หลวงพ่อพระราชพรหมยานอธิบายเรื่องนิมิตในการเจริญอสุภกรรมฐาน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 20 พฤศจิกายน 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>นิมิตในอสุภกรรมฐาน <HR SIZE=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=32>อสุภกรรมฐานก็มีนิมิตเป็นเครื่องกำหนดในการเข้าถึงเหมือนกสิณ แต่ต่างจากกสิณ ตรงที่เอารูปซากศพเป็นนิมิต ไม่ยกเอาธาตุหรือสีภายนอกเป็นนิมิต นิมิตในอสุภนี้ก็มีเป็นสองระดับเหมือนกันคือ ๑. อุคคหนิมิต ได้แก่นิมิตติดตา คือรูปเดิมที่กำหนดจดจำไว้ และ ๒. ปฏิภาคนิมิต ได้แก่นิมิตที่เป็นอัปปนาสมาธิ คือรูปต่างจากภาพเดิมดังจะได้ยกมาเขียนไว้ดังต่อไปนี้</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>๑. อุทธุมาตกอสุภ

    เป็นร่างกายของคนหรือสัตว์ที่ตายไปแล้ว นับแต่วันตายเป็นต้นไป มีร่างกายขึ้นบวม พองไปด้วยลม ที่เรียกว่า ผีตายขึ้นอืด ท่านให้กำหนดรูป แล้วภาวนา "อุทธุมาตะกัง ปฏิกุลัง"

    อุคคหนิมิต ปรากฏเป็นภาพศพนั้น เป็นรูปน่าสะพรึงกลัว

    ปฏิภาคนิมิต ปรากฏเป็นเหมือนคนอ้วนพีผ่องใส ผิวสดสวย นอนหลับอยู่
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    ๒. วินีลกอสุภ

    เป็นร่างกายที่มีสีเขียว สีแดง สีขาว คละปนระคนกัน กำหนด พิจารณาสี มีสีเขียว สีแดง สีขาวปนกัน เมื่อขณะกำหนดรูปให้ภาวนาว่า "วินีละกัง ปฏิกุลัง"

    อุคคหนิมิต ภาพนิมิตสีเขียว สีแดง สีขาว เกิดติดตาติดใจคละกัน

    ปฏิภาคนิมิต ปรากฏว่าในจำนวนสีสามสีนั้น มีใดสีหนึ่งแผ่ปกคลุมสีอีกสองสีนั้นจนหนาทึบ ปิดบังสีอื่นหมด
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    ๓. วิปุพพกอสุภ

    เป็นซากศพที่มีน้ำเหลืองไหลอยู่เป็นปกติ ท่านให้พิจารณาน้ำเหลืองน้ำหนองเป็นอารมณ์ ภาวนาว่า "วิปุพพะกัง ปฏิกุลัง"

    อุคคหนิมิต ปรากฏเห็นเป็นน้ำหนองไหลอยู่เป็นปกติ

    ปฏิภาคนิมิต ปรากฏเป็นร่างนั้นสงบนิ่งอยู่ แต่ไม่มีอาการไหลของน้ำเหลืองน้ำหนองเหมือนในอุคคหนิมิต
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    ๔. วิฉิททกอสุภ

    เป็นซากศพที่มีร่างกายขาดเป็นสองท่อนในท่ามกลาง มีกายขาดออกจากกัน ท่านให้พิจารณาซากศพที่มี ศีรษะ มือ เท้า ขาดแล้วตกอยู่ หากชิ้นส่วนทั้งนั้นปรากฏภาพ ในลักษณะที่แลเห็นได้ในคราวเดียว ก็เป็นการดี แต่หาก ชิ้นส่วนทั้งนั้นมิได้อยู่รวมกัน ให้วานผู้อื่น หรือใช้ไม้คัดต้อนเข้า วางไว้ให้ห่างกัน ประมาณ ๑ นิ้ว แล้วกำหนดจิต พิจารณา ขณะพิจารณาให้ภาวนาว่า "วิฉิททะกัง ปะฏิกุลัง" ท่านห้ามมิให้จับต้องซากอสุภด้วยมือตน ด้วยจะกลายเป็นคุ้นเคย ไม่มีความรังเกียจในซากอสุภนั้น

    อุคคหนิมิต ปรากฏรูปซากศพขาดเป็นท่อนน้อย และท่อนใหญ่นั้น

    ปฏิภาคนิมิต ปรากฏมีรูปบริบรูณ์ เสมือนมีอวัยวะครบถ้วนบริบรูณ์ ไม่มีช่องว่างเหมือนในอุคคหนิมิต
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    ๕. วิกขายิตกอสุภ

    เป็นร่างกายของซากศพที่ถูกสัตว์ยื้อแย้งกัดกิน อสุภนี้ท่านให้พิจารณาอสุภที่ถูกสัตว์กัดกิน เป็นซากศพที่แหว่งเว้าทั้งด้านหน้าหลัง และในฐานต่าง ๆ ขณะพิจารณา ท่านให้ภาวนาว่า "วิกขายิตตะกัง ปะฏิกุลัง"

    อุคคหนิมิต ปรากฏเป็นรูปซากศพที่ถูกสัตว์กัดกิน

    ปฏิภาคนิมิต ปรากฏเป็นรูปซากศพที่มีร่างกายบริบูรณ์
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    ๖. วิกขิตตกอสุภ

    เป็นซากศพที่ถูกทอดทิ้งไว้ จนส่วนต่างๆ กระจัดกระจาย มีมือ แขน ขา ศรีษะ กระจัดพลัดพรายออกไปคนละทาง อสุภนี้ ท่านให้รวบรวมเอาซากศพที่กระจัดกระจาย พลัดพรากกันในป่าช้า มาวางรวมเข้า แล้วพิจารณา ขณะพิจารณา ท่านให้ภาวนาว่า "วิกขิตตะกัง ปฏิกุลัง"

    อุคคหนิมิต มีรูปเป็นอสุภนั้นตามที่นำมาวางไว้ วางไว้มีรูปอย่างไร อุคคหนิมิตก็มีรูปร่างอย่างนั้น

    ปฏิภาคนิมิต เห็นเป็นรูปมีร่างกายบริบูรณ์ไม่บกพร่อง จะได้มีช่องว่างก็หามิได้
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    ๗. หตวิกขิตตกอสุภ

    คือซากศพที่กระจุยกระจาย เพราะถูกผู้อื่นสับฟันเอา ท่านให้พิจารณาซากศพที่ถูกสับฟันเป็นท่อนๆ แล้วเอามาวางห่างกันท่อนละ ๑ นิ้ว แล้วเพ่งพิจารณา ขณะพิจารณา ท่านให้ภาวนาว่า "หะตะวิกขิตตะกัง ปะฏิกุลัง"

    อุคคหนิมิต ปรากฏเป็นปากแผลที่ถูกสับฟัน

    ปฏิภาคนิมิต ปรากฏเป็นร่างบริบรูณ์ จะปรากฏริ้วรอยที่ถูกสับฟันนั้นหามิได้
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    ๘. โลหิตกอสุภ

    คือซากศพที่มีเลือดไหลออกเป็นปกติ อสุภนี้ท่านให้พิจารณาซากศพที่ถูกประหาร มีมือเท้าขาดเลือดไหล ขณะพิจารณาท่านให้ภาวนาว่า "โลหิตะกัง ปะฏิกุลัง"

    อุคคหนิมิต ปรากฏเหมือนผ้าแดงที่ถูกลมปลิวไสวอยู่

    ปฏิภาคนิมิต ปรากฏเป็นสีแดงนิ่งสงบไม่เคลื่อนไหว
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    ๙. ปุฬุวกอสุภ

    คือร่างกายของคนหรือสัตว์ที่ตายไปแล้ว และเต็มไปด้วยหนอนคลานกินอยู่ อสุภนี้ท่านให้พิจารณาซากศพที่ตายมาแล้วสองสามวัน มีหนอนคลานอยู่บนซากศพนั้น ดุจกองข้าวสาลีสีขาว ขณะพิจารณาท่านให้ภาวนาว่า "ปุฬุวะกัง ปะฏิกุลัง"

    อุคคหนิมิต ปรากฏเป็นรูปซากศพที่มีหนอนคลานอยู่

    ปฏิภาคนิมิต ปรากฏเป็นภาพนิ่ง คล้ายกองข้าวสาลีที่กองอยู่เป็นปกติ
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
    ๑๐. อัฏฐิกอสุภ

    คือซากศพที่มีแต่กระดูก อสุภนี้ ท่านให้เอากระดูกของซากศพเท่าที่พึ่งหาได้ จะเป็นกระดูกที่มีเนื้อ เลือด เส้นเอ็น รัดรึงอยู่ก็ตาม หรือจะเป็นกระดูกล้วนก็ตาม บางส่วนของร่างกายมีเพียงส่วนน้อย ท่อนเดียว หรือทั้งร่างก็ตาม เอามาเป็นวัตถุพิจารณา เวลาพิจารณาท่านให้ภาวนาว่าดังนี้ "อัฏฐิกัง ปะฏิกุลัง"

    อุคคหนิมิต ปรากฏเห็นเป็นร่างกระดูกนั้นเคลื่อนไหวไปมา

    ปฏิภาคนิมิต จะมีสภาพเป็นร่างกระดูกที่มีความสมบูรณ์ วางเฉยเป็นปกติ

    * ถ้าพิจารณาเป็นท่อน อุคคหนิมิตกับปฏิภาคนิมิต จะมีภาพปรากฏเป็นอันเดียวกัน ไม่แตกต่างกัน
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สรุปจากหนังสือ พระวิสุทธิมรรค และ คู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
    ที่มาhttp://www.geocities.com/4465/samadhi/kama402.htm
     
  2. Mr.Kim

    Mr.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    3,036
    ค่าพลัง:
    +7,028
    [​IMG]



    ธมฺมกาโม ภวํ โหติ</SPAN>
    ผู้ฝักใฝ่ในธรรมเป็นผู้เจริญ
    ธมฺมเทสฺสิ ปราภโว

    ผู้ชังธรรม เป็นผู้เสื่อม
    นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ

    สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี.

    ...............................................................

    ขออำนาจคุณพระศรีรัตนไตยที่เคารพบูชาเป็นสรณะสูงสุด
    จงอำนวยอวยชัยให้พรแก่ทุกๆ ท่านที่คิดดี พูดดี ทำดี
    อยู่ในศีล อยู่ในธรรม และหมั่นเจริญพระกรรมฐาน
    ขอให้ท่านเจริญ ซึ่งอายุ วรรณะ สุขะ พละ

    " ท่านที่หวังพระนิพพานก็ดี
    ขอให้ท่านได้สมดั่งความตั้งใจ
    ท่านที่หวังพระสัมมาสัมโพธิญาณก็ดี
    ขอให้ท่านได้สมดั่งความปรารถนา "


    อนุโมทนาบุญนะครับ สาธุ ๆ ๆ [​IMG]
    <!-- / message -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...