อาถรรพณ์สามแพร่ง

อาถรรพณ์สามแพร่ง

คอลัมน์ ขนหัวลุก

ใบหนาด



"เด็กดินแดง" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากทางสามแพร่ง

บ้านผมอยู่ตรงสามแพร่งพอดี เขาว่าที่แบบนี้น่ะมีอาถรรพณ์ แต่คนสมัยนี้ไม่ค่อยมีใครเชื่อกันสักเท่าไหร่ ถึงอย่างนั้นผมก็มักเจอเรื่องแปลกๆ ที่หน้าบ้านเป็นประจำ...แต่ละเรื่องชวนให้ขนหัวลุกทั้งนั้นเลยครับ

ตอนเด็กๆ ผมมักจะเห็นกระทงใบตองมีข้าวปลาอาหาร และขนม มีธูปปักด้วย คุณยายบอกว่าเขาเอามาเซ่นวิญญาณอยู่ตรงทางสามแพร่ง บางทีก็อาจจะเป็นการสะเดาะเคราะห์อะไรสักอย่าง

เดี๋ยวนี้ผมอายุ 17 แล้ว ไม่เห็นใครเอากระทงมาเซ่นตรงทางสามแพร่งหน้าบ้านผมอีกเลย แต่กลับมีคนมาทิ้งขยะ จนทางกทม.มาขออนุญาตคุณยายทำรั้วฝั่งตรงข้ามเป็นที่ทิ้งขยะประจำซอย มีรถเก็บขยะมาเก็บกวาดทุกวัน ผู้คนดูจะลืมเลือนอาถรรพณ์ทางสามแพร่งไปหมดแล้ว!

ผมเองก็ไม่รู้อะไรมากหรอกครับ คุณยายซิ เล่าให้ผมฟังว่า ทางสามแพร่ง คือทางที่ถนนมาเจอกันแล้วแยกเป็นสามทาง โบราณว่าเป็นที่ซึ่งมีอาถรรพณ์

ไม่เฉพาะคนไทยเราเท่านั้นที่เชื่อแบบนี้ แต่ฝรั่งมังค่าอย่างพวก กรีก- โรมัน อียิปต์ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น ก็เชื่อเหมือนกันหมด ว่าตรงทางสามแพร่งเป็นที่อยู่ของวิญญาณต่างๆ ทั้งเทพที่เป็นเจ้านายของภูตผี วิญญาณผีตายโหง วิญญาณคนฆ่าตัวตาย พวกชาวยุโรปเชื่อว่าเป็นที่สำหรับฝังศพนักโทษ ฆาตกร แม่มด และทารก ที่ตายโดยยังไม่ทันเข้าพิธีล้างบาป หรือศีลจุ่ม

เชื่อกันว่า วิญญาณเร่ร่อนจะมาสิงสู่อยู่ตรงทางสามแพร่ง รอให้ผู้หญิงเดินผ่านมา ถ้าถูกใจก็จะกระโดดเกาะเพื่อเข้าท้อง จะได้เกิดใหม่เป็นลูกผู้หญิงคนนั้น...น่ากลัวพิลึกเลยนะครับ

ทางสามแพร่งหน้าบ้านผมก็มักจะเกิดเรื่องบ่อยๆ เช่นกัน!

เคยมีผู้ร้ายถูกตำรวจยิงตายเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ผมยังไม่เกิดเลย แต่คุณยายชี้ให้ดูรอยเลือดที่เปรอะเปื้อนเป็นทางยาวบนกำแพงของเรา ยายบอกว่าล้างรอยนั้นไม่ออก แต่เราก็ไม่กลัวนะครับ คือรู้สึกเฉยๆ น่ะ

เมื่อไม่กี่ปีก่อนมีแท็กซี่ถูกหลอกมาปล้น เขาโดนเชือดคอแต่เคราะห์ดีที่ไม่ตาย ไม่งั้นผมนี่แหละจะต้องกลัวผีจนเดินผ่านเข้าบ้านไม่ได้ เพราะผมชอบขี่รถจักรยานไปซื้อของที่เซเว่นฯ หน้าปากซอยตอนดึกๆ ซะด้วยซะครับ

อย่าว่าแต่ผมเลยที่ไม่กลัว ชาวบ้านก็คงไม่ยี่หระกับอาถรรพณ์อะไร ดูซิครับ ทุกเช้าสายบ่ายค่ำ จะมีคนขี่รถขายของเก่าเอย ขายไม้กวาดเอย บางทีก็ลงจากรถเก๋งมารูดซิปฉี่ใส่กำแพงบ้านผมเฉยเลย สกปรกจัง ทำไมไม่อายก็ไม่รู้

แหม! ผมนึกอยากให้ผีมาหลอกพวกนี้ซะให้เข็ด!

จริงๆ แล้วผมชอบเห็นอะไรแปลกๆ ตอนดึกๆ อยู่บ่อยครั้ง อย่างวันก่อน เห็นคล้ายผ้าขาวเบาบางผืนใหญ่ลอยผ่านไป มันลอยสูงระดับเสาไฟฟ้าแน่ะครับ

บางคืน เวลาผมมองออกไปจากช่องประตูรั้วบ้าน ซึ่งมีถนนพุ่งตรงเข้ามาน่ะครับ ผมจะเห็นผู้ชายแต่งชุดดำเดินทื่อๆ ผ่านไปผ่านมา เวลาเห็นแบบนี้ผมจะรีบแจ้น เผ่นเข้าบ้าน ไม่อยู่รอให้เกิดอะไรที่มันสยองกว่านั้น

ผมหมายถึงว่าไม่อยากจ้องดู เพราะอยากรู้ว่าเขาเป็นคนหรือผี...เดี๋ยวพี่แกหันมาทำตาโบ๋ใส่ละผมแย่เลย!

เวลาดึกสงัด บริเวณนี้ดูน่ากลัวพิลึก บางคืนผมได้ยินเสียงเหมือนใครคุยกัน บางทีก็ทะเลาะกัน พอไปดูก็ไม่เห็นมีใครสักคน แต่ยังดังอยู่ตามเดิม...แบบนี้ก็เล่นเอาขนลุกเหมือนกันนะครับ

ที่กองขยะหน้าบ้านตรงทางสามแพร่ง มันมีอะไรบางอย่างที่น่าขนหัวลุกโดยตัวของมันเอง ซึ่งสิ่งที่น่าขนพองสยองเกล้าก็คือบรรดาขยะที่ชาวบ้านใกล้ไกลในซอยนี้หมั่นเอามาทิ้งกันนั่นละครับ ถ้าเป็นขยะมูลฝอย เศษอาหารปกติก็ไม่เป็นไรหรอก นี่บางทีที่นอนดีๆ เขาขนมาทิ้ง ทั้งฟูกพร้อมผ้าห่ม ผ้านวม หมอน ที่ยังดูดีอยู่เลย

คนใช้ผมเคยเก็บมาซักเพราะความเสียดาย ปรากฏว่าเจอผีมาอำ นั่งทับอกตัวดำปี๋ ต้องรีบเอาหมอน เอาผ้าห่มไปทิ้งที่เดิม สงสัยว่าสิ่งของพวกนั้นคงเป็นของคนตาย บางครั้งเป็นเบาะเด็กอ่อนและตุ๊กตาก็มี

ผมเห็นแล้วเสียวไส้ ไม่อยากหันไปมองเต็มๆ กลัวเจอผีเด็กยิ้มเหงือกแดงเข้าให้น่ะซีครับ

เวลาที่ใครรู้ว่าบ้านผมอยู่ตรงทางสามแพร่ง เขามักจะถามว่าไม่กลัวเหรอ...ผมบอกว่ามันบ้านผมนะ ถ้ากลัวละก็ผมจะไปอยู่ไหนล่ะ?

ผมยึดคกที่คุณยายเล่าว่า ตรงทางสามแพร่งจะมีเจ้านายแห่งผีสถิตอยู่ อย่างของกรีกก็คือ เทวีเฮคกาตี ราชินีแห่งกลางคืน เป็นต้น ในอินเดียก็เชื่อว่า มีพระรุท ซึ่งเป็นปางหนึ่งของพระศิวะ เป็นเทพผู้มีอำนาจเหนือภูตผีปีศาจและพลังชั่วร้าย คอยคุ้มครองคนดี และคอยดูแลไม่ให้วิญญาณร้ายอาละวาดอยู่ตรงทางแยกหรือทางสามแพร่งนี้

เวลาผมผ่าน แล้วเกิดขนลุกซู่ขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ ผมก็จะนึกถึงพ่อแก้วแม่แก้ว และบรรดาเทพที่เชื่อว่า สถิตอยู่ตรงนี้ให้ช่วยคุ้มครองผมด้วย

แต่ทางที่ดีที่สุด ผมว่าอย่าไปไหนค่ำๆ มืดๆ ดีกว่า ทางแยกไม่ว่าจะสามแพร่งหรือสี่แยกตามถนน ตามซอย มักจะเกิดเรื่องไม่ดี เช่น อุบัติเหตุ หรือผู้ร้ายมาดักปล้นจี้ เวลาผ่านสถานที่แบบนี้ต้องระวังให้ดีครับ

ทุกวันนี้ผมอยู่อย่างปกติสุข ชินกับกลิ่นขยะ แต่ยังเคืองคนที่ยืนฉี่ใส่กำแพงอยู่ ขอย้ำอีกที อยากให้โดนผีหลอกให้เข็ดนัก...จะสมน้ำหน้าให้ดู !

ref.http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03col19151149&day=2006/11/15