หลักในการสวดมนต์...(คัมภีร์เทวดา)

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย หมอพล, 10 มีนาคม 2009.

  1. หมอพล

    หมอพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +4,175
    คัมภีร์เทวดา


    (เขียนโดย พ.ธรรมรังสี)<O:p</O:p





    คำนำ<O:p</O:p

    คัมภีร์เล่มนี้ได้รวบรวมพระคาถาอันเก่าแก่โบราณจากตำราและคัมภีร์พระเวทย์หลายฉบับ ผู้เขียนได้คัดเลือกเฉพาะพระคาถาบทที่มีความสำคัญและมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ประจักษ์มาแต่โบราณกาลด้วยเกรงว่าจะสูญหายไป กับทั้งการสวดมนต์คาถาก็เป็นพื้นฐานของการฝึกจิตสมาธิ เมื่อเรามีจิตสมาธิที่ดี จิตของเราก็จะมีพลัง พลังจิตนี้เองที่เราสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมายมหาศาล
    <O:p</O:p
    จุดประสงค์ของการสวดมนต์คาถา นอกจากสวดเพื่อเป็นการเพิ่มพลังจิตแล้ว อาจใช้เพื่อคุ้มครองตัว เพื่ออาราธนาพระเครื่องหรือขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งนี้ต้องมีความเชื่อมั่นเป็นประการสำคัญ การสวดมนต์คาถาให้ได้ผลนั้น ผู้สวดจำต้องนับถือในคุณพระรัตนตรัยอย่างแน่นแฟ้น นับถือในคุณของครูบาอาจารย์และรู้ถึงอานุภาพของพระคาถาแต่ละบท ขณะที่สวดพระคาถานั้นจิตของเราจะอยู่ในระดับของ อุปจารสมาธิ เมื่อสวดบ่อยๆ พลังของสมาธิก็จะเพิ่มพูนขึ้นโดยอัตโนมัติ คลื่นสมองของเราจะเกิดการจัดระเบียบและมีความละเอียดมากขึ้น สมองจะหลั่งสารแห่งความสุขมากขึ้น รังสีแห่งกายทิพย์ของเราก็จะสว่างมากขึ้นและมีสีสันสวยงามมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสวดพระคาถาชั้นสูงเป็นประจำสามารถปรับธาตุขันธ์ให้เกิดความสมดุล ตลอดจนถึงสามารถฟอกกายฟอกจิตให้บริสุทธิ์ได้และสามารถดึงเอาพลังงานแห่งความบริสุทธิ์ในจักรวาล (พลังธาตุบริสุทธิ์หรือธรรมธาตุ ) มาใช้ได้ ซึ่งจัดเป็น โลกุตตระอภิญญา หรืออย่างน้อยก็ดึงเอาพลังงานแห่งธาตุทั้งสี่ อันได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ มาใช้ได้ตามกำลังของสมาธิ ซึ่งจัดเป็น โลกียะอภิญญา เมื่อสวดในสถานที่ใดเป็นประจำ สถานที่นั้นจะเกิดการปรับมิติภพภูมิ เกิดพลังแห่งบุญ รัศมีแห่งบุญจะกระจายไปทั่วบริเวณ เป็นมหามงคล จะมีเทพเทวามาสถิตรักษาและคอยอนุโมทนาบุญ เหล่าสรรพวิญญาณที่อยู่บริเวณใกล้เคียงก็จะได้รับความร่มเย็นเป็นสุขไปด้วย
    <O:p</O:p
    ตามประวัติของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่เขียนโดยหลวงปู่มหาบัว ญาณสัมปันโน ได้กล่าวไว้ว่า หลวงปู่มั่นฯ จะสวดมนต์บทยาวๆ เป็นเวลานานหลายชั่วโมงทุกคืนและจะมีเทพเทวดามาอนุโมทนาสาธุการทุกครั้ง เทวดาจะกล่าวชื่นชมถึงความไพเราะของการสวดและความร่มเย็นเป็นสุขไปทั่วบริเวณ บทที่หลวงปู่มั่นนิยมสวดบ่อยๆ ได้แก่ บทสวดมนต์ทั้งเจ็ดตำนานและสิบสองตำนาน บทยาวๆ เช่น ธัมมจักกัปปวัตนสูตร มหาสมัยสูตร มหาเมตตาสูตร เป็นต้น ครูบาศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาไทยก็นิยมสวดบทบารมีสามสิบทัศ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)และท่านเจ้าคุณนรฯแห่งวัดเทพศิรินทร์ก็นิยมสวดพระคาถาชินบัญชร หลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลีก็นิยมสวดพระคาถาบูชาพระพุทธเจ้าทั้ง๒๘ พระองค์ หลวงพ่อจรัญฯ วัดอัมพวันก็นิยมสวดบทถวายพรพระ(พาหุงฯมหากาฯ) ตามด้วยบทสรรเสริญพระพุทธคุณ(อิติปิโสฯ) เกินอายุหนึ่งจบ
    <O:p</O:p
    นอกจากพระคาถาบทยาวๆ ดังที่ยกตัวอย่างมาแล้วนั้น ยังมีพระคาถาบทสั้นๆไว้สวดเพื่อเน้นผลมุ่งหมายโดยเฉพาะด้วย เช่น พระคาถามหาลาภ พระคาถาแคล้วคลาด พระคาถาคงกระพันชาตรี เป็นต้น ครูบาอาจารย์ทุกท่านได้สวดพระคาถาทั้งบทสั้นและยาวจนประสบผลสำเร็จมาแล้ว บางท่านก็แต่งพระคาถาขึ้นมาเองด้วยบุญบารมีของท่าน เช่น หลวงปู่ดู่ วัดสะแก แต่งบทพระคาถามหาจักรพรรดิ เป็นต้น พระคาถาบางบทก็มีที่มาจากนิมิตภาวนาของครูบาอาจารย์ เช่น พระคาถาเงินล้านของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง เป็นต้น พระคาถาทุกบทล้วนเกี่ยวข้องกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเป็นพระคาถาในพระพุทธศาสนาก็จะเป็นการสาธยาย(อธิบายความหมายแห่งพระธรรม)หรืออัญเชิญคุณของพระรัตนตรัยเป็นหลัก ถ้าเป็นพระคาถาในศาสนาพราหมณ์ก็จะเป็นการยกย่องสรรเสริญอำนาจแห่งเทพเจ้าผู้เป็นใหญ่ทั้งหลาย แต่ไม่ว่าจะเป็นพระคาถาบทใด สิ่งสำคัญที่เราต้องไม่ลืมก็คือ ศีลธรรมประจำใจ ที่ผู้ใช้พระคาถาทุกคนต้องมี อย่างน้อยที่สุดคือ ความกตัญญูกตเวที ไม่ว่าต่อพ่อแม่หรือครูบาอาจารย์ หากผู้สวดพระคาถาขาดซึ่งคุณธรรมประจำใจย่อมไม่ได้รับผลแห่งพระคาถานั้น พระคาถาทุกบทจะมีเทพพรหมรักษาอยู่และเทพพรหมก็จะรักษาแต่ผู้ที่มีคุณธรรมเท่านั้น การสวดพระคาถาจะได้ผลดีและได้ผลเร็วนั้นจึงขึ้นอยู่กับคุณธรรมของผู้สวดด้วย ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันกับการที่เรามีพระเครื่องวัตถุมงคลไว้สักการบูชา เพราะการปลุกเสกพระเครื่องหรือวัตถุมงคลนั้นก็อาศัยอำนาจความศักดิ์สิทธิ์จากเบื้องบนและพระคาถาต่างๆ นั่นเอง


    (มีต่อ...)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2009
  2. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,065
    ค่าพลัง:
    +2,682
    ขออนุญาติเอาบทสวดมนต์ล้วนๆ แต่ละบทมาให้หน่อยนะครับ
    และต้องแปลมาเป็นภาษาไทยแต่ละประโยคด้วยครับ
    จะได้ทำความเข้าใจกันมากๆกว่านี้นะครับ
     
  3. natspdo

    natspdo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +1,505
    อนุโมทนาสาธุ...

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2009
  4. mandark

    mandark Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +100

    อนุโมทนาครับ
     
  5. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    [​IMG][​IMG] ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...[​IMG][​IMG]
     
  6. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    [​IMG] สาธุ สาธุ สาธุ [​IMG]
     
  7. DD.

    DD. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    556
    ค่าพลัง:
    +103
    ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ

    ------------------------------------------
    พุทโธ...พุทโธ...ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส
    <!-- / message -->
     
  8. TJ69

    TJ69 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    436
    ค่าพลัง:
    +152
    อนุโมทนาสาธุ ในผลบุญด้วยครับ

    --------------------------------------

    คนที่ไม่เคยเป็นผู้ให้...ย่อมยากที่จะได้รับ..
    “การให้”..มองอย่างธรรมดาดูเหมือนว่า..เป็นการสูญเสีย..
    แต่แท้ที่จริงแล้ว...
    ผู้ให้ คือ..ผู้ที่ได้รับต่างหาก..
    คนที่เป็นผู้ให้จึงมีเกียรติคุณเกริกกรรจายชั่วฟ้าดินสลาย
    ทั้งนี้นั่นเป็นเพราะ
    “...โลกคารวะผู้ให้... แต่บอดใบ้ต่อผู้กอบโกยและโกงกิน...”


    ที่มา : ธรรมะรับอรุณ....ท่าน ว. วชิรเมธี
     

แชร์หน้านี้

Loading...