อำนาจแค้นไอ้ลองชิงหมาเกิด

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย pisut168, 9 มิถุนายน 2015.

  1. pisut168

    pisut168 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    914
    ค่าพลัง:
    +1,961
    ◎อำนาจเเค้นไอ้ลองชิงหมาเกิด◎

    เรื่องเล่าจากอาจารย์ ไพฑูรย์ พันธ์เชื้องาม

    เรื่องนี้ไพฑูรย์ได้ยินมาจากปากของท่านขุนพิฆาตพาลชน (สงัด)เพชฌฆาตดาบหนึ่งตัวเเทนหากดาบหนึ่งป่วยหนักทำหน้าที่ไม่ได้ เมื่อฏีกาที่ไอ้ลองทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานชีวิตไม่ผ่านการประหารชีวิตไอ้ลองจึงต้องทำในเวลา 7วัน

    เรื่องของไอ้ลองชิงหมาเกิด ที่ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ระบุว่า
    ไอ้ลองชื่อจริงว่า จำลอง เป็นคนบ้านพุดเลา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นลูกโทนของยายกริ่มบ้านพุดเลา ยายกริ่มรักลูกชายคนนี้มาก ตามใจจนเสียคน คบสมัครพรรคพวกกินเหล้า สำมะเลเทเมา งานการไม่ทำ ผลาญเงินทองยายกริ่มจนแทบหมดตัวยายกริ่มประกาศตัดลูกตัดแม่ เมื่อไอ้ลองมาขอเงินไปเล่นการพนันยายกริ่มแกสุดทนจึงไม่ยอมให้

    ไอ้ลองก็เล่นฝรั่งรำเท้าจนยายกริ่มล้มลุกคลุกคลาน ก่อนฉกกำปั่นเงินและปลดสร้อยคอ สร้อยข้อมือยายกริ่มผู้เป็นเเม่ไปจนหมด พอยายกริ่มรักษาตัวหายแล้วก็เข้าพบขุนนิกรอริขาม ให้ทำพินัยกรรมที่ดินและบ้านที่อยู่อาศัยให้วัดนนทรีย์หลังจากแกตายแล้วที่ดินมีกี่แปลงก็ยกให้วัดทั้งหมด

    ไอ้ลองได้ยินข่าวก็แค้นเคืองมาก มันบอกกับสมุนว่า
    ''กูจะปล้นแม่กู'' พวกมึงไปจัดหาสมัครพรรคพวกเข้าปล้น ส่วนกูจะเป็นคนคอยดูต้นทางให้

    เสืออิน เป็นคนนำสมุนโจรขึ้นปล้นบ้านยายกริ่ม โดยมีไอ้ลองเป็นคนดูต้นทาง แต่เสืออิน หนักมือไปหน่อยนางกริ่มเลยตายหลังจากถูกทรมานให้บอกที่เก็บทรัพย์สิน
    ไอ้ลองได้สมบัติชิ้นสุดท้ายของแม่มาทั้งหมดแบ่งให้เสืออินกับสมุน ที่เหลือก็ดื่มเหล้าเล่นการพนันจนหมดตัว ต่อมาเสืออินถูกจับ มีการสอบขยายผลมาถึงการปล้นฆ่ายายกริ่ม บ้านพุดเลาเสืออินให้การว่าไอ้ลองเป็นคนวางแผนปล้นบ้านแม่ตัวเอง เพราะเเค้นที่แม่ยกสมบัติถวายวัด และบอกว่าขณะที่ตนทรมานยายกริ่ม ไอ้ลองก็ยืนดูอยู่ด้วยโดยไม่เเยแส มิไยที่ยายกริ่มจะร้องให้ลูกชายช่วยจนหมดลมหายใจ

    ไอ้ลองปฏิเสธทั้งหมด สู้คดีจนที่สุดศาลตัดสินประหารชีวิต
    ไอ้ลองทูลเกล้าฯ ถวายฏีกาแต่ไม่ได้รับการพิจารณา เพราะการวางแผนให้ผู้อื่นฆ่าแม่บังเกิดเกล้าต่อหน้าต่อตา ถือว่าเป็นพฤติกรรมอันเลวทรามต่ำช้า ผิดมนุษย์ปุถุชนทั่วไป ชาวบ้านจึงให้ฉายามันว่า
    ''ไอ้ลองชิงหมาเกิด''
    เมื่อวันประหารมาถึง ขุนพิฆาตพาลชนมานั้งคุกเข่าขอสมาอภัยข้างร่างของไอ้ลองชิงหมาเกิดตามธรรมเนียม กล่าวว่า

    ''พ่อจำลอง ฉันขุนพิฆาตชน มาขอขมาลาโทษ เราต่างไม่รู้จักกัน ไม่เคยวิวาทบาดหมางกันมาก่อน ฉันต้องทำตามหน้าที่ของฉัน
    พ่อจำลองหมดบุญต้องคำพิพากษาแล้ว อโหสิกรรมให้กับฉันด้วยเถิด''

    ''อย่าหวังเลย กูไม่อโหสิให้มึง มึงมันหน้าเนื้อใจเสือ พอๆกับไอ้ผู้พิพากษานั้นเเหละ ทำมาหาแด..กกับกฏหมาย กับการฆ่าคนที่ไม่มีทางสู้ วิญญาณกูจะไม่ไปไหน จะผูกพยาบาทอาฆาตจองเวรกับมึงจนตาย มึงแน่จริงคอยรบกับกูก็เเล้วกัน''

    ขุนพิฆาตพาลชนได้ยินดังนั้นก็กลั้นโทสะ ไม่ยอมโต้กลับ เพียงเเต่กล่าวเป็นประโยคสุดท้ายว่า
    ''อโหสิหรือไม่ เราก็ไม่มีเวรต่อกัน ต่างคนต่างไปตามทางก็เเล้วกัน''

    หลังจากเพชฌฆาตดาบสองรำล่อเเล้ว ท่านขุนก็ปรากฏกายออกมา เดินไปที่ด้านหลังของไอ้ลองชิงหมาเกิดดาบในมือฟันลงไปทันที คอของไอ้ลองขาดเหลือเเต่หนังกำพร้าติดห้อยพับอยู่ที่หน้าอก!

    เพชฌฆาตดาบสองเข้าไปจิกหัวเชือดจนขาดแล้ววิ่งเข้าประตูป่า ปรากฏว่าผีไอ้ลองมาขวางหน้าเลยสะดุดเท้าหกล้ม ผีไอ้ลองเข้าสิง แต่พอผ่านประตูป่าเข้าไปถูกน้ำมนต์ที่พระรดเข้าก็ร้องเอะอะออกจากร่างของเพชฌฆาตดาบสองไปเข้าร่างนางประทุม ที่ตกจากต้นไม้ที่ปืนขึ้นไปดูการประหาร

    พอกลับถึงบ้านก็แสดงกิริยาอาการเป็นไอ้ลอง บอกว่า''กุชื่อไอ้ลอง เป็นนักโทษประหาร พวกมึงไปเอาเหล้า เอาไก่มาให้กูกิน แล้วพาอีนางนี่ไปบ้านไอ้ขุนพิฆาตพาลชนด้วย กูจะไปรบกับมัน''

    ญาติของนางประทุมจึงสืบหาบ้านท่านขุน แล้วพานางประทุมมาทันที ท่านขุนพิฆาตพาลชนเตรียมพร้อมอยู่เเล้ว เพราะรู้ว่าเพชฌฆาตดาบสอง เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ป่วยหนักจนถึงเเก่ความตายก่อนตายเพ้อถึงไอ้ลองชิงหมาเกิด เเละบอกว่ารายต่อไปคือท่านขุนพิฆาตพาลชน

    เมื่อนางประทุมมาถึง ท่านขุนบุชาพระปางมาลัยโปรดเปรต กับรูปหล่อท้าวเวสสุวรรณ และขณะนั้นท่านขุนกำลังนั่งภาวนาอยู่ในห้องพระ

    ''ไอ้ขุนพิฆาตฯ แน่จริงอย่ามุดหัวอยู่ในห้องพระซีวะ เฮ้ย...มารบกับกูซิ มาเลย''

    ขุนพิฆาตฯ ก็แน่จริง เดินออกจากห้องพระ ลงจากเรือนมาเผชิญหน้ากับนางประทุมที่ผีไอ้ลองสิงในมือมีมีดหมอควาญช้างหลวงพ่อเดิมติดมือมาด้วย

    ''เก่งนักรึไอ้ขุนพิฆาตฯ มาลองกับกุสักตั้งซีวะ ไอ้ขุน...ดูนี่''
    ไอ้ลองในร่างของนางประทุมเลิกผ้าถุงให้เห็นของสงวน แต่ท่านขุนรู้ทัน ยังไม่ทันได้เลิกสุงท่านขุนก็เสือกมีดหมอแทงอากาศตรงมายังร่างของนางประทุมทันที

    นางประทุมส่งเสียงร้องออกมาเป็นเสียงผู้ชายแล้วหงายหลังล้มตึง พอลุกยืนได้ก็ร้องบอกท่านขุนว่า

    ''วันนี้กูเเพ้ เพราะที่นี่เป็นที่ของมึง มึงเเน่จริงไปหากูที่วัดโคกชี''
    ''กุไม่ไปให้เสียเวลา ไม่กี่วันพญายมราชก็จะมาจิกหัวมึงไปลงนรกแล้ว''

    ''ไม่มีทางกูยังไม่ถึงที่ตาย แต่ไอ้ผู้พิพากษากับมึงช่วยกันรอนชีวิตกู อีนวลเมียมึงไม่พ้นมือกูหรอกหากมึงอยากเเก้เเค้นแทนเมียก็ไปรบกับกู ฮ่าๆ''

    จากนั้นนางประทุมก็ล้มลงนอนเงียบ ท่านขุนเอาปลายมีดหมือจี้หน้าผาก เป่าลมเพี้ยง นางประทุมรู้สึกตัว หน้าเหลอหรา ถามว่าตนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรท่านขุนหยิบเอาสายสิญจน์เสกมาคล้องคอนางประทุมแล้วสั้งห้ามถอดออก

    หลังจากญาตินำนางประทุมกลับไปเเล้ว ท่านขุนรู้สึกเป็นห่วงนางนวล ภรรยาที่ไปเยี่ยมเเม่ที่ป่วยในคลองบางระมาด ไปตั้งเเต่เช้าบอกจะกลับตอนค่ำๆ จนดึกก็ยังไม่กลับ รุ่งเช้ามีผู้มาเเจ้งว่าเรือเเจวที่พานางนวลกลับบ้านเกิดล่ม นางนวลจมน้ำหายไป

    สามวันต่อมาจึงพบศพนางนวล ท่านขุนนำมาฌาปนกิจ คนเเจวเรือที่รอดมาได้เล่าว่า จู่ๆเรือก็แล่นช้าลงเหมือนมีคนฉุดไว้ หันหลังไปดูทางท้ายเรือก็เห็นผีหัวขาดเอามือดึงท้ายเรือ จึงเกิดความกลัวพายเรือวนไปวนมา นางนวลก็เห็น ที่สุดเรือก็ล่ม นางนวลแม้จะว่ายน้ำเป็น แต่กลับจมน้ำตายต่อหน้าต่อตาเหมือนมีคนมาดึงร่างของนางนวลลงน้ำไป

    หลังจากงานศพท่านขุนก็เตรียมการรบกับผีไอ้ลองชิงหมาเกิด ท่านขุนเล่าให้ฟังว่า ไปถึงลานประหารที่วัดโคกตั้งเเต่เช้าวันที่ 15หลังจากประหารไอ้ลอง และศพของมันยังฝังอยู่ที่นั้น เพราะไม่มีญาติมารับ ไอ้ลองจึงกลายเป็นผีไม่มีญาติ ท่านขุนให้ปักหลักไม้สี่มุมหลุมฝังศพไอ้ลอง ห่างจากหลุมด้านละสองวา เอาสายสิญจน์วนซ้าย ปูผ้าขาววางไก่ต้มสองตัว เหล้าขาวหนึ่งไห จุดธูปเรียกนายป่าช้ามากินเครื่องเซ่น

    ท่านขุนให้ขุดศพไอ้ลองขึ้นมาแต่กลางวันเสกๆ ขุดด้านตะวันตกก็เจอเท้า ขุดด้านตะวันออกก็เจอเท้า ร้อนถึงท่านขุนต้องเข้าไปเอาเท้ากระทืบปากหลุม แล้วภาวนาคาถาสะกดว่า

    ''พุทโธพุทธัสสะ กำจัดออกไป อย่าเข้ามาใกล้เสมามณฑล ''
    ''ธัมโมธัมมัสสะ กำจัดออกไป อย่าเข้ามาใกล้เสมามณฑล''
    ''สังโฆสังฆัสสะ กำจัดออกไป อย่าเข้ามาใกล้เสมามณฑล''
    ''สุสุ ละละ ทาทา โสโส นะโมพุทธายะ มะอะอุ อุอะมะ''

    นั้นเเหละจึงเห็นด้านหัว ลูกน้องไม่รู้มาก่อนว่าเป็นศพถูกตัดหัวจึงดึง ปรากฏว่าหัวหลุดติดมือขึ้นมา ตาถลนห้อย หนอนยุบยั่บ เสียงคนงานร้องโวย โยนหัวทิ้ง วิญญาณไอ้ลองจึงเข้าแฝงทันที แต่ท่านขุนรู้ทัน พอเห็นคนงานจะลุกนั้ง ก็เตะช้อนเข้าให้ที่ปลายคางหลับสนิท วิญญาณไอ้ลองต้องรีบออก

    ศพถูกขุดขึ้นมาวางไว้ปากหลุม ท่านขุนจับหัวไอ้ลองไปวางไว้หว่างขา เป็นการตัดไม้ข่มนามสะกดวิญญาณของผีตายโหงหัวขาด แต่เเทนที่ไอ้ลองจะยอมง่ายๆ หัวกลับกลิ้งได้เอง ท่านขุนเอาปลายมีดหมอแทงลงไปกลางกระหม่อม เท่านั้นเองหัวของมันก็เเตกออกเป็นเสี่ยงๆ

    ลูกน้องที่สลบรู้สึกตัว วิญญาณไอ้ลองรีบเข้าสิง ทะลึ่งพรวดเข้าหา ท่านขุนยังไม่ทันระวังตัวเลยถูกร่างที่ถูกไอ้ลองสิงเข้าถึงตัว ใช้สองมือขยุ้มคอเเน่น เล่นเอาท่านขุนตาตั้ง เคราะห์ดีที่ลูกน้องอีกคนใช้ด้ามจอบตีจนร่างที่ถูกสิงล้มลง ท่านขุนสั้งให้ลูกน้องรีบถอยออกมา ท่านจะจัดการวิญญาณไอ้ลองเอง

    จากนั้นท่านขุนก็หยิบหุ่นตุ๊กตาดินเหนียวออกมาจากย่าม ใช้มีดหมอแทนดาบเพชฌฆาตตัดคอหุ่นขาดอีกครั้งหนึ่ง ร่างที่ถูกเข้าสิงจึงล้มลงฮวบท่านขุนให้เคลื่อนศพไปยังวัดโคก นิมนต์พระมา4รูป มาชักบังสกุลผ้าที่ท่านขุนเตรียมมาแล้วให้เคลื่อนศพไปเชิงตะกอน เพราะสมัยนั้นเตาเผาไม่มี ท่านขุนสั้งให้สัปเหร่อเผาศพไอ้ลองจนเป็นเถ้าถ่าน แล้วเอาเงินให้สัปเหร่อเอาผ้าขาวห่ออัฐิและเถ้าของไอ้ลองไปลอยในแม่น้ำเจ้าพระยา วันรุ่งขึ้นก็ทำบุญใส่บาตรอุทิศให้ไอ้ลอง

    ท่านขุนเล่าปิดท้ายว่า คืนต่อมาไอ้ลองก็มาเข้าฝัน ในฝันอยู่ในเครื่องจองจำ มีชายนุ่งผ้าเตี่ยวเเดง ในมือถือหอกดาบคุมตัวอยู่ ไอ้ลองมายกมือไหว้ท่านในฝัน มันบอกว่าท่านขุนอโหสิให้ผมด้วยที่ฆ่าภรรยาของท่านผมต้องไปรับกรรมตามทางเเล้วเพราะบุญที่ท่านขุนอุทิศให้ท่านยมทูตจึงมารับผมไปรับกรรมที่ฆ่าเเม่ตัวเอง ผมมันคนมาสว่างเเต่ไปมืด มาเกิดเป็นคนนั้นเเสนยากเเต่กลับมาสร้างอนันตริยกรรม จึงต้องไปมืดอย่างนี้

    ท่านขุนพิฆาตพาลชน (สงัด)ลาออกจากการเป็นเพชฌฆาตดาบหนึ่ง หันมาบวชอยู่ที่วัดอินทรวิหาร โดยมีหลวงปู่ภู จันทเกสโร เป็นพระอุปัชฌาย์

    โดยหลังจากประหารนายบุญเพ็ง หีบเหล็ก เป็นรายสุดท้าย พระบามสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกเลิกการประหารชีวิตนักโทษด้วยดาบมาเป็นการประหารด้วยปืนเเบบยิงเป่ามาจนทุกวันนี้
    (คนเราเกิดมาชาตินี้ มีโอกาสได้พบคนที่เรารักเเละรักเราก็ควรทำดีเเก่คนที่รักเเละคนรอบข้างให้มากที่สุดนะครับหากหมดโอกาสต่อให้คิดอยากจะทำสักเเค่ไหนก็ไม่มีทางได้ทำ)

    สำหรับตอนนี้ขอมอบ◎พระคาถาสะกด◎

    'พุทโธพุทธัสสะ กำจัดออกไป อย่าเข้ามาใกล้เสมามณฑล ''
    ''ธัมโมธัมมัสสะ กำจัดออกไป อย่าเข้ามาใกล้เสมามณฑล''
    ''สังโฆสังฆัสสะ กำจัดออกไป อย่าเข้ามาใกล้เสมามณฑล''
    ''สุสุ ละละ ทาทา โสโส นะโมพุทธายะ มะอะอุ อุอะมะ''

    *************************************
    เป็นบทเรียนสำหรับผู้ที่ยังหลงผิดอยู่ไม่นึกจะใส่ใจดูเเลพ่อเเม่หากท่านจากเราไปก็ไม่มีโอกาสได้ดูเเลท่านอีกตลอดกาลสาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. VAKILLOS

    VAKILLOS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +340
    เรื่งงนี้ต้องมี เงื่อนงำ.........
     
  3. Violent Daughter

    Violent Daughter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +305
    เหี้ยจริงๆสมควรแล้วที่ถูกประหาร
     
  4. utumporn89

    utumporn89 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2009
    โพสต์:
    924
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,981
    สมกับชิงหมาเกิดจริงๆ.
    แม่ตัวเองยังจะปล้น
     
  5. ลูกพ่อโต

    ลูกพ่อโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +304
    เห็นเหมือนกันเลย ตายแล้วยังไม่สำนึกอีก
     
  6. ปราบปลิง

    ปราบปลิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +180
    ต้นแบบความเ_ี้ย ของโจรสมัยนี้ ไอ้ลอง นี่เป็นเรื่องจริงหรือ ทำไมคนที่มีส่วนร่วมในการฆ่าแม่ตนเองไม่ตกนรกทันทีล่ะ แล้วต้องเป็นอนันตริยกรรมด้วยนี่ ทำไมยังมีโอกาสมาทำคนเป็นได้อย่างนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 มิถุนายน 2015
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019

    สำหรับส่วนตัวถือว่าไม่แปลกครับ..ลองฟังหลายๆมุมดูนะครับ
    ปัจจุบันสมัยนี้ ตระกูลรวยในอดีตมีคดีจ้างคนปล้นบ้านตัวเอง
    ทำร้ายบิดามารดาเพื่อหวังสมบัติก็เคยมีครับ...
    อดีตเพชรฆาตบางคน ตัวเองอยู่บ้านหลังใหญ่กับภรรยา
    บ้านมีติดแม่น้ำเจ้าพระยา มีแม่น้ำเล็กผ่านหน้าบ้าน
    แล้วสร้างบ้านหลังเท่ากระต๊อบเหมือนสร้างให้สุนัขอยู่
    และไล่ให้มารดาไปอยู่.แล้วมันก็อยู่กับภรรยามันสองคนก็มีครับ.
    บางคนตั้งแต่ทำงานมีเงินเดือน..ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูบิดามารดา
    เลี้ยงแต่สามีเลี้ยงแต่ภรรยาตัวเองก็มีครับ..

    บางคนพูดกับทุกคนบนโลกนี้เพราะหมด ยกเว้นกับบิดามารดาก็มีครับ...
    บางคนบิดามารดาป่วย ไม่เคยสนใจก็มีครับ.บางทีมันยังเผลอแช่งด้วยก็มีครับ...
    บางคนบิดามารดาเลี้ยงมาจนหมาเลียก้นมันไม่ถึง พอบิดามารดา
    แก่ชราไปตามวัย มันเอาไปปล่อยทิ้งไว้ สถานที่อื่นๆก็มีครับ...
    บางคนบิดามารดายังไม่เสียชีวิต ก็แย่งสมบัติ ขอสมบัติกันก็มีครับ..
    คนประเภทที่เล่าให้ฟังนี้ คือคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ทำงานอยู่ปกติ
    ต่างกับฆารกรตรงที่ว่า ไม่ได้โดนประหารชีวิตเท่านั้นหละครับ...
    ส่วนเรื่องอื่นๆก็ลองคิดกันเอาเองนะครับ..
    ก่อนจะว่าจะด่าอะไรดีครับ ส่วนตัวคำว่าชิงหมาเกิดไม่เหมาะสมครับ.
    เพราะไม่อยากไปเปรียบกับหมาครับ
    เพราะหมามันดีกว่าเยอะครับ บอกตรงๆ...
    ถ้าหมามันพูดให้เราฟังได้
    มันคงด่าเราไปแล้วเหมือนกันครับ
    ว่าอย่าเอาข้าพเจ้าไปเปรียบได้ไหม
    เสียสายพันธ์หมาแบบตรูหมด..๕๕๕.


    และเด่วจะเล่าให้ฟังเอาไว้เป็นข้อคิดสะกิดเตือนใจครับ...
    ผลกรรมจากพฤิตกรรมของดวงจิตนี้หลังจากที่พวกยมฑูตพาไปนั้น...
    ให้สิ้นภัทรกัปล์นี้ก็คงยังไม่ได้มาเกิด ยิ่งยุคผู้เป็นเลิศองค์ต่อไปยิ่งหมดสิทธิ์ครับ..

    แต่หลายๆคนอ่านแล้วอาจจะสงสัยว่าพอตายแล้วทำไมวิญญาน
    ถึงไม่ลงไปชดใช้กรรมทันที..
    ก็เพราะว่าการเสียชีวิตของเค้า มันไม่ใช่การตายเพราะร่างกายมันเสื่อมสลาย
    ไปตามธรรมชาติหรือใช้งานไม่ได้อีก หรือตายตามอายุไข..
    ตายตามอายุไขแบบนี้จิตมันถึงจะออกจากร่างกายเอง
    ไม่ใช่ออกเพราะมีเหตุให้อาศัยร่างกายไม่ได้..
    โดยหลักแล้วต้องรอจนร่างกายพังถึงจะถือว่าสิ้นอายุไข
    และถึงจะไปตามวาระประมาณวันที่ ๗ ก็ไป..
    หลังจากวันสองวันแรกอาจจะยังไม่คุ้นเคย
    และก็เริ่มปรับตัวได้ หลังจากสองถึงสามวันแล้วก็ไปลา ไปพบ ไปสั่งเสีย ฯลฯ

    และสิ่งที่ทำให้เกิดเหตุการณ์สืบเนื่องมา
    เป็นเหตุการณ์ที่นำมาลงนี้ ก็เพราะว่า
    มันเป็นวิบากกรรมแบบหนึ่ง ที่เรียกว่า กรรมสืบเนื่องกันมาครับ.
    เพราะเค้าเคยมีกรรมฆ่ากันมาก่อนนั่นเอง....
    ในลักษณะที่เคยใช้กำลัง ใช้อำนาจจิต ใช้คาถาอาคม ใช้ของขลัง
    ในการทำร้ายทำลายกันมาก่อนอย่างใดอย่างหนึ่งครับ..
    หมายถึงรวมคนและวิญญานด้วยนะครับ.

    เพชรฆาตมือ ๒ ก็ถือว่ามีส่วนร่วม
    ไม่รู้ว่าคู่กรณีอีกเท่าไรที่รอสหบาทาอยู่ ส่วนเพชรฆาตมือ ๑ นี่ก็รับเต็มๆ..
    เรียกได้ว่าใครมีส่วนร่วมหรือว่าเค้าจำใครได้ ก็โดนหมดแระครับ..
    และเนื่องเป็นกรรมที่สร้างเองของเพชรฆาติที่เกิดจากหน้าที่
    และดวงจิตที่ตายผิดธรรมชาติบวกกับ
    ความแค้นเป็นทุนเดิม จิตใจก็ยังไม่ปล่อยวาง ไม่สำนึก จึงสร้าง
    เป็นกำลังขึ้นมาในการไปทำร้ายคืนได้.โดยที่เทพเทวดาประจำตัว
    ก็ช่วยไม่ได้..เพราะเป็นผลกรรมโดยตรง นอกจากจะสร้างบุญบารมี
    รู้จักอุทิศส่วนกุศล มีพันธมิตรทางภพภูมิ ครูบาร์อาจารย์ทางภพภูมิ
    คอยช่วยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง...

    และเพชรฆาตมือ ๑ ก็เป็นคนมีวิชาอาคม มีของขลัง แต่ว่าใช้ไป
    ในการทำร้ายทำลายสรรพสัตว์มาก่อนเช่นกัน..ไม่มีการเคลียร์
    ไม่การขอบารมีครูบาร์อาจารย์ให้ท่านช่วยโดยที่เราเป็น
    แค่คนกลางเท่านั้น....ชอบใช้กำลังจิต
    ใช้คาถาอาคมของตัวเองบวกกับของขลังในการแก้ปัญหา
    เรียกง่ายๆว่า ยังแก้ปัญหาไม่รอบคอบไม่ละเอียดพอ..ณ เวลานั้นนะครับ...

    ครั้นดวงจิตจะมาทำร้ายตนก็ไม่ได้ เนื่องจากมีดี มีวิชาคุ้มตัวอยู่
    จึงได้หันไปทำร้ายบุคคลใกล้ชิดแทน
    ที่ทำร้ายได้ ก็เพราะด้วยวิธีการที่ตนเคยทำไว้
    ทำให้ขาดพันธมิตรทางภพภูมิที่มีกำลังจิตสูง
    คอยสนับสนุน..ที่จะมาคอยช่วยเหลือ
    ภรรยาตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดตนเองได้นั้นเอง.
    และที่ทำได้สำเร็จเพราะดวงจิตที่ตนเคยทำร้าย
    ทำลายไว้ก่อนเค้ารวมกันมาเป็นพันธมิตร
    มาคอยหนุนมาคอยกันไม่ให้มีอะไรมาขวาง
    จึงเป็นเหตุให้ ดวงจิตนักโทษทำกรรมได้สำเร็จนั่นเองครับ.
    .
     
  8. น้ำเกลี้ยง

    น้ำเกลี้ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +505
    สุดท้ายดวงจิตเค้าสำนึกในที่สุดนะครับ อย่างน้อยก็ เป็นอุทาหรณ์ให้กับคนรุ่นหลังของเรา ในเรื่องนี้ ปล น้องหมาไม่เกี่ยว อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...