อยากฟังท่านที่เป็นโสดาบันขึ้นไปมาสอนธรรม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ลุงจอห์น, 21 ธันวาคม 2020.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
     
  2. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
  3. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
  4. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2020
  5. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2020
  6. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
  7. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
    สวยดั่งต้องมนต์สะกด “วัดหลวงขุนวิน” วัดเก่าแก่กลางป่าลึกอายุกว่า 700 ปี


    ขอบคุณรูปภาพและเรื่องราว จาก เพจ Pranpisang

    อีกหนึ่งสถานที่สวยงาม ที่เที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ วัดหลวงขุนวิน เป็นวัดที่มีความสวยงามวิจิตร และบรรยากาศสงบ ร่มรื่น ร่มเย็น ที่ตั้งอยู่ในกลางป่าค่อนข้างลึก ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นวัดที่สร้างมานานกว่า 700 ปีแล้ว

    “วัดหลวงขุนวิน” อีกหนึ่ง ที่เที่ยวเชียงใหม่ สวยดั่งต้องมนต์สะกด
    watlungkhunwin-17-768x1024.jpg
    วัดหลวงขุนวิน เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุยาวนานกว่า 700 ปี และมีประวัติที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว ที่นี่มีทั้งพระ เณร และแม่ชี โดยมีหลวงพ่อจรัญ ทกฺขญาโณ เป็นเจ้าอาวาส วัดหลวงขุนวินแห่งนี้ตั้งอยู่กลางป่า ภายในวัดมีอาคารไม้ และเจดีย์บรรจุพระเกศาธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    watlungkhunwin-9-1-768x1024.jpg
    ที่วัดหลวงขุนวินเป็นวัดที่อยู่ไกลจากชุมชน ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ทางวัดต้องใช้กระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เดิมไม่มีถนนเข้าถึงวัด มีเพียงรอยทางที่คนเดินผ่านประจำเท่านั้น หลวงพ่อจรัญ และชาวบ้าน ค่อยๆ บูรณะกุฏิและศาลาต่างๆ และสร้างพระอุโบสถขึ้นสองหลัง มีอุโบสถพระยืน (ปางจงกรมแก้ว) อุโบสถพระนอน (ปางปรินิพพาน) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปไม้แกะสลัก และสร้างบันไดพญานาคอันสวยงาม โดยได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านและหมู่ศิษย์ที่เคารพศรัทธา

    watlungkhunwin-15-768x1024.jpg
    watlungkhunwin-18-1-768x1024.jpg
    อาคารไม้
    watlungkhunwin-6-1-768x1024.jpg
    เจดีย์บรรจุพระเกศาธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    watlungkhunwin-5-1-768x1024.jpg
    อุโบสถพระยืน (ปางจงกรมแก้ว)
    watlungkhunwin-7-1-1024x768.jpg
    อุโบสถพระนอน (ปางปรินิพพาน)
    watlungkhunwin-12-1-768x1024.jpg
    การเดินทาง : ใช้พิกัดจาก Google map วัดหลวงขุนวิน ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ 50360

    แนะนำ ให้ใช้เส้นทางเดียวกับปางช้างแม่วาง แต่สัญญาณโทรศัพท์อาจขาดหายในบางช่วง มีถนนสายเดียวอยู่แล้วไม่หลงแน่นอน ระยะเวลาที่ใช้จริง ต้องบวกจากที่ใน Google Map บอก ราวๆ 30-45 นาที เพราะ 10 กิโลเมตร สุดท้ายต้องใช้เวลาครับ ถนนลาดยางไปจนถึงบ้านห้วยหยวก จากนั้นจะเป็นทางดินแดง และลาดซีเมนต์หยาบๆ ทางสูงชันและแคบ ลื่นเป็นบางจุด รถเล็กไม่แนะนำนะครับ

    watlungkhunwin-19-768x1024.jpg
     
  8. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
    เข้าพรรษา ทำบุญถวายไฟฟ้า และ กราบนมัสการ หลวงพ่อจรัญ ณ วัดหลวงขุนวิน เชียงใหม่
    06 ก.ค. 60 (14:27 น.)แสดงความคิดเห็น

    Add @Sanook.com
    aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL3RyLzAvdWQvMjgwLzE0MDQ5MDkvd2F0bHVhbmdraHVud2luXzAxLmpwZw==.jpg
    sanook.png
    สนับสนุนเนื้อหา

    วัดหลวงขุนวิน อยู่ในการดูแลของเจ้าอาวาสพระอธิการจรัญ ทกฺขญาโณ พระสายปฏิบัติ ที่มีลูกศิษย์ผู้ศรัทธาต่างเดินทางมานั่งสมาธิปฏิบัติธรรมอยู่เรื่อยมา เนื่องจากเป็นวัดที่ร่มรื่น อากาศเย็นสบาย ทั้งยังมีนักท่องเที่ยวแวะมาชมสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่สวยงามอยู่บ้าง


    วัดหลวงขุนวิน มีพระจำวัดประมาณ 6 รูป ที่เคร่งครัดเรื่องปฏิบัติกรรมฐาน และเนื่องจากบ้านชาวบ้านที่อยู่ห่างออกไป 5 กิโลเมตรนั้นเป็นชาวเขา ฐานะยากจน พระสงฆ์จึงไม่ได้ออกเดินบิณฑบาต ที่นี่จึงมีโรงครัวที่มีแม่ชีบุญมีคอยดูแลเรื่องการทำอาหาร ถวายพระวันละ 1 มื้อเท่านั้น ภายในครัวยังใช้เตาถ่านในการประกอบอาหารเนื่องจากวัดนี้ยังขาดแคลนไฟฟ้า ถึงแม้วัดจะมีโซล่าร์เซลล์ และเครื่องปั่นไฟที่ลูกศิษย์บริจาคมาให้ก็ตาม ก็ต้องใช้ไฟเมื่อยามจำเป็นเท่านั้น

    เมื่อถึงวันสำคัญต่างๆ ชาวบ้านระแวกวัดเป็นที่เป็นชาวเขาจากหลายสิบหมู่บ้านจะมารวมตัวกันเพื่อทำบุญ รักษาศีล สวดมนต์

    วัดตั้งอยู่บนเขาสูงซึ่งห่างจากเมืองหลายสิบกิโลเมตร ถนนทางขึ้นวัดราว 5 กิโลเมตรในช่วงหน้าฝนจะยิ่งลำบากในการขึ้นลงอย่างมาก เนื่องจากเป็นทางดินลาดชันและลื่น ต้องใช้รถ 4×4 ในการเดินทางเท่านั้น

    ด้วยที่ตั้งที่อยู่ห่างไกลนี้จึงทำให้วัดหลวงขุนวิน ยังขาดเรื่องไฟฟ้า ปัจจุบันยังรอการมาติดตั้งแต่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงมาก และยังขาดถนนหนทางที่เดินทางได้สะดวกและปลอดภัย

    พุทธศาสนิกชนที่สนใจร่วมทำบุญ บริจาคแสงไฟให้แก่วัดหลวงขุนวิน ให้พระสงฆ์และประชาชนได้ใช้ไฟในการปฏิบัติธรรม สามารถร่วมบริจาคกับ Sanook! ได้ทางช่องทางดังต่อไปนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม – 5 สิงหาคม ค่ะ

    watluangkhunwin_11.jpg ท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฏฐานบรรยากาศสงบเงียบภายในวัดที่เหมาะกับการปฏิบัติธรรม

    watluangkhunwin_06.jpg ท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฏฐานบรรยากาศสงบเงียบภายในวัดที่เหมาะกับการปฏิบัติธรรม

    watluangkhunwin_05.jpg ท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฏฐานพื้นที่ป่ากว้างขวางในการปฏิบัติธรรม



    watluangkhunwin_07.jpg ท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฏฐานลูกศิษย์ร่วมสวดมนต์ ทำวัตรเย็น



    watluangkhunwin_02.jpg ท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฏฐานบริเวณพระธาตุหลวงขุนวิน

    watluangkhunwin_03.jpg ท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฏฐานทางเข้าวัดหลวงขุนวิน มีศิลปะที่สวยงาม


    ประวัติวัดหลวงขุนวิน
    วัดหลวงขุนวินนั้น มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมา ณ บริเวณที่ตั้งวัด และประทับรอยพระบาทไว้ในป่าแห่งนี้ ตามปกติพระพุทธเจ้าเสด็จไปแห่งใด จะไม่มีรอยพระบาท นอกจากจะทรงอธิษฐานประทับรอยพระบาท ซึ่งรอยพระบาทนี้เรียกว่า “พระบาทย่ำหวิด ” ย่ำ คือ “เหยียบ ” หวิด คือ แหว่งไป เนื่องจากพระบาทที่ทรงย่ำนั้น มีรอยแหว่ง เพราะแผ่นหินที่ประทับรอยพระบาทนั้นมีขนาดเล็กเกินไป ทำให้นิ้วของพระบาทหายหรือแหว่งไป และชื่อเมืองแต่เดิมชื่อ “หวิด ” ต่อมาเปลี่ยนเป็น “วิน ” จึงเป็นเมืองวินหรือขุนวิน ชาวบ้านได้ทูลขอพระเกศาธาตุจากพระพุทธองค์ แล้วจึงสร้างเจดีย์ไว้บรรจุพระธาตุเพื่อการกราบไหว้บูชาต่อไป และชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างวัดไว้ด้วย คือวัดหลวงขุนวิน ในปัจจุบัน

    ประวัติหลวงหลวงพ่อจรัญ ทกฺขญาโณ
    หลวงพ่อจรัญ ทกฺขญาโณ เป็นคนจังหวัดน่าน ขณะทำงานที่กรุงเทพฯ มีความสนใจศึกษาและฝึกปฏิบัติจนเกิดศรัทธา และบวชที่วัดสังฆทาน ในปี พ.ศ. 2529 เมื่ออายุได้ 27 ปี พรรษาแรกจำพรรษาที่อุ้มผาง จังหวัดตาก และผ่านการเก็บอารมณ์ที่วัดหนองไผ่เจริญธรรม จังหวัดสุพรรณบุรี รวม 4 ปี

    ต่อมาท่านธุดงค์ไปทางภาคเหนือเพื่อการปฏิบัติ จนพบวัดพันต้น ซึ่งเป็นวัดร้างอยู่กลางทุ่ง ที่อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตามประวัตินั้นเป็นวัดที่จัดให้มีการทำสังคายนาพระไตรปิฎก มีพระมาประชุมกันพันองค์ หรือพันต้น ท่านเห็นว่าเป็นสถานที่สัปปายะ เหมาะแก่การฝึกปฏิบัติจึงอยู่จำพรรษาที่วัดนี้เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งในปีสุดท้ายนั้นมีพระจากวัดสังฆทานธุดงค์ผ่านมา ท่านจึงบอกทางไปจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยให้ตัดตรงผ่านเส้นทางนี้ไป ท่านจึงพบวัดหลวงขุนวินโดยบังเอิญ ซึ่งขณะนั้นพระอาจารย์สมบูรณ์ รตนญาโณ (ลูกศิษย์หลวงพ่อสนิท ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่สังวาลย์ วัดทุ่งสามัคคีธรรม จังหวัดสุพรรณบุรี) เป็นผู้ดูแลวัดได้ 8 ปีแล้ว พระอาจารย์สมบูรณ์จึงดีใจที่ได้พบพระจากวัดสังฆทาน และยกวัดให้หลวงพ่อจรัญ ทกฺขญาโณ ดูแลวัดสืบต่อไป ในปลายปี พ.ศ. 2539 นั้นเอง

    หลวงพ่อจรัญ ทกฺขญาโณ จึงอยู่ที่วัดหลวงขุนวินเรื่อยมา ซึ่งเดิมทีตั้งใจจะอยู่เงียบๆ แต่มีพระท่านขึ้นไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นหมู่คณะ และดูแลปกครองกันจนเป็นสาขาหนึ่งของวัดสังฆทาน ช่วยกันบูรณะและดูแลวัดเรื่อยมา ปัจจุบันที่วัดมีพระ 17 รูป (ปี 2551)

    ปัจจุบัน มีคนเมืองหรือคนจากเชียงใหม่ที่สนใจการทำสมาธิเข้ามาวัดในวันเสาร์-อาทิตย์ กันมากขึ้น เพื่อการฝึกปฏิบัติกรรมฐานและภาวนา ท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงามร่มรื่น บรรยากาศดี และอากาศเย็นตลอดปี มักจะมีชาวต่างชาติเข้ามาแวะเยี่ยมชมโบราณสถานในวัดอยู่เสมอ วัดอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 900 เมตร สามารถเดินทางโดยใช้เส้นทางเชียงใหม่-ฮอด เมื่อถึงสามแยกสันป่าตองให้เลี้ยงขวาไปอำเภอแม่วาง (ถึงแม่วางกิโลเมตรที่ 12) ไปตามทางจนถึงกิโลเมตรที่ 26 ถึงหมู่บ้านขุนวิน จะเห็นป้ายบอกทางไปวัดหลวงขุนวินอยู่ด้านขวามือ จากทางแยกนี้ไป ถึงวัดประมาณ 10 กิโลเมตร จะเป็นทางลูกรังตลอดในช่วง 5 กิโลเมตรแรก ทางค่อนข้างลาดชันจนถึงบ้านกะเหรี่ยงห้วยหยวก ซึ่งรถกระบะธรรมดาขึ้นได้ ส่วน 5 กิโลเมตรหลังเป็นทางที่ขึ้นได้เฉพาะขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น เนื่องจากเป็นถนนที่ใช้แรงคนในการขุดจึงต้องมีการซ่อมแซมกันตลอดเวลา

    >> ร่วมทำบุญ Online ถวายไฟฟ้าให้วัดหลวงขุนวิน ได้ที่นี่ค่ะ

    วัดตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 7 ต.ดอนเปา อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ 50360

    94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99_map.jpg
     
  9. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
  10. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ประวัติ หลวงพ่อจรัญ ทกฺขญาโณ
    ชื่อเดิม จรัญ จันทร์ประภาสกุล เป็นชาวจังหวัดน่าน
    ท่านเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๒
    หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า ท่านเคยบวช ๒ ครั้ง ครั้งแรกท่านบวชตามประเพณีเพียงพรรษาเดียว เมื่ออายุ ๒๕ ปี หลังจากสึกไปใช้ชีวิตฆราวาส ท่านก็มีความคิดอยู่เสมอว่า คนเราเกิดมาเพื่ออะไร และถึงแม้จะใช้ชีวิตปกติทำงานเหมือนคนทั่วไป แต่ท่านก็ปฏิบัติตามแนวทาง สติปัฏฐานสี่ พิจารณากายมาโดยตลอด
    เมื่อท่านอายุได้ ๒๗ ปี ก็ตัดสินใจว่า ถึงเวลาแล้วที่ควรจะบวชเสียที ทางโลกมันก็เท่านี้ ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว จะมัวเสียเวลาไปอีกคงไม่ได้การ การบวชครั้งนี้เราจะบวชไม่สึก จะไม่หวนกลับมาทางโลกอีกเด็ดขาด หลังจากนั้นหลวงพ่อก็ได้ไปร่ำลาญาติพี่น้อง และเพื่อน ๆ
    ก่อนวันที่จะมาบวช หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า ท่านโดนมารเล่นงานอย่างหนักอยู่เหมือนกัน ทำลายศรัทธาและความหนักแน่นของท่านลงไปมาก ท่านนั่งรถต่อเรือมาวัดสังฆทาน มารตามเล่นงานตลอด สั่นคลอนจิตใจท่านอย่างยิ่ง จนกระทั่งถึงวัดสังฆทานท่านเห็นป้ายเขียนไว้ว่า “ผู้ใดเอาชนะใจตนเองได้ ผู้นั้นไม่ใช่ปุถุชน” หลวงพ่อจึงเกิดกำลังใจ และเอาชนะมารได้ในที่สุด
    จึงบอกหลานชายที่ตามมาด้วยให้รีบโกนหัวให้ (ซึ่งขณะนั้นพระยังไม่ว่าง)
    และนุ่งชุดขาวเตรียมตัวที่จะบวช หลังจากได้ครองผ้าเหลืองแล้ว จิตใจก็มั่นคงดังเดิมทันที
    หลวงพ่อบวชที่วัดสังฆทาน จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๒๙
    ได้รับฉายาว่า ทกฺขญาโณ แปลว่า ผู้มีญาณอันยิ่งใหญ่
    ในพรรษาแรก ๆ หลวงพ่อได้ไปปฏิบัติอยู่ที่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก และได้ผ่านการเก็บอารมณ์อยู่ที่ วัดหนองไผ่เจริญธรรม จ.สุพรรณบุรี รวม ๔ ปี
    ต่อมาท่านธุดงค์ไปทางภาคเหนือเพื่อการปฏิบัติ และได้มาพบ วัดสะหลีพันตน (วัดพันต้น) ซึ่งเป็นวัดร้างอยู่กลางทุ่ง ที่อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตามประวัตินั้นเป็นวัดที่จัดให้มีการทำสังคายนาพระไตรปิฎก มีพระมาประชุมกันพันองค์หรือพันตน ท่านเห็นว่าเป็นสถานที่สัปปายะ เหมาะแก่การฝึกปฏิบัติจึงอยู่จำพรรษาที่วัดนี้เป็นเวลา ๒ ปี
    ซึ่งในปีสุดท้ายนั้นมีพระจากวัดสังฆทานธุดงค์ผ่านมา ได้บอกทางให้ท่านไปจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยให้ตัดตรงผ่านเส้นทางนี้ไป ท่านจึงพบวัดหลวงขุนวินโดยบังเอิญ ซึ่งขณะนั้นพระอาจารย์สมบูรณ์ รตนญาโณ ลูกศิษย์หลวงพ่อสนิท (ศิษย์หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม จังหวัดสุพรรณบุรี) เป็นผู้ดูแลวัดได้ ๘ ปีแล้ว พระอาจารย์สมบูรณ์ดีใจที่ได้พบพระจากวัดสังฆทาน และยกวัดให้หลวงพ่อจรัญ ทกฺขญาโณ ดูแลวัดสืบต่อในปลายปี พ.ศ. ๒๕๓๙ นั่นเอง
    วัดหลวงขุนวินเป็นวัดเก่าแก่ มีอาคารไม้ และเจดีย์บรรจุพระเกศาธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีถนนเข้าถึงวัด มีเพียงรอยทางที่คนเดินผ่านประจำเท่านั้น หลวงพ่อก็ค่อย ๆ บูรณะกุฏิและศาลาต่าง ๆ และสร้างพระอุโบสถขึ้นสองหลัง มีอุโบสถพระยืน(ปางจงกรมแก้ว) และอุโบสถพระนอน(ปางปรินิพพาน) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปไม้แกะสลักสวยงามมาก โดยได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านและหมู่ศิษย์ที่เคารพศรัทธา หลวงพ่อยังได้สร้างบันไดพญานาคอันสวยงาม โดยศิลปะทุกอย่างภายในวัด หลวงพ่อเป็นผู้ออกแบบเอง และได้ช่างฝีมืองานไม้และงานปูนที่มีความสามารถในการปั้นมาช่วยงาน และหลวงพ่อยังได้สร้างอ่างเก็บน้ำสำหรับใช้ในวัด และขุดถนนสำหรับเป็นเส้นทางให้รถเข้าถึงวัดอีกด้วย
    ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ ได้นิมนต์หลวงพ่อจรัญให้มาเทศน์โปรดญาติโยมที่วัดสังฆทาน
    ในวันพระและวันงานบุญต่าง ๆ ของวัด
    หลวงพ่อจรัญ ท่านจึงได้ลงจากวัดหลวงขุนวินมาแสดงธรรมโปรดศิษย์ที่วัดสังฆทานเป็นประจำในวันพระและวันเสาร์ (เนสัชชิก) ซึ่งหลวงพ่อจะได้รับนิมนต์แสดงธรรมในเวลาประมาณ ๒๒.๐๐ หรือ ๒๓.๐๐ หรือ ๒๔.๐๐ น. โดยประมาณ ซึ่งจะแสดงธรรมจนถึงเวลา ๐๓.๓๐ น.ของวันรุ่งขึ้น เป็นประจำ
    และยังออกรายการตอบปัญหาธรรมในรายการธรรมะสว่างใจ ทางสถานีของวัดสังฆทาน และยังแสดงธรรมเทศนาในรายการของ มหาจุฬาฯ อีกด้วย
    ธรรมะที่หลวงพ่อจรัญ ทกฺขญาโณ สั่งสอนศิษย์ให้ปฏิบัติอยู่เสมอ นับเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาเลยทีเดียว นั่นคือเรื่องอริยสัจสี่ และท่านเน้นให้ปฏิบัติแนวสติปัฏฐานสี่ พิจารณากายภายนอก กายภายใน เป็นหลัก
    ตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
  12. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
     
  13. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014




    ธรรมะจิตประภัสสร
    เพราะ ทุกสิ่งคือสิ่งสมมุติ อยู่แล้ว
    จึงไม่มีอะไรให้ ละวาง ทั้งความดีความชั่ว
    ยิ่งไปอยากละเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็น ความคิดปรุงแต่ง เท่านั้น
    จิตเดิมแท้ บริสุทธิ์ดีอยู่แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2020
  14. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612


    พระธุดงค์รูปนี้ อยู่ จ.สระแก้ว
     
  15. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ภายในใจแล้วไม่มีอะไรให้ละ.และไม่มีอะไรให้ยึด
    ได้
    มีแต่การปรุงแต่งจากขันธ์ 5 ทั้งนั้น
    ที่กำลังวิ่งหาสิ่งละ
    และสิ่งยึด
     
  16. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014


     
  17. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
  18. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
     
  19. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
     
  20. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014



     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...