อยากทราบว่า มีวิธีการทำบุญใดที่จะช่วยลดศัตรู หรือ ผู้ที่เกลียดเราให้เมตตาเราบ้าง

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย DuchessFidgette, 3 สิงหาคม 2013.

  1. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ดิฉันทราบดีว่า ทุกคนในโลกล้วนแต่อยากเป็นที่รักของทุกคนหรืออย่างน้อยก็มิใช่พยามหนีหน้าหรือแสดงอากัปกิริยารังเกียจเวลาพอเจอ ตัวดิฉันเองไม่ได้คิดที่จะเป็นศัตรูกับใคร แต่ก็พบว่า รู้ทั้งรู้ว่ามีคนหลอกลวง หรือ คนที่ทำทีว่าเป็นเพื่อนผู้หญิงยื่นมือเข้ามาช่วย แต่ดิฉันก็ได้ทราบความจริงว่าคนเหล่านั้น แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันกลับคิดร้ายต่อเรา ดิฉันรู้ความจริง แต่ก็ไม่โกรธ ไม่คิดแม้แต่จะให้อภัย เพราะไม่โกรธเพื่อน และมองที่ความดีของเพื่อนมากกว่า แต่เพื่อนผู้หญิงสองคนนี้็ไหวตัวทัน แทนที่นึกสารภาพผิด กลับพยามตีตัวออกห่าง

    และยังเอาดิฉันไปพูดในทางเสียหายให้คนอื่นฟัง ดิฉันทั้งๆที่ไม่ใช่คนผิด แต่กลับอยากจะพูดเคลียร์ถามว่าทำไม เพื่อนถึงทำกับเราแบบนั้น แต่ ผู้หญิงสองคนนี้ก็หนีหน้าตลอดไม่ยอมให้ดิฉันเจอ จนกระทั้งวันนี้ดิฉันไปเจอ หนึ่งในเพื่อนคนนี้ ระหว่างไปทำธุระ........ เธอพุดทักตามมารยาทแต่สีหน้ารู้ชัดเจนว่าไม่อยากเจอเรา และก็ไม่คิดจะพูดถึงสิ่งทีเกิดขึ้นในอดีต ที่พวกเขา ถือเอาความ ศรัทธา กตัญญู ที่ดิฉันมีให้พวกเขาตอนที่พวกเขายื่นมือเข้ามาช่วยตอนดิฉันมีปัญหา แต่พวกเขากลับวางแผนที่จะทำแบบนั้นเพื่อทำให้ดิฉันตายใจเพื่อจะหาผลประโยชน์จากเรา และตอนนี้พวกเขามองดิฉันเป็นศัตรูเพราะดิฉันไหวตัวทันไม่ยอมให้เป็นไปตามแผนของพวกเขา


    อยากทราบว่า ควรจะทำบุญประเภทไหนเพื่อที่จะได้อยู่ท้ามกลางกัลยณมิตร ไม่ต้องไปเจอคนเลวๆที่ เป็นศัตรูที่คอยคิดแต่จะทำลายเราคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2013
  2. หาจนเจอ

    หาจนเจอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +158
    <iframe width="420" height="315" src="//www.youtube.com/embed/SaazKShuo3M" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  3. หาจนเจอ

    หาจนเจอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +158
  4. Mon Treal

    Mon Treal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +536
    อย่าใส่ใจใคร หรือใด ใดในโลก ทุกอย่างล้วนเป็นกิเลส ตัณหา นำไปสู่ภพ ลองพิจารณาโดยแยบคาย ท่ีพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ในกฎอีทับปจยตา เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมี เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ย่อมไม่มี เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป และท่ีพระองค์ตรัสว่ากองกุลาสีสูงสุด คืออยู่กับลมหายใจเข้าออก คุณจะเห็นแจ้ง มันมีความไม่มีเที่ยง จับให้อยู่กับลม จิตมันวิ่งปู๊ดไปคิด คิด คิด เห็นอย่างนี้เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่สูงสุดแล้ว เพื่อคุณจะเห็นต่อไปว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา และนั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา จิตก็จะคลาย ความยึดมั่นในขันธ์ทั้งห้า เสียงของคนนั้นคือแค่เสียง คุณจะแจ้งว่ามันสักแต่ว่าเสียง มันไม่มีความหมายอะไรเลย นำพระสูตรที่ท่านตรัสสอนกับพระพาหิยะมาใช้สักตั้ง สาธุ
     
  5. หาจนเจอ

    หาจนเจอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +158
    ผู้หญิงที่ดูมาดมั่น มุทะลุด้วยเหตุผล มีactive เสมอๆ
    แท้จริงแล้ว มีความอ่อนไหว หวาดหวั่นอยู่ภายใน คงไว้ในความเป็นอิตถีอินทรีย์

    เสมือน ผาหินทราย ย่อมถูกกัดกร่อน ด้วยแรงลม และสายฝน รอวันมลาย

    วิธีจะสร้างกัลยาณมิตร ต้องประกอบด้วยกุศลกรรมทั้งกาย วาจา ใจ

    มีการให้ ทาน ร่วมสร้างกุศลเสวนากับผู้เป็นบัณฑิต "ปณฑิตานญฺจ เสวนา"

    ศีล มีการระงับยับยั้งทางกาย วาจา ในสิ่งที่ไม่ก่อประโยชน์ หรือให้โทษแก่ผู้อื่น

    สมาธิ อบรมจิตให้ตั้งอยู่ความสงบ ระงับความฟุ้งซ่าน และวิตกกังวลทั้งหลาย
    ในความคิดเบียดเบียดผู้อื่น และตนเอง กัลยาณมิตรก็คือตนเอง ที่มีสงบตั้งมั่นไม่สั่นคลอน

    ปัญญา พระรัตนตรัย คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์
    คือยอดกัลยาณมิตรที่แท้จริง พากเพียรอบรมปัญญาให้เห็นแจ้ง รู้จริงในสัจธรรมคำสอน มั่นคงดุจหินผา
    แม้อยู่ท่ามกลางสายฝนและแรงลมย่อมไม่หวั่นไหว ด้วยจิตที่ตั้งมั่นมีปัญญารู้ตามจริงในคุณพระรัตนตรัย

    "พระพุทธะ พระธรรม พระอริยสงฆ์ คือ ยอดกัลยาณมิตร"
    ที่ห้อมล้อม ผู้ประสบทุกข์ หากระลึกถึงอยู่เสมอๆ เราจะอยู่ท่ามกลางกัลยาณมิตรเสมอๆเช่นกัน

    บางคนอาจจะบอกว่า ลมหายใจ คือ กัลยาณมิตร ที่คงไว้ความเป็น ชีวิตินทรีย์
    ของสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยรูปนาม เพียงระลึกรู้ลมหายใจเข้าออก ก็จะพบกัลยาณมิตร คือ พระธรรม ก็ย่อมได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2013
  6. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    มุทะลุนี้จริง ถ้าใครมาทำไม่ดีก่อน เราต้องธิบายจริงไหมคะ แต่เรื่องมาดมั่นนี้ ไม่แน่ใจ ในโลกความเป็นจริงดิฉันเป็นคนง่ายๆใจดี มาก จริงๆแล้วดิฉันมีเพื่อนเยอะ แต่ไม่สามารถจะคบเพื่อนสนิทได้ด้วยแก็บหลายอย่าง แต่สำหรับเพื่อนผู้หญิงสองคนที่กล่าวถึงนี้ ดิฉันเสียความรู้สึกมาก ที่พวกเขามาทำดีกับดิฉันมาช่วยดิฉัน แต่แท้จริงแล้วเพราะหวังผลประโยชน์.......... แต่สังคมไทยก็อย่างนี้แหละ เวลาใครเขียนปัญหาอะไรก็มักจะกล่าวโทษหาว่า จขคไม่ดีนิสัยไม่ดีเพื่อนเลยเกลียด โดยที่ไม่นึกย้อนห้ได้ว่า ถ้าดิฉันเป็นคนไม่ดี ดิฉันจะแคร์พวกเขาทำไม? แม้กระทั้งพวกเขาเลวกับดิฉันมาก แต่ดิฉันก็ไม่โกรธพวกเขา แค่สงสัยว่า ทำไมถึงจะทำกับเราแบบนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2013
  7. หาจนเจอ

    หาจนเจอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +158
    คนในโลกนี้ ก็เป็นอย่างนี้ล่ะครับส่วนใหญ่ เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่ผู้อื่น
    แอบแฝงผลประโยชน์ เกือบทั้งนั้น เป็นธรรมดาของกิเลสไม่ว่าจะหน้าใส
    หน้ากระเบื้อง หน้าแอ๊บ เบื้องลึกแล้วโดยพื้นฐานอบรมจิตใจมาอย่างไร
    ก็จะเป็นไปอย่างนั้น ตามความปรุงแต่ง จึงเกิดปัญหาทุกย่อมหญ้า ของมึงล่ะ ของกูล่ะ

    สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา
     
  8. sereenon

    sereenon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +7,931
    ถูกคนกลั่นแกล้ง โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยานวัดท่าซุง

    ผู้ถาม : นึกถึงความกลั่นแกล้งเป็นเวลา 10 ปีมาแล้ว ต้องร้องไห้ทุกที ภาวนาก็ไม่หาย ทำบุญทีไรก็ไม่เป็นเรื่อง ขอบารมีหลวงพ่อช่วยเปลื้องความที่คนอื่นมากลั่นแกล้งด้วยเถิดเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : โธ่เอ้ย ! เฉยๆ ไว้ อุเบกขา ช่างมันๆๆ ไอ้การถูกกลั่นแกล้งนี่ ฉันโดนมาขนาดหนักนะ

    ผู้ถาม : อะไรครับ ! เป็นพระสงฆ์ยังโดนอีกหรือครับ ?

    หลวงพ่อ : ยิ่งกว่าพวกนี้เยอะ โดนมาหนักเลย เพิ่งจะมาเบาๆ แค่ 2 ปีนี่เอง เมื่อก่อนโดนมาตลอด ฉันถือว่าการแกล้งเป็นเรื่องของคนแกล้ง ถือคาถาบทเดียวว่า " ช่างมันๆๆ "

    แล้วผลที่สุด คนแกล้งก็พังทุกราย พังย่ำแย่เลยนะ

    ผู้ถาม : โอ...หลวงพ่อนี่แตะไม่ได้เลยนะ

    หลวงพ่อ : แตะไม่ได้หรอก....ล้ม ! ไม่แตะยังล้มเลย (หัวเราะ)

    ผู้ถาม : ใช้ สัมปจิตฉามิ หรือครับ ?

    หลวงพ่อ : เมื่อก่อนใช้เฉยๆ ไม่ยอมรับ ถ้าเราไม่ยอมรับมันกลับไปหาเจ้าของเขา ถ้าย้อนกลับไปมันแรงกว่า มันมากระทบเรา ไม่ต้องไปแช่งเขานะ ไปแช่งเขาไม่มีผลกำลังเราตก ถ้าเป็นฆราวาสเวลาสวดมนต์เสร็จ อุทิศส่วนกุศลกรวดน้ำให้

    ผู้ถาม : ให้คนที่เราไม่ชอบใจนี่หรือครับ ?

    หลวงพ่อ : ใช่ๆ ทำจิตใจให้เป็นสุข เมื่อมันตายแล้วจะได้รับ

    ผู้ถาม : อ๋อ...โมทนาให้เขาเลย

    หลวงพ่อ : คิดว่าเขาตายแล้วไงล่ะ เรากรวดน้ำให้เขาเป็นสุข ไม่ช้าก็พัง รับรองว่าไม่เกิน 1 ปี ของฉันนี่พังมาแล้ว ไม่รู้กี่ร้อยรายแล้ว แต่เราต้องทำเฉยๆ นะ ทำจิตเป็นสุข ไม่โกรธ ห้ามใจเสีย บูชาพระด้วยจิตเป็นสุข หลังจากนั้นจึงอุทิศส่วนกุศลกรวดน้ำให้เลย อย่างนี้ขอยืนยันว่า ถ้าเอาจริงๆ นะ ไม่เกิน 3 เดือน จอดแน่ๆเลย



    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ มีนาคม 2549)
     
  9. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154
    มีฆารวาสคนหนึ่ง..สอบถามเกี่ยวกับเรื่อง

    เหตุต่างๆทั้งในอดีและปัจุบัน..ที่เกิดกับตน

    ท่านตอบว่าต้องทำใจ..ทุกอย่างที่เข้ามา

    เกี่ยวข้องกับเรา..สิ่งที่เราเห็นหรือเข้ามา

    กระทบ..มันก็คือสื่งที่ฉายออกไปจากตัวเรา

    อดทนอดกลั้นเบื้องแรก..กุศลกรรมบท๑๐

    อาจผ่อนหนักเป็นเบาและ..จะรักษาตัวได้ในอนาคต.
     
  10. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
  11. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301



    ขอบคุณทุกท่านที่ตอบ ดิฉันค่อนข้างวางอุเบกขาเป็นอย่างมาก บางทีก็นึกน้อยใจ ขนาดเราอยู่คนเดียวในต่างแดน คนกลุ่มนึงก็พยามจะไล่บีบให้เราทนความรำบากไม่ไหวให้กลับไทย และขายบ้านเอาเงินแบ่งให้พวกเขา ส่วนคนที่ยื้นมือมาช่วย คนนึงก็เอาแต่เงิน แต่คนนี้ก็ยังดีกว่าผู้หญิงอีก สองคนนั้นหนักกว่า ถึงขนาดจะทำร้ายกันเลย

    ดิฉันจะพยามวางอุเบกขาและเข้มแข็งให้มากๆ
     
  12. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    เจริญเมตตาจิตเอาไว้ในใจเป็นประจำ อย่าไปคิดโกรธแค้น หงุดหงิดกับใครเพราะมันเป็นกระแสออกไปให้คนอื่นรับรู้ เขาก็ไม่ชอบเราเพราะหน้าตาเรามันไม่รับแขก
    เมื่อเจริญเมตตาจิตดีแล้ว ก็แผ่เมตตาอุทิศให่ทุกดวงจิต
    สวดมนต์ก่อนนอน แล้วค่อยแผ่เมตตา ทำให้ได้ทุกคืน หน้าตาจะสวยขึ้น คนจะรักจะชอบ เทวดาจะรักจะชอบ พ้นจากภยันตรายได้ แล้วชีวิตจะดีขึ้น
     
  13. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301

    ดิฉันขอความกรุณา ไอ้ประเภทตอบแบบด่าๆ กระแนะกระแหน่ ดันมาว่า หาว่าดิฉัน ไปโกรธไปแค้นคนอื่น อย่างนี้อย่าตอบดีกว่าคะมันจะเป็นบาปกะตัวท่านเอง คนเขามีเรื่องเดือดร้อน จะตายอยู่แล้ว ยังมาด่าหาว่าดิฉันไปโกรธ ใคร ดิฉัพูดว่าไปโกรธใครหรือคะ รู้สึกเสียใจด้วยซ้ำ ว่าเรา คิดดีกัเขามาตลอด เพื่อนกลับ คิดร้ายกับเรา ไม่ขอพูดในลายละเอียดแต่เอาเป็นว่า เลวมาก ดิฉัน กลับเห็นแก่ที่พวกเขาเคยช่วยไม่ได้ไปบอกตำรวจ หรือ ใคร เพื่อจะทำลายชื่อสียง การงานของพวกเขาด้วยซ้ำ


    จะไม่ให้โกรธแค้นได้ยังไง? คนกลุ่มนึงฆ่าเพื่อนที่ดิฉันรัก แล้วยังแสดงพฤติกรรม เลวๆใส่ดิฉัน........ แม้แต่วันก่อนจะฆ่าเขายังพาดิฉันไปเยอะเย้ย คนอีกกลุ่มนึงยื้นมือเขามาช่วย คนนึงเอาแต่เงิน อีก สองคนวางแผนลวงเราจะเอาไปให้คนชั่วๆ แกล้ง วิ่งเข้าออกโรงพัก หาตัวคนแกล้งนั้นนี้ ทุกวันนี้ยังจับไม่ได้ว่าใครทำ.......ทั้งๆที่ดิฉันศรัทธา และเคารพว่าพวกเขาจริงใจ และเมตตาต่อเราจริงๆ...... แต่โชคดีที่ดิฉันเป็นคนฉลาด จึงไม่เคยตกอยู่ในสภาวะคับขัน แต่แค่เสียใจว่า ทำไม ถึงมีแต่คนเลวทั่วไปหมด รอบตัวพึ่งพาใครไม่ได้เลย แค่การที่ดิฉันต้องมาอยู่คนเดียว สูญเสียทุกคนที่รักไปกับความตายแล้ว คนรอบข้างก็มีแต่หวังผลประโยชน์ทั้งนั้น ดิฉันแค่รู้สึกว่า ทำไม พวกเขาถึงได้ไม่เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง หลายทีก็แค้น กลางคืนก็นอนไม่หลับเห็นแต่ ภาพ เพื่อนของดิฉันตอนกำลังจะตาย เสมอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2013
  14. หาจนเจอ

    หาจนเจอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +158
    <iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/mUCMTFHLhSk?rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    แสดงธรรมจึงตรัสพระคาถานี้ว่า:-

    “มฤตยู ย่อมพาชนผู้มัวเมาในบุตรและสัตว์

    ของเลี้ยง ผู้มีใจซ่นไปในอารมณ์ต่าง ๆ ไป ดุจ

    ห้วงน้ำใหญ่ พัดชาวบ้านผู้หลับไหลไปฉะนั้น"

    http://www.dharma-gateway.com/bhikunee/pra-keesa-kotamee.htm
     
  15. หาจนเจอ

    หาจนเจอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +158
    <iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/Uf4Y4U-o7F8?rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    ทรงแสดงธรรม ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า:-

    “บุตรทั้งหลาย ไม่มีเพื่อต้านทาน บิดาก็ไม่มี

    ถึงพวกพ้องก็ไม่มี เมื่อบุคคลถูกความตาย ครอบงำ

    แล้ว ความต้านทานในญาติทั้งหลาย ย่อมไม่มี;

    บัณฑิตทราบอำนาจประโยชน์นั้นแล้ว สำรวมในศีล

    พึงชำระทางไปนิพพานโดยเร็วทีเดียว.”


    http://www.dharma-gateway.com/bhikunee/pra-pata-jara.htm
     
  16. หาจนเจอ

    หาจนเจอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +158
    คุณ DuchessFidgette ลองฟังประวัติของพระนางทั้งสองท่าน
    แล้วจะรู้ว่าโลกนี้ ไม่ได้มีแต่เราที่ประสบพบกับความสูญเสีย ความพรัดพราก เศร้าโศกเสียใจ

    ท่านทั้งสองก็ผ่านพ้นมาด้วยดี เพราะสิ่งที่ประสบพบทุกข์สาหัสนั้น คือ ทุกขอริยสัจ

    จนได้มาพบพระศาสดา ได้สดับพระธรรมคำสอนจึงได้สติรู้สึกตัว กำราบทุกข์ให้ราบคราบ พ้นบ่วงแห่งมาร

    เรื่องราวของท่านทั้งสอง เป็นคติชีวิตได้เป็นอย่างดี บนเส้นทางพบแสงสว่าง
     
  17. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301


    ขอบคุณสำหรับวีดีโอนะคะ ฟังแล้วก็รู้สึกดี แต่คงจะเพราะว่าตัวดิฉันไม่ได้อยู่ท้ามกลางกัลยาณมิตร คนจะพูดเตือนก็ไม่มี มีแต่คนพูดก่อกวนมากกว่า ทำให้จิตตกบ่อยครั้ง เหมือนเช่น สองวันมานี้ เมื่อวาน ดิฉันไปเจอผู้หญิงที่รวมหัวกับเพื่อนของเธอ ครั้งนึงในการทำสิ่งไม่ดีกับเรา ซึ่งดิฉันไม่ได้ คิดจะทักหรือไปให้คนแบบนั้นยิ่งทำให้เราต้องนึกย้อนแล้วเจ็บปวด แต่ มันอยู่ในช่วงทำธุระ และทนายเรียกให้ดิฉันเข้าไปทักผู้หญิงคนนั้น

    ทั้งๆที่ดิฉันรู้อยู่แก่ใจว่า ผู้หญิงคนนี้และเพื่อน เคยวางแผน ทำสิ่งไม่ดีต่อดิฉัน ครั้นพอมาตกเย็นวันนี้ ดิฉันนอนอยู่ ก็มีคนโทรศัพท์เข้ามา พอดิฉันไปรับ ก็ได้ยินเสียง เป็น ผู้ชายที่ เขากับภรรยา เคยคิดจะเอาบ้านดิฉัน และยังโกหกแต่งเรื่อง ให้ร้ายผู้ตายกับดิฉัน เพื่อให้ดิฉันเสียใจและคิดกลับเมืองไทยไปเอง พอเขาได้ยินเสียงดิฉัน เขารู้ว่าตัวเองโทรผิดก็วางหู เขากับภรรยา เป็นศัตรูกับดิฉันอย่างเต็มตัวหลังจากดิฉันจ้างทนาย ดิฉันโทรไปเล่าให้ทนายฟัง หลังจากนั้นสิ่งเดียวที่ได้ยินคือ เธอไม่รู้รึไงวันนี้วันเสาร์ มันไม่ใช่วันทำงานของฉัน ทำไมเธอชอบทำตัวเป็นเด็กเล็กๆ ถ้ามีอะไรให้มาเล่าวันจันทร์


    ท่านลองคิดดูคะว่า ดิฉันจะรู้สึกยังไง เหมือนหนีเสือปะจระเข้ ซึ่งดิฉันมาไตร่ตรองดูก็คิดว่า มันเป็นเพราะตัวดิฉันเอง ที่ดึงดันจะอยู่ที่ยุโรป ถ้าดิฉันยอมปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างดิฉันก็ไม่ต้องทุกข์แบบนี้


    ดิฉันไม่เข้าใจทำไมตัวเองจึง อยากจะอยู่ในที่ที่สวยงาม แต่มีแต่คนที่มีใจร้ายกาจ ทำไมตัวเองจึงยอม เ็บปวดเพื่อที่จะอูยู่ที่นี้ เหมือนกับมันเป็นเวรเปนกรรมที่แก้ไม่ได้แต่เราต้องชดใช้นะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2013
  18. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,189
    ค่าพลัง:
    +20,861
    [​IMG]

    คนเราจะแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดไป

    ต้องเริ่มที่การสำรวจตัวเอง
    แล้วยอมรับสิ่งที่ตนเองพลาดพลั้งไป
    ถ้ามิฉะนั้นก็ไม่มีหนทางที่จะแก้ไข

    การที่ไปก่นด่าพระสงฆ์ไทยแบบนี้
    ก็ลองไปพิจารณาดูว่าพระสงฆ์ไทยมีองค์ไหนบ้าง


    -สมเด็จพระสังฆราชเป็นพระสงฆ์ไทยหรือไม่
    -หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เป็นพระสงฆ์ไทยหรือไม่
    -หลวงพ่อวิริยังค์ ท่านเป็นพระสงฆ์ไทยหรือไม่
    -หลวงตาม้า ท่านเป็นพระสงฆ์ไทยหรือไม่
    -ครูอุปฌาย์อาจารย์ที่นับถือของท่านสมาชิกในเวปนี้ เป็นพระสงฆ์ไทยหรือไม่


    นี่ยังไม่นับรวมพระสุปฏิปันโณ-พระอริยะเจ้าที่ล่วงลับไปแล้ว นะครับ
    ว่าท่านเป็นพระสงฆ์ไทยหรือไม่

    ท่านผู้เจริญก็ไปพิจารณาดูว่า "กรรม" นั้นจะหนักหนาสาหัสขนาดไหน
    แล้วจะแก้ไขได้อย่างไร หรือบุคคลผู้นี้จะแก้ไขหรือไม่


    จึงไม่ต้องสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นในชีวิตของคนผู้นี้

    คนเราปลูกพืชใด ก็จะได้ผลของพืชนั้น
    ถ้าปลูกต้นไม้ที่เป็นพิษ ผลที่ออกมาก็เป็นพิษแน่แท้
     
  19. หาจนเจอ

    หาจนเจอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +158
    แปลก คุณ Nirvana ข้อความที่คุณได้ QUOTE

    ไม่เห็นจะมีข้อความใดของคุณ DuchessFidgette แสดงให้เห็นว่ามีการก่นด่าพระสงฆ์ ในแบบที่ท่านเข้าใจ

    คนเค้ากำลังมีทุกข์ แต่กลับไปซ้ำเติมเพื่อนมนุษย์ที่กำลังได้รับทุกข์ ไม่น่าจะมาปลูกพืชลงในพื้นที่ จขกท. แบบนี้เลย

    ควรน่าจะชี้ทาง หรือเปรียบเทียบให้เห็นความจริงของวิถีชีวิต มากกว่าที่จะซ้ำด้วยคำว่า กรรม เน้นสี

    ซึ่งไม่ต่างจากคนพิการนั่งขอทาน ยื่นมือพร้อมภาชนะเพื่อขอเหรียญ คุณ Nirvana ไม่ให้

    แต่กลับปิสุณวาจา ทิ่มแทงว่าเป็นเวรกรรม พร้อมกับเดินจากไป คุณคิดว่าเค้าจะรู้สึกเช่นไร

    ควรจะหาวิธีถนอมน้ำใจกันดีกว่า ค่อยๆชี้ทาง ค่อยๆหว่านเมล็ดพันธุ์ แสดงความเป็นกัลยาณมิตร

    ดั่งท่าน "พระสารีบุตร" มีกุศโลบาย ตะล่อมจิต "เพชรฆาตเคราแดง"

    พระศาสดาได้ยกย่องพระสารีบุตร ที่ทำให้ เพชรฆาตเคราแดง ปิดอบายได้ เคยศึกษาประวัติไหม

    ไม่ใช่ จู่ๆก็มาเลย ปัยพิบัติ!! มาแว้ววว.... รีบคล้องพระ ด่วน!!

    ผลออกมา มันจะใช่หรือ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2013
  20. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ปัญหาของดิฉันก็คือ การอยู่ในต่างประเทศ มันจำเป็นต้องมีญาติ มีคนรู้จัก แต่คนรู้จักของดิฉันตายหมดแล้ว ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดิฉันต้องทำเองหมด ถ้าเป็นคนธรรมดา คงอยู่ไม่ได้ต้องกลับเมืองไทยหรือ ต้องหา เพื่อน หรือ หาแฟน มาช่วยเหลือ ต่างๆ เพราะลำพังคนเดียวจัดการทุกอย่างมันยากมาก........ แต่เพราะดิฉันไม่เหมือนคนอื่น ถึงแม้จะไม่ได้บวช กาย หรือ ใจ แต่ อุปนิสัย พฤติกรรม สันดาน ความเป็นตัวดิฉัน ไม่สามารถทำเหมือน ฆารวาสคนทั่วไปได้ โดยสันดาร ในหลายๆเรื่อง ทำให้การดำเนินชีวิตในโลกฆารวาส เป็นเรื่อง ลำบาก มากคะ.........ด้วยเหตุนี้จึงคิดว่าเมื่อเรียนจบ ได้ ทุกอย่าง ให้พ่อกับแม่แล้ว ดิฉันจะได้ออกเดินทางไปเรียนศาสนาที่ต่างๆ แต่เท่าที่เปิดดูอาจารย์สำนักต่างๆในเมืองไทย หลวงพ่อเกษม, หลวงพ่อพุทธะอิสระ ฯลฯ ดิฉันไม่อยากปรามาส แต่ ไม่ใช่สิ่งที่เหมือนในพระไตรปิฏก เลย พระยุ่งการเมือง พระพูดเรื่อง ชาวบ้าน ดิฉันไม่ค่อยศรัทธาพระสงฆ์ แต่ดิฉันศรัทธา เฉพาะพระพุทธเจ้า กับพระธรรมเท่านั้นคะ


    ดิฉันเคยไปเจอพรามณ์ อินเดีย การพูด การทำพิธี การทำสมาธิ กิริยา การสอนยังดูเป็นสากล สงบ และ น่านับถือกว่า พระสงฆ์หลายองค์ คือ อย่างแรก วัฒนธรรมก็มีส่วนคะ อินเดีย กะฝรั่ง เป็นคนตระกูลเดียวกัน เวลาตั้งใจทำอะไรจะมีความนิ่ง ตั้งใจ และสมาธิดีกว่า นิสัยคนทางเอเชีย ดูจากสถาปัฏยกรรม ทางตะวันตก และดูจากนิสัยต่างๆของฝรั่งคะ ต่อไปพระพุทธศาสนาจะเจริญสู่ตะวันตก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...