อยากฝึกนั่งสมาธิ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Aun_patcha, 28 สิงหาคม 2018.

  1. ไม่ใช่ตัวตน

    ไม่ใช่ตัวตน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2018
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +175
    ขอรู้แจ้งอริยสัจในเบื้องคือ มีสัมมาทิฏฐิ
    ไม่ว่าเราจะไปฝึกสมาธิหลวงพ่อฤาษีลิงดำำ เราก็จะไม่หลงไปตามอาการ ความหลอนมันหลอนไปตามสัจจะ ตามภูมิธรรมนั้นแหละ

    สมาธิมันเหมือนกันหมด ถ้าสมาธิไม่เหมือนกันมันไม่ใช่สัจจะธรรม

    เบื้องต้นรู้สึกตัว พอรู้สึกก็สังเกตุอาการความเปลี่ยนในจิตใจ ถ้าปัญญาแก่รอบก็รู้ทุกข์อริยสัจ

    ทุกข์อริยสัจ ใครมาแย้งข้อความจะทุกข์ทันที
    ปกติคนเราจะคิดก่อนแล้วทุกข์ เป็นความทุกข์ทางโลก
    แต่ทุกข์อริยสัจผัสสะบุ๊บตัวเรานี้ตัวเรา ทุกข์ทันที
    ก่อนจะรู้สึกไม่พอใจ ก่อนจะมีความคิด บางทีจะรู้สึกเหมือนยืนดงกลางกิเลส ยิ่งถูกผัสสะทุกข์บ่อยๆ
    แล้วจิตใจก็ยิ่งร่าเริง ยิ้มเบาสบาย ตามลำดับ
    ความทุกข์มีหลายลักษณะ ถ้าทำอกุศลกรรมากทุกข์แสนสาหัส
    พอขึ้นสัมมาทิฏฐิได้ กำหนดทุกข์มีหลายลักษณะ

    ความเย็นจะปรากฏ เย็นตามร่างกาย เย็นที่หัว
    จากเมื่อก่อน ร้อนเพราะไฟโทสะ ร้อนเพราะไฟราคะ สติมันจะรึกอาการพอมีโทสะ หรือกิเลสจะรู้สึกไอร้อนๆ

    สติและรู้สึกตัวส่วนสำคัญ จิตใจเธอจะเบาสบายเมื่อแจ้งอริยสัจ 4 มีสัมมาทิฏฐิเบื้องต้น

    แต่การปฏิบัติแรกๆ สติเห็นมารยาจิตใจได้ดี เหมือนเห็นเงาของตัวเอง สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่ารู้สึก เพื่อให้มีความซื่อตรงต่อจิตใจ น้อมไปสู่สัจจะ คือ อริยสัจ 4 นี้คือทุกข์อริยสัจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2018
  2. ลิปโป้

    ลิปโป้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +1,430
    ขอรบกวนถามนิดนึงนะครับ ถ้าสมาธิหรือพลังจิตไม่ดี ทำไมถึงปลุกเสกพระให้มีพลังได้ครับ
     
  3. ไม่ใช่ตัวตน

    ไม่ใช่ตัวตน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2018
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +175
    สัมมาทิฏฐิกับมิจฉาทิฏฐิ
    เป็นไปเพื่อรู้จักนั้นเอง

    แต่ต้องรู้แจ้งอริยสัจ 4 ก่อน
    สายหลวงปู่มั่นท่านก็รู้อริยสัจ 4 จึงไม่หลงตามสังขาร
    ความไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนก็คือไม่สามารถทำให้รู้แจ้งได้ด้วยความคิด แต่ต้องปฏิบัติรู้กายรู้ใจ

    ปกติแล้วเราหลงตามสังขารอยู่แล้ว หากไม่แจ้งอริยสัจ 4

    การรู้อริยสัจ 4 มีสัมมาทิฏฐิที่ถูกต้อง เป็นเหตุเป็นผล
    เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนั้นจึงมี นั้นเอง
    เพราะรู้แจ้งอริยสัจ 4 จึงมีสัมมาทิฏฐิ


    สมาธิเหมือนกันหมด ทุกศาสนา


    เรื่องสมาธิออกไปรู้ไปเห็นอะไรเป็นอุปาทานทั้งสิ้น หากยังไม่แจ้งประจักษ์ ก็จะเป็นไปตามสัจจะ
    คนที่เก่งสมาธิยังเห็นไม่เหมือนกันเลย มันเป็นตามภูมิธรรมตามสัจจะจามความเห็นหรือรู้สิ่งนั้น
    เพราะมีอวิชชา สังขารจึงมี เป็นลักษณะ อนัตตา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2018
  4. ไม่ใช่ตัวตน

    ไม่ใช่ตัวตน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2018
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +175
    ผมบอกว่า เป็นสัจจะ

    เพียงรู้แจ้งอริยสัจ 4 ไม่ว่าสมาธิไหนเหมือนกันหมด
    ถ้าไม่เหมือนไปติดวิธีการตามทึ่หลวงพ่อพุธกล่าวใว้

    สัจจะเช่น แต่ละคนจะมีเรื่องในใจ บางครั้งเราก็เผลอพูดไปในสิ่งนั้น มีนสัจจะอย่างนึงของธรรมชาติเพราะเหตุนี้มี สิ่งนั้นจึงมี

    สติ รู้สึกตัว เป็นสิ่งดีเพื่อรู้ตามเป็นจริงอริยสัจ 4
    ตามเป็นจริงเช่น เราเคยทำกรรมมาอย่างนี้ เป็นเหตุให้มีมายาแห่งจิต ก็ให้รู้ตามอาการ ลดเหตุตามลำดับ สติรู้คิดเรียนรู้กฏแห่งไตรลักษณ์ รู้จักอาการต่างๆ เป็นไปเพื่อแจ้งอริยสัจ 4
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ถ้าเป็นส่วนตัวแนะนำ
    จะแนะให้ฝึกปรับระบบหายใจ
    พื้นฐานก่อนคือหายใจเข้าและออก
    ให้ลึกถึงท้อง ทำความรู้สึกว่ามีลมเข้า
    และออกหยุดที่ปลายจมูก แต่ห้ามตามลมหายใจ ฝึกจนระบบหายใจแบบนี้
    เป็นระบบหายใจในชีวิตประจำวัน

    และฝึกเจริญสติในชีวิตประจำวัน
    ให้ต่อเนื่องจนจิตแยกรูปแยกนามได้
    และเดินปัญญาไปซักระยะหนึ่งจนจิต
    คลายจากความยึดมั่นถือมั่นในตนเอง
    และนามธรรมทั้งหลายให้พอได้ก่อน

    แล้วค่อยมาดูว่าตอนนั้นจะฝึกอะไร
    เพราะการที่เราจะฝึกกรรมฐานอะไร
    จรถึงระดับขั้นที่สามารถนำมาใช้งาน
    ได้ในชีวิตประจำวันนั้น

    ความเข้าใจทางด้านนามธรรมและ
    การไม่ยึดในกิริยาระหว่างทางที่ก่อนจะ
    สามารถใช้งานได้จริง มีความสำคัญมาก

    ป้องกันการไปเผลอยึด
    ในกิริยาระหว่างทางที่ฝึก
    ตลอดการสัมผัสนามต่างๆระหว่างทาง
    ที่ไม่ควรไปยึดมั่นจนเป็นตัวตน
    ซึ่งมักจะทำให้ผู้ฝึกกรรมฐานต่างๆ
    นอกจากจะยังฝึกไม่สำเร็จในระดับ
    ที่ใช้งานเป็นสากลได้แล้ว
    ยังจะหลงตังเองได้ว่าตนเป็นที่สุด

    เพราะการฝึกสำเร็จและใช้งานได้แล้ว
    ตรงนี้เป็นเพียงฐานกำลังที่เราจะนำมาใช้
    เพื่อหนุนทางด้านปัญญาต่อไป

    ไม่งั้นแม้เคยใช้งานได้
    มันก็จะเสื่อม ไม่มีพัฒนา
    ความเข้าใจนามธรรม
    ไปถึงระดับที่จะทราบเหตุที่เกิด
    และเหตุที่ดับที่เข้าถึงได้
    จากสภาวะการปฎิบัติจะไม่เกิดขึ้น
    เราจะได้แต่การคิด วิเคราะห์
    แยกแยะและตีความครับ

    กรรมฐานถ้าเริ่มต้นเหมือนเข้าถึง
    ได้ง่ายในช่วงแรกต่อไปจะสร้างปัญหาจำไว้

    พื้นฐานเริ่มต้นมันยาก ดูแล้วมันไม่หล่อ
    ไม่เท่ห์ สาวๆไม่กรี๊ด หนุ่มๆไม่แล
    เพราะดูไม่วิเศษ เหนือคนทั่วไป
    แต่นั้นหละ ถ้าผ่านได้ เราจะเข้าถึงได้
    ใช้งานได้ และไม่ยึดไม่หลง
    และรู้ว่า พุทธฯเน้นอะไร

    พุทธศาสนาเรียนเข้าหาอนัตตาเพื่อให้หมด
    อัตตาตัวตน ไม่ใช่สร้างให้มีตัวตน
    เป็นอาจารย์ เป็นครู
    เป็นปรมาจารย์ ขึ้นมาพวกนี้เป็นอัตตา

    ฝากไว้พิจารณา.
    ปฎิบัติน้อมมาหนุนให้ความเป็นคนมันตาย
    คนคือคนแกงในหม้อ โทสะโลภะ โมหะ
    ถ้าเกิดมันจะทำให้วนอยู่ใน
    หม้อแกงอยู่อย่างนั้น
    ความเป็นคนตาย
    ความเป็นพระถึงจะเกิดได้ครับ

    แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...