หลวงพ่อ พระวีระ ถาวโร “ แนะนำ” คำสอนสายกลาง (อารมณ์พระโสดาบัน กับพระสกิทาคามี)

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย hitman, 6 ตุลาคม 2014.

  1. hitman

    hitman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +439
    [FONT=&quot]หลวงพ่อ
    พระวีระ ถาวโร
    “ แนะนำ” [/FONT]
    [FONT=&quot] คำสอนสายกลาง[/FONT]

    [FONT=&quot] สำหรับวันนี้ขอพูดเรื่อง อารมณ์ของพระโสดาบัน และ พระสกิทาคามี เพื่อให้ญาติโยมพุทธบริษัท
    วัดกำลังใจของท่านเองว่าการปฏิบัติพระกรรมฐานที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องการให้บรรดาทุกท่านมีคติแน่นอน [/FONT]
    [FONT=&quot] คำว่า มีคติแน่นอน นี่ก็หมายความว่า ถ้าตายจากความเป็นคนจะต้องไม่ตกนรก แล้วเดินทางตรงเพื่อพระนิพพาน ถึงแม่ว่าจะยังไม่ถึงพระนิพพานในชาตินี้ เกิดไปเป็นเทวดาหรือพรหมก็ต่อไปนิพพานเลย [/FONT]

    [FONT=&quot] ตัวอย่างที่ทรงตรัสไว้ในเรื่องของ เปสะการี พระพุทธเจ้าทรงตรวจอุปนิสัยของสัตว์ในตอนเช้ามืดวันนั้นเห็นหน้าเด็กหญิงคนหนึ่งเป็นลูกสาวของนายช่างหูกว่า เมื่อ 3 ปีก่อน พระองค์เสด็จไปเมืองนั้นมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ว่าการไปครั้งนั้นสมเด็จพระประทีปแก้วประทับอยู่บนตอไม้ มีชาวบ้านแวดล้อมกันมาก แล้วก็นำอาหารมาถวาย[/FONT]

    [FONT=&quot] มีเด็กหญิงคนหนึ่งอายุ 13 ปี เป็นลูกสาวนายช่างหูกเธอก็มาฟังเทศน์ด้วย ตอนนั้นพระพุทธเจ้าทรงเทศน์สั้นๆว่า [/FONT]

    [FONT=&quot] “ ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง ขอให้ทุกคนจงอย่าประมาทในชีวิต คิดว่ามันจะไม่ตาย แล้วให้พยายามทำความดีมีการรักษาศีล 5 เป็นต้น และมีความกตัญญูเป็นที่สุด”[/FONT]

    [FONT=&quot] พระพุทธเจ้าทรงเทศน์ย่อๆ หลังจากนั้นพระพุทธเจ้าก็ทรงเสด็จกลับ

    เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จกลับ บรรดาญาติโยมผู้ใหญ่ที่ฟังเทศน์พระพุทธเจ้าพอลุกขึ้นเทศน์หล่นหายหมด แต่ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นจำเทศน์พระพุทธเจ้าได้เป็นปกติ เพราะพระพุทธเจ้าทรงเทศน์ว่า [/FONT]

    [FONT=&quot] “ ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง ขอเธอทั้งหลายจงอย่าประมาทในชีวิต ให้คิดทำความดีอยู่เสมอ มีรักษาศีล 5 เป็นต้น” เธอจำได้เธอก็ประพฤติปฏิบัติตลอดมา[/FONT]

    [FONT=&quot] เมื่อเวลาผ่านมา 3 ปี อายุย่างเข้า 16 ปี วันนั้นสมเด็จพระชินศรีก็ทรงพิจารณาอุปนิสัยของสัตว์ในเวลาเช้ามืด อันนี้เป็นหน้าที่ของพระพุทธเจ้า พอเวลาเช้ามืดต้องใช้อำนาจพุทธญาณพิจารณาดูว่าวันนี้มีบุคคลใดบ้างที่จะบรรลุอรหัตผล หรือว่าเป็นพระโสดาบัน เป็นต้น [/FONT]

    [FONT=&quot] สมเด็จพระจอมไตรเห็นเด็กคนนี้ปรากฏอยู่ในข่ายพระญาณ พระองค์ทรงจำได้ว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เคยพบแล้วครั้งหนึ่ง แล้ววันนี้มาพบหน้าเธออีกเพราะอะไร[/FONT]

    [FONT=&quot] เมื่อพิจารณาไปก็ทรงทราบว่า ตอนสายวันนี้เด็กคนนี้จะต้องตาย[/FONT]

    [FONT=&quot] พระองค์พิจารณาต่อไปว่าการตายของเธอวันนี้ถ้าเราไม่ช่วย เธอจะมีคติแน่นอนไหม..[/FONT]

    [FONT=&quot] คำว่า มีคติแน่นอน นี่ก็หมายความว่า จะต้องไม่ลงนรกต่อไปอีก เกิดมาเป็นคนแล้วหรือเป็นเทวดาหรือพรหมแล้วไปนิพพานเลย[/FONT]
    [FONT=&quot] ก็ทรงทราบด้วยอำนาจพุทธญาณว่าถ้าเราไม่ช่วย คติของเธอจะไม่แน่นอน [/FONT]

    [FONT=&quot] พระองค์จึงได้ทรงพิจารณาต่อไปว่า ถ้าเราจะช่วยเธอจะช่วยด้วยวิธีไหน ก็ทรงทราบว่า ถ้าเราไปถามปัญหาเธอ 4 ข้อ เธอตอบถูก เราให้สาธุการ 4 ครั้ง ครบ 4 วาระ เธอจะเป็นพระโสดาบัน หลังจากนั้นตอนสายเธอตายแล้ว เธอจะไปเกิดเป็นเทวดาบนชั้นดุสิต[/FONT]

    [FONT=&quot] เมื่อทรงทราบแล้ว ตอนเช้าองค์สมเด็จพระธรรมสามิสร เสด็จไปแต่พระองค์เดียวไปนั่งอยู่ที่ตอไม้ตอเดิม ธรรมาสน์ของพระพุทธเจ้าสวย ธรรมชาติสร้าง[/FONT]

    [FONT=&quot] เมื่อพระพุทธเจ้าไปประทับที่ตรงนั้น ชาวบ้านเห็นต่างคนต่างมาล้อมถวายภัตตาหาร แต่ว่าลูกสาวนายช่างหูกวันนั้นมีงานมากเป็นพิเศษ เพราะว่าตอนเย็นวานนี้พ่อบอกว่า พรุ่งนี้ถ้าลูกจะเอาข้าวมาให้พ่อในเวลาเช้า ด้ายสำหรับทอหูกมันจะหมด ให้กรอด้ายมาให้พ่อด้วย[/FONT]

    [FONT=&quot] ที่นี้เวลาตอนเช้าเธอทำอาหารเสร็จ กำลังกรอด้ายอยู่ ก็ทราบว่าสมเด็จพระบรมครูเสด็จ กว่าจะกรอด้ายเสร็จมันก็สายไปหน่อยหนึ่ง ตอนจะออกจากบ้านก็ตัดสินใจคิดว่า[/FONT]

    [FONT=&quot] เราจะไปหาพ่อก่อน หรือจะไปเฝ้าพระพุทธเจ้าก่อน ถ้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าก่อนพระพุทธเจ้าจะเทศน์จบก็สายมาก พ่ออาจจะด่าจะตีก็ได้ ถ้าหากว่าไปหาพ่อก่อน พระพุทธเจ้าอาจจะเสด็จกลับไปก่อน[/FONT]

    [FONT=&quot] ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจว่า ขอไปหาพระพุทธเจ้าก่อน ถ้าเวลาสายเกินไปพ่อจะด่าจะตีก็ไม่เป็นไร มันเรื่องของพ่อ เพราะว่าพระพุทธเจ้าเราพบได้ยาก[/FONT]

    [FONT=&quot] เวลานั้นก็ปรากฏว่าสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าฉันเรียบร้อยแล้วก็ทรงถือบาตรไว้เฉยๆ ตามธรรมดาถ้าพระพุทธเจ้าจะทรงเทศน์จะต้องส่งบาตรให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง เว้นแต่พระองค์ไม่ส่งบาตรให้ใคร ใครก็ไม่กล้ารับ พระองค์ถือไว้ทรงคิดในใจว่า [/FONT]
    [FONT=&quot] เรามาเพื่อบุคคลใด ถ้าคนนั้นยังไม่มาเราจะยังไม่เทศน์ [/FONT]

    [FONT=&quot] พอดีตอนสายหน่อยหนึ่ง เปสะการี เธอก็ไปถึงไปทีหลังเขาก็นั่งท้ายพุทธบริษัท เข้านั่งปลายๆแถว[/FONT]
    [FONT=&quot] พระพุทธเจ้าทรงมองดูหน้าเธอ เธอก็ดูหน้าพระพุทธเจ้า ตาต่อตาประสานกันก็ทราบว่าเวลานี้องค์สมเด็จพระภควันต์ต้องการให้เข้าไปใกล้ เธอจึงขอหลีกผู้ใหญ่เข้ามาใกล้พระพุทธเจ้า ใกล้เท้าของพระองค์

    ในตอนนี้พระพุทธเจ้าทรงตรัสถามเธอว่า [/FONT]

    [FONT=&quot] “ ภคินี ดูก่อนน้องหญิง เธอมาจากไหน”[/FONT]
    [FONT=&quot]เธอตอบพระพุทธเจ้าว่า “ไม่ทราบพระเจ้าข้า”[/FONT]

    [FONT=&quot]พระพุทธเจ้าทรงถามต่อไปว่า “เธอจะไปไหน [/FONT][FONT=&quot]?”[/FONT]
    [FONT=&quot]เธอตอบว่า “ไม่ทราบพระเจ้าข้า”[/FONT]

    [FONT=&quot]พระพุทธเจ้าทรงถามเธอว่า “เธอไม่ทราบรึ...[/FONT][FONT=&quot]?”[/FONT]
    [FONT=&quot]เธอตอบว่า “ทราบพระเจ้าข้า”[/FONT]

    [FONT=&quot]พระพุทธเจ้าทรงถามว่า “เธอทราบหรือ...[/FONT][FONT=&quot]?”[/FONT]
    [FONT=&quot]เธอตอบว่า “ไม่ทราบพระเจ้าข้า”[/FONT]

    [FONT=&quot] ตอนนี้ปรากฏว่าชาวบ้านเอะอะโวยวาย หาว่าล้อเลียนพระพุทธเจ้า ต่างคนต่างด่า พระพุทธเจ้าทรงยกพระหัตถ์ขึ้นโบก แล้วทรงตรัสว่า [/FONT]

    [FONT=&quot]“ ช้าก่อน ฟังเหตุผลเขาก่อน”[/FONT]

    [FONT=&quot]แล้วสมเด็จพระชินวร ย้อนถามว่า[/FONT]
    [FONT=&quot]“ ดูก่อนน้องหญิง ที่ตถาคตถามเธอข้อต้นว่า เธอมาจากไหน เธอตอบว่าไม่ทราบน่ะ หมายความว่ายังไง...[/FONT][FONT=&quot]?”[/FONT]
    [FONT=&quot]เธอก็กราบทูลองค์สมเด็จพระจอมไตรว่า[/FONT]
    [FONT=&quot]“การที่หม่อมฉันมาจากบ้านนี่ พระองค์ย่อมทราบ ด้วยอำนาจพุทธญาณเป็นอย่างดี แต่ว่าคำถามไม่ได้หมายความว่ามาจากบ้าน เป็นความหมายถามว่า ก่อนจะเกิดนี่มาจากไหน หม่อมฉันไม่ทราบพระเจ้าข้า”[/FONT]

    [FONT=&quot] เธอตอบอย่างนี้พระพุทธเจ้าท่านยกมือขึ้นสาธุเหนือพระเศียร [/FONT]

    [FONT=&quot] พระพุทธเจ้าก็ถามต่อไปว่า[/FONT]
    [FONT=&quot] “ ที่ตถาคตถามว่าเธอจะไปไหน เธอตอบว่าไม่ทราบพระเจ้าข้า หมายความว่ายังไง ....[/FONT][FONT=&quot]?”[/FONT]

    [FONT=&quot] เธอก็ตอบว่า “ การที่หม่อมฉันจะไปโรงทอหูกที่บิดาทอหูกอยู่ ซึ่งเลยจากนี้ไปพระองค์ก็ทรงทราบอยู่แล้ว แต่ว่าการที่องค์สมเด็จพระประทีปแก้วทรงถามหมายความว่า ถ้าตายจากชาตินี้แล้วไปไหน หม่อมฉันไม่ทราบพระเจ้าข้า”[/FONT]
    [FONT=&quot] พระพุทธเจ้าก็สาธุอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็ถามว่า [/FONT]

    [FONT=&quot] “ข้อ 3 ถามเธอว่าไม่ทราบหรือ แล้วเธอตอบว่าทราบน่ะ หมายความว่าอย่างไร...[/FONT][FONT=&quot]?”[/FONT]
    [FONT=&quot] เธอตอบว่า “ทราบ หมายความว่า ชาตินี้หม่อมฉันเกิดต้องตายแน่พระเจ้าข้า”[/FONT]

    [FONT=&quot] พระพุทธเจ้าทรงถามต่อไป “ ข้อที่ 4 ถามเธอทราบหรือ เธอตอบว่าไม่ทราบหมายความว่าอย่างไร...[/FONT][FONT=&quot]?”[/FONT]
    [FONT=&quot] เธอก็ตอบว่า “ที่ตอบว่าไม่ทราบก็เพราะว่า มันจะตายเช้า ตายสาย ตายบ่าย ตายเที่ยง ตายกลางวัน ตายกลางคืน เป็นอะไรตายหม่อมฉันไม่ทราบพระเจ้าข้า”[/FONT]

    [FONT=&quot] เป็นอันว่าพระพุทธเจ้าทรงสาธุ 4 วาระ เธอก็เป็นพระโสดาบัน [/FONT]

    [FONT=&quot] ไม่น่าเป็นเลยนะ คำถามแค่นี้ไม่ได้เข้าล๊อคพระโสดาบันเลย แต่คนเขาจะเป็นอยู่แล้วน่ะ พิจารณาแล้วไม่เข้ามุม เลย
    แต่ว่าศีล 5 เขาครบถ้วนอยู่แล้ว[/FONT]

    [FONT=&quot] ในเมื่อพระพุทธเจ้าถามอย่างนี้จบ ปรากฏว่าเธอเป็นพระโสดาบัน พระพุทธเจ้าก็เสด็จกลับ[/FONT]
    [FONT=&quot] ชาวบ้านที่นั่งฟังอยู่ที่ว่าในเที่ยวแรกไม่มีผลเลย แต่ทุกคนที่ฟังแล้วปรากฏมีผล คือเป็นพระโสดาบันบ้าง[/FONT]
    [FONT=&quot]สกิทาคามีบ้างเป็นแถวไปหมด ต่างคนต่างได้[/FONT]

    [FONT=&quot] เมื่อพระพุทธเจ้าไป ชาวบ้านก็กลับ เธอก็ไปโรงทอหูก [/FONT]

    [FONT=&quot] ท่านพ่อคอยลูกสาวตั้งแต่เช้า สายจัดเกินไปกำลังทอหูกอยู่เรียกว่าทอหูกแก้ว่าง ทอไปทอมาความหิวมันปรากฏหนักขึ้น เธอก็หลับ มือซ้ายจับฟืมเตรียมที่จะกระทบ มือขวาจับกระสวยเตรียมที่จะพุ่ง ตั้งใจว่าจะพุ่ง แต่ไม่ทันพุ่ง คือไม่ทันกระทบเธอก็หลับ[/FONT]
    [FONT=&quot] พอดีลูกสาวไปไม่ทันสังเกต เดินเข้าไปถึง ไปกระทบฟืนเข้าหน่อย พอฟืมไหวพ่อก็ตื่น ที่ตั้งใจไว้ก่อนว่าจะพุ่งกระสวย ก็เลยพุ่งโดยแรง ไม่ได้สังเกตว่าลูกไป เป็นอันว่าถึงวาระที่เธอจะตาย กระสวยพุ่งเลยด้ายไปถูกอกเธอล้มถึงแก่ความตาย เมื่อตายแล้วก็ไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดุสิต[/FONT]

    [FONT=&quot] เป็นอันว่าที่พูดว่าคติแน่นอนจริงๆในพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าหมายเอาพระโสดาบันเป็นที่ตั้ง ถ้าถึงพระโสดาบันแล้วขึ้นชื่อว่าบาปอกุศลทั้งหมด ที่ทำมาในกาลก่อนทั้งหมดงด ไม่สามารถจะลงโทษได้ คือ บาปตามไม่ทัน [/FONT]

    [FONT=&quot] คติมีอยู่ว่า ถ้าเกิดเป็นคนกับเกิดเป็นเทวดา สลับกันไปสลับกันมา ไม่ช้าก็ไปพระนิพพาน หรือบางท่านเมื่อเป็นพระโสดาบันแล้ว ไปเกิดเป็นเทวดาก็ดี เป็นพรหมก็ดี พบพระพุทธเจ้าฟังเทศน์เพียงจบเดียวเป็นอรหันต์ [/FONT]

    [FONT=&quot] ฉะนั้นวันนี้ก็จะขอนำเอาคติเพื่อความแน่นอนของบรรดาบริษัททุกท่าน ซึ่งมีคนบ่นกันมาก จดหมายก็มีมาหลายสิบฉบับ บอกว่าเจริญกรรมฐานมาแล้ว หลายสิบ ปี 10ปีเศษบ้าง 20 ปีบ้างไม่เห็นได้อะไรเลย[/FONT]

    [FONT=&quot] แต่ความจริงได้นะ ได้หลับตาเรื่อยๆ ใช่ไหม...[/FONT][FONT=&quot]?[/FONT]

    [FONT=&quot] คำว่า ไม่ได้ ของท่านนี้เพราะท่านมุ่งฌานเป็นสำคัญ ถ้ามุ่งฌานเป็นสำคัญก็ผิดความหมายทุกคน เพราะฌานสมาบัติต้องอาศัยร่างกาย บางวันร่างกายดีฌานก็ทรงตัวดี ร่างกายเพลียเกินไป ฌานทรงตัวน้อย เกิดเสียใจ เอ๊อ...วันนี้ดีไม่เท่าเมื่อวาน การเจริญพระกรรมฐานไม่ได้มุ่งหมายเฉพาะตรงนี้ มุ่งหมายตัวตัดกิเลสหรือว่าตัวบรรเทากิเลส [/FONT]

    [FONT=&quot] กิเลสที่เราจะตัดจริงๆ ในการเจริญพระกรรมฐานมีอยู่ 10 อย่าง ไม่ได้มีเป็นเล่มๆอย่างที่เราอ่านหนังสือกันหรอก
    มีแค่ 10 อย่าง [/FONT]

    [FONT=&quot]1. [/FONT][FONT=&quot]สักกายทิฏฐิ [/FONT][FONT=&quot]มีความรู้สึกว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา ถือว่าร่างกายมันเป็นเพียงธาตุ 4 เป็นเรือนร่างอาศัยของจิตชั่วคราว[/FONT]
    [FONT=&quot]2. [/FONT][FONT=&quot]วิจิกิจฉา[/FONT][FONT=&quot] ความสงสัยในความดีของพระรัตนตรัย[/FONT]
    [FONT=&quot]3. [/FONT][FONT=&quot]สีลัพพตปรามาส[/FONT][FONT=&quot] การรักษาศีลไม่แน่นอน[/FONT]
    [FONT=&quot]4. [/FONT][FONT=&quot]กามฉันทะ[/FONT][FONT=&quot] ความพอใจในรูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศ[/FONT]
    [FONT=&quot]5. [/FONT][FONT=&quot]ปฏิฆะ[/FONT][FONT=&quot] ความไม่ชอบใจ[/FONT]
    [FONT=&quot]6. [/FONT][FONT=&quot]รูปราคะ[/FONT][FONT=&quot] ติดในรูปฌานเกินไป[/FONT]
    [FONT=&quot]7. [/FONT][FONT=&quot]อรูปราคะ[/FONT][FONT=&quot] ติดในอรูปฌานเกินไป[/FONT]
    [FONT=&quot]8. [/FONT][FONT=&quot]มานะ[/FONT][FONT=&quot] ถือตัวถือตนเกินไป[/FONT]
    [FONT=&quot]9. [/FONT][FONT=&quot]อุทธัจจะ[/FONT][FONT=&quot] อารมณ์ฟุ้งซ่านเกินไป[/FONT]
    [FONT=&quot]10. [/FONT][FONT=&quot]อวิชชา [/FONT][FONT=&quot]ไม่เชื่อในอริยสัจ[/FONT]

    [FONT=&quot]กิเลสที่บรรดาพุทธบริษัทจะตัดจริงๆ นะมีอยู่ 10 อย่าง แต่ว่าอาการตัดจริงๆ เขาตัดตัวเดียวคือตัดที่สักกายทิฏฐิ [/FONT]

    [FONT=&quot] ฉะนั้นการปฏิบัติพระกรรมฐาน พระพุทธเจ้าให้ทุกคนมุ่งนิพพาน[/FONT]

    [FONT=&quot] อันดับแรกให้เอาจิตมุ่งนิพพานไว้ก่อน ถึงหรือไม่ถึงเราจะไปตั้งใจไว้เพื่อจะไป[/FONT]
    [FONT=&quot] ทีนี้เกณฑ์ที่จะไปเป็นขั้นๆก็มีดังนี้[/FONT]

    [FONT=&quot] พระโสดาบันกับพระสกิทาคามี ตัดกิเลส ตัดสังโยชน์ได้ 3 คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส[/FONT]
    [FONT=&quot] ถ้าทำลายกิเลสได้ 3 ตัวนี้ได้ชื่อว่า เป็นพระโสดาบัน หรือ พระสกิทาคามี[/FONT]
    [FONT=&quot] ถ้าตัดกิเลสได้อีก 2 ตัว คือ กามฉันทะกับปฏิฆะก็เป็นพระอนาคามี[/FONT]
    [FONT=&quot] ถ้าตัดได้อีก 5 ตัว คือ รูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ อวิชชา เป็นพระอรหันต์[/FONT]

    [FONT=&quot] ที่นี้การเจริญพระกรรมฐานก็มุ่งเอาคติแน่นอนเป็นสำคัญ คือที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า[/FONT]
    [FONT=&quot] ถ้าเป็นพระโสดาบันจะมีคติแน่นอน คือไม่ต้องกลับย้อนไปลงอบายภูมิอีก ไม่ต้องเกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน ถ้าไปสวรรค์จะกลับมาเกิดก็แค่คน แล้วย้อนไปสวรรค์หรือพรหม ในที่สุดก็ไปนิพพาน พระพุทธเจ้าต้องการอย่างนี้เป็นอย่างน้อย[/FONT]

    [FONT=&quot] ถ้าหากว่าท่านผู้ใดเจริญพระกรรมฐานก็พิจารณาจิตของท่านเอง แต่ความจริงเป็นพระโสดาบัน พระสกิทาคามี ถ้าไล่ตามแบบสังโยชน์นี้เข้าใจยาก รู้สึกว่าหนัก ก็ต้องดูตามภูมิที่พระพุทธเจ้าทรงตรัส[/FONT]

    [FONT=&quot] ท่านตรัสว่า พระโสดาบันกับพระสกิทาคามีเป็นผู้ทรงอธิศีล พระอนาคามี เป็นผู้ทรงอธิจิต พระอรหันต์เป็นผู้ทรงอธิปัญญา ( อธิ นี่เขาแปลว่า ยิ่ง )[/FONT]

    [FONT=&quot] อีกตอนหนึ่งท่านกล่าวว่า พระโสดาบันกับพระสกิทาคามีเป็นผู้มีสมาธิและปัญญาเล็กน้อย แต่ว่าทรงศีลบริสุทธิ์ มันก็ต้องจับมุมนี้ก่อน[/FONT]

    [FONT=&quot] ที่นี้สำหรับความเป็นพระโสดาบันจริงๆท่านบอกว่ามีสมาธิเล็กน้อยมีปัญญาเล็กน้อย เป็นผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ [/FONT]
    [FONT=&quot] สำหรับสมาธิของพระโสดาบันนี้ ถ้าปฐมฌานก็ใช้ได้ ปฐมฌานเป็นอารมณ์สบายๆตามปกติ ไม่เครียด ไม่หนัก ทั้งที่ว่าปัญญาเล็กน้อย ตัวปัญญานี่เข้าไปตัดสักกายทิฏฐิ ยังไม่มีความรู้สึกว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา ถ้ามีความรู้สึกอย่างนี้จริงเป็นพระอรหันต์[/FONT]

    [FONT=&quot] ฉะนั้นการตัดตัวนี้ก็ตัดแค่มีความรู้สึกว่า ชีวิตที่เราเกิดมานี้มันต้องตาย มันจะอยู่ตลอดกาลตลอดสมัยไปไม่ได้ ดังนั้นเมื่อความตายมีกับเรา เราจะไม่ยอมลงอบายภูมิ นั่นก็คือจะยึดความดีของพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง ไม่สงสัยในความดีของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ ความดีของท่านดีจริงๆ[/FONT]

    [FONT=&quot] ข้อที่ 3 สีลัพพตปรามาส ไม่ลูบคลำศีล คือศีล 5 บริสุทธิ์ พระโสดาบันมีเท่านี้เอง[/FONT]

    [FONT=&quot] ต้องไปดูคนที่เป็นพระโสดาบัน คือต้องดูตัวอย่าง ไม่งั้นจะจับมุมไม่ถูกตัวอย่างที่ท่านเป็นพระโสดาบันอย่าง นางวิสาขามหาอุบาสิก ท่านเป็นพระโสดาบันตั้งแต่อายุ 7 ปี ท่านก็ยังมีการประกอบอาชีพเป็นปกติ เมื่อถึงอายุ 16 ปีก็แต่งงาน[/FONT]

    [FONT=&quot] นี่จะเห็นว่า พระโสดาบันยังแต่งงานได้ ยังไม่ได้เลิกแต่งงานกัน โดยมากคนมักจะหนักใจตรงนี้มาก จึงเข้าใจพลาด บางทีเห็นคนเจริญพระกรรมฐานไม่กี่วันไปแต่งงานเข้า พวกนินทาเสียแล้ว[/FONT]

    [FONT=&quot] “หนอยแน่ ไปเจริญสมถะวิปัสสนา เสือกแต่งงานเสียแล้ว”[/FONT]

    [FONT=&quot] ปัดโธ่ เข้ายังไม่ห้ามกัน คนที่จะเลิกแต่งงานก็ต้องเป็นพระอนาคามี พระสกิทาคามีก็ยังแต่งงาน[/FONT]

    [FONT=&quot] ก็รวมความว่า องค์ของพระโสดาบัน คือ [/FONT]
    [FONT=&quot]1. [/FONT][FONT=&quot]มีความรู้สึกว่าจะต้องตายเป็นปกติ[/FONT]
    [FONT=&quot]2. [/FONT][FONT=&quot]มีความเคารพในพระพุทธเจ้า ในพระธรรม ในพระอริยสงฆ์จริง[/FONT]
    [FONT=&quot]3. [/FONT][FONT=&quot]มีศีล 5 บริสุทธิ์จริง และก็[/FONT]
    [FONT=&quot]4. [/FONT][FONT=&quot]มีอุปสมานุสสติกรรมฐานเป็นอารมณ์ คือ นึกถึงนิพพาน[/FONT]

    [FONT=&quot] ทีนี้ถ้าจะถามว่าพระโสดาบันเขาห้ามอะไรกันบ้าง ก็เลยไม่ต้องบอก ให้ดูศีล 5 [/FONT]

    [FONT=&quot] พระโสดาบันนี่ยังแต่งงานได้ ยังร้องรำทำเพลงได้ ไม่ใช่เป็นพระโสดาบันแล้วเลิกร้องเพลงนะ[/FONT]

    [FONT=&quot]นาวิสาขาท่านชวนลูกชวนหลานท่านร้องเพลง เมื่อสร้างพระคันธกูฏีมหาวิหารเสร็จ เพราะความดีใจ ลูกมั่งหลานมั่งรวมกันแล้ว 400 เศษ คือท่านมีลูก 20 คน แล้วลูกท่านก็ไขลูกมาอีกคนละ 20 คน รวมแล้ว 400 เศษ ท่านปลื้มใจก็ร้องเพลงแสดงความดีใจ ความชุ่มชื่นใจมันเกิดขึ้น ก็ร้องเพลงรอบๆวิหาร[/FONT]
    [FONT=&quot] จนกระทั่งพระที่เป็นปุถุชนสงสัย ก็ไปถามพระพุทธเจ้าว่า[/FONT]

    [FONT=&quot]“นางวิสาขากับลูกกับหลานบ้าแล้วหรือไร...[/FONT][FONT=&quot]? หาว่าบ้าสงเดชไป พระพุทธเจ้าบอก[/FONT]
    [FONT=&quot] “ลูกสาวตถาคตไม่บ้า เธอเกิดธรรมปิติที่สร้างวิหารเสร็จ เธอดีใจ การร้องเพลงเป็นของไม่แปลกสำหรับพระโสดาบัน”[/FONT]

    [FONT=&quot] ทั้งนี้เพราะว่าอะไร ศีล 5 เขายังไม่ได้ห้ามร้องเพลง ศีล 5 ห้ามฆ่าสัตว์ ห้ามลักทรัพย์ ห้ามประพฤติผิดในกาม ห้ามพูดมุสาวาท ห้ามดื่มสุราเมรัย เขายังไม่ได้ห้ามร้องเพลง [/FONT]

    [FONT=&quot] ในเมื่อพระโสดาบันพระสกิทาคามีทรงแค่ ศีล 5 ทำไมจะร้องเพลงไม่ได้ ถ้าจะไม่ร้องเพลงกันจริงๆ ต้องเป็นพระอนาคามี พอถึงพระอนาคามีนี่จะทรงศีล 8 จิตจะคิดว่าการรักษาศีล 5 เป็นที่ไม่พอใจสำหรับเรา เราไม่อิ่ม ยังไม่เต็มความประสงค์ ถ้าเราได้รักษาศีล 8 เรามีความพอใจ พอรักษาศีล 8 จิตมันสบาย อย่างนี้ถ้าปฏิบัติพระกรรมฐานอยู่ถึงเข้าใจว่าเวลานั้นจิตเริ่มเข้าสู่เขตของอนาคามีมรรค แล้วจะเป็นผลอีกเมื่อไรนั้นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก[/FONT]

    [FONT=&quot] อย่าไปบังคับเขานะ เห็นเขาได้อย่างนี้เราก็ได้อนาคามี มีก็มีบ้างซิวะ กูอดข้าวเย็นก็ได้ [/FONT]
    [FONT=&quot]ล่อก๊วยเตี๋ยวแทนข้าว ไม่กินล่ะ เลิกละ[/FONT]

    [FONT=&quot] ก็เป็นอันว่าการปฏิบัติพระกรรมฐานญาติโยมมุ่งจุดนี้นะ สมาธิที่ทำวันไหนได้ดีแค่ไหน พอใจแค่นั้น แล้วดูกำลังใจของท่านว่ากำลังใจของท่านมีความประมาทในชีวิตไหม คิดว่ามันจะไม่ตายมีหรือเปล่า การคิดว่าจะต้องตาย ไม่ต้องไปคิดทุกวินาทีหรอก เอาให้มันไม่ลืมก็พอแล้ว[/FONT]

    [FONT=&quot] แล้วประการที่ 2 มองดูจิตใจของท่านมีความเคารพในพระพุทธเจ้า ในพระธรรม
    ในพระอริยสงฆ์จริงไหม ยังมีความเคลือบแคลงสงสัยรึเปล่า[/FONT]

    [FONT=&quot] ประการที่ 3 ก็มองดูศีล 5 ข้อไหนบกพร่องบ้าง เพราะว่าพระโสดาบันนี่ยังต้องการแต่งงาน คือมีความรักระหว่างเพศ แต่ไม่ละเมิดศีล 5 คือไม่มีโทษกาเม[/FONT]

    [FONT=&quot] อีกประการหนึ่ง พระโสดาบันยังต้องการทรัพย์สินต้องการร่ำรวย แต่ว่าท่านไม่คดไม่โกงใคร หากินด้วยสัมมาอาชีวะ พระโสดาบันยังมีความโกรธ ความโกรธก็เบาลงกว่าปกติ แต่ว่าไม่ฆ่าใครให้ตาย [/FONT]

    [FONT=&quot] พระโสดาบันก็มีเท่านี้ อารมณ์ต่างๆคล้ายกับชาวบ้านธรรมดา การกระทำทุกอย่างอยู่ในขอบเขตของ ศีล 5 และจิตใจมุ่งพระนิพพานเป็นที่ไป[/FONT]

    [FONT=&quot] อันนี้ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายพิจารณาใจเอาเองก็แล้วกัน ว่าท่านทำได้แค่ไหน ถึงแค่นี้แล้วรึยัง อย่าให้ใครพยากรณ์เลย[/FONT]

    [FONT=&quot] ถ้าจิตเข้าถึงสกิทาคามี พระสกิทาคามีตัดสังโยชน์เหมือนพระโสดาบันทุกอย่าง แต่ว่าทุกอย่างลดตัวลงคือ ความรักในระหว่างเพศยังมีอยู่ แต่จิตใจมันยังจืดจางลงมาก ความต้องการน้อย ความร่ำรวยก็รู้สึกมีความพอเกิดขึ้นมาก การดิ้นรนทะเยอทะยานมีน้อยเต็มที[/FONT]

    [FONT=&quot] ความโกรธนี้มีสำหรับพระสกิทาคามี แต่ให้อภัยเร็ว ก็หมายความว่าโกรธเหมือนกัน โกรธมันเบา แล้วก็ให้อภัยเร็ว หายเร็ว หรือบางทีก็เกิดช้าเกินไป เขาด่าวันนี้ อีกสามวันเพิ่งนึกได้ ไอ้หมอนั่นมันด่ากู จะไปแก้ตัวเขาก็เลิกด่าเสียแล้ว นี่ถ้าใกล้ขั้นเต็มทีแล้วตอนนั้น

    สำหรับพระสกิทาคามีถ้าถึงอารมณ์ละเอียดบางคนมีความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพระอนาคามี อันนี้เป็นของธรรมดา ในสมัยพระพุทธเจ้าก็มี ในสมัยพระพุทธเจ้าบางท่านได้ฌานโลกีย์ แต่ฌานโลกีย์นี่ทรงอารมณ์เป็นปกติ มันก็กดกิเลสทั้งหมด เข้าใจว่าเป็นอรหันต์[/FONT]

    [FONT=&quot]มีพระคณะหนึ่งก็มีความรู้สึกตอนนี้ ต่อมาเมื่อฌานมันเสื่อมลงมา ความรู้สึกในกิเลสนั้นมันก็ปรากฏ ท่านก็เลยคิดว่าเราจะเป็นอาบัติปาราชิกหรือเปล่า เพราะคิดว่าเป็นพระอรหันต์ จึงไปถามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าบอกไม่เป็น เพราะไม่รู้ เข้าใจผิดไม่ปรับ[/FONT]
    [FONT=&quot] ที่นี้พระสกิทาคามีก็เหมือนกัน เบื้องต้นจริงๆอารมณ์ทุกอย่างเบา คือความรักในระหว่างเพศเบาตัวมาก ความต้องการความร่ำรวยก็รู้สึกมันจืดๆความโกรธก็รู้สึกว่าช้าลง และให้อภัยเร็ว พอเข้าถึงจุดละเอียด[/FONT]
    [FONT=&quot] พระสกิทาคามีใกล้จะเป็นพระอนาคามี อีตอนนี้ความรู้สึกต่างๆมันจะไม่เกิดเลย[/FONT]

    [FONT=&quot] การชนหน้ากันระหว่างคน เราเคยชอบใจรูปเสียง ประเภทนี้หรือสีสันวรรณะวัตถุก็ตาม มันไม่มีความรู้สึกต้องการ ความพอใจไม่มี แต่ว่าเวลาที่จิตสงัด บางทีเป็นเดือนน่ะ หนึ่งเดือน สองเดือน มันจะมีความรู้สึกวูบเข้ามานิดหนึ่ง แล้วก็ลดตัวลงไป อันนี้เป็นพระสกิทาคามีละเอียดใกล้จะเป็นอนาคามี [/FONT]

    [FONT=&quot] การทรงตัวพระสกิทาคามีเหมือนพระโสดาบันทุกอย่าง แต่อารมณ์มากกว่ากันคือว่า[/FONT]

    [FONT=&quot]1. [/FONT][FONT=&quot]ไม่ลืมความตาย [/FONT]
    [FONT=&quot]2. [/FONT][FONT=&quot]เคารพในพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์[/FONT]
    [FONT=&quot]3. [/FONT][FONT=&quot]ศีล 5 บริสุทธิ์[/FONT]
    [FONT=&quot]4. [/FONT][FONT=&quot]ต้องการพระนิพพานเป็นที่ไป[/FONT]

    [FONT=&quot] อันนี้เป็นอารมณ์ที่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทจะพึงสังเกตตัวเอง วันนี้ก็ว่ากันแค่สองเท่านั้นน่ะ เรื่องการเจริญพระกรรมฐานของญาติโยมพุทธบริษัท ถ้าคิดเอาแค่สมาธิอย่างเดียวไม่มีผลตรงตามเป้าหมาย ตามที่พระพุทธเจ้าต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางท่านเล่นสมาธิตั้ง 10 ปีนี่รู้สึกว่าลงทุนแพงเกินไป[/FONT]

    [FONT=&quot] ถ้าทำแค่สมาธิอย่างเดียว ไม่มุ่งความเป็นพระอริยเจ้านี่แพงเกินไป เรามุ่งความเป็นพระอริยจะเป็นหรือไม่เป็นตาม เราต้องการได้ก็หมดเรื่อง คิดไว้อย่างนี้จิตมันก็จะเบาๆจากกิเลส มันตัดไม่ขาดแต่มันก็เหลือบางเต็มที ถ้าตายจากความเป็นคนไปเป็นเทวดา พบพระพุทธเจ้าเทศน์ครั้งเดียว เป็นพระอริยเจ้าเลยอย่างน้อยก็เป็นพระโสดาบันตอนนี้[/FONT]

    [FONT=&quot] เวลาที่ท่านเจริญสมาธิกันก็ขอให้มุ่งคิดว่า [/FONT]

    [FONT=&quot]1. [/FONT][FONT=&quot]ชีวิตเราเกิดมามันต้องตาย ความตายจะมีมาเมื่อไรมันไม่แน่ ดูตัวอย่าง เปสการี
    ฉะนั้นต้องคิดไว้เสมอว่า ชีวิตเป็นของไม่เที่ยงแต่ความตายเป็นของเที่ยง ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า “ท่านทั้งหลายจงอย่าคิดว่าความตายจะมาถึงเราในวันพรุ่งนี้”

    ท่านให้คิดว่า ความตายอาจจะมาถึงเราในวันนี้ไว้เสมอ จะได้มีการเตือนตัว เช้ามืดเราคิดว่า วันนี้เราตื่นขึ้น จะได้เห็นแสงอาทิตย์หรือเปล่า เมื่อเห็นแสงอาทิตย์แล้ว จะเห็นอาทิตย์ตกดินหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ฉะนั้นวันนี้เราจะคุมกำลังใจ ถ้าตายเมื่อไรขอนิพพานเมื่อนั้น[/FONT]

    [FONT=&quot] อันดับแรก ยึดคุณพระรัตนตรัยไว้ก่อน คือ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม พระอริยสงฆ์[/FONT]
    [FONT=&quot] ประการที่สอง ประคับประคองศีลให้บริสุทธิ์จิตพร้อมจะไปนิพพาน อย่างนี้เป็นอาการของพระโสดาบันและพระสกิทาคามี[/FONT]

    [FONT=&quot]ที่มา [/FONT][FONT=&quot]:: หนังสือ ธัมมวิโมกข์ ปีที่ 4 ฉบับที่ 30 พ.ศ. 2526 ผู้จัดทำ เจ้าหน้าที่ ธัมมวิโมกข์
    สำนักงาน วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี 61000[/FONT]
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:TrackMoves/> <w:TrackFormatting/> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:DoNotPromoteQF/> <w:LidThemeOther>EN-US</w:LidThemeOther> <w:LidThemeAsian>X-NONE</w:LidThemeAsian> <w:LidThemeComplexScript>TH</w:LidThemeComplexScript> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> <w:SplitPgBreakAndParaMark/> <w:DontVertAlignCellWithSp/> <w:DontBreakConstrainedForcedTables/> <w:DontVertAlignInTxbx/> <w:Word11KerningPairs/> <w:CachedColBalance/> </w:Compatibility> <m:mathPr> <m:mathFont m:val="Cambria Math"/> <m:brkBin m:val="before"/> <m:brkBinSub m:val="--"/> <m:smallFrac m:val="off"/> <m:dispDef/> <m:lMargin m:val="0"/> <m:rMargin m:val="0"/> <m:defJc m:val="centerGroup"/> <m:wrapIndent m:val="1440"/> <m:intLim m:val="subSup"/> <m:naryLim m:val="undOvr"/> </m:mathPr></w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" DefUnhideWhenUsed="true" DefSemiHidden="true" DefQFormat="false" DefPriority="99" LatentStyleCount="267"> <w:LsdException Locked="false" Priority="0" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Normal"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="heading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="35" QFormat="true" Name="caption"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="10" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" Name="Default Paragraph Font"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="11" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtitle"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="22" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Strong"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="20" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="59" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Table Grid"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Placeholder Text"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="No Spacing"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Revision"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="34" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="List Paragraph"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="29" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="30" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="19" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="21" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="31" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="32" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="33" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Book Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="37" Name="Bibliography"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" QFormat="true" Name="TOC Heading"/> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-priority:99; mso-style-qformat:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin-top:0cm; mso-para-margin-right:0cm; mso-para-margin-bottom:10.0pt; mso-para-margin-left:0cm; line-height:115%; mso-pagination:widow-orphan; font-size:11.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Calibri","sans-serif"; mso-ascii-font-family:Calibri; mso-ascii-theme-font:minor-latin; mso-hansi-font-family:Calibri; mso-hansi-theme-font:minor-latin; mso-bidi-font-family:"Cordia New"; mso-bidi-theme-font:minor-bidi;} </style> <![endif]-->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...