หวั่นพายุสุริยะรุนแรง กระเทือนคนยุคติดหนึบเทคโนโลยี

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 25 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หวั่นพายุสุริยะรุนแรง กระเทือนคนยุคติดหนึบเทคโนโลยี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>24 กุมภาพันธ์ 2554 14:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพดวงอาทิตย์เมื่อวันที่ 15 ก.พ.54 ซึ่งเกิดการลุกจ้ารุนแรงที่สุดนับแต่ ธ.ค.2006 และจัดอยู่ในคลาสเอกซ์ ระดับ 2 ในภาพนี้เห็นเป็นภาพในย่านรังสียูวี (รอยเตอร์)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพ การลุกจ้าครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 4 ปี ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (จุดขาวด้านขวา) ส่งผลกระทบต่อการสื่อสารวิทยุทางตอนใต้ของจีน (นาซา/เอเอฟพี)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพจากยานสำรวจอวกาศของนาซา ที่เผยให้เห็นการลุกจ้าบนดวงอาทิตย์เมื่อปี 2000 (นาซา/เอเอฟพี)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>"ออโรรา" แสงสวยเหนือสวีเดนจากพายุสุริยะเมื่อปี 2006 (เอเอฟพี)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ผู้เชี่ยวชาญหวั่นพายุสุริยะครั้งใหญ่ เหมือนเมื่อเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อนจะเกิดขึ้นอีก แล้วจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตที่พึ่งพาเทคโนโลยีเป็นหลักในชีวิตประจำวัน พร้อมยอมรับ ยังไม่สามารถทำนายได้ว่าจะเกิดพายุรุนแรงเมื่อไร

    หลังดวงอาทิตย์เกิดการลุกจ้า (Flare) รุนแรงที่สุดในรอบ 4 ปี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นการลุกจ้าถึงระดับคลาสเอกซ์ (Class X) ซึ่งเป็นระดับที่รุนแรงที่สุดนั้น ทางผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาแสดงความกังวลต่อปรากฏการณ์ดังกล่าว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตยุคใหม่ที่ติดอยู่กับการพึ่งพาเทคโนโลยี

    จากรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี ที่ระบุความเห็นของผู้เชี่ยวชาญว่า สังคมยุคใหม่มีความเสี่ยงจาก “สภาพอวกาศ” (space weather) มากขึ้น เพราะเราพึ่งพิงระบบดาวเทียม ในการประสานเวลาคอมพิวเตอร์ ระบบนำทาง เครือข่ายการสื่อสารทางไกล และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากเกินไป

    ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญภายในการประชุมประจำปีของสมาคมเพื่อความหน้าวิทยาศาสตร์อเมริกัน (American Association for the Advancement of Science) บอกว่า พายุสุริยะที่รุนแรงสามารถรบกวนเทคโนโลยีเหล่านั้น ไปจนถึงทำลายดาวเทียม ตลาดหุ้น และเป็นสาเหตุให้ไฟดับได้นานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน สถานการณ์ที่กล่าวมานั้นดูจะรุนแรงขึ้นเพียงเพราะวัฎจักรสุริยะ (solar cycle) กำลังเข้าสู่ช่วงที่กิจกรรมสูงสุดในรอบ 11 ปี

    นี่ไม่ใช่เรื่องว่า จะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไร และรุนแรงแค่ไหน ครั้งสุดท้ายที่เกิดช่วงสูงสุดในวัฎจักรสุริยะคือเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ซึ่งโลกยังไม่เชื่อมโยงถึงกันมาเท่านี้ ตอนนี้โทรศัพท์มือถือมีให้พบอยู่ทั่วไป ก่อนหน้านี้ก็มีอยู่ทั่วแต่เราก็ไม่ได้พึ่งพามันเพื่อทุกสิ่งทุกอย่างเท่านี้” ความเห็นของ เจน ลุบเชนโก (Jane Lubchenco) จากองค์การสมุทรศาสตร์และบรรยากาศสหรัฐฯ หรือโนอา (National Oceanographic and Atmospheric Agency: NOAA)

    ลุบเชนโกบอกด้วยว่า ทุกอย่างที่เราใช้ในวันนี้นั้นมีแนวโน้มที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับสภาพอวกาศมากกว่าเมื่อครั้งที่ดวงอาทิตย์เข้าสู่ช่วงสูงสุดของวัฎจักรสุริยะครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้

    ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายก็ยอมรับว่า ปัจจุบันเราสามารถทำนายการเกิดพายุสุริยะที่รุนแรง จนก่อความเสียหายอย่างที่กล่าวมาได้เพียงเล็กน้อย อย่างมากที่สุดที่ทำได้ คือปกป้องระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าของโลกโดยหาทางป้องกันบางอย่าง ไม่อย่างนั้นก็หยุดจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่เสี่ยงจนกว่าช่วงอันตรายจะผ่านไป

    “อย่าเพิ่งตื่นตระหนก” สตีเฟน เลชเนอร์ (Stephan Lechner) ผู้อำนวยการศูนย์คณะกรรมการความร่วมมือวิจัยยุโรป (European Commission Joint Research Center) ซึ่งเข้าร่วมในการประชุมดังกล่าวด้วย เรียกสติทุกคนหลับคืน พร้อมทั้งให้ความเห็นว่า การตื่นตระหนกเกินไปนั้นจะทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้าย

    เลชเนอร์กล่าวว่า สิ่งที่เป็นต้นเหตุของความเสี่ยงในโลกยุคใหม่ คือระบบนำทางจีพีเอสนั่นเอง ซึ่งระบบช่วยนำทางดังกล่าวต้องประสานเวลากับเครือข่ายคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จีพีเอสนั้นช่วยและสร้างให้เกิดการพึ่งพารูปแบบใหม่ ซึ่งเทคโนโลยีนี้มีอิทธิพลครอบคุลมตั้งแต่ยานอวกาศ กลาโหม การถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ระบบดิจิทัล การบริการทางการเงิน ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ

    เฉพาะแค่ในยุโรปอย่างเดียว เลชเนอร์บอกว่ามีผู้ให้บริการการสื่อสารทางไกลมากถึง 200 ราย และยังไม่มีอะไรที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน และเรายังมีความเข้าใจที่ห่างไกลอยู่มาก รัฐบาลทั่วโลกกำลังเร่งทำยุทธศาสตร์ในความร่วมมือและการแบ่งปันข้อมูล เพื่อเตรียมป้องกันพายุสุริยะในครั้งหน้า แม้ว่าผู้มีหน้าที่พยากรณ์เรื่องนี้ จะยอมรบว่าพวกเขายังไม่มั่นใจว่าเมื่อไรจะเกิดปรากฏการณ์ขึ้นอีก

    “ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่อาจบอกได้ว่าจะเกิดพายุสุริยะครั้งใหญ่จากนี้อีก 6 เดือนข้างหน้า แต่เราบอกได้ว่าเมื่อไรที่เงื่อนไขจะสุกงอมพอที่จะเกิดพายุสุริยะขึ้น” จูฮะ-เพกกะ ลันทามา (Juha-Pekka Luntama) จากองค์การอวกาศยุโรป (European Space Agency) ให้ความเห็น

    เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดการปะทุครั้งใหญ่บนดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในรอบประมาณ 5 ปี ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวได้ส่งอนุภาคมีประจุหมุนควงพุ่งตรงมายังโลกด้วยความเร็ว 900 กิโลเมตรต่อวินาที โดยเป็นพายุสุริยะคลาสเอกซ์ที่ทรงพลังที่สุดในกิจกรรมบนดวงอาทิตย์ และได้ทำให้เกิดแสงเหนือหรือแสงออโรราและรบกวนระบบสื่อวิทยุบางแห่ง แต่ผลกระทบดังกล่าวจำกัดบริเวณแค่แถบซีกโลกเหนือเท่านั้น

    “เอาเข้าจริงกลายเป็นว่าเราได้รับการปกป้องอย่างดีในตอนนี้ สนามแม่เหล็กเรียงขนานดังนั้น จึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก แต่ในกรณีอื่นอาจจะไม่เป็นอย่างนี้” ลันทามากล่าว

    พายุสุริยะนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ ครั้งแรกที่เราบันทึกปรากฏการณ์ลุกจ้าของดวงอาทิตย์ครั้งใหญ่ได้คือเมื่อปี 1859 โดยนักดาราศาสตร์อังกฤษชื่อ ริชาร์ด คาร์ริงตัน (Richard Carrington) แล้วก็มีการตรวจพบพายุสุริยะอื่นๆ อีกหลายครั้งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

    จากข้อมูลขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) โดยพายุสุริยะครั้งใหญ่เมื่อปี 1972 ได้ตัดขาดการสื่อสารโทรศัพท์ทางไกลทางฝั่งตะวันตกของอิลลินอยส์ สหรัฐฯ ส่วนพายุครั้งใหญ่ครั้งใหญ่คล้ายๆ กันที่เกิดขึ้นเมื่อปี 1989 ได้ทำให้เกิดพายุสนามแม่เหล็กโลก (geomagnetic storm) ที่รบกวนการแจกจ่ายกระแสไฟฟ้า และเป็นเหตุให้เกิดไฟดับทั่วแคว้นคิวเบคของแคนาดา

    พร้อมกันนี้นักวิทยาศาสตร์ของนาซาได้จุดประเด็นไว้ในรายงานเมื่อปี 2009 ว่า การลุกจ้าของดวงอาทิตย์ที่รุนแรงนั้นทำให้เกิดแรงดันและกระแสไฟฟ้ามหาศาลที่ทำให้ระบบจ่ายพลังงานลัดวงจรได้ และเหตุหายนะเช่นนั้นจะทำให้สหรัฐฯ ต้องใช้เงินนับแสนล้านดอลลาร์เพื่อซ่อมแซมความเสียหายในปีแรก และยังต้องใช้เวลาถึง 10 ปีเพื่อฟื้นฟูความเสียหาย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000022599
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2011
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,618
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    ขอบคุณคุณNootaค่ะ
    เกิคขึ้น ตั้งอยู่-เสื่อม ดับไป
     
  3. pimapinya

    pimapinya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +2,044

    ขอบคุณ...สำหรับข้อมูลที่น่ารู้ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...