ออกจากภพสาม ....พากันไปเถิด....

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย กฤษณะ, 30 กันยายน 2005.

  1. กฤษณะ

    กฤษณะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +52
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->


    คลิ๊กเวป http://geocities.com/dmk2548/



    นิพพาน ไม่สูญ...............................................


    สมมุติว่า มีใครคนหนึ่งมาเล่าให้ฟังว่า ตัวเขาเองเป็นเสี่ยใหญ่ สร้างวัดมา ๑๐ วัด เป็นเงิน ๑๐๐ ล้านบาท อีกรายหนึ่งมาเล่าให้ฟังว่า เขาพากเพียรให้เพื่อนคนหนึ่งทำวิชชา ๑๘ กายได้ จนเพื่อนคนนั้นเห็นธรรมกายชัดเจน

    ถามท่านว่า ท่านคิดอย่างไร ท่านจะอนุโมทนาเสี่ยใหญ่คนนั้น หรือท่านจะยินดีปรีดากับรายที่สอนให้เพื่อนเป็นธรรมกาย

    ท่านจะคิดอย่างไร เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่สำหรับความคิดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ายินดีกับผู้สอนให้เป็นธรรมกาย เพราะบุญบารมีจากการทำให้คนเป็นธรรมกาย เป็นบุญสูงส่ง สามารถออกไปจากภพ ๓ ได้ ส่วนบุญจากการสร้างวัด อย่าว่าแต่ ๑๐๐ ล้านเลย อีกกี่ฟ้าครอบก็ออกนอกภพ ๓ ไม่ได้ บุญทั้ง ๒ ต่างกัน ท่านพิจารณาให้ดี

    ผู้เรียนก็ไม่ทราบว่า เขาทำธรรมกายได้วันนี้ ได้บุญได้บารมีเท่าไร วิปัสสนาจารย์อาจยังไม่ทราบว่า ที่ตั้งใจสอน ตั้งใจต่อวิชาให้แก่นักเรียน เกิดบุญเกิดบารมีแก่ท่านเท่าไร แค่ไหน อย่างไร เรื่องนี้ไม่ยากเลย เพราะท่านทำธรรมกายเป็นแล้ว เข้าธรรมกายไปถามพระพุทธองค์ในนิพพานดูได้ ถามทุกนิพพาน นิพพานใดตอบอย่างไร ท่านจำไว้ วันนี้ไม้ได้ความรู้ พรุ่งนี้ทำใหม่ พากเพียรทำไปจนกว่าจะฟังพระพุทธองค์ได้ยิน แล้วท่านจะทราบอานิสงค์ด้วยตัวท่านเอง

    การเรียนวันต่อไป ให้แยกห้องเรียนเป็น ๕ ชั้น คือ
    ๑. ชั้นมูล คือ ชั้นที่ยังไม่เห็นดวงธรรม
    ๒. ชั้นอนุบาล คือ ชั้นที่ได้ดวงธรรม และเป็นธรรมกายแล้ว แต่ยังใช้การไม่ได้ ต้องอนุโลมปฏิโลมวิชา จนกว่าเดินวิชา ๑๘ กายได้คล่อง และเข้านิพพานได้คล่อง
    ๓ ชั้นประถม คือ ชั้นที่มาจากชั้นอนุบาล ให้มาเรียนหลักสูตรคู่มือสมภาร
    ๔. ชั้นมัธยม คือ ชั้นที่มาจากชั้นประถม ให้มาเรียนหลักสูตรวิชชามรรคผลพิสดาร
    ๕. ชั้นอุดมศึกษา เป็นชั้นที่เรียนวิชชาธรรมกายชั้นสูง จบหลักสูตรแล้ว ประสงค์สร้างบารมีขั้นปรมัตถ์ สามารถใช้วิชาให้เป็นประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันได้ ได้เห็นหลวงพ่อวัดปากน้ำ ตั้งเวรให้แก่ผู้ได้ธรรมกาย ทำวิชาแก้ไขเหตุการณ์ต่างๆ ได้ เช่น
    (ก) แผนกแก้โรค ทำวิชาแก้โรคให้แก่ผู้เจ็บไข้ที่ไปร้องขอ ปรากฏว่ามีคนหายจากเจ็บไข้จำนวนไม่น้อย โดยไม่ต้องกินยา
    (ข) แผนกเศรษฐกิจ ทำวิชาแก้ไขเหตุการณ์ข้าวยากของแพง
    (ค) แผนกดินฟ้าอากาศ ทำวิชาแก้ฝนแล้ง แก้ไม่ให้เกิดพายุใหญ่ แก้ธรรมชาติให้สู่ความเป็นปกติ
    (ง) แผนกอุบัติเหตุและสงคราม ทำวิชาแก้ทุกข์ภัยต่างๆ แก้ไม่ให้เกิดสงคราม
    (จ) แผนกสะสางธาตุธรรม ทำวิชาละลายกิเลสอวิชชา ไม่ให้ธรรมภาคมารเข้ามาปนเป็นอยู่ในจิตใจของสัตว์โลก แยกพระแยกมารไม่ให้ปะปนกัน นับเป็นวิชาอาสวักขยญาณชั้นสูง รู้และเข้าใจกันในหมู่คณะของผู้ทำวิชาเท่านั้น จะไปพูดให้คนอื่นเข้าใจนั้น เห็นว่ายาก เพราะเป็นความรู้ขั้นละเอียดอ่อน ต้องเรียนจริงปฏิบัติจริงจึงจะรู้ได้เห็นได้

    ผมเห็นว่าวิชาธรรมกายเป็นประโยชน์จริง แม้จะทำความสำเร็จไม่ได้เท่าอาจารย์ แต่ก็พอเป็นไป

    ผมเอาใจช่วยสถาบันใดหรือวัดใด ที่จัดให้มีการสอนวิชาธรรมกายครบ ๕ ระดับชั้น ก็ต้องจัดว่าสถาบันนั้นเป็นแหล่งเพาะโพธิสัตว์ เป็นแหล่งเพาะพุทธภูมิ เป็นแหล่งเพาะผู้บำเพ็ญบารมีขั้นปรมัตถ์ ความเจริญจะเกิด ความทุกข์เข็ญจะสูญ ความดีจะชนะความชั่ว อย่างทันตาเห็น

    ใครมีความคิดอย่างที่ว่านั้น นับว่าโชคดีของท่าน เราเกิดมาคราวนี้ มีชีวิตเป็นแก่นสาร คือได้สร้างบุญไพศาล ได้สร้างบารมีขั้นปรมัตถ์ ได้แจ้งวิชา แจ้งนิพพาน แจ้งสวรรค์ แจ้งนรก แต่จะแจ้งได้มากน้อยแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับความตั้งใจจริงของท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2005

แชร์หน้านี้

Loading...