อาจารย์ชุม ไชยคีรี (พระรอด พิธีเสด็จกลับ น.6 , ขุนแผน น.7)

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย Supakiti, 16 สิงหาคม 2013.

  1. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รับทราบ ขอบคุณมากครับ
     
  2. Maestro

    Maestro เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    676
    ค่าพลัง:
    +2,411
    ขอจองรายการนี้ด้วยครับ
     
  3. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รับทราบการจอง ขอบคุณมากครับ
     
  4. Rungnirun

    Rungnirun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +535
    ขอจองรายดารนี้ครับ
     
  5. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รับทราบการจอง ขอบคุณมากครับ
     
  6. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 80

    แหวนมหานิยม มหาเสน่ห์ รุ่นเงียบเสียง อ.ชุม ไชยคีรี เนื้อทองขาว ปี 2524 มี 2 ขนาด คือขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.6 ซม. และ 1.8 ซม.

    ขออนุญาติใช้รูปเดิมนะครับ เพราะแหวนสภาพสวยกริ๊ปเหมือนกันหมด


    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2013
  7. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 82

    ชินราชท่าเรือ อาจารย์ชุม ไชยคีรี พิมพ์กรรรมการ ปี 2497

    การจัดสร้าง "พระชินราชท่าเรือ" พ.ศ. 2497 ได้จัดสร้างขึ้นที่ "วัดพระบรมธาตุ" จ.นครศรีธรรมราช และเป็นการจัดสร้างวัตถุมงคลที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรมากที่สุด ณ. เวลาในขณะนั้นเลยก็ว่าได้ และมีบันทึกยืนยันเป็นหลักฐานไว้เป็นหนังสือ อย่างละเอียด กล่าวคือ " อาจารย์ชุม ไชยคีรี " ได้รับคำบัญชาจากนิมิตรหลวงพ่อคง วัดตาล (ผู้เป็น "พระอาจารย์ของขุนแผน" เมืองสุพรรณฯ) ให้รวบรวมบรรดาพระกรุ ที่เป็นสุดยอดของพระเครื่องจากทั่วประเทศไทย มาดำเนินการสร้าง

    มวลสารที่รวบรวมมามี พระกรุสุดยอดพระเครื่องจากทั่วประเทศ มาดำเนินการสร้างพระนี้ จากการรวบรวมได้พระกรุมากว่า 108 กรุ ว่านยาอีก 108 ชนิด รวมทั้งผงวิเศษ อาทิเช่น พระกรุนางตรา-ท่าเรือ, กรุท้าวโคตร, สมเด็จวัดระฆัง, สมเด็จบางขุนพรหม, พระผงสุพรรณ, ผงดำผงแดงหุ่นพยนต์, หลวงพ่อเกตุ วัดขวิด, ขุนแผนวัดพระรูปและวัดบ้านกร่าง, พระนางพญาวัดนางพญาและวัดต้นจันทร์ สุพรรณบุรี, พระกรุต่าง ๆ ในกำแพงเพชร, พระกรุต่าง ๆ ในสุโขทัย, หูยานลพบุรี, ท่ากระดานหูไห กาญจนบุรี, พระกรุวัดท่ามะปราง, พระวัดชินราช พิษณุโลก, พระหลวงพ่อจุก, พระจุฬามณี พิษณุโลก, พระรอด พระคง พระเปิม-ลำพูน, มหาว่านวัดเขาอ้อ-พัทลุง, และพระกรุศรีวิชัยฯลฯ

    การประกอบพิธีพุทธาภิเษก จัดให้มีขึ้นตลอดพรรษา ณ วิหารวัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช ได้ฤกษ์พิมพ์องค์พระในวันที่ 2 สิงหาคม 2497 ครบ 84,000 องค์ วันที่ 1 กันยายน 2497

    ทำพิธีปลุกเสกวันที่ 14 กันยายน 2497 ออกพิธีวันที่ 12 ตุลาคม 2497 ซึ่งเป็นวันออกพรรษา

    โดยพิธีนี้ได้นิมนต์พระเถราจารย์ ผู้เรืองเวทวิทยาคม 108 รูป มาร่วมประกอบพิธี มีท่านเจ้าคุณพระภัทรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ สำหรับพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกขอยกมาเป็นบางส่วน ได้แก่ หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน , หลวงพ่อโอภาสี บางมด ธนบุรี, หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน, หลวงพ่อเมือง วัดท่าพญา, หลวงพ่อคง วัดคลองน้อย, หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำ ปากพนัง, หลวงพ่อแดง วัดโท ท่าศาลา, หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง ร่อนพิบูลย์, หลวงพ่อแดง วัดเขาหลัก ทุ่งใหญ่, หลวงพ่อตุด วัดทุ่งกง กระบี่, หลวงพ่อวัน มะนะโส วัดประสิทธิชัย, หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด ตรัง, หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน, หลวงพ่อดิษฐ์ วัดปากสระ. หลวงพ่อเจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก, หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง ตะวันออก พัทลุง, หลวงพ่อพัว วัดเขาราหู (วัดบางเดือน). หลวงพ่อแดง วัดคลองไทร, หลวงพ่อวิรัช วัดกะเปา คีรีรัฐนิคม สุราษฎร์ธานี, หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน, หลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย, หลวงพ่อจีด วัดถ้ำเขาพลู, หลวงพ่อรุ่ง วัดบางแหวน ชุมพร, หลวงพ่อท้วม วัดเขาโบสถ์ บางสะพาน, หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์, หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม ฯลฯ อาจารย์ที่เป็นฆราวาสได้แก่ อ.ชุม ไชยคีรี, อ.นำ แก้วจันทร์, พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ ราชเดช

    การปลุกเสกเน้นเฉพาะทาง แบ่งออกเป็นช่วง ช่วงละ 7 วัน เช่น ปลุกเสกเน้นด้านคงกระพันชาตรี 7 วัน มหาอุตม์ 7 วัน ป้องกันสัตว์ร้ายและโจรร้าย 7 วัน ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและภูตผีปีศาจ 7 วัน เมตตามหานิยม 7 วัน เนรมิตกายกำราบศัตรูให้เห็นเราคนเดียวเป็นหลายคน ดังนี้เป็นต้นพุทธคุณจึงแรงมากๆ และมีประสบการณ์สูงมาก

    จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า หรือ ผู้ที่มีใจใฝ่ทางด้านการเสี่ยงโชคลาภทุกชนิด ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกประเภท มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือทางอ้อม พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง

    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2013
  8. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 83

    ตะกรุดมหาอุตม์พิชัยสงคราม ชนิด 1 ดอก ปี 2521 สภาพยังไม่ผ่านการใช้ครับ

    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2013
  9. hemicuda

    hemicuda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,357
    ค่าพลัง:
    +2,246
    ขอจองซักสามวันแล้วโอนได้หรือเปล่าครับ ถ้าได้อีกสามวันผมโอนให้ครับ
     
  10. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รับทราบการจองครับ โอนเงินได้ตามสะดวกครับ
     
  11. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 84

    ตะกรุดหัวใจมหาบุรุษ 8 จำพวก อ.ชุม ไชยคีรี ปี 2524

    พุทธคุณ เป็นมหาเสน่ห์เมตตามหานิยม ยาจกยากจนจะกลายเป็นเศรษฐี เศรษฐีจะกลายเป็นมหาเศรษฐี และจักรักษาทรัพย์ไว้ได้นาน ทรัพย์สินเงินทอง เพิ่มพูน คนโชคร้ายกลับกลายเป็นคนโชคดี

    คนไม่มีผัว จะมีผัว คนไม่มีเมีย จะมีเมีย คนไม่มีลูก จะมีลูก ผัวเมียรังเกียจกัน จะคืนดีต่อกัน คนไม่มีสติปัญญา จะมีสติปัญญา คนไม่มียศ จะมียศ คนไม่มีข้าทาสบริวาร จะมีข้าทาสบริวาร คนไม่เป็นที่รัก จะเป็นที่รัก จะบังเกิดตบะเดชาปรากฏไปทั่วทุกทิศ บ้านเมือง ไร่นา เรือกสวน บริษัท ห้างร้าน วัดวาอาราม ที่เสื่อมโทรม เอาตะกรุดไปฝังไว้ หรือเอาติดไว้ที่ป้าย บริษัท ห้างร้าน จะเจริญ รุ่งเรือง ประกอบการพานิชต่าง ๆ จะมีโภคทรัพย์หลั่งไหลมาสู่มิได้ขาดหายแล

    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2013
  12. hemicuda

    hemicuda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,357
    ค่าพลัง:
    +2,246
    โอนให้แล้วนะครับ ตอนเที่ยงครับ 2850.00 บาท ที่อยู่ บริษัท อันดามัน โกลด์ แอนด์ กรีน จำกัด 5/49 อาคารเอทีพลาซ่า ชั้น 2 ห้อง 2/1 ถ.ศักดิเดช ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000
    ขอบคุณมากครับ
     
  13. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    โชว์ครับ



    หัวแหวนเล็กไหล อาจารย์ชุม ไชยคีรี

    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2013
  14. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 85

    เหรียญพระคันธาราษฎร์ วัดเขาปฐวี อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ปี2516 เนื้อทองแดงรมดํา สภาพสวย ไม่ผ่านการใช้ ประสบการณ์ดีเยี่ยม

    โดยเมื่อปี พ.ศ.2516 ตรงกับวันเสาร์ที่ 5 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 โบราณถือว่าเป็นวันฤกษ์แข็ง เหมาะสำหรับการประกอบพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง ในครั้งนั้น นายอำเภอทัพทัน ได้มาขอให้หลวงพ่อโฉม เจ้าอาวาสวัดเขาปฐวี ประกอบพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลในวันดังกล่าว โดยเชิญนายไพฑูรย์ เก่งสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ในสมัยนั้น เป็นประธานในพิธี

    พระคณาจารย์ที่ร่วมนั่งปรกปลุกเสก อาทิ พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา, พระอาจารย์ปาน วัดเขาอ้อ, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน, อาจารย์ขาว วัดเขาอ้อ และอีกมากมาย ประกอบพิธีปลุกเสกในอุโบสถวัดเขาปฐวี ภายในถ้ำเขาปฐวี พิธีเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. ไปจนถึงเวลา 06.00 น. ของวันรุ่งขึ้น

    วัตถุมงคลรุ่นนี้ เรียกว่า "พระคันธารราษฎร์" เป็นพระศิลปะแบบอินเดีย จีวรริ้ว ยกพระหัตถ์ประทานพร ทำจากเนื้อทองเหลือง รมดำ มี 2 แบบ เป็นรูปลอยองค์มีกริ่ง สร้าง 8,000 องค์ และเป็นเหรียญรูปไข่ 30,000 เหรียญ สำหรับเหรียญพระคันธารราษฎร์ วัดเขาปฐวี ปี 2516 ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ เนื้อทองวรรณะเหลืองรมดำ ขนาด 1.5x2.6 เซนติเมตร ด้านหน้าเหรียญ มีขอบรอบวง ยกซุ้มห่วง มีพระคันธารราษฎร์ ยกพระหัตถ์ประทานพร นั่งอยู่กลางเหรียญ ด้านซ้ายมือขององค์พระ มีพระอาทิตย์กำลังส่องแสงมีเมฆลอยอยู่ด้านข้าง ด้านหลังเหรียญ มีขอบเพียงเล็กน้อย กลางเหรียญเป็นยันต์ห้า มีอักขระขอม "นะโม พุท ธายะ" กำกับด้วย อุณาโลม 3 ยอด ด้านล่างของยันต์ มีอักขระขอม "นะ อุ อะ มะ" อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ล่างสุดมีตัวหนังสือเขียนว่า "พุทธาภิเศก วัดเขาปฐวี ๒๕๑๖"

    สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ก็คือการปลุกเสกครั้งแรกเป็นเวลาหลายวันเลยครับ ปลุกเสกครบรอบด้าน แต่เนื่องจากมีวัยรุ่นเป็นจำนวนมาก จะเข้ามาลองของเพราะในสมัยนั้นสายเขาอ้อเป็นที่เลื่องลือด้านคงกระพันชาตรีเป็นอย่างมาก อาจารย์ชุมได้ยินอย่างนั้น จึงได้ขอให้พระอาจารย์ทุก ๆ องค์ที่อยู่ในพิธีนั้น ปลุกเสกอัดพลังใหม่ เนื่องจากว่าถ้าเกิดมีการลองขึ้นมา แล้วมีการยิงก็ดี การฟันก็ดี เกิดเข้าขึ้นมา ชื่อเสียงสายเขาอ้อก็จะไม่เป็นที่เชื่อถือ ดังนั้นอาจารย์ชุมจึงขอให้มีการปลุกเสกที่หนักไปด้านคงกระพันชาตรี และ มหาอุดม์ เป็นเลิศอย่างเดียว ได้ปลุกเสกใหม่ตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงหกโมงเช้าในวันต่อมา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่มีงาน ผลการทดสอบของวัยรุ่นในอุทัยธานีเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะฟันก็ดี จะยิงก็ดี ล้วนทำอะไรกับเหรียญหรือกับผู้ที่มีเหรียญติดตัวไม่ได้ และที่สำคัญตอนแจกเหรียญอาจารย์ชุมได้ประกาศว่า ใครอยากได้เหรียญนี้ ต้องให้ท่านเอามีดมาฟันหนึ่งที จึงจะได้รับแจกเหรียญนี้ไป นับว่าเป็นเหรียญที่ศักดิ์สิทธิ์มากเหรียญนึง และเป็นที่ต้องการของวัยรุ่นมาก ในยุคสมัยนั้นมีเหรียญนี้ติดตัวนับว่าไม่อายใครเลยครับ ป้องกันตัวได้เป็นอย่างดี อีกอย่างถือเป็นเหรียญที่เสกโดยสายเขาอ้อโดยตรง ซึ่งปกติสายเขาอ้อในยุคนั้นจะไม่ไปออกนอกพื้นที่ เพื่อไปปลุกเสกเป็นอันขาด นับว่าเป็นเหรียญแรก ๆ ที่ออกนอกพื้นที่เพื่อปลุกเสกครับ


    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2013
  15. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 86

    พระยอดขุนพล เนื้อผงผสมว่าน หลังเรียบ อาจารย์นำ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ปี 2510

    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2013
  16. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 90

    พระกลีบบัวเทพนิมิตร พิมพ์พิเศษ แม่เหล็กดูดติด ปี 2506

    พระเทพนิมิต "พิธีเสด็จกลับ" ปี 2506 พิมพ์กลีบบัวสาม เป็นพระที่นำพิมพ์พระเทพนิมิตปี 2496 ของ อาจารย์ชุม ไชยคีรี มาตกแต่งพิมพ์ใหม่ให้สวยงามกว่าเดิม และได้กดพระพิมพ์ที่ได้ตกแต่งใหม่นี้ในพิธีปลุกเสก ปี 2506 ขึ้นมาใหม่ด้วย จึงเกิดความสับสนเข้าใจผิดในหมู่คณะศิษย์ยุคหลังของ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ว่า เป็นพระนอกพิธี และต่างว่า เป็นการนำพระปี 2496 เข้าไปปนกับพระในพิธี ปี 2506 หรือไม่ก็ว่า เป็นพระเทพนิมิตปลอมไปเลยก็มี เพราะเนื้อหาผิดพิมพ์ ปี 2496 แต่ในความเป็นจริงแล้ว พระเทพนิมิต "พิธีเสด็จกลับ" ปี 2506 พิมพ์กลีบบัวสามเหลี่ยมนี้ เป็นพระส่วนหนึ่งที่ได้จัดสร้างขึ้นมาใหม่ในพิธี พ.ศ. 2506 และอาจารย์ชุม ได้นำออกแจกจ่ายแก่คณะศิษย์รุ่นแรกๆ ที่มาช่วยงานในพิธี พ.ศ. 2506 ในยุคนั้นด้วยตัวของท่านเอง และบางส่วนได้เก็บบรรจุกรุไว้ที่วัดสารอดด้วย)

    พระเทพนิมิต "พิธีเสด็จกลับ" ปี 2506 พิมพ์กลีบบัวสามเหลี่ยมนี้ ได้มีพิธีมหาพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่ และเต็มรูปแบบพิธีมากที่สุดเลยก็ว่าได้
    (หาพิธีใดๆ เทียบเสมอเหมือนไม่ได้อีกแล้วจนกระทั่งถึงปัจจุบัน)

    พิธีมหาพุทธาภิเษก และบรรจุคุณ บรรจุฤทธินี้ เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2506 เวลา 24.00 น. โดยได้นมัสการพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณ ทรงฤทธิ์ สายเขาอ้อ ชุดละ 9 ท่าน จำนวน 9 ชุด สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตลอดพิธี และได้อัญเชิญดวงวิญญาณของ "ขุนแผน" เข้าประทับทรงในร่างของ "อาจารย์ชุม" พร้อมด้วยวิญญาณของเหล่าเทพยดาต่างๆ ใน 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน ได้เดินทางมาเข้าร่วม เพื่อบรรจุคุณ บรรจุฤทธิ์ ตลอดพิธีด้วย

    โดยแบ่งการบรรจุคุณ บรรจุฤทธิ์ ออกเป็น 5 ระยะ ดังนี้ กล่าวคือ
    ระยะที่ 1

    ก. เสกพระคาถาตั้งธาตุ เสกพระคาถาบรรจุธาตุ เสกพระคาถาแต่งธาตุ เสกพระคาถาหนุนธาตุ เสกพระคาถาจุติจากสวรรค์ชั้นดุสิตลงสู่พระครรภ์พระพุทธมารดา เสกพระคาถาประสูติจากพระครรภ์มารดา เสกพระคาถาเสด็จย่าง 7 ก้าว เสกพระคาถาอาการ 32 เสกพระคาถาบำเพ็ญพระบารมีจนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า เป็นเวลา 3 วัน

    ข. เสกพระคาถาธาตุ 4 เสกพระคาถาอาการ 32 เสกพระคาถาอักขระ 16 เสกพระคาถาหัวใจ 108 หัวใจ อย่างละ 108 จบ เป็นเวลา 3 วัน

    ค. เสกพระคาถาชุดคงกระพัน อย่างละ 108 จบ เป็นเวลา 5 วัน

    ระยะที่ 2

    เสกพระคาถากันปืน เสกพระคาถามหาอุด เสกพระคาถากันวัตถุระเบิด เสกพระคาถาห้ามดิน น้ำ ลม ไฟ เสกพระคาถาผูก เสกพระคาถากัน เป็นเวลา 5 วัน

    ระยะที่ 3

    เสกพระคาถาแคล้วคลาด เสกพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ ไปกลับ เสกพระคาถาแปลงรูปหุ่นพยนต์ เสกพระคาถากำแพงแก้วเพชรเหล็กเจ็ดชั้น เสกพระคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า อย่างละ 108 จบ เป็นเวลา 5 วัน

    ระยะที่ 4

    เสกพระคาถามหานิยม เสกพระคาถามหาเสน่ห์ เสกพระคาถามหาระรวย เสกพระคาถามหาลาภ เสกพระคาถาเลิกรบ เลิกเบียดเบียน อย่างละ 108 จบ เป็นเวลา 5 วัน

    ระยะที่ 5

    เสกพระคาถารวม เสกพระคาถาผูก อย่างละ 108 จบ เป็นเวลา 4 วัน
    รวมเป็นเวลาในการมหาพุทธาภิเษกและปลุกเสกพระคาถาต่างๆ 30 วัน วันละ 3 เวลา คือ 5.00 น. 9.00 น. 21.00 น.

    ในการปลุกเสกพระคาถานี้ พระคณาจารย์ที่เป็นพระภิกษุต้องแสดงอาบัติทุกครั้งแล้วจึงเข้าปริมณฑลพิธี
    อาจารย์ที่เป็นฆราวาสต้องนุ่งขาวห่มขาว สมาทานศีลห้า โดยถือพรหมจรรย์เป็นวัตร อยู่ประจำในบริเวณพิธี และบริเวณวัดตลอดพิธี

    เมื่อเสกพระคาถาต่างๆ จบลงในระยะหนึ่งๆ ก็จะทำการพิสูจน์ทดลองคุณ ทดลองฤทธิ์ (ยิง-ฟัน-แทง-เชือด-เฉือน-กรีด-สับ) ต่อหน้าประชาชนผู้ที่สนใจชม
    เป็นการอบรมศึกษาวิธีทำจิตให้เข้าถึงคุณพระไปในตัว
    การทดลองนี้เป็นการชี้ให้เห็นว่าคุณพระพุทธมีอยู่จริง แม้ท่านจะเสด็จเข้าสู่นิพพานไปแล้วก็ตาม
    ถ้าผู้ใดเข้าถึงพระพุทธคุณ เอาพระพุทธคุณเป็นที่พึ่ง พระพุทธคุณก็สามารถเป็นที่พึ่งที่ระลึกและกำจัดภัยแก่ผู้นั้นได้จริง

    หลังจากทำการปลุกเสกพระคาถาบรรจุคุณ บรรจุฤทธิ์ ระยะต่างๆ 5 ระยะแล้ว ก็เริ่มทำ "พิธีเสด็จกลับ" โดยพระรุ่นนี้ (ปี 2506)กระทำพิธีเสด็จกลับถึง 2 ครั้ง 2 หนด้วยกัน ตามตำรับ "หลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า" เต็มรูปแบบทุกประการ

    โดยครั้งที่ 1 ได้นำพระไปอาราธนาทิ้งลงในกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากหน้าวัดสารอด ประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร แล้วบริกรรมพระคาถา เรียกพระให้ "เสด็จกลับ" มาที่ วัดสารอด เขตราชบูรณะ กรุงเทพฯ โดยเริ่มจากการบวงสรวง สร้างศาลเทพารักษ์ คาดด้วยผ้าขาว แล้วจึงอาราธนาพระนำไปทิ้งลงในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเรือชื่อมงคล "กอบลาภ" แล้วให้พระเกจิผู้ทรงคุณ ทรงฤทธิ์ รวมตลอดถึงเกจิฆราวาสต่างๆ เช่น อาจารย์ชุม ฯลฯ เป็นต้น นั่งบริกรรมพระคาถาเรียกพระกลับมาที่วัด ด้วยอำนาจ "พลังจิต" จนพระ "เสด็จกลับ" มาตกที่ศาลเทพารักษ์ วัดสารอด เขตราชบูรณะ กรุงเทพฯ จนหมด จึงเป็นอันเสร็จพิธี

    การทำพิธีเสด็จกลับดังกล่าว มีหลักฐานเป็นรูปถ่ายตลอดพิธี และมีประชาชนผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์ในพิธีนี้มากมายนับหมื่นคน ทั้งคราวทำพิธีที่ วัดสารอด และที่สำนักสงฆ์ เกาะสิเหร่ โดยประชาชนผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์ต่างเล่าตรงกันว่า ขณะที่พระกำลัง "เสด็จกลับ" นั้น ตอนที่เห็น เป็นเวลากลางวัน แต่เห็น "สายรุ้ง" พาดผ่านมายังศาลเทพารักษ์อยู่ตลอดเวลา และเป็นเวลานาน และที่เพดานคาดด้วยผ้าขาว เริ่มมีน้ำหยด และผ้าขาวเริ่มหย่อนตัวลงทีละนิดๆ เหมือนมีวัตถุหนักชิ้นเล็กๆ บางอย่าง ตกลงมารวมตัวกันอยู่ตรงกลาง จนผ้าขาวหย่อนตกท้องช้างลงมา ตามน้ำหนักของวัตถุเล็กๆ เหล่านั้น

    และยังมีรูปถ่ายที่เป็นหลักฐานในคราวนั้นยืนยันด้วยว่า นอกจากพระเครื่องที่นำไปทำพิธีเสด็จกลับทิ้งลงในแม่น้ำเจ้าพระยา ยังมีประคำ 108 ทั้งเส้นซึ่งก็ "เสด็จกลับ" ตกลงมาด้วยทั้งเส้น ซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์แก่สายตาผู้อยู่ร่วมในพิธี และผู้สังเกตการณ์ยิ่งนัก

    และในครั้งที่สอง ได้ทำ "พิธีเสด็จกลับ" ที่สำนักสงฆ์เกาะสิเหร่ จังหวัดภูเก็ต ด้วยเหตุผลที่ว่า มีผู้ไม่เชื่อว่า พระจะ "เสด็จกลับ" มาได้จริงๆๆ จึงต้องมีการทำ "พิธีเสด็จกลับ" ยืนยันเป็นครั้งที่สอง

    โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นทั้งที่กรุงเทพฯ และภูเก็ต คุณแม่บุญสืบ ไชยคีรี ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของอาจารย์ชุม กรุณาเล่าให้ฟังว่า หากพระไม่เสด็จกลับมาจริงในเวลานั้นทั้งสองคราว ก็มีการเพ่งเล็งจากฝ่ายกฏหมายบ้านเมืองว่า อาจารย์ชุมแสดงกลโกหกหลอกลวงประชาชน โดยในส่วนของคณาจารย์ ผู้ประกอบพิธีที่เป็นฆราวาส จะถูกจับกุมคุมขัง รวมไปถึงพระสงฆ์ก็จะถูกนิมนต์ให้สึกด้วย ซึ่งในตอนแรก ตำรวจนับพันนาย ก็มาล้อมบริเวณพิธีให้เต็มกันไปหมด ดังนั้น ถ้าตามเวลาที่อาจารย์ชุมได้กำหนดไว้ หากพระยังไม่ "เสด็จกลับ" มา ท่านจะต้องถูกจับกุมทันที และ หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ก็จะต้องถูกจับสึกทันทีด้วย
    ฐานหลอกลวงประชาชน

    แต่ก็ไม่มีใครได้จับกุมท่านแต่อย่างใด เพราะพระได้ "เสด็จกลับ" ตกลงมาต่อหน้าต่อตาคนร่วมนับหมื่นในพิธี ผู้ที่เคยทำการปรามาส และหมิ่นประมาท ท่านไว้ก่อนหน้านี้ ก็กลับตัวกลับใจมาขอขมา และขอเป็นลูกศิษย์ในภายหลังกันอย่างมากมาย



    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2013
  17. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 91

    พระชินราชท่าเรือ พิมพ์เล็ก อาจารย์ชุม ไชยคีรี วัดพระบรมธาตุ ปี 2497

    มวลสารที่รวบรวมมามีพระกรุสุดยอด พระเครื่องจากทั่วประเทศ มาดำเนินการสร้างพระชินราชท่าเรือนี้ จากการรวบรวมปรากฎว่าได้พระกรุมากว่า 108 กรุ ว่านยาอีก 108 ชนิด รวมทั้งผงวิเศษ อาทิเช่น พระกรุนางตรา-ท่าเรือ, กรุท้าวโคตร, สมเด็จวัดระฆัง, สมเด็จบางขุนพรหม, พระผงสุพรรณ, ผงดำผงแดงหุ่นพยนต์, หลวงพ่อเกตุ วัดขวิด, ขุนแผนวัดพระรูปและวัดบ้านกร่าง, พระนางพญาวัดนางพญาและวัดต้นจันทร์ สุพรรณบุรี, พระกรุต่าง ๆ ในกำแพงเพชร, พระกรุต่าง ๆ ในสุโขทัย, หูยานลพบุรี, ท่ากระดานหูไห กาญจนบุรี, พระกรุวัดท่ามะปราง, พระวัดชินราช พิษณุโลก, พระหลวงพ่อจุก, พระจุฬามณี พิษณุโลก, พระรอด พระคง พระเปิม-ลำพูน, มหาว่านวัดเขาอ้อ-พัทลุง, และพระกรุศรีวิชัยฯลฯ

    การประกอบพิธีพุทธาภิเษก จัดให้มีขึ้นตลอดพรรษา ณ วิหารวัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช
    ได้ฤกษ์พิมพ์องค์พระในวันที่ 2 สิงหาคม 2497
    ครบ 84,000 องค์ วันที่ 1 กันยายน 2497
    ทำพิธีปลุกเสกวันที่ 14 กันยายน 2497
    ออกพิธีวันที่ 12 ตุลาคม 2497 ซึ่งเป็นวันออกพรรษา

    โดย พิธีนี้ได้นิมนต์พระเถราจารย์ ผู้เรืองเวทวิทยาคม 108 รูป มาร่วมประกอบพิธี มีท่านเจ้าคุณพระภัทรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ สำหรับพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกขอยกมาเป็นบางส่วน ได้แก่ หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน จันดี, หลวงพ่อโอภาสี บางมด ธนบุรี, หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน, หลวงพ่อเมือง วัดท่าพญา, หลวงพ่อคง วัดคลองน้อย, หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำ ปากพนัง, หลวงพ่อแดง วัดโท ท่าศาลา, หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง ร่อนพิบูลย์, หลวงพ่อแดง วัดเขาหลัก ทุ่งใหญ่, หลวงพ่อตุด วัดทุ่งกง กระบี่, หลวงพ่อวัน มะนะโส วัดประสิทธิชัย, หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด ตรัง, หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน, หลวงพ่อดิษฐ์ วัดปากสระ. หลวงพ่อเจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก, หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง ตะวันออก พัทลุง, หลวงพ่อพัว วัดเขาราหู (วัดบางเดือน). หลวงพ่อแดง วัดคลองไทร, หลวงพ่อวิรัช วัดกะเปา คีรีรัฐนิคม สุราษฎร์ธานี, หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน, หลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย, หลวงพ่อจีด วัดถ้ำเขาพลู, หลวงพ่อรุ่ง วัดบางแหวน ชุมพร, หลวงพ่อท้วม วัดเขาโบสถ์ บางสะพาน, หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์, หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม ฯลฯ อาจารย์ที่เป็นฆราวาสได้แก่ อ.ชุม ไชยคีรี, อ.นำ แก้วจันทร์, พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ ราชเดช

    การปลุกเสกเน้นเด่นเฉพาะทาง แบ่งออกเป็นช่วง ช่วงละ 7 วัน เช่น ปลุกเสกเน้นด้านคงกระพันชาตรี 7 วัน มหาอุด 7 วัน ป้องกันสัตว์ร้ายและโจรร้าย 7 วัน ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและภูตผีปีศาจ 7 วัน เมตตามหานิยม 7 วัน เนรมิตกายกำราบศัตรูให้เห็นเราคนเดียวเป็นหลายคน ดังนี้เป็นต้น


    ปิดรายการครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2013
  18. Satangclub

    Satangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,703
    ค่าพลัง:
    +4,420
    โอนเรียบร้อยแล้วนะครับ และได้ sms เข้าเบอร์ของท่านแล้วด้วยครับ
    ที่อยู่ในการจัดส่งทาง pm ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2013
  19. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    ส่งแล้วจะแจ้งให้ทราบ ขอบคุณมากครับ
     
  20. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 92

    แหวนมหานิยม มหาเสน่ห์ รุ่นเงียบเสียง อ.ชุม ไชยคีรี เนื้อทองขาว ปี 2524 มี 2 ขนาด คือขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.6 ซม. และ 1.8 ซม.

    ขออนุญาติใช้รูปเดิมนะครับ เพราะแหวนสภาพสวยกริ๊ปเหมือนกันหมด




    *** ปิดรายการ ****
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...