หลังออกจากสมาธิเกิดอาการ สั่นทางกายเเละสายตา

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย somkiatfem, 19 ตุลาคม 2016.

  1. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    หลังออกจากสมาธิเกิดอาการ สั่นทางกายเเละสายตา
    คือเมื่อจะออกจากสมาธิ ในฉลับพลัน เกิดอาการ หน่วงเวลา จิตควบคุมร่างกายได้ยากขึ้น เเละเมื่อลืมตามองไปตามสภาวะปกติพบว่า ภาพสั่น จริงๆก็รู้สึกว่า ตัวสั่นด้วย มีอาการเวียนหัวร่วมด้วย หลังจากออกจามสมาธิเเล้ว อยากทราบว่า ท่านที่เคยมีประสบการณ์ มีความคิดเห็นเช่นไรครับ
     
  2. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    คุณ นิวร ขอบคุณครับที่ ขยันอธิบาย ผมก็อยากอ่านนะครับ แต่อ่านไปได้ครึ่งทาง ก็เริ่มแปลความไม่ออกครับ เสียดายจริงๆผมไม่รู้ศัพท์แสงดีพอ สรุปว่าขอบคุณนะครับ

    เเต่เท่าที่อ่านๆมา ที่คุณ นิวร พูดถึง วิปัสนาอันนี้มีความเกี่ยวครับ เพราะการทำสมาธิในครั้งนี้ของผม ผมไม่ได้เจตนาภาวนา เเต่ เกิดจากวิปัสนามาก่อน ในการ พิจาราณาร่างกาย ธาตุสี่ ทำให้จิตเกิดการละ จิตน้อมเข้าหาความสงบ เป็นสมาธิแบบธรรมชาติ มีอาการไว เเละตั่งมั่น เเละ เบาในการทรงสมาธิ ครับ หลังจากนี้ไม่นานผมก็ ดึงจิตออกจากสมาธิ เเล้วมีอาการเกิดขึ้น ถ้าอย่างไรกรุณาอธิบายให้ผมฟังแบบสั้นๆง่ายๆให้อีกทีนะครับ ใครก็ได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2016
  3. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    thank krub เรียนเชิญท่านต่อไปครับ
     
  4. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    เป็นอาการของผู้ปฏิบัติภาวนาที่ออกจากสมาธิโดยที่สติตามไม่ทันครับ
    อาการเทียบเคียงได้กับปรากฏการณ์ที่พบกับแสงสว่างหลังจากอยู่ในที่มืดมานานครับ
    ตาจะพร่ามัว
    เทียบเคียงได้เท่านั้นแต่ผู้ที่เคยเจอจะเข้าใจได้ครับ
    ส่วนอาการสั่นทางกายเป็นอาการของจิตที่กลัวตายครับ
    เดาเอานะครับ
    อิอิ
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    แยกดีๆจะพบว่า เป็นเพราะ ๒ สภาวะครับ
    ซึ่งมันส่งผลต่อเนื่องซึ่งกันและกัน
    ในสภาวะแรกเริ่มมาจากในขณะที่
    นั่งสมาธิอยู่เป็น
    สภาวะที่ ๑ เป็นกิริยาที่สติทางธรรมยังไม่พอ
    คือสติทางธรรมตามสภาวะของตัวจิตไม่ทัน
    ในขณะที่นั่งสมาธิครับ
    คือจิตไปอยู่ในสภาวะความเป็นทิพย์แล้ว
    ในระดับอุปจาระสมาธิแต่สติทางธรรม
    ไม่รู้ทันสภาวะนี้เลยไม่ได้ไปควบคุมตัวจิต
    หรือไปรู้สภาวะที่จิตเริ่มมีความเป็นทิพย์ ณ เวลานั้นครับ..

    และมันจะส่งผลต่อมาถึง
    สภาวะที่ ๒ คือ
    และพอเราลืมตาขึ้นมาจากการระลึกรู้สึกตัว
    เราจะเริ่มรู้สึกทางกาย กลับมารู้ที่กาย
    สติทางธรรมจะกลับมาอยู่ที่ร่างกาย
    แต่ว่าในขณะที่ลืมตานั้น
    ตัวจิตที่มีความเป็นทิพย์อยู่
    มันยังไม่กลับมารวมกับกาย
    ในสภาวะที่ควรเป็นปกติเหมือน
    เราลืมตาทั่วๆไปนั้นเองครับ...
    และที่สั่นร่วมด้วยก็เพราะกำลังสมาธิ
    สะสมตรงนี้เรามันยังไม่พอครับ

    ซึ่งโดยปกติถ้าเรานั่งสมาธิ
    จิตเราจะเป็นอย่างไร กำลังสติ
    ทางธรรมเราจะตามรู้เท่าทัน
    เรียกว่า จิตจะอะไรอย่างไร
    สติทางธรรมจะตามทันหมด
    เพราะสติทางธรรม เสมือนตัวรู้
    ในสภาวะนามธรรมต่างๆที่จิต
    รับรู้กิริยาต่างๆในขณะที่เรานั่ง...

    และกำลังสมาธิสะสมจะเป็นตัวที่
    ทำให้เราอยู่ในสภาวะนั้นๆได้นานกว่าปกติ
    และขณะที่ออกมาหรือลืมตาแล้ว
    สมาธิสะสม ก็จะเปรียบเสมือน
    ตัวปรับสมดุลร่างกายกับจิต ให้กลับคืนสู่
    สภาวะปกติเหมือนๆเราลืมตาทั่วไปนั่นเองครับ...

    วิธีแก้ คือ เจริญสติให้ต่อเนื่องขึ้นกว่านี้อีกซักพัก
    ด้วยการระลึกรู้ลมหายใจเข้าและออกที่ปลายจมูกให้
    ต่อเนื่องอีกซักพัก เพื่อนำกำลังสติทางธรรมและสมาธิ
    สะสมที่ได้ตรงนี้ มาหนุนส่งเสริมกัน
    กิริยา ที่คุณ มาถามถึงจะไม่เกิดขึ้นอีกครับ...

    ส่วนถ้าจะไปพิจารณา หรือไปวิปัสสนาอะไรก็ตาม
    อย่าพึ่งไปทำ หากว่า กำลังสติทางธรรมมันยัง
    ไม่รู้เท่าทันหรือตามตัวจิตได้นะครับ..
    เพราะไม่งั้น มันจะกลายเป็นเพียงวิปัสสนึกเท่านั้น
    ต่อให้เรารู้มีความรู้มากแค่ไหน ก็เป็นเพียงวิปัสสนึก
    เพราะตัวจิต มันยกตัวมันเองมาพิจารณาตัวมันเอง
    นึกภาพ คนที่ยังตัดร่างกายตัวเองไม่ได้ ติดหล่อ
    ติดเท่ห์ บ้ายศ บ้ายอ บ้าสรรเสริญ
    แล้วมายืนมองกระจกดูตัวเองแต่งตัวหล่อๆ
    เวลามองตัวเองในกระจกก็จะพูด
    ก็จะชมแต่ตัวเอง คิดปรุงเสริมตัวเองเข้าข้างตัวเองนั่นหละครับ
    นี่เปรียบลักษณะวิปัสสนึก ให้ดูนะครับ

    ถ้าวิปัสสนาจะเหมือนคนป่วย นอนร้องโอ้ดโอย ว่าเจ็บๆ
    คือรู้ว่าอาการเจ็บเป็นอย่างไร แล้วทนๆยอมรับความเจ็บได้
    แม้ว่าขณะนั้นความเจ็บมันยังอยู่ แต่ก็ยอมรับตามความจริงได้

    ถ้าเราไม่สร้างกำลังสติทางธรรมก่อน เราก็จะเอาแต่โวยวาย
    ว่าหมอๆเมื่อไรผมจะหายเจ็บ เมื่อไรจะรักษาให้ผมหายซักที
    และถ้าเราไม่สร้างกำลังสมาธิสะสม เราก็จะโอดโอ้ยร้องๆ บ่นๆ
    ว่าเจ็บๆ โดยไม่เข้าใจว่า ถ้าเจ็บมันไม่ใช่จะหายได้ทันที
    มันต้องใช้ระยะเวลาอยู่นั่นหละครับ
    พูดเปรียบแบบนี้พอเข้าใจนะครับ
    ตำราเรารู้ได้ ศึกษาได้ ฟังได้ แต่ควรวางให้เป็น
    เหมือนเราอ่านตำราแล้ววิเคราะห์อาการบาดเจ็บคนป่วย
    ยังไงเราก็ไม่รู้กิริยาที่แท้จริงทางจิตทางกายของคนเจ็บได้ครับ
    นอกจากเราจะเจ็บเหมือนอย่างเค้า แม้เราอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
    แต่เราก็จะรู้ว่ากิริยาทางจิตมันเป็นอย่างไรและร่างกายมันเจ็บปวดอย่างไร
    ดังนั้นการปฏิบัติจึงต้องอาศัย การทำให้เข้าถึง
    มันถึงจะรู้สภาวะนั้นๆได้ด้วยตัวเอง
    ไม่ว่าทางกายและกิริยาทางจิตครับ
    พูดเปรียบให้ฟังเฉยๆนะครับ
    ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะครับ (^_^)
     
  6. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ชอบมากครับคุณ นพ รู้สึก ละเอียด ชัดเจน สอดคล้อง รู้เพิ่มเติม รู้สึกความไม่เสถียรของจิต ครับ เดียวต้องมาอ่านอีกหลายรอบ ชอบครับ
     
  7. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,111
    ค่าพลัง:
    +3,402
    อาการเหมือนจิตจะแยกกับกาย จิตให้พลังงาน พอมานไปเที่ยว กายเนื้อเราเลยหนาวสั่นละมั้ง
    พยายามให้จิตอยู่กับกายเข้าไว้ ไม่งั้นฝึกถอดจิตมากอาจหลุดมิติได้นะ แต่ถ้าพยายามละทางโลกจริงๆ
    ต้องทิ้งเจ้ากายเนื้อนี้ไปซะ บางทีถึงกับต้องแลกด้วยชีวิตเลยนะ ฝึกไม่ดี ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะครับ
    ตามจิตกลับเข้าที่เดิมยิ่งยากกว่าเดิมนะ ค่อยๆเก็บประสบการณ์ ค่อยๆฝึกนะ เอาความรู้จากการฝึกจิตมาให้ได้ รึคุณมีจุดประสงค์อื่นก็ขอให้ใช้ในทางที่ดี อย่าให้จิตด่าตัวเอง แย่ๆ
     
  8. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ครั้งนี้ผมมิได้เจตนาฝึกภวานาเพื่อ สิ่งใดเลยครับ อารมณ์ พาไปล้วนๆครับ อารมณ์จาก วิปัสนึกคิด ปัสนา ประมาณนี้ครับ
     
  9. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +952
    ตอบ ขอแสดงความคิดเห็นด้วยคนนะครับ เกิดความความดันครับ
    เนื่องจากสภาวะของร่างกายไม่สมบูรณ์ คือไม่แข็งแรงนั่นเองครับ
    ไม่ได้เกี่ยวกับการนั่งสมาธิแต่อย่างใดครับ คนละเรื่องกัน ครับ
    ---อนุโมทนาบุญครับ---
     

แชร์หน้านี้

Loading...