขลังอย่างยิ่ง

ในการหล่อที่มีการนำโลหะผสมจำนวนมากต่างชนิดกัน มาผสมกันนั้น ทำให้เนื้อหาของพระมีความไม่เข้ากัน มีหลายสีในบางองค์และส่วนมากจะมีพลายเงิน ที่เกิดจากการผสมปรอทและดีบุก สมเด็จหูนั้นอย่างที่บอกสมัยก่อนโด่งดังมากด้วยพิธีดี และมีประสบการณ์แบบไม่ต้องเชียร์ หลวงพ่อท่านก็ได้ทำการแจกไปเรื่อยๆจนหมด มีอยุ่ครั้งหนึ่ง มีคนไปขอพระจากหลวงพ่อ โดยเข้าไปที่วัด เมียงๆมองๆ เห็นหลวงพ่ออยู่ก็คลานเข้าไปกราบหลวงพ่อและกล่าวกับหลวงพ่อว่า หลวงพ่อครับ ผมมาขอพระหลวงพ่อครับจะเอาไปใช้ หลวงพ่อท่านมองหน้า แล้วมือหลวงพ่อพลันไปคว้ากระโถนด้านหลังท่าน ขว้างใส่ลุงท่านนั้นพร้อมไล่ตะเพิด พร้อมกับหลวงพ่อได้กล่าวว่า มึงนี่ไม่รู้กาละเทศะ มึงเป็นใครจะมาใช้พระ ถ้ามึงเอาไปใช้ไม่ต้องเอาไป ถ้าเอาไปบูชาค่อยมาเอา ลุงแกหน้าจืดหนีออกมาแทบไม่ทัน จะเห้นได้ว่าหลวงพ่อท่านเคร่งครัดและยึดถือในองค์พระรัตนตรัยอย่างยิ่ง เล่าเรื่องสมเด็จหูแล้วไม่เล่าเรื่องประสบการณ์ก้จะเป็นการขาดอรรถรสไป สมเด็จหุของหลวงพ่อนั้นสมัยก่อนคนที่ได้ไปเข้าจะห้อยคอกันทันที เพราะนับถือในองค์หลวงพ่อ

สมัยก่อนนั้นหลวงพ่อท่านเป้นพระอุปัชฌาย์ บวชลุกศิษย์ลูกหาทั่วอำเภอเหรียญรุปท่านรุ่นแรกก็เช่นกัน ส่วนมากพบเจอแต่แบบสึกเลี่ยน เตียนโล่งทั้งนั้น หาสวยๆยากมากครับ สมเด็จหูนั้นหล่อหูในตัว จึงเหมาะอย่างยิ่งในการพกพาติดตัว หรือห้อยคอได้ทันทีไม่ต้องไปเสียเงินเลี่ยม สมัยก่อนโจรผู้ร้ายชุกชุม มีอยู่ครั้งหนึ่งมีการตามจับโจร ไปท้ายตลาดวิเศษ เมื่อก่อนท้ายตลาดจะมีบ่อน้ำอยู่ ไล่จับตามไปจนถึงที่นั่นยุคผู้กองยอดยิ่งกวาดล้างผู้มีอิทธิพล มีการตามจับและใช้อาวุธปืนยิง กลุ่มโจร แต่อัศจรรย์ครับ โจรมิได้ระคายผิวหนัง ได้แต่นอนกลิ้งด้วยความจุก ได้จังหวะก็เข้าชาจประชิดตัว แต่ก็ยิงไม่ออกตีจนน่วมก็ไม่ตาย จึงค้นตัวอ้าปากออกไปเจอสมเด็จหูหลวงพ่อคำเพียงองค์เดียว พอเจอพระโจรถึงกับหน้าถอดสี สุดท้ายเรียบร้อย... มีอีกเรื่องหนึ่งเอาคร่าวๆเพื่อประกาศ ให้คนรู้ว่าสมเด็จหูนั้นของจริง รุ่นนี้คนนิยมมากนิยมมายันหัวตะพานบ้านผม เพราะสมัยก่อนหลวงพ่อท่านจะเดินลัดทุ่งมาบวชพระถึงหัวตะพาน วัดกลาง วัดหัวตะพาน คนที่บ้านผมเจอด้วยตนเอง คนเล่าก็ยังไม่ตาย เรื่องมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่งเมื่อสักสิบกว่าปีที่แล้ว จ.ส.อ วันชัย กลิ่นบุหงา ได้ถูกเรียกตัวไปลาดตระเวนชายแดน เมื่อทางบ้านรู้ข่าว พ่อของจ่าวันชัย ด้วยความเป้นห่วงลูกที่จะต้องไปชายแดนสิ่งที่ให้ได้และเพื่อความสบายใจและหวังว่าจะช่วยให้จ่าวันชัย กลับบ้านได้อย่างปลอดภัย คือ สมเด็จหูพิมพ์มน ที่พ่อของจ่าวันชัยรับมากับมือหลวงพ่อคำ พ่อของจ่าแกหวงพระองค์นี้มาก เพราะอะไรถึงหวงทราบไหมครับ สมัยนั้นก็มีประสบการณ์เรื่องมีดๆปืนๆมาไม่ใช่น้อยแล้ว พ่อจ่าจึงหวงมาก แต่ก็ให้ลูกชายไป และกำชับว่ากลับมาจากราชการให้เอามาคืน..

.จ่าออกเดินทางไปได้ไม่นาน ก็มีข่าวแจ้งจากราชการว่า ชุดลาดตระเวนที่จ่าวันชัยประจำการอยู่นั้น เหยียบกับระเบิด เสียชีวิตเกือบทั้งหมด ที่ผมว่าเกือบทังหมดนั้น เหลือจ่าแกรอดตายมาคนเดียว นอกนั้นอีก 6 คนเสียชีวิตทั้งหมด ในตัวจ่าแกก็มีสมเด็จหูเพียงองค์เดียวที่พ่อจ่าให้ไว้ พอจ่าแกรอดมาคนเดียวก็ทำให้จ่าแกดังมาก มีคนมารุมล้อมถามแกว่ามีอะไรดีจึงรอดมาได้คนเดียว จ่าแกก้เอาพระให้ดู เป็นเรื่องธรรมดาที่มีของดีใครๆก้อยากได้ครับ ผู้บังคับบัญชาจ่าแกเลยเรียบเคียงขอพระองค์นั้นจ่าวันชัย สุดท้่ายจ่าแกให้ไป พอกลับมาบ้านเมื่อถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว พอจ่าก็ถามถึงพระสมเด็จหูที่ให้ไป พอจ่าบอกว่าให้หัวหน้าไปแล้วเท่านั้นหละครับ พอแกเคืองมาก ถึงกับให้จ่าพาเข้ากรุงเทพ ไปเอาพระคืน นี่พ่อของจ่าแกนับถือจริงๆ ชาวบ้านเขานับถือกันขนาดนั้น สรุปว่าพ่อจ่าแกเข้ากรุงเทพฯไปรอ และขอพระองค์นั้นคืน ไปรอถึงเจ็ดวัน เพราะหัวหน้าติดราชการ ถ้าไม่ได้พระ พ่อจ่าแกไม่กลับ เพิ่มเติมนิดครับ สมเด็จหูนั้นที่เรียกสมเด็จหูก็เพราะว่า การหล่อนั้นหล่อแบบมีหูในตัว ในเหรียญที่หล่อนั้นเป็นรูปสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสีหน้าหนึ่ง และ หลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ วัดไชโย อีกหน้าหนึ่ง การห้อยพระหลวงพ่อท่านให้ห้อยเอาหลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ออกหน้าครับ วันนี้ลงเพื่อเผยแพร่พระคณาจารย์ แห่งแขวงเมืองวิเศษชัยชาญครับ ประวัติการสร้างชัดเจนมากครับพระคณาจารย์ระดับประเทศสมัยนั้นมากันแน่ครับ... พระไหม่ๆ เดี๋ยวนี้ยังแพงกว่า น่าเสียดายครับ

...เบ็น วิเศษฯ เรียบเรียง พระพิมพ์ที่มีประสบการณ์โชกโชนยิ่ง