อาลัย "หลวงตามหาบัว"

​

 

​

 

​

​

​

​

​

​

​

​

​

​

​

​

​

http://www.luangta.com/info/news_text.php?cginews_id=381&type

 

<TABLE class=tborder style="MARGIN: 10px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 425><TBODY><TR><TD class=panelsurround align=middle><EMBED src=http://www.youtube.com/v/uHmKC-XHobU width=425 height=350 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" wmode="transparent"></EMBED></TD></TR></TBODY></TABLE>

เกศา เล็บ พระหลวงตาอยู่กับหลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล (พระพิศาล ศาสนกิจ)
วัดเขาศาลาอตุลฐานจาโร จ.สุรินทร์ แปรสภาพกลายเป็นพระธาตุ
​

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก : คุณdharmajourney2011​

 

<TABLE class=tborder style="MARGIN: 10px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 425><TBODY><TR><TD class=panelsurround align=middle><EMBED src=http://www.youtube.com/v/PShB6FECtlI width=425 height=350 type=application/x-shockwave-flash wmode="transparent" allowfullscreen="true"></EMBED></TD></TR></TBODY></TABLE>

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก : คุณkrazymeaw​

 

<TABLE class=tborder style="MARGIN: 10px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 425><TBODY><TR><TD class=panelsurround align=middle><EMBED src=http://www.youtube.com/v/PShB6FECtlI width=425 height=350 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" wmode="transparent">
</EMBED>
</TD></TR></TBODY></TABLE>​

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก : คุณkrazymeaw​

 

ไม่มาเกิดไม่มาตายเรียกว่าชาติสุดท้าย (2)

เพชรน้ำหนึ่งในเมืองไทยเรามีน้อยเมื่อไร ไม่น้อย แต่ส่วนมากหาตามตลาดลาดเลไม่มี หาอยู่ในป่าในเขา ท่านเหล่านี้เป็นอยู่ในป่าในเขา ที่ปรากฏชื่อลือนามออกมาจากป่าจากเขาทั้งนั้นละ....

หมายเหตุ - ในโอกาสวันถวายเพลิงสรีระสังขาร หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะศิษย์วัดภูสังโฆ ได้จัดทำหนังสือ ไม่มาเกิดมาตายเรียกว่า “ชาติสุดท้าย” แจกเป็นที่ระลึก ก่อนหน้านี้คณะผู้จัดทำได้เคยจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้แล้วนำถวายหลวงตามหาบัวครั้งยังดำรงขันธ์อยู่มาก่อนแล้ว เนื่องจากการพิมพ์ครั้งล่าสุดนี้หนังสือมีจำนวนจำกัด

ทางกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์จึงได้ขออนุญาต พระอาจารย์วันชัย วิจิตโต เจ้าอาวาสวัดภูสังโฆ นำรายละเอียดของหนังสือมาเผยแผ่ซึ่งท่านได้แจ้งว่า ให้พิจารณาว่าจะเป็นประโยชน์หรือไม่ ทางกองบรรณาธิการจึงจะนำเสนอต้นฉบับตามเดิม โดยเพิ่มเนื้อหาที่เป็นเทศนาของพ่อแม่ครูอาจารย์แต่ละรูปเข้ามาอีกส่วนหนึ่ง แล้วนำเสนอต่อเนื่องไปคราวละสัปดาห์จนกว่าจะสิ้นความหลักในหนังสือ มีรายละเอียดดังนี้

เพชรน้ำหนึ่งในเมืองไทยเรามีน้อยเมื่อไร ไม่น้อย แต่ส่วนมากหาตามตลาดลาดเลไม่มี หาอยู่ในป่าในเขา ท่านเหล่านี้เป็นอยู่ในป่าในเขา ที่ปรากฏชื่อลือนามออกมาจากป่าจากเขาทั้งนั้นละ

เมื่อเช้าวันที่ 12 เม.ย. 2550 เพชรน้ำหนึ่งของพุทธศาสนาแห่งชาติไทย

“เพชรน้ำหนึ่งจะเป็นอะไรไปถ้าไม่ใช่พระอรหันต์น่ะ”

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2552 สุดสิ้นลงที่ธรรมธาตุ

นี่เพชรน้ำหนึ่งมีหลายรูปนะนี่ ท่านสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าเป็นสมัยครั้งพุทธกาลเป็นพระอรหันต์ ทุกวันนี่เทวทัตมันขวางหูขวางใจ ว่าอรหันต์ไม่ได้ เทวทัต คือพระที่ท่านจะรู้กันต้องเป็นนักภาวนาด้วยกัน ได้สนทนากันในวงภายในๆ รู้กันแต่ว่าภายใน นอกนั้นไปท่านเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ เพราะฉะนั้นวงกรรมฐานกันมองเห็นกันรู้กันทันทีๆ เพราะทราบจากใจ

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2552 ครั้งพุทธกาลเรียกผู้สิ้นกิเลสเป็นพระอรหันต์

พระอรหันต์ที่สิ้นกิเลสหายากมาก สมัยทุกวันนี้จะมีหรือไม่มีก็ไม่รู้ แต่แน่ใจมี หากไม่มากเท่านั้น มีนี้ส่วนมากจะหาได้ในป่าในเขา ในตลาดลาดเลกระดูกหมูกระดูกวัวนี้ไม่มี มีตั้งแต่ส่วนมากอยู่ในป่าในเขาท่านภาวนาของท่านๆ ในสมัยปัจจุบันนี้ก็หลวงปู่มั่นอยู่ในป่าในเขา หลวงปู่เสาร์ก็เช่นเดียวกัน เป็นอาจารย์ของพวกเราทั้งหลายเรียกว่าปรมาจารย์เป็นอาจารย์ชั้นเยี่ยมในสมัยปัจจุบัน ท่านก็อยู่ในป่าในเขาสำเร็จอยู่ในป่าในเขา ออกมาเป็นสรณะในปัจจุบันของพวกเรา ก็คือท่านทั้งสองพระองค์นี้ละ ท่านอาจารย์เสาร์-ท่านอาจารย์มั่นเป็นพระอรหันต์ในสมัยปัจจุบัน

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2551 วันนี้ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์

พระกรรมฐานรู้สึกจะมากทางภาคอีสานและมากเรื่อยมา เพราะรากแก้วของกรรมฐานในสมัยปัจจุบันก็อยู่ที่ภาคอีสานเป็นพื้นฐาน หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น เป็นรากฐานของกรรมฐานมานาน เพราะฉะนั้นบรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่ต้องการอรรถธรรมจริง จึงต้องหมุนหาครูหาอาจารย์ซึ่งเป็นที่แน่ใจได้ แล้วก็ไม่พ้นหลวงปู่ทั้งสององค์นี้หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ท่านไม่ค่อยเทศน์ เงียบแต่ว่าไม่เทศน์ ถ้าจะเทศน์ก็พูดเพียงสองสามประโยคแล้วหยุดเลย สำหรับหลวงปู่มั่นการเทศนาว่าการทุกสิ่งทุกอย่างอยู่นั้นหมดเลย ธรรมทุกขั้นอยู่นั้นหมด ออกจ้าๆ เลย

​

จากนั้นมาบรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่ไปศึกษากับท่านทั้งสององค์นี้มา ก็กลายเป็นครูเป็นอาจารย์ของพระทั้งหลายต่อมาเรื่อยๆ ดังที่เราเห็น เช่น อาจารย์นั้น อาจารย์นี้ ออกจาก เฉพาะอย่างยิ่งหลวงปู่มั่น ออกจากนี้เรียกว่ามีอยู่ทั่วประเทศไทยทุกภาค บรรดาที่ได้รับจากครูบาอาจารย์ที่ท่านศึกษามาจากหลวงปู่มั่น ยกตัวอย่างเช่นหลวงปู่ฝั้น หลวงปู่ขาว หลวงปู่คำดี เหล่านี้มีแต่ออกจากนี้ล้วนๆ เลย นี่เราพูดเพียงเอกเทศนะ ทีนี้แต่ละองค์ๆ นี้ลูกศิษย์มากน้อยเพียงไรมาศึกษาอบรม แล้วก็แตกกระจายออกไป ซึ่งก็มีอยู่ทุกภาคๆ เป็นรุ่นหลาน รุ่นลูกก็คือ ลูกศิษย์ผู้ใหญ่ของท่าน รุ่นหลานก็เป็นลูกศิษย์ของลูกศิษย์ผู้ใหญ่อีกทีหนึ่ง แตกกระจายออกไป ถึงจะไม่ได้แบบฉบับของครูของอาจารย์ ก็พอเป็นร่องเป็นรอยบ้างก็ยังดี เรียกว่าฐานอนุโลม ดีกว่าไม่ได้ไปศึกษาอบรมมา
ตั้งแต่หลวงปู่สิงห์ จ.นครราชสีมา ที่สร้างวัดสาลวันขึ้น นั่นเป็นลูกศิษย์ผู้ใหญ่ของท่าน เท่าที่เราจำได้ก็อาจารย์สุวรรณ ท่านเสียไปแล้ว แล้วก็ไล่เลี่ยกัน อาจารย์สุวรรณท่านเคยไปอยู่ทางท่าบ่อ เคยสนิทสนมกับเราเพราะเราไปเที่ยวทางท่าบ่อ ไปพบกับท่านที่นั่น นี่เรียกว่าอาจารย์สุวรรณ คู่เคียงกันกับหลวงปู่สิงห์ วัดสาลวัน หลวงปู่มหาปิ่น เป็นน้องของหลวงปู่สิงห์ เป็นเจ้าอาวาสวัดศรัทธารวม ด้านตะวันออกโคราช ติดกัน แต่ก่อนอยู่ชานเมืองไป ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 2 กิโล เดี๋ยวนี้มันจะกลายเป็นใจเมืองเข้าไปแล้ว บ้านครอบหมด นี่ก็องค์หนึ่ง นอกจากนั้นเราก็จำไม่ค่อยได้ ลูกศิษย์ผู้ใหญ่ของท่านมาหาหลวงปู่แหวนอย่างนี้ ไล่เลี่ยๆ กันมา

แต่ก่อนท่านอยู่ในป่าจริงๆ เพราะหลวงปู่มั่นท่านไม่ได้ออกมานอกๆ นาๆ ง่ายๆ ท่านอยู่ในป่าๆ จากป่าก็ภูเขา ออกมาตีนเขาตีนอะไร ถ้าไม่ใช่อยู่ภูเขาก็ต้องอยู่ในป่า ส่วนมากท่านจะอยู่ในภูเขา เอาจริงเอาจัง นี่ละต้นเป็นอย่างนั้น ทีนี้เวลากิ่งก้านแตกแขนงออกไปมันก็ปลอมก็แปลมไปเรื่อยๆ อย่างนั้น อย่างเรานี่เป็นวาระสุดท้ายท่านจริงๆ เรานี้เรียกว่าเหลนก็ถูก เรานี่เป็นรุ่นเหลนไป หรือยกๆ ขึ้นบ้างก็ว่าหลาน แต่ไม่เต็มใจนัก ถ้าว่าเหลนนั้นจะพอดี เพราะครั้งสุดท้ายของท่าน ลูกศิษย์ต้น ที่สองลำดับมาที่สาม สุดท้ายก็น่าจะเป็นอย่างพวกเรานี้ต้นจริงๆ ก็ท่านอาจารย์สิงห์ อาจารย์สุวรรณ แล้วต่อเนื่องมาท่านอาจารย์ฝั้น เกี่ยวโยงกันมาตลอดนะเรื่อยมา แล้วก็ค่อยต่อกันมาๆ ครูอาจารย์ทั้งหลายเหล่านี้ได้รับการอบรมมาแล้วมาเป็นหลักเป็นเกณฑ์ก็แนะนำสั่งสอน เป็นหลานไปละนะ เราจะอยู่ในขั้นหลานนี่ละ

เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2545 รากแก้วของกรรมฐาน

โพสต์ทูเดย์ ธรรมะ-จิตใจ : ไม่มาเกิดไม่มาตายเรียกว่าชาติสุดท้าย (2)-

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=middle height=10>คลื่นศรัทธามหาชน</TD></TR><TR><TD align=middle height=10></TD></TR><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD align=middle height=10></TD></TR><TR><TD> ประมวลภาพบรรยากาศ ของคลื่นมหาชน ที่หลั่งไหลเข้าร่วม พิธีพระราชทานเพลิง สรีระสังขาร พระธรรมวิสุทธิมงคล หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าเกษรศีลคุณ(วัดป่าบ้านตาด) อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ในวันนี้ (5 มี.ค.54) ซึ่งคาดว่า จะมีมากถึง 600,000 -1,000,000 คน

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

“ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์” เสด็จฯ ทำบุญครบ 50 วัน “หลวงตาบัว”

อุดรธานี - สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯ ทำบุญ 50 วัน “หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน” ละสังขาร ด้านญาติธรรมยังเดินทางกราบอัฐิอังคารหลวงตาอย่างต่อเนื่อง พร้อมถวายเงินปัจจัยสมทบซื้อทองคำเข้าคลังหลวงแก่หลวงปู่ลีได้อีกกว่า 2.4 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 06.30 น.วันนี้ (20 มี.ค.) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระดำเนินทรงบาตรร่วมกับประชาชนและข้าราชการของจังหวัดอุดรธานี เนื่องในวันครบ 50 วัน ที่พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ได้ละสังขารไปเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2554

ส่วนบรรยากาศโดยทั่วไปภายในวัดป่าบ้านตาดตลอดวันเดียวกัน ปรากฏว่ายังมีศรัทธาประชาชนเดินทางมาเพื่อสักการะอัฐิธาตุของหลวงตาพระมหาบัว ที่เก็บรักษาเอาไว้ที่กุฏิของหลวงตาพระมหาบัวอย่างต่อเนื่อง ประชาชนส่วนหนึ่งได้เข้าแถวขอรับหนังสือธรรมะ และแผ่นซีดีการแสดงธรรมเทศนาในวาระต่างๆ ของหลวงตาพระมหาบัว ที่บริเวณเต็นท์หน้าศาลาการเปรียญ จนทำให้หนังสือที่ทางวัดจัดเตรียมเอาไว้แจกไม่เพียงพอ

พร้อมกันนี้ คณะศรัทธาญาติโยมที่เดินทางมาร่วมงาน 50 วัน หลวงตาพระมหาบัวละสังขาร ในวันนี้ยังได้เข้าแถวนมัสการกราบสักการะ หลวงปู่ลี กุสลธโร แห่งวัดถ้ำภูผาแดง อ.หนองวัวซอ เพื่อถวายปัจจัยสมทบเข้ากองทุนเพื่อซื้อทองคำเข้าคลังหลวง ตามพินัยกรรมที่หลวงตาพระมหาบัว ทำเอาไว้ก่อนที่จะละสังขาร ซึ่งหลังจากรับปัจจัยแล้วหลวงปู่ลี กุสลธโร ก็ได้ถวายปัจจัยที่ได้รับจากการบริจาค ซึ่งเป็นเงินสด เช็คธนาคาร และทองคำรวมเป็น 2,441,600 บาท

ด้าน พระอาจารย์นภดล นนทโณ เจ้าอาวาสวัดป่าดอยลับงา อ.เมือง จ.กำแพงเพชร บอกว่า “ช่วงบ่ายวันนี้ (20 มี.ค.) ได้มีการประชุมคณะสงฆ์ที่เป็นคณะทำงานพระราชทานเพลิงศพหลวงตาพระมหาบัว เพื่อพิจารณากันในเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดงานดังกล่าวตั้งแต่ต้นจนจบงานว่ามีค่าใช้จ่ายมากน้อยเพียงใด ซึ่งเป็นงบประมาณส่วนที่ลูกศิษย์ และศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศช่วยกันรวบรวมลงขันกันเพื่อทำงานดังกล่าว ซึ่งหากว่ายังขาดเหลืออยู่อีกก็จะมีการรวบรวมกันอีกครั้ง ถ้าหากว่าปัจจัยเหลือก็จะกันเอาไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดทำหนังสือที่ระลึกเล่มใหญ่ที่จะจัดแจกในเดือนสิงหาคมนี้”

สำหรับงานต่างๆ ที่ทางวัดเคยจัดขึ้น เช่น งานวันสงเคราะห์เปิดโลกธาตุ ฯลฯ ศรัทธาญาติโยมต่างก็รับรู้กันหมดแล้วก็คงจะเป็นเรื่องของศรัทธาญาติโยมจะจัดกันขึ้นมา แต่จะไม่ได้เป็นการกำหนดของทางวัด เหมือนกันงาน 50 วัน หลวงตาพระมหาบัว ก็เป็นการที่ประชาชนมาร่วมกัน โดยที่ทางวัดไม่ได้กำหนดแต่อย่างใด

ส่วนภาระกรณีของสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์เสียงธรรมจะต้องดำเนินต่อ ในส่วนนี้เป็นสมบัติของประชาชน ไม่ได้เป็นสมบัติหรือทรัพย์สินของบุคคลใด โดยมีมูลนิธิเสียงธรรม เป็นผู้ดูแลและดำเนินการให้ในรูปคณะกรรมการ ฉะนั้น จะต้องช่วยกันดูแลดำเนินการต่อไป ในเรื่องของทุนดำเนินการก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด

โดยค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายให้กับ กสทช.ก็เป็นเรื่องธรรมดาและเป็นเรื่องของธรรมชาติ เพราะว่าสัญญาเช่าก็ครบไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการขอต่อสัญญาทดลองออกอากาศต่อไปอีก 300 วัน

http://www.manager.co.th/Local/ViewN...=9540000035601
<!-- google_ad_section_end --><!-- / message --><!-- edit note -->

 

ฟ้าหญิงเสด็จทำบุญ"ตาบัว"ครบ50วัน

​

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ เสด็จทำบุญหลวงตาบัวพระมหาบัวละสังขารครบ 50 วัน ขณะที่ประชาชนจำนวนมากยังคงมากราบไหว้สักการะอัฐิธาตุที่กุฏิของหลวงตา พร้อมแห่รับหนังสือไว้เป็นที่ระลึกจนหมดเกลี้ยง เตรียมเรียกประชุมคณะสงฆ์สรุปค่าใช้จ่ายในงานหลวงตาอีกรอบ

(20มี.ค.) เวลา 06.30 น. ที่วัดเกษรศีลคุณ หรือวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ศ.ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จทรงบาตรร่วมกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของ จ.อุดรธานี โดยมี นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ณรงค์ดิส สีทาแก ผบช.มทบ.24 และญาติโยมจำนวนมากร่วมทำบุญตักบาตรอย่างพร้อมเพรียง เนื่องในวันครบรอบ 50 วัน ที่พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ได้ละสังขารเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2554

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีญาติโยมจาก จ.อุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียงจำนวนมาก เดินทางมาร่วมงานทำบุญ 50 วัน ที่พระมหาบัวละสังขาร โดยคุณแม่จันดี โลหิตดี น้องสาวหลวงตา พร้อมด้วยญาติ ถวายปัจจัยพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด เพื่อทำบุญถวายแก่หลวงตาพระมหาบัว เป็นเงินสดจำนวน 1.4 ล้านบาท พร้อมด้วยเงินดอลลาร์ 30 ดอลล์ ทองคำหนัก 17 บาท

น่าสังเกตว่าบรรยากาศที่วัดป่าบ้านตาด ญาติโยมที่เดินทางมายังคงเข้ากราบสักการะอัฐิธาตุของหลวงตาพระมหาบัว ซึ่งส่วนหนึ่งยังคงเก็บรักษาเอาไว้ที่กุฏิเดิมของหลวงตา ขณะที่บริเวณเต็นท์หน้าศาลาการเปรียญ ญาติโยมเข้าแถวขอรับหนังสือที่ระลึก และวีซีดีเทศน์ในวาระต่างๆ จนทำให้หนังสือที่ทางวัดจัดเตรียมเอาไว้แจกไม่เพียงพอ

นอกจากนี้ ญาติโยมได้เข้ากราบสักการะ หลวงปู่ลี กุสลธโร เจ้าอาวาสวัดถ้ำภูผาแดง อ.หนองวัวซอ เพื่อถวายปัจจัยสมทบเข้าร่วมกับเงินบริจาค เพื่อซื้อทองคำเข้าคลังหลวง ตามพินัยกรรมที่หลวงตาพระมหาบัว ซึ่งหลวงปู่ลี กุสลธโร ได้ถวายปัจจัยแก่หลวงตาพระมหาบัว เป็นเงินสด เช็คธนาคาร และทองคำ รวมเป็นจำนวน 2,441,600 บาท

พระครูอรรถกิจนันทคุณ หรือพระอาจารย์นพดล นันทโน เจ้าอาวาสวัดป่าดอยลับยา อ.เมือง จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า จะมีการประชุมคณะสงฆ์ที่เป็นคณะทำงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตาพระมหาบัว เพื่อพิจารณาเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดงานตั้งแต่เริ่มงานจนเสร็จพิธี ซึ่งเป็นปัจจัยที่คณะศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศร่วมกันลงขัน หากยังขาดเหลือก็จะมีการรวบรวมกันอีกครั้ง ตามแนวความคิดของพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสัสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย อ.นายูง แต่หากปัจจัยเหลือ ก็จะกันเอาไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดทำหนังสือที่ระลึกเล่มใหญ่ที่จัดแจกในเดือนสิงหาคม

ทั้งนี้ ส่วนงานต่างๆ ที่ทางวัดป่าบ้านตาดเคยจัดขึ้น เช่น งานวันสงเคราะห์เปิดโลกธาตุ ศรัทธาญาติโยมต่างก็รับรู้กันหมดแล้ว ก็คงจะเป็นเรื่องของศรัทธาญาติโยมจะจัดกันขึ้นมา แต่จะไม่ได้เป็นการกำหนดของทางวัด เหมือนกับงาน 50 วันหลวงตาพระมหาบัว ซึ่งประชาชนมาร่วมกัน โดยที่ทางวัดไม่ได้กำหนดแต่อย่างใด

พระอาจารย์นพดลยังชี้แจงถึงภาระสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์เสียงธรรมที่จะต้องดำเนินต่อไปว่า ในส่วนนี้เป็นสมบัติของประชาชน ไม่ได้เป็นสมบัติหรือทรัพย์สินของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยมีมูลนิธิเสียงธรรม เป็นผู้ดูและดำเนินการให้ในรูปคณะกรรมการ ฉะนั้นจะต้องช่วยกันดูแลดำเนินการต่อไป ในเรื่องของทุนดำเนินการก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายให้ กสทช. เพราะว่าสัญญาเช่าก็ครบไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2554 ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการขอต่อสัญญาทดลองออกอากาศต่อไปอีก 300 วัน

http://www.komchadluek.net/detail/20110320/92101/ฟ้าหญิงเสด็จทำบุญตาบัวครบ50วัน.html

 

<TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="98%" align=center><TBODY><TR><TD>Update! ภาพวันพระราชทานเพลิงถวายแก่สรีระสังขารองค์หลวงตา</TD></TR><TR><TD bgColor=#339900></TD></TR><TR align=right><TD>Posted Date : วันที่ 11 มี.ค. 2554 เวลา 09:00 น. </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="95%" align=center><TBODY><TR><TD>[FONT=EucrosiaUPC, serif]

[FONT=EucrosiaUPC, serif]ภาพเฉพาะพระเมรุ[/FONT]​

[FONT=EucrosiaUPC, serif][/FONT]​

[FONT=EucrosiaUPC, serif][/FONT]​

[FONT=EucrosiaUPC, serif][/FONT]​

[FONT=EucrosiaUPC, serif][/FONT]​

[FONT=EucrosiaUPC, serif][/FONT]​

[FONT=EucrosiaUPC, serif][/FONT]​

[FONT=EucrosiaUPC, serif][/FONT]​

[FONT=EucrosiaUPC, serif][/FONT]​

[FONT=EucrosiaUPC, serif][/FONT]​

[FONT=EucrosiaUPC, serif][/FONT]​

[FONT=EucrosiaUPC, serif][/FONT]​

[FONT=EucrosiaUPC, serif][/FONT]​

[FONT=EucrosiaUPC, serif][/FONT]​

[FONT=EucrosiaUPC, serif][/FONT]​

[/FONT]
</TD></TR></TBODY></TABLE>

http://www.luangta.com/info/news_text.php?cginews_id=381&type

 

ภาพวันเคลื่อนสรีระสังขาร
[FONT=EucrosiaUPC, serif]หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน[/FONT]
[FONT=EucrosiaUPC, serif]เมื่อวันศุกร์ที่ ๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔[/FONT]​

[FONT=EucrosiaUPC, serif][FONT=EucrosiaUPC, serif][/FONT][/FONT][FONT=EucrosiaUPC, serif]

​

[/FONT]

 

​

 

​

 

​

 

​

 

[FONT=EucrosiaUPC, serif][/FONT]
[FONT=EucrosiaUPC, serif]ภาพวันพระราชทานเพลิงถวายแก่สรีระสังขาร[/FONT]
[FONT=EucrosiaUPC, serif]หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน[/FONT]
[FONT=EucrosiaUPC, serif]เมื่อวันเสาร์ที่ ๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔[/FONT]






























​

 

​

 

​

 

​