อยากสอบถามค่ะอาการแบบนี้ในขณะหลับเรียกว่าจิตปรุงแต่งไหมคะ

สถานการณ์ขณะนอนหลับรู้สึกเหมือนผีอำค่ะกระดุกกระดิกไม่ได้แล้วทีนี้ตัวเองไม่รู้จะทำไงค่ะก็เหมือนสวดมนต์ไปด้วยแต่ขณะเดียวกันหลังจากนั้นรู้สึกเหมือนตัวเองดันไปอธิษฐานขอดำน้ำไม่รู้ตัวเหมือนกันค่ะว่าทำไมทำอย่างนั้นจากนั้นก็เห็นภาพเหมือนไปอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งเป็นตึกสีขาวๆ4เหลี่ยมจัตุรัสอาคารเตี้ยๆมีบันไดสั้นๆมีงูคล้ายปูนหรือหินรอบๆอาคารตัวยาวมาก2ตัวขณะนั้นตัวเองตกใจมากเลยจะตื่นแต่ตื่นและออกไปจากสถานที่นั้นไม่ได้ร้องให้คนช่วยจากนั้นเหมือนได้ยินเสียงตอบกลับมาว่าไหนไม่เชื่อใช่ไหมประมาณนี้ค่ะจากน่ั้นเราก็ร้องขอความช่วยเหลือนึกถึงพระพุทธเจ้าและบอกว่าหนูขอแรงหน่อยช่วยหนูด้วยจากนั้นก็ตื่น
(ปล.ก่อนหน้านั้นมีอาการคล้ายผีอำมา1รอบก่อนจะเจอเหตุการณ์นี้ค่ะ)
แบบนี้เรียกจิตปรุงแต่งในขณะหลับรึเปล่าคะ?

 

กินเยอะ หรือ กินขาด ธาตุกำเริบหรือป่าวครับ



พระพุทธเจ้า ตรัสถึงเหตุแห่งความฝันไว้ ๔ ประการ คือ

๑. เทพนิมิต เป็นความฝันที่เกิดจากดวงจิตด้านดีของคน ทำให้เกิดนิมิตด้านดี จิตดวงนี้ทำงานขณะหลับ เหตุการณ์ในความฝันจะออกมาเป็นเรื่องที่ดีๆ ผู้ฝันรู้สึกพึงพอใจ มีความสนุกสนาน หรือเบิกบานใจ บางครั้งให้ข้อคิดดีๆ ได้

บางครั้งเล่าเรื่องทั่วไป แต่เป็นด้านดี ที่เรียกว่า เทพนิมิต เพราะเป็นเรื่องดี ไม่ทำให้ตกใจ ศาสนาพุทธสอนให้เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม เทวดาจึงเป็นเพียงสัญลักษณ์แทนความดีงาม หรือสิ่งดีๆ ที่มนุษย์ทำนั่นเอง

๒. จิตนิวรณ์ เป็นความฝันขณะที่จิตถูกครอบงำด้วยสิ่งที่ปิดกั้นจิตไม่ให้บรรลุถึงความดี หลักมีอยู่ ๕ ประการ คือ ความพอใจรักใคร่ ความพยาบาท ความง่วง ความฟุ้งซ่าน และความลังเลตกลงใจไม่ได้ หลังจากฝันตื่นขึ้นมาทำให้รู้สึกเหนื่อย และไม่ต้องการจะฝันเช่นนั้นอีก

๓. ลางสังหรณ์ เป็นความฝันที่เกิดจากความกังวลล้วนๆ เมื่อกังวลเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือคิดถึงใคร หรือเรื่องใดเรื่องหนึ่ง อาจมีจิตผูกพันถึงคนนั้นหรือเรื่องนั้น อาจเป็นลางสังหรณ์ต่างๆ ได้ จริงบ้างไม่จริงบ้าง จึงไม่ควรยึดถือเป็นจริงเป็นจัง ควรทำความดี ดำเนินชีวิตตามทำนองคลองธรรม ความโชคดีมีความสุขจะเกิดเอง

๔. ธาตุกำเริบ เป็นความฝันเกิดจากความแปรปรวนในร่างกาย ซึ่งได้รับจากสภาพแวดล้อมจากอากาศที่ร้อนเกิน หนาวจัดบ้าง อาหารบ้าง อารมณ์บ้าง ทำให้ฝันได้หลายรูปแบบ อาจจะดีหรือร้ายก็ได้ หาความแน่นอนไม่ได้


::

 

***จิตปรุงแต่งครับ ไม่มีผีอำหรอกครับ เมื่อก่อนผมเป็นบ่อย (นอนทับเส้น)
ถ้าต้องการให้การนอนเป็นไปเพื่อสมาธิ ดูพระสูตรนี้ครับ..

การตั้งจิตก่อนนอน
อานนท์ ! ถ้าเมื่อภิกษุนั้น ..... จิตน้อมไปเพื่อ
การนอน ,
เธอก็ นอนด้วยการตั้งใจว่า
“บาปอกุศลธรรมทั้งหลาย กล่าวคือ
อภิชฌาและโทมนัส จักไม่ไหลไปตามเราผู้นอนอยู่
ด้วยอาการอย่างนี้” ดังนี้ :
ในกรณีอย่างนี้ ภิกษุนั้น ชื่อว่า เป็นผู้มีความ
รู้สึกตัวทั่วพร้อมในกรณีแห่งการนอนนั้น.
อุปริ. ม. ๑๔/๒๓๘/๓๔๘

 

เบื่อจิตปรุงแต่ง
ก็ปฏิบัติทางด้านอนุสติสิครับ