อริยสัจสี่ ในไพ่ยิปซี อัปบทความสอนไพ่ อัปเดท ดวงประจำเดือนสิงหาคม

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย apisab, 3 ธันวาคม 2010.

  1. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    ภาพงานสอน บรรยากาศสนุกสนานตามประสา

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  2. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    วันนั้นสอนกันไป ปฏิบัิติ ร่วม 4 ชม แต่รู้สึกว่าไม่พอ ครั้งหน้า จะมีปิรามิตแจก ครั้งต่อไปเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบกันครับ
     
  3. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    [​IMG]



    ซีส(cyst)

    คราวนี้เรามาดูดวงบ้างเกี่ยวกับโรคนี้
    ผมพยากรณ์ลูกค้าว่าลูกค้ามีโอกาสเป็นซีส และแนะนำวิธีตรวจเบื้องต้น ลูกค้าตรวจพบและไปพบแพทย์ผ่าตัดรักษา

    ซีสเต้านม คืออะไรกันแน่ รศ.นพ.อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์
    คำว่า ซีสเต้านม มาจากศัพท์ภาษาอังกฤษของโรค หรือภาวะการเปลี่ยนแปลงของเต้านม ที่เรียกว่า "Fibrocystic change" หรือ "Fibrocystic disease" ครับ ที่เรียกกัน 2 แบบ แต่ก็เป็นเรื่องเดียวกัน ก็เพราะว่า ภาวะ fibrocystic นั้นไม่ใช่โรค แต่ในสมัยก่อนเรียกกันว่าเป็นโรคจนติดปากครับ
    คำว่า fibrocystic(ไฟ-โบร-ซีส-ติค) เป็นภาวะที่เกิดมี ซีส(cyst) หรือทิ่แปลตรงตัวจากภาษาอังกฤษ เป็นภาษาไทยว่า ถุงน้ำครับ
    ในความเข้าใจของคนทั่วไป การมีก้อนอะไรที่เต้านม ก็เรียกว่า ซีส หมด ซึ่งอาจจะไม่ถูกนะครับ เพราะที่ว่าเป็นซีส นั้น หากไม่ได้รับการยืนยันจากแพทย์ อาจไม่ใช่ซีส ตามความหมายทางการแพทย์ อาจเป็นเนื้องอกหรือมะเร็งก็ได้ครับ ดังนั้น เมื่อมีใครเล่าให้ฟังว่าเป็น ซีสเต้านม ก็ควรจะถามยืนยันว่า หมอบอกว่าเป็นซีสหรือเปล่าครับ

    ซีสเต้านม เหมือนหรือต่างกับซีสตามตัวที่อื่นหรือไม่?
    อวัยวะอื่นก็มีซีสได้ "ซีส" หมายถึง พยาธิสภาพที่เกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกายนับแต่ผิวหนังลงไป จนถึงอวัยวะภายใน เมื่อใดก็ตามมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเกิดเป็นถุงขึ้น ก็เรียกว่า ซีส ข้างในซีส อาจจะมีส่วนประกอบเป็นน้ำ หรือ สารหลั่งจากต่อมของร่างกาย ขนาดของซีสอาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า หรืออาจมองเห็น คลำได้ ซีสไม่ใช่เนื้องอก ส่วนใหญ่จะไม่เกี่ยวข้องกับมะเร็งครับ
    ซีสส่วนใหญ่ที่เรารู้จัก คือ ซีสที่ผิวหนัง ซึ่งปรากฏบนผิวหนังเป็นก้อนเล็กๆ และอาจจะมีลักษณะค่อนไปทางนูนๆ และบางครั้งมองไปแล้วเหมือนข้าวสุกที่เราบด หรือเรียกว่าฝีข้าวสุก ฝีข้าวสาร มักจะเกิดจากกันอุดตัดของต่อมไขมันที่ผิวหนัง ทำให้มีขี้ไคลสะสมอยู่ภายในถุงซีสนั้นครับ
    ส่วนซีสที่เต้านม เป็นภาวะที่น้ำขังอยู่ในเนื้อเต้านม อยู่กันเป็นหย่อมๆ ทำให้เวลาตรวจดูจะพบเป็นถุงน้ำ หรือ เมื่อคลำจากภายนอก ก็ได้เป็นก้อนในเนื้อนม เล็กบ้างใหญ่บ้างครับ

    สาเหตุของซีสที่เกิดขึ้นบริเวณเต้านมมาจากสาเหตุใด?
    สาเหตุที่แท้จริงบอกไม่ได้ อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับภาวะการเปลี่ยนแปลงต่อมเต้านมในร่างกาย มีน้ำเข้าไปสะสมอยู่ในเนื้อเต้านม รวมตัวเป็นถุงน้ำ สิ่งเหล่านี้มี การควบคุมโดยฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมน "เอสโตรเจน" ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงมีอยู่ เป็นจำนวนมาก เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนเหล่านี้มีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเต้านม และในที่สุดก็เป็นซีส มักจะพบว่า ซีสโตขึ้น และพบซีสได้บ่อยขึ้นในช่วงที่ประจำเดือนใกล้จะมา และซีสจะเล็กลง เมื่อประจำเดือนมาแล้ว
    ลักษณะผิดปกติที่พอจะสังเกตได้ คนที่เป็นซีสที่เต้านม อาจมีจะมีปัญหาปวดบริเวณเต้านม อาจจะเจ็บหรือปวดเนื่องจากน้ำในซีส ดันเนื้อนมรอบข้าง ทำให้เต้านมตึง จึงเกิดอาการปวด และบางครั้งอาจจะคลำ พบก้อนที่เต้านมด้วยก็ได้ ก้อนที่เต้านม อาจมีได้หลายตำแหน่ง และอาจโตๆ ยุบๆ
    ซีสเนื้อกับซีสน้ำ "ซีส" โดยทั่วไปจะเป็นถุงน้ำ จะโตๆ ยุบๆ และสามารถยุบหายจนสนิทได้ แต่ในบางตำแหน่งของเต้านมที่เกิดซีสบ่อยๆ อาจมีการอักเสบของเนื้อนม และเกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อนม จนกลายเป็นก้อนเนื้อได้ เรียกว่า ซีสเนื้อ

    รู้ได้อย่างไรว่าเป็นซีส
    ก้อนที่เต้านมที่เป็นซีสจะโต ๆ ยุบๆ ตามรอบเดือน มะเร็งมักจะโตขึ้นเรื่อยๆ ซีสมักจะเจ็บ มะเร็งมักจะไม่เจ็บ ซีสมักจะนุ่มๆ หยุ่นๆ มะเร็งมักจะแข็ง ลักษณะดังกล่าวพบจะบอกได้คร่าวๆ ว่าเป็นซีส หรือ เป็นมะเร็ง
    การตรวจอื่นๆ ที่พอจะบอกได้ว่าเป็นซีส หรือ ก้อนเนื้อ ก็คือ การตรวจด้วยอัลตราซาวด์ ซึ่งจะบอกได้ว่าก้อนที่ตรวจพบเป็นน้ำ หรือ เป็นเนื้อ อีกวิธีหนึ่งก็คือ การใช้เข็มฉีดยา เจาะดู หากเป็นซีสน้ำจะได้น้ำออกมา และก้อนยุบหายไป
    เป็นซีสแล้ว จะกลายเป็นมะเร็งเต้านมหรือไม่ ซีสเต้านม ส่วนใหญ่จะไม่กลายเป็นมะเร็งเต้านม มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่ซีสที่เกิดขึ้นมีความผิดปกติ ตั้งแต่ต้น ที่มีลักษณะเป็นมะเร็งเต้านม การจะทราบได้หรือไม่ว่า ซีสที่เป็นนั้น มีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นหรือไม่ ที่แน่นอนจะต้องได้รับการตัดชิ้นเนื้อเพื่อพิสูจน์ แต่โดยทั่วไป แพทย์สามารถบอกได้ว่า ลักษณะของซีสที่เกิดขึ้น ส่อเค้าว่าจะเป็นมะเร็งหรือไม่

    เมื่อไร เป็นซีส และไม่ต้องผ่าตัด
    การพบก้อนที่เต้านม หากแพทย์แน่ใจว่าว่าเป็นซีส เช่น พบว่าเป็นซีสน้ำ จากการเจาะดูด หรือ จากการตรวจอัลตราซาวด์, ก้อนซีสที่ยุบลงได้เอง ซึ่งจัดในกลุ่มที่ไม่ใช่มะเร็ง จะไม่ต้องผ่าตัด แต่หาก ซีสที่พบมีส่วนที่เป็นเนื้อปนอยู่ หรือเป็นซีสเนื้อ แพทย์จะพยายามพิสูจน์ว่าก้อนที่พบนั้นเป็นมะเร็งหรือไม่ หากไม่สามารถยืนยันได้ว่าไม่ใช่มะเร็ง แพทย์จะแนะนำให้ผ่าตัดเพื่อพิสูจน์ชิ้นเนื้อจะด้วยการผ่าตัด หรือ ด้วยการเจาะเนื้อดูก็ได้
    ดังนั้น หากรู้แน่ว่าเป็นซีส ก็ไม่ต้องผ่าตัด แต่หากไม่แน่ใจ แพทย์จะพยายามพิสูจน์ให้รู้ว่าเป็นซีส หรือ เป็นมะเร็ง
    จะมีโอกาสกลับมาเป็นซีสได้อีกหรือไม่เนื่องจากสาเหตุการเกิดซีสไม่แน่นอน และพบว่ามีการเกิดที่สัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ดังนั้น ซีส จึงอาจกลับมาเป็นได้อีก ทั้งในจุดเดิม และที่ใหม่ การรักษาซีส จึงไม่ใช่การผ่าตัด เพราะตัดออกก็เป็นใหม่ได้ การรักษาซีส จึงเป็นการรู้จักกับซีส และรู้ว่าเมื่อไร ก้อนในเต้านมจะเป็นมะเร็งไม่ใช่ซีสต่างหาก
    หากท่านไม่แน่ใจ... ว่าก้อนที่เต้านมที่ตรวจพบเป็นซีส หรือเป็นมะเร็ง ควรปรึกษาแพทย์รศ.นพ.อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์
     
  4. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    การตรวจเต้านมด้วยตนเอง
    ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ได้ทำการตรวจเต้านมด้วยตนเอง เพราะไม่ทราบว่าจะตรวจหาอะไรและอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดในการตรวจนั้น คือ ต้องการหาการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละเดือน พบว่าร้อยละ 90 ของเนื้องอกที่เต้านมในผู้หญิงนั้นถูกตรวจพบครั้งแรกด้วยตนเอง จะเห็นได้ว่าการตรวจเต้านมด้วยตนเองนั้น มีความสำคัญมาก เพราะโดยทั่วไปแพทย์จะทำการตรวจเต้านมให้ผู้หญิงเพียงปีละครั้งเท่านั้น ในการตรวจสุขภาพประจำปี การตรวจเต้านมด้วยตนเองควรทำทุกเดือนตั้งแต่เข้าสู่วัยสาวถึงวัยสูงอายุ เวลาที่ดีที่สุดที่จะทำการตรวจ คือหลังระดูหมดไป 7-10 วัน ทั้งนี้เพราะเป็นระยะที่เต้านมไม่บวมและนิ่ม ทำให้ตรวจได้ง่าย ส่วนผู้หญิงที่เข้าวัยหมดระดู หรือได้รับการ ตัดมดลูกไปแล้วจะเป็นการดีถ้าได้ทำการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ทุกวันที่หนึ่งของทุกเดือน
    สามวิธีการตรวจเต้านมด้วยตนเอง

    1. ตรวจในขณะอาบน้ำ เริ่มตรวจขณะอาบน้ำ โดยถูสบู่เป็นฟองเล็กน้อยให้ทั่วหน้าอก เพื่อให้มือเคลื่อนไปบนผิว
    ได้ง่ายขึ้น ยกแขนซ้ายขึ้นเหนือศีรษะและเริ่มตรวจเต้านมข้างซ้ายด้วยมือข้างขวา เวลาตรวจให้นิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วนาง
    วางชิดให้เสมอกันเป็นพื้นเรียบ อย่าใช้ปลายนิ้วเพราะปลายนิ้ว จะดันก้อนเนื้อออกห่างทำให้ตรวจไม่พบ ลูบไปเบา ๆ ใช้มือลูบไปเบา ๆ จะช่วยตรวจหาก้อนเนื้อที่ยังเล็กมาก ๆ และเคลื่อนที่ได้ใต้ชั้นผิวหนังอย่ากดแรงไปเพราะ ก้อนเนื้อนั้นอาจเคลื่อนที่หนีไปได้ กดให้แรงขึ้น ใช้นิ้วชี้กดให้แรงขึ้นเพื่อตรวจบริเวณที่อยู่ลึกลงไป และกดให้ทั่วถึงกระดูกซี่โครง ตรวจบริเวณใกล้กระดูกไหปลาร้า และใต้รักแร้ เนื่องจากมะเร็งเต้านมอาจกระจาย ไปที่ต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณใกล้กระดูกไหปลาร้าและใต้รักแร้ได้ จึงควรตรวจบริเวณดังกล่าวไปด้วย

    บริเวณที่มักตรวจพบเนื้องอก มะเร็งของเต้านมมักจะเกิดขึ้นที่บริเวณต่าง ๆ ดังนี้ คือ
    ร้อยละ 50 เกิดที่บริเวณซีกบนด้านนอกของเต้านม
    ร้อยละ 15 เกิดที่บริเวณซีกบนด้านใน
    ร้อยละ 6 เกิดที่บริเวณซีกล่างด้านนอก
    ร้อยละ 18 เกิดที่บริเวณหัวนม และรอบ ๆ หัวนม
    วิธีการตรวจด้วยมือแบบง่าย ๆ การตรวจด้วยตนเองแบบง่าย ๆ มี 2 วิธี คือ การตรวจแบบวนเป็นวง และการตรวจแบบแบ่งเป็นตาราง ท่านสามารถใช้วิธีใดก็ได้ตามความสะดวก
    1.การตรวจแบบวนเป็นวง (Spiral method) :
    เริ่มตรวจจากด้านบนของเต้านม โดยใช้มือวนเป็นวงใหญ่ไปให้ทั่วรอบ ๆ เต้านม เพื่อตรวจ หาดูว่ามีก้อนผิดปกติ หรือเนื้อแข็ง ๆ หรือไม่ จากนั้นวนมือให้เป็นวงเล็กลงไปเรื่อย ๆ อย่างน้อย 3 วง จนถึงหัวนม ทำเช่นนี้ 2 ครั้ง ครั้งแรกลูบเบา ๆ และอีกครั้งกดให้แรงขึ้น

    2.การตรวจแบบแบ่งเป็นตาราง (Grid method) :

    เป็นการตรวจเต้านม โดยแบ่งพื้นที่บริเวณจากกระดูกไหปลาร้าไปยังส่วนใต้เต้านม และจากรักแร้ไปยังกระดูกอกเป็นช่องตารางสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ในแต่ละช่องเล็ก ๆ ใช้มือวนไปเป็นวงแบบก้นหอย โดยลูบเบา ๆ ก่อนและกดให้แรงขึ้นอีกครั้ง เลื่อนมือทำเช่นเดิมในช่องถัดไป ค่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งตรวจทั่วเต้านม ถ้าท่านมีเต้านมที่ใหญ่และห้อย ท่านสามารถใช้มือหนึ่งพยุงเต้านมไว้ ขณะที่ใช้อีกมือหนึ่งตรวจหาส่งผิดปกติ เช่น จุดแข็ง ๆ ก้อนหรือไตแข็ง ๆ ซึ่งผิดไปจากเดือนก่อน ๆ อย่าลืมตรวจเต้านมอีกข้างโดยวิธีเดียวกัน แต่สลับมือกันเท่านั้น

    2. ตรวจโดยส่องดูในกระจก หลังจากอาบน้ำแล้ว ให้ยืนหน้ากระจกและมองหาความเปลี่ยนแปลงของเต้านมซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ เช่น ขนาดของเต้านมทั้งสองข้าง ลักษณะรูปทรง สีผิว หรือรอยบุ๋ม จากนั้นมองหาความเปลี่ยนแปลงของเต้านม ในท่ายกแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ และท่าประสานมือไว้ใต้คาง และผ่อนกล้ามเนื้อหน้าอก เมื่อเสร็จแล้วให้ ยกไหล่ขึ้นโน้มตัวไปข้างหน้า เพื่อดูว่าเต้านมทั้งสองข้างห้อยลงอยู่ในลักษณะเดียวกันหรือไม่ สุดท้ายค่อย ๆ บีบหัวนมเพื่อดูว่ามีน้ำหรือเลือดออกมาหรือไม่ โดยตรวจทั้งสองข้าง ถ้าพบว่ามีน้ำหรือเลือดผิดปกติ ออกมาจากหัวนมให้ไปพบแพทย์ทันที

    3. ตรวจดูในท่านอน ขั้นตอนสุดท้ายของการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ให้นอนราบลงวางหมอนไว้กลางหลัง ทาโลชั่นบนหน้าอกเล็กน้อย เพื่อช่วยให้ทำการตรวจได้ง่ายขึ้นและยังช่วยบำรุงผิวอีกด้วย ทำการตรวจซ้ำด้วยวิธีการตรวจด้วยมือแบบเดิม อาจใช้วิธีแบบวนเป็นวง หรือแบบแบ่งเป็นตาราง ตรวจให้ทั่วหมดทั้งเต้านมและบริเวณรักแร้ และกระดูกไหปลาร้าด้วย

    ทั้งสามคำแนะนำการตรวจด้วยตนเองนี้ ควรทำอย่างน้อยเดือนละครั้ง ถ้าท่านพบสิ่งผิดปกติ หรือสงสัย ให้พบแพทย์ของท่านเพื่อตรวจทันที


    หมายเหตุ : ข้อมูลจาก คลินิกสตรีวัยหมดระดู ภาควิชาสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
     
  5. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    [​IMG]
    ลูกค้าท่านนี้เป็นนักศึกษาสาว พราวเสน่ห์ บอกตรง ๆ ถ้าเธอเดินไปคัดตัวถ่ายแบบเธอตกรอบแรก พูดง่าย ๆ หน้าตาเธอไม่สวยเอาเสียเลย แต่เชื่อไหมครับ ถ้าเอาคนสวย ๆ น่ารัก ๆ ประชันกับเธอเรื่องเสน่ห์ ผมให้เธอมาเป็นอันดับหนึ่ง เธอมีแฟน ที่ส่งเสียเธอเรียนน่าจะ 3 คนได้ที่เป็นชาวต่างประเทศ แฟนคนไทยนี้ไม่ต้องพูดถึงหลายคนที่เดียว

    ผมดูดวงเธอยังตกอยู่ในภวังค์ เสน่ห์ เจอเธออ้อนดูดวงที่เดียว คิดถึงเธอไปหลายวัน เธอได้ไพ่ประจำตัวเธอคือ .... 9 of cups lover Empress ไว้วันหลังจะเอาดวงสาวเจ้าเสน่ห์คนนี้มาให้ชมกันอีกที

    ไพ่ที่บอกว่าเป็น ซีส ประสบการณ์พยากรณ์ของผมคือ ไพ่ Hang man และเธอได้ไพ่ Hang man ตกตำแหน่ง มดลูก อวัยวะเพศ ตกในตำแหน่งเดือน ตุลาคม ส่วนไพ่ใบอื่น ๆ แวดล้อมไม่ได้บอกอะไรร้ายแรง แนะนำเธอไปตรวจ และพบซีส และเดือน พ.ย. เจอเธอ เธอบอกผลการผ่าตัดเรียบร้อยดี

    เข้าตำแหน่งการพยากรณ์อนาคตกัน แผนผังอนาคต
    ตำแหน่งที่ 5 ตำแหน่ง ในร่างกายของเรา มดลูก อวัยวะสืบพันธ์

    แล้วจะรู้ได้อย่างไรหล่ะว่าจะเป็นเรื่อง การเจ็บป่วย Hang man ความหมายของมันออกมาหลาย ๆ อย่าง เราจะเลือกพยากรณ์อย่างไรดี

    ผมควรบอกดีไหม ครับ ?

    บอกดีกว่านะ อายุของหญิงคนนี้อายุ ย่าง 21 ปี ดูดวงกับผมเมื่อปี 2545 การที่เราจะพยากรณ์ว่าจะเจ็บป่วย และ ป่วยด้วยโรคอะไร นั้น ผมมีหลักการดังต่อไปนี้

    ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร โดยใคร กับใคร เพื่ออะไร

    1. ตั้งคำถามดังต่อไปนี้ จะป่วยไหม ดูไพ่ทั้งหมด หากมีไพ่บอกว่าเจ็บป่วย หรือเห็นอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้นบนหน้าไพ่ ให้สันนิฐานว่าจะมีการเจ็บป่วย
    2. และดูตำแหน่งว่าตำแหน่งนั้นบอกถึงอวัยวะส่วนไหน
    3. เกี่ยวข้องกับใคร

    หากฉลาดอีกนิดจะถามต่อ จะร้ายแรงไหม จะรักษาโดยวิธีการใดถึงจะหาย


    Hang man ตัวนี้ถ้าตกในตำแหน่งบุคคล โดยส่วนมากแล้วบุคคลในตำแหน่งนั้น จะเจ็บป่วย ป่วยด้วยโรคหลาย ๆ อย่างนะครับไม่ได้เป็นแค่ ซีส เนื้องอก โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน มากมายหลายโรค แล้วจะวิเคราะห์อย่างไรว่าน่าจะเป็นโรคอะไร ติดตามในตอนต่อไป
     
  6. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    แฉเพชรพญานาคฟันธงชัดแค่แก้วหลอมฉีดสี

    แฉขบวนการ"เพชรพญานาค"ตุ๋นชาวบ้านมีเกือบทั่วประเทศที่ประจวบฯพระระดับเจ้าอาวาสยังเจอต้มเป็นแสน ส่วนภาคอีสานเม็ดสีดำถูกอ้างสรรพคุณเหมือน"เหล็กไหล" ขณะที่ในกรุงเทพฯแผงย ่านท ่าพระจันทร ์ขายกันโจ ่งครึ่มหลายรูปแบบ เม็ดใหญ ่ ๆ ขายกันกว ่าครึ่งหมื่น ด ้านเซียนวงการเพชรชี้ "เพชรพญานาค" ที่แท ้เป็นแค ่แก ้วหลอมฉีดสี ต ้นทุนเม็ดละไม ่ถึงสิบบาท แต ่สร ้างนิยาย "ไข ่ พญานาค" โก ่งราคาขาย ตำรวจระบุชัดเข ้าข ่าย ฉ ้อโกง โทษถึงติดคุก

    จากกรณีที่ "เดลินิวส ์" ได้รายงานข ่าว การหากินกับความเชื่อของชาวบ้าน โดยหลอก ลวงเพื่อขาย "หินพญานาค" ที่มีการโอ ้อวดสรรพคุณว ่าภายในหินพญานาคจะบรรจุไปด้วย "เพชรพญานาค" มากคุณค ่าปาฏิหาริย ์ หาได ้ยากยิ่ง สุดท ้ายก็ลงเอยด ้วยการเสนอขายของวิเศษในราคาก ้อนละเป็นพันบาทนั้น

    ผู ้สื่อข ่าวรายงานเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ว ่า การจำหน ่าย "เพชรพญานาค" นั้นมีการทำกันอย ่างเอิกเกริกไม่น่าเชื่อ โดยในกรุงเทพฯนั้นบริเวณริมถนนมหาราช ฝั่งตรงข้ามวัดมหาธาตุ และมหาวิทยาลัยศิลปากร มีการตั้งแผงขายกันเป็นล่ำเป็นสัน จากการสอบถามคนขายรายหนึ่งได ้ความว่า เพชรพญานาคที่ว่านี้ซื้อมาจากภาคอีสาน โดยเฉพาะที่ จ.หนองคาย โดยมีคนเข ้าไปขุดมา ซึ่งจะส ่งขายใน 2 รูปแบบ โดยรูปแบบแรกเป็นหินก ้อนสีดำ ขนาดเท ่ากำปั้น ลักษณะเหมือนไข ่เป็ด เรียกว ่า "หินพญานาค" หรือ "ไข ่พญา นาค" ที่พอกะเทาะเปลือกออกมาแล ้วข ้างในจะมี "เพชรพญานาค" เป็นแก ้วใสขนาดเท ่าปลายนิ้วก ้อยบรรจุอยู ่

    รูปแบบที่ 2 ขายเป็น "เพชรพญานาค" เลย คือเป็นเม็ดแก้วใสสีต่าง ๆ ซึ่งมีการอ ้างว ่าคนที่ขุดได้กะเทาะเปลือกมาให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนหินที่เหลือนั้นไม่ทราบว่าเอาไปทำอะไรต่อ โดยเพชรพญานาคนั้นมีทั้งหมด 9 สี อาทิ เหลือง เขียว ม่วง ฟ้า ขาว ดำ ชมพู ส่วนราคาขายนั้นจะแตกต่างกันไปตามขนาดของเม็ดแก้วใส มีตั้งแต่ 250, 350, 450 บาทตามลำดับ ส่วนเม็ดที่ใหญ่ขนาดประมาณกำปั้นเด็กราคาอยู่ที่เม็ดละ 6,500 บาท นอกจากนี้ก็ยังมีขายเป็นชุด 1 ชุดมี 9 เม็ด 9 สี ราคาประมาณ 1,500 บาท

    สำหรับเม็ดแก้วใสนี้มีชื่อเรียกได้หลายแบบ อาทิ "เพชรพญานาค", "พลอยพญานาค" และ "มณีใต้น้ำ" ส่วนวิธีการบูชานั้นหากเป็นก้อนหินสีดำผู้ที่ซื้อไปสามารถเอาขึ้นหิ้งบูชาได ้เลย ถ ้าเป็นเพชรเม็ดสีจะนำไปทำเป็นเครื่องประดับ อาทิ หัวแหวน ซึ่งเชื่อกันว่าใครที่พกพาติดตัวแล้วจะมีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้น รวมถึงสามารถป้องกันสิ่งอัปมงคลต่าง ๆ ได้ ส่วนลูกค ้าที่มาซื้อนั้นจะเป็นคนที่นิยมสะสมเครื่องรางของขลัง นอกจากนี้ก็มีลูกค้าหน้าใหม่ที่เคยไปซื้อจากวัดบางแห่งในต่างจังหวัด เช่น จ.เพชรบูรณ์ ในราคาที่แพง เม็ดขนาดเล็กประมาณ 1,000 บาท พอทราบว่าย่านนี้มีขายในราคาที่ถูกกว่าแค่ 250 บาท ก็จะมาหาซื้อกัน

    นายวิเศษ ก่ำพงษ์ไทย อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1213/399 ซอยทาวน์อินทาวน์ 17 แขวง-เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้วตนได้หินพญานาค 5 ลูก มาจากพระรูป หนึ่งที่ จ.หนองคาย โดยบอกว่าให้บูชาไว้แล้วจะ มีโชคลาภ ลองเคาะให้แตก 3 ลูก ก็พบเพชรพญานาคทรงและสีต่าง ๆ ภายใน เมื่อมีข่าวก็อยากจะพิสูจน์ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม โดย นายวิเศษยังได้นำหินพญานาคอีกก้อนหนึ่งมา เคาะให้ผู้สื่อข่าวดู ปรากฏว่าภายในมีเม็ดหินใส สีแดงอยู่ 1 เม็ด

    ทั้งนี้ ผู ้สื่อข ่าว "เดลินิวส ์" ได ้นำสิ่งที่อ ้างกันว ่าเป็น "เพชรพญานาค" ก้อนหนึ่งซึ่งได้มาก่อนหน้าไปพิสูจน ์ความจริง โดยให ้นายสว ่าง ธัญธีรธรรม เจ้าของร ้านเพชรแสงมณี นายกสมาคมเพชรพลอยเงินทอง ตรวจสอบ โดยนายสว ่างแค่หยิบเพชรพญานาคขึ้นมาในมือก็หัวเราะแล้วบอกว ่า "ของเก๊แน ่" จากนั้นก็ควักกล ้องส ่องเพชรที่เคย ตรวจคดีดังมาแล ้วหลายคดี อาทิ คดีเพชรซาอุฯ ขึ้นมาส ่องตรวจรายละเอียด โดยใช ้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นยืนยันว ่า "หลอกลวงแน ่นอน"

    นายสว ่างกล ่าวว ่า "เพชรพญานาค" เป็นเพียงกระจกอัดหลอมด ้วยความร ้อนออกมาเป็น ก ้อน ๆ ขนาดเล็ก แล ้วเอามาตัดแต ่งให ้เป็นรูปร ่าง ส ่วนจะเอาสีอะไรก็ทำได ้ง ่ายนิดเดียว มูลค ่าแทบจะไม ่มีเลย แต ่ถ ้าคิดต ้นทุนแล ้วก็แค ่สิบบาทหรือยี่สิบบาทเป็นค ่าแรง เพราะเป็นงานที่ใช ้ฝีมือลวก ๆ เท ่านั้น ส ่วนลูกกลม ๆ ที่ห ่อขึ้นมาเป็นปูนใส ่ทราย ทาสีดำให ้ดูเก ่าและขลังเท ่านั้น แล้วก็เรียกว ่าหินพญานาค

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.อุดรธานี ก็มี "เพชรพญานาค" ระบาดเช่นกัน โดยส่วนใหญ่จะขายกันแบบที่ยังเป็นก้อนหิน ยังไม่ได้กะเทาะ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 700-1,000 บาท ซึ่งภายในจะมีเม็ดแก้วใสสีต่าง ๆ กัน แต่ถ้าเป็นสีดำคล้ายนิลจะถูกกล่าวอ้างว่ามีสรรพคุณเหมือน "เหล็กไหล" หายากที่สุด ทั้งนี้ได้มีชาวบ้านหลงเชื่อซื้อสิ่งที่มีการอ้างว่าเป็นหินพญานาคที่หุ้มเพชรพญานาคไว้เพื่อบูชาเป็นจำนวนมาก กว่าจะสังเกตอย่างละเอียดและพบว่าหินที่หุ้มอยู่มีร่องรอยว่าเป็นฝีมือการทำขึ้นของมนุษย์ก็สูญเงินกันไปเป็นจำนวนมาก

    ที่ จ.มุกดาหาร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการหลอกลวงขาย "เพชรพญานาค" กันมากเช่นกัน โดยเฉพาะที่ตลาดอินโดจีน บริเวณเขื่อนริมแม่น้ำโขง มีหลายสี แต่เม็ดสีดำจะดูดเหล็กได้เหมือนแม่เหล็ก และถูกอ้างว่ามีสรรพคุณเหมือนเหล็กไหล ราคาที่ตั้งกันคือ 6,000-10,000 บาท ซึ่งมีการนำไปขายกันถึงฝั่งลาว

    อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ จ.สกลนคร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เคยจับกุม ชาวบ้านบางคนในหมู่บ้านทรายทอง ต.ส่องดาว อ.ส่องดาว และบ้านคำปอ ต.คำปอ อ.วาริชภูมิ ที่ผลิตเพชรพญานาคออกหลอกขาย โดยถ้าเป็น เม็ดสีดำจะนำแม่เหล็กมาเจียระไนให้มันวาว ส่วนตัวหินหรือไข่พญานาคจะใช้หินทรายเป็นก้อนเจาะรูใส่เม็ดแเก้วเข้าไปแล้วอุด จากนั้นนำไปแช่ในลำห้วยให้ตะไคร่ขึ้นก่อนจะนำมาหลอกขายผู้หลงเชื่อ

    ขณะเดียวกัน ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายนิยม แสงบ้านยาง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 196/33 หมู่บ้านทานตะวัน ถนนชมสินธุ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ เปิดเผยว่า ตนก็เป็นอีกคนหนึ่งที่สะสมเม็ดแก้วใสพวกนี้ไว้เป็นจำนวนมาก แต่เป็นหินธรรมชาติจากแม่น้ำโขง นำมาเจียระไนแล้วสวยงาม ส่วนที่เป็นข่าวนั้นเชื่อว่าน่าจะเป็นการทำขึ้นเอง ซึ่งเคยมีคนมาขอถ่ายรูปหินที่ตนสะสม ไว้ด้วย และหลังจากนั้นก็ได้ยินข่าวว่ามีคนอ้างเป็นนักบุญตระเวนขายหินแบบนี้แถบภาคเหนือ ซึ่งการจะทำปลอมหินแก้วประเภทนี้ก็แค่ใช้ แก้วหลอมแล้วฉีดสีเข้าไป ส่วนหินที่หุ้มก็แค่ใช้ดินปนทรายปั้นเป็นก้อนเผาไฟ นำไปฝังไว้ตาม จุดต่าง ๆ สักระยะก็เอาออกมาตากแดดตากลม ให้ดูเก่า

    พระครูปภัสสรวรพินิจ เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล อ.หัวหิน เปิดเผยว่า เคยถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกขาย "หินพญานาค" ให้ในราคานับแสนบาท ซึ่งที่ซื้อไว้ก็เพราะเห็นว่าเป็นของแปลก ไม่ใช่เรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ แต่มาตรวจสอบภายหลังพบว่าเป็นเพียงผลึกแก้วธรรมดาที่มีการทำขึ้น ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.อ.หัวหิน ดังนั้นจึงอยากจะฝากเตือนกันไว้ว่าอย่าไปหลงเชื่อ ให้ใคร่ครวญกันให้ดีจะได้ไม่เสียรู้มิจฉาชีพ

    ด ้าน พ.ต.ท.จรุงวิทย ์ ภุมมา รอง ผกก.3 ป. กล ่าวว ่า กรณีนี้เข ้าข ่ายฉ ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ใครที่โดนหลอกสามารถแจ ้งความดำเนินคดีได ้ จะผิดหรือไม ่แล ้วแต ่ข ้อเท็จจริง โดยมีโทษจำคุกไม ่เกิน 3 ปี ปรับไม ่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.


    ที่มา : เดลินิวส์
     
  7. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    ทำให้นึกถึงที่บ้านญาติผม มีคนเอาเพชรนาคไปขายให้ ราคาหลายหมื่นบาท แต่คนขายลืมไปว่า บ้านญาติผมนั้นเป็นลูกสาวพญานาคเดิม จึงทำให้ไม่ได้เงินกลับไป

    เพราะพี่พญานาคมาเตือน จะมีคนมาหลอกขายของ

    พี่พญานาคบอกว่า เคยเห็นพญานาคมาให้เห็นตรง ๆ ไหม ตอบว่าไม่เคยเห็นสักที มีแต่มาสื่อมา

    ท่านก็บอกว่าท่านเป็นทิพย์ ไข่ท่านจะมีขายตามท้องตลาดหรือว่ะ

    มันก็จริงนะ ท่านไปมาเป็นทิพย์ นึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไป ไม่เคยเห็นท่านมาแบบพญานาคสักที(ที่เห็นตามโบสถ์)

    ทำให้นึกถึงวันที่พญานาคราชท่านประทานลูกแก้วให้ในพิธี ทะลุมิติ ออกมาเห็นกับตา เก็บมากับมือ ร้อยกว่าชีวิต เก็บกันแบบงง เหมือนฝนหล่นจากฟ้า และท่านก็ขยายตัวได้ จากองค์เล็ก ๆ กลายเป็นองค์ใหญ่ขึ้น หลักการเดียวกับพระธาตุเสด็จ มาอย่างไรไม่รู้แต่รู้ว่ามา (ท่านเคยหายไปด้วย เมื่อนานมาแล้ว)

    จะบูชาอะไรก็ระมัดระวัง หลอกกันเยอะ หลอกกันแยะ ให้สติให้มาก ๆ ครับ อย่าลืมว่าของวิเศษนั้นเลือกที่จะอยู่กับคนพิเศษ
     
  8. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    เรื่องราวที่ผมเล่าต่อไปนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้สติและปัญญาในการอ่าน



    ย้อนกลับไปเมื่อตอนสักปี 2530 หรือ 2531 ผมเป็นเด็กที่ชอบว้ายน้ำโขง หาปลา ไลเบ็ด(ตกปลา) ไลมอง(หาปลาโดยใช้ตาขาย จับปลาริมแม่น้ำโขง) ด้วยผมบ้านผมอยู่คุ้มวัดใหญ่ ก็จะมีกิจกรรมในวัยเด็กที่แสนจะว่างในช่วงระยะเวลาเปิดเทอมใหญ่ ตอนนั้นหัวใจยังไม่ว้าวุ่น

    สถานที่น่าเล่นน้ำที่สุดของไทเชียงคาน คือ ตรงซอย 5 จะมีโขดหิน กั้นกลางสุด ตรงนี้เองที่เกิดเรื่องราวขึ้น
    วันหนึ่งช่วงที่ผม ไปเตะบอลกับเพื่อนและกลับบ้านสัก หกโมงเย็นกว่า ๆ ย่าผมตามหาผม นึกว่าผมไปเล่นน้ำ ย่าผมบอกว่า ห้ามไปเล่นน้ำอีก เพราะเณรที่วัดใหญ่จมน้ำตาย ตอนนี้นักประดาน้ำงมอยู่

    เรื่องราวเป็นไปมาไงไม่แน่ชัด แต่ที่แน่ ๆ สามวันพบศพลอยขึ้นมาที่ หน้าวัดท่าคก คับคล้ายคับคลาว่า เณรที่ตายเป็นเณรที่มาจากวังสะพุง รับกัญเทศน์ อะไรสักอย่างที่วัดใหญ่และทางวัดก็ส่งศพกลับบ้านหรือไงไม่ทราบ

    ก่อนถึงวันเทศ สักหนึ่งวัน ผู้ใหญ่ทางวัดจะต้องเอากุ้งหอยปู่ปลา มาใส่ข้อง(ที่ใส่ปลา)ไว้ระหว่างพระเทศจะได้ครบอะไรสักอย่าง ตอนเป็นเด็กไม่ได้ถาม เข้าใจว่าจะต้องมี ปลามีหอย มีปูจะได้ครบกัญเทศน์ ว่าอย่างนั้น เทศน์โปรดสัตว์

    คนแก่ในวัดก็เลย พากันไปจับปลาในสระวัดใหญ่ เมื่อก่อนจะมีสระปลาอยู่ สองสระ สระแรกอยู่ตรงที่ตั้งศาลากลางเปรียญใหม่ในปัจจุบัน สระที่สองอยู่ที่ กุฏิไม้เก่า ข้างกุฏิคอนกรีตใหม่ในปัจจุบัน

    ปลาที่จับกันคือ จับในสระที่สอง ระหว่างที่เหวี่ยงแห ออกไปนั้นฝนตกปรอย ๆ จับปลาได้ปลาประหลาด 1 ตัวแล้วก็ปล่อยไป ไปเหวี่ยงแหอีกมุม ก็ได้ปลาประหลาดตัวเดิม เหวี่ยงไปได้หลายรอบ ก็ยังได้ปลาตัวเดิม ฝนก็ตกลงมามาก เลยตัดสินใจเอาปลาตัวนี้หล่ะ ผลคือพอได้ปลาตัวนี้ นำใส่ข้องแช่น้ำเตรียมเข้าพิธี ฝนหยุดตกทันที

    ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ลงความเห็นว่า น่าจะเป็นวิญญาณเณรมาสิงอยู่ในปลาประหลาดตัวนี้ เพื่อที่จะฟังเทศน์สุดท้าย

    พอเสร็จงานจากการเทศ ปลาประหลาดตัวนี้ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย

    ย้อนกลับมาตรงที่ ตอนเณรรูปนี้จบน้ำ ระหว่างที่ไหว้น้ำอยู่กลางแม่น้ำโขง เขาเล่ากันว่าเณรกำลังลอยไปสู่โขดหินหนึ่ง แต่พอพีมีงู ไว้ตัดหน้าเณรก็เลย ว่ายกลับและจมน้ำในที่สุด และโพล่ที่วัดท่าคก

    ซึ่งตามความเชื่อที่ฟังมา คือ จะมีรูพญานาค ที่แก่งตรงนั้น และอีกรูคือตรงวัดท่าคก
     
  9. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    ย้อนไปเมื่อปี 2551 ผมนำลูกแก้วขอความเมตตาหลวงตาม้าอธิษฐานจิต เป็นแก้วจักรพรรดิ ป้องกันภัยพิบัติ และเมื่อผมถึงที่พักในกรุงเทพ

    คล้าย ๆ กับว่าครึ่งหลับครึ่งตื่น มีชายสองคนขึ้นมาจากแม่น้ำโขงคุ้มวัดใหญ่ มาหาผมบอก แนะนำตัวว่าตัวเขาเองคือพญานาค อยู่ที่คุ้มวัดใหญ่ ขอลูกแก้วสักสองลูก

    ครั้งผมตื่นนำ รุ่งเช้าส่งลูกแก้วกลับบ้านที่เชียงคาน หลังจากนั้นอาผมได้รับพัสดุ จับลูกแก้ว ขนลุกไปทั้งตัว อดีตที่เป็นความเดิมชาติก่อน ๆ ได้ตามมาสู่อาของผมทีละนิด

    ผ่านไปเร็วเหมือนโกหก ... กันยายน 52 อาผมได้ขึ้นมากรุงเทพ ผมได้นำแก้วจักรพรรดิที่ท่านเสด็จมาเองในการพิธีอัญเชิญของอาจารย์ศุภรัตน์ แสงจันทร์ ได้มอบให้อานำกลับบ้าน

    ครั้งไปถึงอาจารย์สมหมาย ที่วัดท่าสำราญ บ้านคกไฝ่ อ.ปากชม ได้โทรหาอาผม บอกว่าพญานาคท่านมาบอกว่าโยมได้แก้วมา พญานาคขอแก้วมาสร้างวัด ซึ่งอาจารย์สมหมายท่านรู้ได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้บอกกล่าวท่านเลย

    จึงเป็นที่มาของ ... การสร้างผ้าป่า สร้างพระบาทสี่รอย และ พระเหนือพรหม ที่วัดท่าสำราญ

    ออกนอกเรื่องซะนาน ที่คุ้มวัดใหญ่ จะมีวังพญานาคอยู่ เป็นเชื่อสายของ ปู่ศรีสุทโธนาคราช และมีเชื่อสายของ ปู่สุวรรณนาคราช ในความรู้สึกผมเป็นเช่นนั้น

    ผมไม่ได้สนใจเรื่องพญานาคสักเท่าไร ในชีวิตก็เคยเจอ ในมินิตสามครั้ง และช่วงนี้พอดีญาติผม ไปข้องเกี่ยวกับวงศาคณาญาติ ทางพญานาค ทั้งถ่ายรูปติดทั้งมีเพชรพญานาค (ไม่ใช่ตามที่เห็นทั่วไปที่วางขาย ๆ กัน) และญาติผมก็ดึงผมเข้ามาเกี่ยวข้อง ... ในบางเรื่องราว

    เรื่องราวแปลก รูพญานาคที่บ้านผม คือญาติผมได้ไปทำบุญที่วัดภูน้อย(ก่อนถึงบ้านผาแบ่น) คนทรงที่เขาตามหาพญานาคบอกว่า บ้านผมมีรูพญานาค อยู่จำนวนสามรู

    อย่างนี้ต้องท้าพิสูจน์ ผลคือ มีจริง ๆ เจ้าของบ้านยังไม่รู้ว่าที่บ้านมีรูเลย คนอื่นรู้ได้อย่างไร ช่างเถอะ มาต่อเรื่องราวพญานาคตอนสามดีกว่า

    เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้ สติ และ ปัญญาในการอ่าน
     
  10. mongkut

    mongkut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2008
    โพสต์:
    239
    ค่าพลัง:
    +251
    น่าปลาบปลื้ม ในองค์ธรรมของท่านอาจารย์ครับ
     
  11. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    ผมไม่มีธรรมอะไรครับ แต่พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งได้จริง
     
  12. aoyleo

    aoyleo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +99
    ขออนุโมทนาค่ะ ขอถามอะไรหน่อยค่ะ ดิฉันมีกุมารทองอยู่องค์หนึ่ง ได้มาโดยบังเอิญนะค่ะ เราจำเป็นจะต้องให้ของไหว้เค้าทุกวันไหมคะ แล้วควรให้ยังไง และมีคาถาสวดสำหรับกุมารทองไหมคะ แล้วเราจะทำยังไงที่จะให้เค้าไปเกิดได้ ดิฉันก็อุทิศส่วนกุศลให้ทุกวัน แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเค้าไปดีแล้วเพราะพลังจิตเรายังหยั่งรู้ไม่ได้ ขอความกรุณาช่วยแนะนำด้วยค่ะ
     
  13. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    กุมารทองจำเป็นต้องให้ของไหว้ทุกวันหรือไม่

    ตอบ ประสบการณ์ผมนะ จะบอกเค้าตั้งแต่บูชาว่า หากินตามสบายอยากกินอะไรก็กิน แต่อย่ากินของที่ถวายพระ

    เป็นความเชื่อนะครับ ปกติถ้าเขาไม่ได้ขอทุกวันก็นาน ๆ ที 15 วันที เพราะกุมารทองที่ว่าถ้าจำเป็นต้องกินของไหว้หล่ะก็ ผมว่าคงจะผอมโซ หรือไม่ก็ตายไปแล้วมั้งเพราะไปได้กินเป็นหลายสิบวัน บางบ้านเป็นเดือน เป็นปี

    ทำอย่างไรให้เขาไปเกิดได้
    ตอบ จำได้ว่าหลวงพ่อฤๅษีท่านบอกว่า ลูกกรอก(ไม่ใช่กุมารทองนะ เก่งกว่ากุมารทองเยอะ) จะไปเกิดได้ ต้องถวายสังฆทานให้เขา ถ้าครอบชุดได้ก็จะดี(สังฆทาน ผ้า(ไตรจีวร หรือ จะแยกจีวร หรืออังสะ สบง ก็ได้ตามกำลังทรัพย์) พระพุทธรูปสักหน้าตัก 5 นิ้วขึ้นไป) อุทิศเจาะจงให้ เค้า (ถ้าเป็นคนเอ่ยชื่อ)

    คาถาที่บูชามา ไม่เหมือนกันเลยแต่ละสำนัก ต่าง ๆ กันไปครับ

    กุมารทองที่มีตามท้องตลาดไม่ได้มีความแรง อะไร ที่จะฆ่าคนได้ หรือทำร้ายคนได้ หรือให้โชคคนได้ เจอตามบ้านคนอื่น(บ้านเพื่อน บ้านลูกค้าบ้าง บางสถานที่เค้าเลี้ยง) พอขอหวยหนีไปหมดทุกตัว มีวิ่งเล่น มีเดิน แต่แบบเข้าร่าง เพื่อทรง นั้นกุมารทองธรรมดา ๆ ทำไม่ได้

    ผมเคยมาตัวหนึ่ง เพื่อนให้มา กับอีกตัวที่ไปบูชา ตัวที่บูชามา แรงชนิด มาเล่นมาฟัดมากอด มาสัมผัสได้ แต่ว่าให้หวยไม่เคยได้ เป็นเด็กหญิง ชื่อฮันนี่ เขาขอให้ตั้งชื่อให้ พอได้ชื่อฮันนี่ เขาเอามือมาจับขา อันนี้สนุก แต่ว่าฮันนี้ไปเกิดแล้ว ตามตำราถ้าตัดเชือกที่ผูกคอไว้

    ดังนั้นเพื่อความสบายใจแนะนำ ให้ถวายสังฆทานเต็มชุดที่บอก อุทิศให้กุมารทองที่บูชามา

    เพื่อความสบายใจของตัวเองครับ
     
  14. aoyleo

    aoyleo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +99
    ขอขอบคุณ อ.เสือที่ให้คำตอบค่ะ ดิฉันเป็นเด็กวัดค่ะกินข้าวก้นบาตรทุกวัน และได้กุมารมากับข้าวก้นบาตรหลวงพ่อ เกือบจะกลืนแล้ว ไม่รู้ว่าใครเอาไปใสบาตร ดิฉันจะให้เค้ากินทุกอาทิตย์ เดือนที่แล้วฝันว่ามีเด็กผู้ชายมายืนหน้าบึ้งใส่ เราก็ไปจับแขนเค้าแล้วเค้าสบัดมือออก(เค้าน่ารักมาก) แล้วดิฉันก็ถามเค้าว่าหนูเป็นลูกแม่หรือเปล่า แล้วเค้าก็พยักหน้าตอบ ก็บอกเค้าว่า งั้นหนูต้องช่วยแม่นะ จะให้หนูทำอะไร ก็ช่วยแม่ค้าขายดีๆ แล้วเค้าก็พยักหน้าตอบ แล้วเค้าก็ไปเล่น ไม่รู้ว่าที่เค้าโกรธเพราะอะไร หรือเพราะว่าลืมให้เค้ากินไป๒อาทิตย์ เพราะเคยบอกเค้าว่าจะให้กินทุกอาทิตย์ ดิฉันจะสัมผัสเค้าไม่ได้แต่จะเป็นฝันแทน ในใจของดิฉันอยากให้เค้าไปเกิดในภพภูมิที่ดี ไม่อยากให้เค้ามาทรมานอยู่อย่างนั้น ดิฉันไม่รู้ว่าเค้าเป็นลูกกรอกหรือไม่ เพราะได้มาเค้าเป็นรูปหล่อทองเหลืองถือถุงเงิน ก็เลยเรียกเค้าว่าถุงเงินถุงทอง บางครั้งก็เรียกว่าถุงเฉยๆ ขอบคุณ อ.เสือมากที่คลายความสงสัยให้ และแนะนำวิธีการให้ ขออนุโมทนาค่ะ
     
  15. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    “หน้าดำบอกอะไร”

    วันที่ 12 ส.ค.51 ผมได้รับสาย ๆ หนึ่งบอกว่าจะมาหาผม เย็น ๆ ช่วงเช้าผมได้ไปรับพระและตะกรุดที่บ้านหมอฟอร์ด ตะกรุดสายหลวงพ่อทวด และจำวิธีการที่หมอฟอร์ดพูดกับทุก ๆ คน เพียงแต่ในสายอาชีพดูดวงที่จะต้องเจอคนทุกข์ร้อน จึงจดจำการช่วยคนที่หมอฟอร์ดบอกเล่าและลองนำมาใช้
    [​IMG]
    ค่ำ ๆ เธอมาที่ออฟฟิตดูดวง ผมให้เธอไหว้พระขอพรก่อนจะดูดวงด้วยเธอเป็นคนผิวคล้ำ แต่แสงที่กระทบหน้าเธอกลับ หม่นหมอง หน้าเธอในมุมที่หมอดูท่านอื่น ๆ อาจจะเคยเห็น คือหน้าดำ

    หน้าดำ โดยมากจะเป็นช่วงกรรมที่มีวาระเข้าแทรกแซง

    ในชีวิตที่ผมเจอกับตัวเองตอนโดนของ ตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยปี 3 เห็นหน้าตัวเองในกระจกดำ และคล้ายกับมีหน้าอื่นแทรกกับหน้าเรา

    ครั้งที่สองมอง ๆ ดูหน้าแฟนหน้าดำ แฟนจะมีเรื่อง และเธอก็มีเรื่องของหายทะเลาะกับเพื่อนที่ทำงาน อย่างรุนแรง

    ครั้งที่สาม แฟนคนที่สอง เห็นหน้าเธอดำ ก่อนจะปวดบิดอย่างรุนแรง นอนตัวงอ

    ครั้งที่สี่ลูกน้องที่ทำงานหน้าดำ บอกให้เธอระวังเรื่องของหาย หรือเจ็บป่วยล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ ผลคือ ขโมยงัดห้องเงินสด 200,00 และแหวนเพชรอีกหลายแสน หายไป

    ครั้งที่ห้าพ่อน้องที่ออฟฟิต หน้าดำและสองอาทิตย์ต่อมา เสียชีวิต

    ครั้งที่หกพระอาจารย์วิษณุ คณะเก้าวัดอินทรวรวิหาร ท่านเรียกให้ผมเข้าพบ หน้าอาจารย์ดำมาก ๆ ท่านโดนกรรมหนักเหมือนกัน ขณะคุยกับท่านพลังงานทะลุทะลวงกลางหลังผม รู้สึกได้ว่าท้องผมหายไป และก็สื่อผ่านคำพูดบอกพระอาจารย์ ท่านยอมรับคำแนะนำที่ผ่านท้องผมไป เสร็จกระบวนการ หน้าอาจารย์หายดำ เปลี่ยนสี ผุดผ่องอย่างเห็นได้ชัด

    และครั้งนี้ครั้งที่เจ็ด หญิงสาวคนนี้ หลังจากดูดวงแล้วเชื่อว่าทุกอย่างแก้ไขได้ กรรมของเธอคือ ทำแท้ง และรวมถึงจุดอ่านของดวงชะตาของเธอ ทำอย่างไรให้เจ้ากรรมนายเวรระงับการจองเวรยินดีที่จะโมทนาบุญและ อโหสิกรรม

    เริ่มเข้ากระบวนการ ฝึกทำสมาธิ ผมให้เธอไหว้พระขอพร สิ่งที่ให้เธอต่อมาจากการไหว้คือพระผงจักรพรรดิ และปฐวีธาตุ ที่ก่อนกลับหมอฟอร์ด ล้วงเข้าไปในขันน้ำมนต์ มอบ ปฐวีธาตุ กำหนึ่งให้ผมและบอกว่า เอาไว้ให้ลูกค้าให้คนเขาทุกข์ ให้คนที่เข้าต้องการสิ่งดี ๆ ให้ลูกค้าสมปรารถนา

    หลังจากให้เธอทั้งสองอย่าง จึงเข้าสู่กระบวนการ ทำสมาธิ

    การสนทนาเรื่องการทำสมาธิ ในระยะเวลาการสอนและปฏิบัติไปด้วย ครั้งละ ประมาณ 5 นาที

    เริ่มต้นด้วยครั้งแรก ขอขมาพระรัตน์ตรัย รวมบุญขออโหสิกรรม ครั้งแรกพลังงานผ่านร่างกายผมชัดเจนดี ออกจากสมาธิถามความเป็นไป เธอบอกรู้สึกดี จะหนักข้างขวา

    ครั้งที่สอง รวมบุญและอธิษฐานจิต ครอบแก้วให้ตัวเอง พลังงานดี เธอบอกโล่ง ๆ ดีขึ้น ครั้งนี้สังเกตหน้าเธอสดใสขึ้น

    ครั้งที่สาม แนะนำการครอบแก้ว ให้คนที่เขารักเรา และคนที่เขาเกลียดเรา ครั้งนี้เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงถามเธอ

    เธอบอก “ตัวเหมือนกับลอย ๆ เหนือพื้น”

    ว้าว เธออยู่ในอุปจารสมาธิ จะเข้า ฌาน 1 แล้ว จึงบอกอาการให้เธอทราบว่า อาการของเธอเป็นอาการหนึ่งใน 5 ปีติ
    1.การการขนลุก
    2.น้ำตาไหล
    3.ร่างกายโยกโครง
    4.ร่างกายลอยจากพื้น
    5.ร่างการโปร่งโล่ง บางคนอาจจะรู้สึกเหมือนมีลมออกจากร่างกาย

    สีหน้าของเธอผ่องใสขึ้นทันที บอกว่าน่าจะเจอกันเร็วกว่านี้ก็น่าจะดี

    จิตตอนที่กำหนดขอบารมีหลวงปู่ทวดให้ท่านช่วยเจรจากรรมให้ตอนนั้นรู้สึกพระในมือส่งพลังงานออกมาสู่มือ และเปิดแสงสว่างจ้ามากติดตา และพลังงานก็ส่งจากเหนือศีรษะลงมาถึงเท้า ออกจากสมาธิเห็นสีหน้าเธอผ่องใสแล้วก็สบายใจ

    หลังจากที่เธอตกงานมาได้ 3 เดือน หลังจากนั่งสมาธิสองอาทิตย์ต่อมาเธอก็ได้งานทำ

    [​IMG]
    “ปีติทั้ง 5 บางคนเจอครบทั้งหมด บางคนอาจจะเจอ 1 หรือ 2 หรือ 3 หรือ 4 ประสบการณ์ที่ผมเคยเจอขนลุก ขนพอง โยกโครงของผมมากกว่าคนปกติก็ว่าได้คือสั่นไปทั้งตัว และทั้งคืน ระหว่างอาการสั่นได้ยินเสียงหลวงพ่อบอกให้สั่นให้เต็มที่ผมเลยปล่อยตัวสั่นไปเรื่อย ๆ ทั้งคืนแต่ไม่เหนื่อยนะครับ อีกอย่างคือน้ำตาไหล ทำให้นึกขำตัวเอง ตอนที่ไปถวายสังฆทานที่บ้านสายลม จิตมันปีติ เห็นคนถวายสังฆทานแล้วน้ำตาไหลร้องให้ ออกจากบ้านสายลม นั่งกินแม็คอ่านหนังสือของหลวงพ่อก็ร้องไห้ อายเพื่อนเหมืนกัน ร้องไหเป็นอาทิตย์เรียกว่าใส่แว่นกันแดดไปทำงาน เจ้านายถามว่าเป็นอะไรผมบอกตาแพ้แสง ตาแดง”


    """""""""""""""""""""""""""""""""

    เข้ามาทักทายกันได้ http://www.facebook.com/apisab
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2011
  16. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    หลังจากที่ผมห่างหายจากร้านทำนายทายทัำกไป 10 เมื่อวานได้กลับไปพูดคุยกับพี่ที่ร้าน ยังคงใจดีเหมือนเคย

    ให้ผมดูดวงให้ ถามว่าทำงานที่นี้เป็นอย่างไรบ้าง เปิดไพ่ใบนี้ครับ

    [​IMG]


    ดีมากครับ เพราะตีเต็มวง ได้ถูกจังหวะ .... ลูกค้าไม่เข้าใจเพราะไม่เคยเล่นเบสบอล

    ไดร์กอล์ฟจบวงสวิง ครับพี่ เป็นธรรมชาติ จังหวะ ถูกท่า จบวงสวิงสวยงาม ก็เปรียบเหมือนการจัดการงานที่ทำ พี่ทำเป็นธรรมชาติ เป็นตัวของตัวเอง ถูกที่ถูกเวลา

    พี่สาวท่านนี้ก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนหน้านี้เข้าไปทำงาน เกร็งเพราะกลัวจะอายเด็ก กลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้ดังใจเจ้านาย กลัวลูกน้องจะว่าไม่มีความสมารถ แต่พอคิดว่าช่างมันเถอะเป็นตัวของตัวเอง หลังจากนั้นเจ้านาย ลูกน้องที่บรรกาศตึง ๆ กลับมาสดใส งานที่ำทำเต็มที่เพราะไม่เกร็ง ไม่กลัว

    และถามต่อไปว่าจะได้เลื่อนขั้นหรือไม่ภายในปี 2554 เปิดได้

    [​IMG]
    รอให้คนอื่นเปิดทางให้ กับ หาทางเอง

    กติกาเบสบอล ถ้า ผู้เล่นทีมเราตีลูกได้ เราถึงจะมีสิทธิ์วิ่ง ตอนนี้เรารอจังหวะทีมงานให้โอกาส

    สองคือ ถ้าฝ่ายตรงข้าม กำลังจะขว้างลูกให้ทีมเราตี เราจะลักไก่ิวิ่งไปอีกจุดหนึ่งได้หรือวิ่งไปจุดสุดท้ายทีมเราก็จะได้แต้ม


    ดังนั้นจึงทายทักกันไปว่า...รอให้คนอื่นเปิดทางให้ กับหาทางเอง

    พี่ท่านนี้บอกว่า ตำแหน่งที่มีสูงสุดแล้วในพนักงาน ไปต่อก็คือ เป็น MD เลยกับเป็น หุ้นส่วนธุรกิจ

    เอาเคสไพ่มาใช้อ่านกันสนุก ๆ ครับ


    พูดคุยกันได้ที่นี้หรือ หมอเสือ อภิทรัพย์ | Facebook
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2011
  17. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    บันทึกวันที่ 2 กพ 54 รักษาโรค เอ็นข้อเข่า
    โดยหมอเสือ อภิทรัพย์ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2011 เวลา 18:38 น.
    วันนี้เป็นวันก่อนเดินทางไป หาพี่ชายท่านหนึ่ง เพราะเมื่อวันจันทร์เจอกัน เห็นแกเดินแทบไม่ได้เอาเสียเลย แซว ๆ แกไปว่าอาจจะโดนของ ถ้าพี่พร้อมเมื่อไหร่ผมจะรักษาให้นะ

    แล้ววันรุ่งขึ้น พี่ชายท่านนี้ยอมให้รักษา แต่ว่าผมไม่ว่าง

    วันนี้วันที่ 2 กพ 54 ไป เจอพี่ชายท่านนี้เดินยกขาไม่สามารถยันเท้าขวาได้

    นั่งลมเย็น ๆ กัน ผมเอาพระผงจักรพรรดิให้พี่ชายท่านนี้กำ และทำอุลุกุมพก คือการปรับปราณในร่า่งกายให้ คงที่ให้จิตจับที่ลมหายใจ (พี่ชายท่านนี้ไม่ค่อยหรือไม่เคยทำสมานั่งสมาธิ)

    หลังจากนั้นให้ มอบกายถวายชีวิต ต่อพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ ขมากรรม และปรับธาตุ อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้เจ็บปวดขา (5นาที)
    ผลคือ ยืนลงเดินลงเท้าได้ แต่ขัด ๆ

    ครั้งที่สอง ทรงพระเต็มกำลัง ขึ้นกรรมฐาน น้อมกำลังครู หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี หลวงพ่อทวด เทวดา พรหม สีหน้าเริ่มจะมีวาระของผี หน้าตาอื่น ๆ แทรกเข้ามามีวิญญาณแฝง อุทิศบุญโดยตรง ออกจากสมาธิ (5นาที)
    ผลคือ ยืนลงเดินลงเท้า ดีกว่าครั้งแรกชนิดเห็นชัดเจนเวลาเดิน ว่าเดินได้คล่องตัวกว่าครั้งแรกที่พบกัน

    ครั้งที่สาม ให้ระลึกถึงบุญ ผมเห็นว่าจะมีงานบุญสร้างพระเจ้าทันใจ เลยบอกพี่เขาให้ทำ นึกถึงบุญที่เคยทำ ๆ มา ตั้งกำลังองค์สมเด็จปฐมต้น บรมมหาจักรพรรดิ พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์เจ้าทั้งหลาย ครูบาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆ กันมา มีหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง หลวงปู่ทวดเป็นที่สุด บารมีพระอินทร์ เทวดาทั้งหกชั้น พรหมทั้ง 20 ชั้น พระยายมราช ท้าวมหาราชทั้งสี่ ได้โปรดรวบรวมบุญ ที่ข้าพเจ้าได้สร้างแล้วบำเพ็ญแล้วตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต อุิทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าที่ทำให้ข้าพเจ้าเจ็บป่วย ....... ขอให้เจ้ากรรมนายเวรได้โปรดโมทนาบุญ ในบุญ.......และบุญ....... เมื่อท่านโมทนาบุญแล้ว ขอได้โปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าให้มีผลนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบท้าวเข้าสู่พระนิพพาน และขอให้โรคนี้จงหายโดยฉัพพลัน

    อาการที่ปวดตึงกลับเดินได้คล่องตัว โดยที่ไม่ได้นวด ไม่ได้ไปสัมผัสตัวผู้ให้รักษาเลย ....

    แต่อาการเหล่านี้เป็นอาการที่มีพลังงานต่าง ๆ สะสมมากไป ไม่รักษาตั้งแต่ต้น ทำให้มีผังผืดเกาะที่เอ็นเข่า จึงให้น้ำมันไปทานนวด น้ำมันสูตรหมอชีวก และสอนวิธีทำน้ำมนต์ ใช้ดื่มกิน อาบ เพื่อสลายพลังงานต่าง ๆ ให้ออกไป

    น้องชายพี่ชายท่านนี้ลงมาเจอ แอบถามว่าได้ใช้มีดหมอรักษาให้หรือเปล่า ไม่ได้ใช้มีดหมอเลย อัดแต่บุญ เข้าไปแทน ไว้จะติดตามอาการต่อไป

    รักษาโรคด้วยพลังพุทธคุณ เพราะเชื่อว่าพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งได้จริง แต่ทุกอย่างย่อมไม่เกินกรรม


    เข้ามาทักทายกันได้ http://www.facebook.com/apisab
     
  18. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ญาติที่ร่วมเดินทางจากกรุงเทพมุ่งหน้าสู่ ตจว บ่นถึงอาการปวดเอ็นขา

    วันที่แรกที่นั่งรถมาด้วยกันว่าจะรักษาให้ แต่ก็ขอให้ชดใช้กรรมไปก่อน จนถึงวันนี้ 4 วันแล้ว

    จึงได้จังหวะการรักษาโรค โรคบางโรคก็ต้องให้รับกรรมกันไปสักพัก ไม่รับเลยก็จะรักษาลำบาก
    เพราะหากเจ้ากรรมนายเวรแค้นอยู่ ก็ต้องให้รับไปตามเรื่องที่เขาแค้น

    หลาย ๆ คนบ่นว่าทำกรรมอะไรไว้ในอดีตหนักหนา ชาตินี้ถึงต้องป่วยหรือต้องประสบเคราะห์กรรม ผมได้แต่ถอนหายใจ
    เพราะหากรู้ไปแล้วก็คงจะใช้กันไม่ไหว บ่นไปก็เท่านั้นเข้าเคสดีกว่า

    เคสนี้ใช้พระขรรค์จักรพรรดิและมีดหมอพิธีถอนโบสถ์(ซึ่งการจะมีฤกษ์ในการทำพิธี)

    [​IMG]

    นะโมฯ 3 รอบ
    อิติปาระมิตา ติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา อิติโพธิมนุปปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม นะโมพุทธายะ (คาถานี้ใช้ถอนคุณไสย ไสยศาสตร์ รักษาโรคที่ทางการแพทย์ปัจจุบันรักษาไม่หาย)

    ให้ผู้รักษานั่งปลายเท้าชี้ไปทางทิศตะวันออก

    ข้าพเจ้าขอมอบกายถวายชีวิตแด่พระพุทธเจ้า
    ข้าพเจ้าขอมอบกายถวายชีวิตแด่พระธรรม
    ข้าพเจ้าขอมอบกายถวายชีวิตแด่พระสงฆ์

    โรคภัยไข้เจ็บปวดขาที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้า จะเกิดจากการสร้างเวรกรรมในอดีตชาติก็ดี จะเกิดจากโรคในปัจจุบันก็ดี จะเกิดจากไสยศาสตร์ต่าง ๆ ก็ดี จะเกิดจากคุณผีคุณเจ้าที่ก็ดี ข้าพเจ้าขอน้อมบารมีขององค์สมเด็จปฐมต้นบรมมหาจักรพรรดิและบารมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ บารมีของพระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์เจ้าทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆ กันมา มีหลวงปู่ปานวัดบางนมโค หลวงพ่อฤาษีลิงดำพระราชพรหมยาน วัดท่าุซุง หลวงปู่ดู่ หลวงพ่อทวด เป็นทีสุด บารมีพระอินทร์ เทวดาทั้งหกชั้น บารมีพระพรหม ทั้งยี่สิบชั้น พระยายมราช ท้าวมหาราชทั้งสี่ พระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระพาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับข้าพเจ้า ได้โปรดเมตตารักษาโรคที่เกิดขึ้นในร่างกายของข้าพเจ้าให้หายโดยฉัพพลัน ขอบุญบารที่ข้าพเจ้าสร้างแล้วบำเพ็ญแล้วตั้งแต่อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ และจะสร้างในอนาคต ขอให้ท่านทั้งหลายได้โปรดโมทนาบุญ ขอให้เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้ปวดขาข้อเข่าจงรับ และอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ให้มีผลนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปตราบท้าวเข้าสู่พระนิพพาน


    หลังจากที่ให้อธิษฐานไปแล้วนั้น ก็ให้ยืนเดิน ทดสอบกัน อาการปวดตึง ในเส้นเอ็นขานั้นหาย สอบทานอยู่หลายชั่วโมงก็ยังเป็นปกติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2011
  19. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    นั่งดูดวงที่ห้าง อัมรินทร์พล่าซ่า ลูกค้าสาวได้โทรหาผมบอกว่าจะเข้ามาบ่าย ๆ

    ผมจึงเปิดไพ่ ถามว่า ลูกค้าท่านนี้จะมาตามนัดหรือไม่




    ตอบใน Fb และที่ พันทิพย์แล้วครับ

    ตอบว่าไม่มา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2011
  20. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    รับงาน Event ทีห้างอัมรินทร์พลาซ่า วันที่ 14 ถึง 17 ก.พ. 54

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...