อยากขอวิธีตัดใจต่อนางแก้ว

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย InvisibleForce, 22 พฤศจิกายน 2013.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,618
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    ****************************
    ตรงนี้อาจจะยากนะคะ ถ้าไปเจอนางแก้วที่มีกระแสจิตแรงก็จะต้านไม่ไหว
    (โลกในปัจจุบันนี้จึงเป็นเช่นนี้ เกี่ยวข้องผูกพันกันมา แล้วเกิดมาชาตินี้หลายๆคน เลยหญิงมีหลายชาย ชายมีหลายหญิง เพราะ"จิต") เคยพบมาแล้ว "ไม่รู้จะเลือกใคร อ้าว ใครดีล่ะ ดีทั้งคู่ ใครสวยล่ะ สวยทั้งคู่" พอรู้เท่านั้น ก็เลยช่วยเขาตัดสินใจด้วยการแยกตัวเราออกมา แทบจะขาดใจแหละ แต่"ทําได้ถ้าได้ทํา" มิได้หมายความว่าเรารักเขาน้อยนะ เพราะตั้งแต่บัดนั้นก็ไม่มีความรักเช่นนั้นอีกเลย เอวัง ขอให้ทุกๆท่านทําได้ค่ะ
     
  2. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    มากกว่าสี่อสงไขยของพระนางแก้วคู่พระบารมี ชัดๆอีกสักครั้งครับ

    สมเด็จพระพิมพาทูลลานิพพาน


    ครั้นสมเด็จพระพิมพาภิกษุณี ได้สำเร็จเป็นพระอรหันตมหาขีณาสวเจ้า ทรงคุณวิเศษในพระพุทธศาสนาขั้นสูงสุด เสวยวิมุตติธรรมอยู่พอควรแก่กาลแล้ว วันหนึ่ง พระเถรีมีจิตผ่องแผ้วอธิษฐานเข้าฌานสมาบัติเป็นผาสุกวิหาร ออกจากฌานแล้วจึงอาวัชนาการพิจารณาดูอายุสังขารแห่งตน ก็เห็นแจ้งประจักษ์ชัดด้วยอำนาจญาณวิเศษว่า อายุสังขารนั้นจะพลันสิ้นเสียแล้ว จึงอุฏฐาการลุกขึ้นโดยพลัน ชวนพระภิกษุณีที่เป็นบริวาร คมนาการไปสู่สำนักสมเด็จพระจอมจักรสัมมาสัมพุทธเจ้า ประณตน้อมถวายวันทาด้วยเบญจางคประดิษฐ์ สถิตนั่งอยู่ ณ ที่อันควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วทอดพระเนตรเล็งแลดูพระพักตร์มณฑลแห่งองค์สมเด็จพระบรมทศพล ซึ่งงามพร้อมด้วยพระพุทธลักษณา ปานประหนึ่งว่าปริมณฑลแห่งพระจันทร์อันงามยิ่ง เฝ้าเล็งแลดูนิ่งนานเป็นที่ผิดสังเกตไม่เหมือนทุกวันแต่กาลก่อน

    สมเด็จพระชินวรสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ผู้ทรงไว้ซึ่งสัพพัญญุตญาณทรงทัศนาเห็นพระพิมพาภิกษุณีอรหันต์มีอาการผิดแปลกเช่นนั้น ก็ทรงพิจารณาเห็นอย่างแจ่มแจ้งในญาณแห่งพระสัพพัญญูว่า พระพิมพาภิกษุณีนี้ ถึงกาลสิ้นชนมายุสังขาร จะมาลาตถาคตดับขันธ์เข้าสู่ปรินิพพาน ในกาลวันนี้ ควรที่ตถาคตจักสำแดงปฏิหาริย์ให้ปรากฏแก่เจ้าพิมพาในวาระสุดท้ายนี้โดยยิ่ง สมเด็จพระมิ่งมงกุฎบรมศาสดาทรงอาวัชนาการฉะนี้แล้วก็ทรงเปล่งพระรัศมีแห่งพระวรกายให้เป็นไปโดยงดงามหลายสิ่งหลายอย่าง อาทิ บางรัศมีที่ปรากฏออกจากพระวรกายในขณะนั้น ปรากฏดุจรัศมีแห่งพระอาทิตย์เมื่อแรกอุทัย บางรัศมีปรากฏดุจสายรุ้งและดอกอุบลแดง มีพรรณรายเลื่อมระยับแสงแล่นวนเวียนห้อมล้อมพระองค์แลดูรุ่งเรืองโอภาสงดงามสุดประมาณ

    สมเด็จพระพิมพาเถรีอรหันต์ ทอดทัศนาพระวรกายแห่งสมเด็จพระไตรโลกนาถซึ่งโอภาสรุ่งเรืองไปด้วยพระรัศมีงามต่างๆ ดั่งนั้น ก็พลันบังเกิดธรรมสังเวชในพระทัยแล้วจึงตัดสินใจกราบทูลพระกรุณาขึ้นว่า

    "ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระภาคอันงามและประดับไปด้วยพระรัศมี พระองค์ได้ทรงพระอุตสาหะสั่งสมอบรมพระพุทธบารมี มาแต่อดีตชาติหลายอสงไขยโน้นก็ดี พระองค์ก็ได้ทรงเป็นสวามีแห่งพิมพาข้าพระบาทนี้นับพระชาติไม่ถ้วนตลอดมา ตราบเท่าได้ตรัสแก่พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณในกาลบัดนี้ก็ดี ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระพุทธบารมี จำเดิมแต่นี้ไป อันตัวพิมพาข้าพระบาทนี้ จักมีโอกาสได้ทอดทัศนาพระองค์ผู้เคยทรงเป็นพระภัสดาก็หามิได้อีกแล้ว จะได้วิสาสะคุ้นเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพระองค์อีกเหมือนกาลก่อนนั้นก็หามิได้อีกแล้ว ขอพระองค์จงทรงพระกรุณารับทราบไว้เถิดว่า

    พิมพาข้าพระบาทนี้ จะมีโอกาสได้เห็นพระรูปโฉมพระสิริวิลาสเสาวภาคลักษณะของพระองค์ก็คงครั้งนี้เป็นปัจฉิมที่สุดแล้ว จะได้ถวายนมัสการยินดีต่อองค์พระประทีปแก้ว ก็คงครั้งนี้เป็นปัจฉิมที่สุดอยู่แล้ว จะได้ กระทำสัจจะคารวะพระองค์ผู้เคยทรงเป็นสวามีสุดที่รัก ก็คงจักครั้งนี้เป็นปัจฉิมที่สุด ด้วยว่าข้าพระบาทพิมพามีวาสนาสิ้นสุด จักขอพระบรมพุทธานุญาตทูลลาดับขันธ์เข้าสู่นิพพาน เพราะสิ้นชนมายุสังขารในวันนี้แล้ว พระเจ้าข้า"

    ได้ทรงสดับคำกราบบังคมลาเข้าสู่นิพพานของสมเด็จพระนางพิมพาภิกษุณี ซึ่งเคยเป็นคู่สร้างพระบารมีฉะนี้ สมเด็จพระชินสีหพุทธเจ้าก็ทรงบังเกิดธรรมสังเวชในความเป็นไปแห่งอายุสังขาร จึงได้ประทานอนุญาตด้วยพระพุทธฎีกาว่า

    "ดูกรเจ้าพิมพาที่เคยมีคุณแก่ตถาคตเอ๋ย หากเจ้ากำหนดกาลอันควรแล้ว ก็จงเคลื่อนแคล้วดับขันธ์เข้าสู่ปรินิพพานอันเป็นอมตสุขไปตามอัธยาศัยของเจ้าเถิด เราตถาคตอนุญาต"

    เมื่อได้รับพระบรมพุทธานุญาตด้วยพระพุทธฎีกาดั่งนี้ พระพิมพาภิกษุณีเถรีเจ้าที่จะเข้าสู่นิพพาน ก็นิสัชนาการนิ่งนึกตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกราบบังคมทูลขึ้นว่า

    "ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระภาคอันงาม กาลเมื่อพระองค์ทรงสร้างพระพุทธบารมีเพื่อพระโพธิญาณ ท่องเที่ยวอยู่ในกระแสวัฏสงสารกับพิมพาข้าพระบาทนี้ด้วยกันมา ตั้งแต่ครั้งศาสนาสมเด็จทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า จนตราบเท่าจวบถึงกาลปัจฉิมชาตินี้ จะได้ขาดไมตรีจิตวิสาสะคุ้นเคยกันนั้นก็หาไม่ พระองค์เสวยพระชาติเป็นอะไร พิมพาข้าพระบาทนี้ก็เสวยชาติเป็นเช่นนั้นด้วย เป็นอย่างนี้เกือบทุกชาติมา

    ในกาลครั้งนี้แล พิมพาข้าพระบาทจักขาดจากไมตรีวิสาสะคุ้นเคยกันกับสมเด็จพระองค์เจ้า ด้วยว่า วันนี้เข้าถึงวันอุโบสถเพ็ญเดือน ๔ ข้าพระบาทที่ชื่อว่าพิมพาเถรีภิกษุณี จะขอถวายนมัสการฝ่าพระบาทยุคลทั้งคู่ ของสมเด็จพระสรรเพชญพุทธสัพพัญญูเจ้าเข้าสู่ปรินิพพานแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเป็นการสมควรที่พิมพาข้าพระบาท จักขอถือโอกาสขมาโทษานุโทษต่อพระองค์เสียในครั้งนี้ เพราะสืบไปเบื้องหน้าจะได้มีโอกาสกราบทูลพระกรุณาขอขมาโทษานุโทษก็หาไม่อีกแล้ว ขอองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว จงทรงพระกรุณารับขอขมาโทษ

    อันพิมพาข้าพระบาทนี้ ได้เคยมีความผิดต่อพระองค์มาแต่ปุพพชาติที่แล้วมาด้วยเถิดพระเจ้าข้า"

    กราบบังคมทูลเพื่อให้ทรงรับคำขอขมาโทษฉะนี้แล้ว สมเด็จพระพิมพาภิกษุณีอรหันต์ทรงฌานอภิญญาแก่กล้า ก็รำลึกถึงชาติหนหลังด้วยพระปุพเพนิวาสานุสติญาณ นำมากราบทูลพระกรุณาองค์สมเด็จพระบรมศาสดาจารย์ ประมาณได้หลายภพหลายชาติหนักหนาโดยมีใจความเป็นตัวอย่างบางภพบางชาติ ซึ่งเป็นอดีตประวัติที่ออกมาจากพระโอษฐ์องค์สมเด็จพระพิมพาเถรี ดังต่อไปนี้
     
  3. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328
    ถูกต้องเลยครับ เพราะพอลงในรายละเอียดก็จะมีเรื่องปลีกย่อยที่สลับซับซ้อนอีกมากมาย ขึ้นอยู่กับธาตุรู้ ธาตุธรรม และธาตุแท้ ของคน คนนั้นครับ
     
  4. kongkiatm

    kongkiatm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,263
    อิอิ ผู้หญิงที่มีกระแสจิตที่แรงๆ (เอามาจากไหนอ่ะ อยากรู้มากกว่านี้ไหม มีอะไรซ่อนอีกเยอะ เฟสบุ๊คแค่ฉากหน้า ที่คนทั่วๆไปมอง)

    ตรงนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนชาติที่ผูกพันกันมา ยิ่งบารมีมากเท่าไร ความผูกพันนั้นก็มากขึ้นตามลำดับ ความรักมันเลยแน่นมาก ยากที่คนทั่วๆไปจะเข้าใจ ความรักตรงนี้ก็ไม่เหมือนความรักของหญิงชายแล้ว

    การมีความรักเป็นเรื่องดี มันเป็นการบังคับให้ต้องรักพระโพธิญาณยิ่งๆขึ้นไปอีก ผู้ใดขาดความรักตรงนี้ก็ยากที่จะสำเร็จ

    เรื่องความรักเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ต้องขอยอมรับใจของผู้หญิงมากๆ เลยที่มีแต่ความปราถนาดีๆให้ จนต้องขอขอบคุณผู้หญิงมากๆ รู้สึกถึงการเป็นหนี้บุญคุณเลย
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,618
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    ธรรมะสวัสดีค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2016
  6. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ใช่อย่างคุณ kongkiatm ว่ามาหากว่าเรามองย้อนหลัง เราจะเห็นอะไรที่ผ่านมามากมาย หากเรามองปัจจุบันเราก็เห็นอะไรที่รอบตัว ทั้งใกล้ตัวและไกลตัวเท่าที่ความหยาบ ความละเอียดของจิต มันจะพาให้มองเห็น จิตที่ละเอียดมากก็เห็นของที่เล็ก ที่ไกล ที่ซ่อนอยู่ภายในได้มาก

    พระแม่เจ้าพิมพาโสธราราชเทวี บำเพ็ญบารมีเกินกว่าสี่อสงไขยกำไลอีกแสนกัป พระแม่เจ้าก็หมดจดงดงามเป็นเลิศถึงเพียงนี้ อย่างที่พุทธศาสนิกชนเห็นแล้ว เข้าใจแล้ว ประจักรแก่ใจแล้ว

    แล้วท่านที่แปดอสงไขย สิบหกอสงไขยกำลังใจของท่านนั้นจะเป็นอย่างไร ผู้หญิงคนหนึ่งติดตามผู้ชายคนหนึ่ง มีความรักไว้วางใจ แบบมอบกายถวายชีวิตชนิดอย่างที่ถึงใหนก็ถึงกัน ตั้งแต่ต้นจนถึงกาลอวสาน น้ำใจแบบนี้ สมควรทำอย่างไร สำหรับผม เกินกว่าจะพูด เกินกว่าคำบรรยาย ก็อย่างเดียวกัน คือรู้สึกเป็นหนี้บุญคุญผู้หญิง ของที่ดี ของที่เป็นเลิศทั้งปวง จึงจะสมควรกับเขา เท่าที่จะหามาให้ได้ สำหรับผู้หญิงที่ได้ชื่อว่านางแก้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กุมภาพันธ์ 2015
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,618
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    พระแม่เจ้าพิมพาโสธราราชเทวี บำเพ็ญบารมีเกินกว่าสี่อสงไขยกำไลอีกแสนกัป พระแม่เจ้าก็หมดจดงดงามเป็นเลิศถึงเพียงนี้ อย่างที่พุทธศาสนิกชนเห็นแล้ว เข้าใจแล้ว ประจักรแก่ใจแล้ว

    แล้วท่านที่แปดอสงไขย สิบหกอสงไขยกำลังใจของท่านนั้นจะเป็นอย่างไร ผู้หญิงคนหนึ่งติดตามผู้ชายคนหนึ่ง มีความรักไว้วางใจ แบบมอบกายถวายชีวิตชนิดอย่างที่ถึงใหนก็ถึงกัน ตั้งแต่ต้นจนถึงกาลอวสาน น้ำใจแบบนี้ สมควรทำอย่างไร สำหรับผม เกินกว่าจะพูด เกินกว่าคำบรรยาย ก็อย่างเดียวกัน คือรู้สึกเป็นหนี้บุญคุญผู้หญิง ของที่ดี ของที่เป็นเลิศทั้งปวง จึงจะสมควรกับเขา เท่าที่จะหามาให้ได้ สำหรับผู้หญิงที่ได้ชื่อว่านางแก้ว[/QUOTE]
    ******************************
    สัตบุรุษก็จะได้พบนางแก้วที่ดีๆอีกมากมายที่จะส่งเสริมบารมีซึ่งกันและกัน แก้วนั้นมีหลายชนิด ตั้งแต่Crystal ....ไปถึงเพชรซึ่งก็จะมีอีกหลายชนิด(ในชาติเดียวกันอาจมีหลายๆคน)จนถึง"เพชรนํ้าหนึ่ง" และแล้ว.....ในที่สุดก็ต้อง"สละ" เพื่อ"พระโพธิญาณ" เอวัง
     
  8. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ******************************
    สัตบุรุษก็จะได้พบนางแก้วที่ดีๆอีกมากมายที่จะส่งเสริมบารมีซึ่งกันและกัน แก้วนั้นมีหลายชนิด ตั้งแต่Crystal ....ไปถึงเพชรซึ่งก็จะมีอีกหลายชนิด(ในชาติเดียวกันอาจมีหลายๆคน)จนถึง"เพชรนํ้าหนึ่ง" และแล้ว.....ในที่สุดก็ต้อง"สละ" เพื่อ"พระโพธิญาณ" เอวัง[/QUOTE]

    ผมเองนั้นก็จะพยายาม เจียระไนแก้วของผมทุกๆแก้ว จากแก้วธรรมดาให้เป็นแก้วมณีรัตนให้จงได้
     
  9. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ทุกคนมีกิเลศในตัวไม่มากก็น้อย คิดถึงสิ่งที่เราไม่ชอบในตัวนางแก้วบ่อย ๆ หรืออีกวีธีที่ผมใช้ ก็คือรู้เท่าทันการปรุงแต่งของตัวเองให้ได้ แต่บางที วิธีของคนอื่นอาจใช้ไม่ได้ผลไปกับท่านหรอก ท่านอาจจะต้องหาวิธีตัดใจจากนางแก้วด้วยตัวของท่านเองนั่นแหละ คนอื่นรู้ยังไงก็ไม่สู้รู้เอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2015
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,618
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    เรามาก็มาคนเดียว เราไปก็ไปคนเดียว วัฏฏะสงสารหาที่สุดมิได้ ถึงแม้จะเป็นนางแก้วก็ถูกทิ้งเพื่อพระโพธิญาณ เจริญธรรมทุกๆท่านค่ะ
     
  11. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,974
    ทุกชีวิตที่มาเกี่ยวข้องกัน ไม่ว่าสามัญชนคนมีกิเลส หรือ ผู้มีจิตสะอาดยิ่งขึ้นระดับใด ล้วนมีหน้าที่โดยธรรมต่อกัน


    ...อันดับแรก สิ่งที่เรียกว่าตัวเรา ต้องทราบก่อนว่า เกิดมาเพื่ออะไร กำลังเดินบนเส้นทางที่ตังจิตอธิษฐานไว้หรือไม่
    เมื่อทราบแล้ว ก็ทำหน้าที่ที่สมควรทำ อ้นวิญญูชนควรพิจารณาตนเองว่าเราอยู่ ณ สถานะใดของทิศทั้งหก


    การเข้ามาสัมผัสสัมพันธ์ของสิ่งภายนอก เราไม่สามารถกะเกณฑ์ได้ดังใจทุกอย่าง

    ไม่ผลัก ไม่ต้าน ไม่ดึงดูด ไม่ร้อยรัด ฯลฯ แต่สัมพันธ์ตามธรรม


    ที่นั่งเพียงที่เดียวในบ้านคือเรือนกาย อันประกอบด้วยธาตุสี่
    หากจิตของเราเชิญสิ่งใดเข้ามานั่งประจำ สิ่งอื่นก็ได้แค่เข้ามาเดินในบ้าน รอบบ้าน แล้วก็มีวิถีของเค้า ตามสภาวะธรรม เข้ามาเกื้อกูล ตามหน้าที่
    ตามวาระ ตามกลไกกรรมซับซ้อน หมดเหตุปัจจัย ก็ไปตามธรรม


    ..สุดท้ายมาจบที่ตัวเอง ถาม ตอบตนเองว่า..." เรา มีธรรมอันเป็นกุศลทั้งมวลเป็นเจ้าในหัวใจมากเพียงใด..." ( รวมไปถึง การมีอารมณ์ชินกับวิตกวิจารปิติสุข เอกัคตา ในเรื่องบารมีสามสิบทัศ เพียงใด ต่างหากเล่า )
     

แชร์หน้านี้

Loading...