หลวงพ่อแกง ปสาโท พระเกจิอาจารย์วัดน้ำปึง

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 14 พฤษภาคม 2006.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG]


    วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5645​

    หลวงพ่อแกง ปสาโท พระเกจิอาจารย์วัดน้ำปึง


    คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6

    บุญนำ เกิดแก้ว

    อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ เป็นเมืองแห่งความสงบร่มเย็น ผู้คนอยู่กันอย่างสงบสุข

    ณ ที่แห่งนี้ "หลวงพ่อแกง ปสาโท" หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า "หลวงพ่อแกง" เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านทั่วไป

    ปัจจุบันสิริอายุ 74 พรรษา 51 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดน้ำปึง หมู่ที่ 1 ต.จริม อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์

    อัตโนประวัติ เกิดในสกุล นันทะกา ในปีพ.ศ.2475 ณ บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 5 ต.หาดล้า อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์

    ชีวิตในวัยเยาว์ ท่านได้เติบโตท่ามกลางท้องทุ่งนาป่าดอย ช่วยบิดามารดาทำนา เป็นคนที่มีนิสัยร่าเริงแจ่มใส โอบอ้อมอารี เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดา ไม่ชอบการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

    ท่านได้เข้ารับการศึกษา ตอนอายุ 10 ขวบ ที่โรงเรียนบ้านน้ำปึง จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

    ครั้นเมื่ออายุได้ 22 ปี ท่านได้ตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เพื่อทดแทนคุณบุพการี เมื่อปีพ.ศ.2497 ณ พัทธสีมาวัดน้ำปึง หมู่ที่ 4 ต.หาดล้า อ.ท่าปลา (ที่ตั้งเดิม) โดยมีพระครูบุญสิริวิศาล เจ้าคณะอำเภอท่าปลา เป็นพระอุปัชฌาย์, พระเที่ยง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสุวิทย์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ได้รับฉายาว่า "ปสาโท" แปลว่า ความเลื่อมใส

    หลังจากเข้าพิธีอุปสมบท ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดน้ำปึง ด้วยความวิริยะอุตสาหะในการท่องหนังสือเจ็ดตำนานและสิบสองตำนาน จนได้หมด พร้อมทั้งปฏิบัติกิจวัตรอยู่ในกรอบวินัยบวรพระพุทธศาสนา จนเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านยิ่ง

    พ.ศ.2521 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดน้ำปึง

    ท่านยังได้ศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมด้วยตัวเอง โดยการศึกษาจากสมุดข่อยหรือปับสาโบราณ ซึ่งเป็นภาษาล้านนาของเก่าและจากตำรามหายันต์

    ต่อมา พ.ศ.2515 อ.ท่าปลา ต้องมีการอพยพครั้งใหญ่ เนื่องจากมีการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ จำต้องย้ายวัดน้ำปึงมาอยู่ หมู่ที่ 1 ต.จริม (ปัจจุบัน)

    พ.ศ.2536 วัดน้ำปึง ยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างศาสนสถาน หลวงพ่อแกงและศิษยานุศิษย์ คณะศรัทธาของวัดน้ำปึง จึงช่วยกันสร้างถาวรวัตถุต่างๆ

    พ.ศ.2539 สร้างศาลาการเปรียญ เพื่อใช้ประกอบพิธีทางพระศาสนา ใช้งบประมาณ 894,449 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ได้จากการสร้างวัตถุมงคล เป็นพระสมเด็จรุ่นแรก

    ปีเดียวกัน สร้างกุฏิคอนกรีต เพื่อเป็นที่พักของพระภิกษุสงฆ์ โดยใช้งบประมาณ 1,100,000 บาท เป็นเงินจากการสร้างวัตถุมงคล เป็นเหรียญรุ่นสร้างกุฏิ จำนวน 30,000 เหรียญ เหรียญละ 69 บาท

    พ.ศ.2540 สร้างหอระฆังและกุฏิไม้ ใช้เงิน 250,000 บาท เป็นเงินจากทอดผ้าป่าและทอดกฐิน รวมทั้งการถวายปัจจัยของหลวงพ่อเอง ปีเดียวกันสร้างพระอุโบสถ เป็นเงิน 2,360,000 บาท เป็นเงินทอดผ้าป่า กฐิน และเงินจากการถวายปัจจัยของหลวงพ่อ

    พ.ศ.2543 สร้างศาลาธรรมสังเวช เป็นเงิน 95,000 บาท เป็นเงินจากการทอดผ้าป่า-กฐิน และการถวายปัจจัยของหลวงพ่อเอง

    พ.ศ.2544 สร้างวิหาร เมรุ ซุ้มประตูวัด กำแพงวัด โดยใช้งบจากเงินทอดผ้าป่า-กฐิน และเงินจากการถวายปัจจัย

    นอกจากนี้ หลวงพ่อแกงยังได้สร้างอาคารโรงเรียนนิคมสงเคราะห์ 5 ตึกผู้ป่วยพิเศษ 3 ห้อง โรงพยาบาลท่าปลา ซึ่งเป็นห้องพัก ประกอบด้วย ห้องน้ำในตัว เตียงคนไข้ อุปกรณ์รักษา ใช้งบประมาณกว่า 481,223 บาท เหตุที่หลวงพ่อแกงสร้างโรพยาบาล เนื่องจากในพื้นที่ชุมชนมีพระภิกษุมารักษาอาการอาพาธบ่อย

    หลวงพ่อแกง ได้ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอท่าปลา จัดทำธงเพื่อร่วมต่อต้านยาเสพติดตามโครงการของรัฐบาล ที่ต้องการปราบปรามยาเสติด แจกจ่ายให้กับชาวบ้านไปติดไว้หน้าบ้าน

    พ.ศ.2546 หลวงพ่อแกง ได้ตั้งมูลนิธิหลวงพ่อแกง ปสาโท เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนทั่วไป โดยการนำดอกเบี้ยออกมาใช้ ส่วนเงินต้นไม่สามารถเบิกออกมาใช้ได้

    การสร้างวัตถุมงคล พ.ศ.2537 สร้างพระสมเด็จรุ่นแรก และสร้างเหรียญรูปไข่ พิมพ์หยดน้ำ พระกริ่ง สีผึ้งเมตตา และด้ายมงคลผูกข้อมือ ตะกรุด เป็นต้น

    หลวงพ่อแกง เคยปรารภว่า "ของดีก็ต้องอยู่กับคนดีมีศีลธรรม คนไม่ดีนำเอาไปไม่มีประโยชน์อะไร"

    ทุกวันนี้ คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อแกงจากทั่วสารทิศ ต่างให้ความเคารพนับถือท่านยิ่งนัก ดังจะเห็นได้จากความมุ่งมั่น สร้างความเจริญให้กับวัดน้ำปึง และอ.ท่าปลา ให้เจริญรุ่งเรืองตามลำดับ

    ถือได้ว่า หลวงพ่อแกงเป็นพระสงฆ์อีกรูปหนึ่ง ที่มุ่งมั่นให้พระพุทธศาสนาสืบทอดยาวนานตลอดไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...