ออกจากสมาธิขนลุก *_* อุทิศบุญขนลุก

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมมนุษย์, 31 พฤษภาคม 2014.

  1. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    พอเข้าสมาธิเต็มกำลังของผมแล้วเวลาคลายออกจากสมาธิทำไมขนมันลุกซู่ขึ้นมาอีกครับแล้วสักพักก็หายไป คือ ไม่ใช่เฉพาะเวลาออกจากสมาธิเท่านั้นขณะทำสมาธิอยู่แล้วผมขยับตัวก็จะมีอาการขนลุกซู่ตัวสั่นขึ้นมาอีก พอนิ่งก็หาย ขยับตัวอีกก็ขนลุกซู่ตัวสั่นอีก อันนี้เป็นอาการแรกช่วยกรุณาอธิบายทีครับ ? อีกอาการเวลาอุทิศบุญกุศลจะมีอาการขนลุกซู่ โดยเฉพาะถ้าถึงช่วงอุทิศให้ เจ้าที่เจ้าทางเจ้าเขาเจ้าป่า และ เปรต อสูรกาย สัพเวสี ขนลุกขนพองสยองเกล้าแรงมากๆ ช่วยอธิบายทีครับ ?
     
  2. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    ปิติก็พอทราบครับ คือผมอยากทวนสอบการปฏิบัติว่าตนเองเข้าใจผิดหรือไม่ เช่น ผมเข้าสมาธิ >> ขนลุกขนพอง (ปิติ) >> นิมิต(แสง/ภาพ) >> นิ่งเงียบสงบ >> พอขยับตัว >> ขนลุกอีก (นั้นคือ สมาธิเราตกลงมาสู่ ปิติ ใช่ใหม่ครับ ?) >> พอสักพักก็นิ่งเงียบสงบ ระหว่างทำสมาธิก็เป็นเช่นนี้หลายรอบครับ ขึ้นๆลงๆ ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว ผมเข้าใจว่าเป็น "ขนิกะสมาธิ" บางครั้งผมก็เจอ ปิติ อีกแบบหนึ่งเกิดขึ้นแล้วรู้สึกว่าหน้าเราพองโตขึ้นสมาธิตั้งมั่นอยู่เฉพาะหน้าได้ดี แถมมีอาการเบากายเบาใจ มีนิมิตแสงสว่าง/แสงดาว ผมเข้าใจว่า "อุปจารสมาธิ" บางครั้งผ่านขั้นตอนที่เล่ามาทั้งหมด สมาธิตั้งมั่นเฉพาะหน้าดีมาก คำบริกรรมชัดแจ๋วสติรับรู้คำบริกรรมไม่เผลอ เบากายเบาใจมีปิติหล่อเลี้ยงเป็นพักๆ จิตคิดแต่ในขอบเขตของกุศล แต่พอลองคิดอกุศลดูแต่ก็รู้สึกว่าจิตมันบล็อกอกุศลไม่ยอมเข้าไปรับรู้ ผมเข้าใจว่า "ปฐมฌาน" แต่อาการทั้งหมดมันขึ้นๆลงๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกต้องหรือไม่ครับ
     
  3. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    ต่อมาจากอาการดังกล่าว ผมจะเกิดปิติรุนแรงมากเรียกว่าสะท้านเข้าไปข้างในจิตใจเย็นซาบซ่านสะเทือนอยู่นาน จนไม่นึกถึงคำบริกรรมใดๆเลย จิตใจชุมแช่อยู่กับปิตินั้น รู้สึกว่าจิตมันไม่สนใจคำบริกรรมแต่ไปสนใจกับปิติที่เกิดมากกว่า พร้อมกับแสงสว่างในดวงจิต ผมเข้าใจว่า “ทุติยฌาน” ถูกต้องหรือเปล่าครับ
     
  4. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    แล้วอาการปิติในขณิกะสมาธิ ปิติในอุปจารสมาธิ และปิติในทุติยฌาน อาการแตกต่างกันอย่างไรที่พอจะสังเกตได้ครับ
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    อาการที่เกิดขึ้นทั้ง ๒ อาการเป็นเครื่องชี้ว้ดได้อย่างหนึ่งว่า
    ทั้งสมาธิที่เราเข้าถึงนั้นได้ผลและการอุทิศส่วนกุศลของเราก็ได้ผล
    อย่างนี้ถือว่าดีทั้ง ๒ ขณะครับ..เด่วอธิบายให้ฟังนะครับ..

    ทั้ง ๒ เหตุการณ์แสดงว่าจิตของเราสามารถที่จะเชื่อมต่อกับพลังงาน
    ภายนอกได้ครับ บางก็เรียกว่าภพภูมิ บางก็เรียกว่า ดวงจิต หรือจะเรียก
    อะไรก็แล้วแต่จะตั้งชื่อแตกต่างกันไป ในระดับนี้ยังไม่ต้องแยกรายละเอียด..


    การที่ร่างกายขนลุกซู่เป็นช่องทางหนึ่งของการสื่อสารรับรู้ เพื่อให้เรารู้
    ว่าภายนอกที่อยู่รอบๆตัวเรานั้นสามารถสัมผัสได้ และรู้ได้.เพียงแต่
    อาการขนลุกในหลังหรือขณะปฏิบัติหรือหลังอุทิศส่วนกุศล.เป็นระดับ
    การรับรู้เบื้องต้นจากภายนอกที่ส่งสัญญานให้เรารับทราบวิธีการหนึ่งครับ.
    เพียงแต่ถ้าจิตเราไม่ได้คิดที่จะไปขอเชื่อมกับแหล่งพลังภายนอก
    โดยตรงๆ.เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ เช่น สื่อสาร รับรู้ ส่งผ่านกระแส ฯลฯ
    ก็จะเกิดอาการเพียงชั่วขณะ.ซึ่งถือว่าเป็นอาการปกติทั่วๆไปครับ


    และถ้ามองในรูปพลังงานก็คือ คลื่นความถี่ที่ออกจากจิตเราสามารถส่งผ่านสมองส่วนกลาง
    คือลากตรงๆแล้วชนกับหูทั้ง ๒ ข้างไปยัง
    เป้าหมายที่เราตั้งไว้ได้.หรือมีคลื่นความถี่อื่นๆอยู่รอบๆตัวเรา.และจิตเรา
    สามารถที่จะรับรู้ได้ สัมผัสได้ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ถึงในระดับของกะแสเส้นคลื่นเท่านั้นเอง
    และมันยังเร็วมากจนเรายังสังเกตุไม่ทัน แต่ที่สังเกตุง่ายๆคือ
    ถ้ามีความคิดตรงสมองส่วนหน้าคือ
    เหนือหน้าฝากอาการขนลุกจะหายไปทันทีครับ.


    ซึ่งอาการขนลุกนี้เป็นฐานที่จะนำไปสู่การรับรู้ที่ ชัดเจนกว่า สูงกว่านี้ แยกแยะได้
    ว่าคลื่นความถี่นี้เป็นระดับไหน.จากจุดที่ออกจากร่างกายที่จะเกิดในอนาคต
    ที่แตกต่างกันครับ.ซึ่งจะต้องผ่านเรื่องภาพ และก็ข้ามเรื่องภาพก่อน ถึงจะเข้าสู่
    ในระดับคลื่นนี้ได้..หรือบางท่านเรียกว่าระดับวิญญานธาตุ.หากยังปฏิบัติและทำ
    อย่างนี้อยู่เป็นปกติ.จะสามารถเข้าถึงได้ในเวลาอีกไม่นานครับ.และจะเห็นได้
    สัมผัสได้ รวมทั้งมองเห็นได้ด้วยตาตัวเอง..ซึ่งสามารถปฏิบัติให้เข้าถึงได้กันทุกคนครับ

    ส่วนกริยาทางจิตที่จะน้อมไปถึงระดับคลื่น
    และสังเกตุว่าปิติเราอยู่ในช่วงอารมย์ไหน.
    ส่วนกิริยาทางจิตที่เกิดก็มีแตกต่างกันไป
    และเกิดได้แตกต่างกันครับ.เป็นเฉพาะบุคคล.ซึ่งมีในตำรา
    ในห้องนี้มุมขวามือเราก็มีบอกครับ.และให้ลองสังเกตุดูว่า
    ถ้าเห็นแสงแว๊ปหายคือ ขณิกสมาธิ ถ้าเห็นนานขึ้นแล้วหาย คือ อุปจารสมาธิ ถ้าเริ่มเห็นแสงสว่าง
    จ้ามากและอารมย์คงทีนานขึ้นนั้นคือจะเริ่มเข้าสู่ระดับฌาน ๑
    ..ถ้ามาทางอาปาฯ หรือ สมถะฯ พอไต่ระดับฌาน
    ภาพจะหายไป และแรกๆถ้าทำต่อได้ จะมารู้สึกตัวอีกทีตอน กายกับจิตแยก
    กันเด็ดขาดชั่วคราวแล้ว..ซึ่งตอนนั้นจะเห็นอะไรก็สุดแล้วแต่..

    ถ้าเริ่มฝึกจากการสร้างภาพ ไม่ว่ากสิณพระ หรือกสิณกองต่างๆ เข้าระดับ
    ฌาน ๑ ภาพจะคงที่มีสีเดียว ยกเว้นกสิณพระหรือกสิณบางกอง ภาพจะสว่างๆ
    และจะหายไปและมาเห็นอีกทีตอนที่ภาพเริ่มมีประกายในตัวเอง.คือในระดับ
    กำลังฌาน ๓ ละเอียดหรือ ๔ หยาบๆ..หากช่วงนี้.ไม่ได้โน้มจิตเพื่อฝึกอฐิษฐาน
    ไปทาง จุตูปฯ เจโตฯ อนาตังฯ อตีตังฯ แล้วรักษาอารมย์ได้

    จะเข้าสู่โหมดอรูปฌานได้.การไต่ระดับอรูปฌาน ๑ ถึง ๓ ในขณะที่รักษาอารมย์คือ
    แสงจะค่อยๆจางลงตามลำดับแต่ภาพยังอยู่นะครับ.
    .ส่วนถึงขั้นเนวสัญญาไม่สามารถบอกได้
    เพราะว่ายังไม่สามารถเข้าถึงครับ...ต้องให้คนเก่งๆสมาธิแนะนำต่อครับ.

    ปล.ที่เหลือก็ค่อยๆพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆร่วมด้วยครับ
    ยังไงอ่านดูก่อนให้จบนะครับ..
     
  6. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    ขอบพระคุณมากครับ ได้รับเคล็ดลับจากผู้รู้เป็นที่พึงพอใจพอสมควรครับ อนุโมทนาด้วยครับ
     
  7. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ผมจะเกิดปิติรุนแรงมากเรียกว่าสะท้านเข้าไปข้างในจิตใจเย็นซาบซ่านสะเทือนอยู่นาน

    อันนี้อยู่ในณาน 2 เท่านั้น ฝึกเข้าฝึกออก ฝึกแช่ปิติตัวนี้น่ะ จะเป็นที่ดีมากๆ ในภายภาคหน้า

    ปิติตัวนี้ มีผลในการติดต่อเข้าภพออกภูมิ หรือสื่อสารจิตอื่นในภพภูมิอื่นน่ะ จะชัดจะยาวนาน ก็เพราะวสี ของปิติตัวนี้ ฝึกทรงปิติตัวนี้ให้ได้ตลอดทั้งลืมตา หลับตาน่ะ ท่านจะเห็นผลสมาธิของท่านได้เร็วยิ่งๆ ขึ้น ถ้าฝึกเข้าฝึกออกปิติตัวนี้ได้ท่านจะผ่านด่าน ตกผวังค์หลับ ด่านที่นักฝึกติดกันมากๆ นี่แหละ
     

แชร์หน้านี้

Loading...