28.หอมกลิ่นอุบล ยลดวงจำปา

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย สร้อยฟ้ามาลา, 3 พฤษภาคม 2010.

  1. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536

    ถ้าโอกาสเหมาะ จะไปนะจ๊ะ
    น้องลูกหยี เตรียมทำข้าวไขเจียวให้ด้วยนะ เพราะพี่ไม่ถนัดอาหารท้องถิ่นอ่ะจ่ะ.....

    ตอนไปเชียงรายครั้งแรก แทบร้องไห้เลย ทานไม่เป็นสักกะอย่าง ........
     
  2. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    เมื่อเสร็จกิจกับอาหารเช้าเรียบร้อย ก็ขึ้นรถบัส กลับกรุงเทพมหานคร แต่ก่อนที่จะขึ้นรถนั้น คงหนีไม่พ้นกับการช็อปปิ้งหน้าโรงแรมอีกแล้ว รู้สึกว่าคณะนี้ไม่ว่าจะลงรถ หรือกำลังจะขึ้นรถเป็นต้องซื้อของทุกที (คณะอื่นเป็นป่าวไม่รู้) ก็ซื้อของกันมากพอดู จะเป็นสินค้าพวกผ้ามากกว่า มีแม่ค้ามาตั้งแผงหน้าโรงแรมกันเลย แต่สร้อยฟ้ามาลาขอผ่าน ขึ้นรถดีกว่า ไม่อยากขึ้นเป็นคนสุดท้ายเดี๋ยวถูกคว้างค้อนอีก....
    <O:p</O:p
    และขณะนี้ เป็นเวลา เจ็ดโมงเช้านิดๆ ล้อรถทั้ง ๓ คัน ก็กำลังจากเคลื่อนจากจังหวัดอุบลราชธานี รู้สึกใจหายเพราะยังอยากอยู่ต่ออีกวัน เสียดายจังเวลาหมดแล้ว วันหน้าคงมีโอกาสได้มาเยือนใหม่
    <O:p</O:p
    สถานที่ต่อไปที่คณะของเราจะแวะในช่วงขากลับ คือ ปราสาทหินเขาพนมรุ้ง ซึ่งสร้อยฟ้ามาลาเคยไปมาแล้วเมื่อคราวไปงานบุญกฐินวัดป่าศิริสมบูรณ์เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๕๒ ที่ผ่านมานี้ แต่ก็เก็บภาพได้ไม่เยอะเนื่องจากเดินไปเท้าสะดุดหินศิลาแลงเล็บฉีกเลยเดินต่อไม่ถนัด มาคราวนี้ก็สามารถเก็บภาพได้มากมาย แต่ก็ไม่หมดอีก เพราะขาดช็อดเด็ดไปหลายซอก หลายมุม ไม่ได้ถ่ายรูปอารมณ์ขันที่ช่างขอมโบราณทำไว้ที่ลวดลายของปราสาท และก็มีภาพแกะสลักพิธีกรรมโบราณที่ต้องยืนพิจารณาดูกันนานๆ ว่าคืออะไร แต่เวลาก็มีไม่มาก ดังนั้น สร้อยฟ้ามาลาจึงต้องรีบเก็บภาพ แต่ถึงอย่างนั้นก็พลาดไปหลายๆ จุด ในที่สุดคณะของเราก็มาถึง ปราสาทหินเขาพนมรุ้งประมาณเวลา สิบโมงกว่าๆ พี่ไกด์หนุ่มบอกว่า จะมีพี่เทอด คะเชนธร ผู้บรรยายจากกรมศิลปากรมาบรรยายให้ฟัง ขอให้ตั้งใจฟังกัน อย่าเพิ่งถ่ายรูปเพราะจะทำให้ไม่รู้รายละเอียดและประวัติเลย แต่สร้อยฟ้ามาลา ดื้อ ขอไม่ฟัง เพราะถ้าฟังก็เก็บภาพได้ไม่เยอะ นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของความผิดพลาดที่ไม่ได้ภาพช็อดเด็ด พูดมากอีกแล้ว อิ อิ ไปชมปราสาทหินเขาพนมรุ้งกันดีกว่า.............


    ลืมไปก่อนจะขึ้นปราสาทหิน แวะไหว้พระที่วัดเขาพนมรุ้ง กันก่อน........

    [​IMG]


    .........................................

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.950648/[/MUSIC]

    .........................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_2989_1s.jpg
      IMG_2989_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      373.3 KB
      เปิดดู:
      1,988
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013
  3. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ปราสาทเขาพนมรุ้งเป็นปราสาทหินที่งดงามมากแห่งหนึ่งของไทย ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้งซึ่งเคยเป็นภูเขาไฟมาก่อนสูงจากระดับน้ำทะเล ๓๘๐ เมตร ในเขตบ้านตาเป๊ก ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ตัวปราสาทสร้างด้วยหินทรายสีชมพูและศิลาแลงอย่างยิ่งใหญ่อลังการ มีการออกแบบผังปราสาทตามแนวความเชื่อที่สอดคล้องกับภูมิประเทศ ศาสนสถานแต่ละส่วนประดับด้วยลวดลายจำหลักวิจิตรงามตา โดยเฉพาะหน้าบันศิวนาฏราชและทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ที่มีความงดงามละเอียดอ่อนช้อย นับเป็นโบราณสถานอันทรงคุณค่าที่ไม่ควรพลาดชม


    [​IMG]


    สร้างขึ้นโดยมีรูปแบบของศิลปะเขมรโบราณ ที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง ความงดงามและความยิ่งใหญ่ของปราสาทแห่งนี้ปรากฏให้เห็นได้ในรูปของงานสถาปัตยกรรม การจำหลักลวดลายการเลือกทำเลที่ตั้งบนยอดเขามีแผนผังตามแนวแกนที่มีองค์ประกอบของสิ่งก่อสร้าง ต่าง ๆ เรียงตัวกันเป็นแนวเส้นตรงพุ่งเข้าหาจุดศูนย์กลาง


    ปราสาทพนมรุ้ง เป็นที่รู้จักของชาวท้องถิ่นเป็นอย่างดี ดังได้มีนิทานพื้นบ้านเรื่อง "อินทรปรัสถา" กล่าวถึงคู่พระคู่นางซัดเซพเนจรไปจนพบที่พักพิงซึ่งเป็นปราสาทหินอันงดงามรกร้างอยู่ท่ามกลางป่าเขา แต่สำหรับบุคคลภายนอกต่างบ้านต่างเมืองนั้น ปราสาทแห่งนี้รู้จักกันครั้งแรกตามที่มีเอกสารที่มีการกล่าวถึงปราสาทพนมรุ้งเป็นครั้งแรกคือ บันทึก ของนายเอเตียน เอมอนิเยร์ (Etienne Aymonier) ชาวฝรั่งเศสในปี พ.ศ. ๒๔๒๘ ตีพิมพ์เป็นบทความใน พ.ศ.๒๔๔๕


    ปี พ.ศ.๒๔๔๙ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จมาที่ปราสาทพนมรุ้ง คราวเสด็จมณฑลอีสานและเสด็จอีกครั้งในปี พ.ศ.๒๔๗๒ กรมศิลปากร ได้ประกาศขึ้นทะเบียนปราสาทพนมรุ้งเป็นโบราณสถานของชาติประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๒ ตอนที่ ๗๕ วันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๘

    ปี พ.ศ.๒๕๐๓ – ๒๕๐๔ได้ดำเนินการสำรวจปราสาทพนมรุ้งอีกครั้ง ต่อมาใน พ.ศ.๒๕๑๔ ได้เริ่มดำเนินการบูรณะปราสาทพนมรุ้งด้วยวิธีอนัสติโลซิส (Anastylosis คือ การนำชิ้นส่วนของปราสาทกลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิม) เปิดเป็นอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ในวันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๓๑ โดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธาน

    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงศึกษาจารึกที่พบในบริเวณปราสาทเขาพนมรุ้ง ซึ่งระบุว่าปราสาทแห่งนี้ชื่อว่า “วนํ รุง” (วะ-นัม-รุง) ทรงสันนิษฐานว่าเป็นภาษาขอมโบราณ วนํ หรือ พนม แปลว่า ภูเขา ส่วน รุง หรือ รุ้ง แปลว่าใหญ่ ต่อมาคนไทยเรียกว่า “พนมรุ้ง” ซึ่งมีความหมายเดียวกัน</O:p

    ชื่อของปราสาทพนมรุ้ง เป็นชื่อดั้งเดิมของโบราณสถานแห่งนี้ คำว่า พนมรุ้งปรากฏอยู่ในศิลาจารึก ที่พบที่ปราสาทแห่งนี้จารึกพนมรุ้งจำนวน ๑๑ หลัก หลักที่ ๒ หลักที่ ๔ และ K๑๐๙๐๐ จารึกว่า พนมรุ้งเป็นชื่อเทวสถาน ที่มีขอบเขตกว้างขวาง มีที่ดิน หมู่บ้าน เมือง


    ปราสาทแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวาลัยที่ประทับของพระศิวะพระองค์ที่ประทับอยู่บนยอดเขาไกรลาส ดังนั้น การที่ ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นบนยอดเขาพนมรุ้ง จึงเป็นการสะท้อนถึงการนับถือศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกายได้เป็นอย่างดี

    [​IMG]
    พี่มัคคุเทศก์ของกรมศิลปากร



    อาคารสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ของปราสาทพนมรุ้ง ไม่ได้สร้างขึ้นมาพร้อมกันหมดในคราวเดียว ได้มีการสร้างศาสนสถานเพื่อเป็นศูนย์กลางทางความเชื่อการนับถือศาสนาของชุมชน ขึ้นครั้งแรกในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๕ ได้แก่ ปราสาทอิฐ ๒ หลัง ที่ปัจจุบันอยู่ในสภาพพังทลายเหลือเพียงฐานและกรอบประตู หลังจากนั้นได้มีการก่อสร้างต่อเนื่องกันมาเป็นลำดับ โดยกษัตริย์ของอาณาจักรเขมรโบราณ หรือผู้นำที่ปกครองชุมชน อันมีปราสาทพนมรุ้งเป็นศูนย์กลาง

    ปราสาทพนมรุ้ง คงมีความสำคัญสืบต่อมาจนถึงสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๕ (พ.ศ.๑๕๑๑ - ๑๕๔๔) พระองค์นับถือศาสนาฮินดูไศวนิกาย เช่นเดียวกับพระราชบิดา (พระเจ้าราเชนทรวรมันที่ ๒ ) นอกจากจะมีพระราชโองการให้สร้างจารึกเพื่อสรรเสริญเกียรติคุณของพระราชบิดาแล้วยังทรงถวายที่ดินให้กับเทวสถานใน สมัยนี้เอง เทวสถานบนเขาพนมรุ้ง เป็นศูนย์กลางของชุมชนโดยรอบอย่างแท้จริง ข้อความในจารึกพนมรุ้ง บางหลักแม้จะมีเนื้อความขาดหายแต่ก็ให้ภาพ รวมได้ว่าเทวสถานบนเขาพนมรุ้ง เป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพ คือ ศิวลึงค์ มีอาณาเขตกว้าวขวางมีที่ดิน ซึ่งพระเจ้าแผ่นดิน (พระเจ้าวรมันที่ ๕ ) และข้าราชการระดับต่าง ๆ ถวายหรือซื้อถวายให้กับเทวสถานพร้อมกับมีพระราชโองการ ให้ปักหลักเขตที่ดินขึ้นกับเทวสถานพนมรุ้งพร้องกับการสร้างเมือง สร้างอาศรมให้กับโยคี และนักพรตด้วย


    ในราวพุทะศตวรรษที่ ๑๗ ได้มีการก่อสร้างปราสาทประธานขึ้น จากการศึกษาศิลาจารึกพนมรุ้ง หลักที่ ๗ และหลักที่ ๙ กล่าวได้ว่าปราสาทประธานสร้างขึ้นในสมัยเรนทราทิตย

    นเรนทราทิตย์เป็นโอรสของพระนางภูปตีนทรลักษมี เป็นผู้มีสติปัญญาหลักแหลม มีความสามารถในการรบ ได้เข้าร่วมรบกับกองทัพของพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๒ ในการรวบรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่น จากศึกสงครามนเรนทราทิตย์คงได้รับความดีความชอบเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ปกครองเมือง ซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจของราชวงศ์มหิธรปุระ

    ทรงได้ดำเนินการสร้างปราสาทหลังใหญ่ขึ้นประดิษฐานรูปเคารพสร้างงานศิลปกรรมปรากฏเป็นงานจำหลักตามส่วนต่าง ๆ เช่น หน้าบัน ทับหลัง ที่ล้วนแต่แสดงให้เห็นว่า มีความประสงค์ที่จะสร้างเทวสถานแห่งนี้เป็นเทวาลัยของพระศิวะ มีศิวลึงค์เป็นองค์ประธาน และยังมีการนับถือเทพองค์อื่น ๆ แต่อยู่ในสถานะเทพชั้นรอง นอกจากนี้ข้อความที่ปรากฏในจารึกยังแสดงให้เห็นว่า นเรนทราทิตย์ ได้สร้างปราสาทแห่งนี้ เพื่อประดิษฐานรูปของตนเอง หลังจากสิ้นพระชนม์ ความเลื่อมใส ศรัทธาอันแรงกล้าต่อศาสนา ทำให้ท่านทรงออกบรรพชาถือองค์เป็นนักพรตจวบจนวาระสุดท้าย ข้อความที่ปรากฏในจารึกพนมรุ้ง ทำให้สันนิษฐานได้ว่า ท่านคงเป็นนักพรตในลัทธิไศวนิกาย ตามแบบนิกายปศุปตะที่มีการนับถือกันมาแล้วแต่เดิม โอรสของนเรนทราทิตย์ คือ หิรัณยะ เป็นผู้ที่ให้จารึกเรื่องราวเพื่อสรรเสริญเกียรติคุณของพระบิดาได้ให้ช่างหล่อรูปของนเรนทราทิตย์ด้วยทองคำ

    สิ่งก่อสร้างสมัยสุดท้าย คือ บรรณาลัย และพลับพลา ซึ่งมีการก่อสร้างเพิ่มเติมซ่อมแซมขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ (พ.ศ.๑๗๒๔ - ๑๗๖๓) มหาราชองค์สุดท้ายแห่งอาณาจักรเขมร พระองค์ทรงนับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน โปรดให้สร้างอโรคยศาล หรือ ศาสนสถานพยาบาล จำนวน ๑๐๒ แห่ง และที่พักคนเดินทาง จำนวน ๑๒๑ แห่ง ขึ้นในดินแดนที่อยู่ภายใต้การปกครองของพระองค์ ตามข้อความที่ปรากฏในจารึกปราสาทตาพรหม และจารึกปราสาทพระขรรค์ ตามลำดับ โบราณสถานดังกล่าวนี้ ที่อยู่ใกล้เคียงปราสาทพนมรุ้ง ได้แก่ กุฏิฤาษีเมืองต่ำ และกุฏิฤาษีหนองบัวลาย ซึ่งเป็นศาสนสถานพยาบาล ปราสาทบ้านบุ เป็นที่พักคนเดินทาง

    สิ่งน่าสนใจ
    ผังปราสาท การเดินชมปราสาทเขาพนมรุ้งเริ่มจากถนนหินที่ทอดนำสู่องค์ปรางค์ประธาน มีสิ่งที่ควรชมดังนี้

    [​IMG]

    - สะพานนาคราช เป็นส่วนที่เชื่อมทางเดินกับบันไดขึ้นสู่ปราสาท มีลักษณะเป็นชาลายกพื้นรูปกากบาท สุดปลายชาลาแต่ละด้านทำเป็นรูปนาคห้าเศียรแผ่รัศมี มีลวดลายที่ละเอียดอ่อนช้อยสวยงาม ตรงกลางชาลามีภาพสลักบนแผ่นหินเป็นดอกบัวบานแปดกลีบล้อมรอบด้วยยันต์ หมายถึงเทพเจ้าทั้งแปดทิศ เนื่องจากจุดนี้อยู่ในแนวเดียวกับแกนกลางขององค์ปรางค์ประธาน จึงคาดว่าเป็นจุดที่กำหนดให้ผู้มาสักการบูชาตั้งจิตอธิษฐานต่อเทพเจ้าที่สถิตอยู่บนปราสาท

    [​IMG]

    - ระเบียงคดชั้นในและโคปุระ ระเบียงคดชั้นในหรือกำแพงล้อมรอบปราสาทสร้างเป็นห้องทางเดินต่อเนื่องกัน มีหลังคาคลุม แต่ไม่สามารถเดินได้รอบ เนื่องจากมีการก่อผนังกั้นเป็นช่วง ๆ ตรงกลางของระเบียงคดแต่ละด้านมีซุ้มประตูทางเข้าหรือโคปุระสู่ลานชั้นใน ที่หน้าบัน ทับหลัง เสาประดับกรอบประตู และเสาติดผนังของโคปุระตกแต่งด้วยหินทรายแกะสลัก เช่น หน้าบันเหนือซุ้มโคปุระด้านตะวันออก ทำเป็นภาพพระศิวะในภาคบำเพ็ญพรตเป็นโยคี อาจมีนัยถึงพระเจ้านเรนทราทิตย์ ซึ่งเคยมาบำเพ็ญพรตเป็นโยคี ณ ปราสาทแห่งนี้ จากโคปุระด้านตะวันออกมีสะพานนาคราชขนาดเล็กเชื่อมกับปราสาทประธาน อันประกอบด้วยองค์ปรางค์ประธานและมณฑป ซึ่งตกแต่งด้วยลวดลายจำหลักหินอย่างงดงาม

    [​IMG]
    - บรรณาลัย มีจำนวนสองหลัง อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และทิศตะวันออกเฉียงเหนือของปราสาทประธาน เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่อด้วยศิลาแลง หลังคามีลักษณะคล้ายประทุนเรือ เป็นสถานที่เก็บรักษาคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนา เนื่องจากบรรณาลัยนี้ใช้ศิลาแลงเป็นวัสดุในการก่อสร้างแทนหินทรายอันเป็นวัสดุที่ใช้มาแต่เดิม จึงสันนิษฐานว่าเป็นสิ่งก่อสร้างยุคหลังสุดในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ (ประมาณปี พ.ศ. ๑๗๒๔ - ๑๗๔๔) พระองค์ทรงเปลี่ยนมานับถือพุทธศาสนานิกายมหายาน จึงมีการเปลี่ยนปราสาทเขาพนมรุ้งให้เป็นศาสนสถานของพุทธศาสนา แล้วสร้างบรรณาลัยและพลับพลาเพิ่มเติม

    [​IMG]

    - ปรางค์ประธาน เป็นส่วนสำคัญที่สุดของปราสาทแห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณกลางลาน สร้างจากหินทรายสูงประมาณ ๒๗ เมตร ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุมกว้าง ๘.๒ เมตร มีส่วนประกอบที่น่าสนใจ ดังนี้

    [​IMG]

    - หน้าบันและทับหลัง มีทั้งภาพเทพเจ้าสำคัญในศาสนา ฮินดู และภาพจำหลักเรื่องราวบางตอนที่นำมาจากวรรณคดีเรื่อง รามายณะ (รามเกียรติ์ ) และมหาภารตะ ของอินเดีย

    [​IMG]

    - กลีบขนุน เป็นแท่งหินทรงสามเหลี่ยม มีรูปเทพเจ้าประจำทิศ เช่น ภาพพระยมทรงกระบือทางทิศใต้ ท้าวกุเวรทรงคชสีห์ทางทิศเหนือ และยังมีภาพจำหลักเรื่องรามายณะและมหาภารตะ เช่น ตอน “ทศกัณฐ์ลักนางสีดา” เป็นต้น

    [​IMG]

    - มุขทางเข้า ทางทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันตกทำเป็นมุขยื่นออกไปสองชั้น ส่วนทิศตะวันออก ซึ่งเชื่อมต่อกับมณฑปสร้างอย่างประณีตกว่าด้านอื่น ประตูทางเข้าของปรางค์และมณฑปแต่ละช่องสร้างตรงแนวกับซุ้มประตูทางเข้าของระเบียงคดชั้นใน แสดงถึงความสามารถของช่างในยุคนั้น

    [​IMG]

    - ห้องครรภคฤหะ อยู่กลางองค์ปรางค์ เป็นที่ประดิษฐาน ศิวลึงค์ซึ่งเป็นตัวแทนของพระศิวะ ผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ถือเป็นรูปเคารพประจำศาสนสถานแห่งนี้ มีร่องสำหรับรับน้ำสรงที่ได้จากการประกอบพิธีกรรมต่อออกไปด้านนอกของระเบียงคดทางด้านทิศเหนือ เรียกว่า ท่อโสมสูตร เพื่อให้ประชาชนที่เฝ้ารออยู่ด้านนอกได้รับน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปดื่มกินหรือประพรม

    [​IMG]

    - ปรางค์น้อย ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปราสาทประธาน คาดว่าสร้างในสมัยพุทธศตวรรษที่ ๑๖ เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเล็ก ไม่มียอด ด้านนอกก่อด้วยหินทราย ส่วนด้านในกรุด้วยศิลาแลง มีประตูทางเข้าเพียงด้านเดียว แต่ด้านข้างก่อผนังทึบทำเป็นประตูหลอก โดยจำหลักหินเป็นรูปประตูปิดสองบาน มีอกเลาอยู่ตรงกลาง ทับหลังและหน้าบันตกแต่งด้วยภาพจำหลักเป็นลายพรรณพฤกษาล้อมรูปหน้ากาล

    [​IMG]

    นอกจากนี้ยังมีซากปรางค์อีกสององค์อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของปราสาทประธาน ปัจจุบันเหลือเพียงฐานและเสาประดับกรอบประตูที่ทำด้วยหินทราย สันนิษฐานว่าเป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาทเขาพนมรุ้ง สร้างในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๕

    [​IMG]

    - มณฑป เป็นห้องโถง มีรูปโคหมอบทำด้วยหินตั้งอยู่กลางห้อง ที่พื้นหน้าประตูทางเข้าด้านตะวันออกทำเป็นอัฒจันทร์รูปปีกกา แกะสลักเป็นรูปดอกบัวบานสามดอก เหนือซุ้มประตูทั้งสี่ด้านมีทับหลังสลักเป็นลวดลายงดงาม ส่วนใหญ่เป็นภาพพระศิวะและพระนารายณ์ ที่สำคัญได้แก่

    [​IMG]

    - ภาพศิวนาฏราช อยู่ที่หน้าบันเหนือซุ้มประตูด้านตะวัน ออก แกะสลักได้อย่างงดงามลงตัว สะท้อนให้เห็นว่าปราสาทแห่งนี้สร้างถวายพระศิวะ ตามคติของฮินดูเชื่อว่าพระศิวะจะออกมาร่ายรำ ในยามที่โลกเกิดยุคเข็ญ

    - ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ อยู่ถัดลงมา แกะเป็นรูปพระนารายณ์ซึ่งเป็นผู้รักษาโลก บรรทมอยู่เหนืออนันตนาคราชซึ่งมีเศียร ๑,๐๐๐ เศียร อยู่ในสวรรค์ชั้นไวกูณฐ์ (อยู่ทางทิศเหนือของเกษียรสมุทร) มีพระลักษมีผู้เป็นพระชายานั่งปรนนิบัติอยู่เคียงข้าง ปกติพระนารายณ์จะบรรทมอยู่เช่นนี้ จนโลกเกิดภัยพิบัติจึงจะอวตารมาปราบยุคเข็ญ

    [​IMG]

    กุฏิฤาษีหนองบัวราย
    - การเดินทาง เมื่อลงจากเขาพนมรุ้งถึงที่ราบเชิงเขา จะเห็นหนองน้ำ สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ เรียกว่าหนองบัวราย อยู่ทางซ้าย และกุฏิฤาษีหนองบัวราย อยู่ทางขวา

    คำว่า บัวราย น่าจะมาจากภาษาเขมรว่า บาราย แปลว่าอ่างเก็บน้ำหรือสระน้ำ กุฏิฤาษีหนองบัวรายเป็นปราสาทหินขนาดเล็ก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ เพื่อเป็นอโรคยาศาล คือสถานที่ใช้ปรุงยาหรือหอเก็บยาสำหรับแจกจ่ายให้แก่ผู้คนบริเวณรอบข้าง และให้ผู้ที่เดินทางมาแสวงบุญได้แวะพักก่อนจะเดินขึ้นเขาไปยังปราสาทเขาพนมรุ้ง

    [​IMG]

    ปรางค์ประธานมีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมย่อมุมกว้าง ๕ เมตร องค์ปรางค์เป็นศิลาแลง เสากรอบประตูและส่วนประดับเป็นหินทราย มีประตูหน้าอยู่ทางทิศตะวันออก ส่วนทางทิศเหนือ ใต้ และตะวันตกทำเป็นประตูหลอก ทับหลังประตูหน้าจำหลักเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ประทับอยู่เหนือเกียรติมุข มือทั้งสองของเกียรติมุขจับพวงมาลัย ยอดปรางค์ทำย่อเป็นบัวเชิงบาตรสี่ชั้น แต่ละชั้นมีกลีบขนุนศิลาจำหลักลายและรูปภาพ

    [​IMG]

    การเที่ยวชมปราสาทหินเขาพนมรุ้ง
    - เปิดทุกวัน เวลา ๐๖.๐๐ – ๑๘.๐๐ น.
    - ค่าเข้าชม คนไทย ๑๐ บาท ชาวต่างชาติ ๔๐ บาท
    - กรณีไปเป็นหมู่คณะ มีเจ้าหน้าที่นำชม (ต้องติดต่อล่วงหน้า)
    - จอดรถได้ฟรีที่ลานจอดรถด้านหน้า หากนำรถยนต์เข้าไปจอดบริเวณด้านหลังปราสาทหินซึ่งอยู่ใกล้ตัวปราสาทมากกว่าต้องเสียค่าจอดรถ รถจักรยาน ๒๐ บาท รถจักรยานยนต์ ๓๐ บาท รถตุ๊กตุ๊ก ๓๐ บาท รถยนต์ ๕๐ บาท
    - มีร้านอาหารตามสั่ง แต่เปิดบริการไม่เป็นเวลา ควรจัดเตรียมไปเอง
    - ติดต่อที่อุทยานประวัติศาสตร์เขาพนมรุ้ง ตู้ ปณ.๓ ปท. นางรอง จ. บุรีรัมย์ ๓๑๑๑๐ โทร. ๐ ๔๔๖๓ ๑๗๔๖

    ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ (ประมาณเดือน เมษายนถึงเดือนพฤษภาคม) ของทุกปี จะมีประเพณีเดินขึ้นเขาพนมรุ้งเพื่อชมปรากฏการณ์ธรรมชาติอันน่ามหัศจรรย์คือ พระอาทิตย์จะสาดแสงตรงเป็นลำทะลุช่องประตูปราสาททั้ง ๑๕ บานราวปาฏิหาริย์ และเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบปีเท่านั้น



    ..................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_2994_1s.jpg
      IMG_2994_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      369.3 KB
      เปิดดู:
      2,294
    • IMG_3003_1s.jpg
      IMG_3003_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      532.4 KB
      เปิดดู:
      2,541
    • IMG_3142_1s.jpg
      IMG_3142_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      350.9 KB
      เปิดดู:
      2,029
    • IMG_3046_1s.jpg
      IMG_3046_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      352.5 KB
      เปิดดู:
      2,174
    • IMG_3054_1s.jpg
      IMG_3054_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      310.8 KB
      เปิดดู:
      1,845
    • IMG_3114_1s.jpg
      IMG_3114_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      392.2 KB
      เปิดดู:
      2,401
    • IMG_3023_1s.jpg
      IMG_3023_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      356.3 KB
      เปิดดู:
      2,344
    • IMG_3021_1s.jpg
      IMG_3021_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      366.3 KB
      เปิดดู:
      2,110
    • IMG_3110_1s.jpg
      IMG_3110_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      390.8 KB
      เปิดดู:
      2,195
    • IMG_3076_1s.jpg
      IMG_3076_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      353.9 KB
      เปิดดู:
      1,805
    • IMG_3117_1s.jpg
      IMG_3117_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      389.2 KB
      เปิดดู:
      2,014
    • IMG_3069_1s.jpg
      IMG_3069_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      244.7 KB
      เปิดดู:
      2,009
    • IMG_3038_1s.jpg
      IMG_3038_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      382.7 KB
      เปิดดู:
      2,888
    • IMG_3020_1s.jpg
      IMG_3020_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      371.6 KB
      เปิดดู:
      2,747
    • IMG_3056_1s.jpg
      IMG_3056_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      346.4 KB
      เปิดดู:
      1,931
    • IMG_3120_1s.jpg
      IMG_3120_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      327.5 KB
      เปิดดู:
      1,771
    • IMG_3097_1s.jpg
      IMG_3097_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      314.9 KB
      เปิดดู:
      1,800
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013
  4. ธิดารัตน์

    ธิดารัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,939
    ค่าพลัง:
    +4,568
    ปราสาทเขาพนมรุ้ง งดงามอลังการมากๆค่ะ

    พี่สร้อยถ่ายรูปสวยอีกแว้วววววว

    [​IMG]

    ชอบสระดอกบัวจังเลยค่ะ
     
  5. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    [​IMG]

    ตอนนี้เลยเที่ยงไปแล้ว หิวแล้วด้วย เพิ่งจะได้เคลื่อนขบวนออกจากปราสาทหินเขาพนมรุ้ง แต่อาหารกลางวันจะไปทานกันที่ร้านเดิมตอนขามาคือร้านลักษณาขาหมู รถมาถึงร้านอาหารประมาณเกือบบ่ายกว่าๆ ได้มั้ง มาถึงตอนนี้ทานข้าวไม่ลง เพราะเหนื่อยมาก สงสัยใช้พลังงานขึ้นปราสาทหินเขาพนมรุ้งมากไปหน่อย หมดแรง ทานอาหารเสร็จก็ประมาณบ่ายสองกว่าๆ ได้ขึ้นรถด้วยความอ่อนเพลีย จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ ด่านเกวียน เพื่อไปซื้อของละลายทรัพย์กันต่อ.........

    [​IMG]

    [​IMG]

    ด่านเกวียน ตั้งอยู่ริม ถนนโคราช-โชคชัย บ้านด่านเกวียน อำเภอโชคชัย ห่างจากตัวเมืองโคราชประมาณ ๑๕ กิโลเมตร

    [​IMG]

    หมู่บ้านด่านเกวียนเป็นชุมชนเก่าแก่แห่งหนึ่งของที่ราบลุ่มแม่น้ำมูล เคยเป็นที่พักกองคาราวานเกวียนสินค้าขึ้นล่องระหว่างโคราช-เขมร จึงเรียกหมู่บ้านนี้ว่า "ด่านเกวียน"ชาวบ้านด่านเกวียนทำการเกษตรเป็นอาชีพหลัก และทำเครื่องปั้นดินเผาเป็นอาชีพเสริม ดินที่นำมาทำเครื่องปั้นดินเผานั้นมีลักษณะพิเศษคือเป็นดินเหนียวเนื้อละเอียด มีแร่เหล็กผสมค่อนข้างสูง เมื่อนำไปเข้าเตาเผาจะออกเป็นสีโลหะมันวาว ดินดังกล่าวมากับสายน้ำมูลที่ไหลผ่านทิศตะวันออกของหมู่บ้าน ยามน้ำหลากจะเอ่อท่วมท้น ชะดินเหนียวเนื้อละเอียดมาตกตะกอนในท้องนา เมื่อเสร็จจากการทำนาชาวบ้านจะลอกหน้าดินที่มีปุ๋ยตกค้างออก จากนั้นจึงขุดดินเหนียวข้างใต้นำไปทำเครื่องปั้นดินเผา เป็นภาชนะใช้สอย เช่น ครก คนโท ไหปลาร้า เป็นต้น ใส่เกวียนออกขายหรือแลกเปลี่ยนกับสินค้าอื่น ๆ ที่จำเป็น

    [​IMG]

    ปัจจุบันมีร้านค้าที่ตั้งอยู่เรียงรายสองฟากถนนหลายสิบร้าน เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนมีชื่อเสียงลือเลื่องไปทั่วประเทศ มีรูปแบบที่ทันสมัยและมีเอกลักษณ์สวยงาม ชาวด่านเกวียนได้มีการปรับปรุงกระบวนการผลิตในครัวเรือนคราวละจำนวนน้อยสู่ระบบการผลิตคราวละจำนวนมาก โดยมีช่างปั้นเป็นชาวบ้านด่านเกวียน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมการทำเครื่องปั้นดินเผาได้ภายในบริเวณร้าน

    [​IMG]


    ออกจากด่านเกวียนประมาณบ่ายสี่โมงครึ่ง จากนั้นก็แวะซื้อของที่ร้านเจ้าสัว ได้ของติดไม้ติดมือพอหอมปากหอมคอ ตอนนี้แทบคลานขึ้นรถแล้ว เหนื่อยมาก จะห้าโมงเย็นแล้วท้องฟ้ากำลังจะมืด ยังไม่พ้นโคราชเลย ที่สุดท้ายของทริปนี้คือไปทานอาหารที่โรงแรมเกียวอัน ในจังหวัดสระบุรี มาถึงประมาณทุ่มกว่าๆ เห็นจะได้ ก็ยังทานอาหารไม่ลง ทานไปได้หน่อยเดียว หมดแรงจริงๆ แล้วหล่ะ ออกจากโรงแรมประมาณสองทุ่ม เดินทางมุ่งสู่กรุงเทพมหานคร ก็ลงรถได้สามทุ่มกว่า หอบข้าวหอบของถึงบ้านสี่ทุ่มกว่า อาบน้ำเสร็จ เข้าเว็ปพลังจิตต่อดูว่ามีใครคิดถึงฉันบ้าง อิ อิ........

    [​IMG]

    [​IMG]


    วันรุ่งขึ้น ตื่นเช้ามาทำงาน กะว่าจะโดดงานสักครึ่งวัน สุดท้าย อด...... อยากจะหลับ อ่ะ เหนื่อย.........





    ..............................................

    ข้อมูลจาก

    http://www.moohin.com/043/043m002.shtml
    http://guideubon.com
    http://www.guideubon.com/
    www.bondstreettour.com
    http://www.tourlaotai.com
    www.thai-tour.com
    http://th.wikipedia.org
    www.dhammajak.net
    www.southlaostour.com
    www.at-bangkok.com
    หนังสือไหว้พระประธาน๗๖ จังหวัดกองบรรณาธิการข่าวสด สำนักพิมพ์มติชนวัดมหาวนาราม<O:p</O:p


    ................................................

    ภาพโดย สร้อยฟ้ามาลา
    เรียบเรียงโดย สร้อยฟ้ามาลา
    เรื่องราวโดย สร้อยฟ้ามาลา

    .......................




    [​IMG]




    ..............
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3152_1s.jpg
      IMG_3152_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      344.6 KB
      เปิดดู:
      1,248
    • IMG_3153_1s.jpg
      IMG_3153_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      365 KB
      เปิดดู:
      1,275
    • IMG_3166_1s.jpg
      IMG_3166_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      286.2 KB
      เปิดดู:
      1,290
    • IMG_3168_1s.jpg
      IMG_3168_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      244.8 KB
      เปิดดู:
      1,367
    • IMG_3172_1s.jpg
      IMG_3172_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      273.4 KB
      เปิดดู:
      3,001
    • IMG_3178_1s.jpg
      IMG_3178_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      333.7 KB
      เปิดดู:
      2,448
    • IMG_3182_1s.jpg
      IMG_3182_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      251.4 KB
      เปิดดู:
      2,301
    • IMG_3195_1s.jpg
      IMG_3195_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      363.5 KB
      เปิดดู:
      1,233
    • IMG_3188_1s.jpg
      IMG_3188_1s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      369.4 KB
      เปิดดู:
      1,188
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013
  6. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    กระทู้เขาดีจริง ๆ .... รอมาอ่านรวดเดียว ^^ เหมือนได้เดินทางไปด้วย




    .
     
  7. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    Set นี้สวยหลายรูปเลยจ้า..สวยมาก ๆ
    ฝีมือพัฒนาดีขึ้นเรื่อย ๆ เลยนะ..:cool:
     
  8. พรรณนา

    พรรณนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +1,178
    ชอบทุกรูปของพี่สร้อยฟ้าจริงๆๆ..มือกล้องตัวแม่...
    แซวอีกหน่อย กล้อง หรือ N 79 ดีหนอ ยิงทะลุกระจกเลย
    น่ากลัวอีกแว้ว....
     
  9. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    [​IMG]..........ชักอยากไปดูเองแล้วอ่ะ....T_T
     
  10. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    โห มาอ่านรวดเดียว ก็มาโพสต์แค่รอบเดียวอ่ะสิ.....
     
  11. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ขอบคุณจ้า....

    ก็มีสวยบ้าง ไม่สวยบ้าง..... ตามอารมณ์คนถ่ายรูป อิ อิ
     
  12. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    งั้นรถที่นั่งคงระเบิดก่อนอ่ะจ่ะ.........^^
     
  13. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    อ้าว พูดแบบธรรมดาก็เป็นแฮะ นึกว่าจะมาเป็นกลอน.......
     
  14. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ขอบอก ว่ารูปยังไม่หมด คิดว่าจะลงรูปมาให้ดูกันต่อ.....

    เบื่อกันหรือยังจ๊ะ............
     
  15. bnbk

    bnbk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,047
    ค่าพลัง:
    +15,613
    ทริปนี้แม่สร้อยเล่าจนเวปล่มอีกแล้ว อิอิ
     
  16. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    นั่นสิ เล่าเรื่องยาวๆ ทีไร เว็ปล่มทุกที....
     
  17. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    อ้าว!!..คนทำเวปพังอยู่นี่นี่เอง..
    ระวังโดนใบเหลืองเด้อ..อ..อ..อ..อ..555+
     
  18. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    อย่าเอ็ดไปจิ .... เค้าโม้มากไปหน่อยมั้ง อิ อิ.......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2010
  19. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    [​IMG].หุหุหุ...^_^..ก็พอเป็นอ่ะ..
     
  20. พรรณนา

    พรรณนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +1,178
    คุณภาพคับเวป....รูปคับเพจ :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...