28.หอมกลิ่นอุบล ยลดวงจำปา

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย สร้อยฟ้ามาลา, 3 พฤษภาคม 2010.

  1. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    หอศิลปวัฒนธรรมอุบลราชธานี ที่นี่สร้อยฟ้ามาลาไม่ได้ถ่ายรูปไว้เพราะแยกตัวออกจากกลุ่ม นัดพี่แอ๊ด วาสนา กับพี่ติ่ง อำนวยกรณ์ สองคุณครูจะพาไปเที่ยววัดในตัวอำเภอเมือง แต่สร้อยฟ้ามาลาจำชื่อวัดได้ไม่แม่น จะจำได้ก็แค่บางวัดที่ถ่ายรูปป้ายชื่อบอกวัดเท่านั้นเอง วัดไหนที่รู้ชื่อวัดก็จะลงข้อมูลของวัดให้ได้อ่านกัน แต่วัดไหนไม่รู้ชื่อวัดจะขอลงแค่รูปแล้วคงต้องรบกวนให้พี่แอ๊ดกับพี่ติ๋งช่วยสานต่อทีนะจ๊ะ.....เอ คิดไปคิดมา ไม่เอาดีกว่า โทรศัพท์ไปถามคุณครูเสียเลยว่ามีวัดอะไรบ้าง....

    [​IMG]
    จานไหนของใคร ลองทายกันดู....

    [​IMG]


    แต่ก่อนที่จะไปชมวัด พี่แอ๊ดก็พาไปทานสเต็กสุดแสนอร่อยที่ร้านอะไรก็ไม่รู้ ไม่ทันได้ดูชื่อร้าน บรรยากาศสไตล์คันทรี่มีรูปมาให้ทายด้วยว่าจานไหนของใคร เมื่ออิ่มแล้วก็ไปชมวัดกัน โดยพี่แอ๊ดเป็นผู้ขับรถให้ พี่ติ่งเป็นมัคคุเทศก์นำเที่ยว........... วัดแรกที่ไปกันก็คือ วัดสระประสานสุข

    ...............................................

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.950648/[/MUSIC]​

    .................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_2709_1s.jpg
      IMG_2709_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      334.3 KB
      เปิดดู:
      2,362
    • IMG_2714_1s.jpg
      IMG_2714_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      347.4 KB
      เปิดดู:
      1,677
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013
  2. อำนวยกรณ์

    อำนวยกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +1,931
    มือนี้คุ้น ๆ นะ

    [​IMG]
    จานไหนของใคร ลองทายกันดู....


    แต่ก่อนที่จะไปชมวัด พี่แอ๊ดก็พาไปทานสเต็กสุดแสนอร่อยที่ร้านอะไรก็ไม่รู้ ไม่ทันได้ดูชื่อร้าน บรรยากาศสไตล์คันทรี่มีรูปมาให้ทายด้วยว่าจานไหนของใคร เมื่ออิ่มแล้วก็ไปชมวัดกัน โดยพี่แอ๊ดเป็นผู้ขับรถให้ พี่ติ่งเป็นมัคคุเทศก์นำเที่ยว........... วัดแรกที่ไปกันก็คือ วัดสระประสานสุข

    ...............................................

    ร้านมิ่งสุพรรณ ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2010
  3. อำนวยกรณ์

    อำนวยกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +1,931
    แม่สร้อยถ่ายรูปออกมาสวยขนาดนี้
    มีหวัง คุณแอ๊ดรับแขกจนหัวกระไดไม่แห้งแน่ ๆ
     
  4. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536

    นั่นสิ มือใครคุ้นๆ อิ อิ....
    เมืองอุบลราชธานี มีอะไรให้เที่ยวอีกเยอะเลย เสียดาย เวลาน้อย......


    อ้าว แล้วงานนี่พี่ติ๋งคงหัวกระไดไม่แห้งเหมือนกันอ่ะจ่ะ คริ คริ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2010
  5. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    วัดสระประสารสุข(วัดบ้านนาเมือง)
    ตั้งอยู่ที่บ้านนาเมือง ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๕กิโลเมตรด้านทิศเหนือของสนามบิน ตั้งอยู่ที่ บ้านนาเมือง ตำบลไร่น้อยอำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เป็นวัดที่มีพระอุโบสถแปลกตาสร้างเป็นรูปเรือสุพรรณหงส์ประดับตกแต่งด้วยเซรามิค และยังมีพระวิหารรูปเรืออยู่ด้านหลังของวัด

    [​IMG]

    [​IMG]

    ชื่อเดิมวัดบ้านนาเมือง ชื่อปัจจุบันวัดสระประสานสุข สร้างเมื่อพุทธศักราช ๒๔๗๐ สร้างโดยท่านพระศาสนดิลก (เสน ชิตเสโน) ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีทองหรือวัดศรีอุบล เจ้าอาวาสวัดสระประสานสุข มี ๒ รูป รูปแรกคือ อาจารย์ทองดี รูปที่ ๒ เจ้าคุณภาวนาวิสารเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล)ที่ดินของวัดประมาณ ๗๕ ไร่ การก่อสร้างหลวงปู่ได้เริ่มวางแผนก่อสร้างวัดเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๘๐โดยได้รับการร่วมมือจากญาติโยมเป็นอย่าง ดี เมื่อปีพุทธศักราช๒๕๑๕ หลวงปู่ได้นำชาวบ้านก่อสร้าง ศาลาการเปรียญขนานใหญ่และได้สร้างพระประธานปางนาคปรก ขนาดใหญ่ เมื่อปี พุทธศักราช ๒๕๒๙ ได้สร้างพระอุโบสถบนเรือสุวรรณหงส์ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๔ ได้สร้างประตูทางเข้าวัดเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ๓ เศียร เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๒ได้สร้างหอระฆัง ๕ ชั้น นายชุ่นเลี้ยง แซ่ล้อ นางโชจิร แซ่เตียว (เสี่ยบุญชัย) ผู้สร้างหอระฆังเมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๘ ทำพิธีเพื่อสร้างวิหารรูปเรือนาคราชห้าหัวกลางน้ำเวลาเที่ยงตรง เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๙ ทำพิธีตอกเสาเข็มวิหารเรือกลางน้ำ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ปัจจุบันวัดสระประสานสุขเป็นวัดที่มีชื่อเสียงทั้งในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียง เป็นวัดที่มีความสำคัญมีพุทธศาสนิกชนเลื่อมใสจำนวนมากด้วยบารมีของหลวงปู่บุญมีท่านเคร่งในวินัยและเป็นพระสายธรรมยุตนอกจากนี้ยังมียังมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามดึงดูดให้ผู้คนเดินทางมาชมกันอย่างแพร่หลาย และมีผู้เลื่อมใสมาทำบุญกันมากและยังมีทั้งรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกหลายองค์เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มากราบไหว้สักการะ

    [​IMG]


    และขณะนี้ทางวัดและญาติโยมได้สร้างพิพิธภัณฑ ์หลวงปู่บุญมี โชติปาโลซึ่งมีขนาดใหญ่อยู่ทางด้านวิหารกลางน้ำ ซึ่งหลวงปู่ประสงค์จะให้สร้างพิพิธภัณฑ์ให้เสร็จก่อนทำการประชุมเพลิงท่าน ทางวัดจึงเร่งสร้างให้เสร็จทันกำหนดภายในวัดนั้นมีความเงียบสงบร่มเย็น มีบริเวณที่กว้างขวาง โดยพุทธศาสนิกชนได้เลื่อมใสและศรัทธาใน หลวงปู่บุญมี โชติปาโล จึงเดินทางมาทำบุญและเยี่ยมชมวัดไม่ว่าทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศทั้งนี้บริเวณด้านหลังวัดเป็นที่ตั้งของวิหารกลางน้ำซึ่งมีปลาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยพุทธศาสนิกชนได้นำมาปล่อยไว้ซึ่งหลวงปู่บอกว่าไม่อยากให้เบียดเบียนซึ่งกันและกันจึงไม่มีใครนำปลาที่สระน้ำไปกิน จึงทำให้ปลามีปริมาณมากทั้งทางวัดได้จัดบริการให้อาหารปลาโดยแล้วแต่ผู้มาทำบุญจะบริจาควัดบ้านนาเมืองนับว่าเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามทั้งยังบ่งบอกถึงความเป็นไทยอีกด้วย ในฐานะที่เราเป็นคนไทยเราควรจะเล็งเห็นความสำคัญและเชิญชวนให้ผู้คนเดินทางมาทำบุญและถือเป็นการผักผ่อนอีกทางหนึ่งด้วย

    [​IMG]

    พระภาวนาวิศาลเถร นามเดิมบุญมี นามสกุล กุศลคุณ เกิดเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์พุทธศักราช ๒๔๕๒ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ปีระกาซึ่งตรงกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ วันมาฆบูชา ณ บ้านเลขที่ ๑๓๖ หมู่ ๒ ตำบลไร่น้อย อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โยมบิดาชื่อ นายกุ โยมมารดา ชื่อนางเลื่อน กุศลเลื่อน หลวงปู่บุญมีท่านเล่าให้ฟังว่าชื่อบุญมีนั้นมีอยู่ว่าก่อนที่โยมมารดาของท่านจะตั้งครรภ์ ได้ฝันว่าหลวงปู่สีทา ชยเสโนซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของหลวงปู่ ได้เอาพร้ามาให้ แต่พร้าดามนั้นเต็มเป็นสนิมไปหมดในนิมิตนั้นโยมมารดาท่านได้ถาม หลวงปู่สีเทาบอกว่าเอาพร้าที่เต็มไปด้วยสนิมนี้มาให้ทำไม ใช้ประโยชน์อะไรก็ไม่ได้ หลวงปู่สีเทาบอกว่าเอาไปลับเสียก่อนแล้วจะใช้การได้ ครั้นเมื่อหลวงปู่เกิดโยมมารดาท่านได้เจ็บท้องเป็นเวลา ๗วัน ๗คืน ยังไม่คลอดความทราบถึงพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ เจ้าเมืองอุบลราชธานีซึ่งเป็นลูกศิษย์ ของหลวงปู่สีเทา ชยเสโนพระองค์ได้เสด็จมาดูพร้อมหลวงปู่ว่าเป็นเพราะอะไรจึงคลอดอยากคลอดเย็นนักหนาครั้นถึงเวลาเที่ยงตรง ในสมัยนั้น ไม่มีเครื่องบอกเวลาเหมือนในสมัยปัจจุบันมีการบอกเวลาโดยการยิ่งปืนใหญ่เป็นสัญญาณ พอสิ้นเสียงปืนใหญ่โยมมารดาก็คลอดทารกเพศชายออกมาเป็นเวลาเที่ยงพอดี และเสด็จในกรมทรงรับสั่งว่ามีรับสั่งว่า เด็กชายคนนี้จะชะรอย เป็นผู้มีบารมีมาเกิดจะดีจะชั่วเพียงใดไม่อาจรู้ได้ ขอให้ชื่อบุญมีนะและรับสั่งให้โยมบิดาของหลวงปู่เอาผ้ามาพันตัวนำไปลอดใต้ท้องช้างกลับไปกลับมาสามครั้งหลวงปู่จึงได้ชื่อว่าบุญมีตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา หลวงปู่ในวัยเด็กนั้นร่างกายของท่านบอบบางมากเป็นเด็กที่เลี้ยงยาก แม้โยมมารดาได้ประคับประคองเลี้ยงเป็นอย่างดีแต่ก็ยังเป็นห่วงลูกอยู่ตลอดเวลาว่าเป็นเด็กไม่ค่อยแข็งแรงและไม่อยากไปทำมาหากินจึงบอกหลวงปู่ ลูกเอ๋ยบวชแล้วอย่าสึกนะจากคำพูดนี้เองทำให้หลวงปู่บุญมีระลึกอยู่เสมอว่าจะเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์แทนพระคุณแม่

    [​IMG]


    ด้านการศึกษา
    หลวงปู่บุญมีเข้าเรียนและจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนบ้านนาเมือง ตำบลไร่น้อยอำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๖๕ และสอบได้นักธรรมเอก (น.ธ.)จากสำนักเรียนวัดศรีทอง (วัดศรีอุบลรัตนาราม) อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๘๕ ด้านการศึกษาพิเศษ หลวงปู่บุญมีได้ศึกษาอักษรขอมจนมีความรู้ความสามารถอ่านออกเขียนได้และยังมีความชำนาญในการอ่านหนังสือธรรมสมัยโบราณนอกจากนั้นหลวงปู่ยังมีความสามารถทางด้านการใช้ภาษาผญา ภาษิตอีสานเป็นอย่างดีสามารถเอามาใช้ในทางเทศนาธรรม และคำสอนของหลวงปู่จนเป็นที่ประทับใจและศรัทธาแก่ลูกศิษย์ ที่ได้ฟังพระธรรมเทศนาทุกคน

    [​IMG]


    การบรรพชา และอุปสมบท
    โยมมารดาได้พาหลวงปู่บูญมีไปฝากไว้กับ หลวงปู่สีทา ชยเสโนทำให้ท่านได้มีโอกาสกราบนมัสการหลวงปู่เสาร์ กนตสีโล และพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ซึ่งอาจารย์ทั้งสองได้มาแวะเวียนมากราบนมัสการหลวงปู่สีทา ชยเสโนซึ่งเป็นอุปัชฌาย์ใหญ่ ่ฝ่ายวิปัสสนาเถระในสมัยนั้น เมื่อสิ้นหลวงปู่สีทา ชยเสโนโยมมารดาได้พาหลวงปู่บุญมีไปบรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดศรีทอง (วัดศรีอุบลรัตนาราม)ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี และในระหว่างบรรพชาเป็นสามเณรนั้นพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระได้เมตตานำสามเณรบุญมีไปจำพรรษากับท่านที่จังหวัดสกลนคร เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี หลวงปู่บุญมีได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมา วัดศรีทองในวันศุกร์ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖ ปีมะแม ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๗๒ซึ่งตรงกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ วันวิสาขบูชา โดยมีพระเดชพระคุณ พระศาสนดิลก (เสน ชยเสโน) เป็นอุปัชฌาย์ พระมหาสว่างเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์เพ็งเป็นพระอนุศาสนาจารย์ ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า “โชติปาโล” อันมีความหมายว่า “ผู้มีแสงสว่างในธรรม”

    [​IMG]

    ช่วงชีวิตสมณะเพศ
    หลังจากอุปสมบทหลวงปู่บุญมีได้มีโอกาสกราบนมัสการท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์สิริจันโท) เป็นพระเถระผู้ใหญ่ ผู้มีคุณูปการต่อกิจการคณะสงฆ์ภาคอีสานซึ่งท่านได้เมตตาต่อหลวงปู่บุญมีโดยอนุญาตให้ติดตามท่านไปอยู่จำพรรษาที่วัดบรมนิวาสกรุงเทพมหานครและที่วัดเขาพระงาม จังหวัดลพบุรีอีกด้วยในช่วงชีวิตสมณเพศของหลวงปู่บุญมี ท่านได้ออกจาริกธุดงค์ ไปในสถานที่ต่าง ๆ ครั้งหนึ่งท่านได้ออกจาริกไปพร้อมกับท่านอาจารย์มหาสว่างซึ่งเป็นอาจารย์ของท่านโดยจาริกไปประเทศพม่า ลาว เวียดนาม และเลยไปถึงประเทศจีนเมื่อกลับจากเมืองจีนหลวงปู่บุญมีท่านได้ช่วยพระอาจารย์สิงห์ ชนตยาโมสร้างวัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการร่วมกับหลวงพ่อลี ธมมธโรเพื่อเป็นศูนย์วิปัสสนากรรมฐานแก่พุทธศาสนิกชน และยังได้ร่วมกับพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร สร้างวัดป่าสุทธาวาส จังหวัดสกลนคร เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระอาจารย์มั้นภูริ ทัตตเถระ รวมทั้งได้ร่วมกับพระอาจารย์ดี ฉนโน สร้างวัดภูเขาแก้วอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี อีกวัดหนึ่งด้วย ในปีพุทธศักราช ๒๔๘๐ หลวงปู่บุญมีได้กลับมา ที่จังหวัดอุบลราชธานีได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสระประสานสุขสืบต่อจากพระศาสนดิลกซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่าน และได้เริ่มพัฒนาวัดสระประสานสุข (วัดบ้านนาเมือง)ที่เป็นวัดบ้านเกิดของท่านให้มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธาแก่ประชาชนจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียงทั่วไปทางวัดมีอาณาเขตทหารอากาศ กองบินที่ ๒๑ ข้าราชการทหารอากาศ ได้มีศรัทธามาร่วมอุปสมบทและจำพรรษาตลอดมา

    สมณศักดิ์
    ปีพุทธศักราช ๒๕๒๔ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ที่พระครูไพโรจน์รัตโนบล
    ปีพุทธศักราช ๒๕๓๐ เป็นพระครูสัญญาบัตรเทียบเท่าผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นพิเศษ
    ปีพุทธศักราช ๒๕๔๕ ได้รับแต่งตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระภาวนาวิศาลเถร(วิ.สย)

    [​IMG]

    ผลงานด้านการปกครอง
    วัดสระประสานสุข (วัดบ้านนาเมือง)เป็นวัดที่พระศาสนดิลก(เสน) ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่บุญมีได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดสระประสานสุข เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๘๐ ท่านได้เริ่มวางแผนและได้เริ่มดำเนินการพัฒนาวัดสระประสานสุข โดยความร่วมมือและเสื่อมใสศรัทธาจากญาติโยมและพุทธศาสนิกชนจนมีความรุ่งเรืองเป็นที่เคารพนับถือแก่ญาติโยมทั่วไป ด้านการปกครอง หลวงปู่บุญมีมีระเบียบในการปกครองพระสงฆ์ในวัดสอดคล้องกับกฎของมหาเถรสมาคมอย่างเคร่งครัดโดยกฎกติกาของวัด ตามมติของคณะสงฆ์ภายในวัดเป็นผู้กำหนดขึ้นมาเองและที่เป็นกิจวัตรสำคัญที่หลวงปู่ได้ริเริ่มและให้ปฏิบัติเป็นประจำคือการจัดให้มีการปฏิบัติธรรมและเจริญสมาธิภาวนาทุกวันโดยเฉพาะวันพฤหัสบดีที่ศาลาการเปรียญวัดสระประสานสุข ตั้งแต่เวลา ๑๙.๐๐ น.เป็นต้นไป

    ผลงานด้านการพัฒนาวัด
    หลวงปู่บุญมีได้ริเริ่มและดำเนินการก่อสร้างสิ่งต่าง ๆภายในวัดให้เป็นศาสนสถานที่เป็นแหล่งรวมใจของชาวพุทธโดยทั่วไป ดังนี้
    ปีพุทธศักราช ๒๕๑๕ หลวงปู่ได้เป็นผู้นำศรัทธาชาวบ้านก่อสร้างศาลาการเปรียญขนาดใหญ่ ในลักษณะทรงปั้นหยาภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางนาคปรกขนาดใหญ่ที่หลวงปู่เป็นผู้นำศรัทธาหล่อไว้เพื่อให้ศาสนิกชนได้สักการบูชา
    ปีพุทธศักราช๒๕๒๙ หลวงปู่บุญมี ได้ออกแบบและเป็นประธานในการก่อสร้างพระอุโบสถบนเรือสุพรรณหงส์อันมีความหมายว่าจะเป็นพาหนะที่จะพาบรรดาพุทธศาสนิกชนข้ามมหาสมุทรแห่งวัฎฏสงสารสู่ดินแดนมหานิพพานซึ่งอุโบสถที่หลวงปู่สร้างนี้ มีความสวยงาม ตั้งเด่นเป็นสง่าก่อให้เกิดความศรัทธาต่อญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดสระประสานสุขเป็นอย่างยิ่ง
    ปีพุทธศักราช ๒๕๓๔ หลวงปู่บุญมี ได้นำคณะศิษย์สร้างพระพุทธรูปปางประทานพรสูง ๗ เมตร ๗๗ เซนติเมตร และได้ถวายนามว่า “พระพุทธโชติปาละชนะมาร” สร้างพระสังกัจจายเป็นปูนปั้นสูง ๒ เมตร ๗๗ เซนติเมตร ถวายนามว่า “พระสังกัจจายโชติปาโล” และสร้างพระสิวลีโชติปาโล ณวัดสังกัจรัตนคีรีบนยอดเขาสะแกกรัง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี

    นอกจากนี้แล้วหลวงปู่บุญมี ยังได้สร้างศาสนต่าง ๆ ภายในวัดสระประสานสุข คือวิหารโชติปาโล สร้างกุฏิปาโชติปาโลนุสรณ์ ในลักษณะทรงไทยสร้างกุฏิโสติธรรมในลักษณะทรงไทย สร้างหอสวดมนต์ในลักษณะทรงไทย และที่สำคัญก็คือการสร้างศาลากลางน้ำที่อยู่ในเรือสุพรรณหงส์ในสระน้ำใหญ่ซึ่งการเริ่มสร้างในครั้งนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งของวัดและที่สร้างความประทับใจเป็นพิเศษให้แก่ญาติโยมที่เดินทางมาที่วัดสระประสานสุขก็คือประตูทางเข้าด้านหน้าวัด ที่หลวงปู่บุญมีได้สร้างเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ๓เศียรที่ใหญ่โตมาก สามารถมองเห็นเด่นสง่ามาแต่ไกลนอกจากนี้ท่านยังได้สร้างและปรับปรุงห้องน้ำห้องสุขาให้เพียงพอกับญาติโยมที่มาร่วมทำบุญในงานเทศกาลต่างๆ รวมถึงการสร้างกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กล้อมรอบบริเวณวัดและการปรับสภาพแวดล้อมและพื้นที่ภายในวัด ทั้งหมดให้เหมาะสมสวยงามสมกับเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและการร่วมทำบุญแก่พุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป


    พระภาวนาวิศาลเถรหรือ หลวงปู่บุญมี โชติปาโล เจ้าอาวาสวัดสระประสานสุขหรือวัดบ้านนาเมือง พระเกจิชื่อดังของจังหวัดอุบลราชธานีได้อาพาธด้วยโรคปลอดอักเสบและมีโรคแทรกซ้อนมาตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๔๖ โดยตลอดระยะเวลาที่จำวัดรักษาตัว อยู่ภายในกุฏิจะมีลูกศิษย์ เข้านมัสการเยี่ยมโดยไม่ขาดสาย เมื่อวันที่ต่อมาวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๔๗เวลา ๐๙.๐๐ น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ ได้เสด็จเป็นการส่วนพระองค์เข้านมัสการอาการหลวงปู่บุญมีภายในกุฏิท่ามกลางความปลื้มปิติในพระกรุณาธิคุณของหลวงปู่บุญมีกับศิษยานุศิษย์ที่เฝ้าอาการอาพาธ ด้วยความห่วงใย โดยมีข้าราชการระดับสูงคอยเฝ้ารับเสด็จ จากนั้นพระวรวงศ์เธอพระองศ์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ ได้เข้าเฝ้าดูอาการของหลวงปู่บุญมีอย่างใกล้ชิดโดยไม่ถือพระองค์นานถึง ๒ ชั่วโมง ระหว่างนั้นได้ทรงมีพระปฏิสันถารสอบถามถึงอาการอาพาธกับหลวงปู่บุญมีระยะ ๆ ถึงแม้ว่าหลวงปู่บุญมีจะพูดตอบไม่ได้ แต่ได้แสดงออกถึงซึ่งความปิติกับโต้ตอบทางสีหน้าพร้อมกับยกแขนแสดงถึงการรับรู้ถึงเรื่องที่พูด จากนั้นเวลา ๑๑.๕๐ น. พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า โสมสวลี พระวรราชา ทินัดดามาตุได้เสด็จดำเนินไปประกอบภารกิจส่วนพระองศ์ แต่พอคล้อยหลังได้เพียง ๕นาที หลวงปู่บุญมี ได้ปิดตาลงอย่างสงบพร้อมกับได้ถอดดวงจิตออกจากร่างท่ามกลางความโทมนัสแก่พระองค์เป็นอย่างยิ่งรวมถึงศิษย์ที่เข้าเฝ้าทุกคน

    พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล)แห่งวัดสระประสานสุข (วัดบ้านนาเมือง) ตำบลไร่น้อย อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานีขณะที่มรณภาพนั้น สิริรวมอายุได้ ๙๕ ปี ๓ เดือน ๙ วัน อายุพรรษา ๗๔

    [​IMG]


    ...................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_2717_1s.jpg
      IMG_2717_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      356.7 KB
      เปิดดู:
      4,091
    • IMG_2718_1s.jpg
      IMG_2718_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      386.7 KB
      เปิดดู:
      3,121
    • IMG_2720_1s.jpg
      IMG_2720_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      380.9 KB
      เปิดดู:
      3,279
    • IMG_2721_1s.jpg
      IMG_2721_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      226.4 KB
      เปิดดู:
      2,201
    • IMG_2722_1s.jpg
      IMG_2722_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      324.8 KB
      เปิดดู:
      2,948
    • IMG_2733_1s.jpg
      IMG_2733_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      258.2 KB
      เปิดดู:
      2,973
    • IMG_2726_1s.jpg
      IMG_2726_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      325.6 KB
      เปิดดู:
      2,611
    • IMG_2732_1s.jpg
      IMG_2732_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      305.2 KB
      เปิดดู:
      2,650
    • IMG_2742_1s.jpg
      IMG_2742_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      271.1 KB
      เปิดดู:
      2,442
    • IMG_2744_1s.jpg
      IMG_2744_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      296.9 KB
      เปิดดู:
      2,590
    • IMG_2750_1s.jpg
      IMG_2750_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      267.7 KB
      เปิดดู:
      2,375
    • IMG_2737_1s.jpg
      IMG_2737_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      305 KB
      เปิดดู:
      2,614
    • IMG_2723_1s.jpg
      IMG_2723_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      360.6 KB
      เปิดดู:
      2,030
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013
  6. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    ที่วัดนี้ พี่แอ๊ดมีคำถามอยู่หนึ่งคำถาม เพราะสงสัยมานาน มีคนเคยตั้งคำถาม ว่า ช้างเอราวัณที่เป็นซุ้มประตูวัดนี้ ผู้หญิง หรือ ผู้ชาย..... ?????

    ..........................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2015
  7. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    คุณสร้อย...มาแซวจนได้
     
  8. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    วัดที่ ๒ วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ
    เดิมชื่อ วัดใต้เทิง หรือ วัดใต้ ตั้งอยู่ถนนสุนทรวิมล ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๓๗๓ ในรัชสมัยรัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ

    [​IMG]

    [​IMG]

    <O:p</O:p
    เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่นามว่า “พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ” เนื้อทองนาคสำริด หน้าตัก ๕๑ นิ้ว (๑๒๗ เซนติเมตร) สูง ๘๕ นิ้ว (๒๑๒ เซนติเมตร) ใช้ทองนาคเงินสำริดหล่อองค์พระ หนักเก้าแสนบาท เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
    <O:p

    [​IMG]


    [​IMG]</O:p


    พระเจ้าองค์ตื้อในประเทศไทย
    องค์ที่ ๑พระเจ้าองค์ตื้อ (แสนตื้อ)
    เนื้อทองนาคสัมริดปางมารวิชัยอยู่ที่วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ เลขที่ ๒ถ.สุนทรวิมล ต. ในเมือง อ.เมืองจ.อุบลราชธานี
    องค์ที่ ๒พระเจ้าองค์ตื้อ (พระโต)
    เนื้ออิฐถือปูนลงลักปิดทอง ปางมารวิชัย อยู่ที่วัดพระโต บ้านหนองแซงอ.นาตาล(เขมราฐ) จ.อุบลราชธานี
    องค์ที่ ๓พระเจ้าองค์ตื้อ (พระองค์ตื้อ)
    เนื้อทองสัมริด ปางมารวิชัย อยู่ที่วัดศรีชมพูองค์ตื้อ บ้านท่าบ่ออ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย (องค์นี้มีพุทธลักษณะคล้ายคลึงกันกับองค์ตื้อวัดใต้)
    องค์ที่ ๔พระเจ้าองค์ตื้อ (พระหินตัน)
    เนื้อศิลาหิน ปางมารวิชัยอยู่ที่สำนกสงฆ์หน้าผาตาดโตน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
    องค์ที่ ๕พระเจ้าองค์ตื้อ (พระเก้าตื้อ)
    เนื้อทองสัมริด ปางมารวิชัยอยู่ที่วัดสวนดอก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เชียงใหม่
    องค์ที่ ๖พระเจ้าองค์ตื้อ (นวล้านตื้อ)
    เนื้อทองเหลือง ปางมารวิชัยอยู่ที่สามเหลี่ยมทองคำ ต. นาเวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

    [​IMG]


    พระเจ้าองค์ตื้อ มีลักษณะคล้ายคลึงกันมากสันนิษฐานว่าสร้างในยุคสมัยเดียวกัน ในพระอุโบสถยังประดิษฐานพระพุทธรูปปางยืนห้ามสมุทร ๔ องค์ พระพุทธรูปเจตมนเพลิง องค์ตื้อ สีดำสนิท ในวันที่ ๑ ถึง ๕ มีนาคม ของทุกปีวัดใต้จะมีงานเทศกาลอัญเชิญพระพุทธรูปเจตมนเพลิงองค์ตื้อเพื่อให้ประชาชนได้นมัสการสรงน้ำตลอด ๕ วัน ๕ คืน ทั้งนี้ตามที่เล่าสืบต่อกันมาว่า ก่อนและขณะอัญเชิญพระเจ้าองค์ตื้อมาประดิษฐานภายในพระอุโบสถได้เกิดฝนฟ้าคะนองนาน ๗ วัน ๗ คืน เป็นที่เล่าสืบต่อกัน ฝาผนังของพระอุโบสถมีภาพจิตกรรมฝาผนังเขียนพุทธประวัติและพระเจ้าสิบชาติ รูปเหมือนอดีตบูรพาจารย์
    ประวัติศาสตร์ของเมืองอุบลราชธานีได้บันทึกของเก่าไว้ว่าปูชนียวัตถุที่สำคัญ ๓ วัดของเมืองอุบลราชธานีคือ พระบทม์ อยู่วัดกลาง พระปางอยู่วัดใต้ และหอไตรอยู่วัดทุ่งศรีเมือง

    [​IMG]


    วัดใต้เป็นวัดบูรพาจารย์ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ในอดีตบูรพาจารย์ที่เคยพำนักอยู่เช่น พระอุปัชฌาย์สีทา ชยเสโน พระอาจารย์เสาร์ กนตสีโล ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์(สิริจนโท จันทร์) เป็นต้น

    [​IMG]

    วัดใต้เทิงมีปูชนียสถานเจดีย์ที่เก่าแก่ชำรุดทรุดโทรมหักพังลงไปหมดตามกาลเวลา เหลือเพียงแต่ฐานอิฐเก่าๆ อายุประมาณ ๒๐๐ ปี เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๙๓ อดีตเจ้าอาวาสวัดใต้เทิง พระปลัดสิงห์ สุวโจ ได้ลื้อขุดลึกไปลงประมาณ ๒ เมตร ได้พบพระพุทธรูป ๒ องค์ เนื้อสัมฤทธิ์ ปางยืนห้ามสมุทรปัจจุบันได้อัญเชิญไปประดิษฐานในพระอุโบสถด้านหลังพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ พุทธศาสนิกชนสามารถไปกราบนมัสการได้ทุกวัน ผู้เป็นพยานในการขุดรื้อเจดีย์องค์เก่าที่ยังมีชีวิตอยู่คือนายสมร แก่นอาสา(อดีต พระสมร) ท่านผู้นี้เคยบวชอยู่วัดใต้เทิง เจดีย์เก่าแก่องค์เดิมเรียกว่า เจดีย์แก้วพระปางสัมฤทธิ์ ทางวัดใต้เทิงได้เริ่มโครงการเพื่อบูรณะก่อสร้างเจดีย์แก้วพระปางสัมฤทธิ์แทนองค์เก่าไว้เป็นที่สักการะไว้ในพระพุทธศาสนาต่อไป


    ...........................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_2758_1s.jpg
      IMG_2758_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      369.9 KB
      เปิดดู:
      3,023
    • IMG_2760_1s.jpg
      IMG_2760_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      324.5 KB
      เปิดดู:
      2,939
    • IMG_2765_1s.jpg
      IMG_2765_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      377.3 KB
      เปิดดู:
      3,324
    • IMG_2769_1s.jpg
      IMG_2769_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      279.3 KB
      เปิดดู:
      3,181
    • IMG_2779_1s.jpg
      IMG_2779_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      370.1 KB
      เปิดดู:
      3,747
    • IMG_2784_1s.jpg
      IMG_2784_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      384.2 KB
      เปิดดู:
      3,492
    • IMG_2790_1s.jpg
      IMG_2790_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      305 KB
      เปิดดู:
      3,138
    • IMG_2786_1s.jpg
      IMG_2786_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      307.4 KB
      เปิดดู:
      2,683
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013
  9. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]

    ไม่ทิ้งร่องรอยไว้สำหรับกองพิสูจน์หลักฐานเลย ยังงัยก็ทายไม่ถูกหรอก..ก..ก..555+
     
  10. ประทีปแก้ว

    ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    3,506
    ค่าพลัง:
    +8,328
    [​IMG]
    ชอบทุกภาพ...ถ้าดูคร่าวๆแบบไม่ต้องพิจารณาเหมือนภาพพ่นด้วยสีมากกว่าภาพเขียนดูคล้ายคลึงกับผลงานบ้านเชียง สีสันออกในโทนเดียวกัน...สวยดีต่างกันที่จุดประสงค์ของผลงาน
     
  11. ขุนแผนน้อยน่ารัก

    ขุนแผนน้อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +772


    -_-! เหมาหมด น่าจะไม่ไหว

    คงต้องทำงานใช้หนี้ทั้งชาตแน่เลย

    แหมๆ ผมว่าหนังสือดีๆ ภาพประกอบสวยๆ ยังไงก็ต้องขายได้

    สัก4-5เล่มแหละน่า (ล้อเล่นนะครับ อิอิ)
     
  12. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    เมื่อออกจากวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ ก็มาต่อกันที่วัดเลียบซึ่งอยู่ตรงข้ามกันคนละฝั่งถนน และขณะนี้เมฆฝนตั้งเค้ามาตั้งแต่อยู่ในวัดใต้ พอออกจากวัดใต้ น้ำฝนก็เริ่มจะกลั่นตัวแล้ว.........

    วัดที่ ๓ วัดเลียบ

    [​IMG]

    [​IMG]

    ตั้งอยู่เลขที่ ๑๑๖ ถนนเขื่อนนที ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุตจากบันทึกของพระเดชพระคุณพระโพธิญาณมุนี(สุธีร์ ภททิโย) ว่าก่อตั้งเมื่อวันพฤหัสบดี เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๓๙๑ จ.ศ.๑๒๐๑ ร.ศ.๖๗ ปีวอก สัมฤทธิศก

    [​IMG]


    จากคำบอกเล่าน่าจะเป็นวัดที่สร้างขึ้นเลียบคันคูเมืองเดิม เดิมเป็นสำนักสงฆ์ฝ่ายวิปัสสนา สำนักสงฆ์แห่งนี้อายุได้ ๔๔ ปี มีเจ้าอาวาสปกครอง ๑๐ รูป จนมาถึงยุคของพระอาจารย์ทิพย์เสนา ทิพพเสโน(แท่นทิพย์) ท่านได้มรณภาพลงเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๓ เป็นเหตุให้วัดเลียบล้างคราวหนึ่ง

    [​IMG]

    [​IMG]


    สิ่งที่น่าสนใจในวัดเลียบมีดังนี้

    ๑. พระอุโบสถ อำนวยการก่อสร้างโดยพระโพธญาณมุนีเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดเลียบ เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๔
    ๒. เจดีย์วิหารอนุสรณ์สถาน พระครูวิเวกพุทธกิจ(หลวงปู่เสาร์ กนตสีโล)
    ๓. อัฐิธาตุหลวงปู่เสาร์ กนตสีโล ประดิษฐาน ณ เจดีย์วิหารอนุสรณ์พระครูวิเวกพุทธกิจ

    [​IMG]

    [​IMG]


    ......................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_2810_1s.jpg
      IMG_2810_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      292.3 KB
      เปิดดู:
      1,709
    • IMG_2808_1s.jpg
      IMG_2808_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      356.7 KB
      เปิดดู:
      1,725
    • IMG_2814_1s.jpg
      IMG_2814_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      373.5 KB
      เปิดดู:
      1,857
    • IMG_2816_1s.jpg
      IMG_2816_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      354.9 KB
      เปิดดู:
      1,732
    • IMG_2817_1s.jpg
      IMG_2817_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      333.9 KB
      เปิดดู:
      1,740
    • IMG_2823_1s.jpg
      IMG_2823_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      309.7 KB
      เปิดดู:
      1,604
    • IMG_2821_1s.jpg
      IMG_2821_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      337.7 KB
      เปิดดู:
      1,776
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013
  13. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    [​IMG]

    เค้ารู้ จานบนขวาพี่ติ๋ง จานล่างขวา พี่แอ๊ด ส่วนจานล่างซ้ายแม่สร้อยฯ 5555555
    ทายถูกขอรางวัลด้วย
     
  14. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536

    อิ อิ เกือบถูก.....

    ทายถูกให้ตั๋วนั่งมองเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพมหานคร - อุบลราชธานี ฟรี....
     
  15. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    งั้นสลับข้างล่าง พี่แอ๊ดกะแม่สร้อย เพราะข้างบนพี่ติ๋งชัวร์ 55555
    ส่วนตั๋วมองเครื่องบินอ่ะเค้าไม่เอา เพราะปกติเค้ามองอยู่ทุกวันแล้วล่ะไม่ต้องตีตั๋วด้วย เพราะบ้านเค้าอยู่ใกล้ดอนเมือง 55555 (เวลามองกระดิกหางด้วยล่ะ หุหุหุ)
     
  16. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ถูกต้องแล้วจ้า เค้าทานผักไม่เก่ง เลยจานดูไม่สวยอ่ะ.....

    ส่วนตั๋วมองเครื่องบินอ่ะเค้าไม่เอา เพราะปกติเค้ามองอยู่ทุกวันแล้วล่ะไม่ต้องตีตั๋วด้วย เพราะบ้านเค้าอยู่ใกล้ดอนเมือง 55555 (เวลามองกระดิกหางด้วยล่ะ หุหุหุ)<!-- google_ad_section_end -->

    เค้าไม่ได้ว่าตะเองนะ....... โกรธป่าว......
     
  17. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    โอ้ยไม่ต้องห่วง เค้าเล่นแบบนี้กันประจำ ชิวๆ จ๊ะ(แต่อย่าเผลอแระกัน 55555)
     
  18. พรรณนา

    พรรณนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +1,178




    [​IMG]



    พี่สร้อยฟ้า...ไปแต่ละทริปมีให้ประทับใจอีกแล้ว....ฟังเพลงคลอ แม่สาวจำปา อีกต่างหาก เพราะจัง....

    แอบถ่าย ผู้บ่าว ลาวด้วยฮิๆๆๆๆพี่สร้อย​





    <O:p</O:p
     
  19. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    รูปนี้อยู่บนรสบัส แล้วยิงทะลุกระจกรถออกมาจ่ะ ห่างประมาณ ๕๐ เมตร เห็นจะได้

    รูปแอบถ่ายมีอีกเยอะ ทั้งผู้บ่าว ทั้งแม่หญิง ทั้งเด็ก ทั้งผู้เฒ่า เดี๋ยวให้ดูตอนท้ายๆ นะจ๊ะ เพื่อความยุติธรรม เดี๋ยวหาว่า ลงแต่รูปป้อจาย หรือผู้สาว อิ อิ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤษภาคม 2010
  20. อำนวยกรณ์

    อำนวยกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +1,931
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤษภาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...