อัพเดตข่าวสาร วัดท่าขนุนและหลวงพ่อเล็ก

วันเสาร์ที่ ๒๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. ในฐานะประธานชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน ได้ออกสำรวจตามโครงการพืชผักสวนครัวรั้วกินได้ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชนวังท่าขนุน พบว่าเกือบทุกบ้านในชุมชน มีการปลูกพืชผักสวนครัว มากบ้างน้อยบ้าง เพราะว่าเป็นหมู่บ้านในเขตเทศบาล มีพื้นที่สำหรับปลูกพืชผักน้อย แต่ก็พยายามปลูกตามพื้นที่ว่าง หรือปลูกในกระถาง














ที่มา วัดท่าขนุน

 

พระอาจารย์กล่าวถึง พระเถระที่นิพพานในลักษณะแปลกกว่าท่านอื่น ๆ ว่า “พระราหุล พุทธปิโยรส ท่านไปนิพพานบนดาวดึงส์ ก็เลยเดือดร้อนเทวดาต้องทำศพให้

พระอานนท์ นิพพานกึ่งกลางแม่น้ำโรหิณี อธิษฐานเตโชธาตุเผาตัวเอง แล้วให้อัฐิธาตุตกไปสองฝั่ง จะได้ไม่ต้องแย่งกัน เพราะว่ากบิลพัสดุ์และเทวทหะอยู่กันคนละฝั่ง ทั้งสองเมืองเขาก็ขัดกันมาหลายทีแล้ว พระอานนท์กลัวว่าท่านเองจะเป็นชนวนให้เขารบกัน ก็เลยใช้วิธีนิพพานอยู่ตรงกึ่งกลางทั้งสองเมือง

อีกท่านหนึ่งที่ประหลาดคือ พระพากุละเถระ (พา หรือ ทวา แปลว่าสอง พากุละ ก็คือ สองตระกูล) พระพากุละท่านนี้เป็นผู้เลิศในทางไม่มีโรค นอกจากความหิวตามปกติแล้ว โรคอื่นไม่มี เป็นบุคคลที่อายุยืนที่สุดที่บันทึกไว้ในพระไตรปิฎก ก็คือ นิพพานตอนอายุ ๑๕๐ ปี และไม่ได้นิพพานเพราะหมดอายุ แต่นิพพานเพราะเบื่อ ก็เลยเข้ากรรมฐานไปเฉย ๆ

ในอดีตท่านสร้างวัจกุฎี ก็คือ ห้องส้วมถวายพระไว้ เป็นการปลดทุกข์ให้แก่ภิกษุสามเณร เกิดมาชาติใหม่ท่านก็เลยไม่มีทุกข์ในเรื่องของการเจ็บป่วย ยกเว้นการหิวแล้ว อย่างอื่นไม่เคยเป็นกับใครเลย

สำหรับพระสูตรที่กล่าวถึงพระพากุละ ชื่อยากมากเลย มีชื่อว่า พักกุลเถรัจฉริยัพภูตธรรมสูตร แปลเป็นไทยว่า อัจฉริยะของพระพากุละเถระและธรรมอันน่าอัศจรรย์

พระโมคคัลลานะ นิพพานที่กาฬศิลา แต่กลับไปทูลลาพระพุทธเจ้าก่อน ทั้ง ๆ ที่โดนโจรทุบจนเละ ท่านใช้กำลังอภิญญาประสานร่างกาย ไปทูลลาพระพุทธเจ้า เสร็จแล้วจึงกลับมานิพพานตรงที่โจรทิ้งเอาไว้”

พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๕๓ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

ที่มา วัดท่าขนุน

 

วันอาทิตย์ที่ ๒๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. ในฐานะเจ้าสำนักโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดท่าขนุน ได้เปิดปฐมนิเทศการสอนนักธรรมชั้นตรี ประจำพรรษา ๒๕๖๑ ซึ่งจะเรียนไปจนถึงกลางเดือนตุลาคม แล้วค่อยไปติวเข้มร่วมกับคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ

ที่มา วัดท่าขนุน

 

#พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม

วันอาทิตย์ที่ ๒๒ กรกฎาคมพุทธศักราช ๒๕๖๑ พระครูวิลาศกาญจนธรรม ในฐานะประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลท่าขนุน และประธานชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน ได้ออกสำรวจโครงการผักสวนครัวรั้วกินได้ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง และสัมมาชีพ ในชุมชนพัฒนาทองผาภูมิ พบว่าในชุมชนที่เป็นเขตเมืองนั้น ส่วนใหญ่มีพื้นที่เฉพาะสร้างที่อยู่อาศัย มีพื้นที่ในการเพาะปลูกน้อยมาก ชาวบ้านส่วนใหญ่ใช้พื้นที่ว่างเปล่าซึ่งเจ้าของยังไม่ได้ใช้งาน มาทำการปลูกพืชผักสวนครัว มีบางบ้านบอกว่าผักตำลึงหรือโสนที่ขึ้นอยู่นั้น ขึ้นเองตามธรรมชาติ เมื่อไปพบเข้าจึงบำรุงรักษาไว้เป็นพืชอาหาร หลายบ้านมีการเลี้ยงไก่เอาไว้มากบ้างน้อยบ้าง ในพื้นที่โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา มีแปลงสาธิตปลูกพืชผักสวนครัว และเลี้ยงไก่ ห่าน ปลา และกบเอาไว้ด้วย














ที่มา วัดท่าขนุน

 

ถาม : ทำอะไรควรจะดูฤกษ์ไหมครับ ?
ตอบ : เรื่องของฤกษ์ก็เหมือนกับการข้ามถนน ข้ามถนนต้องดูรถไหม ? ถ้าดูหน่อยย่อมปลอดภัยกว่า..ใช่ไหม…? เพราะว่าเรื่องของบุญของบาปของเรานี่ จังหวะเวลาของกรรมนั้นมีอยู่ ถ้าหากว่าไปเจอจังหวะรถมาเยอะ ๆ ข้ามไม่พ้นก็สวัสดี..!

ดูฤกษ์ได้ แต่อย่าไปยึดถือมากจนเกินไป ถ้าหากว่ายึดถือมาก ก็จะหนักอกหนักใจเสียเปล่า ๆ เจอหลายต่อหลายรายแล้ว แก้กันไปก็แก้กันมาอยู่นั่นแหละ คนเดียวเปลี่ยนไปเกือบจะ ๒๐ ชื่อ ยังไม่ได้ดังใจเลยก็มี

……………………………….
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน

ที่มา วัดท่าขนุน

 

ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์

ถาม: ………………………………..
ตอบ: เรื่องสุข เรื่องทุกข์ เราสัมผัสได้เองอยู่แล้ว เพราะความรู้สึกของเรามี แต่ว่าให้รับรู้ไว้เฉย ๆ อย่าไปยินดียินร้ายด้วย

หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสรุปสั้น ๆ ว่า “อย่าติดในสุขและอย่ากังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ให้ได้ ถ้าวางเฉยในร่างกายนี้ยังไม่ได้ ก็ให้เบื่อร่างกายนี้ให้ได้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม” เรื่องอะไรที่จะขวนขวายแบกเพิ่มไม่ต้องไปหาแล้ว ทำเฉพาะหน้าให้ดีที่สุด แล้วก็ยอมรับกฎของกรรม

ท่านบอกว่าเป็นพระอรหันต์เขาเป็นกันแค่นี้ ไม่เอาเยอะหรอก การยอมรับกฎของกรรมทำยากที่สุด ถ้าคนปัญญาไม่ถึงก็จะยอมรับแบบโง่ ๆ ลูกศิษย์หลวงพ่อชา ซึ่งเป็นพระด้วย พายุฝนตีหลังคากุฏิเปิงไป ท่านก็ปล่อยให้ฝนรั่ว ให้แดดเผาอยู่อย่างนั้น จนหลวงพ่อชาทนไม่ได้

เมื่อท่านไปถึงบอกว่า “คุณ..ซ่อมหลังคาเสียหน่อยสิ”
พระท่านบอกว่า “ผมปล่อยวางแล้วครับหลวงพ่อ”
หลวงพ่อชาท่านบอกว่า “ปล่อยวางแบบควายนะสิ ควายทนแดดทนฝนได้มากกว่าคุณอีก”

อะไรก็ตามถ้ายังสามารถแก้ไขด้วยกำลังกาย กำลังสติปัญญา กำลังคน กำลังทรัพย์ แม้มีช่องทางเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ก็ต้องแก้ไขก่อน ถ้าดิ้นรนจนครบทุกวิถีทางและไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว ค่อยยอมรับว่าสิ่งนั้นเป็นกฎของกรรม เกินกำลังที่เราจะแก้ไข

ฟังดูง่าย..ไม่ยากเกินความสามารถ ถ้าหากว่ายากพระท่านไม่ไปพระนิพพานกันเยอะแยะขนาดนั้นหรอก ต้องทบทวนตัวเองเอาไว้อยู่เสมอ ๆ

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๕

ที่มา วัดท่าขนุน

 

#พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม

วันอังคารที่ ๒๔ กรกฎาคมพุทธศักราช ๒๕๖๑ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน, เจ้าคณะตำบลท่าขนุนเขต ๒, ประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลท่าขนุน, ประธานชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน และประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ พร้อมคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมฯ คณะกรรมการชุมชนคุณธรรมฯ นำข้าวสารอาหารแห้งและยารักษาโรคจำนวนมาก ไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในเขตอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี นายประเทศ บุญยงค์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทองผาภูมิ เป็นตัวแทนรับและจะทำการบรรจุเป็นถุงยังชีพ เพื่อนำไปมอบให้แก่ชาวบ้านผู้ประสบอุทกภัยในวันรุ่งขึ้น

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวท้องถิ่นว่า โดยปกติแล้วพระสังฆาธิการต้องทำหน้าที่ใน ๖ ด้าน โดยเฉพาะด้านการสาธารณสงเคราะห์ พุทธบริษัท ๔ ต้องให้การช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน พระพุทธศาสนาถึงจะเจริญรุ่งเรือง เมื่ออุบาสกอุบาสิกาเดือดร้อน ก็เป็นหน้าที่ของพระภิกษุสามเณรที่ต้องให้การช่วยเหลือ ในเวลาปกติญาติโยมใส่บาตรบำรุงเลี้ยงพระภิกษุสามเณร ในยามไม่ปกติ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ พระภิกษุสามเณรก็ต้องช่วยเหลือญาติโยมอย่างเต็มกำลังเช่นกัน

ที่มา วัดท่าขนุน

 

ธรรมะทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ พระพุทธเจ้าสรุปลงตรง “ไม่ประมาท” ตัวเดียวเท่านั้น พระองค์ท่านตรัสว่า ความไม่ประมาทถ้าเปรียบกับรอยเท้าสัตว์ ก็เป็นรอยเท้าช้าง…ใหญ่ที่สุด รอยเท้าของสัตว์ทั้งป่าเหยียบลงไปแล้วก็ไม่ใหญ่เกินไปกว่านั้น
ก่อนที่จะปรินิพพานพระองค์ท่านได้ตรัสไว้ว่า อามนฺตยามิโว ภิกฺขเว ปฏิเวทยามิโว ภิกฺขเว ขยวยธมฺมาสงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ แปลว่า ดูก่อน..ภิกษุทั้งหลาย ขอเธอจงยังประโยชน์ของตนและประโยชน์ผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด เทศน์มา ๔๕ ปี เหลืออยู่แค่นั้น พวกเราจึงประมาทไม่ได้
……………………………….
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน

ที่มา วัดท่าขนุน

 

#พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม

วันอังคารที่ ๒๔ กรกฎาคมพุทธศักราช ๒๕๖๑ เวลา ๒๐.๐๐ น. พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน เจ้าคณะตำบลท่าขนุนเขต ๒ ร่วมกับคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ นำโดย พระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ นำปัจจัยจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท และถุงยังชีพไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี นายจิรชัย ถนอมวงศ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าขนุน เป็นตัวแทนรับมอบ

ที่มา วัดท่าขนุน

 

#พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม

วันพุธที่ ๒๕ กรกฎาคมพุทธศักราช ๒๕๖๑ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน เจ้าคณะตำบลท่าขนุนเขต ๒ ประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลท่าขนุน ได้เข้าร่วมประชุมพระสังฆาธิการ ในเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ หลังจากปิดประชุมแล้ว ได้ทำการมอบทรายอะเบต ให้แก่เจ้าอาวาสทั้ง ๕๒ วัด เพื่อนำไปใส่ในแหล่งน้ำ ป้องกันการเกิดยุงลายและยุงก้นปล่อง อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคไข้เลือดออกและไข้มาลาเรีย ตามงานด้านสุขภาพอนามัยของหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล

ที่มา วัดท่าขนุน

 

#พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน เจ้าคณะตำบลท่าขนุนเขต ๒ ร่วมกับโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา จัดการบรรพชาหมู่เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในนวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๖๖ พรรษา มีนักเรียนเข้าร่วมโครงการบรรพชาทั้งสิ้น ๓๕ รูป

ที่มา วัดท่าขนุน

 

วัดท่าขนุนได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการ “วัด ประชา รัฐ สร้างสุข” ตามมติในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ โดยมีสาระสำคัญ คือ ทำให้ชุมชนเข้มแข็งโดยมีวัดเป็นศูนย์กลาง พัฒนาสุขภาวะตามแนวทาง ๕ ส. ได้แก่ ๑. สะสาง ๒. สะดวก ๓. สะอาด ๔. สุขลักษณะ และ ๕. สร้างนิสัย โดยให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมสนับสนุนการพัฒนาวัดให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ และเป็นศูนย์กลางชุมชน

ที่มา วัดท่าขนุน

 

#พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม

วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ กรกฎาคมพุทธศักราช ๒๕๖๑ พระครูวิลาศกาญจนธรรม เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน เจ้าคณะตำบลท่าขนุน เขต ๒ ประธานชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน และประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ โดยการสนับสนุนของนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ได้เข้ารับรางวัลของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จากนายบวรศักดิ์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี (ทำหน้าที่แทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี) จำนวน ๒ รางวัล ได้แก่
๑. วัดท่าขนุน ในฐานะองค์กรที่ดำเนินการด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ดูแลรักษาต้นไม้ ตามโครงการรุกขมรดกของแผ่นดินใต้ร่มพระบารมี
๒. ต้นลั่นทมขาว (บริเวณรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุน) เป็นรุกขมรดกของแผ่นดินใต้ร่มพระบารมี

ที่มา วัดท่าขนุน

 

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน นำคณะสงฆ์วัดท่าขนุน จำนวน ๔๑ รูป เปลี่ยนผ้าครองถวายหลวงปู่สาย อคฺควํโส (พระครูสุวรรณเสลาภรณ์) อดีตเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ซึ่งมรณภาพมาแล้ว ๒๖ ปี

ที่มา วัดท่าขนุน

 

ถ่ายทอดสดการแสดงพระธรรมเทศนาวันอาสาฬหบูชา วัดท่าขนุน วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๑
เวลา ๐๙.๐๐ น. แสดงพระธรรมเทศนาวันอาสาฬหบูชา ๑ กัณฑ์
เวลา ๐๙.๓๐ น. เจริญพระพุทธมนต์ รับถวายภัตตาหารสังฆทานและร่วมกันหล่อเทียนพรรษา

และขอเชิญรับชมถ่ายทอดสดงานเวียนเทียนช่วงค่ำ เวลา ๑๙.๔๕ น.

ที่มา วัดท่าขนุน

 

http://bots.palungjit.org/TH/pom/2018/07/27/เทศน์วันอาสาฬหบูชา-๒๕๕๘/

 

Live บรรยากาศการตามประทีป ๑๐,๐๐๐ ดวง วันอาสาฬหบูชา วัดท่าขนุน วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๑
ที่มา วัดท่าขนุน

 

ขอเชิญทุกท่านร่วมกดไลค์เพจ ชุมชมคุณธรรมฯวัดท่าขนุน เพื่อติดตามเรื่องราวข่าวสารของวัดท่าขนุนค่ะ

https://www.facebook.com/%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AF%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%99-1794717080614079/



ชุมชนคุณธรรมฯวัดท่าขนุน

ขับเคลื่อนชุมชนคุณธรรมตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ที่มา วัดท่าขนุน

 

ถ่ายทอดสดงานเวียนเทียนวันอาสาฬหบูชา วัดท่าขนุน วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๑
หมายเหตุ: เนื่องจากขณะนี้ฝนตกหนัก พระอาจารย์จึงได้ให้มีการเวียนเทียนภายในศาลาแทนครับ

ที่มา วัดท่าขนุน

 

หยุดความคิดตัวเองเป็นไหม ? หยุดเมื่อไรก็เย็นเมื่อนั้นแหละ จิตสังขารคือตัวปรุงแต่งของใจสำคัญมาก เกิดก็ตรงนี้ แก่ก็ตรงนี้ เจ็บก็ตรงนี้ ตายก็ตรงนี้ อนิจจังไม่เที่ยงก็เพราะมัน ทุกขังเป็นเพราะมัน อนัตตาก็เป็นเพราะมัน ก็เพราะจิตตัวปรุงแต่งนี้ตัวเดียว หยุดปรุงแต่งเมื่อไรพระท่านเรียกว่านิโรธ คือเข้าถึงความดับ ความร่มเย็น ความสงบอย่างแท้จริง การหยุดมันท่านเรียกว่ามรรค สาเหตุที่มันปรุงแต่งทำให้เกิดทุกข์ท่านเรียกว่าสมุทัย ปรุงแต่งเมื่อไรก็เป็นทุกข์ อริยสัจ ๔ ก็อยู่ตรงนี้แหละ อยู่ที่จิตตัวเดียว ไม่ได้อยู่ที่อื่นเลย
……………………………….
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน

ที่มา วัดท่าขนุน