หลวงพ่อมีความสัมพันธ์อะไรกับพระเจ้าตากสินมหาราช ?

งงเล็กน้อยถึงปานกลาง พระยาศรีสิทธิสงครามท่านเป็นทหารเอกของพระเจ้าตากสิน รัชกาลที่1ก็อยู่ในช่วงเดียวกันจะเป็นคนๆเดียวกันได้ยังไงครับ เพราะถ้าจะเป็นคนๆเดียวกันนี่ผมลองไปค้นประวัติของสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมาแล้วไม่มียศพระยาศรีสิทธิสงครามเลยครับ

 

ท่านอาจารย์เล่าให้ฟังว่า ท่านได้ปลอมเป็นนายจัน หนวดเขี้ยวเข้าไปช่วยชาวบ้นบางระจันรบกัับพม่า ซึ่งนายจัน หนวดเขี้ยวกับสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเป็นองค์เดียวกัน ซึ่งเป็นอดีตชาติของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เเละก็ค่ายบางระจันไม่ได้เเตกอย่างที่ประวัติศาสตร์จารึกไว้ เพราะมีผ้าประเจียดยันต์ของพระอาจารย์ธรรมโชติ ซึ่งท่านก็คือหลวงปู่เทพโลกอุดร สมัยนั้นข้าพเจ้าก็ช่วยรบเเละตายในสนามรบ เเละเกิดอีกทีก็ได้เป็นทหารของ(สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช)
พระนเรศวรมหาราชท่านก็เกี่ยวข้องกับหลวงปู่เทพโลกอุดร คือสมเด็จพระพนรัตน วัดป่าแก้ว.
ย้อนไปใน พ.ศ.2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับสมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงทำยุทธหัตถีมีชัยชนะพระมหาอุปราชาและมางจาชะโร แห่งกรุงหงสาวดี ภายหลังชัยชนะในครั้งนั้น สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้โปรดให้ลูกขุนปรึกษาโทษข้าราชการชั้นแม่ทัพนายกอง มีโทษถึงประหารหลายคน หากแต่วันตัดสินพิพากษาให้ลงโทษนั้นเป็นเวลาใกล้กับวันพระ จึงโปรดให้เอาตัวข้าราชการเหล่านั้นไปจองจำไว้ก่อน เมื่อพ้นวันพระไปแล้วจึงให้นำตัวไปประหารชีวิตเสียตามคำลูกขุนพิพากษาโทษ. ในคราวนั้น ได้มีพระมหาเถราจารย์รูปหนึ่งผู้มีปรีชาสามารถ แตกฉานในพระพุทธวจนะ มีวาทะหลักแหลม ได้พาพระราชาคณะ 25 รูป เข้าไปเฝ้าถวายพระพรถามข่าวสงคราม และด้วยวาทะหลักแหลมของท่าน ได้ช่วยให้บรรดาข้าราชการซึ่งถูกตัดสินประหารชีวิตแล้ว ให้รอดพ้นจากพระราชอาญาโทษได้ พระมหาเถราจารย์ รูปนี้ คือ สมเด็จพระพนรัตน วัดป่าแก้ว.

 

หลวงปู่เทพโลกอุดรคือสมเด็จพระพนรัตน วัดป่าแก้วก็คือมหาเถรคันฉ่องพระอาจารย์ที่สอนสรรพวิชาให้
พระนเรศวร เเห่งกรุงศรีอยุธยา พระอาจารย์ธรรมโชติในบ้านบางระจัน เป็นองค์เดียวกับหลวงพ่ออุตตมะ หรือ พระราชอุดมมงคล "เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำสามประสบ"

 

เวลานี้พระนเรศวรมหาราชเกิดเป็นคนแล้ว และอยู่ในประเทศด้านทิศตะวันออกของประเทศไทย จึงถามว่าท่านบอกว่า พระนเรศวรมหาราชเป็นคนไทย หรือเป็นคนแขก หรือเป็นคนลาว หรือเป็นฝรั่ง ท่านบอกว่า เป็นคนไทยที่เกิดในเมืองฝรั่ง และในกาลต่อไปข้างหน้าวาระเข้ามาถึง พระนเรศวรมหาราชจะเข้ามาครองประเทศไทยในฐานะเป็น พระมหากษัตริย์
บรรดาท่านพุทธบริษัทอ่านเรื่องนี้แล้ว ทิ้งไว้ก่อนนะอย่าเชื่อนะอย่างไปเชื่อ ถ้าจะเชื่อก็ถามท่านผู้รู้จริง ๆ อันนี้เป็นการฟังจากภุมเทวดา ถามว่า เป็นกษัตริย์จะเป็นกษัตริย์นักรบไหม ท่านบอกว่า ขึ้นชื่อว่า พระนเรศวร เกิดชาติไหน รบชาตินั้น แต่การรบตอนหลังพระนเรศวรจะไม่มีเวลาพักผ่อน ตั้งแต่เริ่มต้นเป็นกษัตริย์ก็จะรบเรื่อยไป จนกระทั่งยันวันตายเลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้น คนไทยทั้งชาติไม่ต้องทำมาหากินกันละ ก็รบกันอย่างเดียว ภุมเทวดาท่านบอกว่า ไม่ใช่ คนไทยทั้งชาติตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน แต่พระนเรศวรมหาราชจะตั้งหน้าตั้งตารบ ถามว่า รบองค์เดียวหรือ ท่านบอกว่า มีคู่หูรบ ถามว่า รบกับอะไร รบกับใคร รบอย่างไร ท่านบอกว่า รบกับความยากจนของคนทั้งชาติ นั่นคือ พระนเรศวรมหาราชมีพระเมตตากรุณากับคนไทยมามาก
ในกาลก่อนที่ต้องการรบ ก็เพราะว่า ต้องการให้บรรดาประชาชนมีความสุข ถ้าพม่ารบกวนอย่างนั้น คนไทยจะมีความสุขไม่ได้ จะตั้งตัวไม่ได้ ก็มีความจำเป็นต้องรบ เสี่ยงชีวิตแม้ต้องปีนค่าย เอาปากคาบดาบ เอามือยึดค่าย เท้าปีนค่ายก็เอาขึ้นไปฟันกับข้าศึก ถ้าพลาดพลั้งมันก็ต้องตาย เสียสละชีวิตของพระองค์ เพื่อคนไทยทั้งชาติขนาดนี้ และสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นนิสัย ขึ้นชื่อว่า นิสัย นี่ละไม่ได้ ดู พระสารีบุตร เคยเป็นลิงเหมือนกัน นิสัยลิงต้องโดด เมื่อถึงลำคลอง ลำรางพอจะข้ามได้ก็ไม่ข้าม กระโดด จนกระทั่งพระบวชใหม่สงสัย องค์สมเด็จพระจอมไตรจึงบอกว่า กิเลส ละได้ แต่นิสัย ละไม่ได้ ขนาดเป็น อัครสาวก
ทีนี้สำหรับ พระนเรศวรมหาราชเป็นนักรบ เป็นนิสัย เกิดชาติไหน ก็ต้องรบชาตินั้น ในเมื่อเกิดชาติตอนหลังขึ้นมา โอกาสที่จะรบอย่างนั้นมันไม่มี เพราะว่า มีแม่ทัพ มีนายกอง มีรัฐบาลควบคุมงานการบริหาร รัฐบาลควบคุม พระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ก็ต้องวางแผนรบกับความยากจนของบรรดาประชาชนชาวไทย ถามท่านว่า อีกกี่ปี จะถึงวาระที่พระนเรศวรมหาราชมาครองประเทศไทย ท่านบอกว่า หากว่าท่านอยู่ไปไม่ตาย ไม่นานนักท่านก็มาครองประเทศไทยแน่ เวลาที่ถาม เป็นสมัยของรัชกาลที่ 8

อ้างอิง...หลวงพ่อธุดงค์ ตอนฝึกอตีสังสญาณ ในป่าศรีประจันต์ ตอนที่1 หน้า40-41

 

พระมหาเถรคันฉ่อง ท่านมีเป็นมอญนะครับ ส่วนพระครูโลกอุดรท่านเป็นอินเดีย จะเกี่ยวกันได้อย่างไร

 

ถ้าเอาตามหนังสือเรื่องจริงอิงนิทาน ฉบับพิเศษ
นายจันทร์หนวดเขี้ยว เป็นกำนันมาก่อน เรียกว่ากำนันจันทร์ ท่านอ้างว่าอย่างนั้น จะเป็นจริงหรือไม่ ไม่ทราบได้เหมือนกัน

แต่ถ้าเอาตามพงศาวดาร เป็นหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี

จะบอกว่าเป็นไปไม่ได้เลยก็คงไม่ใช่ เพราะหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี ตามประวัติศาสตร์ ก็ได้นำไพร่พลและราษฏร์เมืองราชบุรีหลบหนีทัพพม่าเข้าไปอยู่ในป่า เมื่อทัพของมังมหานรทาเคลื่อนพลจากด้านเพชรบุรี จะเข้าตีกรุงศรีอยุธยา

เห็นได้จากตอนหลังที่ นายสุดจินดา(สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ในเวลาต่อมา) แหกวงล้อมพม่าออกมาได้ ได้ไปหาพี่ชาย ก็คือหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี และชวนให้มารับใช้พระยาตากสินในสมัยนั้น

แต่หลวงยกกระบัตรไม่ได้มา แต่มอบแหวนมาให้ ภายหลังก็ไปรับตัวพระราชมารดา(นกเอี้ยง)ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมาจากอ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี

ตรงนี้ว่ากันตามประวัติศาสตร์ราชการที่บันทึกไว้นะ

 

อันนั้นก็ใช่ล่ะนะครับตามประวัติศาสตร์นะครับ ผมก็อ่านจนหมดแล้วนะ ตั้งแต่พระเจ้ามังรายมหาราช จนกระทั่งกำนันจันหนวดเขี้ยว บางระจันแตก แต่ไม่ได้ตายหมด เพราะพอกำลังเสียไป หนึ่งในสี่กำนันจันก็พาชาวบ้านที่เหลือล่าถอยเข้าไปไป ไปรบแบบกองโจรตัดกำลังพม่า แล้วหลังจากนั้นก็มารวมกำลังกับพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นหนึ่งในสิบขุนทหาร ชือว่าพระยาศรีสิทธิสงคราม ซึ่งถ้าอ่านดีๆตอนที่พระเจ้าตากสินท่านออกอุบายให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกไปตีเขมรแล้วมีขุนนางคนนึงจะจับพระเจ้าตากจริงนั้นขุนทหารทั้งสิบก็ยังอยู่ครบและจะสู้ด้วยซึ่งถ้าสู้ดีๆขุนนางคนนั้นก็ตายแน่ (ชื่ออะไรจำไม่ได้อ้อ พระยาสรรค์บุรี) แต่พระเจ้าตากสินท่านกลัวจะเสียแผนก็เลยสั่งให้ยอม และอีกประการ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมีพระนามที่พระเจ้าตากสินท่านเรียกด้วยความสนิทสนมว่า "ด้วง" คนละคนกับ "จัน" เลยพออ่านช้าๆพิจารณาดีๆก็เลยงงครับ รบกวนผู้รู้บอกด้วย อีกประการ ขุนดาบทั้งสิบนี่มีชื่อยศท่าน บางท่านพวงท้ายด้วยชื่อ บางท่านบอกว่าไม่เกิดนี่ อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมไม่ทราบว่าท่านใดทราบบ้างครับ

 

องค์เดียวกันครับ พระยาศรีสิทธิฯ น่าจะเป็นบรรดาศักดิ์ (ยศที่เรียก เช่น พระราช พระพรหม เช่นนี้ครับ) นายจัน หนวดเขี้ยว เจ้าพระยาจักรี เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก รัชกาลที่ ๑ หรือท่านทองด้วงที่พระเจ้าตากสินเรียกเพราะสนิทกันมาในวัยหนุ่มครับ (ไม่แน่ใจวัยเด็กครับ)

 

ผมเองสังเกตุว่า หลวงพ่อท่านเล่าเรื่อง และสร้าง อนุเสวรี ทุกท่านในวัดน่าจะมีนัยะความสำคัญ อย่าง พระเจ้าตากสิน พระยาโกษาเหล็ก รัชกาลที่3

รวมถึงหนังสือเรื่องจริงอิงนิทานเล่มต่างๆๆๆ

ตัวผมเองไม่เก่งประวัติศาสตร์แต่ด้วยภรรยา ผมเป็นคนชอบประวัติศาสตร์มาก จึงเป็นคนอ่านและสรุปให้ผมฟังแบบง่ายๆๆ

ประกอบกับภรรยาผมก็เคารพหลวงพ่อมาก เลยพยามปะติดปะต่อเรื่องราว

และตั้งข้อสังเกตุข้างต้นไว้ครับ

 

เรื่องจริงอิงนิทานฉบับพิเศษและประวัติของสัมพเกสีพรหม ก็จบลงที่พระยาศรีสิทธิสงครามส่วนประวัติต่อจากนั้นไม่ได้เล่าไว้ หรืออาจจะเล่าไว้แต่ไม่มีบันทึกไว้ เพราะเหตุผลบางประการ อาจจะด้วยอ้างอิงถึงราชวงศ์ปัจจุบัน ก็เลยคิดว่าคนที่อ่านได้ยินได้ฟังจะมีอคติ มีผลร้ายมากกว่าผลดีกระมัง ก็เลยไม่มีการบันทึกเผยแพร่ อีกประการตามที่สังเกตุการเล่าเรื่องขององค์หลวงพ่อนั้นจะกล้าวว่าท่านนั้นท่านนี้ไม่ได้บอกว่าเป็นตัวท่านซักครั้ง ต้องเป็นเหล่าลูกศิษย์เท่านั้นถึงจะรู้ผมเองก็ปะติดปะต่อกันได้เมื่อไม่นานมานี้เอง โดยเกิดความสงสัยเพราะอ่านเจอที่พระองค์ที่สิบท่านเรียกหลวงพ่อว่าสัมพเกสี แล้วก็อ่านเจอในเรื่องจริงอิงนิทานเล่มพิเศษที่หลวงพ่อเล่าเรื่อง พรหมพระเจ้ามังราย คือ สัมพเกสีพรหม เหมือนกันเลยถึงบางอ้อ ว่า อ้อ หลวงพ่อเล่าเรื่องอดีตชาติของตัวท่านเองนี่เอง เพราะโดยส่วนใหญ่หรืออาจจะทั้งหมดหลวงพ่อจะเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับตัวท่านเท่านั้นท่านจะไม่เล่าเรื่องอดีตชาติของคนอื่นทั้งนี้เพราะอาจจะด้วยไม่อยากจะพยากรณ์คนอื่นๆก็ได้ ตามปฏิปทาที่ไม่สนใจบุคคลอื่น ดูที่ตัวเองของท่านนั่นเอง

 

แล้วคุณคิดบ้างไหมครับว่า อยู่ๆทำไมท่านถึงกล่าวถึงประวัติของบุคคลเหล่านั้น หากท่านไม่ข้องเกี่ยวกันโดยตรง ทั้งๆที่ประวัติคนอื่นมีหลายแสนล้านคน ทำไมต้องเป็นคนนั้น ตายจากชาตินั้นแล้วมาเกิดเป็นคนนี้ คิดบ้างไหมครับว่ท่านจะเล่าเรื่องท่านอื่นทำไม ถ้าไม่ใช่ตัวท่าน แต่ท่านก็บอกว่าเรื่องจริงอิงนิทาน ใครเชื่อว่าจริงก็จริง ใครไม่เชื่อว่าจริงก็เป็นนิทานไป แต่ลูกศิษย์ท่านส่วนใหญ่จะทราบครับ สงสัยอะไร ถ้าผมตอบให้ได้จะตอบให้ครับ

 

เคยฟังหลวงพ่อท่านเล่าจากม้วนไหนไม่แน่ใจ อาจเป็นแบบฝึกมโนฯหรือญาณ๘ ท่านพูดว่าพระเจ้าตาก"ท่านเป็นเจ้านาย"ส่วนความรู้ที่ว่าหลวงพ่อท่านมีอดีตชาติอย่างไรก็ไปฝึกกันเอาเองครับ

 

ผมคิดว่าหลวงพ่อฤาษีฯ ท่านคือ ร.1 ครับ ท่านเป็นเพื่อนสนิทกับพระเจ้าตากสิน ครับ

 

1. เรื่องชื่อ ในสมัยโน้นจะปลอมชื่อเป็นอะไรก็ได้นี่ครับ เพราะไม่มีทะเบียนราษฏร์ และอีกประการคนก็ไม่รู้จักหน้าตาหรอกว่านายคนนี้หน้าตาอย่างนี้ชื่ออะไร ยกเว้นว่ามีความสนิทสนมคุ้นเคยกันมาก่อน

ถ้าจะว่ากันตามตรง กรณีหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี ก็พาพวกหนีเข้าป่า ไปตั้งเป็นชุมอยู่แล้ว ซึ่งข้อมูลที่หลวงพ่อฯ ให้ก็ไม่ได้ผิดอะไร

เพราะสมัยนั้น มีชุมแบบนี้เยอะมาก บางชุมใหญ่ ๆ เช่น ของสามพี่น้อง เพ็ง ปาน .. ก็มี


2. เรื่องขุนดาบสิบท่าน เป็นตามที่หลวงพ่อฯ ท่านบอกครับ เพราะว่าท่านเป็นผู้ให้ข้อมูล ก็ต้องว่าตามท่าน ยังไม่เคยเห็นนักเขียน นักประวัติศาสตร์ ที่เขียนเกี่ยวกับเหตุการณ์ตรงนี้จะให้ข้อมูลได้ลึกเท่าของหลวงพ่อฯ เลยสักคน

ไม่ว่าจะของ ปรามินทร์ เครือทอง,ลูกชายหลวงวิจิตรวาทการ, คุณวรมัย กบิลสิงห์, หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี, คุณแทน ที่เขียนหนังสือพระเจ้าตากฯไม่ได้ถูกประหาร ฯลฯ

 

ราชทินนาม "ศรีสิทธิสงคราม" เป็นราชทินนาม สำหรับปลัดเมืองโคราช (นครราชสีมา) ครับ

ตำแหน่งนี้ มาพบเอาสมัยรัตนโกสินทร์ และตามที่บันทึกไว้มีไม่กี่คนที่ได้เป็น

คนสุดท้ายนี่ดังที่สุดคือ นาย ดิ่น ท่าราบ (พันเอกพระยาศรีสิทธิสงคราม) ผู้ซึ่งมีส่วนร่วมในคราวกบฏบวรเดช และถูกยิงจนถึงแก่ชีวิตที่สถานีรถไฟบ้านหินลับ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี

นายดิ่น มีหลานเป็นอดีตนายกฯ อดีต ผบ.ทบ. และ ผบ.สส. ตลอดจน เป็นองคมนตรี ที่ชื่อ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ครับ

 

แบบนี้ก็แปลว่าท่านคือ...............................ในปัจจุบันมิน่าท่านเป็นพูดน้อย

 

เมื่อคืนผมฝันเห็นรัชกาลที่ 1 ด้วยหล่ะ เห็นว่าตอนนี้ท่านเป็นเทวดามีรัศมีสีขาว ฝันเห็นท่านตอนเป็นเด็ก กำลังไปหาพื้นที่การสร้างบ้านเมือง