หวนรำลึก, บุษยา รังสี, นักร้องหญิง, สุนทราภรณ์

วันอาทิตย์ ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2557, 06.00 น.
tags : หวนรำลึก, บุษยา รังสี, นักร้องหญิง, สุนทราภรณ์

9

“ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” ยังคงนำ “คุณผู้อ่าน” สำราญไปกับความอลังการที่เรานำมาเสนอให้กับท่านผู้ที่ชื่นชอบ ศิลปินดารา นักร้องเก่า และในปี 2557 ที่กำลังจะมาถึงเราก็ยังนำเสนอความสุขนี้กันแบบต่อเนื่อง

และนี่คือช่วงเวลาของการฉลอง 74 ปี ให้กับวงดนตรีที่มีคนรู้จักหัวหน้าวงในระดับโลก ครูเอื้อ สุนทรสนาน ท่านเป็นทั้งศิลปินแห่งชาติและบุคคลดีเด่นด้านวัฒนธรรมของโลกที่คนไทยยอมรับกับความเป็นสุดยอดของศิลปินอย่างแท้จริง

ซึ่ง“บันเทิงแนวหน้า” กับ “มูลนิธิสุนทราภรณ์” โดย “หมึกดำ” บรรณาธิการฝ่ายข่าวบันเทิงกับ คุณอติพร สุนทรสนาน เสนะวงศ์ ขอส่งความสุขให้กับแฟน RETRO เปิดตัวศิลปินที่นับเป็นสมาชิก ทั้งการก่อตั้ง วงสุนทราภรณ์ หลากหลายรุ่นมาให้อ่าน โดยสัปดาห์นี้พบกับ...บุษยา รังสี นักร้องรุ่นกลางของวงดนตรี กรมประชาสัมพันธ์ และวงดนตรีสุนทราภรณ์

บุษยา รังสี หรือชื่อจริงว่า มานี ทัพพะรังสี (ชื่อเล่น : ต้อย) เป็นบุตรสาวของพระยานราทรพิรัญรัฐ (เยื้อน ทัพพะรังสี) และ เสงี่ยม ทัพพะรังสี เกิดเมื่อ 13 สิงหาคม พ.ศ.2483 ที่จังหวัดสงขลา จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้อนุปริญญาทางพาณิชยศาสตร์และการบัญชี

ชีวิตการเป็นนักร้องเริ่มตั้งแต่ เมื่อครั้งศึกษาอยู่ที่พณิชยการพระนคร และยังช่วยร้องให้วงดนตรีโรงเรียนนายเรือ ณ สถานีวิทยุ อส. ในสวนจิตรลดา พระราชวังดุสิตด้วย ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงดนตรีร่วมด้วย โดยมี ครูเอื้อ สุนทรสนาน ได้เข้าเฝ้าฯ

และได้ฟังเสียง บุษยา ร้องเพลง “สำคัญที่ใจ” คู่กับนักเรียนนายเรือเทอดศักดิ์ บุษปะวรรธนะ (หรือ เทอด วรรธนา ผู้ประพันธ์คำร้องเพลง ครวญถึงเจ้า, เสน่ห์สาวเหนือ, กรรมรัก ฯลฯ) เลยชวนให้ไปร้องเพลงด้วยกัน แต่ด้วยยังห่วงเรียนจึงได้ปฏิเสธไป

เมื่อเรียนอยู่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ร่วมร้องเพลงกับ วงสุนทราภรณ์ เมื่อวงไปบรรเลงที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม พ.ศ.2502 ในขณะเรียนอยู่ชั้นปีที่ 1

ครูเอื้อได้ชวนให้เข้าร่วมร้องเพลงในวงสุนทราภรณ์อีกครั้งหนึ่งซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ รวงทอง ทองลั่นธม ศิลปินรุ่นพี่ได้ลาออกจาก วงสุนทราภรณ์ พอดีโดย ครูชอุ่ม ปัญจพรรค์ ตั้งชื่อให้ว่า “ทัดดาว บุษยา” ตามชื่อนวนิยายของครูชอุ่มที่กำลังดังอยู่ในขณะนั้น แต่ครูเอื้อ สุนทรสนาน ให้ใช้ชื่อว่า “บุษยา รังสี”

ซึ่งญาติผู้ใหญ่ในตระกูล “ทัพพะรังสี” พอใจมาก ดังนั้นเมื่อเข้ามาอยู่ในวงดนตรีสุนทราภรณ์แล้ว จึงได้ร้องเพลง “น้ำตาดาว”
ออกทีวี.ช่อง 4 บางขุนพรหม เป็นครั้งแรกโดยใช้ชื่อ “บุษยา รังสี” และโด่งดังเป็นพลุแตกตั้งแต่นั้นมา

ผลงานเพลงแรกทางทีวี.คือ เพลง “น้ำตาดาว” ในละครทีวี.เรื่อง “วิมานใยบัว” เมื่อ 18 ส.ค.2502 ต่อมาได้ขับร้องเพลงและแสดงจินตลีลาเพลง “นิมิตสวรรค์” ทางทีวี.ช่อง 4 บางขุนพรหม เมื่อ 20 พ.ย.2502 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 20 ปี ของการก่อตั้งวงดนตรีสุนทราภรณ์ โดยร่วมกับนักร้องรุ่นพี่ของสุนทราภรณ์ ตั้งแต่ สุปาณี พุกสมบุญ, มัณทนา โมรากุล, จันทนา โอบายวาทย์, พิทยา บุญรัตพันธ์ ฯลฯ

ครูเอื้อ สุนทรสนาน ได้มอบให้ บุษยา ขับร้องเพลงของสถาบันต่างๆ ไว้เป็นจำนวนมาก จนได้ชื่อว่าเป็นราชินีเพลงสถาบัน ตั้งแต่เพลงของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเพลงของสี่เหล่าทัพ โดยเฉพาะเพลง “ลา” ของแต่ละสถาบัน เพลงที่เธอชอบมาก ได้แก่ น้ำตาดาว, โดมในดวงใจ, กระซิบสวาท, สั่งไทร, ลาภูพิงค์, พุทธศาสน์คู่ไทย, ฝากหมอน, แนวหลัง, โดมร่มใจ, แดนนภา ,ถึงพี่, จำจากโดม, พอกันที, ถึงอย่างไร ก็ไม่เหมือนเดิม, ลาแล้วแดนขจี, อาลัยร่มพฤกษ์, ลาดงตาล...



บุษยา เคยรับราชการ กรมบัญชีกลางควบคู่ไปกับการร้องเพลง ก่อนลาออกมารับราชการที่กรมประชาสัมพันธ์จนเมื่อ ครูเอื้อ สุนทรสนาน เกษียณอายุ จึงได้ออกมาร้องเพลงไทยสากล (เพลงลูกกรุง) อยู่ระยะหนึ่ง เพลงที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ “ฝั่งหัวใจ”

บุษยา สมรสกับ เรือตรีชูชาติ เกษเสถียร เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2507 รวมเวลาที่ใช้ชีวิตสมรสร่วมกัน 46 ปี มีบุตรด้วยกันสองคน คือ ชูมนัส เกษเสถียร และ ชัชเวทย์ เกษเสถียร มีหลานหนึ่งคนชื่อ เด็กหญิงกชนิภา เกษเสถียร ต่อมาได้ติดตาม พลเรือโทชูชาติ เกษเสถียร ไปอยู่ต่างประเทศเมื่อสามีได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยทูตทหารเรือที่ประเทศพม่า

พอกลับมาประเทศไทยได้ร้องเพลงในงานการกุศลต่างๆ เป็นครั้งคราว จนมีปัญหาทางสุขภาพ สามีจึงขอร้องไม่ให้ร้องเพลงอีก

นับตั้งแต่ นางมานี เกษเสถียร หรือ บุษยา รังสี ป่วยด้วยอาการทางสมองและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์โดยการแนะนำของ แพทย์หญิงคุณหญิงนงนุช ศิริเดช แพทย์ได้ทำการผ่าตัดเนื้องอกในสมองหลายครั้งและรักษาจนอาการดีขึ้นจึงได้ย้ายมารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า นอกจากอาการทางสมองแล้วแพทย์ยังได้ทำการรักษาระบบหัวใจ ระบบทางเดินหายใจและตาอีกด้วย

การรักษาทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของแพทย์ด้วยดีตลอดมาจนกระทั่งวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลาประมานสิบเอ็ดนาฬิกา บุษยา รังสี ได้นอนพักผ่อนตามปกติและได้ถึงแก่กรรมไปด้วยอาการอันสงบปราศจากอาการเจ็บปวดใดๆ ทั้งสิ้น รวมระยะเวลาป่วยประมาน 16 ปี สิริอายุ 69 ปี 6 เดือน 2 วัน

บุษยา รังสี มีผลงานที่สร้างชื่อเสียงกับวงดนตรีสุนทราภรณ์ ซึ่งรวมอยู่ CD แฟนคลับ สุนทราภรณ์ ทั้งเพลงเดี่ยว และเพลงคู่ มากมาย อาทิ น้ำตาดาว, กระซิบสวาท, ฝากหมอน, ฝนหยาดสุดท้าย, อยากเป็นของเธอ, ฝากรัก, พรานรัก, ใกล้มือคว้า,
ไม่ขอเป็นดาว, ถึงพี่, สั่งไทร, เหมันต์รัญจวน, หินพานต์, มัทรีร้องไห้, ปลายโลกร้าง, จันทร์รอแรม, ฝากใจฝัน, ชีวิตวอลซ์, พอกันที,ในโลกฝัน, รักในลมหนาว, คืนเพ็ญ, รักอมฤต, ละครชีวิต ฟ้าหน้าฝน, แสนห่วง, รักวันเติมวัน, ถิ่นไทยงาม, ห่วงรัก, ถึงอย่างไรก็ไม่เหมือนเดิม,หนองบัว, ปีศาจวสันต์ ดอกไม้รำพึง, กล่อมวนา, รักที่ต้องมนตรา, ภารตะในฝัน, สุดแท้แต่จะให้, ล่องนาวา, ฉันไม่ชอบเดือนหงาย,เดือนหงายใจเศร้า, ป่านนี้พี่รอ, เรือมนุษย์, ท่าน้ำ, สกุณาเริงฟ้า, ยามราตรี, จากรัก, ใจกระซิบ, จากไปใจอยู่, แก้วจ๋า, ปาฏลีอธิษฐาน, กลิ่นรักดอกแก้ว, แนวหลัง, แดนนภา, ลาก่อนสามพราน, ธารน้ำรัก,ลาภูพิงค์, เมื่อฝนโปรย ,โดมรอเธอ ,โดมร่มใจ, เสน่ห์สาวเหนือ ฯลฯนับเป็นนักร้องสุนทราภรณ์ที่ฝากผลงานเพลงไว้มากมายเป็นประวัติการณ์


น้ำตาดาว

ทำนอง ครูเอื้อ สุนทรสนาน

คำร้อง ครูธาตรี

เหม่อดูหมู่ดาวที่พราวพร่างฟ้า

หยาดสายน้ำตาหยดมาเหมือนว่าช้ำใจ

โอ้ฟ้าลืมเลือนห่วงเดือนเหนือเจ้าหรือไร

เจ้าพราวผ่องใสไม่เคยชื่นชม

หยาดเอยหยาดชลหล่นมาชุ่มชื้น

หยาดน้ำค้างคืนฝากรอยขมขื่นระทม

เจ้าช้ำอุราดุจทรวงของข้าระบม

เขาเคยชิดชมแล้วมาห่างเหิน

โอ้น้ำตาดาว

ไหลพราวโลมหล้าให้เพลิน

หยาดน้ำค้างชวนเชิญ

หริ่งหรีดเพลินกรีดร้องรำพัน

เยือกเย็นทั่วกันด้วยชลหยาดฟ้า

อกเอยอกเราเมื่อคราวชอกช้ำ

สุดแสนระกำหลั่งความช้ำด้วยน้ำตา

แต่น้ำตาเราโอ้ใครไหนเล่าเหลียวมา

ซับรอยน้ำตาของข้าดุจดาว

(ข้อมูลรวบรวมจากหนังสือรวมเพลงต่างๆ ของสุนทราภรณ์)


บันเทิง - หวนรำลึก ‘บุษยา รังสี’ สุดยอดนักร้องหญิง ‘สุนทราภรณ์’