อยากเป็นเศรษฐีที่นาอยากเป็นราชาที่ดินอยากมีที่ทำกินอยู่อาศัย ต้องบูชา พระแม่ธรณีบีบ

อยากเป็นเศรษฐีที่นา อยากเป็นราชาที่ดิน อยากมีที่ทำกินอยู่อาศัย ต้องบูชา พระแม่ธรณีบีบมวยผม

พระแม่ธรณีรุ่น 1 หลวงพ่อทองดำ อินทฺวํโส

พระเมตตาอาคมขลังแห่งทุ่งทานตะวัน ศิษย์หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์เหนือ

ในโบราณกาลกล่าวไว้ว่า เมื่อครั้งพระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านได้ผจญกับเหล่าพวกพญามารทั้งหลาย พญามารได้ออกอุบายต่าง ๆ นานาเพื่อให้พระพุทธองค์ทรงเกิดกิเลสตัณหา แต่พระพุทธท่านทรงไม่ยินดี ยินร้ายต่อพวกเหล่ามาร ซึ่งในครั้งนั้นพระแม่ธรณีได้ทรงแสดงปาฏิหาริย์ปราบเหล่าพญามาร โดยทรงบีบมวยผมให้น้ำไหลออกมาท่วมพวกพญามารทั้งหลายให้พ่ายแพ้ไป



แต่ในปัจจุบันหลวงพ่อทองดำ อินทฺวํโส ได้จัดสร้างพระแม่ธรณีบีบมวยผมขึ้นเพื่อ มอบให้ศิษยานุศิษย์ได้บูชาเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจในการประกอบสัมมาอาชีพ ธุรกิจการงานต่าง ๆ เพื่อให้ระลึกถึงบุญคุณของท่านที่ได้มอบที่ดินให้เราได้อยู่อาศัย ทรงจัดสร้างเป็นศิลปะแบบโบราณบีบมวยผมด้านขวา เปรียบเสมือนการให้พร ให้มีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ดังที่ท่านหลวงพ่อทองดำ ได้ให้สุภาษิตไว้ว่า "อยากเป็นเศรษฐีที่นา อยากเป็นราชาที่ดิน อยากมีที่ทำกินอยู่อาศัย ต้องบูชา พระแม่ธรณีบีบมวยผม"ซึ่งได้ประกอบพิธีเททองหล่อและอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว 4 ครั้ง 4 วาระด้วยกัน ดังนี้

ครั้งที่ 1 เททองหล่อหน้าอุโบสถวัดถ้ำตะเพียนทองวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2546

ครั้งที่ 2 อฐิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส 3 เดือนเต็มบนกุฏิไม้

ครั้งที่ 3 พิธีเป่ายันต์นะเมตตามหาอุตม์ ในถ้ำตะเพียนทอง 2 พฤศจิกายน 2546

ครั้งที่ 4 พิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกในอุโบสถวัดถ้ำตะเพียนทอง วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2546

 

อยากได้ๆๆ

 

มีแจกรึเปล่า

 

ไหว้พระแม่ธรณีกันเถอะ

มีคาถาของหลวงพ่อกวยเพื่อบูชาพระแม่ธรณี ตั้งนะโม 3 จบ แล้วท่องว่า" โพ อะ วะ นิ ตะ ละ"
3 จบระลึกถึงพระพุทธเจ้าอับดับแรก และหลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม พระแม่ธรณีเป็นที่สุด แล้วอธิษฐานเอา ใช้ดีทางชนะคดีความที่ถูกคนกลั่นแกล้ง ชนะศรัตรู ดีนักแล

 

ตอน 1<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O></O>

ชาวไทยสมัยโบราณบูชา "แม่พระธรณี" เพื่อให้แผ่นดินมีความสงบสุขและร่วมเย็น เพราะในความเชื่อของคนโบราณนั้นเขาเชื่อว่า "แม่พระธรณี" คือเทพผู้คุ้มครองแผ่นดิน โดยถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อาจมีอยู่จริงหรือเป็นเพียงเรื่องเล่าตำนานของเทพที่ถูกกล่าวขานกันมาช้านาน<O></O>

<?XML:NAMESPACE PREFIX = V /><V:SHAPETYPE id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" oreferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"> <V:STROKE joinstyle="miter"></V:STROKE><V:FORMULAS><V:F eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></V:F><V:F eqn="sum @0 1 0"></V:F><V:F eqn="sum 0 0 @1"></V:F><V:F eqn="prod @2 1 2"></V:F><V:F eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></V:F><V:F eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></V:F><V:F eqn="sum @0 0 1"></V:F><V:F eqn="prod @6 1 2"></V:F><V:F eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></V:F><V:F eqn="sum @8 21600 0"></V:F><V:F eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></V:F><V:F eqn="sum @10 21600 0"></V:F></V:FORMULAS><VATH o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></VATH><O:LOCK aspectratio="t" v:ext="edit"></O:LOCK></V:SHAPETYPE><V:SHAPE id=_x0000_s1026 style="MARGIN-TOP: -0.25pt; Z-INDEX: 1; MARGIN-LEFT: 0px; WIDTH: 102pt; POSITION: absolute; HEIGHT: 151.5pt; mso-position-horizontal: left; mso-position-vertical: absolute" type="#_x0000_t75"><V:IMAGEDATA o:title=\"094\" src="./094YPRA585-094_files/image001.jpg"></V:IMAGEDATA><?XML:NAMESPACE PREFIX = W /><W:WRAP type="square"></W:WRAP></V:SHAPE>มาถึงวันนี้ได้มีบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงสังคมและธุรกิจกลุ่มหนึ่งออกมายืนยันและยอมรับความมีอยู่จริงของ "องค์แม่พระธรณี" ให้ลูกหลานไหทยได้รับทราบด้วย หนึ่งในนั้นคือคุณรัตนา มฤคพิทักษ์ ภรรยาของคุณประสารมฤคพิทักษ์ นักบรรยายและนักเขียนชื่อดังผู้ช่วยเหลืองงานสังคมส่วนรวมมากมาย การออกมาเปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้เป็นเพราะเธอต้องการจะเผยแพร่เรื่องราวและข้อเท็จจริงของ องค์แม่พระธรณี ที่เธอได้สัมผัสมา แม้บางครั้งอาจถูกมองว่ามีเจตนาหรือผลประโยชน์ที่แฝงเร้นหรืออาจจะถูกมองว่า เพี้ยน ไปบ้าง แต่คุณรัตนาก็มีความพร้อมที่จะต้อนรับปฏิกิริยาดังกล่าวอย่างไม่หวั่นไหว เพราะเธอรู้ดีว่า เธอกำลังทำอะไรและทำเพื่อใคร<O></O>

การที่คุณรัตนาได้มาสัมผัสกับความมีอยู่จริงของจิตวิญญาณของ องค์แม่พระธรณี นั้น แต่แรกเธอไม่เชื่อเลย แต่แล้วในที่สุดก็ต้องเปลี่ยนความคิด และผู้ที่ทำให้ต้องเปลี่ยนความคิดก็คือ องค์แม่พระธรณี นั่นเองที่เป็นผู้นำพาให้คุณรัตนารู้จักคำว่า ปาฏิหารย์มีจริง<O></O>

"เรื่องเกี่ยวกับวิญญาณเนี่ยพี่เคยสัมผัสมาระดับหนึ่ง คือสัมผัสกับวิญญาณของบุคคลที่เรารู้จักและสนิทจริงๆ ซึ่งเขาตายไปนานแล้วตั้งแต่ปี 2535 แต่วิญญาณเขามาหาพี่ตลอดจนกระทั่งบัดนี้ ขนาดพ่อแม่พี่เสียพี่ยังไม่เคยสัมผัสเลย และขนาดใช้ชีวิตอยู่ในป่า (สมัย 14 ตุลา เธอเป็นหนึ่งในนักศึกษาธรรมศาสตร์ที่เขาไปอยู่ในป่าด้วยอุดมหารณ์ทางการเมืองที่พักเราตั้งอยู่ข้างป่าช้าด้วยซ้ำแต่ไม่เคยเจอ แต่มาเจอวิญญาณของคนๆ นี้ทำให้เราเกิดความเชื่อว่า ในโลกนี้มีวิญญาณอยู่จริง แต่ตอนนั้นยังไม่เชื่อว่า แม่พระธรณีมีจริง"<O></O>

จนกระทั่วปลายปี 2539 ขึ้นปี 40 เธอก็ได้สัมผัสเทพอีกองค์หนึ่งคือ พ่อปู่ฤาษีตาไฟ<O></O>

"ที่จริงพี่ก็เคยสัมผัสกับร่างทรงในหลายๆ ครั้งเพราะมีน้องอยู่คนหนึ่งชอบชวนไปดูหมอ ดูเทพ เราก็ไปแต่บางทีเราไปเจอเขาเรียกห้าร้อย ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ของจริง บางครั้งโอเคอาจแม่นจริง แต่เรารู้สึกว่ามันไม่ตรงกับจริตของเรา พี่คิดว่าคนที่จะช่วยคนเนี่ยต้องไม่เรียกร้องสิ่งตอบแทน ยิ่งคนที่เขาไปหาเขาเดือดร้อนแต่ต้องเสียเงินถึงห้าร้อยอย่างนี้ มันก็ไม่ใช่คนที่ควรจะเข้าหา ไปครั้งเดียวเราก็เลิก แต่กับพ่อปู่ฤาษีตาไฟ นี่ไม่ใช่ พี่สัมผัสได้ว่านี่คือเทพจริงๆ คือเทพที่ลงมาช่วยมนุษย์โดยไม่เรียกร้อง พี่จึงศรัทธามาจนกระทั่งมาเจอคุณเจริญ รถจิราโสภณ ซึ่งรู้จักคุ้นเคยกันมาเป็นเวลานานแล้วได้นำพาให้พี่ไปสัมผัสกับองค์แม่พระธรณี"<O></O>

คุณเจริญ รุจิราโสภณ คือนักธุรกิจชื่อดังเจ้าของบริษัทอัตสาหกรรมอาหาร ส.ขอนแก่นที่ทำสินค้าประเภทหมูหยอง กุนเชียง ไส้กรอกอีสาน ฯลฯ ที่เรารู้จักกันดี คุณเจริญสนิทสนมกับครอบครัวคุณรัตนาและคุณประสารมากว่า 20 ปีแลเว ได้ติดต่อมายังคุณประสารสามีคุณรัตนาและบอกว่ามีนิ่งศักดิ์สิทธิ์คือ องค์แม่พระธรณี ซึ่งมีความห่วงใยปัญหาวิกฤติของประเทศไทยในยามนี้มาก อยากหาคนที่มีเลือดรักชาติเข้มข้นเพื่อมาช่วยงานและมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาและนำเรื่องราวของแม่ฯออกเผยแพร่แก่สาธารณชนด้วย นั่นจึงเป็นที่มาให้คุณรัตนาเข้ามามีส่วนร่วมและช่วยงานตรงนี้<O></O>

"ทีแรกที่ทราบว่า แม่พระธรณีมีจริง ก็ยังไม่เชื่อในทันทีเพราะคุณเจริญเองก็สัมผัสท่านผ่านน้องสาวคือคุณสุวรรณาอีกทีนึง ทำให้พี่ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่คุณสุวรรณาสื่อออกมาโดยการเชิญด้วย ถ้วย แก้ว เนี่ยใช่แม่พระธรณีจริงๆ รึเปล่า แต่พี่ก็เชื่อใจคุณเจริญ เพราะเขาเป็นคนดีอยู่ในศีลธรรมและเป็นคนต่อสู้ชีวิต และเห็นว่าสิ่งที่ แม่พระธรณีท่านต้องการให้ทำมันคือประโยชน์ของคนไทยทั้งแผ่นดิน ไม่ใช้เพื่อประโยชน์ของใครเลย และพี่คิดว่า พื้นดิน เป็นผู้ให้กำเนิดเรานะ ตั้งแต่เกิดจนตาย ตายนแล้วเราต้องกลับไปสู่ดิน แต่เรามองข้ามพื้นดินกันหมด คนที่ทำลายธรรมชาติคือคนที่ไม่เคารพ แม่พระธรณี เพราะท่านได้ให้กำเนิดธรรมชาติทั้งหมดและธรรมชาติมันเกื้อกูลชีวิตมนุษย์นะ ตอนนี้ทำไมถึงเกิดอุทกภัยแผ่นดินไหว ก็เพราะธรรมชาติถูกทำลายย่อยยับ ถ้าจะให้ทุกสิ่งกลับมาเหมือนเดิมต้องหยุดทำลายธรรมชาติ"<O></O>

<V:SHAPE id=_x0000_s1027 style="MARGIN-TOP: 22.2pt; Z-INDEX: 2; MARGIN-LEFT: 0px; WIDTH: 125.25pt; POSITION: absolute; HEIGHT: 105pt; mso-position-horizontal: left; mso-position-vertical: absolute" type="#_x0000_t75"> <V:IMAGEDATA o:title=\"095\" src="./094YPRA585-094_files/image002.jpg"></V:IMAGEDATA><W:WRAP type="square"></W:WRAP></V:SHAPE>คงต้องย้อนเล่าถึงที่มาที่ไปของคนกลุ่มนี้ว่า ทำไมถึงต้องมาทำงานร่วมกันเพื่อ แม่พระธรณี ซึ่งตรงนี้คุณรัตนาบอกว่า เป็นเพราะทุกคนเคยผูกพันรับใช้องค์แม่พระธรณี มาแต่อดีตชาติด้วยกันทั้งสิ้น และย้อนหลังความเป็นมาขององค์แม่พระธรณีนั้นเริ่มมาจาก เซียนดำ หรือนางเป๋งปั๊ก แซ่โล้ว (เสียชีวิตแล้วเมื่อปี 2538 ขณะอายุ 96 ปี) เป็นคนจีนโดยกำเนิด ท่านมีวิชาอาคม มีพลังจิตสูง สำเร็จวิชานั่งทางในมาจากกรึงปักกิ่ง หลังจากเรียนสำเร็จท่านผู้นี้ก็ได้เดินทางไปทั่วจีนแผ่นดินใหญ่ ครั้งหนึ่งได้เข้าไปในถ้ำและพบกับหญิงสาวนางหนึ่งซึ่งมีผมยาวสยายลงถึงพื้นดิน เธอผู้นั้นได้พูดกับเซียนดำว่า<O></O>

"ลูกหลานรู้จักแต่งแหวนหน้าดูฟ้าแต่ไม่กล้าก้มลงดูดิน ความจริงทุกสิ่งทุกอย่างของดีไม่ดีก็ลงสู่ดินทั้งหมด นาทีสุดท้ายใครก็รับไม่ได้ แม่รับไว้แต่เพียงผู้เดียว เซียนดำ รู้โดยจิตทันทีว่าร่างนั้นคือ องค์แม่พระธรณี มาสำแดงกายให้ประจักษ์ เมื่อมาเมืองไทย เซียนดำ ก็ได้เชิญแม่พระธรณี มาด้วยและพยายามที่จะเผยแพร่เรื่อง แม่พระฯว่ามีจิตวิญญาณอยู่จริงให้คนไทยรับรู้แต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่นัก"<O></O>

ชื่อเสียงของ "เซียนดำ" เคยเป็นข่าวดังในหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อราวปี พ.ศ. 2527 ขณะนั้นมีการก่อสร้างตึกโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ได้มีลูกคนงานก่อสร้างชื่อ ด.ญ.สร้อยเพชร บุญน้อย ตกลงไปในรูเสาเข็ม ทุกฝ่ายพยายามขุดค้นหานานกว่า 1 สัปดาห์แต่ไม่สามารถหาศพของหนูน้อยได้ เพราะไม่ทราบว่าตกลงไปในรูเสาเข็มต้นไหน ร้อนถึง แม่พระธรณีซึ่งรับศพเด็กไว้ในอ้อมอก จึงมอบหมายให้เซียนดำไปช่วยชี้จุดโดยมีคุณเจริญช่วยประสานงานกับตำรวจดับเพลิง ผลปรากฏว่า เซียนดำ ชี้จุดได้ถูกต้อง ชื่อเสียงของ เซียนดำ จึงเป็นที่รู้จักและยอมรับแต่นั้นมา<O></O>

เซียนดำ เป็นที่เคารพนับถือของคุณสุวรรณา สมบัติจินดา น้องสาวคุณเจริญเป็นอย่างยิ่งและยังได้ถ่ายทอดวิธีการเชิญ แม่พระธรณี ให้คุณสุวรรณาด้วย ที่สำคัญพอเชิญท่านมาได้ในครั้งแรกนั้น ท่านก็ต้องการพบคุณเจริญทันที เพราะองค์แม่พระธรณีนั้นทราบว่าครอบครัวของคุณเจริญต้องอาถรรพ์อันสืบเนื่องมาจากฮวงจุ้ยของบรรพบุรุษที่เมืองจีนทำไว้ไม่ถูกต้องจึงมีผลสืบมาถึงลูกหลานที่เป็นผู้ชายจะต้องเสียชีวิตเมื่ออายุ 36 และ 39 ปีทุกคน และคุณเจริญก็ต้องเป็นไปตามกฏเกณฑ์ดังหล่าวคือจะต้องเสียชีวิตตอนอายุ 39 แต่เพราะ แม่พระธรณีท่านต้องการให้คุณเจริญมามีส่วนร่วมช่วยงานท่านแก้ปัญหาวิกฤชาติจึงบอกให้คุณเจริญไปบวช ครั้งนั้นคุณเจริญยอมเชื่อเพราะว่าคุณสุวรรณาน้องสาวคุณเจริญแท้ๆ เป็นผู้ทำการอัญเชิญพระแม่ธรณีในขณะที่เชิญและคุยกับ แม่พระธรณีอยู่นั้น วิญญาณของพ่อและพี่ชายคุณเจริญได้เข้ามาคุยด้วย (โดยการสื่อด้วยแก้ว) มีอะไรหลายอย่างที่เกี่ยวกับพ่อและพี่ชายที่คุณเจริญได้พิสูจน์จนแน่ใจว่าใช่จึงยอมเชื่อในองค์แม่ฯและยอมบวช คุณเจริญจึงผ่านอาถรรพ์อายุ 39 มาได้จนขณะนี้อายุล่วงเข้า 52 ปีแล้ว<O></O>

หลังจากนั้นก็ยังมีสิ่งที่ทำให้คุณเจริญยิ่งเชื่อมั่นใน องค์แม่พระธรณีมากขึ้น เพราะท่านมาเตือนในเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมืองในอนาคต ซึ่งขณะที่เตือนนั้นสภาพบ้านเมืองยังเป็นปกติ โดยคุณเจริญได้เล่าให้คุณรัตนาฟังว่าแม่พระธรณี ได้เตือนมาตลอดเวลาอีกไม่กี่ปีจะเกิดกรณีธนาคารล้ม เศรษฐกิจจะเสียหายหนักและไม่ได้เป็นเฉพาะเมืองไทยแต่จะเป็นทั้งภูมิภาค ดังนั้นให้ระมัดระวังอย่างลงทุนมาก อย่าขยายตัวทางธรกิจเร็ว ต้องยั้งมือเอาไว้มิฉะนั้นจะเดือดร้อนหนัก คุณเจริญก็ไม่เชื่อเพราะเมื่อ 7-8 ปีก่อนเศรษฐกิจดีมาก ไม่มีใครคิดว่าเศรษบกิจจะทรุดเพราะทำอะไรมันก็ดีไปหมด พอมาถึงวันนี้คุณเจริญได้บรรลุถึงความจริงที่แม่พระธรณี ท่านเตือนไว้แล้วว่าถ้าเชื่อแม่ฯ มาแต่ต้นธุรกิจของเขาก็จะเสียหายน้อยกว่านี้ เดี๋ยวนี้ขายของได้แต่เก็บเงินไม่ได้ ธุรกิจบางอย่างล้มเหลว เงินกู้จากต่างประเทศประเทศก็ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นมากเพราะเงินลดค่าลงไป<O></O>

คุณรัตนาเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับธุรกิจของคุณเจริญต่อว่า<O></O>

"เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับธุรกิจของคุณเจริญอันเป็นเรื่องค่อนข้างแปลกและหาสาเหตุไม่ได้ในตอนต้นอีกเรื่องหนึ่งก็คือเนื่องจากบริษัทอุตสาหกรรมอาหาร ส.ขอนแก่นของคุณเจริญนั้นเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับอาหารและต้องใช้วัตถุดิบจากเนื้อสุกรเป็นหลัก ดังนั้นทางบริษัทจึงมีฟาร์มเลี้ยงสุกรพันธุ์อยู่ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี และในปีนั้นสุกรพันธุ์ที่เลี้ยงไว้ก็ล้มตายอย่างมากมายตลอดทั้งปีโดยหาสาเหตุไม่พบ มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท คุณเจริญจึงเชิญแม่พระธรณีเพื่อถามแม่ฯบอกว่าเป็นเพราะปีศาจที่ทางฟาร์มตั้งศาลให้อยู่นั่นแหละที่กินชีวิตสุกรพันธุ์แม่พระธรณี อธิบายว่าเป็นเพราะลืมเซ่นสังเวยอาหารแก่บรรดารูปสักการะ ทีนี้พวกปีศาจที่แฝงอยู่ในรูปสักการะทั้งหลายจึงหันมาเล่นงานสัตว์เป็นๆ แต่นั้นมาคุณเจริญจึงให้คนไปเชิญรูปสักการะนั้นออกไปไว้ที่อื่น และหลังจากนั้นก็ไม่เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นอีกเลย"<O></O>

คุณรัตนาเล่าว่าการที่แม่พระธรณีจะมาสื่อกับมนุษย์ได้ต้องผ่านทางคุณสุวรรณาเท่านั้น และคุณสุวรรณาก็ไม่ใช่ร่างทรงอย่างที่เข้าใจ เธอเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งและวิธีการเชิญก็โดยการใช้ถ้วย แบบผีถ้วยแก้วและเมื่อพระแม่ธรณีท่านมาแล้วถ้วยจะเคลื่อนไปตามอักษรผสมคำออกมาเร็วมาก และแม่พระธรณีท่านจะสื่อสารเฉพาะเรื่องของชาติบ้านเมืองเท่านั้น เรื่องอื่นอย่างได้ไปถาม ไม่ใช่ท่านไม่รู้แต่ท่านบกอว่าเรื่องของชาติบ้านเมืองต้องมาก่อน และที่ท่านมานี่ก็เพราะยุคนี้ถือเป็นยุคสุดท้ายของเทพ เทพจะลงมาช่วยกันเยอะ มนุษย์ไม่ต้องต่อสู่ด้วยตัวเองเหมือนที่ผ่านมา "แม่พระธรณีท่านมาเพื่อล้างแผ่นเดิน เพื่อให้ปัญหาวิกฤตของชาติทั้งหมดเบาบางลง ทั้งยังจะเปิดขุมทรัพย์ของแผ่นดินอันมีค่ามหาศาล ณ สถานที่แห่งหนึ่งในประเทศไทยเพื่อช่วยล้างหนี้ให้ลูกหลานไทยด้วย"<O></O>

 

ถึงกาลเวลาวาระกรรมมาถึง ไม่สามารถมีสิ่งใดมากางกั้นปกป้องเราได้ครับ ทุกสิ่งในโลก ไม่แน่นอน มีความแปรผันไปตามเหตุตามกาลของมันครับ อย่าไปยึดติดให้มากครับ สิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายอาจช่วยได้ในบางกาลครับ แต่อย่าลืมเราเองคือที่พึ่งของเราครับ เราอยู่ตามกรรมไปตามกรรมเช่นกันครับ จงเร่งสร้างสิ่งที่เป็นที่พึ่งให้กับตนเองเถิดครับ สร้างกุศลจะได้พึ่งในกาลนี้และกาลหน้า
<!-- / message -->

 

ผมมักจะไปไหว้พระแม่ธรณี ทุกครั้งที่ผมไปวัดพระแก้ว มีภาพที่ได้รับแจก มาให้ชมครับ....

 

ตอน 1

ชาวไทยสมัยโบราณบูชา "แม่พระธรณี" เพื่อให้แผ่นดินมีความสงบสุขและร่วมเย็น เพราะในความเชื่อของคนโบราณนั้นเขาเชื่อว่า "แม่พระธรณี" คือเทพผู้คุ้มครองแผ่นดิน โดยถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อาจมีอยู่จริงหรือเป็นเพียงเรื่องเล่าตำนานของเทพที่ถูกกล่าวขานกันมาช้านาน
มาถึงวันนี้ได้มีบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงสังคมและธุรกิจกลุ่มหนึ่งออกมายืนยันและยอมรับความมีอยู่จริงของ "องค์แม่พระธรณี" ให้ลูกหลานไหทยได้รับทราบด้วย หนึ่งในนั้นคือคุณรัตนา มฤคพิทักษ์ ภรรยาของคุณประสารมฤคพิทักษ์ นักบรรยายและนักเขียนชื่อดังผู้ช่วยเหลืองงานสังคมส่วนรวมมากมาย การออกมาเปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้เป็นเพราะเธอต้องการจะเผยแพร่เรื่องราวและข้อเท็จจริงของ องค์แม่พระธรณี ที่เธอได้สัมผัสมา แม้บางครั้งอาจถูกมองว่ามีเจตนาหรือผลประโยชน์ที่แฝงเร้นหรืออาจจะถูกมองว่า เพี้ยน ไปบ้าง แต่คุณรัตนาก็มีความพร้อมที่จะต้อนรับปฏิกิริยาดังกล่าวอย่างไม่หวั่นไหว เพราะเธอรู้ดีว่า เธอกำลังทำอะไรและทำเพื่อใคร
การที่คุณรัตนาได้มาสัมผัสกับความมีอยู่จริงของจิตวิญญาณของ องค์แม่พระธรณี นั้น แต่แรกเธอไม่เชื่อเลย แต่แล้วในที่สุดก็ต้องเปลี่ยนความคิด และผู้ที่ทำให้ต้องเปลี่ยนความคิดก็คือ องค์แม่พระธรณี นั่นเองที่เป็นผู้นำพาให้คุณรัตนารู้จักคำว่า ปาฏิหารย์มีจริง
"เรื่องเกี่ยวกับวิญญาณเนี่ยพี่เคยสัมผัสมาระดับหนึ่ง คือสัมผัสกับวิญญาณของบุคคลที่เรารู้จักและสนิทจริงๆ ซึ่งเขาตายไปนานแล้วตั้งแต่ปี 2535 แต่วิญญาณเขามาหาพี่ตลอดจนกระทั่งบัดนี้ ขนาดพ่อแม่พี่เสียพี่ยังไม่เคยสัมผัสเลย และขนาดใช้ชีวิตอยู่ในป่า (สมัย 14 ตุลา เธอเป็นหนึ่งในนักศึกษาธรรมศาสตร์ที่เขาไปอยู่ในป่าด้วยอุดมหารณ์ทางการเมืองที่พักเราตั้งอยู่ข้างป่าช้าด้วยซ้ำแต่ไม่เคยเจอ แต่มาเจอวิญญาณของคนๆ นี้ทำให้เราเกิดความเชื่อว่า ในโลกนี้มีวิญญาณอยู่จริง แต่ตอนนั้นยังไม่เชื่อว่า แม่พระธรณีมีจริง"
จนกระทั่วปลายปี 2539 ขึ้นปี 40 เธอก็ได้สัมผัสเทพอีกองค์หนึ่งคือ พ่อปู่ฤาษีตาไฟ
"ที่จริงพี่ก็เคยสัมผัสกับร่างทรงในหลายๆ ครั้งเพราะมีน้องอยู่คนหนึ่งชอบชวนไปดูหมอ ดูเทพ เราก็ไปแต่บางทีเราไปเจอเขาเรียกห้าร้อย ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ของจริง บางครั้งโอเคอาจแม่นจริง แต่เรารู้สึกว่ามันไม่ตรงกับจริตของเรา พี่คิดว่าคนที่จะช่วยคนเนี่ยต้องไม่เรียกร้องสิ่งตอบแทน ยิ่งคนที่เขาไปหาเขาเดือดร้อนแต่ต้องเสียเงินถึงห้าร้อยอย่างนี้ มันก็ไม่ใช่คนที่ควรจะเข้าหา ไปครั้งเดียวเราก็เลิก แต่กับพ่อปู่ฤาษีตาไฟ นี่ไม่ใช่ พี่สัมผัสได้ว่านี่คือเทพจริงๆ คือเทพที่ลงมาช่วยมนุษย์โดยไม่เรียกร้อง พี่จึงศรัทธามาจนกระทั่งมาเจอคุณเจริญ รถจิราโสภณ ซึ่งรู้จักคุ้นเคยกันมาเป็นเวลานานแล้วได้นำพาให้พี่ไปสัมผัสกับองค์แม่พระธรณี"
คุณเจริญ รุจิราโสภณ คือนักธุรกิจชื่อดังเจ้าของบริษัทอัตสาหกรรมอาหาร ส.ขอนแก่นที่ทำสินค้าประเภทหมูหยอง กุนเชียง ไส้กรอกอีสาน ฯลฯ ที่เรารู้จักกันดี คุณเจริญสนิทสนมกับครอบครัวคุณรัตนาและคุณประสารมากว่า 20 ปีแลเว ได้ติดต่อมายังคุณประสารสามีคุณรัตนาและบอกว่ามีนิ่งศักดิ์สิทธิ์คือ องค์แม่พระธรณี ซึ่งมีความห่วงใยปัญหาวิกฤติของประเทศไทยในยามนี้มาก อยากหาคนที่มีเลือดรักชาติเข้มข้นเพื่อมาช่วยงานและมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาและนำเรื่องราวของแม่ฯออกเผยแพร่แก่สาธารณชนด้วย นั่นจึงเป็นที่มาให้คุณรัตนาเข้ามามีส่วนร่วมและช่วยงานตรงนี้
"ทีแรกที่ทราบว่า แม่พระธรณีมีจริง ก็ยังไม่เชื่อในทันทีเพราะคุณเจริญเองก็สัมผัสท่านผ่านน้องสาวคือคุณสุวรรณาอีกทีนึง ทำให้พี่ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่คุณสุวรรณาสื่อออกมาโดยการเชิญด้วย ถ้วย แก้ว เนี่ยใช่แม่พระธรณีจริงๆ รึเปล่า แต่พี่ก็เชื่อใจคุณเจริญ เพราะเขาเป็นคนดีอยู่ในศีลธรรมและเป็นคนต่อสู้ชีวิต และเห็นว่าสิ่งที่ แม่พระธรณีท่านต้องการให้ทำมันคือประโยชน์ของคนไทยทั้งแผ่นดิน ไม่ใช้เพื่อประโยชน์ของใครเลย และพี่คิดว่า พื้นดิน เป็นผู้ให้กำเนิดเรานะ ตั้งแต่เกิดจนตาย ตายนแล้วเราต้องกลับไปสู่ดิน แต่เรามองข้ามพื้นดินกันหมด คนที่ทำลายธรรมชาติคือคนที่ไม่เคารพ แม่พระธรณี เพราะท่านได้ให้กำเนิดธรรมชาติทั้งหมดและธรรมชาติมันเกื้อกูลชีวิตมนุษย์นะ ตอนนี้ทำไมถึงเกิดอุทกภัยแผ่นดินไหว ก็เพราะธรรมชาติถูกทำลายย่อยยับ ถ้าจะให้ทุกสิ่งกลับมาเหมือนเดิมต้องหยุดทำลายธรรมชาติ"
คงต้องย้อนเล่าถึงที่มาที่ไปของคนกลุ่มนี้ว่า ทำไมถึงต้องมาทำงานร่วมกันเพื่อ แม่พระธรณี ซึ่งตรงนี้คุณรัตนาบอกว่า เป็นเพราะทุกคนเคยผูกพันรับใช้องค์แม่พระธรณี มาแต่อดีตชาติด้วยกันทั้งสิ้น และย้อนหลังความเป็นมาขององค์แม่พระธรณีนั้นเริ่มมาจาก เซียนดำ หรือนางเป๋งปั๊ก แซ่โล้ว (เสียชีวิตแล้วเมื่อปี 2538 ขณะอายุ 96 ปี) เป็นคนจีนโดยกำเนิด ท่านมีวิชาอาคม มีพลังจิตสูง สำเร็จวิชานั่งทางในมาจากกรึงปักกิ่ง หลังจากเรียนสำเร็จท่านผู้นี้ก็ได้เดินทางไปทั่วจีนแผ่นดินใหญ่ ครั้งหนึ่งได้เข้าไปในถ้ำและพบกับหญิงสาวนางหนึ่งซึ่งมีผมยาวสยายลงถึงพื้นดิน เธอผู้นั้นได้พูดกับเซียนดำว่า"ลูกหลานรู้จักแต่งแหวนหน้าดูฟ้าแต่ไม่กล้าก้มลงดูดิน ความจริงทุกสิ่งทุกอย่างของดีไม่ดีก็ลงสู่ดินทั้งหมด นาทีสุดท้ายใครก็รับไม่ได้ แม่รับไว้แต่เพียงผู้เดียว เซียนดำ รู้โดยจิตทันทีว่าร่างนั้นคือ องค์แม่พระธรณี มาสำแดงกายให้ประจักษ์ เมื่อมาเมืองไทย เซียนดำ ก็ได้เชิญแม่พระธรณี มาด้วยและพยายามที่จะเผยแพร่เรื่อง แม่พระฯว่ามีจิตวิญญาณอยู่จริงให้คนไทยรับรู้แต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่นัก"ชื่อเสียงของ "เซียนดำ" เคยเป็นข่าวดังในหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อราวปี พ.ศ. 2527 ขณะนั้นมีการก่อสร้างตึกโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ได้มีลูกคนงานก่อสร้างชื่อ ด.ญ.สร้อยเพชร บุญน้อย ตกลงไปในรูเสาเข็ม ทุกฝ่ายพยายามขุดค้นหานานกว่า 1 สัปดาห์แต่ไม่สามารถหาศพของหนูน้อยได้ เพราะไม่ทราบว่าตกลงไปในรูเสาเข็มต้นไหน ร้อนถึง แม่พระธรณีซึ่งรับศพเด็กไว้ในอ้อมอก จึงมอบหมายให้เซียนดำไปช่วยชี้จุดโดยมีคุณเจริญช่วยประสานงานกับตำรวจดับเพลิง ผลปรากฏว่า เซียนดำ ชี้จุดได้ถูกต้อง ชื่อเสียงของ เซียนดำ จึงเป็นที่รู้จักและยอมรับแต่นั้นมาเซียนดำ เป็นที่เคารพนับถือของคุณสุวรรณา สมบัติจินดา น้องสาวคุณเจริญเป็นอย่างยิ่งและยังได้ถ่ายทอดวิธีการเชิญ แม่พระธรณี ให้คุณสุวรรณาด้วย ที่สำคัญพอเชิญท่านมาได้ในครั้งแรกนั้น ท่านก็ต้องการพบคุณเจริญทันที เพราะองค์แม่พระธรณีนั้นทราบว่าครอบครัวของคุณเจริญต้องอาถรรพ์อันสืบเนื่องมาจากฮวงจุ้ยของบรรพบุรุษที่เมืองจีนทำไว้ไม่ถูกต้องจึงมีผลสืบมาถึงลูกหลานที่เป็นผู้ชายจะต้องเสียชีวิตเมื่ออายุ 36 และ 39 ปีทุกคน และคุณเจริญก็ต้องเป็นไปตามกฏเกณฑ์ดังหล่าวคือจะต้องเสียชีวิตตอนอายุ 39 แต่เพราะ แม่พระธรณีท่านต้องการให้คุณเจริญมามีส่วนร่วมช่วยงานท่านแก้ปัญหาวิกฤชาติจึงบอกให้คุณเจริญไปบวช ครั้งนั้นคุณเจริญยอมเชื่อเพราะว่าคุณสุวรรณาน้องสาวคุณเจริญแท้ๆ เป็นผู้ทำการอัญเชิญพระแม่ธรณีในขณะที่เชิญและคุยกับ แม่พระธรณีอยู่นั้น วิญญาณของพ่อและพี่ชายคุณเจริญได้เข้ามาคุยด้วย (โดยการสื่อด้วยแก้ว) มีอะไรหลายอย่างที่เกี่ยวกับพ่อและพี่ชายที่คุณเจริญได้พิสูจน์จนแน่ใจว่าใช่จึงยอมเชื่อในองค์แม่ฯและยอมบวช คุณเจริญจึงผ่านอาถรรพ์อายุ 39 มาได้จนขณะนี้อายุล่วงเข้า 52 ปีแล้วหลังจากนั้นก็ยังมีสิ่งที่ทำให้คุณเจริญยิ่งเชื่อมั่นใน องค์แม่พระธรณีมากขึ้น เพราะท่านมาเตือนในเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมืองในอนาคต ซึ่งขณะที่เตือนนั้นสภาพบ้านเมืองยังเป็นปกติ โดยคุณเจริญได้เล่าให้คุณรัตนาฟังว่าแม่พระธรณี ได้เตือนมาตลอดเวลาอีกไม่กี่ปีจะเกิดกรณีธนาคารล้ม เศรษฐกิจจะเสียหายหนักและไม่ได้เป็นเฉพาะเมืองไทยแต่จะเป็นทั้งภูมิภาค ดังนั้นให้ระมัดระวังอย่างลงทุนมาก อย่าขยายตัวทางธรกิจเร็ว ต้องยั้งมือเอาไว้มิฉะนั้นจะเดือดร้อนหนัก คุณเจริญก็ไม่เชื่อเพราะเมื่อ 7-8 ปีก่อนเศรษฐกิจดีมาก ไม่มีใครคิดว่าเศรษบกิจจะทรุดเพราะทำอะไรมันก็ดีไปหมด พอมาถึงวันนี้คุณเจริญได้บรรลุถึงความจริงที่แม่พระธรณี ท่านเตือนไว้แล้วว่าถ้าเชื่อแม่ฯ มาแต่ต้นธุรกิจของเขาก็จะเสียหายน้อยกว่านี้ เดี๋ยวนี้ขายของได้แต่เก็บเงินไม่ได้ ธุรกิจบางอย่างล้มเหลว เงินกู้จากต่างประเทศประเทศก็ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นมากเพราะเงินลดค่าลงไป
คุณรัตนาเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับธุรกิจของคุณเจริญต่อว่า"เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับธุรกิจของคุณเจริญอันเป็นเรื่องค่อนข้างแปลกและหาสาเหตุไม่ได้ในตอนต้นอีกเรื่องหนึ่งก็คือเนื่องจากบริษัทอุตสาหกรรมอาหาร ส.ขอนแก่นของคุณเจริญนั้นเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับอาหารและต้องใช้วัตถุดิบจากเนื้อสุกรเป็นหลัก ดังนั้นทางบริษัทจึงมีฟาร์มเลี้ยงสุกรพันธุ์อยู่ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี และในปีนั้นสุกรพันธุ์ที่เลี้ยงไว้ก็ล้มตายอย่างมากมายตลอดทั้งปีโดยหาสาเหตุไม่พบ มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท คุณเจริญจึงเชิญแม่พระธรณีเพื่อถามแม่ฯบอกว่าเป็นเพราะปีศาจที่ทางฟาร์มตั้งศาลให้อยู่นั่นแหละที่กินชีวิตสุกรพันธุ์แม่พระธรณี อธิบายว่าเป็นเพราะลืมเซ่นสังเวยอาหารแก่บรรดารูปสักการะ ทีนี้พวกปีศาจที่แฝงอยู่ในรูปสักการะทั้งหลายจึงหันมาเล่นงานสัตว์เป็นๆ แต่นั้นมาคุณเจริญจึงให้คนไปเชิญรูปสักการะนั้นออกไปไว้ที่อื่น และหลังจากนั้นก็ไม่เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นอีกเลย"
คุณรัตนาเล่าว่าการที่แม่พระธรณีจะมาสื่อกับมนุษย์ได้ต้องผ่านทางคุณสุวรรณาเท่านั้น และคุณสุวรรณาก็ไม่ใช่ร่างทรงอย่างที่เข้าใจ เธอเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งและวิธีการเชิญก็โดยการใช้ถ้วย แบบผีถ้วยแก้วและเมื่อพระแม่ธรณีท่านมาแล้วถ้วยจะเคลื่อนไปตามอักษรผสมคำออกมาเร็วมาก และแม่พระธรณีท่านจะสื่อสารเฉพาะเรื่องของชาติบ้านเมืองเท่านั้น เรื่องอื่นอย่างได้ไปถาม ไม่ใช่ท่านไม่รู้แต่ท่านบกอว่าเรื่องของชาติบ้านเมืองต้องมาก่อน และที่ท่านมานี่ก็เพราะยุคนี้ถือเป็นยุคสุดท้ายของเทพ เทพจะลงมาช่วยกันเยอะ มนุษย์ไม่ต้องต่อสู่ด้วยตัวเองเหมือนที่ผ่านมา "แม่พระธรณีท่านมาเพื่อล้างแผ่นเดิน เพื่อให้ปัญหาวิกฤตของชาติทั้งหมดเบาบางลง ทั้งยังจะเปิดขุมทรัพย์ของแผ่นดินอันมีค่ามหาศาล ณ สถานที่แห่งหนึ่งในประเทศไทยเพื่อช่วยล้างหนี้ให้ลูกหลานไทยด้วย"