อนัตตา เปรียบดั่งยาขมของผู้ปฏิบัติธรรม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 11 สิงหาคม 2018.

  1. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +307
    Untitled.png
    เนี่ยหลักฐานมี ยังมีคนกดถูกใจให้เลย พูดดีๆด้วยแล้วทำเป็นได้ใจนะสิ นึกว่าจะข่มไอ้หมอนี่ให้มันหงอยแทบไม่มีที่ยืนละมั้ง เจอสวนปลายคางเข้าให้ ๕๕๕๕
    Untitled.png
    ก็ข่มกันซะขนาดนี้จะปล่อยไปง่ายๆได้ไง เป็นเฒ่ากระจอกแล้วไม่เจียมกะลาหัว ไม่อยากจบก็ต้องจัด ไม่ต้องมีข้ออ้างคำบรรยายใดๆ จนกว่าจะหายโง่ อิอิย๊าวยาวๆๆๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2018
  2. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ไม่ปล่อยแล้วยึดอะไร เพราะธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา
    แม้ตัวเราก็ยังไม่ใช่ตัว แค่เข้าใจผิด
    ว่าเป็นตัว ที่แท้มันคือสังขารขันธ์
    ใช่มิใช่ฮับ
     
  3. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +307
    คืออดีตลุงแมวไม่ใช่เป็นคู่กรณีของผมฮับ ลุงแมวจะชอบไม่ชอบในสิ่งที่ผมเขียนด่าไอ้เฒ่าที่ยกตนข่มผมก็ไม่เป็นไร หน้าที่ผมตอนนี้คือทำยังไงก็ได้ให้ไอ้เฒ่าลืมตนมันสำนึกได้ ถ้ามันยังยุ่งกับผมไม่เลิกก็ไม่ต้องมีน้ำตาลน้ำอ้อยอะไรมาอวยกันฮับ ของพื้นๆกิเลสเบสิกๆ นัวเนียๆ
     
  4. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +307
    เด๋วลุงแมวต้องเป็นพิธีกร ไปถามไอ้เฒ่าบ่มกะลามันมั่งนะฮับ ว่าที่มันยังไม่เลิกมันต้องการอะไรแอบแฝงป่าวหรือมันโดนตัวไหนมา เผื่อลุงแมวจะได้โอ้โหเฮอะ แบบนี้ก็มีด้วยในคำตอบของมันนะฮับ ถามแต่ผมฝ่ายเดียวเกรงว่าจะเอาเปรียบฝ่ายโน้นเกินไป ลุงแมวไม่รู้เหรอโล่เงินหนอนอ่านตำราผุ คือแทะตำรามาทั้งชาติ แขวนคอมันอยู่นั่นฮับ คำถามกึ่งธรรมกึ่งโลกแบบที่ลุงแมวอยากรู้ มันอาจจะช่วยตอบให้ลุงแมวอึ้งกิมกี่ในตัวมันก็ได้ฮับ เด๋วทุ่มๆอย่าให้ผมไปตามล่ะ มาแหย่ดูนะฮับ อิอิ
     
  5. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    คับ คับสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ต้องเกิดจาก
    ความเข้าใจจึงต้องหาฟัง หาอ่าน
    ไตร่ตรองไปเรื่อย จะเข้าใจอย่างช้าๆ
    แต่สั่งสมไปเริ่อยๆ
    เมื่อเวลาจะรู้จักวาง
    ได้เองคับ
     
  6. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    5555+

    ไอ้ถ่อยเอ๊ย มรึงนี่จริงๆเลย โง่แล้วยังไม่ตัวรู้ว่าโง่อีกหรือ

    มรีงเพิ่มบี้คนอื่นด้วยคำหยาบควาย(ไม่ได้เขียนผิด) แถมข่มขู่คนอื่นก่อน

    พอโดนสวนกับ ออกอาการควายแบบล้วนๆไม่มีส่วนผสมเลย

    มรึงใช้อวัยวะส่วนในคิดว่ะ ไอ้ถ่อยโง่เอ๊ย มรึงทะเลาะกับเค้าอยู่

    พอสู้เค้าไม่ได้ก็เรียกพรรคพวกมาช่วย อายเค้ามั้ย มันน่าสังเวชนะ

    ถ้ามรึงมาบี้เค้าด้วยธรรมคำสอนดีๆ ใครเค้าก็ย้อนด้วยธรรมที่ถูกบี้เช่นกัน

    นี่มรึงมากร่างด้วยคำหยาบ แถมหัวร้อนสมองบวมตอบแบบรัวเอามันไว้ก่อน

    ถามตรงๆเถอะ ยังโชว์โง่ไม่พออีกหรือ สำหรับมรึงนั้น กรูล่ะหมดคำพูดจริงๆ

    หัดเรียนรู้ หัดเล่นให้เป็น ไม่ใช่โชว์อะไรโง่ๆแบบนี้ แถมยังดันทุรังไม่เลิก

    มรึงนึกว่าทำแบบแล้วดูเก่งขึ้นหรือ แม้แต่กรูเองกรูยังตะหนักเลยว่ากรูก็บ้าไปแล้ว

    แต่เมื่อมาพิจารณาดีๆ เอ้อก็ดีเหมือนกันจะได้หาพระพุทธพจน์ดีๆลง

    ยิ่งพวกหางเครื่องทั้งหลายที่ชอบตามเรื่องดราม่าแบบมันๆ(ทะเลาะ)ได้เข้ามาอ่าน

    กรูบอกตรงๆเลยนะ เท่าที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมา มรึงนี่โง่ได้ใจจริงๆ ร้อนเองดิ้นเอง

    มรึงจะสร้างภาพยังไงก็สร้างไป การทำอะไรซ้ำๆมันก็กลายเป็นวิบากไป จำไว้นะ

    กรูก็แค่เข้ามาอามันเล็กๆน้อยๆ ที่บอกว่าเล็กน้อย ก็เพราะมรึงทำได้แค่นี้เอง

    ของแถมที่ได้จากความห่วยแตกของมรึงนั่นเอง กรูรักมรึงว่ะ ว่ะอีกแล้ว ด่าต่อไปจร้า

    กรูก็กลัวมรึงหัวร้อนสมองบวมกับคำว่า "ว่ะ" อีก หรือว่าไม่จริง ไปดูหลักฐานเอาเองว่ะ5555+

    เห็นมั้ย พวกหางเครื่องรุ่นเก่าบ้าง ใหม่บ้าง ทั้งที่ไม่อยากเข้ามานักก็ยังเข้าเลย

    บางคนโดนกรูไปยิ่งกว่ามรึงอีก อย่างมรึงหนะ กรูยังติดเอ็นดูนิดๆ

    ที่ว่าโดนหนะ คือโดนกรูถามเรื่องธรรมที่กำลังโม้อย่างเมามันกลับไปว่าใช่หรือไม่?

    พวกที่ชอบตั้งตัวเป็นอาจารย์พอโดนกรูถามไปตอบไม่ได้ เหมือนมรึงนั่นแหละด่าอย่างเดียว

    พอล่ะบ่นมามากแล้ว พักให้คนอื่นแสดงบ้าง

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน


    ปล.ถ้าต้องการสนทนาธรรมกรุณา ถามแบบตรงๆในเรื่องธรรมนั้นๆว่าใช่หรือไม่?
    แต่ขอเถอะอย่ามาบ่นธรรมแบบรู้อยู่คนเดียว พูดเองเออเอง เบื่อมากในมีนี้เยอะจนเอียน
    ธรรมะหนะ ไม่ต้องกลัวผิด กลัวถูก กล้าๆหน่อย ก็ล้วนยังเขลาเบาปัญญากันทั้งนั้นหรือว่าไม่จริง
    คือไม่ถามมาตรงๆ แต่กลับมาบ่นอะไรรู้อยู่คนเดียวแบบเอามันเช่นบางคน
    ที่อยู่มานานมากตั้งตัวเป็นอาจารย์จนเชื้อราเกาะจนเขียวไปหมดแล้ว (เหงาก็รู้ว่าเหงา)
     
  7. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    อิสิทัตตสูตรที่ ๒ (ยังไม่เคยนำเสนอ)
    ....(ก็สักกายทิฐิย่อมไม่เกิดมีได้อย่างไร ฯ)

    จิตต. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ก็สักกายทิฐิย่อมไม่เกิดมีได้อย่างไร ฯ
    อิ. ดูกรคฤหบดี อริยสาวกในพระธรรมวินัยนี้
    ผู้ได้สดับแล้ว ได้เห็นพระอริยเจ้า ฉลาดในธรรมของพระอริยเจ้า
    ได้รับแนะนำในธรรมของพระอริยเจ้า
    ได้เห็นสัตบุรุษ ฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ
    ได้รับแนะนำในธรรมของสัตบุรุษ
    ย่อมไม่เห็นรูปโดยความเป็นตน ๑ ไม่เห็นตนมีรูป ๑ ไม่เห็นรูปในตน ๑ ไม่เห็นตนในรูป ๑
    ไม่เห็นเวทนาโดยความเป็นตน ๑ ไม่เห็นตนมีเวทนา ๑ ไม่เห็นเวทนาในตน ๑ ไม่เห็นตนในเวทนา ๑
    ไม่เห็นสัญญาโดยความเป็นตน ๑ ไม่เห็นตนมีสัญญา ๑ ไม่เห็นสัญญาในตน ๑ ไม่เห็นตนในสัญญา ๑
    ไม่เห็นสังขารโดยความเป็นตน ๑ ไม่เห็นตนมีสังขาร ๑ ไม่เห็นสังขารในตน ๑ ไม่เห็นตนในสังขาร ๑
    ไม่เห็นวิญญาณโดยความเป็นตน ๑ ไม่เห็นตนมีวิญญาณ ๑ ไม่เห็นวิญญาณในตน ๑ ไม่เห็นตนในวิญญาณ ๑
    ดูกรคฤหบดี สักกายทิฐิย่อมไม่เกิดมีได้อย่างนี้แล ฯ

    http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=18&A=7280&Z=7366&pagebreak=0
    .........................................................................................
    ^
    ^
    พระพุทธพจน์ในพระสูตรทรงตรัสล้วนชัดๆนะ
    โดยไม่จำเป็นที่จะต้องให้อาจารวาท หรือ ใครๆมาตีความใดๆทั้งสิ้นครับ

    สักกายะทิฐิย่อมเกิดเป็นไฉน เพราะไปยึดขันธ์๕ว่ามีในตน ว่าตนมีในขันธ์๕
    ก็สักกายทิฐิย่อมไม่เกิดมีได้อย่างไร เพราะไม่ยึดขันธ์๕ว่ามีในตน ว่าตนมีในขันธ์๕


    ใครว่า"ตน"อันเป็นที่พึ่งทีอาศัยไม่มีนั้น เข้าข่ายอุจเฉททิฐิและเข้าใกล้นัตถิกทิฐิเข้าไปทุกที
    เมื่อมีภพที่ต้องให้ผู้กระทำ ไปเกิดตามกรรมดี กรรมชั่วที่ตนทำไว้ในภพนั้น
    ใช่ตนผู้กระทำมั้ยที่ต้องไปเกิดตามกรรมดี กรรมชั่วในภพเหล่านั้น?

    เมื่อมีการหลุดพ้นจากภพได้
    ก็ย่อมต้องมีผู้ที่กระทำตนให้หลุดพ้นจากภพเหล่านั้นได้ใช่หรือไม่?
    ตนอันเป็นที่พึ่งที่อาศัยได้นั้น ย่อมห่างไกลจาก
    ตนที่เป็นสัตตทิฐิ และตนที่เป็นอุจเฉททิฐิ
    ตนทั้งสองข้างต้นที่เป็นที่พึ่งที่อาศัยไม่ได้เพราะยังมีภพเป็นที่อยู่อาศัย
    คนละเรื่องกับตนที่เป็นที่พึ่งที่อาศัย เพราะละตัณหาอันนำไปสู่ภพแล้ว

    เจริญในธรรมที่สมควรแก่ธรรม

    ปล.ถ้าต้องการสนทนาธรรมกรุณา ถามแบบตรงๆในเรื่องธรรมนั้นๆว่าใช่หรือไม่?
    แต่ขอเถอะอย่ามาบ่นธรรมแบบรู้อยู่คนเดียว พูดเองเออเอง เบื่อมากในมีนี้เยอะจนเอียน
    ธรรมะหนะ ไม่ต้องกลัวผิด กลัวถูก กล้าๆหน่อย ก็ล้วนยังเขลาเบาปัญญากันทั้งนั้นหรือว่าไม่จริง
    คือไม่ถามมาตรงๆ แต่กลับมาบ่นอะไรรู้อยู่คนเดียวแบบเอามันเช่นบางคน
    ที่อยู่มานานมากตั้งตัวเป็นอาจารย์จนเชื้อราเกาะจนเขียวไปหมดแล้ว (เหงาก็รู้ว่าเหงา)
     
  8. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +307
    5555+

    ไอ้ถ่อยควายเฒ่าเอ๊ย มึงนี่จริงๆเลย โง่แล้วยังไม่ตัวรู้ว่าโง่อีกหรือ
    มึงมายกตนโง่ๆกับคนอื่นด้วยคำหยาบควาย(ไม่ได้เขียนผิด) แถมข่มขู่คนอื่นก่อน
    พอโดนสวนกับ ออกอาการควายแบบล้วนๆไม่มีส่วนผสมเลย
    มึงใช้อวัยวะส่วนในคิดว่ะ ไอ้ถ่อยโง่เอ๊ย มึงทะเลาะกับเค้าอยู่

    ถามตรงๆเถอะ ยังโชว์โง่ไม่พออีกหรือ
    หัดเรียนรู้ หัดเล่นให้เป็น ไม่ใช่โชว์อะไรโง่ๆแบบนี้ แถมยังดันทุรังไม่เลิก
    มึงนึกว่าทำแบบแล้วดูเก่งขึ้นหรือ

    กูบอกตรงๆเลยนะ เท่าที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมา มึงนี่โง่ได้ใจจริงๆ ร้อนเองดิ้นเอง
    มึงจะสร้างภาพยังไงก็สร้างไป การทำอะไรซ้ำๆมันก็กลายเป็นวิบากไป จำไว้นะไอ้ควายภูติ
    กูก็แค่เข้ามาอามันเล็กๆน้อยๆ ที่บอกว่าเล็กน้อย ก็เพราะมึงทำได้แค่นี้เอง
    ของแถมที่ได้จากความห่วยแตกของมึงนั่นเอง ไอ้เฒ่ากระจอกภูติ อิอิ

    เอาน้ำจิ้มไปก่อน 1 ดอก
     
  9. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +307
    กูจะด่ามึงยังไงมึงก็ควายเหมือนเดิมไอ้เฒ่าภูติ อ้างกรรมเวรอะไรแปะมึงไอ้หน้าส้นตีน เสือกมาทำตัวอวดเก่งไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ต่ำตมแล้วเสือกไม่เจียมกะลาหัว ยกตนต่ำๆมาทำตัวถ่อยสถุนแบบไร้น้ำยา หาความดีงามอะไรก็ไม่มี เอาธรรมะมาบังหน้าทำแป๊ะมึงอะไร ไอ้กิเลสกระจอกๆ อย่างมึงไม่ต้องเอาธรรมอะไรมาแปะให้คนอื่นอ่านหรอก

    ตัวมึงอ่านมาทั้งชาติแล้วยังโคตรโง่ดักดานอยู่เลย ริจะมาวางกล้าม ก็คอยดูต่อไปคนอย่างกูไม่เคยแพ้คนระยำแบบมึงจำไว้ด้วย ใครจะมาช่วยไม่ช่วยกูไม่สนแต่กูเต็มใจอาสาตืบมึงเอง คำที่มึงว่าให้กูมันก็เข้าตัวมึงเองนั่นแหละไอ้เฒ่ากระจอก สันดานไก่น้อย อิอิ กร๊าาาากกกๆๆๆๆๆๆ
     
  10. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +307
    มึงอยากให้กูถามธรรมมึงมาเป็นข้อๆ เพื่อโชวภูมิรู้ของมึงงั้นเหรอ เด๋วจัดให้ ถ้าตอบไม่ได้ก็ถือว่ามึงโง่ควายดักดานถังขี้

    คำว่า "โง่" ในตัวมึงเป็นอย่างไรไอ้เฒ่าโง่
    คำว่า "ซื่อบื้อ" ในตัวมึงเป็นอย่างไรไอ้เฒ่าซื่อบื้อ
    คำว่า "สถุนต่ำ" ในตัวมึงเป็นอย่างไรไอ้เฒ่าสถุนต่ำ

    อย่ามาเล่นลิ้นนะ ตอบให้ตรงคำถามนะไอ้ควายเฒ่าเบาปัญญา ถ้าแค่นี้ตอบไม่ได้ก็อย่าทำมาเสือกปากเก่งอีก เก็บปากกระจอกๆ และสมองโง่ๆ ของมึงไปดูดนมเม็ดไป ไอ้ฟาย อิอิ
     
  11. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ว่าแล้วววววว พอเถียงไม่สู้เด็ก
    ก็เล่นไม้ตาย
    อ้างมุขเวรมุขกรรมมาขู่ ๕๕๕๕
    เกลียดมากกกกก
    พวกอ้างมุขศีล อ้างมุขเวรกรรม
    เพียงเพราะเห็นต่างกับตน
    และจำนนด้วยหลักฐาน
    ถือว่าเป็นการแถสาขาหนึ่ง
    นอกจากพูดถึงเวบแล้วยกให้ตนเอง
    ประหนึ่งเป็นคนดีมาก. ( ...ุยยยยย)
    พิมพ์ตกไปตัวหนึ่ง

    เห็นในห้องอภิญญา พวกที่ชอบอ้างมุข
    แบบนี้ เวลาเถียงไม่ขึ้น
    จำนนต่อหลักฐาน ปัจจุบันนี้
    มีใครปกติทางจิต ทางการปฏิบัติ
    ทางนิสัยบ้างไหม
    ตัวอย่างมีให้เห็นเยอะแยะ
    ดูไว้บ้าง อยากเป็นอย่างนั้นหรือ?

    อย่าใช้เลยมุขขู่ จะขู่คนอื่นเค้า
    ถามว่า สร้างบารมีมานานเท่าไร
    สะสมความดีมานานแค่ไหน
    ที่สำคัญนะ มีกำลังจิตที่ได้
    จากการฝึกกรรมฐานแล้วหรือ?
    ใช้งานทางจิตได้แล้วหรือ?

    ไอ้แค่จะอาศัยเมตตาแบบ
    ยังแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
    กับสัมผัสทางนามธรรมแบบกิ๊กก๊อก
    และที่สำคัญไม่มีบารมีทางวาจาสิทธิ์
    มีแต่วาจาทางมโน ๕๕๕๕
    แล้วคิดจะพูดขู่ให้เด็กกลัว
    คงเป็นไปไม่ได้หรอก
    เหมือนการมโนนั่นหละ
    เด็กมันไม่ได้กินหญ้าหน้าบ้านเน้อ
    มันถึงจะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
    ๕๕๕๕๕


    เฒ่ากระโหลกกะลาจริงๆ
    รู้แต่ตัวอักษร ทำเป็นพูดเรื่องถ้าอยากรู้ธรรม
    ให้ถามตรงๆในเรื่องธรรมนั้นๆ
    ว่าใช่หรือไม่ใช่ แสดงว่ายึดว่าที่ตัวเองรู้
    คือใช่ เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง
    เห็นต่างจากตัวเอง คือไม่ใช่
    กะโหลกกระลาอนุบาลรัศมีน้อยจริงๆ
    ถามหน่อยคิดว่าตัวเองเป็นพระอานนท์หรือ?
    ขำกลิ้ง

    ถามว่าเข้าถึงสภาวะธรรมที่พูดจากการ
    วิเคราะห์ ตีความความ ปี๊แปะได้แล้วหรือ?

    ตอบเลยว่าไม่ได้. เพราะถ้าเข้าถึงได้จริง
    ต้องอ่านออกว่า คำพูดไหนมาจากการปฎิบัติ
    หรือมั่วมาหรือปี๊มาหรือวิเคราะห์เอา

    แต่ด้วยที่คนมันหลงตัวเอง แบบไม่เจียมตัว
    คิดว่าเพราะอยู่มานาน
    เลยยึดที่ตนเองรู้จากการวิเคราะห์และปี๊แปะ
    เลยมายกตนเองข่มคนอื่นก่อน
    เชิงว่า ที่คนอื่นแนะนำเป็นเพียง
    วิธีที่พวกไม่รู้เรื่องพูดเองเอ่อเอง
    คือกะโชว์ว่าตนเองปฎิบัติมา
    คำแนะนำนั้น
    แค่พวกปุถุชนกิเลสหนา
    พูดแบบประกาศว่าตรูไม่ธรรมดา
    (แสดงว่าคิดว่าตัวเอง จิตใจดี
    มีคุณธรรมสูง แบบพวกหลงตัวเอง
    กะโหลกกะลาทั่วไป)

    และด้วยที่หลงตัวเองสุดๆ
    จึงได้เสร่อ คุยทับคนอื่นๆเรื่องสมาธิ
    ว่าเค้าไม่รู้เรื่อง ยกตนเองว่าเก่ง
    ประหนึ่งว่า ไอ้ที่ตนปี๊แปะมานั้น
    จะมำให้ตนเองมีความสามารถ
    ทางสมาธิ ทางจิตเกิดตามมาด้วย

    เป็นที่มาของการท้า ของข้าพเจ้า
    อย่าลืมนะครับ
    ผมไม่เคยบอกตัวเองเก่งนะครับ
    ไม่เคยยอกว่าดี และบรรลุอะไรนะครับ
    คุณมาดูถูกยกตัวเองข่มก่อนนะครับ
    อย่ามาแถว่าไม่ใช่นะ.


    ท้าให้แสดงความสามารถ
    ต่อหน้าพระเกจิ โดยให้เลือกกรรมฐาน
    ที่เก่งที่สุดที่ได้มาจากสมาธิในจักรวาล
    เลือกมาเลย ถ้าข้าพเจ้า
    แพ้แม้แต่กรรมฐานกองไหน ใน ๔๐ กอง
    หรือกรรมฐานพิเศษอะไรก็ได้ว่ามาเลย
    จะกราบเท้าคุณและให้เอารูปกราบเท้าคุณมาลงให้ชาวเวบนี้เห็นหน้า และเชิญด่าได้ตามอัธยาศัย โดยไม่ขู่ฟ้อง ถือเอาความ
    แบบปัญญานิ่ม ไร้สาระอะไร
    หรือด่าว่าไอ้กะจอก
    ไอ้ขี้โม้ ไอ้.....
    แล้วแต่จะด่า

    แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ซักกรรมฐาน
    หรือทำได้แต่แพ้ข้าพเจ้า
    ไม่ต้องมากราบเท้า
    ข้าพเจ้า เพราะถือว่าเป็นเสนียดเท้า
    และจะยอมให้เอารูปคุณมาลงให้ชาวเวบนี้
    ได้เห็นหนังหน้า และด่าได้ตาม
    อัธยาศัยเช่นกัน โดยไม่เอาความ



    จะถาม นาย ธรรมภูต อีกครั้งว่า
    รับคำท้าแสดงความสามารถ
    ด้วยเงื่อนไขแบบที่กล่าวไหม
    เช่น ถ้าคุณท้าเรื่อง กสิณไฟ
    ถ้าคุณเรียกพลังงานกสิณไฟ
    และใช้งานได้เร็วกว่า ได้ดีกว่า
    ได้เหนือกว่าข้าพเจ้า
    ถือว่าคุณ ชนะ
    หรือถ้าถ้ามาพิสูจน์ด้วยการ
    เข้าฌานแข่งกัน
    ถ้าคุณทำได้เร็วกว่าหรือ
    ได้หลายรอบกว่าในลมหายใจเข้าออกเพียง
    รอบเดียวมากกว่าข้าพเจ้า
    ไม่ว่าระดับฌานไหน
    ก็ถือว่าคุณชนะ.
    พอเข้าใจวิธีแสดง
    ความสามารถนะ

    ที่พูดมาคือทำตอนลืมตาปกตินะ
    ถ้าหลับตาทำอยู่อย่าเสร่อมาท้า
    เสียเวลาไปดูหนังหน้า แต่คุณคงเก่งหละ
    ถึงได้ว่าข้าพเจ้าไม่รู้เรื่องพูดไปเรื่อย


    จริงๆไม่น่ามีอะไรนะ น่าจะชิวๆ
    เพราะคุยข่มเรื่องสมาธิข้าพเจ้าไว้เยอะ
    คุยฟุ้งประหนึ่งว่าตนรู้เรื่องดี
    น่าจะรับคำท้าได้แบบสิวๆ

    อย่าแถและเงียบเลย
    รับมาข้อความที่ข้าพเจ้าพูดถึงคุณ
    จะกลายเป็นความเท็จ
    และคำโกหกไปโดยปริยาย
    ถ้าคุณทำได้ดีกว่าข้าพเจ้า

    เถียงกับเด็ก ไปก็สู้เด็กไม่ได้หรอก
    มีแต่จะทำให้วัยรุ่นที่เข้ามามองว่า
    เป็นแค่เฒ่ากระโหลกกะลาตอมแถยกตนสร้างภาพและชอบขู่
    ทางวงการมวย เค้าเรียกว่า
    ราคาไปไกลแล้ว ยังไงก็แพ้เด็กวันยังค่ำ
    ต่อ ราคามา ๒๐ต่อ ๑ ยัง
    หาคนรองไม่ได้เลย
    พูดเปรียบให้เห็นภาพนะ

    ปล ขออภัยที่มากระทู้นี้นะครับ
    เพราะกระทู้ที่คุณคุยโม้ยกตนทับถม
    คุณได้แถสร้างภาพหนีไปแล้ว ^_^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2018
  12. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ผมว่าทิฐิที่น่ากลัวคือทิฐิไม่ยอมรับความจริง
    ปิดกั้นตัวเอง
    อย่างหลวงปู่มั่น ท่านภาวนาค้นหาธรรม
    เอาชีวิตเข้าแลก ได้ธรรมมาสอนโลก

    แต่เราดันมามีทิฐิว่าเป็นภาษิตสาวก
    ไม่ควรฟัง มันน่าสมเพชนะ

    เวลายกพระสูตรมาก็ยกเอาแต่ที่กิเลสตัวเองรับรอง

    หลวงปู่มั่นท่านก็ค้นพระไตรปิฎกสามรอบ ฟังสิ
    ในประวัติท่าน มันก็หาธรรมแท้ไม่เจอ
    ไปทรมานอยู่ในป่าในเขา จึงได้รู้แจ้งเห็นจริงขึ้นมา

    แล้วนำมาสอนโลก เป็นที่ยอมรับกันในเวลานี้

    แต่เราดันมามีทิฐิอันลามก
    ว่าภาษิตสาวกไม่ควรฟัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2018
  13. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ยิ่งเก่ายิ่งแก่ยิ่งต้องมีสติและ
    เห็นอนิจจังได้ง่ายกว่า
    คนใหม่ๆหน่ะฮับ
     
  14. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    ขิงสองขา ที่เลิศ ประเสริฐที่สุดในโลก คือ ขิงชี้ทาง

    ยิ่งเก่า ยิ่งแก่ ยิ่งเห็นหนทาง เกาได้ตรงที่คัน เป๊ะ

    จนกระทั่งต้อง ชื่นชมเสียมิได้

    สองจอก


    ปล. ขิงผง ที่อาศัยคนชี้ทาง ไม่ใช่ฐานะเป็นผู้รื้อค้นทาง
    สำคัญตัวว่า เป็นผู้รื้อค้นทาง สร้างคำแต่งใหม่ เอา สันติ!! ไปสิ


    ปล2. พหุสัจจ จะเป็นที่ ฉันทะ เฉพาะ เหล่าพหุสัจจ( ไม่ใช่ คน สัตว์ ตัวตน )
    การที่เห็น พหุสัจจ แล้วไม่เกิด ฉันทะ ก็เพราะ สภาพธรรม
    แต่ถ้า ฮับ ฮับ งับ งับ บ่อยๆ ผัสสะเกิดบ่อย สฬายตนะ ปริฬาหะ ปริเยสนา
    ก็เกิด ..... จักรที่เคลื่อนไป หมุนไป ไม่ใช่ สภาพสัตว์ ตัวตน บุคคล เรา
    เขา แต่เป็น การอนุโลมไปตาม สัทธรรม ที่ควรแก่การเพ่ง เป็นลาภี ญาณลาภี
    ธรรมนิรุตติ จึงเป็นของ ตถาคต ผู้เดียว สาวกหมดสิทธิสะเหร่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2018
  15. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ผมชอบหัวข้อเจ้าของกระทู้ครับ อนัตตา เป็นยาขม เห็นจะจริง
    เพราะสติมี ก็เสื่อมได้สำหรับปุถุชน จัดว่าเป็นยายม
     
  16. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    เหน จี ปะ

    เหน สติ ดับได้ สัมปชัญญะธรรม วิจัยเลยฮับ หากไม่วิจัย สติดับได้ ไม่ฮู้ ไม่เห็น
    อย่ามา กระมู้ว เรื่อง มี สัมปชัญญะ ในการเพียร บึ๊ดจั๊มบึ๊ดแบบ อนาสวะ

    กัลยาณธรรม มะใช่คน แต่เป็น วงกลมแปด
     
  17. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ผมบอกชัดเจนแล้วครับว่า ชอบหัวข้อกระทู้นี้ อย่างอื่น ไม่ขอพูดต่อ เจ็บคอครับ
     
  18. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    ลวกเพ่ อยากได้ การบ้าน ไหม

    ในสมัยพุทธกาล มี พ่อแม่กำลังจะมีบุตร ก่อนจะคลอด ก็ หันมา ภาวนาสติปัฏฐาน

    ลูก พั๊วะออกมา ในสมัย พุทธกาล พระท่านโจทย์ขานกันว่า น้ำเสียงสามเณร
    เหมือน พระตถาคต จนกระทั่ง ต้องจับนอนกุฏิเดียวกันกับ พระพุทธองค์ ไม่ให้
    ไปเดินส่งเสียงแถวไหน .....เดี๋ยวสาวกจะกลายเป็น ปางสะดุ้งมาร กันหมด

    คุงหัวแมว ภาวนาเลย อยากเห็น !
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2018
  19. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    น่านประไร เริ่ม เจ็บคอ

    แพ้ท้องแทน แม่ เว้ยเฮ้ย

    คลอดมา จับบวชเลย อิอิ
     
  20. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    ทิฐิ > สัญญา > คำสอนในตำรา

    spartan.gif

    ทิฐิ ก็เปรียบเสมือนกับ ลูกศร
    มานะ ก็เปรียบเสมือนกับ เงาศรที่บังแสงอาทิตย์
    ที่หมาย ก็เปรียบเสมือนกับ ฝั่ง

    คำสอนในตำรา ไม่ได้เลือกข้างไม่ได้แบ่งฝั่ง
    เสมือนแสงอาทิตย์ที่ไม่ได้เลือกให้เฉพาะฝั่งไหนๆ

    คำสอนในตำรานั้นเป็น อรรถ เมื่อเอาอรรธนั้นมาเป็นที่หมายเป็นสำคัญ
    ก็มีแต่จะเป็นการเพิ่ม ทิฐิมานะ ไปโดยปริยาย

    เมื่อสำคัญตนอยู่ว่าหากมี ทิฐิ > สัญญา > คำสอนในตำรา หากตรงคำสอนแปลว่าสัมมาทิฏฐิ
    ในขณะที่เรานั้นยังไม่ได้ยืนอยู่ที่ฝั่งนั้นแล้ว ก็จะเป็นแต่เพียงการยิงข้ามฟากแต่เพียงแค่นั้น
    ก็จะเป็นการ สำคัญตนไว้ในทิฐิที่ผิดที่ผิดทาง ไม่รู้ฐานะตัวที่ควรจะอยู่

    ในขณะที่สัมมาทิฏฐิ นั้นได้อยู่ฝั่งนั้นๆไปแล้ว เมื่อถึงคราวจะกล่าว ก็กล่าวตามฐานะแห่งตน


    เห็นของที่กำลังปิดว่าเป็นของที่กำลังเปิดเป็น มิจฉาทิฏฐิ

    ยังละสักกายทิฏฐิไม่ได้หมด แต่ไม่สำคัญทิฐิตนเอาไว้สูงๆว่าพอๆกับที่หมาย
    ก็ยังดีกว่า สำคัญทิฐิตนเอาไว้ในที่หมายสูงๆ แล้วไม่รู้ซึ่งฐานะตน

    เพราะไม่รู้ซึ่งฐานะแห่งตน เมื่อตนต่ำกว่าเขา แต่สำคัญว่าสูงกว่าเขา
    ผู้เห็นผู้อื่นสูงกว่าได้ยังพอมีโอกาสเจริญ แนววางกล้ามไม่มีใครสูงกว่าเก่งกว่าตนนี้อาการหนัก

    ความโง่ก็เป็นอาจารย์เราได้หากเรายังไม่รู้ซึ่งว่า ความโง่ที่ว่านี้มันเป็นอย่างไร
    ทำไมจึงโง่ โง่แบบไหน หากเราฉลาดจริงเราต้องแก้โง่ได้สิ
    หากแก้ไม่ได้ก็แสดงว่าหากเราไปอยู่สถานะการณืเดียวกันเรานั้นก็โง่พอๆกันนี้หละ

    โดยส่วนตัวชาตินี้ก็คงไม่ได้บรรลุอยู่แล้ว ก็มีทั้งโง่และสักกายทิฐินี้หละ
    รู้จักแต่ที่รู้อย่างเดียวคงเอาตัวไม่รอด ต้องรู้จักในส่วนที่โง่บ้างอะไรบ้าง

    แต่ในส่วนตนเป็นที่พึ่งแห่งตน มองว่า รู้เป็นที่พึ่งแห่งรู้นี้หละ เป็นอุเบกขาบารมี
    ส่วนตัวโง่ นี้นำไปสู่ ขันติบารมีได้ เพราะตัวโกรธกับตัวไม่รู้ นี้มันไปด้วยกัน
    ตอนโกรธนั้นโกรธเพราะ กูรู้ไง แต่ไอ้ตัวโกรธจริงๆนี้มันตัวไม่รู้
     

แชร์หน้านี้

Loading...