"อาคารหลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป เพื่อกายภาพบำบัดและฟื้นฟู" โรงพลายบาลอากาศอำนวย อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร และอาคารพิพิธฑภัณฑ์ภายในวัดป่าปทีปปุญญาราม ต.บ้านเซือม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ทั้ง ๒ หลังนี้เป็นอาคารที่สร้างขึ้นจากพลังศรัทธาของคณะศิษย์หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป อดีตเจ้าอาวาสพระป่าสายกรรมฐานชื่อดัง ศิษย์รุ่นสุดท้าย สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ทั้งนี้ ได้มีพิธีเปิดอาคารดังกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ ๓ มีนาคมนี้ เวลา ๑๑.๑๙ น. โดยมีหลวงปู่บุญพิน กตบุญโญ วัดถ้ำผาเทพนิมิต อ.นิคมน้ำอูน จ.สกลนคร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และเวลา ๑๙.๑๙ ทางวัดได้จัดให้มีพิธีมหาพุทธาภิเษกและอธิษฐานจิตข้ามคืน พระกริ่งนิโรธญาณ รุ่นแรกบรรจุอัฐิธาตุหลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป โดยคณาจารย์สายหลวงปู่มั่นภูริทัตโต ๕๙ รูป ณ มณฑลพิธีภายในพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป วัดป่าปทีปปุญญาราม จ.สกลนคร
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวัดป่าปทีปปุญญาราม จะขึ้นชื่อว่าเป็นวัดที่ตั้งอยู่ต่างอำเภอ การเดินทางไม่สะดวก ประกอบกับเป็นช่วงฤดูร้อน แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับคณะศิษย์ที่มีพลังศรัทธาต่อหลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป แม้แต่น้อย มีศิษย์จากทั่วสารทิศเดินทางไปร่วมปฏิบัติธรรมที่วัดหลายพันคน โดยเฉพาะคณะศิษย์จากกรุงเทพมหานครที่ส่วนใหญ่ขับรถไปกลับเกือบ ๑,๕๐๐ กิโลกเมตร ทำให้พื้นที่ของวัดแม้ว่าจะมีมากถึง ๓๕ ไร่ ดูแคบไปถนัดตา
งานเปิดหรืองานฉลองอาคารพิพิธฑภัณฑ์ของวัดในจังหวัดภาคกลาง ส่วนใหญ่จะมีมหรสพสมโภชกัน ๓ วัน ๓ คืน ไปจนถึง ๙ วัน ๙ คืน หรือมากกว่านั้น ผู้มาเที่ยวงานส่วนใหญ่จะแสวงหาความบันเทิง ความสุขทางโลก แต่ถ้าเป็นงานในแถบจังหวัดภาคเหนือโดยเฉพาะภาคอีสาน จะฉลองด้วยการปฏิบัติธรรม ฟังเทศน์จากลูกศิษย์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ เพื่อระลึกถึงคำสั่งสอนและเป็นการบูชาครูอาจารย์ ลานวัดจะเต็มไปด้วยญาติโยมที่สวมใส่ชุดขาวเพียงสีเดียวเท่านั้น ที่สำคัญคือ จะเป็นอย่างนี้ทุกปีไม่มีการเปลี่ยนแปลง
สำหรับ เหตุผลหนึ่งที่ทำให้พลังศรัทธาของลูกศิษย์ไม่เสื่อมคลาย คือ นอกจากหลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป เป็นพระป่านักปฏิบัติกรรมฐานอีกรูปหนึ่งที่มีศีลาจารวัตรที่งดงามน่าเลื่อมใสศรัทธา เป็นศิษย์หลวงปู่มั่น เป็นพระสุปฏิปันโนเนื้อนาบุญของชาวโลก เมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านได้ออกมาต้อนรับคณะญาติโยมที่เดินทางมาจากแดนใกล้ไกลเป็นจำนวนมาก
ทุกครั้งที่คณะศรัทธาญาติโยมขอพรขอศีล ท่านจะบอกว่า มีหลักอยู่ ๓ อย่าง คือ “ขออย่าได้เจ็บ อย่าได้ป่วยไข้ และสุดท้ายอย่าลืมหายใจ” ครั้นเมื่อได้สดับตรับฟังหลักธรรมจากท่านแล้ว จะทำให้จิตใจสงบและร่มเย็นเป็นสุข ทั้งนี้ท่านเคยแสดงไว้ในอดีตมาเสนอดังนี้ “จิตไม่ระเริงหลงในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ อันนั้นแหละเรียกว่าผู้เห็นธรรม ธรรมะ คือ ธรรมดาสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป"
ในบั้นปลายชีวิต หลวงปู่ผ่านได้พำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าประทีปปุญญาราม กระทั่งมรณภาพ สิริอายุ ๘๙ ปี พรรษา ๖๙ เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๔ และได้เผาศพไปแล้วเมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ โดยมีประชาชนจำนวนนับเรือนแสนเดินทางไปร่วมงานโดยอัฐิเถ้าถ่านหลวงปู่ผ่านส่วนหนึ่งจะให้ประชาชนทั่วไปนำไปบูชาตามต้องการ และส่วนหนึ่งนำเก็บที่พิพิธฑภัณฑ์ภายในวัดที่ถูกสร้างด้วยแบบอันเรียบง่ายตามที่หลวงปู่สั่งไว้
ส่วนสิ่งของที่จัดแสดงในพิพิธฑภัณฑ์ จะเป็นข้าวของเครื่องใช้ของหลวงปู่ทั้งหมด รวมทั้งอัฐบริขารด้วย และสิ่งหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากลูกศิษย์มากเป็นพิเศษ คือ พระเครื่องที่คณะศิษย์สร้างถวายตั้งแต่รุ่นแรก จนถึงรุ่นปัจจุบันซึ่งมีอยู่ประมาณ ๕๐ รุ่น นอกจากนี้แล้วยังมีการจัดแสดงบล็อกแม่พิมพ์พระเครื่องรุ่นต่างๆ ที่ถูกทำลายแล้ว เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่า พระเครื่องแต่ละรุ่นจะไม่มีการทำเสริมขึ้นมาภายหลังอย่าเด็ดขาด
พลังศรัทธาของ "คุณต้อย"
"งานบุญ-กับโรงทาน" ถือว่าเป็นของคู่กัน ไม่ว่าจะเป็นงานที่จัดขึ้นในวัดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคไหนก็ตาม ทั้ง งานคล้ายวันเกิด งานฉลองพัดยศ งานปิดทองประจำปี งานปฏิบัติธรรมประจำปี งานปิดทองฝังลูกนิมิต งานวันเผาศพ งานวันคล้ายวันมรณภาพ ฯลฯ
"มาตั้งโรงทานที่นี่ตั้งแต่เมื่อครั้งหลวงปู่ผ่านมีชีวิตอยู่ มาปีละหลายๆ ครั้ง โดยพนักงานที่บริษัทที่มีอยู่นับร้อยคนจะแย่งกันมาชนิดที่เรียกว่า ต้องจะจับสลากหมุนเวียนเปลี่ยนกันมา วันนี้แม้ว่าหลวงปู่จะมรณภาพแต่คำสอนของหลวงปู่ยังอยู่กับเรา เมื่อเรานึกถึงคำสอนท่านเราก็จะรู้สึกว่าท่านไม่ได้จากเราไปไหน " นี่คือคำบอกเล่าของ นางอัฒฑนี เชิดชู หรือ "คุณต้อย" เจ้าของร้านอาหารคุณต้อย ซึ่งบริการรับจัดอาหารบุฟเฟ่ต์ ค็อกเทล และโต๊ะจีน นอกสถานที่ในโอกาสต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่หลวงปู่ผ่านยังมีชีวิตอยู่ "คุณต้อย" มักจะนิมนต์หลวงปู่ผ่านไปเทศน์สอนพนักงานของบริษัทอยู่เสมอๆ คุณต้อย บอกว่า คำสอนของเราไม่สู้คำสอนของพระอริยสงฆ์ ท่านจะมีวิธีการสอนที่แตกต่างจากเราชนิดที่เรียกว่าธรรมะในความหมายเดียวกันท่านสามารถอธิบายให้พนักงานเข้าใจได้ในระยะเวลาสั้นๆ และทุกวันนี้ยังนิมนต์พระสายป่าไปเทศน์สอนพนักงานในบริษัทเสมอๆ
"เป็นบุญอย่างหนึ่ง เราเลี้ยงพนักงานให้อิ่มท้องได้ แต่ดีที่สุดต้องให้พนักงานอิ่มทั้งท้องอิ่มทั้งธรรม และธรรมที่พนักงานมีนี่แหล่ะจะทำให้บริษัทดำเนินธุรกิจให้เป็นไปอย่างก้าวหน้าและยังยืน" นี้คือเหตุผลของคุณต้อย
สำหรับหัวข้อธรรมหนึ่งที่หลวงปู่สอนคุณต้อยเสมอๆ ท่านจะเน้นเรื่องไม่ให้โกหก คือ ศีลข้อที่ ๔ มุสาวาทา เวรมณี หรืองดเว้นการพูดเท็จ กรรมสนองจากการผิดศีลมุสาวาทา มักถูกติฉินนินทากล่าวร้าย ถูกใส่ร้ายป้ายสี ถูกกีดกัน ถูกขับไล่ ถูกเขาหลอกลวง ง่ายต่อการถูกฉ้อโกง กล่าวโทษ วาจาไม่มีคนเชื่อถือ คำพูดไม่มีคนยอมรับ
http://www.komchadluek.net/detail/20120313/125278/อิ่มบุญวันเปิดพิพิธฑภัณฑ์หลวงปู่ผ่าน.html
'อิ่มบุญ'วันเปิดพิพิธฑภัณฑ์หลวงปู่ผ่าน
ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย aprin, 13 มีนาคม 2012.