อธิษฐานขอรับกรรมแทน ในทางเท็คนิคทำได้หรือเปล่าครับ

มีเรื่องเล่าเยอะแยะมากมายเรื่องอธิษฐานขอรับทุกขเวทนาแทนผู้อื่นแล้วตัวเองต้องได้รับทุกข์แทนจริงๆแล้วคนที่เราขอรับแทนเขาก็อาการดีขึ้นเป็นลำดับ แต่ก็มีคำกล่าวขัดแย้งอยู่ไม่น้อยว่ากรรมของใครของมัน ที่เขาอธิษฐานขอรับกรรมแทนแล้วเขาเป็นทุกข์แทนเพราะนั่นมันเป็นกรรมของเขา

ตัวอย่างเรื่องเล่าที่บอกว่าอธิษฐานขอรับกรรมแทนสามารถทำได้ผลจริง

พระภาสกร ภูริวฑฺฒโน รู้ทันเจ้ากรรมนายเวร Full version - YouTube

อยากได้ความเห็นจากหลายๆคนครับว่าอธิษฐานขอรับกรรมแทน ในทางเท็คนิคทำได้หรือเปล่าครับ

 

ถ้าอธิษฐานขอรับกรรมแทน แล้วเราตั้งใจปฏิบัติธรรม รักษาศีล นั่งสมาธิ ภาวนา ฯลฯ
แล้วบอกให้คนๆนั้นรับทราบ และเขาอนุโมทนา
ความรุนแรงของกรรมเขาจะเบาบางลงครับ

(คือกรรมมีเท่าเดิมครับ แต่โดนกรรมดีมาบีบคั้นกรรมชั่วไม่ให้ส่งผลแรงมากครับ)

 

อยู่ระหว่างเขา

ในภาคปฏิบัติก็เป็นไปได้

เคยกราบเรียนถามหลวงพ่อที่วัดป่าภูริทัต

ถ้าเราเข้าไปยุ่งเรื่องกรรมระหว่างเขาเราต้องรับไหมครับ

ท่านว่ารับซิ...แต่เรามีให้ (ก็เลยนิ่งและรับฟังไว้)

ระหว่างการทำงานก็พยายามทำงานเพื่องาน

ท้ายสุดงานก็สำเร็จและออกมาดีเกินคาด..บอกเลยโดนทั้งขึ้น :z2 (tm-love) :z5

ทั้งร่อง....ซักระยะกลับไปถาม

หลวงพ่อครับที่หลวงพ่อเคยบอกว่าเรามีให้น่ะ..ให้อะไรครับ

อภัยไง....โหย pig_ballet อ่วมไปอมสงสัยนานไปหน่อย.


อธิฐานแปลว่าการตั้งมั่น กาตัดสินใจ การตั้งความปราถนา

ลองสังเกตุบูรพกษัตริย์ไทยสมัยก่อน

เช่นสมเด็จพระศรีสุริโยทัย

พระเจ้าอุทุมพรหรือ(ขุนหลวงหาวัด)

พระบรมวงศานุวงศ์ ที่เป็นองค์ประกันแทน

รวมถึงขุนศึก และเหล่าผู้พักดี

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ท้ายสุดท่านสุเมธดาบสที่กระโดดให้เสือกิน

จากประวัติศาสตร์คงเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว

ถ้าคนที่คุณรักมีหนี้สินที่เป็นราคา คุณสามารถ

ใช้หนี้แทนเขาได้ไหม ?

 

ก็ได้บ้างครับ เคยเห็นพวกหมอรักษาโรคกรรมโดยใช้ญาณ ใช้ไม่ดูให้ดีว่าฝืนกฎแห่งกรรมหรือไม่ เมื่อคนป่วยหายแล้ว หมอก็ต้องรับโรคนั้นมาแทนคนป่วย

ส่วนตัวผมเองคิดว่ามันเป็นการกระทำที่เบียดเบียนตัวเองครับ มีอีกหลายวิธีที่จะช่วยเหลือคน

 

พึงทราบเป็นเบื้องต้นว่าืพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่ง"ปัญญา" สอนสิ่งที่ถูกตรงเป็นเหตุผล.. ดังนั้น ท่านผู้ถามพึงพิจารณาดูดังนี้นะครับ...

เมื่อท่านผู้ถามรับประทานอาหารอยู่คนเดียว คนอื่นอิ่มแทนท่านได้หรือไม่...?

หรือเมื่อท่านกินอาหารแล้ว ท่านบอกน้องคนหนึ่งว่า "นี่แน่ะน้องรัก วันนี้พี่มีงานต้องทำมาก ไม่มีเวลาเพื่อกิจส่วนตัวมีการเข้าห้องน้ำเป็นต้น น้องพึงทำการปัสสาวะและอุจจาระแทนพี่เถิด.."

หรือบัดนี้ท่านปวดท้องอยู่ ก็ลองขอร้องเพื่อนหรือน้องว่า "ช่วยปวดแทนข้าพเจ้าทีเถิด"..

ถ้าทำได้ เทคนิคใดที่ใช้ให้คนอื่นอิ่ม, ถ่ายและ ปวดท้องแทนก็สามารถนำไปแอพพลายใช้กับเรื่องรับกรรมได้เช่นกัน..

ขอให้ท่านพึงทราบเหตุและผลที่ถูกตรงสอดคล้องกัน และปล่อยศรัทธาเชื่อมั่นในพระสัพพัญญุตตญานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงตรัสว่า"สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของเฉพาะตน.".. อย่างดิ่งหรือแรงกล้าเถิด..ย่อมละทิ้งความลังเลสงสัยอันเป็นบาปประเภทนิวรณ์(1 ใน 5อย่าง)นี้ได้โดยไม่ยาก ..

ขอความเจริญในปัญญาด้วยดีพึงบังเกิดแก่ชนทั้งหลาย รักษาตนให้พ้นความงมงายขาดเหตุผลโดยประการ ทั้งปวงเทอญ..

 

ถ้าจะให้เรียกว่าการรับกรรมแทนมันก็จะดูว่าขัดกับคำที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้...แต่ถ้าคิดอีกเรื่องนึงก็จะเห็นได้ว่าคนเรานั้นเกิดมา...ได้มารู้จักกันได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันนั้นเพราะอะไร...ก็เพราะมีบุญกรรมที่สัมพันธ์กัน...และการที่เรามีจิตคิดรับบาปเคราะห์กรรมจากคนอื่นแทนนั้น...แสดงว่าเรามีจิตที่เป็นเมตตาอย่างสูงเพราะปราถนาให้ผู้อื่นได้พ้นจากความทุกข์...ถ้าจะให้เทียบกับการเป็นทุกข์ทางร่างกายแล้วคงจะเทียบกันไม่ได้...เพราะมันคือข้อแตกต่างระหว่างนามธรรม...กับรูปธรรม ....ถ้าให้ผมพูดนะผมว่าคนที่จิตคิดจะรับเคราะห์กรรมจากผู้อื่นมาเป็นของตนนี้ถือได้ว่าเป็นจิตเริ่มต้นของพระโพธิสัตว์เลยก็ว่าได้...เห็นนิพพานอยู่รำไรก็ไม่ไป...ปราถนาจะนำสัตว์อื่นให้พ้นทุกข์ด้วย ถึงถ้าจะให้พูดว่าสามารถรับแทนกันได้หรือเปล่านั้นถ้าเอาตามความคิดของผม ผมว่าเป็นไปได้แต่ต้องมีเหตุและปัจจัยอย่างอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่นมีบุญสัมพัมธ์กันมามากน้อยเพียงใด...บาปเคราะห์กรรมนั้นหนักหนาสาหัสเพียงใด...ประจวบเหมาะแห่งเวลา...บุญบารมีของคนที่จะมารับกรรมแทนหรือเรียกในที่นี้ว่า มาทำให้กรรมเบาบางลง โดยใช้บุญบารมีของบุคคลนั้นมาช่วยเสริม...แต่ก็ควรตระหนักว่าเรื่องของกรรมเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก...ถ้าเราทำด้วยจิตคิดอนุเคราะห์แล้วก็ทำไปเถิด..จะเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้อย่าไปใส่ใจมาก...ต่างคนต่างวาระ...แต่ใจของเรานั้นให้ใสเป็นพอ...สวัสดี...

 

มันอาจจะเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้วว่า คนนี้อยากรับกรรมแทนเพราะมีอะไรติดค้างมาตั้งแต่อดีตถึงช่วย อยู่ดีๆใครที่ไหนจะไปรับกรรมแทนคนอื่น เหมือนเล่นละคร

 

สักวันหนึ่งถ้าคุณอบรมจิตจนถึงคุณจะเข้าใจเองคุณแผ่เมตตาแต่จิตคุณยังไม่เมตตาเลย...เมตาโดยไม่มีประมาณอย่าสักแต่ว่าท่อง ควรทำจิตให้เป็นอย่างนั้นด้วย ชีวิตจริงไม่ใช่ละคร ไม่เชื่อไปถาม พ่อ กับ แม่ คุณดูก็ได้ว่าอยากจะรับเคราะห์กรรมแทนคุณหรือเปล่า...สวัสดี...

 

มีคนเคยนั่งเครื่องบิน แล้วเปลี่ยนที่ คนอื่นมานั่งแทน เครื่องบินตก คนเปลี่ยนที่ไม่ตาย คนมานั่งแทน ตาย นี่รับกรรมแทนไหม
ตอบ ไม่ใช่ คนตายมีกรรมของเขาเอง คนเปลี่ยนเป็นบุญของเขาเอง...
กรรมดีและชั่ว เกิดจากเหตุปัจจัยหลักและปัจจัยประกอบอีกมากมาย....จึงส่งผลกรรมนั้นๆ
ดังนั้น กรรมจึงเกิดขึ้นเฉพาะตนเอง ทั้งกรรมดีกรรมชั่ว คนอื่นๆเป็นปัจจัยสนับสนุน ไม่ใช่เป็นปัจจัยหลัก.....
สรุปว่า เมื่อเกิดกรรมที่เป็นปัจจัยหลักแล้ว ในทางเทคนิค สามารถ"เลื่อนกรรม หรือเปลี่ยนกรรมนั้นๆได้ในบางกรณี" อาธิเช่น
...เปลี่ยนกรรมโดยพระพุทธเจ้า.....นี่สามารถทำได้...
...เปลี่ยนกรรมโดยผู้มีฤทธิ์ เช่น เทวดา พรหม นี่สามารถทำได้...
...เปลี่ยนกรรมโดยตนเอง คือ ทำกรรมปัจจุบันให้ดี...นี่สามารถทำได้...
...แต่ข้อยกเว้นทั้งหมดนั้น......กรรมดีชั่ว ไม่ได้หายไปไหน ยังคงอยู่ แต่อาจเจือจางไปเพื่อรอผสมกันใหม่ เมื่อเจ้าตัวสร้างกรรมใดๆขึ้นมาเพิ่มเติม.....เพราะเรื่องกรรมนี้ มันมิได้พูดกันแค่วันสองวัน แต่ต้องพูดถึงการเวียนว่ายตายเกิดใน31ภพภูมิด้วยว่าผ่านมานานเท่าใดแล้ว....
ถ้าไปดูกาลเวลาในพระพุทธศาสนาอาจจะงง....ให้ดูเวลาทางวิทยาศาสตร์ โลกเกิดมาได้
หนึ่งหมื่นสี่พันล้านปีมาแล้ว...แต่สิ่งมีชีวิตพัฒนาขึ้นมาได้สี่พันกว่าล้านปีแล้ว...
....ถ้าเปรียบกับอายุมนุษย์ เอาเฉลี่ยตายใน100ปี(มากหน่อย)คุณลองคำนวณแค่อายุมนุษย์ดูว่าคุณเกิดตายมาแล้วกี่ครั้ง(นี่ไม่นับอายุยุงนะ)ฮา

 

ไม่น่าจะได้ครับในทางความเป็นจริง แต่ในทางจิตวิทยาก็น่าจะเป็นการร่วมใจในการเห็นอกเห็นใจกัน ว่าเขาเจ็บเราก็เจ็บด้วย