อัพเดตข่าวสาร วัดท่าขนุนและหลวงพ่อเล็ก

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์วัดท่าขนุน, 2 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    นักปฏิบัติจะต้องเอาปัจจุบันเป็นใหญ่ อดีตรู้ไว้เป็นบทเรียน รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้วให้วาง ปัจจุบันทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด อนาคตจะเป็นอย่างไรไม่ต้องนึกถึง
    ……………………………….
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com

    #พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม #แบ่งปันธรรมะ
    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  2. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    -ตอนที่-๑.jpg

    อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๑ : ตายแล้วฟื้น


    ชีวิตของคนเรา มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงไปในท่ามกลาง และมีความตายเป็นที่สุด ไม่มีใครหลบพ้นความตายไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็ก หนุ่มสาว เฒ่าชรา ต่างมีที่สุดคือความตายด้วยกันทั้งนั้น…..

    แต่สำหรับบางคนแล้ว ความตายไม่ใช่ที่สุดแห่งชีวิตของท่าน แม้ว่าท่านจะตายไปแบบผู้อื่นก็จริง แต่ท่านก็กลับฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาใหม่ บางท่านก็ตายซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายวาระ แล้วกลับฟื้นคืนมา คืนมาทุกครั้งไป….

    ท่านที่ตายแล้วฟื้น ที่มีพยานหลักฐานบันทึกไว้ชัดเจน ให้ผู้อื่นได้ทราบถึงเรื่องราวหลังความตาย ประกอบด้วยพล.ท.สมาน วีระไวทยะ พ.อ.พิเศษเสนาะ จินตรัตน์ และท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นพิเศษคือ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) มีคนเป็นจำนวนมากที่ไม่เชื่อเรื่องตายแล้วเกิด มีความเห็นเป็นมิจฉาทิฏฐิ ปฏิเสธเรื่องชาติภพภายหน้า คิดเอาเองว่า นรก สวรรค์ไม่มี แล้วพยายามเสนอคนอื่นให้คล้อยตามความเห็นของตน…

    พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ชัดเจนว่า ผลบุญ-ผลบาป ชาตินี้-ชาติหน้า นรก-สวรรค์ นั้นมีจริง แต่ท่านนักปราชญ์เหล่านั้น กล้าค้านแม้คำสอนขององค์สมเด็จพระบรมครูของเรา…. เป็นเรื่องน่าสงสาร ที่ท่านทำตามคำสอนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาไม่ได้ ท่านก็คิดว่าคนอื่นคงทำไม่ได้ด้วย ความจริงแล้วแม้แต่เด็ก ๆ จำนวนมากก็ทำได้ และมีความสามารถกว่าท่านปราชญ์ใหญ่เหล่านั้นซะอีก…ประกอบกับเรื่องราวของท่านทั้งหลายที่ฟื้นคืนจากความตาย บรรดานักปราชญ์ทั้งหลายนั้น ท่านเหนื่อยเปล่าแล้วกับการสอนผิด ๆ ของท่าน….

    ในที่นี้ขอกล่าวถึงการตายแล้วฟื้นของอาตมาเอง ที่เป็นการตายเปล่า ๆ ไม่ได้มีเรื่องราวของชีวิตหลังความตาย มาเล่าสู่กันฟังอย่างผู้อื่นเขา ขณะนั้น….อาตมาเพิ่งจะอายุสองขวบเท่านั้น…. จากคำบอกเล่าของพ่อ-แม่ และพี่ ๆ หลายคน ว่าตอนนั้นอาตมากับพี่สาว (คุณมุกดา เพชรชื่นสกุล) ได้รับแจกท็อฟฟี่จากพ่อ ก็แบ่งกันกิน

    พี่มุกดาเขารู้จักแกะเปลือกออกก่อน ส่วนอาตมานั้นไม่รู้ความ… รับท็อฟฟี่มาก็ใส่ปากอมทั้งเปลือก ท็อฟฟี่สมัยนั้นเม็ดโตมาก (ราคาเม็ดละ ๓๐ สตางค์) พออมไปอมมา เปลือกท็อฟฟี่ถูกน้ำลายลื่นเข้าก็ผลุบเข้าไปในหลอดลม อาตมาเลยชักตาตั้ง…! พ่อ – แม่ เห็นอาการของอาตมาเข้าก็รีบล้วงคอจะเอาออก แต่กลายเป็นดันให้ท็อฟฟี่หลุดลึกเข้าไปอีก เลยวุ่นวายโกลาหลไปทั้งบ้าน อาตมานั้นขาดอากาศหายใจ หมดสติไปตั้งนานแล้ว…

    เมื่อสามสิบกว่าปีก่อน คำว่าโรงพยาบาลเป็นสิ่งไกลเกินฝัน ได้แต่พยาบาลกันตามมีตามเกิด เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง อาตมาเขียวไปหมดทั้งตัว ดูด้วยสายตาก็ตายไปนานแล้ว แต่ด้วยความรักของพ่อ-แม่ แม้สภาพจะเป็นถึงเพียงนั้น ท่านก็ไม่ยอมหมดหวัง หันไปพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือบนบานต่อ “จ้าวแม่เบิกไพร” ว่าถ้าอาตมาฟื้นจะยกให้เป็นลูกจ้าวแม่ ๑๐ ปี…

    จะด้วยบารมีของจ้าวแม่ หรืออาตมายังไม่ถึงที่ตายก็ไม่รู้ พอพ่อจับร่างอาตมาห้อยหัวลง ตบหลังเข้าอย่างแรง ท็อฟฟี่เจ้ากรรมก็หลุดกระเด็นออกมายังกับปาฏิหาริย์ อาตมาแหกปากร้องไห้จ้า…! แทบจะเป็นไปไม่ได้ ที่คนหมดลมไปนานขนาดนั้นกลับฟื้นคืนมาอีกครั้ง แต่มันก็เป็นไปแล้ว และจากการที่สมองขาดอ๊อกซิเย่นเป็นเวลานาน ทำให้อาตมาป่วยเป็นโรคลมชักอยู่หลายปี…

    ไปกราบฝากตัวเป็นลูกจ้าวแม่ตามสัญญา ตลอดเวลา ๑๐ ปีเสี่ยงเซียมซีได้ใบเดียวกันทุกครั้ง ข้อความมีว่า “ใบที่สิบสองต้องกันเหมือนจันทร์ฉาย เปรียบกับต้นพฤกษีคราวที่ตาย แล้วกลับกลายฟื้นเป็นเหมือนเช่นเดิม….” น่าอัศจรรย์มากที่ข้อความตรงกับชีวิตอาตมาจริง ๆ และการตายครั้งนั้นอาตมาไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตายเปล่า ๆ แล้วก็ฟื้นคืนมา จำไม่ได้จริง ๆ ว่าไปพบอะไรมาบ้าง เพราะยังเด็กเกินกว่าจะจำอะไรได้…

    ท่านผู้อ่านทั้งหลาย…ความตายเป็นของไม่แน่นอน ไม่ทราบว่าจะมาถึงตัวเราเมื่อไร ขอทุกคนจงอย่าประมาท เร่งปฏิบัติความดีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อเวลาตายจะได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี สมกับที่เรามุ่งหวังทุกประการ…

    ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓
    พระใบฎีกาเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

    ที่มา www.watthakhanun.com
    ภาพประกอบโดย สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี

    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม


    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  3. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ภาพงานสวดมนต์ข้ามปีและวันขึ้นปีใหม่
    วันจันทร์ที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ (วันสิ้นปี)
    วันอังคารที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ใส่บาตรปีใหม่ ร ตลาดนั่งยอง ทองผาภูมิ)

    ขอบพระคุณภาพจากพี่มะลิแก้ว ช่างภาพเว็บวัดท่าขนุน

    ที่มา /www.facebook.com/hashtag/post228166">#post228166” target=”_blank”>http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?p=228166 #post228166

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  4. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ท่านใดว่างเว้นจากการงาน ศ-ส-อา นี้ สามารถไปกราบทำบุญกับพระอาจารย์เล็กได้นะครับ

    วันอาทิตย์ที่ ๖ ม.ค. ๖๒ เวลา ๑๐.๐๐ น.
    บ้านเติมบุญจัดพิธีกราบขอขมาต่อพระรัตนตรัยและขอขมาต่อพระอาจารย์เล็ก
    รวมทั้งกราบขอพรปีใหม่ครับ ขอเชิญมาพร้อมกันนะครับ (มาถึงสัก ๐๙.๓๐ น. นะครับ)

    จะมีการถวายผ้าป่าสามัคคีทำบุญปีใหม่ด้วยครับ ใช้ปัจจัยจากบัญชีบ้านเติมบุญนะครับ
    (ทุกท่านที่เคยหยอดตู้ทำบุญที่บ้านเติมบุญ ถือว่าได้ถวายผ้าป่าสามัคคีร่วมกันด้วยนะครับ)

    โมทนา
    .jpg
    .jpg
    ขอเชิญรับฟังการถ่ายทอดสดเสียงกรรมฐานตอนเย็นจากบ้านเติมบุญ
    เนื่องด้วยคณะผู้ดูแลกระดานสนทนาวัดท่าขนุน ได้กราบเรียนขออนุญาตจากพระอาจารย์ (พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.) ในการดำเนินการจัดตั้งระบบการถ่ายทอดสดเสียงการสอนกรรมฐานตอนเย็นจากบ้านเติมบุญ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ในวันและเวลาดังต่อไปนี้

    วันศุกร์ที่ ๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๒
    (ถ่ายทอดเสียงการสอนกรรมฐานตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป จนกระทั่งจบกรรมฐานและการอุทิศส่วนกุศล)

    วันเสาร์ที่ ๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๒
    (ถ่ายทอดเสียงการสอนกรรมฐานตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป จนกระทั่งจบกรรมฐานและการอุทิศส่วนกุศล)

    วันอาทิตย์ที่ ๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๒
    (ถ่ายทอดเสียงการสอนกรรมฐานตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป จนกระทั่งจบกรรมฐานและการอุทิศส่วนกุศล)

    เพื่อให้ผู้ที่อยู่ทางไกล ต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมทำกรรมฐานที่บ้านเติมบุญ ด้วยตนเอง มีโอกาสได้รับฟังเสียงสดจากพระอาจารย์ในการสอนกรรมฐาน จะได้ร่วมกันกำหนดจิตน้อมใจฟังธรรมไปพร้อม ๆ กัน

    จึงขอเชิญสาธุชนทั้งหลายที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมทำกรรมฐาน รับฟังการถ่ายทอดเสียงสดจากบ้านเติมบุญ ในช่องทางที่จะได้ประกาศต่อไปนี้ร่วมกัน

    ขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาของพระอาจารย์ มา ณ ที่นี้
    การรับชม-รับฟังการถ่ายทอดสด
    ท่านสามารถรับชม-รับฟังการถ่ายทอดสด ตามวันและเวลาที่กำหนดผ่านช่องทางต่อไปนี้
    รับชมทาง Facebook เพจ watthakhanun: www.facebook.com/watthakhanun
    รับชมทาง YouTube ช่อง Sapanboon: www.youtube.com/channel/UCgkHL4DqAHM4mSyTGesp5OA
    รับฟังทางวิทยุออนไลน์: www.watthakhanun.com/radio
    หมายเหตุ: การรับฟังวิทยุออนไลน์ทางโทรศัพท์มือถือสามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
    ๑. ระบบปฏิบัติการ Android: แอปพลิเคชัน VLC for Android
    ๒. ระบบปฏิบัติการ iOS: แอปพลิเคชัน VLC for Mobile
    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4892

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  5. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    -ไม่ต้องไป.jpg

    ไม่ต้องไปเติม ไม่ต้องไปตัด มีหน้าที่ทำตามอย่างเดียว

    ถาม :
    (สนทนาเรื่องผลไม้นอกฤดูกาล)
    ตอบ : กินผลไม้ตามฤดูจะดีกว่า เพราะจะเหมาะสมกับสภาพธาตุขันธ์ร่างกายในตอนนั้น สังเกตไหมว่าทุเรียนกับมังคุดจะออกหน้าเดียวกัน อย่างหนึ่งกินเข้าไปจะร้อน อีกอย่างหนึ่งกินแล้วเย็น ของทุกอย่างธรรมชาติจะให้มาดีแล้ว ธรรมะชาติ…เกิดโดยธรรม ทุกอย่างที่เป็นธรรมชาติหรือที่เรียกง่าย ๆ ว่าธรรมดา ปล่อยตามปกติจะพอเหมาะ พอควร พอดี สมบูรณ์บริบูรณ์ทุกอย่าง

    เคยสังเกตไหมว่า..ถ้าเราทิ้งสวนให้รก ๆ เข้าไว้ ปล่อยให้ต้นไม้ใบหญ้าขึ้นเองจะพอเหมาะพอดี เพราะต้นไม้ที่ขึ้นจะต้องการน้ำ ต้องการอาหาร ต้องการแสงแดดที่พอดี ต้นไหนที่ขึ้นมาเกิน ก็จะแห้งตายไปเอง อย่างกิ่งไม้เล็ก ๆ ที่อยู่ข้างในพุ่มก็จะแห้งตายเอง แต่กิ่งที่ได้รับแสงแดดจะไม่ตาย

    ในจุดที่พอเหมาะ พอดี พอควร เมื่อเราไปเพิ่มเข้าไปก็เกิน เราตัดออกไปก็ขาด ถอนหญ้าไปต้นหนี่ง จะเห็นชัดเลยว่าตรงนั้นแหว่งไป..ใช่ไหม ? ลักษณะเดียวกับธรรมะของพระพุทธเจ้า ท่านว่า “เกวะละ ปะริปุณณัง” สมบูรณ์ บริบูรณ์แล้ว ไม่ต้องไปเติม ไม่ต้องไปตัด มีหน้าที่ทำตามอย่างเดียว

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๕


    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  6. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    เมื่อพระอรหันต์ไปที่ไหน พรหมเทวดาจะตามไปให้การสงเคราะห์
    ตราบใดที่พรหมเทวดายังให้การสงเคราะห์สถานที่นั้นจะไม่ประสบภัยพิบัติ

    ……………………………….
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com

    ภาพประกอบโดย สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี

    #พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม #แบ่งปันธรรมะ
    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  7. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    -ตอนที่-๒.jpg

    อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๒ : วิเวกใต้บาดาล

    คำว่า “วิเวก” แปลว่า ความสงัด มีอยู่สามประการคือ

    กายวิเวก ความสงัดทางกาย
    จิตวิเวก ความสงัดทางใจ
    อุปธิวิเวก ความสงัดจากกิเลส

    ทั้งสามประการนี้ เกี่ยวเนื่องกันเป็นลูกโซ่คือ ความสงัดทางกาย (วาจาด้วย) พาให้เกิดความสงัดทางใจ เมื่อใจสงัดกิเลสเกิดขึ้นมาไม่ได้ ก็นับเป็นการสงัดจากกิเลสไปด้วย….

    ผู้ปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นจริง ๆ จะแสวงหาความวิเวกทั้งสามประการ ชนิดเอาชีวิตเข้าแลกทีเดียว แต่ความสงบสงัดนั้นใช่ว่าจะไขว่คว้าหามาโดยง่าย ที่ใดกล่นเกลื่อนด้วยหมู่ชน ที่นั้นย่อมหาความสงบได้ยาก… ดังนั้น…พระท่านจึงมักหลีกหนีจากหมู่คน ธุดงค์ไปตามป่าตามเขา แสวงหาความวิเวกจากธรรมชาติ กระนั้นก็ดี จิตที่ปรุงแต่งอยู่ตลอดเวลาก็หาได้สงบลงง่าย ๆ ไม่ ต้องทรมานกันขนาดหนักจึงจะพอควบคุมไหว…

    เมื่อเจ้าตัวกิเลสต้องพบกับการทรมานจึงยอมก้มหัวให้ บรรดาผู้มุ่งความสงบจึงหันหน้าเข้าสู่ป่า อาศัยภัยจากสัตว์ร้าย ภูติผีปีศาจ ช่วยปราบปรามกิเลสให้สงบลงบ้าง ถ้าไม่สงบก็ให้มันตายไปเลย…สภาพจิตของคนเรา ถ้าไม่มีที่ให้กลัวเกรงแล้ว ก็มักโลดโผนโจนทะยาน ขึ้นฟ้าลงดินไปตามแต่มันต้องการ เมื่อพบภัยอันตรายเข้า ความกลัวตายก็ทำให้มันเลิกดิ้นรน รีบกลับมาภาวนาเป็นการใหญ่…

    การภาวนาโดยไม่ต้องบังคับ จิตใจก็ดิ่งสู่ความสงบวิเวกโดยเร็ว ดื่มด่ำกับความสุขของจิตที่สงัดจากกิเลส “สุโข วิเวโก” ความสงัดนี้เป็นสุขจริงหนอ… แล้วความสงบวิเวกหาได้จากในป่าเท่านั้นหรือ…? หามิได้…ที่ใดก็ตามที่เราทรงอารมณ์ภาวนาไว้ได้ ที่นั้นล้วนแต่เป็นที่สงัด เพียงแต่ว่าสภาพจิตต้องฝึกมาดีพอ จึงจะปักลงสู่ความสงบได้ในทุกที่….

    อาตมาพบกับความสงบวิเวกครั้งแรกนั้น เป็นเพียงเด็กน้อยที่อายุ ๕-๖ ขวบ แต่ความสงบสุขที่ได้รับนั้น มันดื่มด่ำลึกซึ้งจนบอกไม่ถูก ทำให้จำเหตุการณ์ได้แม่นยำ ความวิเวกคราวนั้นเป็นฉันใด…?

    ขณะนั้นเป็นหน้าฝน คูน้ำริมถนนที่ลึกเกือบสองเมตรน้ำกำลังเปี่ยมฝั่ง อาตมากับพี่น้องวัยซนทั้งหลาย ลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องทำแพหยวกกล้วยเล่นกัน….

    เริ่มจากตัดต้นกล้วยขนาดเท่า ๆ กันมา ๕-๖ ท่อน จัดเรียงให้เป็นระเบียบ เอาหลาวไม้ไผ่ตอกติดกันเป็นแพ ในสายตาผู้ใหญ่แล้วทำแสนจะง่าย แต่กับเด็ก ๆ อย่างเราแล้ว มันเป็นผลงานชิ้นมโหฬารเลยทีเดียว….

    ทั้งผลักทั้งดันแพลงไปในน้ำ หาไม้มาทำเป็นถ่อ แล้วทโมนทั้งฝูงก็ลงไปแออัดอยู่บนแพ ทั้งที่ว่ายน้ำไม่เป็นเลยสักคน แต่ขอให้ได้เล่นเถอะ เรื่องจมน้ำตายไม่ต้องคิดถึง….

    ปกติต้นกล้วยก็ลื่นอยู่แล้ว มาเปียกน้ำเข้าก็ยิ่งลื่นหนัก จังหวะที่อาตมาดึงถ่อขึ้นจากโคลนนั่นเอง…ก็พลาดท่าลื่นตกน้ำดังตูมใหญ่ จมหายไปในห้วงน้ำที่ขุ่นข้น และมืดมิด…!

    น่าประหลาด…ในความมืดอันเย็นเฉียบนั้น อาตมารู้สึกสงบเยือกเย็นสุขสบายจนบอกไม่ถูก เลยนั่งเงียบอยู่ใต้น้ำ ดื่มด่ำกับความสุขที่ได้รับ โดยไม่คิดดิ้นรนขึ้นไปแบบคนตกน้ำทั้งหลาย…

    เวลาผ่านไปนานเท่าใดไม่รู้…อาตมารู้สึกตัวเมื่อมีมือควานมากระทบ ดึงผมสั้น ๆ ของอาตมาจนตัวลอยขึ้นเหนือน้ำ…พี่มุกดานั่นเอง…กำลังนอนพังพาบบนแพ และควานไปพบดึงอาตมาขึ้นมา…

    ทุกคนตกใจหน้าซีดปากสั่น การล่องแก่งมหาภัยเลิกล้มไปโดยปริยาย ไม่มีใครบอกพ่อแม่ให้ถูกฟาดก้น อาตมาเงียบขรึมเป็นพิเศษ เพราะความรู้สึกยังดื่มลึก ติดอกติดใจกับความสงัดที่ได้รับ…

    จนบัดนี้อาตมายังนึกไม่ออกว่า ทำไมเกือบ ๑๐ นาทีใต้น้ำนั้น อาตมาจึงรู้สึกหายใจได้สบาย ๆ เป็นการหายใจทางไหน…? ทำไมถึงไม่ตกใจ…? ใครสามารถบอกได้โปรดเมตตาเฉลยให้ด้วย…

    ชีวิตนี้เป็นของน้อย จะสลายไปยามใดก็ไม่แน่ ขอทุกท่านเร่งทำความดี เพื่อเป็นทุนไปสู่จุดหมายในภพหน้ากันเถิด…

    ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓
    พระใบฎีกาเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

    ที่มา www.watthakhanun.com
    ภาพประกอบโดย สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี

    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  8. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ถ่ายทอดสดจากบ้านเติมบุญ วันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒
    พระอาจารย์รับสังฆทานและตอบปัญหาธรรม เวลา ๑๘.๐๐ น.
    เริ่มเจริญกรรมฐาน เวลา ๑๘.๓๐ น.
    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  9. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    วันนี้ได้กล่าวถึงการปฏิบัติธรรมของบุคคลที่เป็นพระอรหันต์แล้ว คือพระอนุรุทธเถระ ว่าท่านถือเนสัชชิก ก็คือนั่งโดยไม่นอนเลยตลอดระยะเวลา ๕๕ ปี นอกจากเป็นความไม่ประมาท พิจารณาธรรมเพื่อความอยู่สุขเฉพาะของตนแล้ว ยังแสดงออกซึ่งฉันทะอย่างแรงกล้า

    เครื่องมือที่จะช่วยให้เกิดความสำเร็จในการปฏิบัติธรรมหรือว่าในการทำสิ่งอื่น ๆ ทุกประการก็ตาม คืออิทธิบาท ๔ ซึ่งประกอบไปด้วย ฉันทะ ยินดีและพอใจที่จะทำอย่างนั้น

    ในปัจจุบันนี้ญาติโยมหลายต่อหลายท่าน มีฉันทะเกินพอ แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วเอาไปใช้ผิด อย่างเช่น นั่งเล่นไลน์กันทีเป็นวัน ๆ หรือไม่ก็ดูหนังสนุก ๆ ได้เป็นวัน ๆ อ่านหนังสือที่ตนชอบใจได้เป็นวัน ๆ บางทีสว่างไม่รู้ตัวก็มี เมื่อเป็นเช่นนั้นแสดงว่าตัวฉันทะ คือความพอใจที่จะกระทำของเรานั้นความจริงเพียงพออย่างเหลือเฟือแล้ว เพียงแต่ว่าต้องเราน้อมนำเอาฉันทะนี้มาใช้ในการปฏิบัติธรรมเท่านั้น

    คราวนี้..การที่เราจะเปลี่ยนความยินดี ความพอใจจากสิ่งที่ให้ความบันเทิงแก่ตนเองในด้านอื่น ๆ มาเป็นการปฏิบัติธรรมด้วยความมุ่งมั่นในระดับเดียวกันนั้น เราต้องเห็นประโยชน์เสียก่อน

    เราจะเห็นได้ว่าหลักธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ป้องกันเราไม่ให้ตกลงสู่อบายภูมิ คือถ้าเราเป็นผู้มีทาน มีศีล มีภาวนาทรงตัว เราสามารถที่จะปิดอบายภูมิได้ชั่วคราว แต่ถ้าการภาวนาของเราเข้าสู่ระดับปัญญา รู้แจ้งในเบื้องต้น ตั้งแต่ทรงความเป็นพระโสดาบันขึ้นไป เราก็จะปิดอบายภูมิได้อย่างถาวร ก็แปลว่าการเกิดในนรก เปรต อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉาน จะไม่มีสำหรับเรา

    การเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานนั้นประกอบไปด้วยความทุกข์ ก็คือหากินไม่ได้ดั่งใจ ต้องอด ๆ อยาก ๆ อิ่มบ้างอดบ้างเป็นปกติ ปรารถนาอะไรก็ไม่สามารถที่จะบอกผู้อื่นได้ มีความทุกข์ทั้งทางกายและทางใจเป็นปกติ ในเขตการความเป็นเปรตนั้น ส่วนใหญ่ต้องอดอยากหิวโหยอยู่ตลอดเวลา มีเสียงเรียกให้ไปกินข้าวกินน้ำ เดินตามอยู่เป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี เดินจนหมดเรี่ยวหมดแรง หาแหล่งที่มาไม่ได้ ต้องทนทุกข์ทรมานหิวโหยอยู่ตลอดเวลา

    เกิดเป็นอสุรกายก็ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับใคร จะออกหาอาหารแต่ละทีก็ต้องระมัดระวังตัวสุดชีวิต ก็แปลว่ากินก็ไม่ได้ดั่งใจ มีแต่ความกลัวอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นสัตว์นรกก็ต้องโดนทุกข์ทรมาน ไหม้อยู่ในขุมนรก มีอาวุธสับฟันแทงอยู่ตลอดเวลา ของเราแค่โดนไฟจี้นิดเดียวก็รู้สึกว่าร้อน มีความปวดแสบเป็นปกติ แต่สัตว์นรกมีไฟเผาอยู่ตลอด ไม่เว้นว่างแม้แต่นิดเดียว

    ถ้าเราต้องตกลงสู่อบายภูมิไม่ว่าระดับใดระดับหนึ่ง แปลว่ามีความทุกข์มากกว่าตอนเป็นมนุษย์มาก ดังนั้น..ถ้าเราเอาฉันทะคือความยินดีและพอใจในด้านอื่น ๆ มาใช้ในการปฏิบัติธรรม ทุ่มเทให้กับการปฏิบัติธรรม คือต้องประกอบไปด้วยความเพียรไม่ย่อท้อ และมีกำลังใจที่แน่วแน่มั่นคงต่อเป้าหมาย ตลอดจนกระทั่งใช้ปัญญาทบทวนอยู่เสมอว่าเราทำอะไร เพื่ออะไร เป้าหมายอยู่ที่ไหน ปัจจุบันเราทำไปได้เท่าไร ยังเหลืออีกมากน้อยเท่าไรที่ต้องเร่งขวนขวายให้มากขึ้น ถ้าเราประกอบไปด้วยอิทธิบาทเช่นนี้ การปฏิบัติธรรมของเราจะมีแต่ความก้าวหน้า ถึงไม่สามารถปิดอบายภูมิได้อย่างถาวร ก็จะปิดอบายภูมิได้ชั่วคราว

    เมื่อท่านทั้งหลายมาปฏิบัติธรรมด้วยหวังความหลุดพ้น ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สูงส่งและไกลเหลือเกิน แล้วเราปราศจากความพากเพียร ความแน่วแน่มั่นคงต่อจุดหมายปลายทาง เราจะไปถึงได้อย่างไร ? จึงขอฝากทุกคนเอาไว้ว่า ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น เมื่อยินดีและพอใจแล้ว ก็ต้องพากเพียรให้เต็มกำลังของเรา ไม่ต้องกลัวเหนื่อยยาก ไม่ต้องกลัวว่าทำมากเกินไปแล้วจะตาย ทุ่มเทลงไปทั้งชีวิต ต้องเอาชีวิตเข้าแลกจึงประสบความสำเร็จได้ แล้วขณะเดียวกัน ก็ต้องมีการพิจารณาไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอ ๆ เพื่อที่จะได้ไม่ผิดไปจากเป้าหมายที่เราวางเอาไว้ ถ้าสามารถทำอย่างนี้ได้ เราถึงจะมีโอกาสหลุดพ้นไปสู่พระนิพพานตามที่ต้องการ

    ลำดับต่อไป ขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
    วันเสาร์ที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๗

    ที่มา www.watthakhanun.com

    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  10. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    -พ-ศ-๒๕.jpg

    #คลิปสวดมนต์ข้ามปี พ.ศ. ๒๕๖๒ วัดท่าขนุน
    #น้อมรับพรแรกของปีจากพระอาจารย์เล็กครับ
    ขอบพระคุณคลิปจากชมรมโมทนาบุญพลังจิตครับ

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  11. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ถ่ายทอดสดจากบ้านเติมบุญ วันที่ ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒
    พระอาจารย์รับสังฆทานและตอบปัญหาธรรม เวลา ๑๘.๐๐ น.
    เริ่มเจริญกรรมฐาน เวลา ๑๘.๓๐ น.
    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  12. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    -ๆ-วันให้เราตรวจสอบดู.jpg

    ทุก ๆ วันให้เราตรวจสอบดูว่าศีล ๕ เราบกพร่องไหม ? เราได้ล่วงศีลด้วยตนเองหรือไม่ ? ยินดีเมื่อเห็นคนอื่นล่วงศีลหรือไม่ ? หรือว่ายุให้คนอื่นล่วงศีลหรือไม่ ? ถ้ายังอยู่ในกรอบของศีล ๕ ถือว่ายังปฏิบัติไม่ผิด ใช้ศีลเป็นเครื่องวัดดีที่สุด
    ……………………………….

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com

    #พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม #แบ่งปันธรรมะ
    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  13. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg
    โอวาทหลังพิธีการขอขมาและถวายผ้าป่าทำบุญปีใหม่ ณ บ้านเติมบุญ

    บาลีเราไม่ถนัด บางทีก็เอาความเข้าใจของเรา บาลีใช้ ป.ปลา “ปังสุกูละจีวะรานิ” แปลว่า จีวรอันมาจากผ้าเปื้อนฝุ่น แต่พอแปลงเป็นไทยเขาเปลี่ยนเป็น บ.ใบไม้ เราจะออกเสียงว่า “บังสุกุล” ไม่ใช่ “บังสกุล” นะ ดังนั้น..ของพวกนี้ถ้าเราไม่เข้าใจก็จะว่าผิด ๆ ไปเรื่อย หลายท่านก็ “บังสุกูลจีวะรานิ” กลายเป็นบาลีปนไทย ซึ่งผิด

    แล้วยิ่งเด็กรุ่นใหม่บางทีไปไกลเลย “คิกขุสังโฆ” ต้อง “ภิกขุสังโฆ” พระภิกษุอันเป็นหมู่สงฆ์ ไม่ใช่ภิกษุผู้น่ารัก..! ไปกันไกลมาก เพราะฉะนั้น..อะไรที่เราเป็นชาวพุทธพยายามทำให้ถูก ทำให้ดีไว้ แบบเดียวกับ “พุทธะปูชา” อย่าลืมว่าบาลีเขาใช้ ป.ปลา พอมาเป็นภาษาไทยถึงเป็น “พุทธบูชา” ดังนั้น..ถ้าเขา “พุทธะปูชา มหาเตชะวันโต” เราก็ “ปูชา” ตามเขาไป “ปูเชมิ” เราก็ปูตามเขาไป ไม่อย่างนั้นแล้วจะกลายเป็นผิด โดยเฉพาะบางส่วนผิดแล้วความหมายเพี้ยนไปเลย ก็เลยทำให้คนที่รับช่วงต่อ ๆ ไป ก็จะผิดไปด้วย

    ดังนั้น..ในช่วงปีใหม่พวกเราตั้งใจมาทำสามีจิกรรม คือสิ่งที่ดีงาม เป็นแบบอย่าง เป็นธรรมเนียมประเพณีแต่เดิม ๆ มา ก็คือการขอขมาพระรัตนตรัย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะว่าการที่เราทั้งหลายได้คิด พูด ทำ ก็จะต้องมีบางสิ่งบางอย่างในสภาพจิตของเราที่ยังหยาบอยู่ มีการล่วงเกินต่อพระรัตนตรัยโดยรู้ตัวก็ดี ไม่รู้ตัวก็ดี เราก็มาขอขมากัน ซึ่งความจริงพระท่านก็ไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองอะไร เพียงแต่ว่าการแสดงออกด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจของเรา ก็คือเรารู้ว่าผิด เราขอขมา ถ้าหากว่าเป็นเด็กกระทำต่อผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่เห็นก็ให้ความเอ็นดู ให้ความเมตตา ก็ให้อภัย ก็เท่ากับว่าทุกสิ่งทุกอย่างกลับเข้าสู่ความดีงามเหมือนเดิม

    ส่วนในเรื่องของการสร้างบุญสร้างกุศลรับปีใหม่ เช่นการถวายผ้าป่า ก็ถือว่าเป็นการสร้างเสริมบุญกุศลรับศักราชใหม่ เอาสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต ซึ่งถ้าเราสามารถทำได้โดยตลอด สิ่งชั่วทั้งหลายก็ไม่สามารถที่จะเข้าสู่ชีวิตของเราได้ เพราะว่าความดีความชั่วนั้น สภาพจิตของเรารับได้อย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีใครสามารถที่จะทำชั่วทำดีพร้อม ๆ กันได้ ถ้าหากว่าสภาพจิตดี อาศัยอยู่ในใจของเราที่เหมือนเก้าอี้ตัวเดียว ความชั่วก็เข้าไม่ได้ แต่ถ้าความชั่วเข้ามาก่อน ความดีก็เข้าไม่ได้เช่นกัน

    ดังนั้น..ท่านทั้งหลายที่มาในวันนี้จะเห็นว่า เรามีการขอขมาพระรัตนตรัย รับศีล ถวายทาน ในส่วนนี้ที่ท่านทั้งหลายตั้งใจทำก็เป็นส่วนของทาน ของศีล คราวนี้การที่ตั้งใจฟังโอวาท ก็คือตัวสมาธิภาวนา แปลว่าเราทั้งหลายได้ทำบุญกุศลในส่วนของไตรสิกขา ศีล สมาธิ ปัญญา โดยสมบูรณ์พร้อมในช่วงปีใหม่นี้แล้ว อาตมภาพในฐานะพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนาก็ขออาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆ กันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง หลวงปู่สาย วัดท่าขนุน เป็นที่สุด

    ได้โปรดดลบันดาลให้ท่านทั้งหลายประสบแต่ความสุขความเจริญ มีความปรารถนาที่สมหวังทุกประการ สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ท่านปรารถนามาแล้ว ถ้าไม่เกินวิสัยในผลบุญที่ได้สะสมมา จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ก็ขอให้ความปรารถนาของท่านทั้งหลาย จงสำเร็จสัมฤทธิ์ผล สมดังมโนรถปรารถนาทุกประการด้วยเทอญ

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    โอวาทหลังพิธีการขอขมาและถวายผ้าป่าทำบุญปีใหม่ ณ บ้านเติมบุญ
    วันอาทิตย์ที่ ๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๒

    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  14. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ถ่ายทอดสดจากบ้านเติมบุญ วันที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒
    พระอาจารย์รับสังฆทานและตอบปัญหาจากเว็บวัดท่าขนุน เวลาประมาณ ๑๗.๔๕ น.
    เริ่มเจริญกรรมฐาน เวลา ๑๘.๓๐ น.
    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  15. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ขอเชิญร่วมงานหล่อหลวงพ่อทองคำ ฉลอง ๖๐ ปี พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    วันเสาร์ที่ ๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เวลาประมาณ ๑๒.๓๐ น.
    ณ วัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
    ท่านที่อยู่ไกลหรือไม่สะดวกเดินทาง สามารถรับชมถ่ายทอดสดได้ทาง
    Facebook: watthakhanun (www.facebook.com/watthakhanun) หรือ
    YouTube: Sapanboon (www.youtube.com/channel/UCgkHL4DqAHM4mSyTGesp5OA)
    เริ่มถ่ายทอดสดเวลาประมาณ ๑๒.๐๐ น. เป็นต้นไป

    ท่านใดจะร่วมบุญกับทางวัดท่าขนุน ให้โอนปัจจัยเข้าบัญชีข้างล่างนี้นะครับ
    ธนาคารกรุงไทย สาขาทองผาภูมิ
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ ๗๑๘ – ๐ – ๒๔๔๖๑ – ๙
    ชื่อบัญชี วัดท่าขนุน

    ขอบพระคุณวีดีโอจากชมรมโมทนาบุญ เว็บพลังจิต

    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  16. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    งานขอขมาพระรัตนตรัยและพระอาจารย์เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๒ ณ บ้านเติมบุญ
    วันอาทิตย์ที่ ๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๒

    ขอบพระคุณภาพจากพี่มะลิแก้ว ช่างภาพเว็บวัดท่าขนุน

    ที่มา /www.facebook.com/hashtag/post228413">#post228413” target=”_blank”>http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?p=228413 #post228413

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 มกราคม 2019
  17. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    -ไม่จำเ.jpg

    คนเราจะหญิงจะชาย ไม่จำเป็นต้องบวช ขอให้ตั้งใจปฏิบัติจริง ก็สามารถเข้าถึงธรรมได้ทั้งนั้น
    ……………………………….
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com

    #พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม #แบ่งปันธรรมะ
    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  18. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .png
    .png

    รับสมัครอุปสมบทหมู่ในวาระเจริญอายุวัฒนมงคล ๖๐ ปี พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.

    ขอเชิญสมัครอุปสมบทหมู่เนื่องในวาระเจริญอายุวัฒนมงคล ๖๐ ปี ของพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันศุกร์ที่ ๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๒

    นาคเข้าวัดเพื่อฝึกซ้อมการขานนาค “แบบอุกาสะฯ” ภายในเวลา ๑๘.๐๐ น. ของวันเสาร์ที่ ๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๒

    โกนหัวนาคเวลา ๑๒.๓๐ น. ของวันศุกร์ที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๒ เสร็จแล้วเป็นการบรรพชาสามเณรทั้งหมด โดยมี พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เป็นพระอุปัชฌาย์

    อุปสมบทหมู่ในเวลา ๐๖.๓๐ น. ของวันเสาร์ที่ ๑๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ ไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นพิธี โดยมี พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เป็นพระอุปัชฌาย์

    ท่านที่สมัครเข้าอุปสมบทหมู่ สามารถแจ้งในกระทู้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้ โดยแจ้งชื่อ นามสกุล (ตามบัตรประชาชน) พร้อมหมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อ ถ้าเคยบวชกับทางวัดท่าขนุนแล้ว โปรดแจ้งฉายาเดิมด้วย

    รับจำกัดจำนวนแค่ ๑๐๘ ท่านเท่านั้น โปรดตัดสินใจให้ดีก่อนสมัคร ถ้าสมัครแล้วถอนตัวกลางคัน จะโดนขึ้นบัญชีดำของวัด ห้ามบวชกับทางวัดอีกตลอดชีวิต

    ที่มา https://www.watthakhanun.com/webboa...NQTp7u5C6c1rb53pO12CMYyrLzKCA2XvHPsTWwOXNbq1g

    ****กรุณาไปลงชื่อในเว็บวัดท่าขนุนที่ลิ้งค์นี้เท่านั้น ขออภัยไม่รับลงชื่อที่หน้าเพจค่ะ***

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 มกราคม 2019
  19. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    -ตอนที่-๓.jpg

    อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๓ : ท่านเจ้าคุณนรฯ


    หากเอ่ยถึงนาม “หลวงพ่อธมฺมวิตกฺโก” หรือ ภิกษุพระยานรรัตน์ราชมานิต ที่ผู้คนเรียกกันสั้น ๆ ว่า "ท่านเจ้าคุณนรฯ" แล้วเชื่อว่าทุกท่านต้องเคยได้ยินชื่อเสียงเกียรติคุณของท่านมาไม่มากก็น้อย….

    ท่านเจ้าคุณนรฯ เป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างแท้จริง ยากที่จะหาพระผู้เด็ดเดี่ยวเฉียบขาดในการปฏิบัติธรรม เสมอด้วยท่านอีกแล้ว ท่านเอาจริงเอาจังในการปฏิบัติทุกอย่าง… ด้วยศีลาจารวัตรอันบริสุทธิ์งดงามของท่าน นำพาท่านโดดเด่นขึ้นมาเป็นหลักชัยของหมู่ชน แม้ท่านจะเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ยุ่งเกี่ยวสุงสิงกับใคร แต่คุณความดีของท่านก็เจิดจ้าสว่างไสวจนปิดไม่มิด… ดวงจิตอันบริสุทธิ์ด้วยได้รับการขัดเกลาอย่างวิเศษ ก่อให้เกิดอิทธิปาฏิหาริย์อันศักดิ์สิทธิ์ สงเคราะห์ต่อหมู่ชนโดยไม่เลือกหน้า ปากต่อปากที่พากันกล่าวขาน เกียรติคุณของท่านยิ่งขจรขจายไปอย่างไม่รู้จบ…

    ในที่สุดก็มีผู้สร้างรูปเหรียญของท่านขึ้นมาบูชา ท่านก็โปรดเมตตาปลุกเสกอธิษฐานจิตให้ บุคคลผู้รับไปบูชาพบประสบการณ์พิสดารต่าง ๆ มากมายนับไม่ถ้วน อาตมาเองก็พบกับความมหัศจรรย์นั้นด้วย…

    นายตู๋ (วิจิตร แซ่ล้อ) เพื่อนของอาตมา นำเหรียญนาคปรกใหม่เอี่ยมของท่านเจ้าคุณนรฯ มาแลกกับพระนางพญาของอาตมา ตอนนั้นอาตมายังไม่รู้คุณค่า เลยถูกพี่ก้อง (คุณก้องเกียรติ เพชรชื่นสกุล) หักคอเอาไปซึ่ง ๆ หน้า…

    พอทราบว่าท่านดีอย่างไร อาตมาก็เสียดายใจจะขาด จนแม่ต้องไปหาให้ใหม่ ตอนนั้นอาตมาเรียนมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ต้องนำเงินไปจ่ายค่าเทอม ๒๒๐ บาท ได้เงินทอนกลับมา ๘๐ บาท…

    อาตมาสอดเงินไว้ในสมุด ขี่จักรยานกลับบ้านเป็นระยะทาง ๖ กิโลเมตร ถึงบ้านจะนำเงินไปคืนให้แม่ แต่พอเปิดสมุดขึ้นมา ไม่ทราบว่าเงินนั้นอันตรธานไปไหนแล้ว…!

    เคราะห์ดีที่อาตมาไม่เคยเหลวไหล หาไม่คงถูกฟาดก้นลายแน่ แม่ให้บนท่านเจ้าคุณนรฯ ขอให้ได้คืนมา อาตมาไม่ทราบว่าจะหันหน้าพึ่งใคร ก็เลยต้องบนท่านตามที่แม่แนะนำ แต่ไม่คิดว่าจะมีทางได้คืนหรอก…

    พอเช้าขึ้นไปโรงเรียน อาจารย์ใหญ่ประกาศหาคนทำเงินหาย อาตมาแสดงหลักฐานถูกต้องทุกอย่าง จึงได้รับเงินคืนมา เพื่อนหญิงชื่อ “ทองคำ มากสุริวงศ์” เป็นผู้เก็บได้ ได้รับการสรรเสริญความดีจากครูและเพื่อน ๆ ทุกคน…

    นั่นเป็นความเมตตาของท่านเจ้าคุณนรฯ ที่สงเคราะห์แก่อาตมา หลังจากนั้นไม่นานอาตมาเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ มีโอกาสกราบฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มหาอำพัน (พระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์) แห่งวัดเทพศิรินทราวาส…

    หลวงปู่ท่านเป็นสหธรรมิกของท่านเจ้าคุณนรฯ เมตตาเล่าเรื่องปาฏิหาริย์มหัศจรรย์ต่าง ๆ ของท่านเจ้าคุณนรฯ ให้อาตมาฟังเสมอ ๆ จนกระทั่งอาตมาอยากได้พระเครื่องของท่านเจ้าคุณนรฯ รุ่นอื่น ๆ ขึ้นมาอีก…

    วันหนึ่งอาตมาอัดรูปไปถวายหลวงปู่ ๑ โหล กะว่าถ้าหลวงปู่จะให้เป็นมูลค่า อาตมาจะขอเปลี่ยนเป็นพระท่านเจ้าคุณนรฯ ด้วยทราบมาก่อนว่า หลวงปู่ท่านมีอยู่จำนวนหนึ่ง แต่เอาเข้าจริง ๆ อาตมากลับไม่กล้าขอ พอออกจากกุฏิของท่าน อาตมาก็เลยไปเยี่ยมคุณยายที่บางกอกน้อย น้าฟ้าบอกกับอาตมาว่า อยากได้พระอะไรไว้ใช้ไปหาดูบนห้องพระข้างบนได้เลย…

    อาตมาพบพระเครื่องเนื้อผงของท่านเจ้าคุณนรฯ ถึง ๔ องค์ คิดดูเถิด…อาตมาอยากได้ ท่านก็บันดาลให้ดังใจนึก แต่อาตมาเก็บของไม่อยู่ เพื่อนฝูงมาขอก็ให้เขาต่อไปจนหมด..ตัวเองมานั่งอยากต่อไป… มาภายหลังหลวงปู่มหาอำพัน มอบเหรียญใบโพธิ์ และรอยเท้าท่านเจ้าคุณนรฯ ให้อาตมาเป็นรางวัล ที่ไปเฝ้าพยาบาลท่านอย่างไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก…

    จากที่เล่ามาแสดงให้เห็นว่า ดวงจิตบริสุทธิ์ของท่านเจ้าคุณนรฯ แม้จะละสังขารไปแล้ว ก็ยังคอยอนุเคราะห์สงเคราะห์แก่ผู้ศรัทธาท่านอยู่มิได้ขาด ใครเดือดร้อนอะไรท่านก็คอยช่วยเขาอยู่เสมอ…

    คุณความดีใดที่ท่านให้การสั่งสอนไว้ ขอศิษย์ทั้งหลายจงนำไปปฏิบัติเถิด จะเกิดสุขแก่ตนและครอบครัวอย่างหาที่เปรียบมิได้ จัดเป็นสังฆานุสสติกรรมฐาน นำท่านพ้นจากที่ชั่วได้อย่างแน่นอน…

    ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓
    พระใบฎีกาเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

    ที่มา www.watthakhanun.com
    ภาพประกอบโดย สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี

    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  20. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    -ศีลห้า-กับ-ศีลห้าบวก.jpg

    ถาม : ศีลห้า กับ ศีลห้าบวกกรรมบถ ๑๐ ต่างกันอย่างไร ?
    ตอบ : ก็เพิ่มมาอีกห้าข้อ

    ถาม : แล้วอานิสงส์จะได้อะไรเพิ่ม ?
    ตอบ : เพิ่มอีกมหาศาลเลย เพราะกรรมบถ ๑๐ นอกจากบังคับกายแล้วยังบังคับวาจาและความคิดด้วย กรรมบถ ๑๐ นี่ห้ามพูดโกหก ห้ามพูดเพ้อเจ้อ ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามพูดส่อเสียดด้วย ขณะเดียวกันทางใจก็ห้ามโลภ ห้ามโกรธ ทำให้เป็นสัมมาทิฐิด้วย

    ถาม : ศีลแปดเล่าครับ ?
    ตอบ : ศีลแปดสำหรับผู้ประพฤติธรรมขั้นสูงแล้ว ต้องการความละเอียดของจิตมากขึ้น

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    ที่มา www.watthakhanun.com

    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...