อัครมหาพิธี"ไคกวงต้าเตี่ยน"แห่งศตวรรษ

วันก่อนได้เข้าไปเปิดดูเวบพุทธวงศ์ http://www.phuttawong.net ของคุณเนาว์สถิตย์ แล้วเจอรูปพิธีไคกวงต้าเตี่ยน

ซึ่งคุณเนาว์สถิตย์ ได้ถ่ายรูป และเขียนคำอธิบายไว้อย่างละเอียดชัดเจน ซึ่งเป็นข้อมูลความรู้ที่ดีที่นำมาแบ่งปันแก่ทุกท่านได้มาศึกษาและประดับความรู้กันต่อไปคับ อย่างไรก้อแล้วแต่ ขออนุโมทนาบุญในครั้งนี้แก่คุณเนาว์สถิตย์ด้วยครับ ^^




แท้จริงแล้ว คำว่า"ไคกวง"ในภาษาจีนนั้น หากจะแปลกันตรงตัวกันจริงๆก็คือพิธี "เบิกพระรัศมี"(ไค-เปิด,กวง-รัศมี) อัญเชิญพระพุทธรังสีและรัศมีของพระรัตนตรัย ตลอดจนพรหมเทพเทวาพระมหาโพธิสัตว์ทั้งปวงลงสถิตในองค์พระพุทธปฏิมากรหรือสิ่งมงคลสักการะให้ทรงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์
โดยนัย ก็เช่นเดียวกับการ "เบิกพระเนตร" หรือพิธี"พุทธาภิเษก"ในฝ่ายข้างไทยนั่นเอง...
และพิธี"ไคกวง"ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบร้อยปีที่ผ่านมา จนถึงระดับขั้น"ต้าเตี่ยน"(มหาพิธี)นี้ ก็คงจะไม่มีใดจะยิ่งใหญ่และอลังการโอฬาริกวิเศษสุดยอดยิ่งไปกว่าอัครพิธีไคกวง(เบิกพระเนตรเบิกพระรัศมี)พระมหาพุทธปฏิมาประธาน 3 พระองค์ อันได้แก่พระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า,พระอมิตาภพุทธเจ้าและ พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าประจำพระอุโบสถ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์จีนนิกายรังสรรค์ ที่อ.บางบัวทองจ.นนทบุรีเมื่อตอนเช้าของวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2551 ไปได้อีกแล้ว...
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff><!-- --></TD></TR></TBODY></TABLE>



เพราะทุกสิ่งทุกอย่างอันเนื่องในการเบิกพระรัศมีและเปิดวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์นี้ มีความยิ่งใหญ่มโหฬารและวิจิตรอลังการลงตัวสมบูรณ์แบบที่สุดทั้งฝ่ายรูปและนามในทุกส่วนทุกประการ ยากที่จะหามหาพิธีและมหาโอกาสใดในสยามประเทศที่จะตระการตาตระการใจให้เสมอเหมือนหรือยิ่งไปกว่าในรอบร้อยปีทั้งที่ผ่านมาหรือแม้ในอนาคตอย่างแท้แล้ว.... <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>


พระพุทธปฏิมาประธาน 3 พระองค์ พระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า,พระอมิตาภพุทธเจ้า และ พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าซึ่งจำลองมาจากพระประธานวัดเล่งเน่ยยี่และขยายขนาดจนใหญ่มหึมาที่ประกอบมหาพิธีไคกวงต้าเตี่ยนในครั้งนี้ ทราบมาว่า ต้องใช้โลหะหล่อน้ำหนักถึงองค์ละ "7" ตันเลยทีเดียว!!!! <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>



ความยิ่งใหญ่โอฬารตระการตาขององค์ พระประธานและ มหาอุโบสถ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ฯจะเห็นได้อย่างถนัดตา <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>



แม้ศาสนาคารแห่งวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ทั้งปวง ก็ออกแบบก่อสร้างอย่างงดงามใหญ่โตและโอ่อ่าโอฬาร ประหนึ่งจำลอง"จื่อจิ้นเฉิง"หรือ"พระราชวังต้องห้าม"แห่งนครปักกิ่ง ประเทศจีนมาประดิษฐานตั้งไว้ก็ไม่ปาน เลยนั่นเทียว..... <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>



วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ ฯ ตั้งอยู่ ตำบลโสนน้อย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เดิมเป็นโรงเจขนาดเล็ก มีพื้นที่ 2 ไร่เศษ ที่ชาวบ้านบางบัวทองให้ความศรัทธามาเนิ่นนาน ต่อมาคณะสงฆ์จีนนิกาย มีปณิธานจะพัฒนาที่ส่วนนี้ ให้เป็นวัดที่สมบูรณ์ เพื่อที่จะสร้างเป็นวัดเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เนื่องในวโรกาสเถลิงถวัลย์ ครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี
ปัจจุบันวัดบรมราชากาญจนาภิเษกฯ มีเนื้อที่ทั้งหมด ๑๒ ไร่ โดยคณะสงฆ์จีนนิกายได้มอบหมายให้ พระเดชพระคุณพระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์ (ท่านเจ้าคุณเย็นเชี้ยว) ดำเนินการก่อสร้างและพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร เป็นประธานที่ปรึกษา พร้อมทั้งพุทธบริษัทไทย-จีน ร่วมกันสร้างถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคลสมัยปีกาญจนาภิเษก ทางวัดมังกรกมลาวาส ได้กราบทูลเชิญสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก สมเด็จองค์ประธานวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชานุญาตให้สร้างวัดและพระราชทาน นามว่า

 

"รหัสมุทรา" นี้ ล้วนมีความหมายและอานุภาพในตนอย่างลึกล้ำ <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>



จากนั้น พระมหาคณาจารย์จีนสมาธิวัตร (เย็นเต็ก) วัดโพธิ์แมนคุณาราม กทม. เจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย ประธานฝ่ายสงฆ์ได้ประพรมน้ำพระพุทธมนต์สมโภชพระพุทธปฏิมาประธานและสิ่งมงคลสักการะทั้งสิ้นเป็นประเดิม <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>



พร้อมนี้ ก็ยังได้ไคกวงยัง"จั๊บโป้ยหล่อหั่น"(สิบแปดอรหันต์) ซึ่งประดิษฐานอยู่รายรอบไปพร้อมกัน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>



จากนั้น จึงได้กระทำการอธิษฐานไคกวงพระพุทธปฏิมาทั้ง 3 และสิ่งมงคลสักการะทั้งสิ้นด้วยธูปและเทียนแดง <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>



พระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์ (เย็นเชี้ยว) รองเจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย อธิษฐานจิตเบิกพระรัศมี <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>



แม้พระอาจารย์จีนวินยานุกร (เย็นอี่) ผู้ช่วยเจ้าคณะใหญ่ฝ่ายขวาจีนนิกาย ก็ได้อธิษฐานจิตทำพิธีไคกวงต้าเตี่ยนไปพร้อมกัน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>



จากนั้น ประธานสงฆ์ทั้ง 3 จึงได้ทำพิธีจุณเจิมและอธิษฐาน"คันฉ่องมันตรา"เพื่อ"ส่อง" สะท้อนพระพุทธอักขระศักดิ์สิทธิ์ขึ้นไปเปิดพระรัศมียังที่พระพุทธปฏิมาทั้ง 3 พระองค์ตามคติวัชรยานมหายานอย่างสมบูรณ์แบบ <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>



ทำให้ได้เห็นประจักษ์ถึงหนึ่งใน"คติแห่งคันฉ่อง"ตามมติแห่งมหายานจากการนี้ได้อย่างชัดแจ้ง <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>



ครั้นแล้ว พระมหาคณาจารย์จีนสมาธิวัตร (เย็นเต็ก) วัดโพธิ์แมนคุณาราม กทม. เจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย ประธานฝ่ายสงฆ์คุกเข่าลงสังวัธยานพระสูตรสำคัญอีกคำรบหนึ่ง <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>



และ พระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์ (เย็นเชี้ยว) วัดเล่งเน่ยยี่ กทม. รองเจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย ก็ได้กระทำพิธีไคกวงยังบรรดาสิ่งมงคลสักการะทั้งนั้นที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าพระพุทธปฏิมาประธานทั้ง 3 พระองค์เป็นการเฉพาะอีกวาระหนึ่ง <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>



ออนีโทฝอ...... <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>



แล้วจึงอธิษฐานจิตประพรมน้ำพระพุทธมนต์ซ้ำอีกคำรบหนึ่ง <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>



ครั้นแล้ว พระมหาคณาจารย์จีนสมาธิวัตร (เย็นเต็ก) วัดโพธิ์แมนคุณาราม กทม. เจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย ประธานฝ่ายสงฆ์ได้น้อมุถวายเครื่องพุทธบูชาและพุทธบริโภคแด่พระพุทธปฏิมาประธานทั้ง 3 พระองค์ ซึ่งได้ผ่านอัครมหาพิธี"ไคกวงต้าเตี่ยน"มาอย่างยิ่งใหญ่อลังการที่สุดเป็นปัจฉิมวาร <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>



สาธุ....... <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>



หมายเหตุ , จากการตรวจสอบพลังพุทธคุณในวัตถุมงคลซึ่งเข้าร่วมในมหาพิธีไคกวงต้าเตี่ยนในครั้งนี้ โดยผู้ทรงสมาธิจิตซึ่งสำเร็จวิชชา"เปิดโลก" สาย"สมเด็จลุน" พบว่า
"นิมิตเห็นพระพุทธรูปจีน 3 องค์ มีรัศมีเปล่งปลั่งสวยงามมาก แผ่พระรัศมีสีทองทอดลงมายังวัตถุมงคลที่อยู่เบื้องล่างทั้งปวง สว่างไสวไปหมดเลยทีเดียว..!!!!"
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อุโมทนา สาธู
สวยมากครับ
พิธีนี้สำคัญมากครับ
ขอบคุณขอมูลที่ดีครับ











<TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อุโมทนา สาธุ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>


<TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อนุโมทนาครับ แก๊ค...."พุทธบารมีแผ่ไพศาล...อนุเคราะห์แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย...ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ.ให้มีจิตพุทธรู้ตื่นรู้เบิกบาน...นโมพระศากยมุณีพุทธเจ้า...นโมพระอมิตาภะพุทธเจ้า...นโมพระไภษชยครุพุทธเจ้า"

 

อนุโมทนาครับอยากไปนมัสการองค์ท่านครับไม่ทราบว่าอยู่แถวไหนของบางบัวทองครับแล้ววัตถุมงคลยังมีให้ร่วมทำบุญไหมครับ

 

ข้อมูลสำหรับการเดินทางครับ

เรื่องวัตถุมงคลนี่ผมไม่ทราบจริงๆครับว่าทางวัดเค้ายังมีให้เช่าบูชากันอยู่มั๊ย แต่ผมมีข้อมูลการเดินทางสำหรับท่านที่ต้องการไปวัดนี้มาฝากกันครับ

​

วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ฯ ตั้งอยู่ที่บางบัวทอง ถ้าจะขับรถมาก็สามารถใช้ถนนงามวงศ์วาน แล้ววิ่งตรงมาทางบางบัวทอง
สำหรับคนไม่คุ้นเส้นทางแล้วกลัวจะหลง ต้องบอกว่าทางมาไม่ยาก เพราะตรงมาแล้ว มีเลี้ยวขวา 1 ครั้ง เลี้ยวซ้ายอีก 1 ครั้งก็ถึงวัดแล้ว



<HR>

​

ก่อนจะข้ามสะพานพระนั่งเกล้า ตอนนี้มีงานก่อสร้างสะพานอันใหม่ ผ่านมาก็ขับระวังกันนิด



<HR>

​

พอข้ามสะพานพระนั่งเกล้าออกมาแล้ว ก็ยังคงตรงอย่างเดียวต่อไป แถวนี้เรียกว่า ถนนรัตนาธิเบศร์



<HR>

​

วิ่งมาจนมาเจอถนนราชพฤกษ์ลอยขวางอยู่ข้างหน้า ก็เตรียมตัว เดี๋ยวต้องไปเลี้ยวขวาที่แยกหน้าแล้ว



<HR>

​

อีกเส้นทางหนึ่ง สำหรับใครสะดวกใช้ถนนราชพฤกษ์มาก็ได้เหมือนกัน ให้วิ่งขึ้นเหนือเอาไว้ จนมาเจอป้ายที่บอกให้แยกซ้ายเข้าถนนรัตนาธิเบศร์ ก็ชิดซ้ายตามป้ายมา



<HR>

​

พอชิดซ้ายออกมาแล้ว ก่อนจะเลี้ยวซ้าย ป้ายถัดมาชื่อถนนรัตนาธิเบศร์จะหายไป ไม่ต้องตกใจ เลี้ยวตามป้ายที่ชี้ไปถนนกาญจนาภิเษกได้เลย



<HR>

​

ตรงนี้ก็วิ่งเข้ามาเชื่อมกับถนนรัตนาธิเบศร์เหมือนกับที่วิ่งมาจากทางบางเขน (ถนนงามวงศ์วาน) แล้ว เห็นป้ายนี้ก็ชิดซ้ายตามป้ายบางบัวทองมา



<HR>

​

วิ่งชิดซ้ายมาข้างสะพาน แล้วเลี้ยวขวาที่แยกนี้​

<HR>

​

เลี้ยวมาแล้วจะเป็นถนนบางกรวย-ไทรน้อย ขับตรงอย่างเดียวไปอีกราว 4 กม.​

<HR>

​

สังเกตว่าพอถนนกว้าง ๆ ถูกเบี่ยงให้แคบลง แสดงว่าใกล้ถึงแล้ว​

<HR>

​

เลยมาหน่อยจะเป็นย่านตึกแถวที่มีร้านอาหารเปิดกันหลายร้าน ผ่านมาถ้าใกล้เวลาอาหารก็อาจจะฝากท้องไว้แถวนี้ก่อนก็ได้ จากตรงนี้ไปอีกนิดเดียวก็ถึงวัดแล้ว



<HR>

​

ถัดมาจะมีป้ายบอกว่าไปวัดให้เลี้ยวซ้าย​

<HR>

​

ไม่ต้องกลัวเลย ทางเลี้ยวเข้าวัดสังเกตง่ายมาก ถนนจะแคบลงกับมีปั้ม ปตท.อยู่ปากซอย ก็เลี้ยวเข้าซอยข้างปั้มมาเลย



<HR>

​

ปากซอยจะมีซุ้มของวัดอยู่​

<HR>

​

เลยมานิดเดียวก็จะมีลานจอดรถอยู่ทางซ้ายมือ ข้าง ๆ กันกับตัววัด​

<HR>

​

ลานจอดกว้างขวาง​

<HR>

​

แต่ถ้าอยากได้ที่ร่มก็ต้องรีบมากันนิด​

<HR>

​

สำหรับใครที่สะดวกมาทางถนนกาญจนาภิเษก ก็ให้วิ่งมุ่งหน้ามาบางบัวทอง
สังเกตว่าพอผ่านบางใหญ่ ที่จะมีห้างใหญ่ ๆ เปิดกันอยู่สองฝั่งถนน ทั้งบิ๊กคิงส์ คาร์ฟู บิ๊กซี ก็แสดงว่าใกล้ถึงแล้ว



<HR>

​

ให้วิ่งผ่านสะพานกลับรถไปหนึ่งสะพาน ถัดมาจะเจอป้ายบอกให้ชิดซ้ายเพื่อไป "ไทรน้อย" ก็ชิดซ้ายออกมาเลย



<HR>

​

ออกมาปุ๊บก็จะเจอโชว์รูมของอีซูซุ ​

<HR>

​

ข้างหน้าจะมีสะพาน ให้กลับรถใต้สะพานนี้​

<HR>

​

พอกลับรถมาอีกฝั่ง ตรงเชิงสะพานก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยนั้นเลย​

<HR>

​

ตรงมาถึงหน้าโรงเรียนแม่พระฯ ตรงนี้มีสามแยก ให้เลี้ยวขวา​

<HR>

​

ตรงมาจนสุดทาง ให้เลี้ยวซ้าย​

<HR>

​

วิ่งผ่านหน้าท่ารถเมล์มาหน่อย วัดจะอยู่ทางขวามือ​

<HR>

​

ส่วนใครที่จะใช้รถเมล์เดินทางมา แนะนำให้ใช้สาย 127 ที่วิ่งระหว่าง พาต้าปิ่นเกล้า - บางบัวทอง
ท่ารถที่บางบัวทองจะอยู่เยื้องกับวัดเลย สะดวกมาก
เส้นทางที่รถสาย 127 วิ่งผ่านคือ เชิงสะพานอรุณอมรินทร์ ไปตามถนนอรุณอมรินทร์ แยกซ้ายไปตามถนนพระปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนี ทางหลวงพิเศษหมายเลข 338 (ถนนปิ่นเกล้า – นครชัยศรี) แยกขวาไปตามทางหลวงพิเศษหมายเลข 37 (ถนนกาญจนาภิเษก) แยกขวาไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3215 (ถนนบางกรวย – บางบัวทอง – ไทรน้อย) ไปสุดเส้นทางที่อำเภอบางบัวทอง
อีกสายคือ สาย 177 เป็นสายรถที่วิ่งเป็นวงกลม เริ่มที่บางบัวทองแล้วก็วนกลับมาที่บางบัวทอง แต่สายนี้จะไม่ผ่านหน้าวัดเสียทีเดียว ต้องเดินต่ออีกหน่อย
เส้นทางเริ่มต้นจากอำเภอบางบัวทอง ไปตามถนนบางกรวย-ไทรน้อย แยกซ้ายไปตามถนนกาญจนาภิเษก แยกซ้ายไปตามถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ถนนบรมราชชนนี แยกขวาไปตามถนนอรุณอัมรินทร์ แยกขวาไปตามถนนพรานนก แยกซ้ายไปตามถนนอิสรภาพ แยกขวาไปตามถนนประชาธิปก ถึงวงเวียนใหญ่ แยกซ้ายไปตามถนนลาดหญ้า แยกขวาไปตามถนนเจริญนคร แยกซ้ายข้ามสะพานตากสิน ไปตามถนนสาทร แยกซ้ายไปตามถนนเลียบใต้ทางด่วน แยกขวาไปตามถนนสีลมแยกซ้ายไปตามถนนพระราม 4 แยกขวาไปตามถนนพญาไท ถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปตามถนนพหลโยธิน แยกซ้ายไปตามถนนงามวงศ์วาน ถนนรัตนาธิเบศร์ แยกขวาไปตามถนนกาญจนาภิเษก แยกขวาไปตามถนนบางกรวย-ไทรน้อย สุดเส้นทางที่อำเภอบางบัวทอง



<HR>

​

แนะนำเพิ่มเติมสำหรับใครที่พาผู้สูงอายุมาวัด ที่นี่มีบันไดให้ต้องขึ้นกันเยอะ ที่วัดจะมีลิฟท์สำหรับผู้สูงอายุได้ใช้กันอยู่ด้วย



<HR>

​

ตัวลิฟท์จะลึกเข้ามาด้านใน ด้านที่เป็นอาคาร 4 ชั้น ฝั่งขวามือ
แต่ถ้าพอจะเดินไหว ก็แนะนำให้ค่อย ๆ เดินขึ้นบันไดไป เพราะถึงจะเหนื่อยแต่พอขึ้นไปถึงแล้วจะอิ่มใจในความเพียรของตัวเองกว่ากันนัก



<HR>

​

ส่วนห้องน้ำที่วัดอาจจะแปลกสักหน่อย เพราะเป็นห้องน้ำรวมชาย/หญิง
ข้างในจะมีกั้นแยกส่วนของผู้ชายเอาไว้อีกทีคร๊าบบบ ^^



<HR>

 

ส่วนอันนี้เป็นแผนที่เพิ่มเติมครับ ^^

​

 

จึงของ อธิบายเล็กๆน้อยๆและบางส่วนเพิ่มเกร็ดความรู้ ดังนี้

1. ไคกวง แปลตรงตัว ว่า "เปิดรัศมี" ก็ได้ แต่จริงๆ สำหรับคติทางพุทธมหายาน ไม่ใช่การอัญเชิญ พระพุทธองค์หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาประทับ แต่เป็นการ ทำให้บริสุทธิ์ โดยการพรมน้ำมนต์ เขียนยันต์
ซึ่ง การทำให้บริสุทธิ์ เพื่อที่จะได้เหมาะสมที่จะเป็นองค์แทนของ พระพุทธองค์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ส่วนการอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น จะอยู่ใน การ "ไคตั๊ว" หรือการเปิดมณฑลพิธีซึ่ง การไคกวงเป็นส่วนหนึ่งในการเปิดมณฑลพิธีเท่านั้น

2. ที่มาของพระกริ่ง ไม่ใช่ การเคาะกริ่งในการสวด แต่มาจาก กริ่งน้ำมนต์(หรือหม้อยา) ที่ประดิษฐาน บนพระหัตถ์พระไภสัชคุรุไวฑูรณ์ประภาส ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าแห่งยา และได้จำลองมาเป็นพระบูชาองศ์เล็กๆ เรียกว่า "พระกริ่ง" คือ พระที่ถือกริ่งน้ำมนต์

3. เสริม การไคตั๊ว ธรรมดาจะเริ่มจากการ สวดเอียงกี ไต้ปุ๋ยจิ่ว จับเสียวจิ่ว ซิมเก็ง ยงเจียง อ่านส่อบุง และสรรเสริญพระสกันทกโพธิสัตว์แล้ว
ในพิธีใหญ่ๆ อาจใช้ ศูรางคมธารณีสูตร(ไต้ฮุกเต้งซิวเหล่งเงี้ยมซิ่งจิ่วหรือ เหล่งเงี้ยมจิ่ว)ในการเปิดมณฑลพิธีก็ได้ซึ่งในเหล่งงิ่มจิ่ว นั้นจะมี ไต้ปุ๋ยจิ่ว จับเสียวจิ่ว ซิมเก็ง และบทสรรเสริญพระสกันทกโพธิสัตว์อยู่แล้ว

 

วัตถุมงคลที่ทุกท่านเห็นยังคงมีให้บูชาอยู่นะครับ ผมก้อได้บูชามาชุดนึงครับเมื่อช่วงปิดเทอมใหญ่ที่ผ่านมา ชุดละ 500 บาทนะครับ
นอกจากนี้ยังมีวัตถุมงคลอื่นๆอีก เช่นผ้ายันต์พระโพธิสัตว์กวนอิม และอื่นๆอีกครับ
วัตถุมงคลบางชุดจะเหมือนกับที่วัดเล่งเน่ยยี่ แต่บางชุดที่เล่งเน่ยยี่จะไม่มีนะครับ

 

ครับ
วันนี้ผมไปที่วัดมาครับคนเอยะมากครับ
แล้วขอประชาสัมพันธ์งานบุญครับ
ปิดทองลูกมิตร์ ครับ
ตั้งแต่วันนี้ถึง 12 กพ 52 ครับ


<TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ชอเชิญไปกินเจที่วัดโพธิ์แมนกันครับ

 

อนุโมทนา

 

พรุ่งนี้ ผมก็จะไปวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ ใครอยากเจอกันผมก็มา

วัดบรมฯ นะ ผมไป 9 โมงครึ่ง ๆ ไปไหว้พระแม่กวนอิม พระอมิตพุทธ

พระไภษัชยคุรุไวฑูรย์ประภาพุทธเจ้า