อยากรู้อนิสงค์ของการอนุโมทนาและการเจริญภาวนาเผื่อแผ่เมตตา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย nanakorn, 22 เมษายน 2010.

  1. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,076
    ค่าพลัง:
    +158
    ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ อยากรู้อนิสงค์ แต่ไปอ่านแล้วมันยาวไป
    การที่เราภาวนาแผ่เมตตากับ ไปทำทานและอุทิศบุญอันไหนอนิสงค์แรงกว่ากัน
    และการอนุโมทนากับผู้อื่นแล้ว เราได้รับอนิสงค์แค่ไหน...:cool:
     
  2. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    ก่อน อื่น ต้อง เข้าใจ คำว่า บุญ บุญ แปลว่า เหตุ ที่เล็งให้เกิด ความสุข ซึ่ง สามารถ ทำได้ 10 อย่าง

    1.ทานมัย บุญที่สำเร็จด้วยการบริจากทาน

    มีอภัยทานเป็นที่สุด

    2.สีลมัย บุญที่สำเร็จด้วยการรักษาศีล
    เรียกอีกอย่างว่า มหาทาน คือการให้เจตนางดเว้นจากบาปทั้งปวงเป็นทาน จึงชื่อเรียกว่า มหาทาน มี ใจ คือการ รักษาใจ ให้อยู่ในความดี เป็นที่สุด


    3.ภาวนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการเจริญภาวนา
    มีการเจริญ วิปัสนาเป็นที่สุด

    4.อปจายนมัย บุญที่สำเร็จด้วยการแสดงตนเป็นคนอ่อนน้อม
    ไม่ล้ำหน้าผู้ใหญ่ ไม่ข่มขู่ผู้น้อย

    5.ไวยยาวัจจมัย บุญที่สำเร็จด้วยการขวานขวายช่วยในกิจการที่ชอบ
    เช่น ว่า เห็น คน ตาไม่ดี กำลังจะข้ามถนน แล้วเข้าไปพาเค้าข้ามถนน


    6.ปัตติทานมัย บุญที่สำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ
    เรียกว่า การอุทิศบุญ เช่น การ ถวายทาน แล้ว อุบิศบุญนี้ ให้ผู้นั้น ผู้นี้ สำหรับคนตายเรียกอุทิศ สำหรับ คนเป็นเรียก แบ่งบุญ ให้คนนั้นคนนี้เป็นต้น

    7.ปัตตานุโมทนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ

    อนุโมทนา คือการแสดงความยินดี ในคุณความดีที่เป็นกุศล ของผู้อื่น

    เช่น ว่า ยอดคะน้าไปทำทานมา แล้วมาเจอหน้าวิษณุ แล้วยอดคะน้าบอกกับวิษณุว่า เมื่อวานไปทำทานมา ขอแบ่งบุญให้กับวิษณุด้วยนะ เมื่อ วิษณุได้ ยิน ก็กล่าว อนุโมทนากับยอดคะน้า คือ ยินดี กับความดีที่เป็นกุศล ที่ยอดคะน้าไปทำมาแล้ว แบ่งให้วิษณุ บุญกุศล ก็สำเร็จกับ วิษณุ เช่นกัน

    มีในพระธรรมบท ว่า มีบุรุษ 2 คน เรืออับปาง กลางทะเล แล้วไปติด อยู่ที่เกาะ อีก คนนึงเป็นคน อยู่ในศีล อีกคนหนึ่งไม่อยู่ในศีล ช่วงที่ ติดเกาะนั้น ผู้ไม่มีศีลได้ไปหาเลี้ยงชีพ ด้วยการ ฆ่าสัตว์ พอหามาได้ ก็มา แบ่งผู้ มีศีล แต่ผู้มีศีลไม่รับเห็นว่าเป็นการ ฆ่า รักษาตนเองอยู่ในศีล ... ต่อ มา มี เรือ ผ่านมา ทั้ง สอง คนจึงไปขออาศัยด้วย เจ้าของเรือ จึงให้ ขึ้น แต่ให้ขึ้นแต่ผู้ มีศีล ด้วยกล่าว ว่าเป็นผู้ มีบุญ แต่ผุ้ไม่มีศีล ไม่มีบุญ

    และ ด้วยความมีเมตตา ผู้ที่มีศีล จึงกล่าวกับเจ้าของเรือ ว่า ทำอย่างไร จะให้เค้าได้ขึ้นเรือมาด้วย เจ้าของเรือก็ตอบว่า ต้องให้เค้ามีบุญ ผู้ มีศีล จึงได้กล่าวกับผู้ไม่มีศีลว่า เราขอแบ่งบุญ ของเราให้ท่านด้วย ผู้ไม่มีศีลได้ ยิน ก็กล่าว อนุโมทนา บุญ จึง สำเร็จกับผู้ไม่มีศีลด้วย เจ้าของเรือ จึงให้ ขึ้นเรือมาได้ ....


    8.ธัมมสวนมัย บุญที่สำเร็จด้วยการฟังพระสัทธรรม

    เช่น การฟังธรรม จากสัปบุรุษ มีพระสงฆ์ สาวกเป็นต้น

    9.ธัมมเทสนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการแสดงพระธรรมเทศนา

    เช่น การอธิบาย สาธยาย ข้อความ ในมนต์ ของพระพุทธเจ้า หรือ พระธรรม มีการ สวดมนต์เป็นต้น


    10.ทิฏฐุชุกรรม การกระทำความรู้ความเห็นแห่งตนให้ตรง (เชื่อว่า บาป-บุญมี ,นรก-สวรรค์มี ,ชาตินี้-ชาติหน้ามี , เชื่อหลักไตรลักษณ์ อนิจจัง-ทุกข์ขัง-อนัตตา)


    ... อย่าง บุญกิริยาวัตถุ10 นี้ เราต้องเข้าใจเสียก่อน ว่าทำบุญเพื่อ อะไร

    บุญเป็นเหตุ ให้เกิด สุข

    สูง สุด คือ สุขยิ่ง เรียกว่านิพพาน
    การสร้างบุญ คือการ ทำเหตุ ผลจะตามมาเอง

    โอวาทหลวงปู่หล้า ท่านกล่าวว่า เหตุกับผลอยู่ห่างกันไม่พอก้าว เหตุอยู่ที่ไหน ผลก็อยู่ที่นั่น

    คราวนี้เราก็ดูว่า เราทำเหตุ ในส่วนไหน
    เหตุ ส่วนใหญ่ ที่ยังให้ถึง นิพพาน ซึ่งเป็นการ สร้าง เหตุ ที่แท้จริง ศึกษาในส่วนนี้ให้เข้าใจ แล้วจะเข้าใจ ในบุญกิริยาทั้ง 10 มากยิ่งขึ้น ยิ่งทำตามด้วยแล้ว จะเข้าใจเลยว่า เวลาไหน บุญกิริยาวัตถุ10ส่วนไหน ที่ควรเจริญ จะหนุน สลับกันไป



    การปฏิบัติธรรม ในพุทธศาสนา
    คือการสร้างเหตุไม่ใช่เพื่อสะสม แต่ สร้างเหตุในการวาง


    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.936412/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. ฮุโต๋

    ฮุโต๋ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +44,568
    บุญที่เกิดจากการภาวนา กับบุญที่เกิดจากทาน(วัสถุทาน)มีอานิสงฆ์มากแต่ต่างกัน การภาวนาเป็นบุญเพราะขณะที่เปล่งวาจา สาธยายบทสวดมนต์ด้วยความเคารพพระรัตนตรัย จิตเป็นกุศล จิตใสสว่าง ว่างจากกิเลส ผู้ที่สวดมนต์เป็นประจำจึงสามารถปิดประตูอบายภูมิได้
    ส่วนทำทานด้วยวัตถุทาน อานิสงฆ์ของบุญคือ ถ้าหากว่าเราไม่ถึงพระนิพพาน ผลบุญของทาน ทำให้ไม่ต้องมาเกิดเป็นคนจน
    และการตั้งจิต เปล่งวาจา อนุโมทนาบุญ คือจิตพลอยยินดีในผลบุญที่กระทำนั้น ได้บุญน้อย
    แต่ถ้า ตั้งจิตเปล่งวาจา ว่า โมทนา สาธุ ได้บุญมาก
    คือผู้ทำบุญ ได้บุญเต็มร้อย ส่วนผู้โมทนาบุญ ได้บุญ 80 บุญ
    อนุโมทนา คือ พลอยยินดี
    โมทนาสาธุ คือ ได้บุญ 80 บุญ
    เจริญในธรรม โมทนา สาธุ
     
  4. ฮุโต๋

    ฮุโต๋ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +44,568
    การอนุโมทนาบุญ มีส่วนช่วยลดมานะได้ แต่มีส่วนน้อยและไม่เท่ากับที่เราตั้งใจและพยายามลดด้วยตัวเอง
    สังโยชน์ ข้อที่ 8 คือ ความมานะ นี่ ละได้ยากที่สุด
     
  5. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    การแผ่เมตตาคือการปล่อยวางอารมณ์ หรือสละอารมณ์ อันได้แก่ความโกรธ ความเกลียด ความอิจฉา ริษยา ซึ้งมีและฝังในสันดานของคนและสัตว์มานานนักหนาแล้ว การแผ่เมตตาเปรียบเหมือนการ เอาจอบก็ดีรถแม็คโคก็ดี จ้วงเอาสิ่งเหล่านั้นออกจากจิตใจ ให้มีที่ว่างพอที่ให้ความดีงามทั้งหลาย เข้าแทนที่ อาทิ ความเอื้ออาทรณ์ เห็นอกเห็นใจกัน ความปราถนาดีที่แท้จริงต่อกัน โดยไม่หวังผลตอบแทน อันเป็นเหตุของความสงบใจ ความเย็นใจ และความสบายใจ ส่วนคำว่ามานะนั้น หากมองว่า มานะคือความถือตัวถือตนนั้น การแผ่เมตตาไม่อาจตัดมานะได้ แต่ลดผลอันเกิดจากมานะได้ เช่น เมื่อมีมานะความถือตัวถือตนก็เกิดผลที่ตามมาคือ ความอิจฉา ริษยา พยาบาท เป็นต้น ดังนั้นเมตตาจะช่วยบรรเทาผลของมานะนั้น แต่ยังไม่สามารถทำให้มานะนั้นหมดไปจากจิต มันจะยังเป็นอนุสัยสันดานอยู่ต่อเมื่อพิจารณาเห็นโทษภัยแห่ง ทุกข์ ที่เกิดเพราะมานะนั้นเห็นได้จริงตามความเป็นจริง ด้วยการสั่งสม สมาธิ สติ ปัญญา ให้ถึงพร้อมต่อการพิจารณา เป็นของละเอียดอ่อนมากครับ
    ขออนุญาตุแสดงความเห็นไว้ ณ ที่นี้
     
  6. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,076
    ค่าพลัง:
    +158
    อนุโมทนา คุณปราบเทวดา คุณ ฮั่วโต
    ที่ให้คำตอบกระจ่างในสาระธรรมสนทนา
    มีญาติคนหนึ่งเขาฆ่าตัวตาย อุทิศบุญอย่างงัย เขาไม่เคยได้รับเลย
    เพราะฝันเห็นเขาบ่อย เลยรู้ว่าบุญส่งไปไม่ถึงเขา
    อยากช่วยเขา ให้คลายทุกข์ จะอุทิศบุญอย่างงัยดี
     
  7. ฮุโต๋

    ฮุโต๋ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +44,568
    การทำบุญให้ผู้ที่ฆ่าตัวตาย ก็ทำได้วิธีที่ถูกคือ
    ทุกครั้งที่ทำบุญให้ระบุชื่อ นามสกุล ของผู้ตาย ทุกครั้ง แล้วฝากผลบุญนี้ไว้กับท่านปู่พระยายมราช ขอให้ท่านปู่พระยายมราชนำผลบุญนี้ไปส่งให้กับผู้ที่เราทำบุญถึงเขา ถ้าไม่ฝากท่านปู่ไว้ผลบุญที่เราทำไปก็จะถูกผีสัมภเวสีอื่นแย่งไป สุดท้ายบุญก็หมดไม่ถึงผู้รับ
    รู้วิธีแล้วก็รีบไปทำให้เขานะ ธรรมทานความรู้นี้บอกต่อได้เลย ผู้บอกก็ได้บุญด้วย
     
  8. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849


    ลักษณะ ที่ เข้าใจว่า อนุโมทนา ลดมานะได้ไหม

    ลักษณะ มานะที่เกิด หาก มีสติที่ยังรู้ไม่ทันมานะ แต่มีกำลัง ของจิต ก็จะ ข่ม กิเลสมานะได้ชั่ว คราว

    ที่ ว่าข่มมานะได้ชั่วคราว เพราะอะไร แก้ว่า เพราะ มีกำลังจิต

    คราวนี้มาดูว่า ส่วนกำลังจิตได้มาจากไหน หากหมายเอา มาจากการอนุโมทนา สังเกตุ ดูว่า หากอนุโมทนาแล้วเกิด ปีติ ปีติ นี้จะเป็นผล ทำให้ จิต มีกำลังได้พัก นึง แล้วแต่ปัจจัยของปีตินั้นๆ เมื่อเกิดปีติได้ จิตก็จะมีกำลัง ขึ้นมา กำลังตัวนี้ ทำให้ จิตสามารถข่ม มานะได้ชั่วคราวถึงแม้ ยังไม่มีสติที่รู้ได้ทันมานะ ก็จะทำให้ข่มมานะลงได้

    ต้องดูอีกว่า ช่วงที่มานะเกิดมา จนกลายเป็นโทษะเป็นความโกรธ ขึ้นมาแล้ว เราจะมี สติ ที่จะดูตัวเองได้มั๊ย

    หาก มีได้ ก็ และมีเหตุ ที่เรา ได้ ไปอนุโมทนา อะไรซักอย่าง ตรงช่วงนั้นพอดี ก็จะมีกำลังในการข่มจิตได้

    แต่หาก ไม่เกิด มานะจนกลายไปเป็นโทษะ แต่มีเหตุ ที่เราได้อนุโมทนา ส่วนนี้ก็เป็นกำลังจิต ให้เรา มีกำลัง ในการฝึกต่อไป



    มานะเป็นกิเลสที่ละเอียด ในตำรา ว่า จะประหารมานะได้ เมื่อเป็น พระอรหันต์


    คราวนี้มารู้จัก มานะ นิดนึง มานะแปลว่า สำคัญตน หรือจะแปลว่าถือตน ถือตัวก็ได้

    ในลักษณะ ถือตัว ก็แบ่งเป็นหลัก ใหญ่ 3 ประการ

    1.ถือ ตนว่าดีกว่าเขา..มีการยกตัวเป็นต้น

    2.ถือตนว่าเสมอเขา.. มีการเปรียบเทียบตัวเองกับผู่อื่นเป็นต้น

    3.ถือตนว่าเลวกว่าเขา.. มีการ ด่าว่าตัวเองเป็นต้น


    โอวาท หลวงปู่พุธ ฐานิโย ท่านสอนว่า

    หากคิด ว่าเราฉลาดกว่าเขา เราก็โง่กว่าเขา
    หากคิดว่าเราโง่กว่าเขา เราก้โง่จริงๆนั่นล่ะ
    หากคิดแบบเป็นกลางๆ นั่น เราเริ่มฉลาดขึ้น

    กรณีที่เกิดมานะ จาก การกระทบ

    หากเมื่อใดเริ่มมี สติ ก็จะเริ่มเห็นตัวเองว่า เราดีกว่าเขา ถ้าขาดสติก็จะไม่เห็นตัวเอง

    หากมีสติ ก็จะเริ่มเห็นว่า เราเสมอเขา ถ้าขากสติก็จะไม่เห็นตัวเอง

    หากมีสติก้จะเริ่มเห็นตัวเองที่คิดว่าเลวกว่าเขา ถ้าขาดสติก็จะไม่เห็นตัวเอง


    เพราะฉนั้น การเจริญ สติปัฏฐาน 4 จึงเป็น ทางอันเอก ที่เรา จะประหารมานะได้ มีศีลก็จะมีความสงบ ก็จะมีสติ ก็จะมี สัมมาสมาธิ มีสัมมาสมาธิ ก็จะมีปัญญา ประหาร มานะลงได้

    กิเลสอย่างละเอียด จะว่ากันตรงๆจะยังไม่เห็น อยู่ที่ ว่าเราได้ เจริญ สติปัฏฐาน 4 ได้ มีความชำนาญแค่ไหน

    ตามตำราว่า แม้พระโสดาบัน ก็ยัง มีมานะ พระโสดาบัน มี ศีล สมบูรณ์ มี สมาธิเล็กน้อย มีสติเล็กน้อย
    .. เราจะ มีศีล สติ สมาธิ แค่ไหน ต้องเพียรเอา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 เมษายน 2010
  9. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849


    มีญาติคนหนึ่งเขาฆ่าตัวตาย อุทิศบุญอย่างงัย เขาไม่เคยได้รับเลย
    .. ส่วนนี้ดู ดีดี นะครับ


    เพราะฝันเห็นเขาบ่อย เลยรู้ว่าบุญส่งไปไม่ถึงเขา
    .. ต้องนี้ก็ต้องดูดีดี


    อยากช่วยเขา ให้คลายทุกข์ จะอุทิศบุญอย่างงัยดี

    ตรงนี้..อยากช่วยให้เค้าพ้นทุกข์ เราต้องพ้นก่อน ถึงจะช่วยเค้าได้ ... สู้ๆ:VO .... เพียรให้ถึงที่ สุดแห่งทุกข์ คนที่ ท่านอยากช่วย ย่อมช่วยเค้าได้แน่นอน หากอยากช่วยเค้าจริง ขอให้ท่านเพียรให้ถึงที่สุด ด้วย สติปัฏฐาน 4
     
  10. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,806
    ค่าพลัง:
    +7,940
    แหะ แหะ ขอตอบมั่ง

    เมตตากรรมฐาน ลดมานะไม่ได้ ตรงกันข้าม ทำให้มานะมันเพิ่มขึ้นใหญ่กว่าเดิม

    ลองพิจารณาดูง่ายๆก็ได้ ตอนเราเห็นสัตว์ตัวจ้อยตรงหน้า เราแผ่เมตตาออกไป
    ตอนนั้นความรู้สึกในการเห็นเรา กับ เห็นสัตว์ตรงหน้ามีอยู่ไหม แยกกันอยู่ไหม
    แยกกันชัดไหมว่า นี่เรา นั้นเขา

    อะไรก็ตาม ที่ทำให้เล็งเห็นว่า ขอบเขตนี้เป็นเรา และมีอีกขอบเขตหนึ่งนั้นเขา
    อาการเห็นตรงนี้เขาเรียกว่า สร้างมานะขึ้น ดังนั้น เมตตากรรมฐานเน้นที่การ
    สร้างมานะอัตตา ไม่ใช่ละคลายมานะอัตตา ด้วยอารมณ์กรรมฐานของมันเอง

    คราวนี้มาดูอีก เราอยู่ตรงนี้ แต่ทำใจเห็นสรรพสัตว์ทั่วอนันตจักรวาล ถาม
    ว่า ตอนนั้นเราเห็นขอบเขตสัตว์ที่เป็นเขาไหม ย่อมต้องเห็น แล้วลองย้อนดู
    ที่ตนสิว่า ตอนนั้นขอบเขตของตนนั้นอยู่ตรงไหน

    100ละ100 ขอบเขตของตนผู้แผ่เมตตาให้สัตว์ในอนันตจักรวาลคือ มีสภาพ
    ขอบเขตใหญ่กว่า อนันตจักรวาลนั้น กล่าวคือ รู้สึกว่า ตัวเองใหญ่กว่าอนันตจักรวาล
    เสียอีก

    ก็จะเห็นว่า เป็นไปด้วยความผอกพูลของมานะ

    ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ก็เพราะ เขาต้องการให้เล็งเห็น มานะ ที่มันมีอยู่ ให้รู้รส
    ที่เขาไปสัมผัสด้วยใจว่า มานะนั้นมีรสธรรมอย่างนี้ เกิดขึ้นอย่างนี้ ทำกิจอย่างนี้
    น้อมด้วยใจแบบนี้

    เมื่อเห็นชัดแล้วว่า มานะ มีหน้าตาอย่างนี้ ละเอียดแบบนี้ มีคุณแบบนี้ แต่ก็มีโทษ
    อย่างนี้ เห็นไปเนืองๆ จนรู้สึกได้ว่า มานะนี่มันใหญ่จริงๆ มันคลุมหัวคลุมหูคลุม
    ตาจริงๆ แล้วจะหาทางดำริออกทำอย่างไร

    ก็ง่ายๆ ให้มองตัวเองนั้นแหละเป็นสัตว์ตัวหนึ่ง เป็นสัตว์คนละตัวกับเรา ทั้งๆที่มันก็
    มีรากเง้าออกมาจากเรานั่นแหละ แล้วแผ่เมตตาให้ตัวเองดู แล้วลองระลึกดูว่าตอน
    นี้ขอบเขตตัวเองอยู่ตรงไหน ทำไมมันกลับไปกลับมา มีรสธรรมกลับไปกลับมา กลับ
    ไปกลับมาแล้วมันพ้นออกไปไหม ยิ่งทำก็ยิ่งติดไม่พ้นสภาพการเห็นตัวตน บุคคลเรา
    เขา ......

    ท่านถึงว่า พรหมวิหารกรรมฐานนั้นไปได้แค่ ฌาณ3 เห็นอะไรวับๆแวมๆ อยู่อย่างนั้น
    แล้วจะทำอย่างไรให้พ้น มานะ ขอบเขตการมีสัตว์ ตัวตน บุคคลเราเขาได้ พอเห็น
    แบบนี้ก็จะรู้ว่า อ๋อ....ต้องทำกรรมฐานอื่นเพิ่ม....กรรมฐานที่ทำเพิ่มคืออะไรก็ไป
    ค้นคว้าดู ไม่น่าจะหายาก

    * * * * *

    เน้นคำว่า "น่า" เพราะต้องการส่งการบ้านให้กับคุณครูท่านหนึ่ง ที่มาทักเรื่องการใช้ภาษา
     
  11. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,076
    ค่าพลัง:
    +158
    เมื่อก่อนนะคะ พอกล่าวคำว่า สาธุ ปิติมันขึ้น ซาบซ่าส์ จริงๆ เลย
    แต่พอนานไป ก็มาคิดว่า คำว่าสาธุ มันแค่ซาบซาส์เองเหรอ
    ในใจมันคิดว่าไม่น่าใช่ ใจมันสงบขึ้น หลังจาก อนุโมทนา -สาธุมาเรื่อยๆ
    จนคิดที่จะแบ่งปันให้กับคนอื่น พอดี มีคนมาเสีย ก่อนวัยอันสมควร
    ให้เท่าไร ก็ไม่ได้ รับ อันนี้คิดเอง เออเองนะคะ หรือเขาไม่กล่าวอนุโทนากับ
    บุญที่เราส่งไปให้กันนะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...