อายตนะทั้ง ๖ เช่นมีตาเห็นรูป เป็นของร้อน ร้อนเพราะไฟ ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เสขะ บุคคล, 5 มกราคม 2016.

  1. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 มกราคม 2016
  2. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    รู้แล้วไม่ถามครับ เทศน์เลย
    ตัดแปะไป ก็อยากจะแปะให้เป็นภาวนา ก็ยังงงคิดไม่ออกจะทำยังไง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 มกราคม 2016
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    จะเอา พาหิยสูตร

    ก็ต้อง หาถ้อยคำที่เป็น การวางจิตข้ามฝากตาย ของ พระพาหิยะ มีไหม

    " ก็ความเป็นไปแห่งอันตรายแก่ชีวิตของพระผู้มีพระภาคก็ดี
    ความเป็นไปแห่งอันตรายแก่ชีวิตของข้าพระองค์ก็ดี รู้ได้ยากแล "

    อันนี้ คุงเสขะ บุคคล มีไหม

    มีการ กำหนดรู้ การตาย มรณะสัญญา ทุกลมหายใจเข้าออก ไม่รู้ว่าจะตายตอนไหน มีไหม

    ถ้ามี การทำมรณะสัญญาก่อน ก็จะรู้ว่า กิจเร่งรีบ ไม่ใช่การ อ่าน และ แปะ
    แต่เป็น การกำหนดรู้ อริยสัจจ4 ( ให้อ่าน เถระกถา ท้าย พระสูตร สรุป
    ปฏิปทาด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ ...คือ สภาวะจิตของคนภาวนาข้ามฝากตายเนืองๆ อยู่
    ย่อมไม่ใกล้ พวกขยันแปะ แน่ๆ )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2016
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    จะคิด ทำไม หละเนี่ยะ

    อุตสาห์ ยกตัวอย่าง ลงปัจจุบัน แว้ววว

    ตัดแปะ เสร็จปุ๊ป ความพอใจ มันก็ดับ เจโตสมาธิ(เจตนา สมถะ)มันดับ
    ก็กำหนดรู้ไป จิฮับ มันจะต้อง ปฏิบัติอะไรอีก

    สมถะก็ทำแล้ว ดับแล้ว

    การกำหนดรู้การดับไปของพอใจ กำหนดรู้ยัง กำหนดรู้ได้ ปัญญาก็ดับแล้ว

    น้ำรดหลังหมา แห้งไปแล้ว กำหนดรู้เข้ามาอีกที นี่ก็เฉียด อริยสัจจ แล้ว
    เดินเลยปากคอก ไปไหนต่อไหนแล้ว

    ปล. ไม่อยากจะ ลง ท้ายด้วยการด่า ให้สะดุ้ง จิตจะได้กระทบทุกข์ ดีดผาง
    แยกธาตุแยกขันธ์ เป็นก๊อกสอง ในการเห็น อริยสัจจ

    แต่ถ้า กอดขันธ์5ไม่เลิก(กอดเชื้อไฟ) ..............อันนี้ก็ต้อง ซัดหนึ่งดอก นะฮับ โหลยโถ้ย !!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2016
  5. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    เห็นว่าพระสูตรนี้ ตรัสเกี่ยวกับ อายตนะ เลยแปะไว้ก่อนครับ
    ถ้าเข้าใจก็ ขยายความตามที่คุณเข้าใจมาให้ฟังได้ครับ
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ไม่เอา ความเข้าใจ สิ

    อ่าน แค่เอา เข้าใจ นี่โดนขันธ์5 หลอกเอา เดี๋ยวไปนั่งสมาธิ
    มันจะคิดดอกเบี้ย จิตไม่รวมเอาดื้อๆ

    ฟังเอาผ่านๆ สักแต่ว่า ไปเลย

    แล้วไป ปฏิบัติ

    ลองเลย เอาแบบพระพาหิยะ จะตายไม่รู้ตอนไหน ทุกลมหายใจเข้าออก
    เห็นแต่ความดับ ดับ ดับ ดับ ดับ มี ภวังค์มาคั่น(ไม่เอา)

    เอาแต่ ดับ ดับ ดับ

    แล้ว ลองพิจารณาดีๆ เห็น เชื้อ(ขันธ์5 อายตนะ) ที่เป็นที่ตั้งขึ้นของไฟ(ราคะ โทษะ โมหะ ) ไหม

    แล้วดับที่อะไร

    โง่ดักดานจะไปดับ ราคะ โทษะ โมหะ

    ฉลาด รู้อริยสัจจ ดับที่ ".............." เชื้อ
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    อ่านธรรมะ เพื่อเอา ความเข้าใจ ไปฝึกแบบนี้มากๆ

    เวลาทำสมาธิ พอจิตจะรวม ร่องของจิตที่เคยประกอบไว้มากๆ(สังโยชน์)
    มันจะ พาจิต ตกร่อง แล่นออก ไปเอา ความเข้าใจ(ซึ่ง ต้องออกไปเสพ ขันธ์5)


    เนี่ยะ จึงบอกว่า โดนขันธ์5 มันหลอกเอา

    อย่า อ่านธรรมะ เพื่อความเข้าใจ

    ให้ อ่านพอให้ได้ การหมั่นไปปฏิบัติ ทำให้มากๆ

    อันนี้ไปอ่าน อริยสัจจ4 บางพระสูตรได้ พระพุทธองค์ตรัสสอน
    มาลุงกยบุตร หรือไง นี่แหละ ว่า อย่ามาเรียนเพื่อเอาความเข้าใจ

    แต่ให้เรียนเพื่อ น้อมนำไปปฏิบัติให้มากๆ เห็นหลักเป็นเกณฑ์

    อุปมา คนต้องการ น้ำมันงา ก็ต้อง บดให้มากๆ ขยี้ธรรมให้มากๆ ถึงจะได้ น้ำมันงา
     
  8. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024

    รับทราบ ขอบคุณที่แนะนำครับ
     
  9. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    www.youtube.com/watch?v=yPhLEFTZBok

    ธัมมานุปัสสนา อายตนะและสังโยชน์
    พระธรรมเทศนาสมเด็จพระญาณสังวร
    สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2017
  10. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    เคยอ่านมานะครับ พระพุทธเจ้าว่าแบบนี้ พี่ Dis-esp จะว่าไงครับ

    ผัสสะ เป็นปัจจัยจึงมี เวทนา
    เวทนา เป็นปัจจัยจึงมี ตัณหา
    ตัณหา เป็นปัจจัยจึงมี อุปาทาน
     
  11. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +494
    เดี๋ยวก่อนครับอธิบายก่อนจะให้อธิบายอะไรรึครับ
    ภาวนาก็อธิษฐานเป็นแรงส่งความพยายาม ย้ำสติ ย้ำความคิด ย้ำการกระทำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 มกราคม 2016
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ไม่ใช่ย้ำคิด ย้ำทำ สิฮับ

    เพราะเราตรึก เพื่อเหนความไม่เที่ยงในสิ่งที่ตรึก

    เช่น ตรึกถึงการทำความดี หลังจากทำดี

    การทำดีครั้งนั้น ผลแห่งความดีนั้นๆ อันมีความพอใจ

    มันเกิด แล้วก็ดับไปแล้ว

    การที่เหนสิ่งนั้นดับไปแล้ว จะเปนการย้ำคิดย้ำทำ ได้หรือฮับ
     
  13. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    <table><tr><td>
    <IMG width=400 src='http://st1.mthcdn.com/s/talk/uploads/2016/01/07/176953-attachment.jpg' >


    ปล.ลิงตะลิงปลิง :
    ผมไม่กล้าพัก เพราะผมยังไม่รู้อริยทรัพย์
    ผมไม่กล้าพูดว่าเหนื่อย เพราะผมยังไม่ประสบปฐมฌาณ
    ผมไม่กล้าขี้เกียจ เพราะคนที่จบกิจ เขายังไม่ประมาทเลย​



    <img src='http://poem.meemodel.com/image_poem/69121.jpg' width=120 align=right>

    </td></tr></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2016
  14. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    www.youtube.com/watch?v=WSF3ip2EvX4

    อายตนะ
    พระธรรมเทศนาหลวงปู่หล้า เขมปัตโต
    วัดบรรพตคีรี(ภูจ้อก้อ) จ.มุกดาหาร​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2017
  15. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    www.youtube.com/watch?v=xl1csJ8eStk

    อายตนะภายนอก ภายใน พิจารณาเพื่อรู้ตามความเป็นจริง
    พระธรรมเทศนาหลวงพ่อเปลี่ยน ปัญญาปทีโป
    วัดอรัญญวิเวก (บ้านปง) อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2017
  16. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    การงานทางโลกกการหาอยู่หาเลี้ยงชีพ
    ต้องขวนขวายในกิจการต่างๆ ทางโลก
    กลัวไม่เป็นตามเป้าบ้าง กลัวขาดทุนบ้าง กลัวผิดพลาดบ้าง
    ไม่เป็นไปเพื่อความสุขสบายใจ ต้องดิ้นรนผ่านอายตนะ ทั้งนั้น
    ทำให้เกิดความรุ่มร้อนแก่ใจ

    แต่งานทางธรรม เป็นการสำรวมอายตนะทั้งหมด
    เพื่อให้เป็นความสงบความสุข และความเย็นใจ

    เมื่อเปรียบเทียบอย่างนี้ก็จะเห็นได้ว่า
    ความร้อน กับ ความเย็น ต่างกันอย่างไร

    แต่ทำไมเราไม่เห็นว่าอายตนะนี้ร้อน
    เพราะเราไม่เคยสังเกตกันเลยว่า
    อายตนะนี้เป็นบ่อเกิดแห่ง ไฟราคะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ
    ตาเห็นรูปที่ชอบไฟราคะก็เกิด ได้ยินเสียงด่าไฟโทสะก็เกิด
    ได้ลิ้มรสอร่อยไฟโมหะก็เกิด

    และที่สำคัญเราไม่เคยคิดเลยว่า ราคะ โทสะ โมหะ เป็นไฟเป็นของร้อน
    เกิดที่ใจเมื่อไดเราก็เป็นไปตาม ราคะ โทสะ โมหะ ทุกครั้ง
    กลับมองเป็นขนมหอมเคลือบน้ำตาล
    แต่หากเราตั้งสติเตือนตนตลอดเวลาว่า ราคะ โทสะ โมหะ
    นี้เป็นภัยเป็นของร้อน

    ตากระทบรูป มีสติรู้ว่าเกิดราคะ ตาก็ร้อนรูปก็ร้อน เพราะเป็นภัย
    หูได้ยินเสียง มีสติรู้ว่าเกิดโทสะ หูก็ร้อนเสียงก็ร้อน เพราะเป็นภัย
    ลิ้นลิ้มรส มีสติรู้ว่าเกิดโมหะ ลิ้นก็ร้อนรสก็ร้อน เพราะเป็นภัย
    ต้องทำใจตนอยู่ตลอดเวลาว่า ราคะ โทสะ โมหะ นี้ของร้อนนะ
    ไม่ใช่ของดีของโลก เหมือนที่โลกเค้าเป็นกัน

    การรู้ธรรมเห็นธรรมเช่นนี้
    ก็จะสะสมคุณธรรมเข้าสู่ใจเราเรื่อยๆ
    เปรียบเหมือนใจเรามีกิเลสใจก็แปดเปื้อนด้วยสีต่างๆ
    เมื่อเราทำสมาธิก็เหมือนขัดล้างสีที่เปื้อนนั้นออกไป
    แต่กระดาษนี้เมื่อโดนสีหรือกิเลสจรมาก็เปื้อนได้อีก
    แต่หากเป็นปัญญาก็จะสะสมคุณธรรมเข้าสู่ใจเรา
    เหมือนกระดาษขาวที่ถูกเทียนไขแทรกซึมเข้าอยู่ในเนื้อกระดาษ
    บ่อยเข้าทุกวัน กระดาษก็จะเป็นกระดาษที่ถูกเคลือบด้วยเทียนไข
    สีหรือกิเลสจะมาเปื้อนมาติดกระดาษแทบจะไม่ได้
    เมื่อกระดาษขาวถูกเคลือบด้วยเทียนไขทั้งแผ่นแล้ว
    สีหรือกิเลสใดๆ ก็จะไม่สามารถเปื้อนกระดาษได้อีกต่อไป
    นี่ขั้นนึง

    ขั้นต่อไปก็จะต้องมาดูล่ะว่ามีอะไรปนเปื้อนแทรกซึมอยู่ในเนื้อกระดาษ
    ก็จะต้องมาชำระซักฟอกกันให้หมด
     
  17. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    ขอบคุณครับ
     
  18. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    www.youtube.com/watch?v=CBKlrAnYxVg

    อายตนะภายนอกภายใน (๐๔ เม.ย. ๒๔)
    พระธรรมเทศนาหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2017
  19. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2017
  20. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    ถ้าเราปล่อยให้อายตนะทั้งหมดทำงานตามธรรมชาติ โดยใช้เสียงธรรมเป็นเหตุ
    เช่นนั่งหรือนอนฟังธรรมะ เมื่อหูกระทบเสียง กำหนดสติให้รู้อยู่ที่จิต
    เมื่อจิตกระเพื่อม ไหลไปคิดตามเรื่องที่เทศน์ ไหลไปคิดเรื่องอื่น ไม่พอใจสงสัยอารมณ์อื่นต่างๆ จนจิตเริ่มสงบจากความคิดปรุง เป็นกลางต่อเสียงที่รับรู้ เพียงแค่รู้อยู่ จนรู้แน่วตัวรู้เด่น โดยไม่ต้องสนใจผู้เทศน์และเรื่งที่เทศน์
    ทำแบบนี้ก็เป็นการภาวนาแบบนึงได้ด้วยใช่ไหมครับ ใครเคยภาวนาแบบนี้บ้างครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...