อาการคุมความรู้ไม่อยู่เป็นอย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย แค่พลัง, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    แต่ตรงนี้ที่ตนเองรู้ได้เห็นได้ เมื่อเมื่อนำมาพิจารณาต้องถอยออกมาที่สัญญา และ สังขารค่ะ เพราะเหตุใดค่ะ
     
  2. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ จิต ณ ขณะที่ เป็น "เอกเทศ" ด้วยตัวมันเอง ณ ขณะนั้น "อัตตาจิต" จะยังไม่เกิด (ตรงนี้ใช้ภาษาแบบ "จิตเห็นจิต") มีสภาวะ "เป็นสภาวะรู้"

    +++ เมื่อ ณ ขณะที่จิตมีการทำงาน ณ ขณะนั้น ๆ จิตมีสภาวะ "เป็นสังขารจิต" (กลายเป็น จิตเห็นสังขารตน) ตรงนี้มี "รูป/นาม"

    +++ จะรู้ ตรงนี้ได้ ต้องใช้ "พิจารณาแบบธรรม" เท่านั้นจะ "พิจารณาแบบโลก" ไม่มีทาง

    +++ ตรงนี้เป็น

    +++ แต่ใน "อุเทสวิภังค์" นั้นแม้ว่าจะ "เห็น" สภาวะธรรมอื่น ก็ตาม

    +++ พระพุทธองค์ ท่านให้ "อยู่กับ ฝั่ง ของสภาวะรู้" ไม่ได้ให้ "อยู่กับ ฝั่ง ของสภาวะธรรมอื่น ๆ"

    +++ อยู่กับฝั่งของรู้ = อยู่กับรู้ เท่านั้นเอง นะครับ
     
  3. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ข้อนี้ผมขอเติมลงไปให้เห็นภาพชัดกว่าเดิมนะคับ หลายคนเคยใช้รถคือเป็นทั้งผู้โดยสารและผู้ขับขี่หรือบังคับ กรณีแรกมันง่ายมากแค่นั่งดูเฉยๆ ไม่ต้องคิดอะไร ถ้าเชื่อใจผู้ขับก็ไม่มีอะไรกังวลใจ...ก็แค่นั่งไปเรื่อยๆ แต่ในกรณีที่สอง เป็นผู้ขับ มันมีสภาวะกดดันมากมายใช้สติมากในการประคองเพราะถนนมันมีอยู่แล้วเราไม่ได้สร้างถนนนี้ขึ้นมาเราแค่ประคองไม่ให้ออกนอกทาง มาถึงจุดที่น่าจะสำคัญคือ เมื่อเกิดความเหนื่อยล้า แต่เรามีใจอยากไปให้ถึงเร็วๆ อันนี้เป็นสำคัญ ผลกระทบคือ ภาพที่เห็นไม่ใช่ภาพจริงที่เกิดขึ้น ในชีวิตจริงเรียกหลับใน แต่เมื่อไหร่รู้หรือไหวทันก็ตื่นทันทีแะก็ปลอดภัยเพราะกลับมาพักหรือหยุดพักแต่ถ้าไม่...หลงไปคิดว่ามันคือความจริง..ก็เป็นเหตุให้เกิดความทุกข์เศร้าโศกในชีวิตจริง...ในทางปฏบัติจิตภาวนาผมคิดว่าข้อคิดนี้นำมาใช้ได้คับแต่เป็นข้อขยายเพื่อให้ผู้รู้อธิบายต่อ
     
  4. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ "มหา" สติปัฏฐาน 4 เป็นของ "ผู้ฝึกหัด" ที่พระพุทธเจ้าทรงประทานให้ไว้

    +++ "วิธี" คือ รู้กาย (รูปหยาบ) รู้สึกกาย (นามหยาบ) รู้จิต (รูปละเอียด) รู้สึกจิต (นามละเอียด)

    +++ จะ "ทำ" ตรงไหนก่อนก็ได้ ขึ้นกับว่า ณ ขณะนั้น ๆ อะไรเกิดก่อน ก็ รู้ไว้ก่อน เท่านั้นเอง

    +++ จากนั้น "อาการแยกส่วนของ ฝั่ง" จะตามมาภายหลัง (7วัน-7ปี) ตือ "ฝั่งถูกรู้ กับ ฝั่งของรู้"

    +++ ตรงนี้ "ถ้ากลัวตายภายใน 7 วัน" ก็ต้อง "ปิดมรรค ของการปฏิบัติ ตรงนี้ลง"

    +++ เมื่อ "ขึ้นฝั่งของสภาวะรู้ได้" อาการของ "อุเทสวิภังค์" ก็จะสามารถ "รู้จัก" ตามความเป็นจริง ได้เอง นะครับ
     
  5. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ ตรงนี้ "เป็นอาการ พิจารณาแบบโลก" ผลลัพธ์คือ "ถ้าพอใจ" ก็ safe file แต่ถ้าไม่พอใจก็ "เครื่องแฮ้งค์"

    +++ แต่ถ้า "เป็นอาการ พิจารณาแบบธรรม (รู้-ถูกรู้)" ก็จะ safe file แบบ "เก็บข้อมูล" ไม่มี "พอ/ไม่พอ ใจ" เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย safe แล้วก็ผ่านไป
     
  6. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    ตามประสบการณ์นะครับ ตราบใดเรายังไม่สิ้นสงสัย ใช้ระบบอุทเทศวิภังค์ไม่ได้ครับ เพราะยังรู้ไม่จริง มันจะกลายเป็นส่งเสริมให้เกิดตัวตนประเภทเฉยโง่ครับ แต่ถ้าสิ้นสงสัย เห็นภาวะแห่งสังขาร การหลงสังขาร สังขารทั้งหมดจะเห็นเป็นเรื่องจมโลกจมสมมุติทั้งสิ้น เพราะอวิชชามี สังขารจึงมีฯ ที่ไม่ใช่ลักษณะจำได้หมายรู้ หรือตรึกตรองจนเกิดผลตกผลึกเป็นความรู้ มีสรุปมีคาดการณ์ได้ขึ้นมาอะไรแบบนั้น อันนั้นเป็นสังขารลวง หลงสังขารทั้งหมด เขาจะรู้ว่าการหลงสัญญาสังขารมีโทษเอง

    และพวกที่ยังไม่สิ้นสงสัย ให้สังเกตเลยว่า ยังจะต้องมีวิธีการที่แยบยลในการพิสูจน์ความมีความเป็นอัตตาขึ้นมา ซึ่งถ้าคนที่เขาเห็นจริงๆ สิ้นสงสัยจริงๆ เรื่องพิสูจน์อะไรทำนองนี้เขาไม่ทำกัน เพราะมันทนโท่มากๆ จะมาพิสูจน์อะไรอีก นอกจากจะยังไม่รู้จริงเห็นจริงนั่นล่ะ ก็เป็นธรรมดาที่ความแคลงใจต่อคำสอนพระพุทธเจ้ามันยังจะต้องมี เราไม่ถือสาหาความกันหรอก เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าบอกว่าบรรลุนั่นบรรลุนี่นั่นแหละครับ ถึงจะบอกได้เท่าที่บอก เท่าที่เขาอยากจะได้ยินครับ

    สมมุติว่าถ้าความสิ้นสงสัยมันยังไม่มีจะปฏิบัติอย่างไร มีพระสูตรอยู่นะครับ พึงคบหาสัตตบุรุษผู้รู้จริง ฟังธรรมท่าน แล้วกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย เจริญสติ...อยากทราบรายละเอียดคงต้องค้นกูเกิ้ลเอาครับ ปัญญาอบรมจิตปัญญาอบรมสมาธิ หมั่นสังเกต ขยันหมั่นกระทำให้ต่อเนื่องไป อีกหน่อยเวลาหลง พอสติมาปัญญา (จำได้) มันจะเกิด คือการตระเตรียม เตรียมตัวเตรียมใจเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา เหตุปัจจัยพร้อม มันก็จะรู้จักโลกจริงๆ ที่เขาว่ารู้แบบโลกๆ สมมุติ วิมุติ อัตตา อนัตตา จะเข้าใจเอง เห็นทางเดินต่อ ไม่ต้องมามัวเสียเวลาพิสูจน์อะไรอีกเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2018
  7. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ เติมอีกนิดหน่อย คือ "ไม่พ้น นิสัย" และ "เป็นธรรมชาติของขันธ์" เท่านั้นเอง

    +++ อเสวนาจะพาลานัง บัณฑิตตานังจะเสวนา เท่านั้นพอ นะครับ
     
  8. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ตั้งแต่อ่านมาทั้งหมดรอบนี้ได้ความรู้มากกว่าความเละจริงๆ คับ ตามที่ลุงคนไทบ้านกล่าวไว้จริงเป็นอย่างยิ่ง...ที่เหลือก็ทำเนืองๆ เพิ่มขึ้นตามประสงค์ ผมก็เคยสงสัยมากนะตอนช่วงแรกๆ ตอนเล็กๆเด็กๆ เอะอะอะไรก็ให้ฝึกนั่งสมาธิ ยังเคยคิดวิปลาสกับหลวงปู่หลวงพ่อพระอาจารย์เลยนั่งจนจะทะลุสวรรค์นรกอยู่แล้ว...นั่งไปทำไมโตมาเริ่มไม่แปลกแล้วละว่าทำไมตอนเด็กๆท่านไม่สอน ธรรมแบบนี้ สรุปให้ตัวเองว่าเพราะจิตใจยังไม่พร้อมจะรับรู้ จึงยังข้อสงสัย ปัจจุบันก็สงสัยแต่น้อยกว่าเมื่อก่อนมาก...ทีแรกแวปแรกอ่านคำอธิบายของหลายท่านก็นึกในใจว่าเหลือเชื่อ...เป็นไปได้จริงๆ...แต่นั่นแหละถ้าสนใจจริงๆ จะเห็นและทราบเองว่า...มันเป็นไปได้จริงๆ ไม่ใช่เรื่องงมงายหรือละเมอเพ้อพก...ที่นี่มีผลของการปฏิบัติให้เห็นตลอด...และถ้าใส่ใจจริงๆ จะค่อยๆรู้ไปทีละนิด...นั่นคือวัตถุประสงค์จริงของการปฏิบัติ..พิจารณาก่อนก็เป็นฌานหรือเป็นฌานก่อนพิจารณาก็ลงที่จุดหมายเดียวกัน...พระศาสดาเราของแท้แน่นอนจริง...ขออนุโมทนาสาธุกับทุกๆท่านนะคับ
     
  9. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    รับทราบครับไม่ประมาทในธรรมครับ รับฟังทุกๆท่านที่กล่าวเอาไปพิจารณาทั้งสิ้นครับ
     
  10. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    ก็ถูกแล้วนี่ครับ หลายคนอ่านพระสูตรแล้วไม่เข้าใจ ธรรมชั้นลึกนี่ไปคิดไปตัดสินเอาเองไม่ได้ การที่จะกล่าวว่าบางอย่าง เป็นเรื่อง อฐานะที่จะไปรู้ไปเห็นตาม ด้วยการฟัง การอ่าน แล้วมันผิดตรงไหน?


    กลายเป็นว่ายกคลิปความยาวสั้นๆมาคลิปเดียว กลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต
    บ่องตงว่าเซ็งเหมือนกันนะ ที่การคุยธรรมมะ มันต้องบังคับให้คุยกันด้วย Text เท่านั้น
    อุตสาห์บอกแล้วว่า ให้ดูที่นาทีเท่านั้นเท่านี้ พูดง่ายๆก็คือให้ข้ามในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้อง
    หนังมันก็สื่อออกมาในมุมของมัน
    แต่ในมุมมองผม อาการคนลักษณะนี้ มันสามารถเอามาอธิบายสภาวะบางอย่างได้
    หากไม่อคติ จนเกินไปนัก ก็จะเห็นปรัชญา แฝงอยู่พอสมควร ในส่วนที่ชี้ให้ดู
    การสื่อด้วยภาพ หากภาพมันเหมาะสม คนจะเข้าใจได้ง่ายกว่าอ่านด้วย Text เป็นร้อยหน้า
    ดังนั้นจึงคิดว่า มันเหมาะ ที่จะอธิบายให้เข้าใจกัน
    กลับกลายมาเป็นดราม่า
    ทั้งที่ใช้ Text เขียนเกริ่นนำ เพื่อให้ โอปนยิโก เดินจิตตามมาก่อนแล้ว
    พอเอาคลิปมาแปะ "เสริม"
    ดราม่าเกิดเลย

    จะศึกษาธรรมมะ แล้วรังเกียจเทคโนโลยีสมัยใหม่
    จึงบอกว่าให้ไป"อยู่ป่า"
    มันอนุรักษ์นิยม สุดโต่งไปนะ

    ดูบรบทผู้นำมาเผยแพร่ด้วย ว่าเป็นอรหันต์ หรือแค่ ฆราวาส
    นะครับ



    ก็ถึงบอกไง ถ้ายังคุยธรรมมะ ผ่านการจิ้มแอนดรอย จิ้มแอปเปิ้ล ส้ม ทุเรียน
    อย่าไปเที่ยวสอนคนอื่น ว่าให้ปิดจอ แล้วไปปฏิบัติ
    เอะอะ หลับตา แล้วนั่งลง
    จะให้มันทำอยู่อย่างนั้น 24 ชมหรือยังไง หือ?

    ลืมตาขึ้นมาก็ซึมกระทือ ไม่หือไม่อือ
    เรื่องทางโลกไม่รู้จัก ในหัวตรูมีแต่ธรรมะอย่างเดียว
    ใครจะมาพูดวัตถุทางโลกให้ได้ยิน
    อร้ายยยยย อย่ามาพูด
    ฉันไม่รู้จัก ฉันตัดสัญญา วัตถุทางโลกออกจากหัวแล้ว
    ในสมอง มีแต่ เสนาสนะ และพระสูตร

    มองคู่กรณีก่อน ว่าเป็นพระธุดงค์ หรือฆราวาส

    ก่อนจะมาพูดสวยๆ หล่อๆ ประดุจว่าตนเชี่ยวชาญการปฏิบัติ
    นะครับ

    เมือก่อนก็เคยทำตัวไม่อยากสนใจนะครับ
    แต่มันเคยได้บทเรียน คนบางคนมันไม่อาจเฉยด้วยได้
    มันก็ต้อง"ด่า"กลับไปบ้าง
    ทำตัวเป็นพจมาน แห่งบ้านทรายทอง มันคงไม่ได้
    มันได้ใจ จิกกัด โขกสับ เราใหญ่

    ผมไม่ใช่พระอนาคามี หรือ อรหันต์ ที่กิเลสด้านโทสะ หายเกลี้ยง
    ยังเป็นแค่ ยังต้องเรียนเพื่อที่จะละ
    อยู่ในระหว่างกำลังหัด ที่จะเรียนรู้มัน เพื่อประหารมัน
    ดังนั้น บางครั้ง มันก็ต้องแหกกฏบ้าง

    เพื่อรักษาความสงบสุขส่วนตน ในระยะยาว



    เอาเป็นว่าผมชี้แจงให้ฟังเท่านี้


    หลังจากนี้ก็คงเข้าใจกันดี และรู้จักความคิด มุมมอง ตัวตนของผมไปพอสมควรแล้ว
    หากกล่าวล่วงเกิน อะไรแรงๆก็ต้องขอโทษ เช่นกัน
    เพราะผมก็ต้อง Defense ความสงบสุขส่วนตัวเช่นกัน

    ขอโทษอีกรอบ และเช่นกัน

    นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2018
  11. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ขอบคุณที่ชมค่ะ พบธรรมให้ศึกษาธรรม พบโลกศึกษาโลก มัฌชิมาปฏิปทา มองกรรม เห็นธรรมค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2018
  12. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
    หนังเรื่อง แมตทริก สอนถึงการบรรลุธรรมแบบ มหายาน
    หากพระอริยะเจ้าดู ก็จะรู้ว่า นีมันเรื่องของ ผู้ตื่น หรือ
    ผู้ที่บรรลุธรรม นั่นเอง ตามความหมายของ อนัตตลักขณสูตร
    หากใครดูแล้ว ไม่เข้าใจ แสดงว่า ศึกษาเรื่องหลักอนัตตา น้อยเกินไป
    ทำให้ไม่สามารถเข้าใจได้ ถ้าเป็นสายท่านพุทธทาส
    จะดูได้เข้าใจมากกว่า ดูออกว่า นี่เป็นเรื่องของนายนีโอ
    ที่ตื่นขึ้นมาจากการถูกหลอกลวงจาก วัฏฏะ หรือ วัฏจักร
    หรือจากสิ่งที่ฝ่ายมารคอย ล่อลวง หรือ คอยหลอกล่อ
    ให้หลงยึดติด ในสิ่งที่ถูกสมมุติขึ้นมา
     
  13. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ขอตอบตามที่เข้าใจนะคับ บางทีถ้าเราคุยกันเรื่องนกแล้วไปออกเรื่องแมว คนฟังก็ฟังอยู่อยากรู้ว่านกคืออะไร แล้วผู้ตอบบอกว่าแมวก็เหมือนนก ผู้ฟังที่เขาเคยเห็นนกและเคยเห็นแมว เขาจะไม่สงสัยผมว่ามันดูแปลกวิสัย แต่ถ้าพูดเอาอะไรก็ตามเพื่อแสดงให้รู้ว่ารู้ว่านกหรือแมวก็เป็นสัตว์ชนิดนึง มันก็แค่สัตว์ชนิดนึง ผมว่าน่าจะยอมรับได้มากกว่าคับ แต่ที่ไม่เข้าใจเพราะเรากำลังพูดถึงนกแต่ยกตัวอย่างแมว ใครอ่านเขาก็รู้ แต่เขาไม่พูดเพราะเขารู้ว่ากำลังพูดถึงนกไม่ใช่แมวคับ เขาและผมก็พอเข้าใจแล้วในเรื่องนี้
     
  14. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    อีกเรื่องที่ไม่อยากให้ค้างคาใจ...ทีผมฟังพี่ธรรมชาติไม่ใช่เพราะผมไม่มีอะไรเทียบแต่ผมไม่รู้เหตุผลว่าแล้วทำไมต้องไปเทียบพี่เขาผมยอมรับในแง่อรรถในแง่ธรรมของพี่เขาส่วนพี่เขาจะเป็นอะไรสุดแล้วแต่จะบัญญัติแต่สิ่งดีงามที่ทราบคือปัจจัยที่พี่เขามีค่อนข้างแน่นอน พี่เขาต้องดูแลบุพการีที่ป่วยด้วยชราภาพเป็นไปตามสังขาร...ผมแอบซึ้งใจแต่ไม่แอบแล้วละ พร้อมด้วยกตัญญูเวทิตา..ในสายตาผม..ปัจจัยสร้างธรรมสมบูรณ์ยิ่ง...ที่เขาทำก็คงเป็นเหตุเป็นผลที่ดี...เป็นอภิชาติบุตรเพราะเห็นและประคบประหงมทั่งตนและมารดาด้วยธรรมที่เพียรสั่งสม...ผมยอมรับว่าซึ้งใจจริงๆและหาได้ยาก...ไม่ใช่เขาทำแบบลอยๆ...เขาเคยพบเคยเห็นพระอริยะเจ้าและกระทำตามนั้นด้วยเหตุปัจจัยที่เกิดขึนจริงๆ...และที่สำคัญเขาไม่ได้ถวิลหาพวกพ้องหรือลูกศิษย์อะไรแต่อย่างใด...เขาตอบตามที่เขารู้และสิ่งที่เขารู้คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน...ผมจึงเห็นว่าน่าจะเห็นประโยชน์จริงที่เขาเผื่อแผ่เวลาอันเป็นกิจสำคัญคือดูแลผู้มีพระคุณมาพูดคุยกับเรา...ไม่ว่าเขาจะเป็นอะไรใครจะเชื่ออย่างไร...ผมไม่ใส่ใจผมนับถือในการกระทำและการกล่าวธรรม
     
  15. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ลิ้นของ. สัตว์ ที่ ทักคนผิด มีฉนักติดหลัง


    สามารถสร้างสิ่งอัสจรรย์ เก่งเค้นหนี้ เลียทุเรียนจนเปนแตงโม
     
  16. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    555 ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ตอนแรกใช้ความรู้สึกมากเกินไปเชื่อความรู้สึก...แต่ยอมรับว่าผิดจริงเพราะความรู้สึกมันเชื่อไม่ได้แต่แรก...อัศจรรย์ไหม...ก็แล้วแต่จะคิด...เลียทุเรียนจนเป็นแตงโม...555...ช่างสรรหาและเปรียบเปรยได้ดีคับ...แต่ที่จริงฟังแล้วเริ่มเข้าหูเลยชื่นชม...น่าเก็บไว้...ไม่ใช่ชะนักอะไรหรอกเพราะความรู้สึกมันเชื่อไม่ได้จริงๆ...เหมือนกันกับบอกว่าเมื่อคืนฝันเห็นเลขนี้ของจริงกับไปคนละเรื่อง...แสดงว่ามันเชื่อไม่ได้จริงๆเลยความรู้สึก...พี่ก็ทำบ้างสิคับ...จะได้มีคนชื่นชม...ไม่ใช่มีบริวารหรือลิ่วล้อ...ถ้าพี่ทำผมก็ชื่นชมเหมือนกันนั่นแหละคับ
     
  17. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    อีกอย่างนะพี่นิวรณ์...ในชีวิตจริงผมก็มีหน้าที่สอนคนจริงๆ สอนวิชาความรู้และหนทางจริงๆ กับนักเรียนที่ดีหลากหลายแบบถึงไม่ดีก็ไม่ใช่เพราะเขาไม่ดี...ถ้าตัวผมเองกลัวที่จะยอมรับผิดเมื่อผิดพลาดหรือกลัวว่าคนอื่นจะว่าเราโง่..แบบนี้ผมคงไม่มีค่าหรือสามารถทำให้คนเป็นคนดีีและพึ่งพาตนเองได้...ธรรมข้อแรกคือ ผิดไม่ได้หมายความว่าโง่..แต่ผิดแล้วถ้ารู้จะแก้ไขได้..และถ้าเราไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก...นี่แหละน่าเป็นห่วง...ถ้าถึงขั้นนั้น...ผมต้องเลิกสอนหนังสือแล้วไปทำอย่างอื่นดีกว่า...เพราะว่าเรื่องแบบนั้นมันไม่ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นเลย...นอกจากความรู้เพื่อทำตามฝันแล้วความดีจะต้องมีติดตัวไว้บ้าง...และถ้าทำจริงใช้ธรรมะจริงๆ สอนหนังสือสอนคน...อะไรดีดีน่าจะปรากฏไหมอะ...ผมก็อาศัยความรู้สึกอีกนั่นแหละ...
     
  18. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    มะสยะกะรุ เฮงเคงนี่ เปน kuru

    มิน่าละ ถึงได้พูดอะไร ทำตัวเปนคนกลาง
    ตะหลอก ได้มะเลิก

    หัด กวัดแกว่งซ้ายที ขวาที อย่างนี้
    ความเปงจี ค่อย แสดงออกมาให้เหนชักๆ

    ดีกว่า ทำเปงพูด เปงกาง

    พุกทำมะ ต้องเอาตัวจีมา อย่าใส่เสื้อกัง
    ฝนสีรุ้ง จีฮับ คุงลุงขัง
     
  19. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    ถ้านายนีโอเห็นธรรมจริงนะ เขาจะไม่แสดงอาการแบบนั้น ยกมือปัดป้องเป็นพัลวัน แถมหยิบเม็ดกระสุนมาเบิ่ง อันนี้มันยังเป็นอาการจมหลงสังขารอยู่ แต่ไม่เข้าใจ นึกว่า kruรู้แล้วๆๆ รู้แล้วอะไร ! ปัดป้องเหมือนคนเสียสติ ถ้ารู้จริงสิ่งที่จะระวัง จะเป็นสติคอยตักเตือน ไม่ให้ไหลหลงไปตามความปรุงแต่งมายาสมมุติ ตามกระแสโลกนั่นต่างหาก แล้วลองนึกดู คนที่รู้ความหลงปรุงแต่ง สังขารไปเอง มันเป็นทุกข์เป็นโทษอันเกิดมาจากการกระทำของตนเอง เขายังจะยกมือขึ้นมาปัดป้องความคิดตนเองเหมือนคนวิปลาสอย่างนั้นอีกไหม ก็คือนีโอยังรู้ไม่จริง อันนี้ให้เป็นบุคลาธิษฐานไป เดี๋ยวจะเลี่ยงบาลีว่าจะเอาอะไรกับนิยายไปอีก
     
  20. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    964
    ค่าพลัง:
    +1,221
    ถ้านีโอเป็นตัวแทนของสติปัญญาอัตโนมัติ(ย้ำอัตโนมัติ"ม่ใช่มหาสติมหาปัญญา)
    เอเจนย์ที่เห็นมีสามคนเป็นตัวแทนไฟทั้งสามกองล่ะครับ
    พอจะไหวมั้ย
    แต่หนังมันก็ต้องทำมาให้ความบันเทิงด้วย
    ถ้าจะเอาธรรมล้วนก็อย่าไปดู
    บำเพ็ญเพียรภาวนาเลยดีกว่าครับ
    แต่อย่างว่านิ้วแต่ละนิ้วยังไม่เท่ากันเลย
    นับประสาอะไรกับคน
     

แชร์หน้านี้

Loading...