หลวงพ่อปานสร้างพระเครื่อง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 3 กรกฎาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    หลวงพ่อปานสร้างพระ

    http://www.palungjit.org/smati/books/index.php?cat=79
    <!--?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:


    [​IMG]<o:p</oในเมื่อหลวงพ่อปานเรียนตำราแล้ว ต่อมาก็เริ่มทำพระ การทำพระของหลวงพ่อปานบรรดาพุทธบริษัท บรรดาลูกหลานทั้งหลายควรจะทราบว่า แบบพระของท่านไม่ค่อยจะเหมือนกันนัก เพราะคนแกะพิมพ์พระน่ะหลายคนด้วยกัน เวลาบรรจุผงก็เหมือนกัน หลวงพ่อ ปานทำผงไว้มาก ทำพระไว้ถึง 885 ปี

    ท่านนำมาแจกแก่บรรดาสาธุชน 440 ปีบ แล้วก็บรรจุไว้ในเจดีย์องค์ใหญ่ที่ท่านสร้างไว้ 440 ปีบ นี่ทราบกันไว้ด้วยนะ พระนี่มีอานุภาพแปลกคือว่าพระของท่านหรือของต่าง ๆ ที่ท่านเอาออกแจกก็ตาม ท่านไม่เคยบอกว่าของ ๆ ท่านเป็นของคงกระพันชาตรี อันนี้ต้องจำกันไว้ด้วย ใครที่จะรับของ ๆ หลวงพ่อปานแล้วจงทราบว่าหลวงพ่อปานไม่เคยรับรองเรื่องคงกระพันชาตรี เพราะเรื่องนี้ถ้าใครรับรองคนนั้นก็โง่ มันเป็นกฎแห่งกรรม คนที่เหนียว ๆ ยิงไม่ออกฟันไม่เข้า แต่ก็ทะลุทุกราย

    ถ้ากรรมชั่วมันเข้ามาถึงแล้วกรรมที่เป็นบาปมันก็เปิดโอกาสให้ คนหนังเหนียวนี่ตายเพราะอาวุธนับไม่ถ้วน ทีนี้พระของหลวงพ่อปานก็มีอยู่ว่าเป็นพระหมอ ท่านเขียนไว้อย่างนั้นนะ แก้โรคทุกอย่าง ใครจะเป็นโรคอะไรก็ตาม เอาพระใส่ลงไปในขันนี้ แล้วอาราธนาเอาทำนั้นมนต์ วิธีอาราธนาก็ไม่ยากบอกว่าขอบารมีพระพุทธเจ้าและสัตว์พาหนะ ถ้าพระองค์นั้นเป็นหนุมาน หรือว่าพระเม่น พระไก่ พระนกกระจาบ พระปลา พระครุฑ ก็ตามก็ออกชื่ออย่างนั้น ขอจงทำน้ำมนต์นี้รักษาโรคนั้นให้หายโดยฉับพลัน ว่ายังงี้ 3 จบ แล้วก็ใช้น้ำมนต์รดชาวบ้านได้ นี่เป็นวิธีใช้พระของท่าน ถ้าหากว่าถูกงูกัด ตะขาบ แมงป่องกัด หรือสัตว์ที่มีพิษกัด ให้เอาพระจุ่มน้ำแล้วอาราธนาบารมี พระพุทธเจ้าและสัตว์พาหนะให้ดูดพิษนั้นออกให้หมด แล้วเอาหลังพระแปะลงไป เอาศีรษะท่านขึ้นมาทางหัวเรา จะถูกกัดที่ข้อเท้าอะไรก็แปะได้ แต่ครั้นแปะลงไปแล้วพระจะเริ่ม ดูดพิษ ขณะที่พิษยังไม่หมดพระจะติดแน่นอยู่ จะเดินไปก็ไม่หลุด แต่ก็ต้องระวัง ๆ เพราะไปถูกกัดในป่าที่สัตหีบ

    เอาพระของหลวงพ่อปานไปด้วย ฉันเคยแจกให้ไป แกก็ไปปิดเข้า ปรากฏว่างูตัวนั้นมันเป็นงูเห่า เพราะลงไปในหนองน้ำเล็ก ๆ จึงถูกงูกัด คนถูกงูกัดเป็นนายทหาร บรรดาทหารก็พากัดวิดน้ำปรากฏว่ามีงูเห่าอยู่ตัวเดียวเลยทุบตาย พิษที่มันแสดงออกเป็นอาการของพิษงูเห่า แต่ว่าในที่สุดเมื่อเอาพระแปะเข้าพระก็ติดแน่นสนิท พอพิษหมดพระก็หล่น ทีนี้พอถึงเวลาทอดกฐินเดือน 12 ปี นั้นฉันอยู่วัดบางนมโค คณะทหารเรือแกแห่กันมารับพระประมาณ 4-5 ร้อยคน ถามว่ามาทำไป บอกว่ามาขอรับพระแก้งูกัด แกรู้อยู่คนเดียว เป็นอันว่าพระ ของหลวงพ่อปานใช้ในทางค้าขายก็ได้ ทางทำนา ทางเมตตามหานิยมก็ได้ กันผีกันสางก็ได้หมดแต่ว่าเรื่องคงกระพันชาตรีท่านไม่รับรอง จำกันไว้ให้ดีนะ <o:p></o>
    ตอนนี้ มาว่ากันถึงวิธีสร้างพระ วิธีสร้างไม่ยาก แต่ว่าวิธีทำผงพระซียากมาก การทำผงพระประเภทนี้ต้องมีสมาบัติ 8 แล้ว ก็จำได้หรือยังว่าพระสัตว์มี 6 ชนิด คือ รูปหนุมาน รูปไก่ รูปครุฑ รูปปลา รูปเม่น แล้วรูปนกกระจาบ ถ้าหากว่าจะทำพระนกกระจาบ ก็ต้อง เอาผ้าขาวมาเสกให้เป็นนกกระจาบ ๆ ก็จะกางปีกขึ้นจะมีคาถาอยู่ในปีก แล้วก็ลอกคาถาในปีกก มาทำเป็นผง จะทำพระหนุมานก็ต้องเสกผ้าขาวให้เป็นหนุมาน เป็นพระไก่ พระครุฑ พระอะไรก็เหมือนกัน แล้วสัตว์ต่าง ๆ ก็จะแสดงอาการนั้น ๆ ให้คาถาปรากฏที่ตัวของตัวเอง แล้ว ก็นำคาถานั่นแหละมาทำผง เวลาทำผงต้องนั่งปลุกเสกอยู่ในโบสถ์ ต้องอดข้าว 7 วัน แล้วก็ 7 วัน 7 คืน ออกจากที่ไม่ได้ ต้องเข้าสมาบัติกันเต็มที่

    วิธีนี้หลวงพ่อปานเคยให้ฉันเรียนเหมือน กัน ฉันเรียนได้แต่ทำไม่ได้ หลวงพ่อปานท่านแพ้ฉันอยู่อย่าง แพ้ตรงที่ท่านหยังผ้าขาวมาเสกให้เป็นหนุมาน เป็นไก่ เป็นครุฑ มันไม่เป็น มันเป็นผ้าขาว แสดงว่าการเสกของฉันมันเป็นนัจจังจริง ๆ ไม่มี การเปลี่ยนแปลง นี่เป็นการวัดความสามารถระหว่างพระอภิญญากับพระเนื่องในวิชชา 3 สำหรับฉันน่ะจะเรียกว่าพระวิชชา 3 ตรง ๆ ยังไม่ได้ ต้องเรียกว่าพระเนื่องในวิชชา 3 เพราะในขณะนั้นยังไม่ครบถ้วนบริบูรณ์ ยังเป็นส่วนโลกียวิสัย จึงยังเรียกว่าพระวิชชา 3 ไม่ได้ พระวิชชา 3 กับพระอภิญญา 6 มีความสามารถต่างกันมากในด้านฤทธิ์นะ ในด้านความสามารถต่าง ๆ ข้อปลีกย่อย นี่เล่ากันให้ฟังว่าวิธีทำพระของหลวงพ่อปานน่ะทำยาก การแจกพระสมัยนั้นหลวงพ่อปานท่านแจกน่ะแจกจริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่แจกเฉย ๆ เวลาแจกหุงข้าว เลี้ยงคนมารับพระเสียอีกด้วย คนมากันมืดฟ้ามันดิน แจกกันขนาดหนัก แจกกันคนละองค์ แต่คนรับก็แสนฉลาด มารับหัวแถวแล้วก็เดินไปยืนท้ายแถวว่ากันอย่างนั้น วันแรกเสียท่าวันต่อมาหลวงพ่อไม่เอาอย่างนั้น แล้ว เอาใหม่ เริ่มฉลาด

    พอแจกแล้วเอาปูนแดงที่เขากินกับหมากนี่ป้ายที่เสื้อ คนรับเขาก็ฉลาดอีก มันออกไปข้างนอก กลับเสื้อข้างนอกเข้าข้างในเสีย กลับมารับใหม่ นี่ไอ้เรื่องจะหนีคนโกงน่ะมันหนียาก หนียากจริง ๆ การแจกพระของท่านแจกกันอยู่ถึง 1 เดือน คนมารับเต็มไปหมด แล้วท่านก็หุงข้าวเลี้ยง ทำกับข้าวเลี้ยง เรื่องสตางค์นี่ใครเขาจะให้หรือไม่ให้ท่านไม่รู้ ตอนนี้ฉันสู้ท่านไม่ได้แน่ ฉันไม่กล้าไปวัดบารมีของท่าน ฉันทำอะไรเวลานี้ฉันแจกฟรีเหมือนกัน ใครมาขอฉัน ฉันก็แจกฟรี ใครจะให้สตางค์ฉันก็เอา ถ้าไม่ให้ฉันก็ไม่ทวงเขา แล้วก็ไม่ว่าไม่ตำหนิติเตียน ไม่คิดนึกด่าในใจด้วย เต็มใจให้ แต่ว่าอีตอนหุงข้าวเลี้ยงนี่ทำไม่ได้แน่ เพราะฉันหากินเองไม่ไหวแล้วนี่ หากินเองไม่ได้ ต้องพี่งลูกหลานกิน ถ้าไปหุงข้าวเลี้ยงคนพวกนั้นเข้าอีกลูกหลานก็จะเบื่อ เออ มันแย่นะ สู้กันไม่ได้ แต่ฉันก็ไม่อยากสู้ท่าน มันเทียบกันไม่ติด เอาละ เมื่อว่ากันถึงวิธีแจกพระ เสร็จไปนะ นี่เป็นเรื่องเบ็ดเตล็ด การทำพระอย่าลืมนะว่าหลวงพ่อปานต้องใช้สมาบัติ 8 ต้องอาศัยรูปฌาน พระของท่านจึงมีความหมายมาก เวลานี้พระหลวงพ่อปานมีมากกว่าสมัยทีท่านอยู่ ทั้งนี้เพราะอะไร ก็เพราะว่าเวลา ท่านตายแล้วนี่ชื่อเสียงท่านโด่งดังมาก ก็มีคนช่วยทำมาก เวลานี้คนช่วยทำเยอะ รูปพระของหลวงพ่อปานนั้นทำไม่ยาก แล้วคนก็ทำได้ง่าย ๆ เขาก็ช่วยกันทำ ช่วยกันแจก เป็นการประกาศบารมีของพระพุทธเจ้า และประกาศความดีเด่นของหลวงพ่อปาน หรือว่าเขาจะหวังเป็นอาชีพ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เรื่องนี้ขอผ่านไปนะ<o:p</o
    --></b>
     

แชร์หน้านี้

Loading...