อานิสงส์อัปปมัญญา ๔ โดย หลวงพ่อลี ธัมมธโร

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 14 พฤศจิกายน 2006.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    อานิสงส์อัปปมัญญา ๔

    การเจริญอัปปมัญญาพรหมวิหาร ๔ นั้นเป็นกิจที่ควรกระทำโดย
    แท้ เพราะเป็นธรรมอันเย็นใจของสัตว์โลกทั่วไป ตลอดถึงบิดามารดา
    วงศาคณาญาติมิตรสหายและสัตว์ทุกจำพวก อีกประการหนึ่ง พรหมวิหาร
    นี้ เมื่อทำให้เกิดในใจจริงๆ แล้ว ย่อมระงับเวรภัยพยาบาทได้โดยเด็ดขาด
    ฉะนั้น พระศาสดาจารย์จึงเตือนภิกษุทั้งหลายว่า
    เมตฺตาย ภิกฺขเว เจโตวิมุตฺติยา อาเสวิตาย ภาวิตาย
    พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุตาย อนุฎฐิตาย ปริจิตาย
    สุสมารทฺธาย เอกาทสานิสํสา ปฏิกังฺขา.
    แปลเนื้อความว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในธรรมวินัยนี้ ความหลุด
    พ้นวิเศษจากพยาบาทและเวรภัย ด้วยอำนาจแห่งจิตเมตตาที่บุคคลส้อง
    เสพแล้วโดยชอบ กระทำให้เกิดมีขึ้นแก่ตน และกระทำให้มากแล้ว ทำ
    กระแสจิตเดินเหมือนยาน (ที่ให้สำเร็จการไปในสถานที่ต้องการ) ทำให้
    เป็นวัตุแล้ว มิได้หยุดยั้งแห่งการทำจิตแล้ว สะสมขึ้นแล้ว ปรารถนาให้
    สม่ำเสมอ ไม่ให้เผลอตัวทุกอิริยาบถทั้ง ๔ แล้ว บุคคลผู้นั้นหวังได้อานิสงส์
    ๑๑ ประการ มีหลับเป็นสุข เป็นต้น และย่อมได้ความเย็นใจ คือทำการ
    งานทางกายก็ดี พูดทางวาจาก็ดี คิดทางใจก็ดี ให้มีเมตตาจิตอยู่ทุกเมื่อ
    ย่อมเป็นไปเพื่อพ้นทุกข์ดังนี้ ถ้าใครๆ เจริญอยู่เป็นนิตย์ย่อมมีอำนาจ
    ทำให้สัตว์ทั้งหลายได้รับความเย็นใจไปจากจิตของบุคคลที่เมตตานั้นด้วย

    เหตุนั้นผู้ทำสมาธิจำเป็นโดยแท้ที่จะต้องทำให้มีขึ้นพร้อมทั้งกายวาจาใจ
    บางแห่งท่านให้เจริญแก่ผู้มีโทสจริต แต่ในที่นี้จะเป็นจริตอะไรก็ตาม จำ
    จะต้องทำก่อน ถ้าจริตเป็นโทสะอยู่แล้ว ยิ่งจะสะดวกเข้าในการทำสมาธิ
    จิต พรหมวิหารนี้นัยหนึ่งท่านเรียกว่า พรหม ๔ หน้า หรือกำแพง ๔ ทิศ
    เป็นเครื่องล้อมจิตโดยรอบถ้าใครทำให้มีขึ้นแล้ว จิตดวงนั้นย่อมไม่มีภัยเลย
    ถ้าจะพูดถึงการบำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุแล้วก็ดีมาก เป็นต้นว่าทำทานด้วย
    เมตตาจิต รักษาศีลด้วยเมตตาจิต ทำสมาธิด้วยเมตตาจิต เมื่อทำได้
    เช่นนี้ย่อมได้รับกุศลอันแรงกล้า เมตตาจิตนี้เปรียบประหนึ่งว่าเมล็ดฝน
    ที่สะอาดตกมาจากท้องฟ้า แล้วย่อมให้ผลแก่ติณชาติรุกขชาติงอกงาม
    แช่มชื่นเต็มที่ และเป็นที่ต้องการของมนุษย์ทุกเหล่า เหตุนั้นผู้แสวงบุญ
    ควรตรวจดูจิตของตนเสมอๆ เรามีเมตตาจิตหรือไม่ เพื่อจะได้กระทำ
    บำเพ็ญให้มีขึ้นทางกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ให้ถูกทางแห่งความ
    สุขต่อไป ข้อสำคัญ เมตตานี้ สำคัญมากที่จิต ถ้าจิตไม่มีเมตตาแล้ว
    รักษากายวาจาได้ยาก ถ้าหากจิตประกอบด้วยเมตตาจริงๆแล้ว ความ
    เศร้าหมองย่อมไม่มีแก่กายและวาจา ความเศร้าหมองทางกาย ทางวาจา
    กายวาจาเขาย่อมไม่รับ จิตเป็นผู้จะรับเอาผลดีชั่วทั้งหมด เมื่อเป็นเช่น
    นี้จึงควรทำสมาธิ อบรมจิตให้เป็นสมาธิโดยลำดับ

    ท่านพ่อลี ธัมมธโร
    จากหนังสือ การบริหารจิตใจ การรู้แจ้งด้วยจิต การบรรลุธรรม <!--MsgFile=1-->
     
  2. deawpayu

    deawpayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +981
    สาธุ การแผ่เมตตาดีจริงๆ แค่คิดแผ่ความปราถนาดีออกไปก็ขนลุกแล้วครับ กระทู้ดีมีประโยชน์ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...