อัพเดตข่าวสาร วัดท่าขนุนและหลวงพ่อเล็ก

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์วัดท่าขนุน, 2 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    คลิปวีดีโองานทำบุญวันบูรพาจารย์วัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๑
    วันศุกร์ที่ ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๑
    ณ ศาลา ๑๐๐ ปี หลวงปู่สาย วัดท่าขนุน
    ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
    #ร่วมกันแชร์เรื่องดีๆในพระพุทธศาสนากันครับ
    ถ่ายภาพและตัดต่อโดย : Pixel Group
    อำนวยการผลิตโดย : ชมรมโมทนาบุญ เว็บพลังจิต

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  2. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    การบวชพระจะสมบูรณ์ได้ต้องประกอบด้วยกุลบุตรที่มีสมบัติครบถ้วน
    คือ ความสมบูรณ์ที่สมควรแก่การบวช

    อันจะประกอบไปด้วย
    วัตถุสมบัติ ก็คือร่างกายของตนเอง
    กรรมวาจาสมบัติ ความถูกต้องในการสวดเพื่อที่ญัตติเป็นสงฆ์
    สีมาสมบัติ ความถูกต้องในสีมา
    แล้วก็ปริสสมบัติ ความสมบูรณ์พร้อมของคณะสงฆ์

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    วัดท่าขนุน

    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5794

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  3. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ในการปฏิบัติของเรานั้น บางทีสภาพจิตฟุ้งซ่านมาก ๆ ไม่สามารถที่จะรั้งอยู่ ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงเคยมอบคาถาเรียกจิตเอาไว้ให้ ผู้ใดเกิดความฟุ้งซ่าน ไม่สามารถที่จะระงับใจให้สงบนิ่ง ไม่สามารถที่จะภาวนาได้ ท่านให้ภาวนาคาถานี้สัก ๓ – ๕ นาที ก่อนการปฏิบัติกรรมฐานทุกครั้ง จะช่วยให้จิตสงบได้เร็ว คาถามีว่า “อิติ สัมมาสัมพุทธัสสะ มะมะ จิตตัง”

    เรื่องของคาถานั้น เป็นบาทหรือเป็นพื้นฐานของอภิญญา บุคคลที่จะทำคาถาขึ้น ต้องมีความจริงจัง สม่ำเสมอ เคยทำอย่างไร เท่าไร วันละกี่จบ ต้องทำให้ได้อย่างนั้น เท่านั้น สม่ำเสมอกันทุกวัน ถึงจะเกิดผล และโดยเฉพาะต้องมีความเชื่อ ความเลื่อมใส ทุ่มเทกำลังใจทั้งหมดลงไปจริง ๆ จึงจะเกิดผลอย่างที่ต้องการ

    ถ้าทำแบบขอทดลองดู ทำแบบไม่เลื่อมใส อยากรู้ว่าอานุภาพเป็นอย่างไรเท่านั้น หรือทำเพราะอยากดี อยากเด่น อยากดัง สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็จะไม่เกิดผลแก่เรา

    คาถาอีกบทหนึ่งนั้น หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเรียนมาจากหลวงปู่จง วัดหน้าต่างนอก ท่านบอกว่าเอาไว้สำหรับคนที่กำลังกลัดกลุ้ม มีแต่ความทุกข์ มีแต่ความเศร้าในชีวิต ท่านบอกว่าให้ภาวนาคาถานี้ แล้วจะทำให้สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นค่อย ๆ ลดน้อยถอยลงและหายไปจากชีวิตของเรา

    ตัวคาถาว่า “ทุกขัปปัตตา จะ นิททุกขา ภะยัปปัตตา จะ นิพภะยา โสกัปปัตตา จะ นิสโสกา โหนตุ สัพเพปิ ปาณิโน โหตุ สัพพะทา” คาถาค่อนข้างจะยาว แต่ถ้าใครเคยสวดมนต์ทำวัตรเป็นประจำ จะรู้ว่าบทนี้แหละที่เวลาเจริญพุทธมนต์ พระภิกษุสงฆ์ใช้เป็นบทส่งเทวดากลับ เพียงแต่ต่อท้ายด้วย โหตุ สัพพะทา เท่านั้น ท่านให้ภาวนาไปเรื่อย ความทุกข์ ความเศร้าหมองต่าง ๆ จะค่อยหมดไปจากใจของเราเอง

    สิ่งทั้งหลายเหล่านี้หลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์ของเรา ท่านทำแล้วเกิดผล จึงนำมาสั่งสอนต่อ ๆ กันมา ถ้าเรามีความเชื่อ มีความเลื่อมใส เป็นคนมีสัจจะ ทำอะไรทำจริงจังและสม่ำเสมอ ก็สามารถที่จะทำแล้วเกิดผลได้ง่าย ความจริงคาถานั้น มาจากภาษาบาลีว่า กถา แปลว่า วาจาเป็นเครื่องกล่าว ซึ่งหมายความว่า คำพูดทุกคำก็คือคาถานั้นเอง

    แต่คาถาที่เราคุ้นเคยกันนั้น คือถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์ เมื่อท่องบ่นภาวนาแล้วจะเกิดผลตามที่ครูบาอาจารย์กำหนดเป็นอุปเท่ห์ต่าง ๆ เอาไว้ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าเรามีความสงสัยก็ควรจะพิสูจน์ด้วยการทดลองทุ่มเททำดู เพราะว่าคาถาต่าง ๆ เป็นเครื่องโยงใจให้เป็นสมาธิ ถ้าไม่มีสมาธิเป็นเครื่องรองรับ คาถาก็ไม่เกิดผลอยู่แล้ว

    ดังนั้น..การที่เราเล่นคาถาต่าง ๆ จึงเป็นการภาวนาโดยตรงนั่นเอง เพียงแต่ว่าแทนที่จะใช้คำภาวนาว่า “พุทโธ” ว่า “นะมะพะธะ” ว่า “พองหนอ ยุบหนอ” ว่า “สัมมาอะระหัง” ก็กลายเป็นใช้บทคาถาต่าง ๆ เป็นคำภาวนาแทนเท่านั้น

    เมื่อกำลังใจของเรามุ่งมั่น รู้ว่าคาถานี้ภาวนาแล้วจะเกิดผลอย่างไร กำลังใจที่มุ่งไปด้านเดียวนั้นแหละ จะทำให้เกิดความสำเร็จขึ้นมา เรียกว่า มโนมยา คือ สำเร็จได้ด้วยใจ เมื่อถึงวาระนั้นสมาธิของเราเริ่มทรงตัวแล้ว เราก็แค่เอามาพิจารณาในวิปัสสนาญาณต่าง ๆ

    เช่น เห็นความไม่เที่ยงของร่างกายนี้ เห็นความทุกข์ของร่างกายนี้ เห็นความตั้งอยู่ไม่ได้ ยึดถือมั่นหมายเป็นตัวตนไม่ได้ของร่างกายนี้ แล้วเกิดเบื่อหน่าย ไม่ปรารถนาการเกิดมามีความทุกข์เช่นนี้อีก ก็เอาจิตเกาะพระนิพพานหรือเกาะภาพพระ แล้วภาวนาของเราต่อไป ก็จะเป็นการตัดลัดเข้าหาการปฏิบัติเพื่อมรรคเพื่อผลในลำดับต่อไปนั่นเอง

    ครูบาอาจารย์ท่านมีความฉลาด รู้ว่าถ้าสอนการภาวนาตรง ๆ สอนการรักษาศีลตรง ๆ ผู้คนจำนวนมากไม่สามารถที่จะรับได้ ท่านจึงให้ตัวบทพระคาถาต่าง ๆ ไปภาวนา โดยแจ้งให้ทราบว่า คาถาบทนั้นมีอานุภาพอย่างนั้น คาถาบทนี้มีอานุภาพอย่างนี้ แต่ว่าการปฏิบัติภาวนาต้องมีกติกาอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นต้น

    เป็นการสอนให้คนอยู่ในกรอบของความดี ให้เคยชินกับศีล สมาธิ ปัญญา ในเบื้องต้น เมื่อทำเกิดผล เกิดความมั่นใจแล้ว จะเอากำลังใจนั้นไปปฏิบัติในเรื่องของสมาธิภาวนา หรือว่าเอามาพิจารณาวิปัสสนาญาณ ก็จะมีผลดีแก่ตนเองสืบไปนั่นเอง

    ลำดับต่อไปก็ให้ทุกคนกำหนดดู กำหนดรู้ลมหายใจออกของเรา จะใช้คำภาวนาหรือพิจารณาอย่างไรก็ได้ตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
    วันอาทิตย์ที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๕


    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  4. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    เรื่องของธรรมะเป็นเรื่องสากล ใครก็ตามที่เห็นทุกข์ก็เห็นธรรมเป็นปกติอยู่แล้ว ถ้ารับไปปฏิบัติต่อเนื่องแล้วอารมณ์ทรงตัวก็จะได้ดีไปเลย ส่วนใหญ่พวกเราจะเห็นทุกข์เป็นพัก ๆ ถ้าทุกข์มาก ๆ ขึ้นมากำลังใจก็ดีหน่อย พอความทุกข์เลยไปก็เริ่มเละใหม่ เพราะว่าทำได้ไม่ต่อเนื่อง

    การปฏิบัติทุกอย่างทั้งทางโลกทรงธรรม ถ้าขาดความต่อเนื่องผลงานจะไม่ดี โดยเฉพาะเรื่องของทางธรรม ถ้าขาดความต่อเนื่องกำลังของอกุศลกรรมแทรกได้เมื่อไรก็ตีคืนยากแล้ว เหนื่อยสาหัสเลย
    ……………………………….
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com


    #พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม #แบ่งปันธรรมะ

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  5. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ตัดใจในสิ่งที่ชอบ

    ถาม :
    แต่ละคนที่เกิดมาบำเพ็ญบารมีเพื่อเข้าพระนิพพาน ทำไมใช้ระยะเวลาไม่เท่ากัน ?
    ตอบ : ระยะเวลายาวสั้นไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสามัญสำนึกของตน ถ้าสามัญสำนึกรู้สึกว่าพอแล้วก็จะไปเร็ว แต่ถ้ารู้สึกว่ายังไม่พอก็ไปต่ออีกเรื่อย โดยเฉพาะแต่ละอย่างที่เข้ามาในชีวิต มักจะเป็นสิ่งที่เราชอบ

    ถ้าเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบ เราจะตั้งหน้าตั้งตาผลักไสไปตั้งแต่แรก ก็จะผ่านได้ง่ายกว่า แต่สิ่งที่เราชอบ เราไม่อยากจะผลักไส ก็กลายเป็นว่าต้องใช้ สติ สมาธิ ปัญญา ที่สูงกว่ามาก ไม่อย่างนั้นก็หลุดพ้นไม่ได้

    เพราะฉะนั้น..แต่ละอย่างที่กิเลสเอามาเป็นตัวถ่วงเรา เป็นของที่เราชอบทั้งนั้น แต่เราชอบแค่ไหนก็ต้องตัดใจ เช่น ไม่กิน ถ้าไม่กินได้อย่างอื่นก็เลิกได้เหมือนกัน เพราะใช้กำลังใจเท่ากัน

    สนทนาพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  6. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945


    คลิปวีดีโองานออกนิโรธกรรมท่านครูบาวิฑูรย์ ชินวโร
    วันอาทิตย์ที่ ๒๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๑
    ณ ปรียนันท์ธรรมสถาน อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
    ขอบพระคุณคลิปจากชมรมโมทนาบุญพลังจิตค่ะ
    ที่มา วัดท่าขนุน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • .jpg
      .jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.1 KB
      เปิดดู:
      130
  7. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ภาพงานออกนิโรธกรรมครูบาวิฑูรย์ ชินวโร ณ ปรียนันท์ธรรมสถาน อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ วันอาทิตย์ที่ ๒๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๑

    ขอบพระคุณภาพจากพี่มะลิแก้ว ช่างภาพเว็บวัดท่าขนุน

    ภาพจากเฟซบุ๊กเว็บวัดท่าขนุน
    https://www.facebook.com/pg/watthakhanun/photos/?tab=album&album_id=2143040065746663

    ภาพจากเว็บวัดท่าขนุน
    http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?p=220224 <a href=

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  8. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    -ๆ-ของบ้านเ.jpg

    สถานการณ์ต่าง ๆ ของบ้านเมืองที่เกิดขึ้นพวกเรายิ่งต้องมีสติสัมปชัญญะให้มาก ๆ ถ้าขืนไปใส่อารมณ์ตามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็จะกลายเป็นกำลังใจของเราเสียเอง

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    วัดท่าขนุน

    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6083&page=3

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  9. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    คนเราถ้าไม่มีอะไรเป็นเครื่องยึด โอกาสที่จะพลาดลงอบายภูมิมีมาก อย่างน้อย ๆ จะต้องจับลมหายใจเข้าออกไว้เป็นเครื่องยึด

    ลมหายใจเข้าออกป้องกันความฟุ้งซ่านได้ดีที่สุด ขณะที่จิตใจฟุ้งซ่านไปอารมณ์ที่อื่น ถ้าเราผูกอยู่กับลมหายใจเข้าออก ก็ไม่ไปหาความลำบากเดือดร้อนให้กับเรา ไม่อย่างนั้นก็พาให้เราคิดโน่นคิดนี่ พาให้เราทุกข์

    พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๕

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  10. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    -ช่วงนี้กำลังได้รับ.jpg

    ถาม :
    ช่วงนี้กำลังได้รับวิบากกรรมที่ทำมาในอดีต โดยไม่รู้ว่าอันไหนดีหรืออันไหนชั่ว หนูควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรดีคะ ?
    ตอบ : ต้องบอกว่า “อดทน” อย่างเดียว เพราะว่าสิ่งที่เราทำไปถึงเวลาเราก็รับ ก็แปลว่าเราทำตัวเราเอง ยุติธรรมที่สุดแล้ว ก็ทนรอจนกระทั่งผลของวิบากจะผ่านไป ในระหว่างนี้ก็อดทนสร้างกุศลไปก่อน พอถึงเวลาช่วงกุศลเข้ามาสนองจะได้รวมกันพาให้ห่างจากวิบากกรรมไปได้

    ถาม : ทุกวันนี้หนูต้องนอนร้องไห้ ?
    ตอบ : ต่อไปนั่งร้องบ้างก็ได้ …(หัวเราะ)… เป็นเรื่องปกติ มีใครบ้างที่ไม่เป็น พระพุทธเจ้าบอกกับปฏาจาราเถรีว่า น้ำตาของแต่ละชาติที่เธอต้องร้องไห้ ถ้ารวมกันแล้วมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ เป็นไหน ๆ เพราะฉะนั้นไม่ใช่เราคนเดียว

    ถาม : ระหว่างที่หนูโดนกรรมแทรก หนูต้องทำอย่างไรให้ตัวเองมีสติอยู่ตลอดเวลา ?
    ตอบ : ภาวนา ถ้าหากว่าอารมณ์ภาวนาทรงตัวก็มีสติ คนที่อารมณ์ภาวนาทรงตัวก็จะไม่ไปนอนร้องไห้ แต่จะนั่งร้องแทน …(หัวเราะ)…

    พระพุทธเจ้าสอนให้เราเชื่อกรรม คือการกระทำของเรา สอนให้เชื่อผลของกรรมที่เรียกว่าวิบาก ก็คือเราทำดีเราก็ได้ดี ถ้าเราทำชั่วเราก็ได้ชั่ว สอนให้รู้ว่าสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตนเอง มีกรรมเป็นเครื่องนำชีวิต และท้ายที่สุดก็ต้องเชื่อว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้นั้นเป็นความจริงแท้

    ฉะนั้น…ความเชื่อในพุทธศาสนาจริง ๆ แล้วมีอยู่แค่นี้แหละ เรียกว่ากัมมสัทธา เชื่อกรรม วิปากสัทธา เชื่อการส่งผลของกรรม กัมมัสสกตาสัทธา เชื่อว่าสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตนเอง ก็คือทำอะไรไว้ก็ได้ผลอย่างนั้น ท้ายที่สุดก็คือตถาคตโพธิสัทธา เชื่อในความรู้จริงของพระพุทธเจ้า

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านเติมบุญ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๑

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  11. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    พวกเราดีในเรื่องที่ว่า ขณะทำสิ่งที่เป็นกองบุญการกุศลแล้ว เราก็อุทิศส่วนกุศลให้กับเทพเจ้าที่ปกปักษ์รักษาพวกเรา เทพเจ้าทั่วสากลพิภพ ตลอดจนพระยายมราช ก็แปลว่าเราต่อสายสัมพันธ์ มีการเชื่อมโยงถึงท่านอยู่ตลอดเวลา อย่างไรเสียถ้าถึงเวลาท่านก็ไม่ทิ้งเราแน่

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๔

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  12. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg
    1538446146_738_พระอาจารย์มารับสังฆทาน.jpg
    1538446146_982_พระอาจารย์มารับสังฆทาน.jpg
    ขอเชิญรับฟังการถ่ายทอดสดเสียงกรรมฐานตอนเย็นจากบ้านเติมบุญ

    พระอาจารย์มารับสังฆทานอาทิตย์นี้นะคะ ท่านใดว่างเว้นจากภารกิจ สามารถเข้าไปถวายสังฆทานกับพระอาจารย์ได้นะคะ

    เนื่องด้วยคณะผู้ดูแลกระดานสนทนาวัดท่าขนุน ได้กราบเรียนขออนุญาตจากพระอาจารย์ (พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.) ในการดำเนินการจัดตั้งระบบการถ่ายทอดสดเสียงการสอนกรรมฐานตอนเย็นจากบ้านเติมบุญ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ในวันและเวลาดังต่อไปนี้

    วันศุกร์ที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๑
    (ถ่ายทอดเสียงการสอนกรรมฐานตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป จนกระทั่งจบกรรมฐานและการอุทิศส่วนกุศล)

    วันเสาร์ที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๑
    (ถ่ายทอดเสียงการสอนกรรมฐานตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป จนกระทั่งจบกรรมฐานและการอุทิศส่วนกุศล)

    วันอาทิตย์ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๑
    (ถ่ายทอดเสียงการสอนกรรมฐานตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป จนกระทั่งจบกรรมฐานและการอุทิศส่วนกุศล)

    เพื่อให้ผู้ที่อยู่ทางไกล ต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมทำกรรมฐานที่บ้านเติมบุญ ด้วยตนเอง มีโอกาสได้รับฟังเสียงสดจากพระอาจารย์ในการสอนกรรมฐาน จะได้ร่วมกันกำหนดจิตน้อมใจฟังธรรมไปพร้อม ๆ กัน

    จึงขอเชิญสาธุชนทั้งหลายที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมทำกรรมฐาน รับฟังการถ่ายทอดเสียงสดจากบ้านเติมบุญ ในช่องทางที่จะได้ประกาศต่อไปนี้ร่วมกัน

    ขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาของพระอาจารย์ มา ณ ที่นี้

    การรับชม-รับฟังการถ่ายทอดสด

    ท่านสามารถรับชม-รับฟังการถ่ายทอดสด ตามวันและเวลาที่กำหนดผ่านช่องทางต่อไปนี้

    รับชมทาง Facebook เพจ watthakhanun: www.facebook.com/watthakhanun

    รับชมทาง YouTube ช่อง Sapanboon: www.youtube.com/channel/UCgkHL4DqAHM4mSyTGesp5OA

    รับฟังทางวิทยุออนไลน์: www.watthakhanun.com/radio

    หมายเหตุ: การรับฟังวิทยุออนไลน์ทางโทรศัพท์มือถือสามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

    ๑. ระบบปฏิบัติการ Android: แอปพลิเคชัน VLC for Android
    ๒. ระบบปฏิบัติการ iOS: แอปพลิเคชัน VLC for Mobile

    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4892

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  13. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    -ห.jpg

    ในการปฏิบัติภาวนานั้น หลายท่านมักจะมีปัญหา คือ ปล่อยให้กำลังใจฟุ้งซ่านมากจนเกินไป เวลาจะควบคุมด้วยการอยู่กับลมหายใจเข้าออกจึงเป็นไปโดยยาก ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ นักปฏิบัติมักจะประสบอยู่เสมอ โดยเฉพาะท่านใดเคยมีกำลังใจทรงอยู่ในระดับฌานสมาบัติ ตั้งแต่ปฐมฌานขึ้นไป แล้วปล่อยจนกระทั่งรัก โลภ โกรธ หลง กลบกลืนสมาธิสมาบัตินั้นไป จะตีคืนได้ยากมาก

    เหตุที่ท่านทั้งหลายจะทำคืนได้ยาก ก็เพราะว่าเราอยากจะได้เหมือนเดิม ในเมื่อการภาวนาของเราไม่ได้ปล่อยวาง แต่ไปอยากเสียแล้ว ความฟุ้งซ่านจะเกิดแก่สภาพจิต เมื่อความฟุ้งซ่านเกิดขึ้น จิตย่อมไม่สงบ ดังนั้น..ท่านใดก็ตามที่ภาวนาแล้วไม่ไปไหนเสียที ให้รู้ว่าถ้าเราไม่ทำเกิน เราก็ทำขาด แต่ส่วนใหญ่แล้วในปัจจุบันนี้ จะทำขาดเสียมากกว่า

    เราลองเปรียบเทียบดูว่าวันหนึ่งมี ๒๔ ชั่วโมง เราอยู่กับการภาวนานานเท่าไร ? สมมติว่าท่านทำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ภาวนาตอนเช้า ๑ ชั่วโมง ตอนเย็น ๑ ชั่วโมง ก็แปลว่าเรายังขาดทุนอยู่ ๒๒ ชั่วโมงทุกวัน ดังนั้น..ในเมื่อเราทำขาด ทำไม่พอ โอกาสที่กำลังใจของเราจะทรงความคล่องตัว สามารถที่จะใช้ต่อต้านกิเลสได้ก็มีน้อย เพราะว่าแค่ประคับประคองกำลังใจของเราให้ทรงตัวก็เป็นเรื่องยากเสียแล้ว นอกจากเราจะวางกำลังใจว่า เรามีหน้าที่ภาวนา จะเป็นสมาธิสมาบัติหรือไม่เป็นก็ตามที เราก็จะภาวนา

    แต่สภาพจิตบางครั้งก็ดื้อเกินเหตุ จึงต้องข่มขู่กันบ้าง อย่างเช่น ตอนนี้นรกรออยู่ข้างหน้า ถ้าพลาดพลั้งลงไปเมื่อใด ไฟนรกที่ลุกท่วมฟ้ากำลังรอเราอยู่ มหานรก ๘ ขุม อุสสทนรก ๑๒๘ ขุม ยมโลกียนรก ๓๒๐ ขุม กำลังรอเราอยู่ข้างหน้า

    หรืออย่างสถานเบาลงมา เราต้องไปเกิดเป็นเปรต ก็เต็มไปด้วยความอดอยากหิวโหย โดนสรรพาวุธทำอันตรายอยู่หรือโดนเปลวไฟเผาไหม้ เป็นอสุรกาย นอกจากอดอยากหิวโหยแล้วยังต้องคอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่อาจสู้หน้าคนอื่น เป็นสัตว์เดรัจฉานก็ไม่สามารถหากินได้อย่างใจ ไม่สามารถที่จะทำอะไรอย่างที่ใจต้องการได้ทุกอย่าง

    เมื่อเราเกิดเป็นมนุษย์แล้ว ถ้าไม่เร่งรัดหาความดีใส่ตัว ทุคติ วินิบาต ก็คือความเป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน อย่างใดอย่างหนึ่งรอเราอยู่อย่างแน่นอน ก็เป็นเพราะเอาแต่มัวเมา มีแต่ความประมาท ไม่เร่งรัดปฏิบัติในความดีทั้งหลาย

    ต่อให้เราเร่งรัดปฏิบัติในความดี อย่างที่กล่าวแล้วว่า ในแต่ละวันเรายังขาดทุนอยู่ จึงควรที่จะทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ไม่ใช่ว่าเราทำแค่นี้ก็เป็นที่ยินดี เป็นที่พอใจแล้ว กำลังใจที่เป็นที่น่ายินดี เป็นที่น่าพอใจแล้ว หมายความว่ากำลังใจต้องเพียงพอที่จะใช้สู้กับกิเลส เพียงพอที่จะใช้ตัดละกิเลสต่าง ๆ ออกจากใจของเรา ถ้ายังไม่เพียงพอก็แปลว่าเราหยุดไม่ได้ ต้องเร่งรัดกระทำให้มากขึ้น ใช้เวลาอยู่กับการภาวนาให้มากกว่าเดิม

    คำว่ามากกว่าเดิม ไม่ได้หมายความว่าให้เราภาวนาอยู่ตลอดเวลาทั้งวัน ถ้าท่านกระทำถึงจริง ๆ ไม่ต้องมาก แค่ระดับปฐมฌานละเอียด เราจะรู้ลมและคำภาวนาโดยอัตโนมัติ เมื่อถึงเวลาก็ใช้สติสมาธิ ประคับประคองอาการรู้ลมอัตโนมัตินั้น ให้อยู่กับเราให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้

    แรก ๆ ก็ได้ไม่นาน แต่พอใช้ความพยายามเข้า ก็ได้เป็นวัน ๒ วัน ๓ วัน ๔ วัน ๕ วัน ๗ วัน ๑๕ วัน ๑ เดือน ๒ เดือน ๓ เดือน เป็นต้น ยิ่งกำลังใจของเรามีความสะอาดผ่องใสเพราะกิเลสแทรกไม่ได้เนิ่นนานเท่าไร ปัญญาของเราก็มีความชัดเจน แจ่มใส แหลมคม สามารถที่จะหาวิธีการตัด การละ จากรัก โลภ โกรธ หลงได้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป

    ถ้ากำลังเพียงพอ เราเห็นแล้วก็เกิดความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด สามารถถอนจิตของตนเองพ้นจากกองทุกข์ ก็แปลว่าเราสามารถเข้าสู่พระนิพพานได้ในชาตินี้ได้อย่างแน่นอน

    จึงขอให้ทุกคนรู้สึกว่า เราเหมือนกับบุคคลที่อยู่บนบ้านที่ไฟกำลังไหม้ เราไม่สามารถที่จะนิ่งนอนใจอาศัยอยู่ในบ้านนี้ต่อไปได้แล้ว มีทางเดียวก็คือต้องรีบหนีเอาชีวิตรอดอย่างว่องไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเราเองเกิดมานับชาติไม่ถ้วน สร้างความชั่วไว้นับไม่ถ้วน เผลอเมื่อไรเราก็ต้องตกสู่อบายภูมิอย่างแน่นอน สถานที่เดียวที่เราจะหลุดพ้นได้อย่างสิ้นเชิงก็คือพระนิพพาน

    ขอให้ทุกคนตั้งใจ ตั้งเป้าหมายไว้ที่พระนิพพานเป็นหลัก การปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญา ไม่ว่าจะด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจก็ตาม ให้ทุกคนตั้งใจว่า สิ่งที่เราทำอยู่นี้ก็เพื่อพระนิพพานแห่งเดียวเท่านั้น แล้วเอากำลังใจจดจ่อปักมั่นอยู่กับอารมณ์พระนิพพาน

    ถ้าไม่ถนัด เห็นว่าการทำเช่นนั้นไม่ชัดเจน เราก็นึกถึงพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งที่เรารักเราชอบมากที่สุด ตั้งใจว่านั่นคือพระพุทธนิมิตแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ ณ ที่ใดนอกจากอยู่บนพระนิพพาน เราเห็นท่านคือเราอยู่กับพระองค์ท่าน เราอยู่กับพระองค์ท่านคือเราอยู่บนพระนิพพาน แล้วเอาใจเกาะภาพพระนั้นเอาไว้

    ถ้ายังมีลมหายใจอยู่ ให้กำหนดรู้ลมหายใจ ถ้ายังมีคำภาวนาอยู่ ให้กำหนดรู้คำภาวนา ถ้าลมหายใจหรือคำภาวนาหายไป ก็กำหนดรู้ว่าลมหายใจหรือคำภาวนานั้นหายไป อย่าดิ้นรนอยากให้มา หรืออย่าพยายามให้เป็นในลักษณะเช่นนั้น เรามีหน้าที่กำหนดดูกำหนดรู้ไปเฉย ๆ

    ลำดับต่อไปนี้ก็ให้ทุกคนตั้งใจกำหนดดู กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก หรือภาพพระ หรือพระนิพพานของเราไป จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
    วันเสาร์ที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๕

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  14. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ทำดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ถ้าหากว่ามันดีที่สุดแล้วผลไม่ได้อย่างใจของเรา เราก็ต้องยอมรับว่ากฎของกรรมนั้นมีอยู่ แก้ไขดิ้นรนทุกวิถีทางแล้วไม่สามารถที่จะทำได้แล้ว ก็ต้องยอมรับมันบ้าง เกิดขึ้นตั้งอยู่ ดับไป ดูที่ตัวแก้ที่ตัว เรื่องของคนอื่นเป็นเรื่องของโลกทั้งสิ้น เราแก้ไขโลกไม่ได้ เราต้องแก้ไขที่ตัวเราเอง
    ……………………………….
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com

    #พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม #แบ่งปันธรรมะ

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  15. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ไม่มีทางลัด

    ถาม :
    (ไม่ได้ยิน)
    ตอบ : การปฏิบัติไม่มีทางลัด มีแต่ทางตรงและลำบากทุกอย่าง เพียงแต่ว่าถ้าหากเราต่อสู้ ก็ไม่มีอะไรเกินความสามารถ ยกเว้นว่าเราไม่สู้เท่านั้น

    ในเมื่อเราเห็นว่านี่เป็นทางเดียวที่จะหลุดพ้นได้ ก็ต้องทุ่มเทจริงจัง

    รักษาศีลก็ต้องรักษาจริง ๆ ทำสมาธิก็ต้องทำสมาธิจริง ๆ ใช้ปัญญาพิจารณาก็ต้องพิจารณาจริง ๆ ฉะนั้น..ต้องทุ่มเทกับมัน ทำเล่น ๆ ไม่ได้ อันนี้เป็นการศึกการสงคราม ทำเล่นเมื่อไรก็ตายฟรี..!

    พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  16. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    บางทีคนเราก็มีความแปลก พยายามที่จะป้องกันตัวเอง พยายามที่จะอธิบายให้คนอื่นเข้าใจว่า “เราเป็นคนดี” ทำอย่างนั้นเหนื่อยตายห่..เลย

    เป็นตัวเราที่ทำตามพระพุทธเจ้าท่านสอน ทำตามที่หลวงปู่หลวงพ่อท่านสอน ก็จบแล้ว ไม่เห็นจะต้องไปเป็นคนดี เพราะว่าคนดีหรือไม่ดีอยู่ที่สายตาของคนอื่นเขา เขาตัดสินกันเอาเอง

    สิ่งที่เราทำถ้าแหงนหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ก็ทำไปเถอะ มโนธรรมจะบอกกับเราเองว่าถูกหรือผิด

    คำสอนพระคุณหลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  17. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ถ่ายทอดสดจากบ้านเติมบุญ วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๑
    พระอาจารย์รับสังฆทานและตอบปัญหาธรรม เวลา ๑๘.๐๐ น.
    เริ่มเจริญกรรมฐาน เวลา ๑๘.๓๐ น.
    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  18. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ฝึกใจให้คุ้นชินกับการจบภารกิจ

    ภาระต่าง ๆ ที่เข้ามา ให้เราพยายามฝึกให้ชินกับคำว่าจบ สังเกตไหม ? ทำงานชิ้นหนึ่งเสร็จรู้สึกโล่งใจดีจังเลย สบายใจอีกต่างหาก ต้องทำใจของเราให้ได้ลักษณะนั้น คือให้โล่ง เบา สบาย ปล่อยวางได้ในลักษณะนั้น พยายามดึงเอาความคุ้นชินตรงจุดนั้นมาใช้ในชีวิตประจำวัน ทำสักแต่ว่าทำ ทำทีละอย่าง ทำทีละชิ้น ทำทีละขั้นตอน พอเสร็จแล้วก็ถือว่าจบภารกิจไป อันนี้ถือเป็นภารกิจ แต่ถ้าหากว่าเป็นกิจทางพุทธศาสนา คุณจะจบกิจก็ต่อเมื่อเป็นพระอรหันต์

    ฉะนั้น… พวกเราต้องทำตัวให้คุ้นชิน โดยการจบภารกิจบ่อย ๆ เดี๋ยวภาระทางใจก็จะพลอยจบไปด้วย เพราะเริ่มตัดอารมณ์เป็น พอตัดอารมณ์เป็น ปล่อยวางเป็น งานก็ทำแต่เฉพาะหน้าที่ เมื่อทำเฉพาะหน้า จบแล้วก็แล้วกัน นี่คือการมีตัวอุเบกขาในการปฏิบัติ ตัวอุเบกขาจะแทรกอยู่ในการปฏิบัติทุกขั้นตอน ถ้าหากไม่มีเอกัคตารมณ์และอุเบกขารมณ์ การปฏิบัติในทาน ศีล ภาวนาของเราจะไม่ก้าวหน้า

    ให้ทานก็ต้องให้ลักษณะนี้เหมือนกัน คือ บางคนให้แล้วก็ยังมากำชับอีกว่าต้องใช้นะ ห้ามให้คนอื่นต่อ ใช่ไหม ? แบบนี้เป็นทานที่ปราศจากอุเบกขา อุเบกขา คือให้แล้วให้เลย เราได้ให้แล้วก็จบสิ้นเรื่องของเราแล้ว ส่วนท่านจะเอาไปทำอะไรนั่นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย

    พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๕

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  19. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    1538824145_687_ถ่ายทอดสดจากบ้านเติมบุ.jpg

    ถ่ายทอดสดจากบ้านเติมบุญ วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๑
    พระอาจารย์รับสังฆทานและตอบปัญหาธรรม เวลา ๑๘.๐๐ น.
    เริ่มเจริญกรรมฐาน เวลา ๑๘.๓๐ น.
    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  20. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    1538911085_733_ถ่ายทอดสดจากบ้านเติมบุ.jpg

    ถ่ายทอดสดจากบ้านเติมบุญ วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๑
    พระอาจารย์รับสังฆทานและตอบปัญหาจากเว็บวัดท่าขนุน เวลาประมาณ ๑๗.๔๕ น.
    เริ่มเจริญกรรมฐาน เวลา ๑๘.๓๐ น.
    ที่มา วัดท่าขนุน
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...