อยากทราบวิธีถอดขันธ์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย king_6914, 10 พฤษภาคม 2009.

  1. king_6914

    king_6914 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    614
    ค่าพลัง:
    +18,384
    :z10รบกวนผู้รู้ทั้งหลายนะคะ ดิฉันได้รู้จักพี่คนนึงที่เคยไปรับขันธ์มา แล้วเกิดอาการแปลกๆ คือเห็นผีอยู่รอบตัว บางครั้งก็เข้ามาสิงร่าง เสียงพูดก็จะเปลี่ยนเป็นผู้ชาย เค้ารู้แต่ไม่สามารถบังคับตัวเองได้ ตอนนี้เค้าเป็นทุกข์มากค่ะ อยากถอดขันธ์ แต่ไปมาหลายที่แล้ว แต่ก็ยังเป็นอยู่เหมือนเดิม แถมมีวิญญาณอยู่รอบตัวมากกว่าเดิม พี่เค้าน่าสงสารมากๆค่ะ ไม่ทราบว่าจะช่วยอย่างไรดี รบกวนผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
     
  2. ฤษีเหิร

    ฤษีเหิร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +76
  3. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    วิธีคืนขันธิ์ 5

    ตามแนวสายศิษย์วัดท่าซุงโดยคุณยายนิภา คงสุข
    แนะนำวิธีการคืนขันธ์ของหลวงพ่อเกี๋ยง วัดหินปักใหญ่ ไว้ปฎิบัติดังนี้

    วันพฤหัสข้างขึ้นให้จุดธูป 16 ดอก เทียนขาวเล่มขนาด1 บาททั่วไป 16 เล่ม บายศรี ซ้าย ขวา 1 คู่ เงิน 6 บาท ใส่ในบายศรี ดอกบัว ลอยขันน้ำมนต์ 5 ดอก เหลือจากนั้นใส่แจกันบูชาพระ 8 ดอก ทำน้ำมนต์สวดอิติปิโสฯ 3จบ แล้วอธิฐานว่าข้าพเจ้ามอบกายถวายพระพุทธเจ้าแล้วขอกายและจิตนี้จึงเป็นอิสระด้วยคุณพระรัตนตรัย ขอดวงวิญญาณที่ข้าพเจ้ารับขันธ์มาจงอนุโมทนา ส่วนบุญส่วนกุศล ได้ตลอกไปจนข้าพเจ้าเข้าถึงพระนิพพาน ขอดวงวิญญาณจงสถิตอยู่กับบายศรีนี้ หรือไปสู่สุขคติ แล้วสมาทานนั่งกรรมฐานสัก 5 นาที แล้วกรวดน้ำอุทิศกุศลให้ไป นำน้ำมนต์มาอาบเป็นเสร็จพิธี...
    หากมีขันธ์ที่รับมานิยมเอาไปลอยแม่น้ำ หรือวางโคนไม้ที่วัด อย่าลืมบอกพระด้วยขอพระท่านก่อนเดี๋ยวเกิดเป็นเปรต




    อีกวิธีพบในเน็ต ....วิธีทำต่อคือ น้องจุดธูป 9 ดอกหมายถึงมรรค 4ผล 4 นิพพาน 1 กลางแจ้งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกบอกกล่าว ข้าพเจ้าชื่อ........ขอคืนพานครูขันธ์5 กลับแก่ท่านอาจารย์ เพราะข้าพเจ้าไม่สามารถอยู่ในข้อปฎิบัติได้ กรรมอันใดที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินท่านอาจารย์ ขอให้ท่านอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วย สาธุ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2009
  4. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    <table width="800"><tbody><tr><td align="middle" bgcolor="#8a8a8a" valign="center" width="792" height="125">>>> อ่านต่อเรื่องร่างทรง เรื่องที่ 1 <<<

    เรื่องร่างทรง 2 - คนมีองค์ กับ ร่างทรง ต่างกันอย่างไร ?


    เรื่องร่างทรง 3 - ร่างทรงกำลังทรงเทพเจ้า...หรือกำลังโดนผีสิง???


    เรื่องร่างทรง 4 - การรับขันธ์ อันตรายถึงชีวิต!!!


    การรับขันธ์อันตรายถึงชีวิต
    จากเว็บไซต์ sanyana.com และ saisunya.com / เราขอขอบคุณมา ณ ที่นี้
    มีผู้คนจำนวนมากถูกทักว่า "มีองค์" เป็นช่องทางทำมาหากินของพวก มิจฉาชีพ อาสัยช่องทางของเรื่องลี้ลับมาหลอกลวงต้มตุ๋น

    แท้จริงแล้วมนุษย์เราเกิดมามีองค์เทพปกปักษ์รักษา อย่างน้อย 2 องค์ (อยู่ห่างจากเราเพียง 3 ศอก) ตำหนักทรง

    ร่างทรงต่างๆ หลอกให้ไปรับขันธ์ ล้วนแล้วแต่เป็นผี หรือสัมภเวสีทั้งสิ้น!!!!!


    เนื่องจากผีเหล่านี้ร่อนเร่พเนจร ไม่มีสังขาร จึงมาอาศัยร่างมนุษย์เกาะกินบุญ ทำบุญไปเท่าไหร่สัมภเวสีพวกนี้เอาไปหมด ทำบุญมาก แต่ชีวิตก็ไม่ดีขึ้น

    มันจะดีได้อย่างไรในเมื่อท่านไปรับ "ผีเข้าตัว" บางขันธ์มีเป็นสิบวิญญาณ ขึ้นอยู่กับสำนักไหน สำนักที่เป็นเสือสมิง บรรดาที่ถูกหลอกรับขันธ์มาก็เป็นวิญาณเสือสมิงเข้าตัวทั้งนั้น

    ร่างทรงต่างๆ ไม่รู้ว่าตัวเองถูกผีเข้า แต่ เข้าใจว่าเป็นเทพเจ้า อ้างตนเป็นเทพองค์ใหญ่ๆ เพราะถ้าบอกว่าเป็นผี.. ก็คงไม่มีใครศรัทธาเชื่อถือ เลยอ้างตนเป็นพระแม่อุมาบ้าง พระศิวะบ้าง พระพิฆเนศบ้าง พระพรหมบ้าง เสด็จพ่อ ร.5 บ้าง (ท่านไม่มาดูหมอดูดวง หรือมายุ่งกับเรื่องผัวเมีย ทำนายทายทักอะไร เพราะท่านไม่มีหน้าที่จุกจิกกับเรื่องแบบนี้)

    บ้างก็อ้างเป็นกรมหลวงชุมพรบ้าง พระเจ้าตาก ฯลฯ ก็วนเวียนกันอยู่แค่นี้ เพราะกษัตริย์ไทยดังๆ มีอยู่ไม่กี่องค์ หากินง่าย ยิ่งเป็น ร.5 ก็หลอกคนได้มากที่สุดเพราะคนนับถือเยอะ ..

    ในข้อเท็จจริงแล้ว ใครทรงเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ท่านแจ้งความเรียกตำรวจจับได้เลย ..หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กฏหมายเค้ามีอยู่..!!

    ผู้ที่รับขันธ์มา ส่วนใหญ่แล้วชีวิตอัปปาง วิบัติ ลมสลายเกือบทุกรายไป ที่ยังไม่ออกเหตุก็เพราะบุญยังเยอะ สุดท้ายจบลงด้วย โรคมะเร็ง เบาหวาน อัมพฤกา อัมพาต หรืออุบัติเหตุ แทบทั้งสิ้น รวมถึงเจ้าของตำหนักคนทรงก็ตามมักจะจบชีวิตด้วยเหตุนี้ โดนผีกัดกินอวัยวะภายในเจ็บป่วยในบั้นปลายชีวิต...บ้างก็ล้มตายด้วย อุบัติเหตุไปเลย!!!



    <hr>

    ที่ผ่านมามีผู้ทนทุกข์ทรมานจากการรับขันธ์แล้วผีเข้าเป็นจำนวนมาก บางคนหมดเงินไปเป็นล้านๆ บางคนก็ถอนเอง แต่

    ส่วนใหญ่จะทำไม่ถูกวิธี ..ทิ้งขันธ์ไปก็มี แต่วิญญาณในขันธ์นั้นยังเกาะอยู่ที่เดิม..!! เหลือแต่ขันเปล่าๆ ก็ยังมีสิงสถิตไว้ที่เดิมอยู่ดี


    งานพิธีไหว้ครูต่างๆ เป็นการเต้นรำ บรรดาผีต่างๆ แต่งตัวมาเลียนแบบเทพ กันสนุกสนาน ท่านสังเกตุเกิดว่า พระแม่กวนอิมต้องมาฟ้อนรำกับกุมาร หรือพระศิวะ กุมารต่างๆ หรือมหาเทพอย่างพระแม่อุมา จะมาฟ้อนเต้นแร้งเต้นกากับผี หรือกุมารต่างๆ อย่างนั้นหรือ..!!

    เทพต่างๆ ล้วนอิ่มทิพย์ ไม่ ต้องมาทรมานสังขารมนุษย์ (เพราะมันเป็นบาป) นั่งสั่นๆ หงายท้อง เคี้ยวหมาก หรือดูดบุหรี่ทีละ 4-5 มวน อันนั้นมันผีชัดๆ หรือพูดจาด่าทอสาปแช่งมนุษย์ หากมีจิตใจไม่ดี หรือไม่มีศีลธรรมคงไม่เป็นเทพหรอกครับ ยกเว้นพวกผีชั้นต่ำเท่านั้น..!!

    บางตำหนักทรงก็เป็นผีชั้นดี ต้องการสร้างบุญจริงๆ ไม่เก็บเงินใดๆ เอาไปทำบุญ แต่หากให้รับขันธ์ ก็ผิดอีกนั้นแหละ ไปเอาพวกผีด้วยกันมาใส่ตัวชาวบ้านให้ได้รับความเดือดร้อนกัน...!!

    บางท่านไม่ได้รับขันธ์ แค่นั่งสมาธิในบริเวณตำหนักทรง ก็โดนสัมภเวสีเข้าแทรกได้เช่นกัน มีอาการแปลกๆ ดังที่เห็นได้ในงานพิธีของตำหนักทรงต่างๆ

    บางครั้งเห็นว่าเพียงพรมน้ำมนต์ก็จะสงบลง แต่จริงๆแล้วผียังไม่ออกนะครับ...ผลสุดท้าย ตำหนักทรงนั้นเพียงเอาเรื่องนี้มาทำมาหากิน ขายพานดอกไม้ ขายวัตถุมงคล ฯลฯ

    มนุษย์เรา ไม่เข้าใจเรื่องของกฏแห่งกรรม ไปเอาวัตถุมงคลมาคุ้ม ถึงได้ผีเข้ากันมากมาย ใครรู้ตัวถอยออกมาก่อน ก็นับว่าเป็นบุญ...

    <hr>

    ความเข้าใจกรณีการรับขันธ์ ขันธ์ 5 ของมนุษย์นั้น ประกอบไปด้วย รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์


    เทพ เป็นจิตวิญญาณ มีขันธ์เพียง 3 ขันธ์ คือ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์ จึงต้องอาศัยการแต่งขันธ์ 5 ของมนุษย์ ที่จัดตบแต่งขึ้นมาเป็นตัวแทนของตน ว่าได้ยอมรับเป็นร่างให้กับเทพองค์นั้น ๆ และยังหมายถึงข้อตกลง ระหว่างเทพกับมนุษย์ผู้ตกลงปลงใจยอมรับหน้าที่เป็นสังขารขันธ์ให้กับองค์เทพ ผู้นั้นไว้ใช้ร่างของตนสร้างบารมี โดยมีองค์เทพผู้ทำพิธีมอบขันธ์ให้เป็นสักขีพยาน

    หากแม้นมีใครระหว่างเทพกับมนุษย์มีการผิดข้อตกลง ก็ต้องเดือดร้อนถึงผู้เป็นครูที่เป็นสักขีพยาน จะต้องทำหน้าที่ว่ากล่าวตักเตือนผู้กระทำผิดต่อไป

    ความหมายของขันธ์ต่างๆ

    ขันธ์ 5 หมายถึงการรับ ศีล 5 มาปฏิบัติโดยเคร่งครัด ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าเผลอไปรับเข้า มิฉะนั้นอาจถูกลงโทษได้

    ขันธ์ 8 หมายถึงการรับ ศีล 8 ซึ่งจะต้องประพฤติพรหมจรรย์ ห้ามร่วมหลับนอนฉันท์สามีภรรยา งดเว้นอาหารมื้อเย็น สวดมนต์
    ไหว้พระ เจริญสมาธิภาวนา เหมือนการถือศีลบวชพราหมณ์นั่นเอง

    ขันธ์ 9 หมายถึงการรับ ศีลอุโบสถ ถือศีล 8 เคร่งครัด เด็ดดอกไม้ก็ไม่ได้ ดมดอกไม้หรือเครื่องหอมก็ไม่ได้ กินแต่อาหารเจ หรือมังสวิรัติ

    ขันธ์ 10 หมายถึง ศีลของสามเณรหรือสามเณรี ก็เท่ากับการถือบวชโดยถือสิกขาบท 10 ประการ

    ขันธ์ 16 หมายถึง ศีลของนักบวช 227 ที่มุ่งการบำเพ็ญสมาธิภาวนา กินอาหารมือเดียว งดเว้นของสดของคาว กินแต่ผลไม้ เผือกมัน ไม่เที่ยวเดินพลุกพล่าน อยู่ด้วยการสำรวมปฏิบัติ นั่งสมาธิเป็นที่เป็นทาง แทบจะทำตัวเหมือนนักบวช เพียงแต่เป็นการบวชใจไม่ได้บวชกายเท่านั้น

    ดังนั้นหากถือปฏิบัติตามที่กล่าวมาแล้วไม่ได้ ก็จงอย่าได้รับขันธ์เลย หากแม้นมีใครแนะนำให้รับก็จงพิจารณาให้ถ้วนถี่เสียก่อน

    เพราะการรับขันธ์นั้นไม่ใช่เพียงนำมาบูชาเท่านั้น จะต้องปฏิบัติเป็นประจำด้วยก็คือ การสวดมนต์ไหว้พระ หรือเทพที่บูชา โดยเฉพาะการนั่งสมาธิ ต้องนังสมาธิให้ถึงขั้นสูงสุดเท่าที่ชีวิตนี้จะทำได้ รวมถึงการแผ่เมตตาถึงสรรพสัตว์ ไม่เช่นนั้นแล้วอาจสร้างปัญหาให้เดือดร้อนได้ เพราะถือว่าผิดสัจจะที่รับมา
    <hr>

    คำแนะนำเรื่องการรับขันธ์

    ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ จะมีองค์หรือไม่ก็ตาม ก็จงอย่าไปรับขันธ์เลย ถ้าท่านหมั่นสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ แผ่เมตตาถึงครูบาอาจารย์ และองค์เทพที่คุ้มครองตนเอง ก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพราะการที่เทพมาอยู่กับเราก็ด้วยเหตุที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น คือปรารถนาจะได้ร่วมสร้างบารมี และช่วยเหลือผู้ที่เคยเกี่ยวข้องกันมาก่อน พาร่างสร้างบารมีทำบุญไหว้พระ สร้างแต่กรรมดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น

    ถ้าเราทำได้ดังนี้ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปรับขันธ์ เทพ เป็นผู้ที่มีจิตเมตตา ย่อมไม่สร้างปัญหาใด ๆ ให้กับร่างที่จะมาอยู่ด้วย เพราะท่านกลัวบาป การที่จะทำให้เจ็บป่วยหนักหนาแสนสาหัส หรือลงโทษอะไรหนักหนาคงไม่มี นอกจากช่วยเหลือเท่านั้น แต่ที่มันเจ็บป่วยหรือมีปัญหาในหน้าที่การงาน การเงิน จนล้มละลาย มันเป็นเรื่องของวิบากกรรมที่ใครจะเข้าไปแก้ไขได้ นอกจากช่วยประคับประคองหรือดลจิตดลใจให้ไปหาผู้ที่สามารถแก้ไขวิบากกรรมส่วน นี้ได้

    ดังนั้นการที่เราได้กล่าวถึงกรณีการรับขันธ์นี้ ก็เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้ใช้วิจารณญาณในการแก้ไขตนเองให้ถูกต้อง ไม่ใช่ใช้เงินแก้ไข มนุษย์เราไม่อาจฝืนกฏแห่งกรรมได้ แต่อาจได้รับการชี้แนวทางแก้ไขได้ เพราะปัญหาต่างๆ ทั้งชีวิตความรัก การงาน สุขภาพ ฐานะการเงิน ที่รุมเร้ามนุษย์นั้น มีกรรมเป็นต้นเหตุที่สำคัญ การแก้ไขเรามาแก้กันที่ปลายเหตุมันก็ไม่จบ ต้องรู้จักต้นเหตุ เพราะเหตุเกิดที่ไหนก็ดับที่นั่น...


    ธนากร ปุสสวงษ์ saisunya.com

    ...จึงขอให้ใช้สติพิจารณาไตร่ตรอง...


    องค์ลง หรือ ผีสิง !!
    โดย พระพันธกานต์ อภิปญฺโญ / เว็บ samyaek.com

    "... คนปกติเขาก็มีกันแค่ หนึ่งใจกับหนึ่งกายและดำเนินชีวิตไปตามปกติ
    แต่คนที่ไม่ปกติ ก็จะมีหลายใจอยู่ในร่างกายเดียว และดำเนินชีวิตไม่ค่อยปกติเหมือนคนอื่น
    เขาเรียกคนแบบนี้ว่า คนถูกผีสิง

    ยิ่งมีมากก็คือถูกสิงมาก มันไม่ใช่องค์ใช่แอ็งค์อะไรหรอก
    พวกผีเร่ร่อนอยู่แถวๆโลกนี้แหละ ทำเป็นอ้างเทพองค์นั้นองค์นี้ ไอ้พวกผีขี้บาปมันก็อ้างไปเรื่อยนั่นแหละ
    เพราะมันไม่รู้จักบุญ-บาป อะไรหรอก ถ้ามันรู้จัก บาป-บุญ แล้ว การกระทำแบบนี้พวกผีต้องไม่ทำ

    เพราะร่างกายนี้มีใจดวงหนึ่งครอบครองอยู่ก่อนแล้ว และมีสิทธิเกี่ยวกับร่างกายนี้อย่างชอบธรรมด้วย
    การสิง - การทรง นี้เป็นบาปมากนะ ต้องไปตกนรกเพราะทำบาปเกี่ยวกับการสิงคนนี้แหละ พวกผีเร่ร่อนทั้งหลายนั้น ก็หาสิ่งหลอกล่อ

    มาอ้างนั้นอ้างนี้เพื่อจะได้เข้าสิงร่างกายคน (อ้างว่าตนเป็นองค์เทพ หลอกเจ้าของร่าง) และหาวิธีที่จะครอบครองร่างกายนี้และพยายามที่จะมีอำนาจเหนือใจดวงที่เป็นเจ้าของร่างกายนั้นด้วย

    พวกมนุษย์ก็ไม่ทันเหลี่ยมผี ไปกราบไปไหว้หาว่าพวกผีนี้ดีนัก (ที่ตนดันเข้าใจว่าเป็นเทพ) แล้วก็ยินยอมทำตามที่ผีมันบอกทุกอย่าง

    พวกผีก็เลยได้โอกาสวางมาด เพราะคนทั้งหลายไม่มีที่พึ่งให้ใจของเจ้าของ
    พาใจของเจ้าของสะเปะสะปะ อ่อนระโหยโรยแรงไปเรื่อยหาจุดหมายปลายทางไม่เจอ

    ทั้งๆ ที่คำสอนของพระพุทธเจ้าก็ยังคงอยู่คู่โลก ก็ไม่พากันเชื่อมั่น หาว่าเป็นเรื่องตกยุคตกสมัยบ้าง โบราณแล้วบ้าง เป็นเรื่องที่เข้าใจยากบ้าง เป็นเรื่องทำตามได้ยากบ้าง

    ข้ออ้างทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ไปเข้าแผนของพวกผีทั้งนั้น
    แม้แต่ผีกิ๊กก๊อกก็ยังหลอกให้คนเชื่อได้ แสดงอานุภาพนิดๆหน่อยๆ ก๊อกๆแก๊กๆ แค่นี้คนก็ไปจุดธูปบูชามันแล้ว

    ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรเหมือนกัน เพราะคนขาดการศึกษา ขาดการทำความเข้าใจเรื่องศาสนานี้อย่างมาก ...

    แต่จะว่าไปก็คงจะเป็นเพราะคนไปก้มหัวยอมรับนับถือให้พวกผีเลอะเทอะมันสิงเอาด้วย
    เพราะเรื่องแบบนี้ปรบมือข้างเดียวก็คงไม่ดัง คนนี่ก็แย่พอๆกันกับผีนั่นแหละ

    ยิ่งพวกผีที่มาหาสิงคนแล้วอวดอ้างนั่นๆนี่ๆบ้าๆบอๆ มันไม่ได้วิเศษห่าอะไรของมันหรอกนะ
    ไม่ยุ่งกับมันได้เป็นดีที่สุด ไอ้พวกผีสกปรกพรรค์นี้ นับวันมีแต่จะสร้างบาปเหยียบย่ำทำลายตัวเองให้หนักขึ้นๆ "



     
  5. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ตอนไปขอรับขันธ์นั้นตั้งจิตไว้อย่างไรคะ

    ขันธ์ครู คือ ให้เราอยู่ในกรอบของคุณงามความดี มีศีล ๕ หรือ ศีล ๘ เป็นที่ตั้ง เป็นการปวารณษตัวขอเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี มีสำนึกเสมอว่า เมื่อรับขันธ์แล้ว เราจะแหกคอกไม่ได้ แต่รู้สึกว่าที่ไปรับนั้น คือรับองค์ หรือวิญญาณที่เขาต้องการมาใช้สังขารเราเข้ามาสถิต ทีนี้ก็ต้องขึ้นกับว่าเรารับใครเข้ามานะคะ ที่มาดี ส่วนมากจะสอนให้เราปฏิบัติธรรม และช่วยเหลือสรรพสัตว์ทางใดทางหนึ่ง แต่ที่มาอาศัยใช้เราเป็นเบ้ให้ อยู่ที่เราว่า จะจัดการแขกเยือนอย่างไรค่ะ จิตเราคือตัวกำหนด ลองทำแบบที่คุณป้านิภาแนะนำนะคะ ถูกแล้ว
     
  6. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    แล้วนึกยังไง๊ถึงได้ไปรับ เนี่ยแหละเขาว่าผู้ที่ไม่รู้ย่อมเสียเปรียบและถูกกระทำ เราคนหนึ่งที่มีหลายๆคนมาบอกว่าให้รับขันธ์ๆ ดื้อแพร่งมาจนถึงทุกวันนี้ก็ไม่เห็นเป็นอะไร เราไม่รับขันธ์อะไรจากใครทั้งนั้น เรามี สามรัตนะเป็นที่พึ่งที่เคารพบูชาเหนือเศียรเกล้า เราไม่รับถือสิ่งอื่นใดนอกจากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขันธ์ 5 เราก็มีอยู่ในตัวเรา ไม่ต้องให้ใครเอาขันธ์ 5 มาเพิ่มให้อีก ทุกวันนี้มีแต่คนบอกว่าเพราะเราไม่ยอมรับขันธ์ ถึงได้จนอยู่อย่างงี้ ก็ให้มันจนไปเถอะ แต่ถ้ารวยขึ้นมาเืมื่อไหร่ทั้งๆที่ไม่ได้รับขันธ์จากใครจะดูสิว่ามีใครจะมาคะยั้นคะยอให้รับขันธ์อีกไหม

    ที่เห็นคนส่วนใหญ่ทำกันเขาเอาขันธ์ไปลอยน้ำค่ะ แต่ก็ต้องจุดธูปบอกกล่าวขอขมาลาโทษไปด้วยถึงจะถูกต้องค่ะ
     
  7. king_6914

    king_6914 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    614
    ค่าพลัง:
    +18,384
    ขอบพระคุณทุกๆคำตอบนะคะ พี่เค้าน่าสงสารมากๆไม่เป็นตัวของตัวเองไม่ค่อยกล้าคุยกับใคร เพราะบางทีคุยๆอยู่ก็จะเป็นเสียงผู้ชายแทรงเข้ามา ดิฉันจะแนะนำให้เค้าทำตามที่ท่านทั้งหลายได้ตอบไว้ค่ะ
     
  8. abnormal34

    abnormal34 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2009
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +20
    ไม่ต้องถอนต้องเถิน เพราะมันไม่มีอะไร
     
  9. Numfon52

    Numfon52 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    อยากจะถามว่า การคืนขันธ์ครูทำได้เองหรือเปล่าค่ะ หรือต้องไปให้พระ หรือทรง คืนให้ค่ะ คืนไปรับขันธ์ครูมาจากสำนักทรง และครอบครูเป่ากะหม่องด้วยค่ะ คือว่า ไม่รู้เรื่องการรับขันธ์5 เลยไปรับมาแล้วมาทราบทีหลังว่าถามรักษาไม่ได้ อาจมีอันเป็นไปถึงแก่ชีวิต และครอบครูด้วยจะเป็นไรไหมค่ะ ดิฉันควรจะทำอย่าไรดี แล้วถ้าทำตามข้างต้นแล้วจะรุดล้นจริงหรือเปล่าค่ะ เพราะบางคนทำวิธีคืนขันธ์ด้วยตนเองแล้ว มีแต่ดวงตก ไม่มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต ดิฉันสับสนค่ะ แล้วถ้าทำวิธีตามข้างต้น แต่ดิฉันสงสัยค่ะว่า เงินที่ใส่ในบายศรี6บาทนั้น ข้างละ6บาทหรือว่าอย่างไรค่ะ และดอกบัวต้องใช้กี่ดอก เพราะเห็นเขียนว่าเลยขันน้ำมนต์ 5 ดอก ที่เหลือใส่แจกันพระ 8ดอก งงค่ะรวม 13 ดอกหรือค่ะ ต้องแต่งชุดขาวด้วยใช่ไหมค่ะ จะต้องทำเวลากี่โมง และไม่ให้เลยกี่โมงค่ะ สถานที่จะต้องทำที่ไหน การจัดวางจะต้องจัดวางอย่างไร

    กรุณาช่วยตอบขอสงสัยที
     
  10. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    สำหรับท่านที่สำเร็จมโนมยิทธิแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีพิธีหรือคาถาอะไรเลย
    ใช้การสั่งด้วยใจ สั่งว่า กายทิพย์นี้ของข้าพเจ้าจงไปโปรดสัตว์ในนรก
    กายทิพย์นั้นก็ต้องไป ตามใจสั่ง เพราะใจมีฤทธิ์แล้ว วาจาก็ย่อมศักดิ์สิทธิ์


    แต่การฝึกสมาธิ ให้ได้มโนมยิทธิเป็นอีกเรื่อง ส่วนพิธีกรรมของหลวงพ่อฤษีลิงดำ
    ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้คนที่ยังไม่ได้มโนมยิทธิ จะได้ไปดูสวรรค์ได้ ด้วยอาศัยกำลัง
    ครูบาอาจารย์ช่วย ได้แก่ ครูพระพุทธเจ้าท้งหลาย, หลวงพ่อฤษีลิงดำ และพระอินทร์
     
  11. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    การฝึกมโนมยิทธิทำอย่างไร?


    การทำให้ใจมีฤทธิ์ต้องเป็นผู้

    ๑) ตั้งใจแน่วแน่ทำจริง บอกว่าจะทำต้องทำให้สำเร็จให้ได้จริง เช่น งานต่างๆ ที่ทำอยู่
    ๒) มีจิตมั่นคงมีอธิษฐานบารมี อธิษฐานบารมี คือ จิตใจที่เด็ดเดี่ยวมั่นคง ไม่คลอนแคลน


    เมื่อบำเพ็ญอธิษฐานบารมีสำเร็จ หรือมีบารมีนี้มาแต่เก่าก่อน ก็จะสำเร็จมโนมยิทธิได้ทันที
    แต่จะเห็นหรือไม่ว่ากายทิพย์ของตนออกไปได้ นั่นเป็นอีกเรื่อง เป็นเรื่องของการมีตาทิพย์
    ถ้ามีตาทิพย์ก็เห็นได้ชัดว่ากายทิพย์ไปจริง ถ้าไม่มีตาทิพย์ จะไม่เห็นว่าไปจริง แต่บางคน
    กายทิพย์ไปโดยมองไม่เห็น แล้วนำเอาข้อมูลกลับมา ทำให้มีญาณหยั่งรู้เรื่องคนอื่นได้
     
  12. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    ขันธ์ที่ครอบร่างเราอยู่ สามารถใช้มโนมยิทธิสั่งให้ออกไปจากร่างเราได้ทันทีครับ
    มโนมยิทธิทำได้มากกว่าการถอดกายทิพย์ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...